+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 กันยายน 2009.

  1. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    แจ้งโอนค่าพระสรปวันที่ 18/3/2556 รายการที่ 1596, 1623, 1639,1646, 1658, 1669, 1670, 1673, 1687 วันที่ 20/3/2556 เวลา 9.29AM (4900 บาท) ที่อยู่แจ้งทาง PMครับ
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    สวัสดีรครับ ลงนิดเดียวนะครับ ค่อยต่อพรุ่งนี้เพราะรูปอยู่คอมที่คลินิกครับ
     
  3. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 1708 พระผงเตารีดเนื้อผงชมพูนุช หลวงปู่หมุน

    ให้บูชา 750 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1340.JPG
      IMG_1340.JPG
      ขนาดไฟล์:
      141.8 KB
      เปิดดู:
      41
    • IMG_1341.JPG
      IMG_1341.JPG
      ขนาดไฟล์:
      132.4 KB
      เปิดดู:
      36
  4. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +1,174
    จอง รายการที่ 1708
     
  5. มหาเต้ย

    มหาเต้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +402
    จองรายการที่1708
     
  6. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 1709 พระขรรค์อนันตนาคราช หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ

    หายากครับ สร้างวันที 15 ค่ำเดือน 11
    ให้บูชา 550 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1336.JPG
      IMG_1336.JPG
      ขนาดไฟล์:
      180.9 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_1337.JPG
      IMG_1337.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.3 KB
      เปิดดู:
      77
  7. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จอง 1708 ครับ
     
  8. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จองรายการที่ 1709 ครับ
     
  9. มหาเต้ย

    มหาเต้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +402
    จองรายการที่ 1709
     
  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 1710 พระพุทธกรุวัดสุวรรณ หลวงพ่อเนียม ปลุกเสก

    พระกรุวัดสุวรรณ จ.อ่างทอง แตกกรุครั้งแรก เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2500 โดยการถูกลักลอบขุดเจดีย์ ได้ทรัพย์สินมีค่าไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ

    วัดสุวรรณ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดอ่างทอง แต่ได้ชำรุดทรุดโทรม และปรักหักพังจากการทำลายของข้าศึกไปเสียเป็นส่วนใหญ่ ในคราวการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 ดังนั้นถาวรวัตถุต่างๆจึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ภายหลัง

    กล่าวว่า ผู้บูรณะวัดสุวรรณขึ้นมาใหม่ คือ เศรษฐีทองคำ คหบดีผู้มีถิ่นฐานอยู่ทางทิศเหนือของวัด เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์จนสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ยังได้สร้างพระเจดีย์ทรงลังกาขึ้นมาอีกหนึ่งองค์

    ฐานล่างขององค์เจดีย์ใช้ซุงสองต้นวางกากบาท ภายในแบ่งเป็นห้อง 4 ห้อง มีภาพวาดพุทธประวัติ หลังจากสร้างเสร็จได้รวบรวมเอาพระพุทธรูป พระพิมพ์ ที่ยังพอหลงเหลืออยู่บ้างตามวัดเก่าในละแวกนั้นเข้าบรรจุอยู่ภายในองค์เจดีย์

    และได้สร้างพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ ด้วยเนื้อชินตะกั่ว นำเข้าบรรจุกรุรวมอยู่ด้วย ซึ่งพระพิมพ์ต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นนั้น ล้วนแต่เป็นพระพิมพ์ที่ล้อพระกรุ พระเก่า ทั้งสิ้น เช่น พิมพ์พระรอด พิมพ์พระลำพูน พระปิดตา พระลีลา พระนาคปรก พระสมเด็จ เหล่านี้เป็นต้น

    ธรรมชาติของพระกรุวัดสุวรรณ ด้วยความที่เป็นพระเนื้อชิน และถูกบรรจุอยู่ภายในกรุ หรือ เจดีย์ ทำให้พระมีคราบไขปกคลุม รวมถึงบางองค์เกิดสนิมแดงเป็นจุด ๆ สนิมแดงไม่แดงจัดมากนัก และทุกพิมพ์จะไม่มีการตัดขอบตกแต่ง เทหล่อออกมาเช่นไร ก็ปล่อยเอาไว้เช่นนั้น ซึ่งก็เป็นจุดพิจารณาอีกจุดหนึ่งของพระกรุนี้

    (ที่มา : คเณศ์พรฉบับพิเศษ พระเครื่องประจำจังหวัดอ่างทอง ขอขอบคุณครับ)


    ให้บูชา 1300 บาท พร้อมตลับเงิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จองรายการที่ 1710 ครับ
     
  12. achocolate

    achocolate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +276
    จองรายการที่1709
     
  13. มหาเต้ย

    มหาเต้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +402
    จองรายการที่ 1710
     
  14. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 1711 พระปิดตาทองแดงเถื่อน เมืองนคร

    ให้บูชา 1900 บาท พร้อมตลับเงิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. มหาเต้ย

    มหาเต้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +402
    จองรายการที่ 1711
     
  16. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 1712 พระอรหันตสาวกจกบาตร กรุวัดเชิงท่า นนทบุรี

    นำพระกรุโบราณ อายุ ๒๓๐ ปีมาบันทึกไว้เพื่ออนุรักษ์ศิลปะพระเครื่องในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ถึงช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อนจะทราบที่มาที่ไปของพระกรุวัดเชิงท่า จ.นนทบุรีซึ่งปัจจุบันนี้เป็น"วัดร้าง"ไปแล้ว ก็คงต้องเท้าความเพื่ออ้างอิงอายุของวัดเชิงท่านี้ก่อนว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง และสร้างในสมัยใด จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่มีน้อยมากครับ...

    เท่าที่ผมประมวลดูแล้ววัดเชิงท่านี้มี ๓ แห่งด้วยกัน คือ
    ๑. วัดเชิงท่า จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๒. วัดเชิงท่า จ.ลพบุรี
    ๓. วัดเชิงท่า จ.นนทบุรี

    ดังนั้นคำว่าวัดเชิงท่า ในกระทู้นี้ ผมจะหมายถึง วัดเชิงท่า จ. นนทบุรี เท่านั้น (ต่อไปขอเรียกว่า "วัดเชิงท่า")

    พญาเจ่ง เจ้าพระยามหาโยธานราธิบดี ได้นิพนธ์เป็นคำกลอนไว้ว่า



    "เสร็จศึก สร้างวัด สลัดบาป แสวงบุญ คือวัดเชิงท่าบางตลาด วัดเกาะบางพูด นุสสรณ์บุญ"


    "นำพล ๓๐๐๐ จากรัฐมอญมาพึ่งพระบารมี เมื่อปี ๒๓๑๘ โปรดให้อยู่ที่ปากเกร็ด สามโคก
    เป็นนายทัพรบศึก ชราสร้างวัดเชิงท่าก่อนวัดเกาะ มตะปี ๒๓๖๕ อายุ ๘๓ ปี"


    วัดเกาะพญาเจ่ง หรือวัดเกาะรามัญ หรือวัดเกาะบางพูด สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ๒๓๑๘ โดยพญาเจ่ง อดีตแม่ทัพมอญผู้พาไพร่พลเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารกษัตริย์ไทย ณ ที่ดินซึ่งได้รับพระราชทานโปรดเกล้าจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเมื่อปี ๒๓๑๗ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๐(รัชกาลที่ ๑)
    พญาเจ่ง ได้ช่วยไทยรบพม่ามีความดีความชอบมาก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงทรงพระราชทานยศให้เป็นเจ้าพระยามหาโยธานราธิบดีศรีพิชัยณรงค์ ต่อมาบุตรชายคนโต(ทอเรียะ) ก็ได้รับพระราชทานยศให้เป็นเจ้าพระยามหาโยธาเช่นกัน ท่านได้สร้างวัดนี้ต่อจากบิดา และถึงแก่อสัญกรรมในสมัยรัชกาลที่ ๔ ท่านเป็นต้นสกุล "คชเสนี"
    พระอุโบสถวัดเกาะพญาเจ่งเป็นเขตโบราณสถาน กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ศิลปะสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เรื่องทศชาติชาดกfficeffice" />>>
    จากบันทึกนี้ทำให้เราทราบว่า วัดเชิงท่าเป็นวัดที่สร้างในช่วงปี พ.ศ. ๒๓๑๘(หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาประมาณ ๘ ปี)

    หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่พิจารณาจากการตั้งบ้านเรือนของ ๒ ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นดังนี้:-

    ชุมชนเดิมในบริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ปากคลองเชียงรากที่บ้านพร้าวผ่านบริเวณตำบลสามโคกขึ้นไปถึงปากคลองเชียงรากน้อย ความแตกต่างระหว่างบริเวณสองฝั่งแม่น้ำก็คือ ย่านที่เป็นชุมชนเมืองเก่านั้นอยู่ทางฝั่งตะวันออก เพราะพบร่องรอยวัดเก่าและโบราณวัตถุที่มีมาแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ทั้งยังพบร่องรอยทางน้ำและลำคลองที่ขุดขึ้นเพื่อการตั้งถิ่นฐานเป็นบ้านเป็นเมืองอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ บริเวณจากบ้านศาลาแดงเหนือมายังคลองส่งน้ำที่วัดอัมพาราม มีร่องรอยแนวคูที่ตัดขนานกับลำแม่น้ำที่ทำให้เกิดพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าอันเป็นลักษณะของเมืองอย่างชัดเจน หลักฐานของการเป็นบ้านเป็นเมืองในบริเวณนี้มีกล่าวถึง ในโคลงนิราศกำสรวลสมุทร ความว่า

    จากมาเรือร่อนท้ง พญาเมือง
    เมืองเปล่าปลิวใจหาย น่าน้อง
    จากมาเยิยมาเปลือง อกเปล่า
    อกเปล่าว่ายฟ้าร้อง ร่ำหารนหา ฯ
    จากมาเมืองเก่าเท้า ลเท ทานรา
    เทท่าบึงบางบา บ่าใส้
    จากมาอ่อนอาเม บุญบาป ใดนา
    เมืองมิ่งหลายเจ้าไว รยกโรย ฯ


    ทุ่งพญาเมืองคือเมืองเก่า อยู่ทางฝั่งตะวันออกของลำน้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดป่างิ้ว บริเวณนี้มีคูคันดินล้อมรอบ พบซากวัดร้างที่มีชื่อว่า วัดพญาเมือง พบพระพุทธรูปศิลาแบบอู่ทองมีโคกเนินซากโบราณสถานอยู่หลายแห่ง เศษภาชนะดินเผาเคลือบแบบสังคโลกสุโขทัย รวมทั้งเครื่องลายครามในสมัยราชวงศ์หยวนและเหม็งปะปนอยู่

    อาจารย์มานิต วัลลิโภดม ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีกรมศิลปากร ซึ่งเคยทำการสำรวจโบราณคดีสองฝั่งน้ำเจ้าพระยาจากอยุธยาถึงกรุงเทพฯ ตั้งข้อสังเกตว่า บรรดาของเก่าแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นขึ้นไป มักพบทางฝั่งตะวันออกมากกว่าฝั่งตะวันตก ที่เด่นชัดก็คือ พระพุทธรูปหินทรายที่เรียกว่า หลวงพ่อเพชรและหลวงพ่อพลอย ในวัดสองพี่น้อง เป็นของอยู่ติดวัดมาแต่เดิม อีกทั้งภายในบริเวณวัดนี้ก็ยังพบเสมาหินทรายสีแดงที่มีลวดลายสลักแบบอยุธยาตอนต้นขึ้นไปอีกด้วย

    กล่าวกันว่าวัดพญาเมืองเป็นวัดร้างในสมัยกรุงแตก พระยาตากได้ยกกองทัพจากจันทบุรีไปตีพม่าที่ค่ายโพธิ์สามต้น กู้กรุงศรีอยุธยาได้แล้วยกกองทัพเรือร่องลงมาพักไพร่พลหุงหาอาหารที่วัดนางหยาดและวัดพญาเมืองก่อนที่จะเดินทางต่อไปถึงกรุงธนบุรี

    เพราะฉะนั้น ถ้าพิจารณาการตั้งถิ่นฐานของชุมชนในสมัยก่อนรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมและสมเด็จพระนารายณ์แล้ว อาจกล่าวได้ว่า มีอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยามากกว่าทางฝั่งตะวันตก

    นับแต่รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ลงมา เมืองเชียงรากที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาคลายความสำคัญลง ความหนาแน่นของชุมชนย้ายมาอยู่ทางฝั่งตะวันตกที่ตำบลสามโคกแทน อันเนื่องมาจากทางราชการกำหนดให้เป็นที่อยู่อาศัยของพวกมอญอพยพ คนมอญที่เข้ามาได้ถูกกำหนดให้เป็นช่างปั้นหม้อ ทำไห จึงทำให้ย่านนี้กลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรม ดังเห็นได้จากโคกเนินที่เป็นแหล่งเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ถึง ๓ แห่ง ทำให้บริเวณนี้กลายเมืองสามโคก และสองฝั่งน้ำเจ้าพระยาก็กลายเป็นถิ่นฐานของคนมอญ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากสามโคกมายังปทุมธานี ปากเกร็ดและนนทบุรีตามลำดับ

    เห็นได้จากลักษณะของลำคลองคูต่างๆ ที่ขุดแยกออกจากฝั่งน้ำเจ้าพระยาไปทางตะวันตกเป็นระยะๆ ดูคล้ายๆ กับเป็นช่องๆ แต่ละช่องเป็นที่ตั้งของชุมชนหมู่บ้าน โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางอย่างชัดเจน และวัดเหล่านี้แต่ละแห่งอยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลายแทบทั้งสิ้น มีหลายวัดที่ปัจจุบันเป็นวัดร้าง เช่น วัดมหิงสาราม แต่รูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่แลเห็น ล้วนแต่เป็นของในสมัยอยุธยาตอนปลาย อย่างเช่น ที่วัดมหิงสาราม พบซากโบสถ์ที่ก่อผนังอิฐทึบตามแบบที่พบในสมัยอยุธยาตอนปลาย และที่วัดเชิงท่า พบพระสถูปย่อไม้สิบสอง ซึ่งเมื่อประมาณ ๓๐ ปี ที่ผ่านมา(บันทึกไว้ณ ปี พ.ศ.2550) ขุดพบพระพุทธรูปและพระพิมพ์ที่เป็นแบบอยุธยาตอนปลาย โดยเฉพาะพระพิมพ์ที่เรียกว่าพระโคนสมอนั้น พบเป็นจำนวนมากในกรุเจดีย์

    ผมได้นำข้อความบางส่วนมาจากเว็บไซต์ของมูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่การดำเนินงาน ข่าวสาร ข้อมูลของมูลนิธิฯ บทความ จดหมายข่าว พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น กิจกรรม ตลอดจนความรู้ทางสังคมและวัฒนธรรม โดยมีคำจำกัดความกิจกรรมของมูลนิธิฯ ว่า " รวบรวม บันทึก ศึกษา ข้อมูลทางวัฒนธรรม สนับสนุนการอนุรักษ์เพื่อพัฒนา เผยแพร่เพื่อการศึกษาของสาธารณชน " ดังนั้น ทางมูลนิธิฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากท่านผู้มาเข้าชมได้รับสาระความรู้จากเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ หรือหากต้องการนำข้อมูลหรือรูปภาพที่ได้จากเว็บไซต์นี้ไปใช้ประโยชน์เพื่องานด้านวิชาการ ทั้งนี้ได้ดำเนินการบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรไว้แล้ว


    ให้บูชา 1300 บาท พร้อมตลับเงิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 1713 ตะกรุดปรอทกายสิทธิ์หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก

    หลวงปู่ชุ่ม หรือ ครูบาเจ้าชุ่ม โพธิโก เป็นพระผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ท่านปฏิบัติตามแนวทางกรรมฐาน 40 ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างอุกฤษฏ์ ชนิดยอมเอาชีวิตเข้าแลก จึงปรากฏว่าท่านเป็นที่เคารพบูชาของชาวล้านนา และบุคคลทั่วไปอย่าง หลวงปู่ชุ่มเป็นพระทีรอบรู้และเคร่งครัดในพระธรรมวินัย บำเพ็ญบารมี 10 ประการ อันประเสริฐตลอดชีวิตสมณเพศ และมีความวิริยะอุตสาหะปฏิบัติเพื่อมรรคผลสูงสุดในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง


    ด้วยพลังแห่งฌานสมาบัติที่แก่กล้า และพลังแห่งเมตตาจิต รวมทั้งสรรพวิชาที่ท่านได้เพียรศึกษาและสั่งสมมาตามคติครูบาอาจารย์ ทำให้กิตติศัพท์ความเก่งกล้าทางด้านวิชาพุทธาคมของหลวงปู่ชุ่ม เป็นที่เชื่อมั่นในหมู่ประชาชนยิ่งนัก โดยเฉพาะด้านคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด หลวงปู่ชุ่มท่านเป็นพระภิกษุที่มีความชำนาญด้านการผูกอักขระเลขยันต์ต่างๆ รวมทั้งมีอำนาจฌาณสมบัติที่แกกล้าและขลังมาก หลวงปู่ชุ่มได้รับนิมนต์ให้ไปเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกหลายงาน ครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง ได้แก่ พิธีพุทธาภิเษกอัฐิท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง จ.ลำพูน หลวงปู่ชุ่มเป็นองค์ประธานในพิธี มีพระอริยะเจ้าทั่วภาคเหนือเข้าร่วมในพิธีนี้ ซึ่งนับเป็นประวัติการณ์อันมิได้ปรากฏขึ้นโดยง่าย

    ในปัจฉิมวัยของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก ท่านเปิดเผยเกียรติภูมิเต็มองค์ โดยร่วมเส้นทางธรรมสัญจรไปพร้อมกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และเผ่าพงศ์พระสุปฏิบันโน ผู้ล้วนเป็นสหธรรมิกที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น


    ตะกรุดปรอท เป็นวัตถุมงคลที่หลวงปู่ชุ่มนำออกมาแจกญาติโยมซึ่งแวะเวียนไปกราบนมัสการท่านเสมอๆ ท่านทำตะกรุดไว้หลายรุ่น หลายขนาด ทั้งแบบเป็นตะกั่ว ลงอักขระ ม้วนเป็นตะกรุดแล้วร้อยด้วยเชือก ทั้งแบบมีหนังความหุ้มตะกรุดอีกที และแบบปรอทมีรูตรงกลาง ใช้รัดท่อนแขน ห้อยคอ และคาดเอว


    ปรอทเป็นโลหะที่พิเศษพิสดาร คือเป็นของเหลวไหลไปมาไม่อยู่นิ่ง พระที่ท่านซัดปรอทให้แข็งตัวได้ ย่อมต้องอาศัยกำลังจิตที่แกร่งกล้านัก


    ให้บูชา 2400 บาท

    ข้อมูลอ้างอิงจาก

    ตะกรุดปรอท ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จ.ลำพูน #3640798?lang=th

    ในเว็บให้บูชาเกือบหมื่นบาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    วันนี้หมดแล้วนะครับ .................ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเยี่ยมชม
     
  19. achocolate

    achocolate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +276
    จองรายการที่ 1710
     
  20. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    มาแล้วครับ ขอเตรียมรูปแปปนึง ขอโทษที่ล่าช้าไป สี่สิบนาทีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...