ใครเคยไปยกเรือแม่ตะเคียนที่วัดพุน้อยแล้วมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังบ้างสิค่ะ

เป็นคนนึงค่ะ ที่ได้บูชาเรือแม่ตะเคียนทอง มาเหมือนกัน ล่าสุดนี่เพิ่งพาแม่กลับไป งานไหว้ครู ที่วัด เมื่อวันที่ 3 มีค. 54 นี้เอง ซึ่งงานพิธีไหว้ครู นั้น ตัวดิฉันเองก้เพิ่งทราบจากหลวงพ่อท่านว่า หลวงปู่แบนให้ ถือเอา วันพฤหัสบดี แรก ของเดือน มีนาคม ของทุก ๆ ปี เป็นวันไหว้ครูใหญ่ ซึ่งวันที่ดิฉันเดินทางไป ดิฉันเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าวันนี้ที่วัดจัดงานไหว้ครู ทราบแค่ว่า วัดจะมีงานอะไรสักอย่างก็แค่นั้นเอง ซึ่งตั้งแต่ดิฉัน ได้บูชาเรือแม่ตะเคียนทอง มา เมื่อ 16 เมย. 53 ดิฉันก็สัมผัสกับแม่ ได้หลายๆ ทาง อย่างวันที่ดิฉันไปรับเรือครั้งแรกนั้น ดิฉันไปกับแฟน และ ลูกพี่ลูกน้องค่ะ ไปกัน 4 คน ไปถึงวัด เย็นวันที่ 15 เมย. 53 ไปค้างคืนที่วัด 1 คืน เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับเรือ ค่ะ ซึ่งตอนแรก ดิฉันก็เหงวัดแลดูเงียบ ๆ ดิฉันยังคิดในใจเลย ว่า นี่เราตื่นเต้นกันเกินไปหรือเปล่า แต่ดิฉันก็ต้องทึ่ง เมื่อ ตลอดทั้งคืน มีผู้คน ทยอยเดินทางกันมาเรื่อย ๆ จนตอนเช้า ดิฉันตื่นมาตอนตี 5 มารับบัตรคิว ได้คิวแรก ผู้คนมาจากไหนกันไม่ทราบค่ะ แน่นศาลาไปหมด พอ ตกสาย คนเริ่มเยอะ บนศาลา นี่ไม่มีที่ว่างเลย จำได้ว่าวันนั้น กว่าจะได้เข้าพิธีรับเรือ สำหรับคิวแรก ก็ บ่าย 3 โมงเย็นเข้าไปแล้ว คนเยอะ มาก ๆ คนที่นำเรือมาเสริมบารมีก็เยอะ หลวงพ่อท่านจะให้คนที่นำเรือมาเสริม ทำพิธีช่วงเช้า และคนที่มารับเรือใหม่ ทำพิธีช่วงบ่าย พอเข้าห้องทำพิธี หลวงพ่อท่านก็ ให้สวดบท "วะโมอะหัง" ท่องไปเรื่อยๆ และให้หลับตา ดิฉันเริ่มรู้สึกหายใจแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หายใจไม่ทัน มือไม้เย็นไปหมด ขนลุกชูชันไปทั้งตัว ท่องไปเรื่อย ๆ ก็มีเสียงดนตรีไทยเปิดขึ้น ซึ่งตอนนั้น ดิฉันมีความรู้สึกว่า เรือดิชั้น จะหลุดมือเพราะ เรือค่อย ๆ เขยื้อนตัวสูงขึ้น สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนดิฉันต้องลุกขึ้นตามเรือ จนพระท่านมากดเรือ และยกเรือออกไปจากมือ หลวงพ่อท่าน พูดว่า "อยากรำเชิญรำเลยนะแม่นะ" ซึ่งดิฉันรู้สึกตัวเองว่า มือไม้นี่เริ่มแกว่งแล้ว จะบังคับตัวเองก็บังคับไม่ได้ รู้สึกตัวตลอดว่าทำอะไรลงไป แต่เหมือนมีคนมาชวนให้รำ รำจนดนตรีไทยสงบลงก็ลงมานั่งพนมมือ และค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดิฉันรีบหันไปมอง คนข้าง ๆ ทันที ซึ่งก็คือ ญาติลูกพี่ลูกน้อง ของชั้นนั่นเอง ว่าเขามีอาการอะไรไหม ญาติคนนี้เป็น ผู้ชาย ดิฉันเห็นเขานั่งร้องไห้ ตาแดงกล่ำเลย ดิฉันก็ งง ว่าทำไมเขาร้องไห้ ซึ่งดิฉันมาทราบตอนหลัง ว่า อาการของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนก็ ลุกขึ้นมาร่ายรำอย่างสวยงาม บางคนก็ร้องไห้ บางคนก็นั่งโยกตัวไปมา ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าใครจะสัมผัสจิตกับแม่ตะเคียนได้แบบไหน ดิฉัน กับ ญาติผู้ชาย ของดิฉัน ถึงกับทึ่งเลยค่ะ นึกไม่ถึงว่า เราทั้งคู่จะสัมผัสได้ถึงขนาดนี้ ในขณะที่บางคนก็สัมผัสไม่ได้เลย บางคนก็ไม่ได้เรือกลับไป ส่วน กลุ่มของดิฉัน พอบูชาเรือได้มาแล้ว ก็ ดีใจกันยกใหญ่ สมกับความตั้งใจ ที่อยากได้แม่มาบูชา และให้แม่มาช่วยในเรื่อง โชคลาภ และ ความเจริญในหน้าที่การงาน

หลังจากที่ได้ แม่มาบูชา แล้ว เดือน มิถุนายน 2553 ดิฉันกับแฟน ก็พาแม่ตะเคียนทอง กลับไป วัดอีกครั้งเพื่อนำเรือไปเสริม ซึ่งช่วงนั้นดิฉันก็รู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเรื่อย ๆ กลับไปวัด รอบนี้ ทำพิธีเสริมเรือเสร็จ ตอนช่วงบ่าย จำได้ดีเลยค่ะ ว่าไปวัดรอบนี้ก่อนนำเรือแม่ เข้าไปเสริม เราได้ ให้หลวงพี่ที่วัดปิดทองที่เรือแม่ให้ แต่เราไม่ได้เปลี่ยนผ้าสามสี ที่ผูกไว้หัวเรือ กับท้ายเรือ เนื่องจากเราเห็นว่า เราเพิ่งบูชาเรือมาได้แค่ 2 เดือนเอง ผ้าแพร ยังดูใหม่อยู่เลย จึงได้แค่ปิดทองอย่างเดียว พอกลับมาจากวัดได้ 2-3 อาทิตย์ ก็มีเรื่องแปลก เกิดขึ้น เนื่องจาก ผ้าแพร ที่ผูกไว้หัวเรือ กับ ท้ายเรือ เกิด ตลบ เข้าไปอยู่ในลำเรือเอง ซึ่งโดยปกติ ผ้าแพร ผูกไว้ ก็จะต้องทิ้งตัวลงแนวดิ่งกับพื้น ดิฉันกับแฟน ก็ งง นึกว่ามีคนมาขโมยเงินในเรือแม่ แต่เงินก็อยู่ครบ เป็นอย่างนี้ อยู่ 2-3 อาทิตย์ ดิฉันก็นึกว่า จิ้งจกหรือหนู มาดึงผ้าแพร เข้าไปในเรือแน่นอน จนวันนึง พี่สะใภ้ซึ่งอยู่ ข้างบ้านดิฉัน ขึ้นมานั่งเล่นที่ห้องดิฉัน ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนดิฉันสังเกตุไปที่เรือ เห็นผ้าปลายผ้าแพร ตลบ เข้าไปอยู่ในลำเรืออีกแล้ว ดิฉัน เลย พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า "พี่ยศ หนู งง อ่ะ ว่าผ้าแพร ตลบเข้าไปอยู่ในเรือได้ยังไง หรือว่า จิ้งจก หรือหนู มันปีนขึ้นมาบนเรือแล้วมาดึงผ้าแพร ก็ไม่น่าใช่ หรือว่าแม่ เขาต้องการจะ บอกอะไรกับหนูหรือเปล่าอ่ะ???" ดิฉันพูดจบแค่นั้น พี่สะใภ้ดิฉันก็เดินมาดูที่เรือ และเอามือจับผ้าแพร ด้านที่ตลบเข้าไปอยู่ในเรือให้ปล่อยหางลง มา ตามปกติ สักพักพี่สะใภ้ก็ตัวสั่น และร้องไห้ ส่ายหัวไปมา มือไม้แกว่งไปแกว่งมา แล้วก็พูดอะไรแปลกๆ เสียงเปลี่ยนเป็นแหลมเล็ก " แม่จะเอาผ้าใหม่ แม่จะเอาผ้าใหม่ ฮือ ๆๆๆๆ แม่อยากผัดแป้งขาว ๆ อยากทาปากสวย ๆ มีแต่คนมายืนมอง แต่ไม่มีคนทำให้เลย " ดิฉันอึ้ง ตกใจ แฟนก็ตกใจ ทำไรกันไม่ถูก ก็ได้ สื่อสารกับแม่ ผ่านทาง พี่สะใภ้ สรุปได้ใจความว่า แม่เขาอยากเปลี่ยนผ้าแพรใหม่ ที่เขาตลบขึ้นเรือทุกวันเพราะผ้ามันไม่สวยแล้ว แม่เขาไม่ชอบ และอยากได้แป้ง อยากได้ลิปสติก พอหลังจากที่ แม่ออกจากร่างพี่สะใภ้แล้ว พี่สะใภ้ วูบลงไปกับพื้น เลย ดิฉันต้องพยุงขึ้นมานั่งบนเตียง สักพักนึง พี่สะใภ้ก็รู้สึกตัว และบอกว่า มึนหัวมาก ๆ ปวดหัวไปหมด อยู่ดี ๆ ก็ เย็นและวูบไปเลย ไม่รู้ตัว นี่เลยบอก ว่า แม่ตะเคียนทอง มา แม่อาศัยร่างพี่สะใภ้ ช่วยในการสื่อสารกับหนู พี่สะใภ้กลัวมาก ทั้งตกใจและกลัว ไม่คิดว่า แม่ตะเคียนทองจะศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ เย็นนั้น ดิฉันรีบไปซื้อผ้าแพร มาเปลี่ยนให้แม่ใหม่ ซื้อแป้งพัฟ ซื้อลิปสติก ซื้อแป้งผัดหน้า มาให้แม่ด้วย หลังจากนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างก็เป็นปกติ

หลังจากที่แม่ มาแสดงอิทธิฤทธิ์ ให้คนในบ้านได้เห็นกันไปแล้ว 1 ครั้ง ทุกคนในบ้าน และเพื่อน ๆ ดิฉันก็ทึ่งกันมาก ๆ ส่วนแฟนดิฉัน ก็ ชอบพูดกับแม่ ว่า เด๋วจะพากลับวัดนะ จะพาไปทำบุญ พาไปเสริมบารมี ตั้งแต่ ที่นำเรือไปเสริมกลับมาครั้งที่ 1 แฟนก็ได้ แต่พูด แต่ก็ยังไม่ยอมพาแม่ กลับไปวัดสักที และแม่ตะเคียนทองก็ แสดงอิทธิฤทธิ์ อีกครั้ง ดิฉันจำได้ดี วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ที่ 9 มกราคม 54 ผ่านปีใหม่มาได้ ไม่กี่วัน ดิฉันเพิ่งจะจับฉลาก งานเลี้ยงปีใหม่ ที่ บริษัทได้ รางวัลใหญ่ที่สุด เป็น LCD 32 นิ้ว มา 1 เครื่อง ดิฉันเลย เรียกพี่สะใภ้ คนเดิม ให้ ขึ้นมาดู ทีวีใหม่ เพราะ กะลังเห่อ พี่เขาก็ขึ้นมาดู และพี่เขารู้สึกแปลก ๆ เลยรีบกลับบ้าน ไม่อยาก อยู่นาน เพราะ พี่สะใภ้เขากลัวว่าแม่ตะเคียนจะมาอาศัยร่างพี่เขาอีก เวลาที่แม่มาอาศัยร่าง พี่เขาจะรู้สึกปวดหัวมาก และก็หนักตัวไปหมด เขาบอกว่า ทรมาน....ดิฉันก็ไม่ได้ เอะใจ ก็ เลยบอกว่า พี่คิดมากไปเองหรือเปล่า ถ้าแม่ มาก็ดีสิ หนูก็อยากให้แม่มาอีก จะได้ขอหวย ช่วงนี้เงินทองกะลังช็อต ๆ อยู่ ดิฉันก็พูดเล่นไม่ได้คิดอะไร ดิฉันก็ไม่ได้สนใจพี่สะใภ้ เพราะเขาก็ได้ มาชม LCD เครื่องใหม่ของดิฉันแล้ว ดิฉันก็นอนเล่น จัดห้อง ทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย ตกบ่าย 2 บ่าย 3 หลานสาวมาเรียกดิฉัน ให้รีบไปที่บ้านด่วน บอกว่า แม่เรียก ดิฉันก็งง ว่าเรียกทำไม มีอะไร ดิฉันก็ไม่ได้ใส่ใจ หลานสาวก็บอกอีกว่า รีบไปเร็วๆ เหอะ แม่อา อ่ะเรียก เขามาเข้าแม่ยศอีกแล้ว เท่านั้นแหละ ดิฉันรีบวิ่งไปบ้านพี่สะใภ้ทันที แฟนดิฉันก็เดินตามมาติด ๆ พอไปถึง พี่สะใภ้ดิฉัน นั่งตัวสั่น โดยมีพี่ชายดิฉันซึ่งเป็นแฟนเขานั่งจับมือพี่สะใภ้ไว้ และบอก ว่า แม่ตะเคียนเขามา ให้หลานไปเรียก ดิฉันกับแฟน มาฟัง พอถึงปุ๊ป พี่สะใภ้พูดขึ้นมาทันทีเลยว่า "ไอ้อ้วน ๆ อ่ะ พูดไรกับแม่ไว้ อย่านึกว่าแม่จำไม่ได้นะ บอกจะพาแม่ไปไหน ไม่พาไปสักที" ดิฉันตกใจมาก รีบนึกถึงคำพูดแฟนทันที ที่เขาชอบ พูดในห้องบ่อย ๆ ว่าจะพาแม่กลับวัด จนนี่ผ่านมาหลายเดือนก็ไม่ได้พากลับสักที แฟนเลยบอกไปว่า "ช่วงนี้แย่ ๆ อ่ะแม่ เด๋วขอเวลาสักพักนึง เด๋วพากลับวัดแน่ ๆ ไม่ต้องห่วง" แล้วแม่ ก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ต้นม้งต้นไม้ ที่มันมีหนามแหลม ๆ ไม่ต้องเอาเข้ามาในบ้านนะ แม่ไม่ชอบ" ดิฉันก็นึกขึ้นได้ว่า เพื่อนเพิ่งซื้อ ต้น บอระเพ็ด ให้เป็นของขวัญ วันเกิด เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง และดิฉันก็เอา มาตั้งไว้ในห้อง เดียวกับที่แขวนเรือแม่ตะเคียนทอง เพราะดิฉันคิดว่า แค่เอาไว้ตั้งโชว์เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่า แม่ ไม่ชอบ แม่มารอบนี้ แม่มาพูด มาเตือนหลายอย่าง และก็มาทวงคำสัญญาของแฟนด้วย ที่ไม่ยอมพาแม่ กลับวัดสักที ในระหว่างที่แม่ชี้ ๆ ดิฉันก็สังเกตุมือแม่ แม่ทำมือชี้มาที่ดิฉันกับแฟน โดยดิฉันได้ถ่ายคลิปไว้ด้วยและสังเกตุมือแม่ โดยแม่กำนิ้วกลางนิ้วนางนิ้วก้อยไว้ในกำมือ 3 นิ้ว และ ใช้นิ้วโป้ง กับ นิ้วชี้ ชี้มาที่ดิฉันกับแฟน ทำมือคล้าย ๆ เลข 7 ซึ่งดิฉันสังเกตุมือ คือจะมี 3 นิ้วที่กำไว้ และ 2 นิ้วที่ชี้มาที่ดิฉันและแฟน งวดนั้น ดิฉัน ซื้อหวย 23-32 แต่เป็นเลขที่ดิฉันได้มาจากที่อื่น และ หวยงวด 16 มค. 54 เลขท้าย 2 ตัว ก็ ออก 23 จริง ๆ ดิฉันถูกหวยใต้ดิน เกือบหมื่น แต่ดิฉันก็ลืมคิดไปว่า ส่วนหนึ่งมาจากแม่ด้วยหรือเปล่า เพิ่งจะมาสังเกตุเอาจากคลิป เมื่อไม่กี่วัน นี้เอง ว่าแม่ ก็ใบ้หวยทางมือให้ด้วยนะเนี่ย......ซึ่งปกติเวลาแม่มา จะตกใจ ทำอะไรไม่ค่อยถูก .... หลังจากที่แม่มาครั้งที่ 2 เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ แฟนก็ยังไม่มีเวลา พาแม่กลับวัดสักที จนเมื่อ 15 กพ. 54 แฟน รถจักรยานยนต์คว่ำ นิ้วเท้าแตก ทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะคว่ำได้ และ 21 กพ. 54 แฟนก็ถูกตำรวจจับ ในข้อหา ฉี่สีม่วง ทั้ง ๆ ที่แฟนไม่ใช่คนเสพยา ซึ่ง ดิฉันถือว่า รอบนี้เป็นความโชคไม่ดีขนาดใหญ่ ที่มันบังเอิญมาเกิดไล่เลี่ยกัน กับแฟนดิฉัน ดิฉันนึกถึงแม่ตะเคียนทองขึ้นมาทันที รีบจุดธูป 7 ดอก ขอ ขมาแม่ตะเคียนทอง หากแฟนทำอะไร หรือพูดจาอะไรไม่ดีไว้ ขอแม่ได้โปรดอภัยให้กับแฟนหนูด้วย ส่วนเรื่องไปวัด หนูจะพาแม่ กลับวัดเอง แต่หนูขอเวลาสักนิดนะแม่ ไม่เกิน สงกรานต์นี้ แม่ต้องได้ ไปวัดแน่ ๆ จน เมื่อ สิ้นเดือน กพ. 54 ดิฉันได้คุยโทรศัพท์ กับคุณอา คุณอาเลยบอกว่า กำลังจะพาแม่ตะเคียนทองกลับวัดเหมือนกัน ไปวันที่ 3 มีค. 54 นี้ ดิฉันเลยได้ โอกาสอาศัยไปพร้อมๆ กันกับคุณอา ซึ่งวันที่กลับวัด ก้มีเรื่องปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกกับตัวดิฉันเอง ซึ่ง ดิฉันรู้สึกว่า วันที่บอกแม่ว่าจะพาแม่กลับวัดนะ จะพาแม่ไปทำบุญ วันนั้นดิฉันเดินทาง คล่องมาก ๆ ใจนึกอยากขึ้นรถอะไร สายไหน รถคันนั้นก็จะผ่านมาพอดี ซึ่งปกติจะต้องรอรถนานมาก ๆ ดิฉันนั่งรถตู้ไปหา คุณอา ที่ จ.อยุธยา ตอนเย็นวันพุธ และ เช้า วันพฤหัส ที่ 3 มีนาคม 54 เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อพาแม่ กลับวัด ซึ่งเท่ากับว่า ในรถของคุณอาดิฉัน จะมีเรือแม่ตะเคียนทอง 2 ลำ คือของดิฉัน และ ของ คุณอา ซึ่งเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น ก็คือ ระหว่างที่ เราขับรถ ยังไม่ทันจะได้เข้าไปจอดรถเลย แค่ดิฉันเห็น ยอดเจย์ดี วัดพุน้อย เห็น ประตูทางเข้าวัดพุน้อย ตัวดิฉันขนลุกซู่ไปหมด แล้วน้ำหูน้ำตาก็ไหล ร้องไห้สะอึกสะอื้นทันที ดิฉันรู้ตัวนะ ว่าร้องไห้ และ สองมือก็ ไหว้พนม กราบไปที่วัดด้วย ซึ่งดิฉันบังคับตัวเองไม่ได้ และไม่เข้าใจว่า ทำไม อยู่ ๆ ถึงเป็นอาการแบบนี้ คุณอาดิฉัน เลยบอกกับดิฉันว่า "มาถึงวัดแล้วแม่ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว รู้แล้วว่าอยากกลับวัดจริง ๆ" สักพักดิฉันก็หยุดร้องไห้ แล้ว ก็รู้สึกดีขึ้น ดิฉัน รู้สึกได้ทันทีเลย ว่า ขณะที่เห็น ยอดเจย์ดีวัด และประตูวัดนั้น แม่ตะเคียนทองได้ ดลจิตดลใจให้ดิฉันร้องไห้ น้ำหูน้ำตาแตก ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ และนั่นก็คือประสบการณ์จริง ที่ดิฉันได้สัมผัสจาก เรือแม่ตะเคียนทอง ทั้งหมดค่ะ..................ไว้ถ้า มีเรื่องปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีก จะแวะมาแชร์ให้ฟัง นะคะ

 

วันไห้วครูที่ผ่านมาเราก็พาแม่ไปเสริมเหมือนกัน
ระหว่างอยู่ในงาน มือเราสั่นอย่างมาก เหมือนแม่จะเข้าร่าง
แต่เราต่อต้านเจอดีเลย ปวดหัวอยู่ 2 วัน ของแบบนี้
ต้องไปสัมผัสเองถึงจะรู้ค่ะ

 

ได้อ่านเรื่องราวการยกเรือแล้วอยากไปมากเลยค่ะ เลยลองหาข้อมูลของทัวร์แล้วจะได้ไปวันที่ 24 ก.ค. นี้แล้วค่ะ ดีใจมากเลย อยากรู้ว่าหากเรามีกิจการร้านค้าอยู่ ซึ่งอยู่คนละที่กับบ้านที่พักอาศัย เราควรเอาเรือไว้ที่ไหน ตำแหน่งใดดีค่ะ ถามก่อนล่วงหน้า เพราะมีความรู้สึกว่าต้องได้นำเรือกลับมาด้วยแน่นอนค่ะ ยังไงรบกวนผู้รู้บอกกว่าวกันบ้างนะคะ

ขอบคุณค่ะ

 

หากมีบ้านและร้านค้า ได้แม่มาจะไว้ไหน
ต้องไว้ที่ร้านที่เราทำมาค้าขายค่ะ แล้วก็
หมั่นสวดมนต์ทำสมาธิอุทิศให้แม่บ่อยๆๆ
แม่ชอบไปวัดค่ะ วันพระก็ชวนแม่ไปวัดหรือ
ไปทำบุญที่ไหนก็ชวนแม่ไปด้วยค่ะ เมื่อวานไปตัดผม
ที่ร้านเพื่อนมา เพื่อนเราให้ฟังว่าเขาก็ไปยกได้มาแล้ว
แถวๆๆร้านเขาก็มีอยู่คนหนึ่งไปยกแม่มาได้ 6 ปีแล้ว
แต่เมื่อไม่กี่วันมานี่แม่มาเข้าฝันเจ้าของบ้านว่าอยากขายของดีไหม
ถ้าอยากขายดีเอาแบงค์ปิดเรือแม่ซิ ว่าจะปิดดีไหม เพราะหากนำแม่
ไปเสริมเรือทางวัดจะปิดทองคำเปลวแท้ๆๆจนเรือเหลืองเป็นทองอร่าม

 

ขอบคุณมากค่ะคุณนิพพาน และหากเราเอาเรือแม่ตะเคียนไปบูชาที่ร้านก็ต้องแขวนไว้โดยไม่ให้ติดผนังใช่หรือไม่ค่ะ และต้องมีของไหว้ หรือต้องจุดธูปไหว้หรือเปล่าค่ะ จริง ๆ อยากรู้มากกว่านี้มากค่ะ เอาไว้ถามหลังไมล์ได้มั๊ยค่ะ สนใจมาก ๆ เลยค่ะ

 

สวัสดีค่ะ

จะมาเล่าเรื่องต่อค่ะ หลังจากที่อยากไปยกเรือแม่ตะเคียนมานานแล้ว ก็อดใจรอจนเมื่อวาน (24/7/11) ได้ไปยกเรื่อแม่ตะเคียนมาแล้วกับทัวร์ไปดูมาพาไปดูค่ะ ดิฉันไปกับพ่อ 2 คน ระหว่างทางไปก็ต้องประสบอุบัติเหตุจนถึงต้องเปลี่ยนรถ ระหว่างรอเปลี่ยนรถใจก็กลัวว่าจะไม่ได้ไปต่อซะแล้ว แต่ยังดีค่ะที่ยังพอจะมีบุญอยู่บ้างได้เดินทางไปต่อ กว่าจะไปถึงวัดพุน้อยก็ประมาณ 6 โมงครึ่งแล้วค่ะ ระหว่างรอเข้าพิธียกเรือก็รู้สึกตื่เต้นกลัวว่าจะไม่ได้เรือกลับมา จนถึงรอบที่เราและพ่อจะได้เข้าไปทำพิธียกเรือ ก็ปฏิบัติตามที่หลวงพ่อท่านบอก ระหว่างท่องก็รู้สึกว่าตัวเริ่มโอนเอนไปซ้ายขวาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเริ่มร้องไห้ออกมาเองบังคับตัวเองไม่ได้เลยค่ะ แล้วเรือก็เริ่มลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ ไปจนสุดมือเลยค่ะ พอเรายกได้เราก็ลุ้นให้พ่อเรายกได้ด้วย ปรากฎว่ารอบนี้ยกได้หมด 30 คนเลยค่ะ กลับบ้านมาด้วยความปลาบปลื้มใจ ได้เรือแม่กลับบ้านคนละลำกับพ่อ

ปล.รบกวนผู้ที่ได้ยกเรือกลับมาแล้วช่วยบอกหน่อยค่ะว่าเราต้องขอแม่ทุกวันหรือเปล่าคะ เราถึงจะสมความปรารภนา หรือว่าแม่ให้เราเองค่ะ แล้วหลังจากได้แม่กลับมาอยู่ด้วยแล้วอีกนานมั๊ยค่ะ ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ค้าขายร่ำรวยอ่ะคะ หรือว่าเกิดผลตั้งแต่กลับมาเลยคะ

 

สุขอื่น ยิ่งกว่า ความสงบ ไม่มี
พุทธพจน์

 

ผู้ที่ได้ไปยกเรือแม่ตะเคียนมาแล้ว ให้บูชาท่านทุกวัน ก่อนที่เราจะออกไปค้าขาย หรือไปทำธุระกิจที่ใดก็ยกมือไหว้ท่าน ขอให้ท่านช่วยให้ของที่เราจะไปขายหรืองานที่เราจะไปติดต่อก็ขอให้สำเร็จ ถ้าเราค้าขายดีขึ้นหรือทำงานสำเร็จแล้วได้เงินมาแล้วให้แบ่งไว้ทำบุญส่วนหนึ่งส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ใช้ ส่วนที่จะสำเร็จดังที่เราหวังหรือไม่ก็อยู่ที่บุญเก่าของเราว่ามีเยอะแค่ไหน ส่วนที่ไม่สำเร็จก็อย่าคิดมาก ลองอีกความสำเร็จต้องเป็นของเราสักวัน และพยายามทำบุญไว้มากๆ สำหรับผู้ที่ไม่เคยยกหรือยกไม่ผ่าน ผมขอแนะนำว่าการที่เราจะยกให้ผ่านคือเราต้องทำจิตใจให้สงบ อธิษฐานดีๆขอให้แม่ตะเคียนไปอยู่กับเรา อีกอย่าง เราสะสมบุญไว้เยอะหรือเปล่า ตอนแรกผมดูใน you tube ผมยังไม่เชื่อเลย แต่พอได้ไปเห็นกับตาแล้ว เชื่อและศรัทธาเต็ม 100 เลย

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่ีอครับ ไปยกมาแล้ว รู้สึกถึงแม่ตะเีคียนได้เลยครับ

 

อยากไปบ้าง แล้วจะหาทัวร์ไปได้ที่ไหนคะ

 

ไปวัดนี้ต้องระวังหมาของหลวงพ่อให้ดีๆนะครับเลี้ยงหมาให้กัดญาติโยมที่ตั้งใจไปทำบุญไปไหว้ย่าตะเคียนทองโดยไม่สนใจหรือคำว่าขอโทษนะโยมแทนที่รู้ว่ามันดุก้ออย่าให้มันขึ้นมาบนที่ทำพิธีขนาดคำโบราณยังมีคำพังเพยว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตีรู้ว่าท่านเป็นพระให้คนเคารพกราบไหว้แต่ไม่น่าจะมีหมามายุ่งเกี่ยวด้วยใครที่เลี้ยงหมาเคยมีใครกราบไหว้หมากันบ้างไหมครับกับหมาที่ท่านเลี้ยงหรือให้คนอื่นกราบไหว้ขนาดสุนัขทรงเลี้ยงขององค์พ่อหลวงท่านยังล่ามโซ่ตลอดที่ออกงาน

 

ที่ร้องไห้ออกมาเป็นเพราะตัวคุณเกิดอาการปีติครับ ไม่ใช่คุณแม่ตะเคียนท่านร้องไห้นะครับ

 

ผมเคยไปยกเรือแม่ตะเคียนที่วัดพุน้อย เมื่อ พ.ค.2556 แต่ผมไม่ได้ทำการค้าจึงไม่เห็นผลในเรื่องการเงินเพราะผมทำงานเอกชนได้รับเงินเดือนตายตัวครับ ประกอบกับผมทำงาน ตจว. ได้กลับบ้าน ส-อ จึงไม่ค่อยได้บูชาเรือแม่ ได้แต่สวดมนต์ไหว้พระตามปกติ แล้วอุทิศบุญแก่เทวดา ซึ่งผมคิดว่าแม่ต้องได้รับบุญจากการภาวนาของผม สิ่งที่แปลกได้แก่ ตอนรับเรือแม่มาใหม่ๆ ผมแขวนไว้ภายในบ้านชั้นล่าง แล้วไปทำงาน ตจว. เย็นวันศุกร์กลับบ้านผมเห็นซองไปรษณีย์ภัณฑ์ที่ปกติบุรุษไปรษณีย์จะโยนเข้ามาที่พื้นโรงรถแต่วันนั้นวางอยู่บนกระจกหน้ารถมีที่ปัดน้ำฝนวางทับอย่างเรียบร้อยเลยครับ เหมือนมีคนหยิบมาวางให้ แปลก!! นอกจากนั้นเพื่อนบ้านบางคนเขาเคยเห็นในบ้านผมมีคนอยู่กันหลายคน ทั้ง ญ-ช (ในบ้านผมมีพระเยอะครับ) บางคนก็บอกว่าเคยเห็นผู้หญิงหน้าขาวๆ หน้าตาใจดีอยู่ในบ้าน เขาคิดว่าผมพาเพื่อนมาที่บ้านครับทั้งที่วันนั้นผมอยู่ ตจว.ครับ และที่บ้านไม่มีคนอยู่ เพื่อนบ้านผมเขาก็ไม่รู้ว่าในบ้านผมมีเรือแม่นะครับ นอกจากนั้นตอนกลางคืนบางครั้งผมได้ยินเสียงประตูห้องพระเปิดเสียงดัง แอ๊ด! เบาๆ และเสียงเปิด-ปิดสวิตซ์ไฟครับ เสียงแปลกๆนี้เกิดเฉพาะตอนรับเรือแม่มาใหม่ๆครับ เดี๋ยวนี้ก็ไม่เจอแปลกๆอีกเลย หรือเป็นเพราะผมชินหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ

 

ส่งแผนที่มาให้สำหรับผู้สนใจครับ

 

จริงๆเลยค่ะ เรื่องเช่นนี้ ไม่เจอกับตัวไม่รู้ เรือแม่ศักดิ์สิทธิ์มาก คำไหนคำนั้นห้ามผิดคำพูดเด็ดขาดนะคะ สาธุๆๆๆๆๆ

 

น่าสนใจค่ะ ... ตอนนี้ ปริษัท ทัวร์ไหน จัด ทริปไปวัดนี้ บ้างค่ะ

 

แฟนชวนไปเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ค้าขายอยู่ รายได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อยากมีกำไร อยากมีเงินเก็บ ออกขายทุกวันยังไม่มีเงินเก็บเลย ขายไม่ค่อยคล่องตัวเลย รอเวลาที่จะไป ว่าจะไปประมาณสิ้นปีนี้

 

WOW