บันทึกการเดินทาง "ซาปา ณ เวียดนาม"

ขนาดนี้การจราจรยังติดขัดมาก






เดินทางลงจากเขา สองข้างทางมีแต่ทะเลหมอก








ลงเขาไปเรื่อย มีด่านเก็บเงินเป็นระยะไป​

 

เวลา ๐๘.๓๐ น. จอดเข้าห้องน้ำ


กว่าจะถึงห้องน้ำผ่านของเยอะมาก


เจอไปสามแสน..!


ออกเดินทางต่อ


อาหลันแปลงเป็นแม่ค้าขายกาแฟชะมด


"หำ" นี้ไม่ใหญ่แต่ยาว..!


พักประประจำชั่วโมง


ยังไม่ทันจะปวดฉี่เลย


เขาต้อนทุกคนมาในห้องนี้




พ่อหนุ่มคนนี้แนะนำผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่


สินค้าผ้าทำจากเยื่อไผ่


ทุกอย่างซื้อ ๑๐ แถม ๑ หรือ ซื้อ ๑๐ แถม ๒








ผู้แนะนำประสบความสำเร็จ ไม่มีใครไม่เสียเงิน..!


หน้าร้าน ๒ ฝั่งเหมือนกัน จัดสินค้าไปชนกันตรงกลาง เข้าข้างไหนก็ซื้อได้
​

 

รถของเราจอดในปั๊มน้ำมันที่ดูเหมือนยังสร้างไม่เสร็จ


ซื้อของไปเป็นชั่วโมงกว่าจะได้เดินทางต่อ..!


ซื้อข้างล่างถ้ายังไม่พอ มาซื้อต่อได้บนรถ..


ไม่เห็นทางลง แล้วเขาเติมน้ำมันกันอย่างไร ?


ผ่านด่านนี้ก็เป็นร้านอาหารแล้ว


อาหารกลางวันมื้อนี้เราไปกินกันถึงประเทศฮังการี


ไม่ได้ถ่ายรูปสาวเปลือย แต่ถ่ายรูปสาวแย่งกันเข้าห้องน้ำ..!


มื้อนี้กินกันแบบชนชั้นสูง ต้องเดินขึ้นเนินเขาไปตั้งไกล..!


อีกไม่นานพวกนายน่าจะไปอยู่ในจาน..!


ส่วนนกเขาเหมาะที่จะทอดกรอบ


อ้าว..มีให้แค่นี้เอง​

 

อิ่มแล้วหลับ..เอ๊ยเดินทางต่อ..!


จากนี้ไปชั่วโมงครึ่งจะอยู่บนทางด่วน


รถมากขึ้นเรื่อย ๆ


แม่น้ำแดงข่วงเมืองฮานอย


รถเริ่มติดแล้ว


มีคนบอกว่าความเจริญกับรถติดเป็นของคู่กัน


จากตรงนี้ไปอีก ๘๕ กิโลเมตร จะถึงเมืองนิงบินห์


ดูด้านข้างสวยมาก มาถึงข้างหน้ามีแค่ซีกเดียว..!


ทางด่วนอีกช่วง ต่ำสุด ๖๐ ก.ม./ช.ม. สูงสุด ๑๐๐ ก.ม./ช.ม.


แวะเข้าห้องน้ำที่เมืองฮานัม


บ้านเราอาศัยปั๊มน้ำมัน บ้านเขาอาศัยร้านขายของที่ระลึก


มีตู้คีบตุ๊กตาเหมือนกัน


ช่างซ่อมรองเท้าหายไปไหนแล้ว ?


ออกเดินทางต่อ อีก ๑ ช.ม.ถึงที่หมาย


เก็บตังค์อีกแล้ว


ข้ามแม่น้ำนี้ก็เป็นเขตเมืองนิงบินห์




เริ่มสมกับเมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำ


ตรงไหนว่างก็ทำนา


เหมือนจะวิ่งไปชนภูเขา


ในเมืองต้นไม้สวยมาก​

 

ถึงท่าเรือแล้ว


ใส่เสื้อชูชีพระหว่างรอตั๋ว


ถ่ายรูปหมู่


ลงเรือ


ไปละนะ..!


พายด้วยตีนครับ


ลอดใต้สะพาน


เขียน ตามก๊อก อ่านว่า ตามจุ๊ก


มุมสวยใต้ต้นไทร






นักท่องเที่ยวขากลับสวนมาเยอะมาก


ลอดใต้ถนน


ตากล้องตามถ่ายรูป สนใจเรียกใช้บริการได้


ทิวทัศน์สวย ๆ


ผีกับคนอยู่ด้วยกัน


นาข้าวลอยน้ำ


เขาเรียกว่าพวกไร้ฝีมือ ใช้เป็นแต่ตีน..!


รูปนี้ถ่ายได้ดีมาก ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์




ข้างบนโน้นนนน..มีวัดด้วย..!








ลอดถ้ำที่หนึ่งก็พอแล้ว เดี๋ยวค่ำกลางทาง






แข่งกันขากลับ


ยิงสวนกัน..!


ขากลับมุมนี้สวยมาก


ตากล้องสู้ชีวิตมาก วิ่งถ่ายรูปตามฝั่ง..!




รอดตายไปอีกงาน..!


ใครไม่ได้นักท่องเที่ยวก็รอวันต่อไป


เพิ่งเห็นป้ายท่าเรือตอนขาขึ้น


คนเรือวิ่งเอากระบอกน้ำมาคืน


อาหลันพาคณะไปร้านอาหาร และนัดเวลากลับ​

 

ต้นส้มจี๊ดหน้าร้านอาหาร


ห้องน้ำสะอาดมาก




ใครไม่กินก็ไปซื้อของ


"เจ้าฉงน" ราคา ๕๐,๐๐๐ ด่อง


"เจ้ายืด" ราคา ๘๐,๐๐๐ ด่อง


ปี่เขาควาย แค่ลองเป่า ไม่ได้ซื้อ






เวลา ๑๙.๔๐ น. มาถึงโรงแรม Vissai Hotel














สภาพห้องนอน - ห้องน้ำ​

 

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗

​

 

วันจันทร์ที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ซาปา ณ เวียดนาม


อากาศต่างกันแค่ ๑๐ องศาเซลเซียส..!


หน้าโรงแรม The Vissai Hotel


แช่น้ำร้อนแล้วนอนภาวนา ได้มาเป็นกอบเป็นกำ ฮ่า..ฮ่า..!


เครื่องดื่มตราวัวแดงกระป๋องละสองหมื่น..!


ลงมาข้างล่าง ฝนตกแล้วครับ

















ไปนั่งกดดันในห้องอาหาร..!






อาหลันกลายเป็น FC วัดท่าขนุนเต็มตัว..!


เจ้าของโรงแรมน่าจะสะสมรถเก่า


ก่อนขึ้นรถก็มานั่งรับเงิน..!


เวลา ๐๗.๐๗ น. ฤกษ์ดี..ออกเดินทางได้


ออกมาก็ติดหนุบหนับทันที..!


ติดเฉพาะทางที่เราจะไป ฮ่า..ฮ่า..!


ใกล้ถึงเมืองฮานาม​

 

วันจันทร์ที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ซาปา ณ เวียดนาม


อากาศต่างกันแค่ ๑๐ องศาเซลเซียส..!


หน้าโรงแรม The Vissai Hotel


แช่น้ำร้อนแล้วนอนภาวนา ได้มาเป็นกอบเป็นกำ ฮ่า..ฮ่า..!


เครื่องดื่มตราวัวแดงกระป๋องละสองหมื่น..!


ลงมาข้างล่าง ฝนตกแล้วครับ

















ไปนั่งกดดันในห้องอาหาร..!






อาหลันกลายเป็น FC วัดท่าขนุนเต็มตัว..!


เจ้าของโรงแรมน่าจะสะสมรถเก่า


ก่อนขึ้นรถก็มานั่งรับเงิน..!


เวลา ๐๗.๐๗ น. ฤกษ์ดี..ออกเดินทางได้


ออกมาก็ติดหนุบหนับทันที..!


ติดเฉพาะทางที่เราจะไป ฮ่า..ฮ่า..!


ใกล้ถึงเมืองฮานาม​

 

เข้าสู่วัดตามจุ๊กซึ่งมีพื้นที่ถึง ๑ แสนไร่..!


เข้าลานจอดรถ


ต่อรถไฟฟ้า


ใครเร็วก็ได้ไปก่อน


มาส่งหน้าห้องขายตั๋ว


วิ่งไปห้องน้ำจนเหลือกันแค่นี้


แผนที่วัด..จะเดินไหวไหมนี่ ?​

 

ไปห้องน้ำก่อน


รวมพลแจกตั๋ว


ตามธงนะคะ..ตามไกด์จะหาตัวไม่เจอ..หนูเกิดหน้าแล้งค่ะ..!


ตรวจตั๋วด่านที่ ๑


หลงหวังยินดีต้อนรับ


เดิน..เดิน..เดิน..!


ออกจากอาคารก็เป็นลานมหึมา


ถ่ายรูปหมู่ก่อน


เข้าในอาคารอีก


ตรวจตั๋วด่านที่ ๒


มาขึ้นเรือล่องทะเลสาบ




เขายกให้คณะหลวงพ่อทั้งลำ..!


เพื่อความปลอดภัยก็อยู่บนเรือชูชีพไปเลย..!


วิ่งฝ่าลมหนาวข้ามทะเลสาบไปอีกฝั่งหนึ่ง


มาเจอประตูสวรรค์ทางฝั่งนี้


ถ่ายรูปหมู่ตามระเบียบ​

 

เข้าในอาคารอีก






พระพุทธเจ้าอยู่ตรงกลาง เทพพิทักษ์อยู่ซ้าย-ขวา


หยอดตู้ทำบุญแล้วออกไปทางซ้ายของศาลาดิน


ตรงไปยังศาลามนุษย์ที่อยู่ข้างหน้า


มาเช้าขนาดนี้ยังมีคนมาแล้วหกพันกว่าคน















เจ้าแม่กวนอิมรอโปรดมนุษย์อยู่ในศาลา


มองกลับไปเห็นศาลาดินอยู่ในสายหมอก


ขึ้นบันไดมาอีกหลายร้อยขั้นกว่าจะถึงศาลาฟ้า








พระพุทธเจ้ารอโปรดอยู่บนฟ้า


เศษไม้ประดับที่หน้าศาลาฟ้า


ขึ้นไปชมวิวบนหอระฆังก่อน












ขึ้นไปชั้นสูงสุดแล้วจะเห็นว่าวัดบางส่วนกำลังสร้างอยู่




ตามหลวงพ่อขึ้นไปถึงชั้นสูงสุดกันได้แค่นี้​

 

กลับลงมาถ่ายรูประฆังใบใหญ่ที่ชั้น ๒


แล้วเดินไปศาลาสุขาวดีพุทธเกษตร


มาพบราชรถของพระอมิตตาภพุทธเจ้า




พระพุทธเจ้าในอดีตกาล ปัจจุบันกาล และอนาคตกาลอยู่ที่นี่


หยอดทำบุญไปทุกตู้ ๕ หมื่นบ้าง ๑ แสนบ้าง รวย..รวย..รวย..!


กลับลงมาถึงเห็นว่าขึ้นบันไดหลายสิบช่วง..!


นั่งรอช่างภาพที่ไปเก็บโดรนที่ติดยอดไม้อยู่ในป่า




ห้องน้ำดีมาก


พร้อมแล้วเตรียมตัวเดินทางกลับ


ตรวจตั๋วด่านนี้เขายึดไปเลย




นั่งรถกลับ








วิ่งออกมานานมากกว่าจะมาถึงที่เขาจัดให้จอดรถ










ต้องผ่านร้าขายของที่ระลึกตามระเบียบ..!




เดินไปลานจอดรถไกลมากกก..!


ข้ามสะพานด้วย


อีกครึ่งทาง..โอ้พระเจ้า..!


มีของแพงเข้ามาในลานจอดรถ


โอย..รอดแล้ว..!


อีก ๒ ชั่วโมงจะไปถึงเมืองฮานอย


ถึงฮานอยเมื่อไหร่ก็รถติดเมื่อนั้น..!


ค่อยเป็นค่อยไป​

 

เย้..รถไม่ติด..!


ถนนสวยอีกต่างหาก


มาถึงร้านอาหาร


มีรับส่งยาเสพติดด้วย


ต้องขึ้นไปชั้นบน


ส้มตำ ผัดผัก กับคั่วไก่จะตามมาทีหลัง




เลิกแยกบัส ๑ บัส ๒ ชั่วคราว หน้าจะมืดแล้ว..!​

 

อิ่มแล้วเดินทางต่อ


รถไม่ติดก็ไม่ใช่ฮานอย


มาถึงสุสานท่านโฮจิมินห์


ต้องวิ่งอ้อมโลกไปก่อน


มาจ่ายเงินเข้าลานจอดรถ


แล้วเดินอ้อมไกลมาก


มาให้เขาตรวจอาวุธและสิ่งมีคม


ไม่ดังเหมือนเดิม (พ่อหนุ่มบอกว่าห้ามถ่ายรูป)


มาถ่ายจุดที่เขาไม่ห้าม




เดินอ้อมโลกต่อไป






มาชมวัดเสาเดียวก่อน


วัดนี้มีส้มจุก (มะงั่ว) ลูกเท่าส้มโอ


แล้วเดินไปสุสาน "ลุงโฮ"






ถ่ายรูปแบบต้องรออย่างนานมากกกก..!


ศาลาประชุมพรรคคอมมูนิสต์


ออกมาเจอคนรอเข้าเยอะมาก ๆ


ลองข้ามถนนในเวียดนาม..!


ระหว่างรอรถก็ชมสามล้อไปก่อน


รีบขึ้นครับ..รถติดมาก..!






เหมือนมีผู้เมตตา เคลียร์ทางข้างหน้าให้ตลอด..!




มาจอดแถวโรงละครหุ่นน้ำ


ฟังแนวทางช็อปปิ้ง เวลาและจุดนัดพบ


หลวงพ่อช็อปฯ ไม่เป็น แยกไปชมทะเลสาบคืนกระบี่ (หว่านเกี๊ยม แปลว่า คืนกระบี่) ที่คนไทยเรียกว่าทะเลสาบคืนดาบ






มีสินค้า "ทำมือ" สวย ๆ มากมาย




ซื้อตั๋วเพื่อเดินข้ามสะพานแสงอาทิตย์


น่าเสียดายที่มองไม่เห็นเจดีย์หมุดเมือง








ศาลสักการะยอดขุนพลเจิ่นฮึงด่าว ประมาณท่านกวนอูฉบับเวียดนาม (ห้ามถ่ายรูป)


มาเยี่ยมตะพาบเซียนทวงกระบี่ (ใช้เสร็จแล้วก็คืนมาสิครับ)


และตะพาบยักษ์แยงซีเกียงตัวสุดท้ายของโลก


หล่อกว่านินจาเต่าตั้งเยอะ..!


แล้วถ่ายน้ำในสระพอดี เลยเจอปลาเข้าแถว..!


มารอด้วยจุดนัดพบ


Hurry up Please.


เดินทางไปสนามบินในช่วงเร่งด่วนที่รถโคตรติด แต่เหมือนมีคนเคลียร์ทางให้ตลอด


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ


ภาพมันฟ้องอย่างชัดเจนครับท่าน..!​

 

๕๐ นาที มาถึงสนามบินนานาชาตินอยไบ


บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเสร็จแล้วก็มาเช็คอิน


คุณคนสวยทำงานเร็วมาก


เข้าแถวผ่าน ตม.เวียดนาม


ครึ่งนาทีต่อมาก็มาเข้าเครื่องเอ๊กซเรย์


ผ่านฉลุยมารอขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย​

 

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗

​

 

เวลา ๒๓.๐๐ น. ลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง


รับกระเป๋าที่สายพานหมายเลข ๕
​