WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 24 เมษายน 2011.

  1. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ภูเขาหิมะถล่ม! ในปากีสถาน ตาย 11 สูญหาย 10 ทหารเร่งค้นหา

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2555 15:59 น.

           สำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษ รายงานว่า เกิดเหตุภูเขาหิมะถล่มในเขตแคชเมียร์ ของปากีสถาน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และอีก 10 คน สูญหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารกำลังเร่งตามหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่
            รายงานระบุว่า ภูเขาหิมะที่ถล่ม มีชื่อว่า นีลุม (Neelum) โดยทหารกำลังออกค้นหาผู้ประสบภัยชุดแรกที่ถูกหิมะถล่มครั้งแรก ก่อนที่จะมีเกิดเหตุหิมะถล่มซ้ำสอง
            เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง กล่าวว่า การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย หน่วยกู้ภัย ค้นพบ 2 ร่างผู้เสียชีวิต ในเหตุถล่มครั้งที่ 2 ในดานา ทาเจียน (Dana Tajian) ห่างจากเมืองหลักของแคชเมียร์ ประมาณ
           80 ไมล์ (130 กิโลเมตร)
            ทั้งนี้ จุดเกิดหิมะถล่มครั้งนี้ เป็นจุดพิพาทที่แบ่งแคชเมียร์ ระหว่างอินเดียและปากีสถาน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายนั้น มีจำนวนของทหารประจำการจำนวนมาก ซึ่งมีรายงานเมื่อเดือนเมษายน ปรากฏว่า มีทหารปากีสถานเสียชีวิตเนื่องจากถูกหิมะถล่มมากกว่า 140 ราย ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก็มีทหารอินเดียถูกหิมะถล่มตายไป 16 ราย เช่นกัน

    Manager Online - ภูเขาหิมะถล่ม! ในปากีสถาน ตาย 11 สูญหาย 10 ทหารเร่งค้นหา
     
  2. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ไข้หวัดแมว ระบาดหนักที่อ่างทอง ทำแมวตายแล้วเกือบ 100ตัว

    เขียนโดย Mthai News Reporter โพสต์เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555


    [​IMG]
    ขณะที่ชาวบ้านจี้เจ้าหน้าที่เร่งจัดการ

    ที่วัดเขาแก้ว ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แมวที่ชาวบ้านนำมาปล่อยไว้เกือบ 200 ตัว ทะยอยตายไปเกือบ 100 ตายแล้ว บางตัวคลอดลูกออกมา ก็ตายยกคอก จนเหลือกว่า 70 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการซึมเศร้า ไอ จาม ตาแฉะ ไม่กินอาหาร และมีบาดแผลเต็มลำตัว
    ด้านแม่ชีพะเยาว์ อินมั่น แม่ชีวัดเขาแก้ว ผู้ดูแลแมวภายในวัด ได้เผยว่า การที่แมวภายในวัดได้ตายลงจำนวนมากนี้อาการอาจเกิดจากโรคไข้หวัดแมวที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ โดยเชื้อได้แพร่อย่างรวดเร็ว แต่วัดไม่สามารถช่วยอะไรได้ เนื่องจากมีแมวอยู่เป็นจำนวนมาก
    สำหรับโรคไข้หวัดแมว จะพบได้บ่อยในช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งเป็นไวรัสจําเพาะในแมวได้แก่ Feline Viral Rhinotracheitis Virus (FVRC) หรือ Feline Herpesvirus (FHV) และ Feline Calici Virus (FCV)
    นอกจากนี้ยังอาจมีการติดเชื้ออื่นๆ ร่วมด้วยเช่น Bordetella หรือ Clamydia ซึ่งจะทําให้แมวแสดงอาการรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในลูกแมวและแมวที่อ่อนแอ
    โดยทั่วไปมีไวรัส 2 ชนิด เมื่อแมวได้รับเชื้อและจะมีการอาการหวัด โดยการแยกอาการของการติดเชื้อไวรัสสองตัวนี้อย่างคร่าวๆ คือ การสังเกตได้จากอาการซึ่งไวรัส FCV จะไม่ค่อยมีอาการที่ตาและจมูก แต่อย่างไรก็ตามแมวสามารถมีการติดเชื้อร่วมกันของไวรัสทั้ง 2ชนิดนี้ได้ ซึ่งจะยิ่งทําให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้นไปอีก
    Feline Viral Rhinotracheitis (FVRV)หรือ Feline Herpesvirus (FHV) โรคนี้จะพบได้บ่อย ในกลุ่มแมวที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนอัตราการติดโรคอาจสูงถึง 100% แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วอัตราการตายจะไม่สูงมากแต่ว่ามีโอกาสที่จะสูงถึง 30 %ได้ในลูกแมวที่เครียดหรือมีโรคอื่นแทรกซ้อน
    สำนักข่าวไทย

    Mthai News

    ไข้หวัดแมว ระบาดหนักที่อ่างทอง ทำแมวตายแล้วเกือบ 100ตัว | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง
     
  3. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    ฟิลิปปินส์สั่งอพยพคน!! รับมือไต้ฝุ่น"โบพา"จ่อขึ้นฝั่งคืนนี้
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2555 16:14 น.

    หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ ระบุว่า พายไต้ฝุ่น "โบพา" ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกินพื้นที่ 700 กิโลเมตร ทำให้มีฝนตกหนักในเขตมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่้เคยได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน "วาชิ" เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน นอกจากนั้น บางส่วนของภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ก็จะได้รับอิทธิพลจากไต้ฝุ่นโบพาเช่นกัน
    รายงานข่าวแจ้งว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะมีความรุนแรงกว่าพายุโซนร้อนวาชิ โดยมีกำลังลมที่แรงกว่า และฝนตกในปริมาณที่มากกว่า ทางการฟิลิปปินส์จึงขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมเผชิญกับสภาพอากาศ ลมแรง ฝนตกหนัก มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม และดินถล่ม และคาดว่าไต้ฝุ่นโบพา จะเคลื่อนตัวเข้าฟิลิปปินส์คืนนี้ ซึ่งทางการเตรียมสั่งอพยพประชาชนหลายพันคนทางภาคตะวันออกของประเทศไปยังพื้นที่ปลอดภัย จัดเตรียมเรื่องอาหารและเวชภัณฑ์ และเตรียมพร้อมเปิดศูนย์อพยพ
    "โบพา" เป็นชื่อพายุไต้ฝุ่นที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกตอนบน และทะเลจีนใต้ ซึ่งประเทศกัมพูชาเป็นผู้ตั้ง โดยเป็นชื่อดอกไม้ และชื่อของเด็กผู้หญิง
     
  4. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    อุโมงค์ถล่มทางภาคกลางของญี่ปุ่นสังเวยแล้วอย่างน้อย 5 ศพ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2555 14:10 น.

    รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- รายงานล่าสุดยืนยัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย จากเหตุอุโมงค์บนถนนสายหนึ่งถล่ม ทางตอนกลางของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (2)

    รายงานข่าวซึ่งอ้างสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคและสื่อหลายสำนักของญี่ปุ่นระบุว่า อุโมงค์ซาซาโงะที่มีความยาว 4.7 กิโลเมตรในจังหวัดยามานาชิ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกราว 80 กิโลเมตร เกิดพังถล่มลงมาทับรถยนต์ที่แล่นอยู่ภายใน และทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ตามมา จนมีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากภายในอุโมงค์อย่างไม่ขาดสาย

    ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงในพื้นที่เชื่อว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 7 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ขณะที่จำนวนรถยนต์ที่คาดว่าจะติดอยู่ภายในอุโมงค์ที่ถล่มนั้น คาดว่าจะมีอย่างน้อย 2 คัน แต่ล่าสุดมีรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 5 ราย

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายหนึ่งเผยว่า ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ได้ แต่ภารกิจในการค้นหาและกู้ภัยอื่นๆต้องยุติไว้ก่อนแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยเกรงว่าอาจเกิดการพังถล่มลงมาเพิ่มเติมของอุโมงค์ดังกล่าว ขณะที่หญิงสาวในวัยประมาณ 20 ปีรายหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บและได้รับการช่วยเหลือออกมาจากจุดเกิดเหตุเผยกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงว่า เธอไม่ทราบชะตากรรมของผู้โดยสารอีก 5 คนที่อยู่ภายในรถคันเดียวกับเธอ

    เหตุอุโมงค์ถล่มที่เกิดขึ้นในจังหวัดยามานาชิครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุดในญี่ปุ่นนับตั้งแต่ที่เกิดเหตุอุโมงค์ถล่มเมื่อปี 1996 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้น 20 ราย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ขอบคุณมากค่ะ

    เสียดายที่ไม่สามารถปลีกเวลาไปฟังได้ ได้แต่อ่านและฟังจากผู้ไปมาแล้ว ท่านพระอาจารย์เตือนได้แรง นะคะ

    ที่เกริ่นถามเรื่องสนามแม่เหล็กกลับขั้ว เพราะเมื่อเช้าบังเอิญไปเปิดดูเข็มทิศที่เคยใช้กับรถยนต์ เก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะ

    เห็นตัวอักษร S ไปอยู่ทางทิศเหนือ อักษร N กลับไปอยู่ทางทิศใต้ สงสัยว่าเราทำตกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไม error ได้ไวขนาดเนี๊ย

    เคยได้อ่าน ได้ยินเรื่องสนามแม่เหล็กโลกกลับขั้ว เลยชอบคิดแบบบ๊องส์ๆๆ น่ะค่ะ เข็มทิศของเพื่อนๆ คงไม่พังเหมือนของเรา แน่เรย
    :':)'(
     
  6. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    ขออนุญาตแชร์จากที่ได้อ่านมานะคะ
    แม่เหล็กโลกกลับขั้ว ปรากฎการณ์ที่อาจเปลี่ยนทุกสิ่ง

    นับว่าเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกในขณะนี้ สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของขั้วแม่เหล็กโลกที่นักวิทยาศาสตร์หลายท่านเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ประหลาด อย่างเหตุการณ์สัตว์ตายทั่วโลกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าเรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับโลกมากเท่าไร ก็ยิ่งได้รับความสนใจมากเท่านั้น

    ล่าสุด เรื่องราวของการเคลื่อนตัวของสนามแม่เหล็กโลก ได้กลายเป็น Talk of the Town อีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา สนามบินนานาชาติแทมป้า ในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ได้ปิดรันเวย์บางรันเวย์ เนื่องจากการเคลื่อนตัวของสนามแม่เหล็กโลก ที่ทำให้ทางสนามบินต้องปรับหมายเลขรันเวย์กันใหม่ เนื่องจากหมายเลขรันเวย์นี้สำคัญต่อนักบินมาก โดยจะเป็นตัวระบุว่ารันเวย์นั้นหันไปทิศทางใดและทำมุมกี่องศากับขั้วแม่เหล็กโลกขั้วเหนือ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ขั้วแม่เหล็กโลกได้เคลื่อนไปกว่า 10 องศา ทำให้ทางสนามบินต้องปรับหมาย เลขรันเวย์จาก 18R/36L (ทำมุม 180 องศากับขั้วโลกเหนือ และ 360 องศากับขั้วโลกใต้) มาเป็น 19R/1L (ทำมุม 190 องศากับขั้วโลกเหนือ และ 10 องศากับขั้วโลกใต้) ขณะที่รันเวย์อีก 2 รันเวย์ก็กำลังจะถูกปิดเพื่อปรับหมายเลขรันเวย์ใหม่ในวันที่ 13 มกราคมนี้

    อธิบายอิทธิพลของขั้วแม่เหล็กโลกที่มีต่อการบิน

    สำหรับการปรับหมายเลขรันเวย์ จะปรับทุก 20-30 ปี เนื่องจากขั้วแม่เหล็กโลกมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา โดยในอดีตจะเคลื่อนที่จากจุดเดิมเฉลี่ยประมาณ 16 กิโลเมตรต่อปี แต่ในปัจจุบัน คาดว่าทางสนามบินทุกแห่งจะต้องปรับหมายเลขรันเวย์กันบ่อยขึ้น เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่าขั้วแม่เหล็กโลกนั้นเคลื่อนตัวเร็วขึ้นมาก คือ ประมาณ 64 กิโลเมตรต่อปี ซึ่งในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ขั้วแม่เหล็กโลกได้เคลื่อนตัวจากบริเวณมหาสมุทรอาร์กติกในแคนาดา กำลังมุ่งตรงไปยังประเทศรัสเซียในปัจจุบัน รวมระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตรเลยทีเดียว

    การเคลื่อนตัวของขั้วแม่เหล็กโลก แม้จะค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปอย่างต่อเนื่องตามวัฏจักร แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนนำมาเชื่อมโยงกับการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลก ที่คาดการณ์ว่ากำลังจะเกิดผลกระทบครั้งใหญ่ในปี 2012 ที่จะถึงนี้ โดยวิเคราะห์กันว่า การที่ขั้วแม่เหล็กโลกเคลื่อนตัวเร็วขึ้นนั้น เป็นเพราะกำลังจะเข้าสู่ภาวะพลิกตัวหรือกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกนั่นเอง วันนี้ กระปุกดอทคอมจึงขอนำเรื่องราวของการเคลื่อนตัวและการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกมาฝากกันอีกครั้งค่ะ

    สนามแม่เหล็กโลก เกิดจากปรากฎการณ์ไดนาโมหรือการที่ของเหลวที่อยู่ภายในโลกมีการหมุนวน ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำไฟฟ้าขึ้น จนเกิดเป็นสนามแม่เหล็ก ขั้วหนึ่งอยู่ทางทิศเหนือ และขั้วหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ โดยสนามแม่เหล็กนี้จะปกป้องโลกจากรังสีและอันตรายภายนอกโลก และขั้วแม่เหล็กทั้งสองขั้วก็จะมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา โดยเป็นอิสระจากกัน ซึ่งเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง จะมีการกลับขั้วของสนามแม่เหล็ก หรือการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกันตามวัฏจักรของโลก ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวยังไม่มีทฤษฎีใดอธิบายได้ว่าเกิดจากอะไรและใช้เวลากลับขั้วนานเพียงใด แต่ที่แน่ ๆ คือสนามแม่เหล็กโลกจะมีการกลับขั้วทุก ๆ 250,000 - 300,000 ปีโดยเฉลี่ย หรืออาจคลาดเคลื่อนไปบ้างก็เป็นได้ และกระบวนการนี้จะค่อยเป็นค่อยไป แต่ระหว่างช่วงเวลานี้ก็จะส่งผลกระทบต่อพื้นผิวโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลกไม่น้อย โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 780,000 ปีก่อน และในครั้งนั้นก็มีความรุนแรงมากถึงขนาดทำให้สัตว์หลายชนิดบนโลกสูญพันธุ์มาแล้ว

    สนามแม่เหล็กโลกที่ปกป้องโลกจากรังสีและอันตรายภายนอกโลก

    จากการศึกษาและคาดคะเนของนักวิทยาศาสตร์ นักดาราศาสตร์ และนักธรณีฟิสิกส์พบว่า ปรากฎการณ์การกลับขั้วของสนามแม่เหล็กนี้อาจส่งผลกระทบครั้งใหญ่ในปี 2012 หลังจากพบว่าขั้วแม่เหล็กโลกมีการเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกก็อ่อนกำลังลงกว่า 10% ซึ่งถ้าหากสนามแม่เหล็กโลกกลับขั้วตามการคาดคะเน ในช่วงเวลาที่มันกำลังพลิกกลับนั้นก็อาจทำให้สนามแม่เหล็กโลกอ่อนกำลังลงมากถึงที่สุด แต่ไม่ว่าจะร้ายแรงอย่างนั้นหรือไม่ก็ตาม สนามแม่เหล็กโลกก็จะไม่ลดลงถึงระดับศูนย์ มันยังคงทำหน้าที่ของมัน คือ การปกป้องโลกจากอันตรายร้ายแรงภายนอกโลก และเคลื่อนไหวต่อไปตามวัฏจักร เพียงแต่ถ้าหากสนามแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแล้ว มันก็อาจส่งผลกระทบหลาย ๆ อย่างบนโลก ดังต่อไปนี้


    1. เปลือกโลกมีการเคลื่อนตัว เกิดภัยพิบัติบนผิวโลก เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินถล่ม สึนามิหรือแผ่นดินไหวใต้น้ำ โดยปรากฎการณ์นี้จะไม่เกิดครั้งใหญ่ครั้งเดียวฉับพลันแล้วทำลายทุกสิ่ง แต่จะค่อย ๆ เกิดรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยกินระยะเวลานานหลายปี

    2. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เนื่องจากการสลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกจะทำให้สภาพอากาศบนโลกเปลี่ยนไปในทางตรงข้าม เช่น ในพื้นที่ที่ร้อนจัดก็จะเปลี่ยนเป็นหนาวจัด ส่วนพื้นที่ที่เคยหนาวจัดก็จะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นมาก ทำให้น้ำแข็งบริเวณพื้นที่หนาวละลายและเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบไปหลายพื้นที่

    3. โลกจะร้อนขึ้น เนื่องจากความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง จึงอาจทำให้โลกได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์ในปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิบนผิวโลกสูงขึ้น

    4. อุกกาบาต และวัตถุจากอวกาศจะถูกดึงเข้ามายังโลกได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างที่เคลื่อนที่ผ่านจะพุ่งเข้าชนโลก เพราะอย่างไรก็ตาม ขั้วแม่เหล็กโลกยังคงปกป้องโลกอยู่ แม้จะอ่อนกำลังลงบ้างแต่จะไม่สูญเสียอำนาจของมันไปทั้งหมด

    5. สัตว์หลายชนิดสูญเสียประสาทสัมผัสในการกำหนดทิศทาง ในโลกนี้มีสัตว์หลายชนิดที่อาศัยแม่เหล็กโลกในการกำหนดทิศทาง โดยพวกมันจะเดินทางและอพยพย้ายถิ่นไปทางขั้วโลกเหนือเสมอ ซึ่งหากแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้วหรือเพียงแค่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาก ก็อาจทำให้มันต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ ที่อาจส่งผลต่อการดำรงชีวิตของพวกมัน

    6. ภูมิคุ้มกันในร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกจะอ่อนแอลง สัตว์เล็ก ๆ ที่มีภูมิต้านทานโรคน้อยกว่าสัตว์ใหญ่จะค่อย ๆ ล้มตายไปก่อน เช่น นก ปลา ค้างคาว และเมื่อความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กอ่อนแอมากขึ้น สัตว์ที่ใหญ่กว่าก็จะค่อย ๆ ล้มตายไป



    สนามแม่เหล็กโลก และสนามแม่เหล็กโลกระหว่างกลับขั้ว


    อย่างไรก็ดี การกลับขั้วของสนามแม่เหล็กนี้ก็ไม่ได้สร้างปรากฎการณ์ที่ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกล้มตายไปเสียทั้งหมด โดยมีการคาดคะเนว่า สิ่งมีชีวิตที่เหลืออยู่อาจเป็นสัตว์จำพวกกุ้ง หอย ปู ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำที่อยู่ลึกลงไปหลายกิโลเมตรในทะเล และสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่อาจมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงและอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพลจากปราฎการณ์ดังกล่าวเพียงเล็กน้อย แต่หากรอดชีวิต สิ่งมีชีวิตก็ต้องพบเจอกับปัญหาต่าง ๆ นา ๆ ของโลกที่อาจเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงกันข้าม ทั้งสภาพอากาศ กระแสลม กระแสน้ำ และโลกอาจหมุนกลับไปในทิศตรงกันข้าม ทำให้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ซึ่งหากเวลานั้นมาถึง และสิ่งมีชีวิตยังคงมีชีวิตรอดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกันนานโขเลยทีเดียว

    ทั้งนี้ ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงการคาดคะเนจากนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น ช่วงเวลาของการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกอาจกินเวลานานนับพันปี และก่อให้เกิดปรากฎการณ์รุนแรงน้อยกว่าหรือมากกว่าที่กล่าวมาก็เป็นได้ อีกทั้งยังอาจส่งผลรุนแรงที่สุดในปี 2012 หรือคลาดเคลื่อนไปนานกว่านั้น 10 ปีหรือ 100 ปีก็เป็นได้อีกเช่นกัน แต่ที่แน่ ๆ ปรากฏการณ์การเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วของขั้วแม่เหล็กโลก, การอ่อนกำลังลงของสนามแม่เหล็ก, การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ, การเกิดภัยพิบัติ, และการล้มตายของสัตว์ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณอันตรายที่กำลังเตือนว่าโลกกำลังเริ่มต้นเข้าสู่จุดเปลี่ยนในอีกไม่ช้า เหมือนที่มันเคยเกิดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่ก่อนมีอารยธรรมมนุษย์เสียอีก และมันก็คงไม่ได้เป็นสิ่งที่เพ้อเจ้อหรือเป็นไปไม่ได้แต่อย่างใด ถ้าหากโลกใบนี้ยังเคลื่อนไหวตามวัฏจักรของมันอยู่ ก็คงไม่แปลกอะไรที่ช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งยิ่งใหญ่ในรอบแสนปีกำลังจะมาบรรจบอีกครั้ง

    สถานการณ์สัตว์ตายปริศนา สัญญาณอันตรายโลกาวินาศ?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    ดินไหวระดับต่ำเขย่า “แคลิฟอร์เนีย” 3 ครั้งใน 12 ชั่วโมง ไร้ความเสียหาย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2555 18:19 น.

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานในวันอาทิตย์ (2) ว่า เกิดแผ่นดินไหวระดับต่ำ 3 ครั้งภายในเวลาห่างกันไม่ถึง 12 ชั่วโมง ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ โดยสามารถวัดความความรุนแรงได้ที่ระดับ 3.7 , 2.5 และ 2.6 ตามลำดับ เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ แม้แรงสั่นสะเทือนจะสามารถรับรู้ได้ในหลายพื้นที่

    ข้อมูลของยูเอสจีเอสระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวระดับ 3.7 อยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 3.1 กิโลเมตร ห่างจากเมืองอินโยเกิร์นไปทางเหนือราว 49 กิโลเมตร ขณะที่ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวระดับ 2.5 อยู่ลึกลงไปใต้ดินเพียง 200 เมตรเท่านั้นและอยู่ห่างจากเมืองคิง ซิตีไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 25 กิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในหลายเมืองที่อยู่โดยรอบ ทั้งเมืองกรีนฟิลด์ โซเลดาด และโคอาลิงกา

    ส่วนศูนย์กลางของแผ่นดินไหวระดับ 2.6 ถูกระบุว่าอยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 5.5 กิโลเมตร ห่างจากเมืองซาน ฮวน บาติสตา ที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 1,800 คนในเขตซาน เบนิโต เคาน์ตีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 2 กิโลเมตร

    อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาดย่อมทั้ง 3 ครั้งแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ มลรัฐแคลิฟอร์เนียมีที่ตั้งเป็นส่วนหนึ่งของแนววงแหวนแห่งไฟบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ring of Fire) เป็นเหตุให้ต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวปีละหลายครั้ง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงไม่มากนักก็ตาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ยังไม่มีใครตอบได้ว่าสนามแม่เหล็กโลกจะกลับขั้วเมื่อไร อีกนานมั๊ย 10ปี 100ปี หรือ 500ปี ??
    จุดสังเกต คือ ระบบการสื่อสารดาวเทียม, GPS, ระบบการบิน จะเกิดความผิดพลาดในเรื่องทิศทาง ตำแหน่ง แต่ถ้ากลับขั้วจริงก็จะเกิดสิ่งเหล่านี้ครับ

    1. เปลือกโลกมีการเคลื่อนตัว เกิดภัยพิบัติบนผิวโลก เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินถล่ม สึนามิหรือแผ่นดินไหวใต้น้ำ โดยปรากฎการณ์นี้จะไม่เกิดครั้งใหญ่ครั้งเดียวฉับพลันแล้วทำลายทุกสิ่ง แต่จะค่อย ๆ เกิดรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยกินระยะเวลานานหลายปี

    2. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เนื่องจากการสลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกจะทำให้สภาพอากาศบนโลกเปลี่ยนไปในทางตรงข้าม เช่น ในพื้นที่ที่ร้อนจัดก็จะเปลี่ยนเป็นหนาวจัด ส่วนพื้นที่ที่เคยหนาวจัดก็จะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นมาก ทำให้น้ำแข็งบริเวณพื้นที่หนาวละลายและเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบไปหลายพื้นที่

    3. โลกจะร้อนขึ้น เนื่องจากความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง จึงอาจทำให้โลกได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์ในปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิบนผิวโลกสูงขึ้น

    4. อุกกาบาต และวัตถุจากอวกาศจะถูกดึงเข้ามายังโลกได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างที่เคลื่อนที่ผ่านจะพุ่งเข้าชนโลก เพราะอย่างไรก็ตาม ขั้วแม่เหล็กโลกยังคงปกป้องโลกอยู่ แม้จะอ่อนกำลังลงบ้างแต่จะไม่สูญเสียอำนาจของมันไปทั้งหมด

    5. สัตว์หลายชนิดสูญเสียประสาทสัมผัสในการกำหนดทิศทาง ในโลกนี้มีสัตว์หลายชนิดที่อาศัยแม่เหล็กโลกในการกำหนดทิศทาง โดยพวกมันจะเดินทางและอพยพย้ายถิ่นไปทางขั้วโลกเหนือเสมอ ซึ่งหากแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้วหรือเพียงแค่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาก ก็อาจทำให้มันต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ ที่อาจส่งผลต่อการดำรงชีวิตของพวกมัน

    6. ภูมิคุ้มกันในร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกจะอ่อนแอลง สัตว์เล็ก ๆ ที่มีภูมิต้านทานโรคน้อยกว่าสัตว์ใหญ่จะค่อย ๆ ล้มตายไปก่อน เช่น นก ปลา ค้างคาว และเมื่อความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กอ่อนแอมากขึ้น สัตว์ที่ใหญ่กว่าก็จะค่อย ๆ ล้มตายไป

    อ่านบทความทั้ง 2 ข้างล่างดูครับ ดีทีเดียว :cool:

    สนามแม่เหล็กโลกกลับขั้ว ปรากฎการณ์ที่อาจเปลี่ยนทุกสิ่ง

    Earth’s magnetic field overdue for a chaos-causing flip | World | News | National Post

    .
     
  9. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    อ้าว ตอบซ้ำกับคุณ pattamon39
    ใจตรงกัน พอดี :eek:

    .
     
  10. nattanan39

    nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,190
    ค่าพลัง:
    +2,935
    :cool::cool::cool: ดีค่ะจะได้ช่วยกันแชร์ข้อมูล
     
  11. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    ปินส์ผวารับมือพายุลูกใหญ่สุดของปี

    วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 17:32 น.

    [​IMG]

    ปินส์ผวารับมือพายุลูกใหญ่สุดของปี

    ฟิลิปปินส์ออกมาเตือนประชาชนเมื่อวันอาทิตย์ให้เตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น”โบพา” ซึ่งเป็นพายุลูกใหม่ที่อาจเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบปี โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุไต้ฝุ่น”โบพา” มีความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลาง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ไต้ฝุ่น”โบพา”อยู่ห่างจากชายฝั่งของฟิลิปปินส์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 1,000 กิโลเมตร

    เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศคาดหมายว่า พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าถล่มฟิลิปปินส์ระหว่างวันอังคาร(4ธ.ค.)กับวันพุธ (5ธ.ค.) และอิทธิพลของพายุ จะก่อให้เกิดฝนตกหนักกระหน่ำภูมิภาควิซายาส ทางตอนกลางของประเทศ และเกาะมินดาเนา ทางใต้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์

    นายเบนิโต รามอส หัวหน้าสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่น”โบพา” ถือเป็นพายุที่มีความรุนแรง และอาจเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดในปีนี้ ทำให้ทางการต้องดำเนินมาตรการป้องกันภัยล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม เขตที่ได้รับการคาดหมายว่า จะได้รับผลกระทบจากพายุฝนอย่างหนัก ได้เตรียมการเพื่ออพยพประชาชนแล้ว หากจำเป็น ถึงแม้ยังไม่มีคำสั่งก็ตาม ทั้งนี้ เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา พายุฝนถล่มฟิลิปปินส์ คร่าชีวิตผู้คนเกือบ 100 ศพ และไร้ที่อยู่กว่า 1 ล้านคนจากน้ำท่วมหนัก

    รายงานของรัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่า ฟิลิปปินส์เผชิญพายุไต้ฝุ่นประมาณปีละ 20 ลูก และพายุไต้ฝุ่น”โบพา”เป็นลูกที่ 16 ประจำฤดูนี้ ส่วนเมื่อปีที่แล้ว มีไต้ฝุ่นถึง 19 ลูกพัดกระหน่ำฟิลิปปินส์ และในจำนวนเป็นพายุที่มีความรุนแรงถึง 10 ลูก ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ ประชาชนเกือบร้อยละ10 ของประชากรทั้งประเทศได้รับความเดือดร้อน

    ทิศทางพายุไต้ฝุ่น 'โบพา'

    [​IMG]

    [​IMG]

    B5 - War Room Falkman
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2012
  12. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    แผ่นดินไหววานูอาตู 6.4 ริคเตอร์

    วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 11:56 น.

    [​IMG]

    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.4 ริคเตอร์ นอกชายฝั่ง วานูอาตู ประเทศหมู่เกาะแถบแปซิฟิกใต้เมื่อเช้าวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายและประกาศเตือนภัยเรื่องคลื่นยักษ์สึนามิ

    วันนี้ (2 ธ.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐตรวจพบการเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อเวลาประมาณ 11.54 น.เช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 07.54 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.4 ริคเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในระดับความลึก 34 กม. และ ห่างจากกรุงพอร์ตวิลา เมืองหลวงของวานูอาตู ขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 108 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย และ ประกาศเตือนภัยเรื่องคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด

    วานูอาตู เป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในเขตน่านน้ำตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก และ ยังอยู่ในเขตวงแหวนไฟแห่งแปซิฟิก รอยต่อที่มาบรรจบกันของรอยเลื่อนเปลือกโลก จึงเกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้ง

    B5 - War Room Falkman
     
  13. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    เกาหลีเหนือประกาศทดลองยิงขีปนาวุธ

    วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555 เวลา 17:29 น.

    [​IMG]

    เกาหลีเหนือประกาศทดลองยิงขีปนาวุธในเร็วๆนี้ ส่งผลให้สหรัฐกับยูเอ็นต้องออกมาประณาม เพราะยิ่งทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นไป ขณะที่ทางฝ่ายเกาหลีใต้ก็กำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 19 ธ.ค.นี้

    วันนี้ (1 ธ.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ว่า แถลงการณ์ซึ่งนำออกเผยแพร่โดยสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ระบุว่า เกาหลีเหนือโดยคณะกรรมการเทคโนโลยีอวกาศ จะทำการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ในระหว่างวันที่ 10-22 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือเคยประสบความล้มเหลว ในการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า เป็นภารกิจของการทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ และ สันติวิธี ทั้งนี้ก็เพื่อจุดประสงค์ สำหรับการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรท้องฟ้า

    ด้านกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ออกมาแถลงประณามการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือว่า มีเจตนายั่วยุอย่างแท้จริงและยังฝ่าฝืนมติของสหประชาชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบกลับไปสู่รัฐที่โดดเดี่ยวแห่งนี้ ขณะที่สหรัฐ กับ พันธมิตรที่สำคัญ ต่างก็ยืนกรานว่า เกาหลีเหนือทดลองยิงจรวดแต่แท้จริงแล้ว ต้องการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งมีศักยภาพยิงข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) และยังสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้อีก

    นอกจากนั้น เกาหลีใต้ยังเคยย้ำเตือนหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาว่า เกาหลีเหนือจะต้องหาทางก่อกวนเพื่อให้เกิดความตึงเครียดขึ้นมาบนคาบสมุทรเกาหลี เพราะเกาหลีใต้กำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 19 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาบเกี่ยวอยู่ในช่วงระยะเวลาที่เกาหลีเหนือจะทำการทดลองยิงขีปนาวุธพอดี

    B5 - War Room Falkman
     
  14. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ทิศเหนือยังอยู่ประมาณเดิมๆครับ ลองจับหมุนไปมาว่าเข็มมันเคลื่อนไหวได้รึปล่าว ถ้านิ่งเลย เข็มอาจติดขัด ใช้นั้วดีดเบาๆดู

    เข็มทิศที่มีอยู่เป็นแบบลอยในน้ำมัน ลองวางกับพื้นบ้านที่เป็นกระเบื้อง, โต๊ะกินข้าว และโต๊ะคอมฯ ให้ทิศทางที่ต่างกันเล็กน้อย บางสิ่งรอบๆตัวอาจมีผลต่อการชี้ทิศได้ ใน iPhone ก็มีเข็มทิศ ด้วยครับ

    .
     
  15. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    น้ำป่าถล่มสตูลอ่วมหลายพื้นที่

    วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 19:13 น.

    [​IMG]

    วันนี้ (2 ธ.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สตูล มี 7 อำเภอ โดยเฉพาะที่บ้านนาลุ่ม หมู่ 6 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ น้ำในลำคลองบาราเกตุซึ่งมีต้นน้ำอยู่ในพื้นที่ อ.ควนกาหลง เอ่อนองเข้าท่วมขังถนนสายในหมู่บ้านที่เชื่อมต่อระหว่าง หมู่ 6 กับ หมู่ 5 ต.ท่าแพ สูงราว 40 ซม. ส่งผลให้การสัญจรไปมาต้องประสบปัญหาอย่างมาก

    นอกจากนี้น้ำลำคลองบาราเกตุยังเอ่อท่วมนาข้าว และสวนยางพารา ย่านถนนสายบ้านฉลุง-ละงู หมู่ 2 บริเวณหัวสะพานบาราเกตุ และหมู่ 8 ต.ท่าแพ เป็นบริเวณกว้าง ส่วนลำคลองฉลุง น้ำจากฝ่ายดุสน อ.ควนโดน ที่ไหลลงลำคลองฉลุงเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่ 4 ต.ฉลุง นอกจากนั้นที่หมู่ 2 และ หมู่ 7 ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน น้ำคลองดุสนก็เข้าบ่าเข้าท่วมถนนในหมู่บ้านเดือนร้อนกันทั่วหน้า

    ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจาก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1ธ.ค. เกิดฝนตกหนัก ลมพายุพัดแรงฟ้าร้องนานหลายชั่วโมง ส่งผลให้น้ำป่าบนเทือกเขาบรรทัด และน้ำป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี ไหลทะลักสู่ลำคลองบาราเกตุ และส่งผลกระทบในวงกว้าง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    B5 - War Room Falkman
     
  16. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ใน iPhone : Compass จะเห็นว่ามีทั้ง True North และ Magnetic north

    [​IMG]

    .
     
  17. เขารูปช้าง

    เขารูปช้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +127
    จากการได้ติดตามอ่านเรื่องแม่เหล็กโลกกลับขั้วทำให้ผมเกิดความคิดอย่างหนึ่ง จึงนำเสนอให้ช่วยกันพิจารณาดู
    อาจจะผิดทั้งหมดเลยครับ
    เริ่มที่โลกของเราไม่ได้เป็นวัตถุแข็งโป็กก้อนเดียว ส่วนแกนกลางเป็นเหล็กร้อนจัดมากห่อหุ้มด้วยหินหลอมเหลว
    (ซึ่งการหมุนรอบตัวเองของแกนเหล็กทำให้เกิดปรากฏการณ์ไดนาโมมีสนามแม่เหล็กแผ่ออกไปหุ้มห่อโลกเอาไว้)
    ถัดออกมาจากชั้นหินหลอมเหลวเป็นเปลือกแข็ง(เทคโทนิคเพลต) คล้ายเปลือกไข่(อาจหนาหน่อย) หลายๆชิ้นเกยต่อชน
    และซ้อนทับกันอยู่บ้าง พื้นที่ส่วนใหญ่ของเปลือกแข็งนี้ถูกกดทับอยู่ด้วยน้ำทะเล และภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกทั้งสอง
    ก่อนหน้านี้การหมุนไปด้วยกันของแกนกลาง ชั้นหินหลอมละลาย เทคโนนิคแพลต หมุนไปด้วยกันด้วยความเร็ว
    เชิงมุมที่ใกล้เคียงกันมาก(อาจเรียกได้ว่าเท่ากัน)หลังจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้ผ่านวิวัฒนาการมายาวนาน

    เมื่อกิจกรรมของมนุษย์จำนวนมหาศาลทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกเช่นภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกทั้งสองละลายหมด
    น้ำหนักของน้ำจากการภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกทั้งสองจะย้ายไปกดต่อเทคโทนิดแพลตบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรแทนเนื่องจากแรงหนีศูนย์กลางจาการหมุนรอบตัวเองของโลกเรา อีกทั้งการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่มากๆเช่น ซานสือ ของจีน
    ส่งผลให้ความสมดุลย์ของระบบการถ่ายเทน้ำบนเปลือกโลกเสียไป น้ำจืดมหาศาลจากเทือกเขาหิมาลัยไม่สามารถไหลลงมหาสมุทรอย่างที่เคยเป็นมายาวนานแล้ว เมื่อรวมกิจกรรมของมนุษย์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของเปลือกโลกเปลี่ยนไป ส่งผลให้การหมุนไปด้วยกันของเปลือกโลกชั้นนอก ชั้นหินหลอมละลายกับแกนกลางไม่ไปด้วยกันแล้วทำให้เกิดแรงเครียดมากมายกระทำต่อแทคโทนิคแพลต ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่มากขึ้น

    อาจเป็นการหมุนกรอบนอกทางภูมิศาสตร์ของโลกในขณะที่ทิศทางขั้วสนามแม่เหล็กโลกยังคงเดิมเมื่อเทียบแกนอ้างอิงที่ใหญ่กว่าออกไปเช่น ระนาบการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    บันทีกที่สำคัญ: ใต้ฝุ่น Bopha (ฟิลิปปินส์ใช้ชื่อ Pablo) มันเกือบ 3 เท่าของความแรงของใต้ฝุ่นวาชิ (Sendong) ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว 16 ธันวา 2011 ที่ผ่าน กลางมินดาเนา กรุณาให้ความสนใจกับใต้ฝุ่นลูกนี้มาก (อันตรายมาก)

    [​IMG]

    WEATHER.COM.PH / T2K TROPICAL CYCLONE UPDATES

    TYPHOON BOPHA (PABLO) UPDATE NUMBER 021
    Issued: 7:00 AM PhT (23:00 GMT) Monday 03 Dec 2012
    Next Update: 1:00 PM PhT (05:00 GMT) Monday 03 Dec 2012

    Typhoon Bopha (Pablo) no longer super as it moves quickly westward...now threatens Surigao and Agusan Provinces. The possible landfall area is along the Bislig-Hinatuan Area on Tuesday morning.

    Important Note: Typhoon Bopha (Pablo) is almost three times the strength of Tropical Storm Washi (Sendong) which crossed North-Central Mindanao on December 16, 2011. Please take all precautionary measures on this dangerous cyclone. Refer to your national disaster agencies for more details.

    Residents and visitors along Mindanao and Visayas should closely monitor the development of Bopha (Pablo).

    Do not use this for life or death decision. This update is intended for additional information purposes only. Kindly refer to your national weather agency for official warnings, advisories or bulletins.

    CURRENT STORM ANALYSIS

    As of 6 am today, the eye of Typhoon Bopha was located over the Philippine Sea...about 260 km west-southwest of Koror, Palau or 670 km east-southeast of Bislig City, Surigao Del Sur...currently moving west with a forward speed of 28 km/hr in the general direction of Surigao Del Sur.

    Maximum Sustained Winds (1-min. avg) have decreased to 215 km/hr near the center with higher gusts. Typhoon Force Winds (118 km/hr or more) extend outward up to 55 kilometers from the center...and Tropical Storm Force Winds (62-117 km/hr) extend outward up to 165 kilometers. Bopha remains a large-sized tropical cyclone with a diameter of 775 kilometers across. The 24-hour rainfall accumulation near the center of Typhoon Bopha is estimated to be heavy (350 mm).


    3-DAY FORECAST OUTLOOK*

    Typhoon Bopha is expected to turn west-northwest track for the next 24 to 48 hours with a decrease in its forward speed. After 48 hours, its track will shift to the northwest.. On the forecast track, the core of Bopha is expected to make landfall in between Bislig City and the town of Hinatuan on Tuesday morning (approx. 7-8 am Manila Time)...and should cross Surigao Del Sur and Misamis Oriental Tuesday morning until the afternoon, passing more or less 50 km north of Cagayan De Oro City between 4-6pm. By Tuesday evening, Bopha should emerge over the Bohol Sea and then cross Southern Negros passing very close to Dumaguete City between 7-8pm. The typhoon will traverse Sulu Sea Wednesday morning...and may pass very close to El Nido, Palawan Wednesday evening.

    Bopha will continue to weaken throughout the forecast period due to lower Ocean Heat Content (OHC) or slightly cooler sea-surface temperatures along the Philippine Sea and the effects of land interaction.

    The following is the summary of the 3-day forecast outlook on this system:

    TUESDAY MORNING: Off the coast of Surigao Del Sur...prepares to make landfall...about 45 km east of Bislig City, Surigao Del Sur...weakens to a Category 3 Typhoon [6AM DEC 04: 8.1N 126.7E @ 195kph].
    WEDNESDAY MORNING: Over Sulu Sea...about 117 km southwest of Iloilo City...weakens to Category 1 [6AM DEC 05: 10.0N 121.8E @ 130kph].
    THURSDAY MORNING: Just barely a Typhoon as it moves NW across the West Philippine Sea...about 93 km northwest of El Nido, Palawan [6AM DEC 06: 11.9N 119.1E @ 120kph].

    *Please be reminded that the Forecast Outlook changes every 6 hours, and the Day 3 Forecast Track have an average error of 250 km...while the wind speed forecast error, averages 35 kph per day. Therefore, a turn to the left or right of its future track and changes in its wind speed must be anticipated from time to time.


    EFFECTS & HAZARDS SUMMARY

    Below is the summary of the storm's parts and its hazards affecting specific areas. You can also view this image link for you to understand the parts.

    CLOUD-FILLED EYE - over water (Philippine Sea) Possible calm and lull conditions (with <20 kph winds) will be expected inside the eye (click here to know more about the EYE).
    EYEWALL - over water (Philippine Sea)...not yet affecting any land areas. Typhoon Conditions with Typhoon Force Winds (>118 kph) will be expected within this wall (click here to know more about the Eyewall).
    INNER RAINBANDS - over water (Philippine Sea)...not affecting any land areas. Tropical Storm Conditions with Tropical Storm Force Winds (62-117 kph) will be expected along these bands.
    OUTER RAINBANDS - affecting and spreading across the Republic of Palau and other smaller islands of Western and Central Micronesia...expected to reach Eastern Mindanao this afternoon. Tropical Depression Conditions with moderate to strong winds (<62 kph) will be expected along these bands (click here to know more about Rainbands).
    24HR TOTAL RAINFALL ACCUMULATION - from 5 up to 200 mm (slight to heavy rainfall) can be expected along areas affected by the outer & inner rainbands (see above)...with isolated amounts of 201 to 350 mm (heavy) along areas near the center of Bopha.
    COASTAL STORM SURGE FLOODING - possible 13-18 ft (4-5.5 m) above normal tide levels...accompanied by large and dangerous battering waves can be expected along the coastal, inland lakes and beach front areas of Surigao Provinces and Davao Oriental beginning tonight. Extreme damage is likely on this type of storm surge. Danger from Rip Currents or Rip Tides can be expected along the rest of the beach-front areas of Western Micronesia, Eastern Mindanao and the Marianas (click here to know more about Storm Surge).

    Important Note: Please keep in mind that the above forecast outlook, effects and hazards summary changes every 6 to 12 hrs!

    CURRENT TECHNICAL INFORMATION

    Time/Date: 6:00 AM PhT Mon December 03, 2012
    Class/Name: TY Bopha (Pablo)
    Location of Eye: 6.7º N Lat 132.2º E Lon
    Distance 1: 260 km (WSW) away from Koror, Palau
    Distance 2: 663 km (E) from Mati City
    Distance 3: 670 km (ESE) from Bislig City
    Distance 4: 730 km (ESE) from Metro Davao
    Distance 5: 777 km (ESE) from Butuan City
    Distance 6: 794 km (SE) from Siargao Island
    Distance 7: 809 km (ESE) from Malaybalay City
    Distance 8: 814 km (SE) from Surigao City
    Distance 9: 860 km (ESE) from Cagayan De Oro City
    Distance 10: 870 km (ESE) from Camiguin Island
    Distance 11: 898 km (ESE) from Iligan City
    Distance 12: 995 km (SE) from Metro Cebu
    MaxWinds (1-min avg): 215 kph near the center
    Peak Wind Gusts: 260 kph
    Saffir-Simpson Hurricane Scale: Category 4
    Present Movement: West @ 28 kph
    Towards: Surigao Del Sur
    24hr Rainfall Accum (near center): Heavy [350 mm]
    Minimum Central Pressure: 937 millibars (hPa)
    Size (in Diameter): 775 km [Large]
    Max Sea Wave Height (near center): 52 feet
    Possible Storm Surge Height: 13-18 ft (4-5.5 m)
    T2K/WP StormTracks (for Public): GIF | Google Map (Flash)
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    โบพ่า ไม่ได้เป็น super ใต้ฝุ่นแล้ว แต่ยังมีอำนาจการทำลายล้างสูง

    [​IMG]
     
  20. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    "หลวงพ่อคูณ"มีไข้ ปอดมีร่องรอยผิดปกติ ประเมินอาการวันต่อวัน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2555 10:54 น.

    [​IMG]
    ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐ

    น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายของหลวงพ่อคูณ ในช่วงเช้า พบว่าหลวงพ่อคูณยังคงมีไข้ อยู่ที่ประมาณ 37.5-38 องศาเซลเซียส แต่สภาพโดยรวมถือว่ายังคงทรงตัวจากทุกๆ วันที่ผ่านมา คือรู้สึกตัวเมื่อซักถาม แต่ยังคงมีอาการเหนื่อยหอบแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังคงมีเสมหะเป็นจำนวนมาก ซึ่งคณะแพทย์ยังคงใช้แนวทางในการรักษาเหมือนเดิม โดยการให้ยาปฏิชีวนะผ่านทางหลอดเลือดดำ ให้ยาขยายหลอดลม และยาละลายเสมหะ
    ทั้งนี้ ยอมรับว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณในครั้งนี้น่าเป็นห่วง เนื่องจากอายุหลวงพ่อคูณมากแล้ว อีกทั้งร่างกายของหลวงพ่อคูณ ที่เคยเป็นถุงลมโป่งพองและเป็นวัณโรคปอดจากคราวก่อนก็ถือว่าหนักอยู่แล้ว ส่วน หลวงพ่อคูณ จะต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานเท่าไรนั้น ตนคิดว่าการรักษาครั้งนี้ต้องมีการประเมินสภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณแบบวันต่อวัน เพราะคณะแพทย์พบว่าปอดของหลวงพ่อคูณทั้ง 2 ข้าง มีร่องรอยของความผิดปกติอยู่ ดังนั้น คณะแพทย์ต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหลวงพ่อคูณอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันได้ทุกเมื่อ

    Manager Online - หลวงพ่อคูณมีไข้ ปอดมีร่องรอยผิดปกติ ประเมินอาการวันต่อวัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...