Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 21 พฤศจิกายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ijv_I15jRn4&feature=related]Apocalyptica feat Dave Lombardo Somewhere around nothing - YouTube[/ame]
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=tG3GihFVfTI&feature=related]Apocalyptica featuring Sebnem Ferah - Perdeler - YouTube[/ame]
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=emY8fIX1ejw&feature=related]Apocalyptica - "Not Strong Enough" - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=O0yB_MA3MOc&feature=relmfu"]Apocalyptica - Not Strong Enough - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2012
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=0eKjN4XFIGg&feature=related]Apocalyptica - I'm Not Jesus - live in Gothenburg August 12 2009 - YouTube[/ame]
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=on3pxcLcgSU&feature=related]Rammstein & Apocalyptica - Ich Will (Live In Quebec) - YouTube[/ame]
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จดหมายข้างเตียง"สตีฟ จ็อบส์"

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]

    ใครเล่าจะคาดคิดว่าคู่กัดแห่งวงการไอทีโลก"บิล เกตส์"และ"สตีฟ จ็อบส์"จะมีช่วงเวลาดีๆให้แก่กัน ก่อนที่ฝ่ายหลังจะลาจากโลกนี้ไป
    <!--<script type="text/javascript"> google_ad_channel = '3694366847'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </script> <script type="text/javascript" src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js"></script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></script>--><SCRIPT language=JavaScript src="http://ads.nationchannel.com/adserverkt/adx.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript type=text/javascript> if (!document.phpAds_used) document.phpAds_used = ','; phpAds_random = new String (Math.random()); phpAds_random = phpAds_random.substring(2,11); document.write ("<" + "script language='JavaScript' type='text/javascript' src='"); document.write ("http://ads.nationchannel.com/adserverkt/adjs.php?n=" + phpAds_random); document.write ("&what=zone:119"); document.write ("&exclude=" + document.phpAds_used); if (document.referrer) document.write ("&referer=" + escape(document.referrer)); document.write ("'><" + "/script>"); </SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript src="http://ads.nationchannel.com/adserverkt/adjs.php?n=731966813&what=zone:119&exclude=,&referer=http%3A//www.bangkokbiznews.com/home/" type=text/javascript></SCRIPT><NOSCRIPT>[​IMG]</NOSCRIPT><!-- <iframe src="http://www.bangkokbiznews.com/home/banner/all-ad-300-indetail.php" frameborder="0" scrolling="no" width="300" height="250"></iframe> -->หลายคนคงทราบดีแล้วว่า สตีฟ จ็อบส์ และบิล เกตส์ เป็นทั้งเพื่อนและคู่กัดกันมาตลอดทั้งในวิถีการดำเนินธุรกิจและชีวิตส่วนตัว แต่หลังจากที่จ็อบส์ประสบกับโรคมะเร็งและอยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น และหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า สตีฟ จ็อบส์ เก็บจดหมายที่ บิล เกตต์เขียนให้เขาไว้ข้างเตียงนอนเป็นเวลาหลายเดือนทีเดียว ก่อนที่เขาจะลาจากโลกนี้ไป
    บิล เกตส์ บอกว่า หลายเดือนก่อนที่จ็อบส์จะเสียชีวิตนั้น เขาได้ไปหาจ็อบส์ ซึ่งถือเป็นการไปเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย และเขาได้ใช้เวลาอยู่กับจ็อบส์นานหลายชั่วโมงทีเดียว เพื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆในอดีตและพูดคุยกันเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา
    บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ บอกว่า แม้บริษัทไมโครซอฟต์ ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ จะแข่งขันกับบริษัทแอ๊ปเปิ้ล ยักใหญ่ด้านอุปกรณ์สื่อสารมานาน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับจะแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะต่างฝ่ายมุ่งหน้าผลิตสินค้าดีๆให้กับลูกค้า แถมการแข่งขันที่ว่า ก็เป็นไปในลักษณะพี่ๆน้องๆมากกว่า
    "หลังจากที่ได้พบกับสตีฟ จ็อบส์แล้ว ผมก็ได้กลับไปเขียนจดหมายถึงเขา บอกเล่าว่า เขาควรจะภูมิใจกับสิ่งที่เขาได้ทำไว้กับโลกใบนี้ รวมถึงบริษัทที่เขาได้สร้างขึ้นมาเองกับมือ และยังได้เขียนเกี่ยวกับลูกๆของเขาที่ผมรู้จัก"เจ้าของอาณาจักรไมโครซอฟต์ กล่าว
    แม้ว่าสตีฟ จ็อปส์ จะเคยวิจารณ์บิล เกตส์แบบแรงๆว่า เป็นคนไม่มีจินตนาการเป็นของตัวเอง และไม่เคยสร้างสิ่งใหม่ๆได้ด้วยตัวเอง แต่ทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนรักเพื่อนแค้นกันมาตลอด
    อย่างไรก็แล้วแต่ แม้ว่าทั้ง 2 จะเป็นคู่กัดทั้งทางธุรกิจและการดำเนินชีวิต หลังจากที่หนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ ออกวางขาย นางลอรีน ซึ่งเป็นภรรยาของสตีฟ จ็อบส์ ได้โทรหาบิล เกตส์เพื่อบอกให้เขารู้ว่าจดหมายฉบับนี้ มีความสำคัญต่อตัวสตีฟ จ็อบส์ มากแค่ไหน โดยเธอบอกกับบิล เกตส์ ว่า "จ็อบส์วางจดหมายที่คุณให้มาไว้ข้างเตียงตลอด ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน"

     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เห็นแล้วขำ เลยเอามาฝาก เผื่อจะมีคนขำด้วย

    [​IMG]

    ที่มา อินเตอร์เน็ต
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    โรงรับจำนำหมายเลข 8 By Zita Law


    <CENTER style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 14px Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(25,25,112); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">[​IMG]
    โรงรับจำนำหมายเลข 8

    By Zita Law
    แปลโดย รำพรรณ รักศรีอักษร
    </CENTER>


    นิยายแปลของนักเขียนชาวฮ่องกงคนนี้ ตอนแรกเจ้าแก้ว
    คิดว่าเนื้อเรื่องจะออกโทนการ์ตูนลึกลับสักหน่อย ซึ่งก็ไม่ผิดนัก
    แต่วิธีการเขียนให้ตัวละครมีความลึกทางด้านอารมณ์ มีประวัติ
    มีความเป็นมา ปรุงแต่งจนเป็นอย่างปัจจุบัน ระหว่างที่อ่าน
    เจ้าแก้วเลยรู้สึกสะท้อนใจ บางครั้งความยากจนก็หล่อเลี้ยง
    ให้เติบโตมาเป็นคนไร้ความเห็นใจ กระด้างจนน่าเวทนา
    อ่านแล้วก็อยากอ่านเล่มต่อของเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ อีกเล่ม
    ชื่อ “ทาสกุหลาบ” (ชื่อเล่นคือโรงรับจำนำหมายเลข 11 ค่ะ)


    สโลแกนของโรงรับจำนำแห่งนี้ คือให้ราคายุติธรรมและสูงค่า
    เกินกว่าคุณจะคาดคิด รับจำนำทุกอย่างที่คุณไม่ต้องการ
    ไม่ว่าจะเป็นความฝัน ความรัก ชีวิตคนในครอบครัว เวลาใน
    อนาคตโชคชะตา ความทรงจำที่ไม่ต้องการ หรือแม้กระทั่งแขนขา
    อวัยวะภายใน ทุกสิ่งจำนำได้ทั้งหมด เพียงแต่ผู้ใช้บริการ
    ต้องมีคุณสมบัติดังนี้...สิ้นหวัง ละโมบ ทะเยอทะยานไม่สิ้นสุด
    จึงจะมาที่โรงรับจำนำหมายเลข 8 แห่งนี้ได้ และคำเตือนสุดท้าย
    ไม่เคยมีผู้ใช้บริการ...คนใดไถ่ถอนของที่จำนำไว้ออกไปได้


    โรงรับจำนำหมายเลข 8 เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ถูกปีศาจ
    ดึงเข้ามาให้เป็นเถ้าแก่โรงรับจำนำมาร้อยกว่าปีแล้ว โดยมี
    สาวสวยอีกคนหนึ่งเป็นผู้ช่วย “หันนั่ว” ผู้เป็นเถ้าแก่โรงรับ
    จำนำแห่งนี้เป็นชายรูปงาม และเป็นคนมีคุณธรรมจนแทบ
    ไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำงานในโรงรับจำนำปีศาจแบบนี้ เขาเอง
    เคยเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตงดงามตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเลิกเป็นมนุษย์
    มีความรัก ความอบอุ่นอีกทั้งชาติตระกูลและการศึกษา
    ทุกอย่างล้วนโปรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แม้กระทั่งความรัก
    เขาก็พบผู้หญิงที่เรียกได้ว่าเป็นเนื้อคู่อย่างแท้จริง แต่ชีวิต
    อันผาสุกและงดงามไร้ตำหนินี้เอง เป็นเหตุให้ความชั่วร้าย
    อุบัติขึ้นมาและแทรกเข้ามาในครอบครัวของเขาอย่างแนบเนียน
    เขาเลือกที่จะจำนำความรักของเขาไว้ตลอดกาลเพื่อปกป้อง
    บุคคลอันเป็นที่รัก


    ชีวิตของเขาก็ไม่ได้น่าเศร้าไปเสียทีเดียวหรอกค่ะ หลังจาก
    เลิกเป็นมนุษย์ เขาก็ไม่ตกงาน(อย่างน้อยก็ได้เป็นเถ้าแก่
    โรงรับจำนำนี่คะ [​IMG]) อายุของเขาหยุดลงคงความหนุ่มแน่น
    และอมตะไว้ตลอดกาล ไร้ความเจ็บป่วย ไร้ความหิวโหย
    อยากกินอาหารเท่าไรก็ได้กิน โดยไม่อ้วน มีเงินทองไม่มี
    วันหมด ไปเที่ยวรอบโลกกี่รอบก็ได้ มีสิ่งเดียวที่เขาไม่มีวัน
    จะได้นั่นคือความรู้สึกรัก หรือไม่อาจตอบสนองความรัก
    ของใครได้


    ในขณะที่ “เฉินจิง” ผู้ช่วยของเขา หญิงสาวที่มาจากก้นบึ้ง
    ของความยากจนข้นแค้น เธอยอมทำทุกอย่างให้ตนเองอิ่มท้อง
    จนหลงลืมศีลธรรมไป แต่สุดท้ายแล้วเธอก็พ่ายแพ้ต่อความรัก


    “ซุนโจว” เด็กหญิงวัย 14 ปี ที่มาขายความรักตลอดชีวิต
    เพื่อแลกกับพรสวรรค์ทางไวโอลินและต้องการมีชื่อเสียง
    ไปทั่วโลก ซุนโจวหน้าเหมือนภรรยาที่ตายของหันนั่ว
    การเข้ามาของเธอสั่นคลอนอาจิงผู้หลงรักเถ้าแก่ของตนเอง
    ข้างเดียวมา 170 ปี ในขณะที่หันนั่วเองก็คอยดูแลเด็กหญิง
    ตั้งแต่อายุ 14 จนหล่อนเติบโตเป็นสาวสวย และกลายมา
    เป็นเจ้าหญิงแห่งวงการดนตรี วันว่างหล่อนยังมาช่วยเขา
    รับจำนำชีวิตคนเลย


    “X” ตัวแทนจากพระเจ้า ผู้ซึ่งมาช่วยวิญญาณหลงทาง
    เขาอายุ 1500 ปีแล้ว แต่ทุกวันผ่านไปอย่างมีค่า ไม่ว่างเปล่า
    เหมือนเคว้งคว้างเหมือนผู้เป็นอมตะอีกหลายคน เพราะเขามี
    จุดมุ่งหมายในชีวิต และอุทิศตัวเพื่องานของพระเจ้า คอยปลอบ
    ประโลมวิญญาณที่แสนเศร้าให้กลับตัวกลับใจ


    แต่เรื่องนี้จบหักมุมหน่อยหนึ่งค่ะ ทำให้รู้ว่ายังไงโรงรับจำนำ
    หมายเลข 8 ก็ยุติธรรมเสมอ แล้วก็จบแบบแฮปปี้ทริลเลอร์
    เสียด้วย(เป็นยังไงหว่า?) ก็คือจบโดยสมหวังไม่หักหลังคนอ่าน
    แต่ไม่หักหลังคอนเสปของตัวเรื่องยังไงล่ะคะ แอบโหดร้าย
    นิดหน่อย


    พูดถึงความโด่งดังของนิยายเรื่องนี้ดังมากค่ะ ข้ามประเทศเลย
    ไต้หวันซื้อไปทำละครเมื่อปี 2003 ชื่อเรื่องเดียวกับนิยายค่ะ
    คือ “ตี้ปาห้าวตั้งพู่ หรือ โรงรับจำนำหมายเลข 8”เป็นละคร
    แบบจบในตอน แต่ละตอนเป็นชีวิตของผู้มาจำนำ ซึ่งในเรื่อง
    ไม่มีบทบาทอะไรมากเท่าตัวเอกสามคน ละครเลยแต่งใหม่เพียบ
    ภาคหนึ่งนี่ได้รับความนิยมสูงจนต้องมั่วแต่ภาคสองต่อเองในปี 2004
    ข่าวว่าเนื้อเรื่องออกอ่าวไปเรียบร้อย ความยาวทั้งหมด 116 ตอน
    ทั้งที่หนังสือแค่พ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเดียว


    แต่ทางด้านตัวละครไม่หล่อไม่สวยเท่าที่บรรยายในหนังสือน่ะค่ะ
    ดูหน้าพระเอกแล้วทำใจก่อนนะคะ เพื่อนที่ไต้หวันบอกว่าเล่นดี
    เล่นแล้วลืมเรื่องพระเอกไม่หล่อไปเลย ส่วนเทียนซินที่เล่นบทอาจิง
    ปกติโชว์อึ๋มอย่างเดียวมาเรื่องนี้แต่งตัวมิดชิดค่ะ



    <CENTER style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 14px Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(25,25,112); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">เถ้าแก่ กับ อาจิง ค่ะ
    <AHREF="HTTP: target="_blank" 1231143497.jpg?="" picture="" babyrose="" data="" www.bloggang.com="">[​IMG]</AHREF="HTTP:>ส่วนนี่ตัวละครอื่นๆ ค่ะ ไม่เน้นหล่อเน้นสวยกันเลย...[​IMG]
    [​IMG]</CENTER>


    <CENTER style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 14px Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(25,25,112); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ผู้แสดง
    ตู้เต๋อเหว่ย เป็น เถ้าแก่ หันนั่ว
    เทียนซิน เป็น เลขา เฉินจิง
    หลินเหว่ยจวิน เป็น ซุนโจว</CENTER>


    สรุปแล้วเป็นหนังสือที่อ่านแล้วชอบค่ะ เต็มไปด้วยความรู้สึกดี [​IMG]

    <TABLE style="WORD-SPACING: 0px; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-TOP-STYLE: none; TEXT-INDENT: 0px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: 14px; BACKGROUND-IMAGE: none; BORDER-TOP-STYLE: none; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; border-image: initial; background-origin: initial; background-clip: initial" width="50%" colSpan=3>Create Date : 05 มกราคม 2552

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    Bloggang.com :
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center><TBODY><TR><TD><CENTER>โรงรับจำนำหมายเลข 8(คุณปรารถนาที่จะจำนำความรักของคุณมั้ย?)

    </CENTER>

    สวัสดีครับ

    คุณจะยอมจำนำความรักของคุณ
    เพื่อแลกกับความสำเร็จในแรงปรารถนาหรือไม่?
    ทุกๆคนล้วนมีความปรารถนาในสิ่งต่างๆ แตกต่างกันไป แต่คุณจะคิดอย่างไรถ้ามีสถานที่หนึ่งที่จะมอบสำเร็จทุกอย่างให้แก่คุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆก็ตาม เพียงแค่คุณนำอะไรก็ได้มาจำนำ ไม่ว่าจะเป็น แก้วแหวนเงินทอง สิ่งของ ลูกหลาน อวัยวะร่างกาย ความรัก ความรู้สึก หรือแม้แต่วิญญาณของคุณ
    โรงรับจำนำนี้ ชื่อ
    "โรงรับจำนำหมายเลข 8"
    ลุกค้าของโรงรับจำนำหมายเลข 8 มีหลากหลายประเภทตั้งแต่ ยาจกไปจนถึงผู้นำประเทศ ขอเพียงแต่คุณมีความปรารถนา เมื่อเงยหน้าขึ้นมาคุณก็จะพบโรงรับจำนำตั้งอยู่เบื้องหน้าของคุณในฉับพลัน
    โดยมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือ ระยะเวลาของการจำนำ 1 ปี ถ้าพ้นกำหนดสิ่งที่คุณนำมาจำนำจะตกเป็นของโรงรับจำนำไปตลอดกาล
    แต่ตั้งแต่ก่อตั้งโรงรับจำนำมา ไม่เคยมีผู้จำนำคนไหนมาไถ่คืนเลยแม้แต่คนเดียว มีแต่จะนำสิ่งต่างๆมาจำนำเพิ่มมากขึ้น จนท้ายที่สุด ก็จำนำวิญญาณของตัวเอง

    หันนิ่ว ชายผู้เกิดในตระกูลผู้ดี เพียบพร้อมไปด้วย ความสุขความอบอุ่น ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษา สิตปัญญา รูปร่างหน้าตา จิตใจที่ดีงาม เรียกได้ว่า เป็นชายผู้สมบูรณแบบ
    แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับเขา ทำให้เขาต้องสูญเสียภรรยา เขาจึงจำนำความรักของเขาเพื่อแลกกับ ความสุขของเธอ และในที่สุดเขาก็กลายเป็นเถ้าแก่ของโรงรับจำนำหมายเลข 8 และมีชีวิตที่อมตะ
    จิตใจที่ดีงามของเขากลับกลายเป็นความเย็นชาเมื่อต้องเผชิญกับความละโมบ ความปรารถนา ของผู้คนมากมายที่มาจำนำกับเขา
    "มีชีวิตที่อมตะแต่ไร้ซึ่งความรัก"
    "เขาจะทำอย่างไรเมื่อ
    กาลเวลาไม่มีความสำคัญเท่าความรัก"

    อาจิง หญิงสาวผู้เกิดในครอบครัวยากจน ไม่มีแม้แต่ข้าวกิน เธอต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอดและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนในที่สุด เธอก็ได้เป็นผู้ช่วยเถ้าแก่โรงรับจำนำหมายเลข 8 และได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ ยกเว้นความรักจากเถ้าแก่
    เธอหลงรักเถ้าแก่มาตลอดนับร้อยปี แต่ความรักของเธอกลับไม่ได้รับการสนองตอบเลยแม้แต่เศษเสี้ยว สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือ เขียนจดหมายรักถึงตัวเอง และมองแผ่นหลังของเถ้าแก่ มาเป็นเวลานับร้อยๆปีด้วยใจที่แอบรักอยู่ข้างเดียว
    "มีเงินที่จะซื้อทุกอย่างได้ ยกเว้นความรัก"
    "เธอจะทำอย่างไรเมื่อ
    ความรักของเธอไม่ได้รับการสนองตอบ"

    ซุนโจว นักไวโอลินหญิงที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในความสำเร็จของชีวิตนักดนตรี จนถึงขนาดจำนำความรักของเธอเพื่อแลกกับ ความสำเร็จของนักดนตรีระดับโลก
    "ได้รับความรักจากคนทั่วโลก
    แต่กลับต้องการความรักจากคนเพียงคนเดียว
    ซึ่งเธอจะไม่มีวันได้"
    "เธอจะทำอย่างไรเมื่อ
    ได้รับความสุขทุกอย่างแต่ปราศจากความรัก"

    เส้นทางของความปรารถนาทุกเส้นทางล้วนมุ่งสู่โรงรับจำนำหมายเลข 8
    โรงรับจำนำที่รับนำจำทุกอย่าง
    โรงรับจำนำที่มอบและพรากทุกอย่างไปจากคุณ
    โรงรับจำนำที่ผู้จำนำจะไม่มีวันไถ่คืนอะไรได้เลยตลอดไป
    [​IMG]
    โรงรับจำนำหมายเลข 8 เป็นผลงานของ "Zita Law" หรือ "เซินเสว่" นักเขียนสาวชาวฮ่องกง ผู้ได้รับฉายาว่า "แม่มดผู้เสกนิยาย"
    ความรักที่ไม่มีรูปแบบ ไม่มีเงื่อนไข ในผลงานของเธอ เป็นต้นทางของคำพูดที่ว่า
    "ฉันจะรักคุณในแบบของเซินเสว่"

    ถ้าถามผมว่า
    "ผมจะยอมจำนำความรักของผม
    เพื่อแลกกับความสำเร็จในแรงปรารถนาหรือไม่?"
    คำตอบของคำถามนี้คือ
    "ผมยินดีที่จะจำนำความรักตลอดชีวิต
    หรือแม้แต่กระทั่งวิญญาณของผม
    เพื่อแลกกับความสำเร็จในความรักเพียงแค่ 1 วัน
    เพราะตลอดชีวิตของผม
    ผมไม่เคยพบกับความสำเร็จในความรักเลยแม้แต่วินาทีเดียว
    ถ้าได้ดื่มด่ำกับรักแท้แค่ 1 วัน
    ก็คุ้มค่าแล้วสำหรับวิญญาณที่จะต้องเสียไป"

    ปล.

    - หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือไม่กี่เล่มที่ผมอ่านแล้วไม่อยากให้หมดหน้ากระดาษ
    - ตอนนี้มีหนังสือชื่อเรื่อง ทาสกุหลาบ ที่เป็นภาคต่อของ โรงรับจำนำหมายเลข 8 ออกมาให้อ่านกันแล้วนะครับ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบ โรงรับจำนำหมายเลข 8 มากกว่าครับ
    - ผมได้เขียนบทวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ไวเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ณ เวลานี้คำตอบของผมก็ยังคงเช่นเดิม
    "1 วินาทีแห่งความสำเร็จยาวนานดั่งชั่วชีวิตของคนล้มเหลว"



    </TD></TR><TR><TD align=right>โดย ผู้ชายเจ้าชู้</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    โรงรับจำนำหมายเลข 8 พล็อตน่าสนใจเนอะ บรรยากาศเหมือนการ์ตูนแนวสยองขวัญของญี่ปุ่นเลย อ่านไตเติ้ลดูแล้ว ไม่คิดอยากจะจำนำอะไรเลย มาคุจริงๆ

    ส่วนที่จะพูดต่อไปนี่ ไม่เกี่ยวกับหนังสือนะคะ แต่เคยฟังจากรายการหนึ่ง เขาสัมภาษณ์ผู้จัดละคร มีคำถามหนึ่งที่ถามว่า ทำไมชอบนำเรื่องเก่าๆ มาทำใหม่ ฉายเป็นละครซ้ำๆ เปลี่ยนแค่ตัวแสดงและวิธีการนำเสนอไปบ้างเท่านั้น

    ผู้จัดละครท่านหนึ่งบอกว่า เพราะเรื่องของนักเขียนรุ่นใหม่ๆ หลายเรื่องพล็อตดี แต่พออ่านๆ ไปข้างในมันกลวง มันไม่มีความน่าสนใจที่จะนำมาทำเป็นบทละครต่อ

    บางที ก็เลยต้องเลือกเรื่องเก่าๆ ที่ได้รับความนิยมแล้วมาทำใหม่กัน เพราะของเดิมมันยังมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่า (แอบคิด นี่นักเขียนบ้านเราขาดแคลนจินตนาการกันขนาดนี้เลยหรือนี่! นิยายรุ่นหลังๆ ดิฉันก็ไม่ค่อยได้อ่านด้วย แต่เวลาไปเดินร้านหนังสือเห็นปกสวยๆ ละลานตาเต็มไปหมด)

    วงการบ้านเราก็เลยมีละครซ้ำๆ ออกฉายวนไปวนมาให้ดูกันอยู่เป็นประจำ ... ฮา
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คุณอ๊อบส์ เห็นเพื่อนที่ส่งลิ้งค์มาให้นี่ เขาบอกว่าโรงรับจำนำฯนี่เขาฉายช่อง9 เอเซี่ยนซีรีย์อยู่นะ
    แต่เรายังไม่ได้ดูนะ เพราะปกติไม่ได้ดูทีวีมานานแล้ว --"
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จาก “นักวิทยาศาสตร์นาซ่า” สู่ “ชาวสวน” ชีวิตแสนสุขของดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    1 กุมภาพันธ์ 2555 09:06 น.


    ในวัยเด็ก หลายท่านคงเคยมีความฝัน วาดหวังอยากทำอาชีพที่ตนชื่นชอบ และเราเชื่อเหลือเกิน ว่า วิศวกร คงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หลายคน (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) ใฝ่ฝันถึง…

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าได้เป็นวิศวกรในองค์กรใหญ่ระดับโลกอย่าง “องค์การนาซ่า” (NASA) ด้วยแล้ว มันช่างดูเก๋ ดูเท่ห์ จนหลายคนคิดว่าได้เท่านี้ก็ถือว่ามีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว

    ทว่าการได้เป็นวิศวกรในองค์กรระดับโลก กลับไม่ใช่จุดสูงสุดในชีวิตของ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เพราะหนุ่มใหญ่คนนี้ บอกกับเราว่าการได้มาเป็นชาวไร่ ชาวสวน ทำให้ทุกวันนี้เขามีความสุขและอิ่มเอมใจ มากยิ่งกว่าเมื่อครั้งเป็นวิศวกรในองค์การนาซ่าเสียอีก

    [​IMG]

    ดร.วรภัทร์ ย้อนความให้ฟังว่า หลังทำงานกับองค์การนาซ่าได้ 6 ปี เขาโบกมือลาจากองค์กรระดับโลก กลับเมืองไทยมาเป็นอาจารย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6 ปี จากนั้นจึงเข้าสู่แวดวงธุรกิจ ด้วยการเป็นผู้ให้คำปรึกษา และสอนหลักบริหารองค์กรแนวพุทธให้กับบริษัทชั้นนำต่างๆ กระทั่งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากได้เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เขาจึงเริ่มพลิกผันชีวิต ย่างก้าวเข้าสู่วิถีพอเพียง ตามแนวทางพ่อหลวง

    “ความพอเพียงของผมอย่างแรกคือ หน้าที่ต้องเต็มที่ก่อน หน้าที่ของผมก็คือ เป็นสามี เป็นพ่อ และลูกเขย หน้าที่ตรงนี้ต้องให้พร้อม เราต้องดูแลครอบครัวเราให้เต็มที่ ที่เหลือก็คือ ทำตนเป็นตัวอย่าง นั่นคือผมทำตามที่ในหลวงทรงสอนไว้ โดยการไปทดลองซื้อที่ดินไว้ 4 ไร่ ที่ปากช่อง แล้วลองทำเป็นเกษตรวิถีพอเพียง เลี้ยงแพะ เลี้ยงไก่ ปลูกต้นไม้ สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง

    พอทำด้วยตัวเองมา 4 ปี จะรู้เลยว่า ในหลวงท่านทรงมีพระปรีชาสามารถมาก เพราะคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อลงมือทำถึงจะรู้จริง หากเอาแต่พูดไม่ทางเข้าใจคำว่าพอเพียงเด็ดขาด ซึ่งจนถึงวันนี้ผมลองผิดลองถูก จนได้ความรู้มาพอสมควร ถ้าใครอยากจะเรียนรู้เรื่องพวกนี้ เราก็เต็มใจสอนให้

    การที่ผมเปลี่ยนมาทำไร่ทำสวน เพราะความเชื่อ ผมเปลี่ยนศาสนาจากคริสต์มาเป็นพุทธ เพราะเห็นว่าในหลวงท่านทรงพระปรีชามาก ท่านฉลาดกว่าเรา เรียนสูงกว่าเรา ท่านยังสนใจด้านศาสนาพุทธเลย ฉะนั้นเราน่าจะลองดำเนินรอยตามพระองค์ท่านดูสักตั้ง ผมก็เลยลองมาศึกษาศาสนาพุทธดู พอมาศึกษา ผมก็รู้สึกว่า โอ้โห! มันสุดยอด

    ต่อมาเราก็มานั่งดูว่า ในหลวงท่านเป็นวิศวกร เราก็เป็นวิศวกร ในหลวงปลูกต้นไม้ ทรงเป็นวิศวกร แต่หันมาปลูกต้นไม้ แล้วทำไมเราจะไม่ปลูกล่ะ เพราะที่ผ่านมาพระองค์ท่านสอนแต่ละเรื่องมันสุดยอดทั้งนั้น ดังนั้นเรื่องนี้มันก็ต้องดีแน่”

    หันมาทำสวน เพราะชีวิตต้องบริหารความเสี่ยง

    [​IMG]

    อดีตวิศวกรองค์การนาซ่าเล่าต่อว่า การดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง หันมาปลูกต้นไม้ ทำไร่ ทำสวนของเขาถือเป็นการบริหารความเสี่ยงให้ชีวิตตัวเอง

    “ชีวิตมันต้องมีการบริหารความเสี่ยง เครื่องยนต์ของเครื่องบินยังมีตั้ง 2 ชุด ธนาคารยังต้องมีเงินสำรอง รถยนต์ยังต้องมียางอะไหล่ แล้วเรามีอะไรล่ะ

    ฉะนั้นผมว่าการไปทำไร่ทำสวนที่ต่างจังหวัดมันเป็นการบริหารความเสี่ยงในชีวิตของผมได้ เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้ากรุงเทพฯ จะเป็นอย่างไร

    ผมคิดว่าหลายคนก็มีความคิดอยากไปใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเหมือนกัน แต่ส่วนหนึ่งที่ยังติดอยู่ในเมืองใหญ่ อาจเพราะหนึ่ง-ไม่ออกไปดูโลกกว้าง สอง-กลัว ไม่กล้าไป ก็ไม่เป็นไร

    ผมแนะนำจากตัวเองแล้วกันว่า สมมุติถ้าเป็นผมยังอยู่ในออฟฟิศในตอนนี้ ผมก็ต้องเริ่มต้นแล้ว อาจจะปลูกต้นไม้ตามระเบียง เริ่มปลูกโน่นปลูกนี่ และหาทางหนีออกจากรุงเทพฯ ให้ได้ ทำไมชีวิตต้องมาจมอยู่กับเมืองใหญ่ เมืองซึ่งไม่ได้มีความพร้อมในการให้มนุษย์อยู่ได้เลย ต้นไม้ก็น้อย การระบายน้ำก็ไม่ดี อากาศก็ไม่ได้เรื่อง อาหารต่างๆ ผมว่ามันเป็นพิษเยอะ แล้วมาอยู่ทำอะไรล่ะ หมดเวลาบนรถยนต์วันละ 2-3 ชั่วโมง มันเหนื่อยมั้ย”

    ความสุขเรียบง่าย ในวิถีชาวสวน

    ปัจจุบัน ดร.วรภัทร์ ยังคงรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างๆ อยู่บ้าง รวมถึงมีผลงานพ็อกเก็ตบุ๊ค (pocket book) ออกจำหน่าย และแม้ว่าจะยังต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อดูแลภรรยา และลูกๆ แต่ทุกสุดสัปดาห์ ครอบครัวภู่เจริญก็จะพร้อมใจกันเดินทางไปใช้ชีวิตตามวิถีชาวสวนอยู่เสมอ

    “ทุกวันนี้ผมเขียนหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คบ้าง รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทต่างๆ ด้วย แต่ถ้าว่างก็จะไปอยู่ที่ไร่เสมอ ตอนนี้ผมยังต้องเดินทางไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ กับสระบุรี เพราะอย่างที่ผมบอกว่า หน้าที่ต้องมาก่อน

    ดังนั้นหน้าที่ของผมคือ ดูแลลูกและภรรยา ซึ่งตอนนี้พวกเขายังอยู่กรุงเทพฯ เราก็ต้องมาดูแล พอวันหยุด หรือทุกเสาร์-อาทิตย์ ก็จะพากันไปอยู่ที่ไร่ ค่อยๆ เริ่มไปอย่างนี้ และคิดว่าต่อไปก็คงจะเริ่มไปอยู่ที่ไร่มากขึ้นเรื่อยๆ

    ความสุขที่ได้จาก 4 ปีที่ทำเศรษฐกิจพอเพียงมา ผมรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรง ได้เจอกับอากาศสดใส หน้าไม่เหี่ยวย่นเร็ว รวมถึงมีโอกาสได้ปฏิบัติธรรม เพราะเราได้เข้าวัดที่ต่างจัดหวัดบ่อยๆ และได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยการปลูกต้นไม้ รวมถึงเรายังได้บริหารความเสี่ยงให้ตัวเองด้วย เพราะผมคิดว่าภัยพิบัติธรรมชาติมันจะรุนแรงขึ้นทุกที เพราะมนุษย์ยังไม่หยุดพฤติกรรมทำร้ายธรรมชาติ

    [​IMG]

    ดังนั้นผมว่าเราควรจะต้องมาคิดกันใหม่แล้วล่ะ โดยส่วนตัวผมว่าตัดสินใจช้าไปด้วยซ้ำ น่าจะหันมาทำไร่ ทำสวนทำเร็วกว่านี้ ตอนนี้อายุ 52 แล้วทำอะไรได้น้อยลง ถ้าทำตั้งแต่ 22 ป่านนี้รุ่งไปแล้ว” ด็อกเตอร์หนุ่ม เล่าอย่างอารมณ์ดี

    ชวนหลบลี้เมืองใหญ่ ใช้ชีวิตพอเพียง ตามแนวทางพ่อหลวง

    เมื่อตัวเองหันเหไปทำไร่ ทำสวน แล้วพบความสุข วิศวกรหัวใจพอเพียงผู้นี้ จึงไม่ลืมที่จะชักชวน ชาวกรุงฯ หนุ่มสาวออฟฟิศ (office) ลองหันกลับไปหาความเรียบง่าย ตามวิถีพอเพียงในต่างจังหวัดบ้าง

    “สุขภาพของผู้คนทำงานออฟฟิศทั้งหลาย ผมว่าน่ากลัวนะ เอาชีวิตมาอยู่กับสารเคมี วันๆ ทานอะไรเข้าไปมีสารเคมีมากแค่ไหนก็ไม่รู้ ขึ้นรถเมล์เดินทางเสี่ยงตายกันทุกวัน เวลาที่ควรจะเอาไปดูแลลูกก็หมดไปกับเรื่องงาน ประสบความสำเร็จในออฟฟิศ แต่ล้มเหลวในครอบครัว ประสบความสำเร็จในการหาเงิน แต่ล้มเหลวในการดูแลร่างกาย ประสบความสำเร็จทางโลก แต่ล้มเหลวทางธรรม เข้ามาในเมืองใหญ่ทำงานงกๆ ถูกเจ้านายโขกสับทั้งวัน สุดท้ายตอนแก่เงินเก็บก็เอาไปเข้าโรงพยาบาลหมด ถามว่ามาใช้ชีวิตแบบนี้เพื่ออะไร เหงาไปวันๆ ถึงเวลามีเงินเก็บก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด เล่นเฟซบุ๊ก (Facebook) ถ่ายรูปกลับมา แค่นั้นเองหรือ

    ฉะนั้นถือโอกาสเริ่มต้นปีใหม่ ลองเปลี่ยนมุมตัวเองเสียบ้าง เป็นหนุ่มสาวออฟฟิศมานานแล้ว ผมว่ามันเป็นชีวิตเชิงเดี่ยวเกินไป คนเราน่าจะทำอะไรที่มันหลายๆ อย่าง บริหารความเสี่ยงให้ตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น น่าจะไปลองใช้วิถีชีวิตชนบทบ้าง ลองไปเลี้ยงไก่ เลี้ยงแพะ ไปลองทำเศรษฐกิจพอเพียง ผมว่าเราอาจจะถูกสังคมเมืองดึงหลงเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ พอวันนึงมีภัยพิบัตธรรมชาติมา เราก็เตรียมตัวไม่ทัน

    ดังนั้นผมว่าเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง มันต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ไม่ถึงกับต้องไปซื้อที่ดินต่างจังหวัดหรอก เพราะมันอาจจะมีราคาแพง เราอาจจะใช้วิธีกลับไปหาพ่อหาแม่ตัวเอง ทำกินบนที่ดินที่มีอยู่เดิมนั่นแหละ หรือถ้าไม่มีใครอยู่ต่างจังหวัด ก็อาจจะหัดไปอยู่วัดป่า ถือศีลแปด ไปเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดต่างจังหวัด ไปปฏิบัติธรรมบ้าง ลองปรับลองเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้เหมาะกับตัวเอง แต่ถ้าจะให้ดี ก็ย้ำว่าควรจะเริ่มต้นปรับเปลี่ยนได้แล้ว” ดร. วรภัทร์ ฝากข้อคิดทิ้งท้าย

    เรื่องโดย Lady Manager
    Celeb Online - Manager Online -
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=HWqKPWO5T4o&feature=related]The Godfather Theme Song - YouTube[/ame]
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ขจรศรี
    คิดอยู่นานว่าควรจะพิมพ์ให้ผู้คนได้อ่านดีรึป่าว แต่ก็ตัดสินใจว่า จะพิมพ์ในสิ่งที่เป็นข้อมูลมีหลักฐานอ้างอิงได้ เพื่อให้ทุกคนร่วมเตรียมใจอีกรอบ หลังจากที่ทุกคนคงได้รับข่าวสารเรื่องภัยพิบัติระดับโลกที่คนไทยก็ต้องเผชิญ เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า "เกิดแน่" แต่ก็จะถอดใจ ไม่กังวล และพยายามไม่ตามข่าวสารเรื่องนี้มากแล้ว
    เพราะมีข้อสรุปชัดเจนว่า... "เกิดแน่! ตายแน่!" แต่จะเป็นเมื่อไหร่ ก็ไม่อาจรู้ได้.... (รอทีเผลอว่างั้นเหอะ)
    เพราะเชื่อว่า "กรรมนั้นก็ฉลาดพอที่จะเล่นงานผู้ที่อยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมแน่นอน!!!"
    ฉะนั้น สิ่งที่ตัวเองจะทำ... พยายามทำ... และจะต้องทำให้ได้... คือ
    สร้างทาน ศีล ภาวนา บารมี 10 ไปเรื่อยๆ
    ศีลห้าที่ต้องพยายามให้บริสุทธิ์จริงๆ
    ภาวนาให้เห็นกาย เห็นจิตตน และต้อง ตายหนอ.. ตายแน่... ตาย.. ตาย.. ตาย.. (จิตยังไม่น้อมรับเลย ได้แต่พูดเล่น)
    แต่ก็ยังลุ้นอยู่ว่า จะมีผู้มีอภิญญา ผู้มีบารมี... มาช่วยได้มากน้อยแค่ไหน เรียกว่า ผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่...ยังไงก็ตามผู้ที่รอด ก็ต้องมีบุญด้วยนะ!!!


    ขอให้ทุกคนโชคดีกับคำทำนายที่ได้อ่านนะคะ
    ********************************************************
    คำทำนายที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญผู้เป็นศิษย์ ไว้ และหลวงพ่อสนองได้พูดอีกครั้งในสถานีโทรทัศน์พุทธภูมิ999 ของวัดสังฆทาน
    และได้นำมาลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สังฆทานนิวส์ เป็นหนังสือพิมพ์ที่ทางวัดจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ธรรมะต่างๆ แจกฟรีเป็นธรรมทานทุกเดือน


    ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับคำทำนายเรื่องภัยพิบัติที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ไว้ มีดังนี้


    หนังสือพิมพ์วัดสังฆทานนิวส์
    ฉบับที่ 87 ประจำวันที่ 1-31 ธ.ค. 2553
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ" (หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ)


    ....อาตมาไม่เคยคิดจะอยู่ที่เจริญ มาอยู่สังฆทานกะว่าอายุ 45 ปีจะเข้าป่า วางแผนไว้อย่างดี เดี๋ยวทำเสร็จยังกับตัวเองเนรมิตได้ อายุ 45 ปี ยังไม่มีอะไร ทำมา 45 ปี วัดเจริญฉันไปแล้ว มันไปไม่ได้เราคนหมู่มาก ต้องสงเคราะห์ญาติ ไปก็ต้องเอากันไปให้หมด ภัยมาเราไม่ปกป้องคนเขาลงเราต้องปกป้อง หลวงปู่สังวาลย์ท่านพยากรณ์ไว้ ที่จริงอาตมาไม่อยากออกทีวีหรอกเพราะเดี๋ยวคนจะตื่นตัว แต่ก็ดีแล้วพวกที่คนทั้งหลายมันหลงมันจะได้เบาลง แต่ว่าบางทีอาจจะด่าเราก็ได้ ว่าหลวงพ่อเพ้อเจ้อ.. หลวงปู่สังวาลย์พูดให้ฟัง บอก...สนอง...ไม่ช้าพวกเราก็ตายแล้ว แต่โลกนี้จะเดือดร้อน แต่ถ้าเราอยู่ถึงก็จะเห็นภัย 3 อย่าง น้ำจะท่วมภาคใต้ ฝั่งตะวันตกตายกันเยอะ ครั้งที่1 แล้วก็ตายไม่เท่าน้ำท่วมกรุงเทพ กรุงเทพนี่ น้ำท่วมมาก ท่วมตึก 4 ชั้นเลย สนอง...เตรียมน้ำมันรถไว้ให้ดีนะ เตรียมรถให้ดี อย่าใช้ รถเก่านะ ถ้ามันท่วมกรุงเทพเนี่ย ฝนจะตก 7 วัน 7คืน ฟ้าจะมืดหมด ไม่มีแสงอาทิตย์ แสงตะวัน แล้วไฟดับหมด เงินไม่มีค่า เงินไม่มีความหมาย เอาข้าวตากไว้ดีกว่า ตอน 7วัน 7คืน.. อาตมาอดได้ไม่ตายหรอก แต่คนอื่นจะตายหรือเปล่า เพราะอาตมาเคยอดมาตั้ง19วัน 15วันอดได้ มีน้ำอยู่ได้เพราะผ่านวิกฤตินี้มาแล้ว แต่พวกคนไม่เคยอดกิน 3มื้อนี่วันจะตายหรือเปล่า จะท่วมกรุงเทพคนจะตายกันเยอะ ท่านบอกเราที่วัดอีกครั้งหนึ่ง เวลาฝนตก 7วัน 7คืน ถ้าน้ำท่วมมาถึงชลบุรีโกยเลยนะ ไปโน้นเลย สระบุรีไปเขาใหญ่เลยจะไม่ตาย...


    เราจะโกยไปทำไมคนเดียวล่ะ คลื่นยักษ์มาถึงชลบุรีท่วมภูเขามาเลย ท่วมไปถึงวัดทุ่งน่ะ วัดทุ่งนี่เรานั่งพื้นน้ำเปียกหัวเรือเลยนะ น้ำไปสุดนครสวรรค์...เราบวชมานานเชื่อเราสิ


    แล้วก็จะเกิดสงครามพระ สงครามพระจะไปลุกทุกหย่อมหญ้าเลย สงครามพระจะเกิด เชื่อเราไหม ก็ยังไม่เห็น เชื่อก็ไม่ได้จะไม่เชื่อก็ไม่ได้ นั่งเฉยก่อน เรากรรมฐานมานาน ท่านบอกว่ามันเป็นกรรมของคนไทย ไปดูสิเดี๋ยวเราตาย วัดทุ่งก็เหมือนกับวัดหลวงพ่อสำเภาที่ลพบุรีน่ะ เมื่อตอนหลวงพ่อเภาอยู่นี่เจริญมาก คนกรุงเทพขึ้นอุดมสมบูรณ์มาก ทุกวันนี้วัดเงียบเลย อยู่ที่ลพบุรี เราอยากจะพาพวกลูกศิษย์ไปดู ตอนที่หลวงปู่สังวาลย์อยู่อุดมสมบูรณ์ เราอยากจะพาไปดู มันจะได้รู้ว่า สิ้นเราแล้วเนี่ยสุนัขก็อดข้าว...ท่านพูดไว้นะ (อ่านต่อฉบับที่ 88...)


    ต่อฉบับที่ 88 ประจำวันที่ 1-31 ม.ค. 2554
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ"
    หลวงปู่สังวาลย์พูดเรื่องอนาคตให้ฟังต่อไปว่าให้เตรียมตัวไว้นะ เราก็ถามว่า หลวงพ่อแก้ไม่ได้เลยเหรอ พอไม่นานน้ำก็ท่วม ท่วมภาคใต้ เกิดสึนามิ ตอนนั้นอาตมากลับมาจากต่างประเทศมีเงินแค่ 4,000 บาท บอกให้บัญชีดูเงินว่ามีเงินพอไหม ไม่ใช่เงินในธนาคารนะ เงินอยู่ในตู้บริจาคน่ะ มีแค่ 4,000 บาท เอา 4,000 บาทไปซื้องของเลย เอารถบัสไปเลยซื้อของ แล้วซื้อแก๊สไปช่วยภาคใต้ คลื่นสึนามิ บ้านช่องหายหมดแล้วคนก็ไม่มีบ้าน บ้านก็ไม่มีคน บอกกันว่าอยู่ที่วัด บ้านน้ำเค็ม เราก็ส่งของไปอีก ก็หาเอาเงินซื้อพอไปถึงที่ ก็จริงอย่างหลวงปู่ว่า คนจะตายกันเยอะ เคยเล่าไปแล้ว ไม่เล่าต่อแล้ว นี่คือคำพยากรณ์ของครูบาอาจารย์

    เหลืออีกสองอย่างที่ยังไม่จริง ยังไม่ถึง ศึกพระ กับน้ำท่วมกรุงเทพ คนจะตายกันเยอะตายมากกว่าคราวนี้ท่านไม่บอกปีนะ ท่านเตือนบอกให้ระวังตัว เตือนเราว่าให้ดูฝนตก 7วัน 7คืน ฟ้ามืด ไฟจะดับหมด สงสัยจะมีพายุอย่างแรง ไฟฟ้าสงสัยจะดับหมด แต่อาตมาจะมีวิธีไป เดี๋ยวจะพาไป ไม่ตื่นตูม เป็นคนไม่ตื่นตูม เชื่อก็เชื่อแต่ไม่ตกใจ จะไปอย่างสวยๆ ถ้าจะตายก็ตายอย่างเตรียมตัวตายก่อน ตายยิ้มตาย อาตมาจะไม่ร้องไห้


    เพราะฉะนั้นคนเรานะมันต้องตาย วิบัติมันเกิดขึ้น เราไม่อยากให้เกิดวิบัติ วิบัติอย่างนี้เราไม่อยากได้ แต่ว่าป้องกันไม่ได้................
    ***********************************************

    http://palungjit.org/threads/คำทำนายหลวงปู่สังวาลย์-เขมโก-เรื่องภัยพิบัติ.324819/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yd1uEvyzCmM&feature=related]Celine Dion - My Heart Will Go On (with dialogue from the film "Titanic") - YouTube[/ame]
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=1MdOXtTlE3Y&feature=related]Not Strong Enough - Apocalyptica - YouTube[/ame]
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    หวานรับวาเลนไทน์ จีนจับ'แกะ-กวาง'คู่รักข้ามสายพันธุ์เข้าประตูวิวาห์
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2555 04:28 น.
    [​IMG]
    ความสัมพันธุ์ที่ผิดธรรมชาติระหว่างแกะตัวผู้ "ฉางเหมา" และ กวางตัวเมีย "ชุนซี"


    บีบีซี - แกะเพศผู้และกวางเพศเมีย คู่รักข้ามสายพันธุ์บันลือโลก เตรียมเข้าพิธีสมรส ณ สวนสัตว์แห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนในวันแห่งความรัก(วาเลนไทน์) หลังเจ้าหน้าที่พับแผนพรากพวกมันออกห่างกันตามคำวิงวอนของชาวสังคมออนไลน์

    ความสัมพันธุ์ที่ผิดธรรมชาติระหว่างแกะตัวผู้ "ฉางเหมา" และ กวางตัวเมีย "ชุนซี" ทำให้พวกมันกลายเป็นที่นิยมของประชาชน และทางอุทยานสัตว์ป่าในเมืองคุนหมิง มลฑลยูนนาน จะเปิดจำหน่ายตั๋วสำหรับพิธีแต่งงานนี้โดยเฉพาะ ไชน่า นิวส์ เซอร์วิช รายงาน

    ส่วนหนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ระบุว่าทางสวนสัตว์จะขายบัตรเฉพาะแก่แขกผู้มีเกียรติที่ต้องการเข้าร่วมพิธีวิวาห์นี้ราว 500 ใบ โดยมีราคาใบล66 หยวน(ราว 310 บาท) และสัตว์ทั้งสองตัวจะถูกจัดแจงแต่งตัวในชุดแต่งงาน

    [​IMG]

    เมื่อปีที่แล้วเจ้าหน้าที่พยายามแยกพวกมันออกจากกันจากความกังวลต่อความสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วพวกมันก็ได้อยู่ด้วยกันดังเดิม หลังมีเสียงวิงวอนจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตหลั่งไหลที่เข้าไปโพสต์ข้อความถึงอุทยานสัตว์ป่า วิงวอนขอให้แกะเพศผู้และกวางเพศเมียได้อยู่ร่วมกันต่อไป

    เจ้าหน้าที่ของอุทยานสัตว์ป่าขอคำปรึกษาจากผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต หลังจากได้พยายามจะแยกสัตว์ทั้งสองออกจากกัน แต่ปรากฎว่า กวาง"ฉางเหมา"เกิดอาการดุร้าย หลังจากถูกแยกจากคู่ของมัน ส่วนแกะชุนซียังได้ตะกุยรั้ว เพื่อพยายามกลับไปอยู่กับกวางฉางเหมา ซึ่งต่อมาก็มีโพสต์ข้อความให้คำแนะนำกลับมาอย่างล้นหลาม

    Around the World - Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นิทานเซน : ศิษย์ที่หลงทาง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2555 08:40 น.
    [​IMG]
    ภาพจาก tupian99.com

    ยังมีศิษย์เซนผู้หนึ่ง มีนิสัยเกียจคร้าน ทั้งยังชอบลักขโมยของผู้อื่น พฤติกรรมของเขาเป็นที่เอือมระอาของศิษย์เซนคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก

    จนกระทั่งเมื่อศิษย์เซนเจ้าปัญหาถูกจับได้ว่าลักขโมยอีกครั้ง บรรดาศิษย์คนอื่นๆ จึงได้รวมตัวกันมาฟ้องร้องต่ออาจารย์เซนผานกุย โดยยื่นคำขาดว่าหากอาจารย์เซนไม่กำจัดศิษย์ผู้นี้ให้พ้นไปจากอารามโดยทันที เหล่าศิษย์ที่เหลือจะเป็นฝ่ายออกไปจากอารามเซนแห่งนี้แทน

    มิคาด เมื่อได้ทราบเรื่องราว อาจารย์เซนผานกุยกลับกล่าวกับทุกคนว่า "พวกท่านล้วนเป็นผู้มีสติปัญญาสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดถูก-ผิด สิ่งใดดี-ชั่ว หากพวกท่านพาตัวพ้นจากอารามเซนแห่งนี้ไปล้วนไม่ก่อปัญหาภายนอก ทว่าศิษย์ผู้นี้ แม้แต่ถูก-ผิด เขายังมิอาจแยกแยะได้ หากเราไม่สอนเขาแล้วผู้ใดจะสอนเขา ดังนั้นเราจำเป็นต้องให้เขาอยู่ที่อารามแห่งนี้กับเรา ส่วนพวกท่านหากว่ามีผู้ใดไม่พอใจและตัดสินใจออกจากอารามนี้ไป ก็สุดแท้แต่เถิด"

    เมื่อได้ยินดังนั้น ศิษย์เซนเจ้าปัญหาได้แต่คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความซาบซึ้งใจในจิตเมตตาของอาจารย์เซน และพยายามกลับตัวเป็นคนดีในที่สุด

    China - Manager Online -
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=zudYsJQAXjM&feature=related]Shinedown Call me - YouTube[/ame]
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=hyNCkJQBgOY&feature=related]Shinedown - Breaking Inside - YouTube[/ame]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...