UN หวั่น "ซูเปอร์สตอร์ม" สัญญาณวิกฤตโลก

ปภ.เตรียมพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง
และลมกระโชกแรง ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน
ระหว่างวันที่ 4-5 ก.พ. 56


นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า คลื่นกระแสลมตะวันตก ได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2556 ทำให้พื้นที่12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และ บึงกาฬ มีสภาพอากาศแปรปรวน เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 ขอนแก่น เขต 7 สกลนคร เขต 14 อุดรธานี และจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณา ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ ให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย

ที่มา http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=432474

 

คลื่นกระแสลมแรงผิดปกติ สาเหตุลูกเห็บถล่มภาคเหนือ

ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ชี้สาเหตุลูกเห็บถล่มตอนเหนือ เกิดจากกระแสลมตะวันตกที่พัดผ่านมา แต่คลื่นกระแสลมตัวนี้แรงผิดปกติ จึงทำให้ลูกเห็บตกเป็นบริเวณกว้าง ...


ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 ก.พ. นายจรูญ เลาหเลิศชัย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ที่ดูแลพื้นที่ 15 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยถึงสถานการณ์พายุลูกเห็บที่พัดถล่มในหลายจังหวัดภาคเหนือ ว่า เป็นคลื่นที่เกิดจากกระแสลมตะวันตกที่พัดผ่านมา แต่คลื่นกระแสลมตัวนี้แรงผิดปกติ จึงทำให้มีลูกเห็บตกเป็นบริเวณกว้างตั้งแต่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ไปจนถึง ลำปาง แต่เวลาที่เกิดประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็หมด ซึ่งการเกิดลูกเห็บจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง สิ่งที่จะสังเกตง่ายลมจะแรงมาก มีฟ้าผ่า ฟ้าร้อง และมีฝนตามด้วยลูกเห็บตก โดยในหน้าหนาวก็เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง ที่เชียงราย เคยเกิดลูกเห็บตกเท่ากับไข่ห่าน ครั้งนี้ก็ใหญ่เท่าๆ กัน สำหรับการเกิดลูกเห็บตก ทางกรมอุตุฯ ได้มีการประกาศเตือนล่วงหน้าก่อน 2-3 วัน การตกครั้งนี้ถือว่าปกติหรือไม่ก็ยังคงถือว่าปกติ หน้าหนาวจะเกิดขึ้นได้แต่ไม่เกิดบ่อย หากจะถามว่าจะมีอีกไหมก็ขอตอบเลยว่าจะมีอีก ซึ่งทางอุตุฯ จะแจ้งเหตุประชาชนก่อน 2-3 วัน สิ่งที่เป็นห่วงช่วงต่อฤดูหนาวกับฤดูร้อน ซึ่งเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วยปลายฤดูหนาวแล้ว ช่วงต่อไปจะเป็นพายุฤดูร้อน จะสังเกตว่าหากร้อนจัดติดต่อกันหลายวัน และมีลมหนาวจากจีนมาก็จะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ก็ขอเฝ้าติดตามการพยากรณ์ของกรมอุตุที่จะมีการแจ้งเตือนก่อน 2 -3 วัน สำหรับในช่วง 2-3 วันนี้ไม่ปัญหาแล้ว จะมีอากาศหนาวในช่วงเช้าเท่านั้น


"อย่างไรตน ก็ขอฝากเตือนประชาชนให้ติดตามฟังข่าวหากมีการเตือนว่าคลื่นกระแสลมตะวันตกก็หมายถึงพายุตัวนี้ที่มีลูกเห็บกำลังมา แต่ทางอุตุฯ ไม่สามารถระบุพื้นที่ว่าจะเกิดตรงจุดไหนบ้าง อยู่ที่กระแสลมจะพัดผ่าน ซึ่งหากขับรถอยู่กลางถนนเมื่อเกิดลมพายุฝนก็ขอให้หยุดรถและขับเข้าจอดข้างทาง เพราะหากมีลูกเห็บใหญ่ตกลงมารถที่ขับอยู่จะเกิดอันตรายมาก และอย่าเข้าใกล้ต้นไม่อย่างเด็ดขาด ให้จอดกลางแจ้งที่เห็นว่าปลอดภัยที่สุด" นายจรูญ กล่าว.

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/region/324598

 

คาดหมายสภาวะอากาศ 8-10ก.พ.
อาจมีฝนฟ้าคะนอง และลูกเห็บตกอีก


ในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ก.พ. จะมีความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นแห่งๆ ในระยะนี้ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 9-14 ก.พ. ทำให้ภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ. ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่งไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 9-14 ก.พ. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย



ออกประกาศ 08 กุมภาพันธ์ 2556

ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุนิยมวิทยา - สภาพอากาศประเทศไทย

 

หลายเมืองสหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน
หลังอ่วมพายุหิมะถล่ม ผู้คนกว่าครึ่งแสนขาดไฟฟ้า


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ว่า สหรัฐต้องเผชิญกับพายุหิมะ"เนโม"ถล่มอย่างหนัก โดยหลายเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ได้แก่ นิวยอร์ก แมสสาซูเซตต์,คอนเน็คติคัต,นิวแฮมป์เชียร์ และโร้ด ไอร์แลนด์ ขณะที่ประชากรกว่า 530,000 คน ในนิวเจอร์ซีย์ และรัฐเมน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่ผู้ว่ารัฐแมสสาซูเซตต์ ได้ออกคำสั่งห้ามประชาชนนำรถยนต์ออกจากบ้าน ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น



รายงานระบุว่า พิษพายุหิมะดังกล่าวทำให้อุณหภูมิให้เมืองบอสตัน ลดลงจาก 30 องศา เหลือ 20 องศา ในชั่วเวลาเพียง 90 นานที ขณะที่บางส่วนของกรุงนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซียร์ ยังถูกปกคลุมด้วยหิมะหนานกว่า 1-2 นิ้ว เพียงในเวลาชม.เดียว และเมืองแมนเชสเตอร์และโคเวนทรี่ ได้รายงานว่า เผชิญหิมะตกสูงสุดถึงระดับหนา 18.5 นิ้ว ส่วนรัฐคอนเน็คติคัตหนา 19 นิ้ว


ส่วนที่เมืองบอสตัน นักพยากรณ์ระบุว่า เมืองนี้อาจเจอหิมะตกสูงถึง 27.6 นิ้ว ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์การณ์นับตั้งแต่ปี 2003 นอกจากนี้ สายการบินหลายแห่งยังได้รับผลกระทบจากพิษพายุหิมะนี้ด้วย โดยมีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 4,000 เที่ยวบินไปแล้วถึงขณะนี้ และคาดว่า พายุจะถล่มพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่คืนวันศุกร์จนถึงเช้าวันเสาร์นี้ อย่างไรก็ตาม ด้านนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีกรุงนิวยอร์ก ได้เตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเรือน และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดด้วย


ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1EUXdNall5TXc9PQ==&subcatid=

 

น่ากลัวมากครับ