+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 กันยายน 2009.

  1. นว

    นว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +2,445
    ขอรับ รายการที่ 608 เหรียญรุ่น 4 หลวงปู่ปัญญา วัดหนองผักหนาม เนื้อทองแดง
     
  2. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,390
    ค่าพลัง:
    +19,714
    รายการที่ 608 เหรียญรุ่น 4 หลวงปู่ปัญญา วัดหนองผักหนาม



    ขอรับแจก 1 เหรียญ


    ขอรับด้วยคน ทันใหม
     
  3. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 609 เหรียญเสมาหลวงปู่เจียม วัดหนองยาว

    ให้บูชา 229 บาท closed


    ....................................................................

    <table class="contentpaneopen"><tbody><tr><td class="contentheading" width="100%">

    ประวัติ หลวงปู่เจียม อติสโย วัดอินทราสุการาม (วัดหนองยาว)
    </td><td class="buttonheading" width="100%" align="right">
    </td><td class="buttonheading" width="100%" align="right">
    </td><td class="buttonheading" width="100%" align="right">
    </td></tr></tbody></table><table class="contentpaneopen"><tbody><tr><td valign="top">ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่เจียม อติสโย วัดอินทราสุการาม (วัดหนองยาว) ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์
    อัตโนประวัติหลวงปู่เจียม
    พระครูอุดมวรเวท” หรือ “หลวงปู่เจียม อติสโย” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสุรินทร์ เป็นพระที่มีศีลาจารวัตรดีงาม ไม่บกพร่องเสื่อมเสีย ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด กอปรด้วยวิทยาคม มีลูกศิษย์ลูกหามากมายให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก
    หลวงปู่เจียม มีนามเดิมว่า เจียม นวนสวัสดิ์ (เดือมดำ) เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2454 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 2 ปีกุน สายเลือดกัมพูชา ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านดองรุน ต.ประเตียเนียง อ.มงคลบุรี จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ท่านเป็นบุตรคนโต
    การศึกษาเบื้องต้น
    ในเยาว์วัย เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนประชาบาล อ.มงคลบุรี จ.พระตะบอง ศึกษาภาษาเขมรและภาษาฝรั่งเศส ตามหลักสูตรที่รัฐบาลกัมพูชากำหนดไว้ เมื่อเรียนจบในระดับชั้นประถมศึกษา ได้สอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในจังหวัดพระตะบอง แต่เรียนได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น มีเหตุให้ต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน อีกทั้งได้รับผลกระทบจากสภาวะสงครามภายในประเทศ เมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว ได้ประกอบอาชีพทำนาและค้าขาย เช่น ค้าข้าว ค้าวัว รวมทั้งเป็นช่างไม้ เป็นต้น ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น ครั้นเมื่ออายุ 26 ปี ท่านได้สมรสกับหญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน มีบุตรธิดารวมทั้งหมด 4 คน
    เนื่องจากขณะนั้นประเทศกัมพูชาตกอยู่ภายใต้การยึดครองของประเทศฝรั่งเศส ท่านเป็นคนหนึ่งที่มีความรักชาติรักแผ่นดิน ต้องการให้ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นเอกราช จึงได้ร่วมมือกับกลุ่มชาวเขมรที่รักชาติ จัดตั้งกองกำลังเขมรเสรีเพื่อกอบกู้ประเทศชาติ โดยสู้รบกับทหารฝรั่งเศสอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และต่อมากองกำลังเขมรเสรีถูกปราบปรามอย่างหนัก จนต้องหลบหนีเข้ามายังเขตประเทศไทย โดยหวังว่าจะรวมตัวกันกลับเข้าไปต่อสู้เพื่อกอบกู้เอกราชอีกครั้งหนึ่ง
    พ.ศ.2485 จึงตัดสินใจอพยพครอบครัว มุ่งหน้าเข้าสู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ โดยเดินทางมากับพระสงฆ์ชาวเขมรชื่อ พระครูดี ใช้วิธีเดินทางรอนแรมมาเรื่อยๆ ค่ำไหนก็พักนอนที่นั่น แล้วออกตระเวนรับจ้างชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสังขะ เพื่อหาเลี้ยงชีพไปตามอัตภาพ ในที่สุดได้แวะพักที่วัดทักษิณวารี (วัดทักษิณวารีสิริสุข) บ้านลำดวน ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ พร้อมทั้งได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวาง ธัมมโชโต ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งท่านได้ประพฤติปฏิบัติตนรับใช้หลวงพ่อวางอย่างดียิ่ง จนทำให้บรรดาโยมอุปัฏฐากของหลวงพ่อวาง เกิดความรักความศรัทธา จึงขอเป็นเจ้าภาพอุปสมบทให้ ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 47 ปี
    การอุปสมบท
    เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2501 ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดทักษิณวารี ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ โดยมีหลวงพ่อวาง ธัมมโชโต พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเรืองวิทยาคม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า “อติสโย
    ฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวาง-หลวงพ่อเปราะ
    หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านสมัครใจอยู่จำพรรษา ณ วัดทักษิณวารี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน เรียนภาษาไทย และอุปัฏฐากปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อวาง ธัมมโชโต พระอุปัชฌาย์ จนเป็นที่ยอมรับไว้เนื้อเชื่อใจ พร้อมกับฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขอรับการถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ อาทิ การเสกน้ำมนต์ เขียนแผ่นทอง เป็นต้น
    รวมทั้ง ในแต่ละพรรษา หลวงปู่เจียม ได้มีโอกาสแวะเวียนไปนมัสการหลวงพ่อเปราะ พุทธโชติ วัดสุวรรณรัตนโพธิวนาราม อ.ลำดวน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่ง เพื่อปรนนิบัติรับใช้และได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขอรับถ่ายทอดวิทยาคม อาทิ การเขียนอักขระลงแผ่นทอง ทำตะกรุด วิชาเสริมสิริมงคล ฯลฯ ให้อย่างครบถ้วน เพื่อคอยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ชาวบ้านในถิ่นจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีผู้เจ็บป่วยด้วยวิชาไสยศาสตร์มนต์ดำเป็นจำนวนมาก
    นอกจากนี้แล้ว ท่านยังวนเวียนออกเดินธุดงค์ ปลีกวิเวก ไปตามถ้ำและป่าเขาลำเนาไพรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชายแดนประเทศลาว โดยยึดป่าเขาเป็นสถานศึกษา ได้พบกับพระอาจารย์หลายท่านในระหว่างเดินธุดงค์ ได้สนทนาธรรมและเรียนรู้วิธีการปฏิบัติสมาธิภาวนาจากพระอาจารย์เหล่านั้น เป็นเวลายาวนานถึง 13 ปี แล้วกลับมาเข้าพรรษาที่วัดทักษิณวารี
    สร้างวัดอินทราสุการาม (วัดหนองยาว)
    ภายหลังกลับจากเดินธุดงค์ปลีกวิเวกแล้ว เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2513 กลุ่มคณะศรัทธาญาติโยมชาวบ้านหนองยาง ได้มานิมนต์หลวงปู่เจียมให้ไปสร้างวัดในเขตพื้นที่บ้านหนองยาว ถ.โชคชัย-เดชอุดม ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยตอนแรกตั้งเป็นเพียงสำนักสงฆ์ ด้วยการสร้างกุฏิเล็กๆ สำหรับการปฏิบัติธรรม หลวงปู่เจียมจึงได้มาอยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ตลอดมาจนกระทั่งถึง ปัจจุบัน ต่อมาสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นวัดตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ นามว่า “วัดอินทราสุการาม
    ขณะเดียวกัน ท่านก็เพียรอุทิศตนเผยแผ่พระพุทธศาสนา คอยเทศน์อบรมบรรยายธรรมให้แก่คณะศรัทธาญาติโยมและชาวบ้าน หมั่นให้ทาน รักษาศีล และปฏิบัติธรรม
    การสร้างวัตถุมงคล
    ต่อมา หลวงปู่เจียมได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นครั้งแรก เป็น “ตะกรุดโทน” ลักษณะม้วนแผ่นทองสอดสายยางร้อยกับสายร่ม และผูกห้อยพระแก้วมรกตและเหรียญรูปเหมือน เป็นต้น
    ปรากฏว่าผู้ที่มีวัตถุมงคลหลวงปู่เจียมไว้ในครอบครอง มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์นานัปการ ทำให้มีฝูงชนแห่แหนไปร่วมทำบุญกันอย่างเนื่องแน่น โดยมีชาวบ้านบางส่วนนิยมนำยานพาหนะส่วนตัว ตลอดทั้งรถยนต์โดยสารในท้องถิ่นสุรินทร์ หรือต่างจังหวัด ผูกห้อยตะกรูดโทนของหลวงปู่เจียม เพื่อความเป็นสิริมงคล
    ขณะเดียวกัน ในแต่ละวันจะมีฝูงชนทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลไปกราบขอให้หลวงปู่เจียม เสริมสิริมงคล ถอดถอนคุณไสย ด้วยการอาบน้ำมนต์ นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ไปกราบนมัสการขอให้เขียนตะกรุดโทนแขวนคอ ลงเหล็กจารในแผ่นทองกับมือของท่าน เพื่อสวมใส่เป็นขวัญกำลังใจ ในการออกไปรับใช้ชาติในต่างแดน อาทิ เวียดนาม ลาว และเขมร จนได้รับการกล่าวขานเลื่องลือระบือไกล ด้วยพุทธคุณเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดภยันตราย
    พ.ศ.2515 หลวงปู่เจียม อนุญาตให้คณะศิษยานุศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลกริ่งรูปเหมือน รุ่น 1 จำนวน 7,000 องค์ เหรียญรูปเหมือน รุ่น 1 จำนวน 7,000 เหรียญ พร้อมตะกรุดแขวนคอชุดใหญ่ จำนวน 7,000 เส้น
    พ.ศ.2537 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมหลวงปู่เจียม ที่วัดอินทราสุการาม เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อสนทนาธรรม ในโอกาสนี้ หลวงปู่เจียมได้ทูลเกล้าฯ ถวายวัตถุมงคลพระกริ่งรูปเหมือน รุ่นรับเสด็จ ตะกรุด เป็นที่ระลึกด้วย
    พ.ศ.2546 หลวงปู่เจียมอนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่นมูลนิธิอติสโย เป็นวัตถุมงคลหล่อโบราณรูปเหมือน (เททองในวัด)
    สรุปรวมวัตถุมงคล ทั้งวัดจัดสร้าง ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนจัดสร้าง รวมทั้งสิ้นประมาณ 50 รุ่น ทั้งนี้ เพื่อรวบรวมปัจจัยนำไปสร้างถาวรวัตถุมากมายและจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติม
    สมณศักดิ์ที่ได้รับ
    พ.ศ.2527 หลวงปู่เจียมได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ “พระครูอุดมวรเวท
    พระนักพัฒนา
    นอกจากมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคม ท่านยังเป็นพระนักพัฒนา ได้ช่วยสร้างวัดที่อำเภอบัวเชด จ.สุรินทร์ 2 แห่ง สร้างสถานีอนามัยที่บ้านหนองยาว มอบครุภัณฑ์ให้โรงพยาบาลสุรินทร์ สร้างศาลาประชาคม 61 แห่ง รวมทั้งสาธารณประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
    การมรณภาพ
    ย่างเข้าสู่วัยชรา หลวงปู่เจียม เริ่มมีอาการเหน็ดเหนื่อย สายตาพร่ามัว ประสาทหูฟังไม่ค่อยชัด คณะศิษยานุศิษย์ได้นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ ครั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาล หลวงปู่เจียมก็ยังต้องรับกิจนิมนต์จากชาวบ้านญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธา เพื่อคอยปัดเป่าทุกข์บำรุงสุขไม่เว้นแต่ละวัน บ้างต้องไปนั่งประพรมน้ำมนต์ เป่ากระหม่อมให้ลูกศิษย์ลูกหาสม่ำเสมอ
    กระทั่งเมื่อเวลา 16.59 นาฬิกา ของวันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ.2549 คณะศิษยานุศิษย์วัดอินทราสุการาม ได้ตีระฆังรัวกลองเป็นชุด เพื่อแจ้งเหตุว่า บัดนี้ชาวเมืองสุรินทร์ได้สูญเสียปูชนียสงฆ์รูปสำคัญ คือ หลวงปู่เจียมได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคไตวาย ภายในกุฏิวัดอินทราสุการาม หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการอาพาธจากโรคไตมาเป็นเวลานาน ประกอบกับวัยที่ชราภาพมาก สิริอายุรวม 96 พรรษา 47 ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ชาวบ้าน และพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่เคารพนับถือเป็นยิ่งนัก
    คณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์รวมไปถึงชาวบ้านได้นำร่างหลวงปู่เจียมบรรจุไว้ในโลง แก้ว ตั้งไว้ ณ ศาลาการเปรียญวัดอินทราสุการาม เพื่อให้ประชาชนกราบไหว้รำลึกถึงคุณงามความดี สำหรับกำหนดการเบื้องต้น จะมีการบรรจุศพหลวงปู่เจียมที่วัดอินทราสุการาม เป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้บรรดาพุทธศาสนิกชนได้ร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกัน

    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0060.jpg
      IMG_0060.jpg
      ขนาดไฟล์:
      191.6 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_0061.jpg
      IMG_0061.jpg
      ขนาดไฟล์:
      194.1 KB
      เปิดดู:
      54
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  4. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 610 รูปหล่อ หลวงปู่คำ ชาตสุโข

    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]


    หลวงพ่อคำ ชาตสุโข พื้นเพเป็นชาวจังหวัดอ่างทอง เกิดเมื่อวันอังคาร เดือนสาม(กุมภาพันธ์) ปีมะเส็ง พุทธศักราช 2436 เป็นบุตรของคุณพ่อแสง แสงศรี และคุณแม่กลิ่น แสงศรีครอบครัวของท่านประกอบอาชีพทำนามาแต่เดิม มีพี่น้องร่วมกัน 5 คนคือ 1.นางขลิบ 2.นางเล็ก 3.นายหาด 4.นางหนู 5. คือหลวงพ่อคำ ซึ่งท่านเป็นคนสุดท้อง ต่อมาโยมพ่อของหลวงพ่อได้ออกบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวัน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ส่วนท่านเองก็ได้เป็นลูกศิษย์วัดปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อท่านมาตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ วันหนึ่งหลวงพ่อของท่านเตรียมอัฐบริขารเพื่อออกธุดงค์ ก่อนไปหลวงพ่อของท่านได้บอกกับท่านว่า “พ่อไปนะลูก” สิ้นคำเท่านั้นแล้วหลวงพ่อของท่านก็เดินดุ่มลงกุฏิ ท่านถามหลวงพ่อของท่านว่า “หลวงพ่อจะไปไหน” หลวงพ่อของท่านไม่ตอบยังคงมุ่งหน้าเดินออกจากวัดไป ท่านวิ่งตามและตะโกนถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายหลวงพ่อของท่านจึงหันมาพูดว่า “ถ้าพ่อไม่เจออาจารย์ดี พ่อจะกลับมาภายใน 1ปี แต่ถ้าพ่อเจออาจารย์ดี ก็อย่าคอยพ่อเลยนะลูก” แล้วท่านก็เดินออกจากวัดไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย

    เมื่อหลวงพ่อคำโตเป็นหนุ่ม จึงได้ข่าวว่า บิดาของท่านรุกขมูลไปอยู่ถ้ำ ทางภาคเหนือชื่อบ้านสระหนองแว้ง บิดาของท่านนอนอาพาธอยู่คน เดียวในถ้ำแต่บ้างก็ว่านอนอาพาธอยู่กลางป่าสัก ชาวบ้านไปพบเข้าจึงนำท่านมารักษาตัวที่วัดอ้อมแก้ว อ.สวรรคโลก จนกระทั่งมรณภาพ ก่อนมรณภาพชาวบ้านได้สอบถาม ชื่อ นามสกุล และชื่อญาติพี่น้องของท่านไว้ หลวงพ่อคำจึงทราบข่าวได้ในภายหลัง
    ครั้งหนึ่งแม่ของหลวงพ่อคำ จะไปขอผู้หญิงมาเป็นภรรยาให้ท่าน แต่หลวงพ่อแอบไปได้ยินผู้หญิงคนนั้นใช้คำพูดรุนแรงขึ้นเสียงกับแม่ของตนเอง หลวงพ่อคำจึงบอกกับแม่ของท่านว่า “หญิงคนนี้ไม่ดี อย่าได้เอามาเป็นเมียเลย” ด้วยอุปนิสัยโน้มเอียงไปสู่การถือเพศพรหมจรรย์ ท่านก็เลยไม่มีภรรยาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
    หลังจากบิดาของหลวงพ่อออกรุกขมูลแล้วหายสาบสูญไป หลวงพ่อคำได้ทำหน้าที่ของความเป็นบุตรผู้รู้กตัญญูกตเวทิตาคุณ ปรนนิบัติเลี้ยงดูผู้เป็นแม่มาโดยตลอด จนกระทั่งแม่ของหลวงพ่อถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 82 ปี ขณะนั้นหลวงพ่ออายุ 41 ปี ท่านได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณครั้งสำคัญอีกครั้งโดยการโกนหัวบวชเณรหน้าไฟให้แก่แม่ของท่านที่วัดขุมทรัพย์ อ.เมือง จ.อุทัยธานี แล้วได้ไปหาอาจารย์บุตร ให้พาไปบวชพระที่วัดใหญ่ ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท โดยมีหลวงพ่อปั้น วัดหาดทะนง เป็นพระอุปัชฌาย์ในปี 2476 หลังอุปสมบทแล้วท่านได้ไปเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อทิมวัดบ้านบน ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะ จ.นครสวรรค์

    ต่อมาในปี 2485 หลวงพ่อได้ออกธุดงค์ไปทางภาคเหนือมุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศพม่าเพื่อเสาะหาศึกษาวิทยาความรู้ต่างๆ และกระทำบำเพ็ญความเพียรทางจิตอย่างจริงจัง
    ประมาณปี 2489 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบ ท่านได้กลับมาจำพรรษาปรนนิบัติรับใช้ หลวงพ่อทิม วัดบ้านบน ผู้เป็นอาจารย์ตามเดิม
    และในปีเดียวกันนั้นเองได้มีผู้ใจบุญผู้หนึ่งชื่อนายรัตน์ นุ่มทองคำ ได้มานิมนต์หลวงพ่อให้ไปช่วยสร้างวัดหัวทะเล ต.น้ำทรง อ.พยุหะ จ.นครสวรรค์
    ที่ดินของวัดหัวทะเล เดิมเป็นที่ของนายถนอม นุ่มทองคำ ซึ่งเป็นพี่ชายของนายรัตน์ นุ่มทองคำ มีเนื้อที่ 10 ไร่ 1งาน แต่เดิมนั้นเป็นพื้นที่รกร้างเต็มไปด้วยป่าหญ้าคาและป่ายางหนาทึบจนแดดส่องไม่ถึง หลวงพ่อและลุงรัตน์ ได้เป็นกำลังสำคัญในการชักชวนชาวบ้านบ้าง พระจากวัดบ้านบนบ้าง ร่วมกันหักร้างถางพงบุกเบิกพื้นที่จนเป็นพื้นที่โล่งเตียน หลังจากนั้นลุงรัตน์จึงเริ่มนำวัตถุมงคลของหลวงพ่อคำ บอกหาเงินสร้างกุฏิถวายหลวงพ่อไว้จำพรรษาได้ 1 หลัง และต่อมาลุงรัตน์ก็ยังได้นำวัตถุมงคลของหลวงพ่อบอกบุญหาเงินเพื่อสร้าง ศาสนสถาน ศาสนวัตถุต่างๆขึ้นมา จนกระทั่งมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง ทั้งนี้ก็ด้วยอำนาจบุญญาบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ในองค์หลวงพ่อและวัตถุมงคลของท่านโดยแท้ (หากพิจารณาตามนี้จึงจะพอสันนิษฐานได้ว่าได้มีการริเริ่มสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2489 – 2490 เรื่อยมาตามลำดับ )

    บุคลิกของหลวงพ่อนั้นหากมองจากหน้าตาท่าทางท่านดูเหมือนท่านจะเป็นคนดุ แต่แท้ที่จริงแล้วหลวงพ่อท่านมีอุปนิสัยอ่อนโยน เยือกเย็น มีอัธยาศัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สร้างความเชื่อถือศรัทธาและความซาบซึ้งตรึงใจให้กับผู้ที่เข้าไปพบปะกราบไหว้ได้อย่างดียิ่ง มีคุณลุงท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่าสมัยหลวงพ่อมีชีวิตอยู่แกไปกราบหลวงพ่อซึ่งเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึกแล้ว แต่หลวงพ่อท่านก็ยังกล่าวทักทายต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีมิได้บ่ายเบี่ยงด้วยเรื่องเวลาแต่อย่างไร และที่สำคัญหลวงพ่อท่านยังมีน้ำใจชงโอวัลตินให้ลุงดื่มด้วยตัวท่านเอง สร้างความปลาบปลื้มปีติใจให้แก่คุณลุงยิ่งนัก ใครมาใครไปท่านจะบอกให้ทานนู่นทานนี่เท่าที่จะมีอยู่ใกล้ๆตัวท่านอยู่เป็นประจำ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในกุฏิท่านใครจะขอเอาไปใช้ทำประโยชน์อย่างไรท่านให้โดยที่ไม่มีแสดงอาการห่วงหวงเลย ท่านมีอัธยาศัยต้อนรับขับสู้เสมอภาคกันหมดไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ไม่แบ่งยศถาบรรดาศักดิ์ ท่านจะทรงไว้ซึ่งพรหมวิหารธรรมอยู่เป็นนิจ และองค์ท่านก็มีจิตวิทยาในการโน้มน้าวจูงใจคนสูง ใครจะมีอุปนิสัยมาอย่างไร ท่านก็คุยเข้ากันได้กับทุกอุปนิสัย ท่านเข้าใจสนทนาหว่านล้อมจนกระทั่งสุดท้ายก็ต้องยอมลงให้แก่ท่าน ท่านก็ได้โอกาสสอดแทรกธรรมมะ หรือคติเตือนใจเข้าไปได้ ญาติโยมเข้ามาหาเครื่องรางของขลัง ท่านก็มักจะสอนให้ปฏิบัติที่ตัวเองมากกว่า เช่นมาหานางกวัก ท่านก็ว่า “จะมาหานางกวักอะไรที่นี่หล่ะ ไปหานางกวักที่บ้านซิดีกว่าเยอะ”โยมก็ไม่เข้าใจว่านางกวักจะมีที่บ้านของเขาได้อย่างไรก็เลยถามหลวงพ่อว่านางกวักที่บ้านเป็นยังไง หลวงพ่อท่านก็เฉลยให้ฟังว่า “ก็หัวจอบซิจ๊ะ ยิ่งใช้เท่าไรก็ยิ่งรวยเท่านั้น” แม้แต่เรื่องทำบุญท่านก็ว่า “บุญน่ะไม่ใช่จะมาทำที่วัดกันอย่างเดียว กลับไปก็ต้องไปทำที่บ้านด้วย ขยัน อดทน ประหยัด ไม่สุรุ่ยสุร่าย ขยันให้เป็นหลัก ยกตัวอย่างโยมขยันทำนาได้ข้าวมาก ชาวบ้านเขาก็ว่า เอ้อ..ปีนี้มันได้ข้าวเยอะบุญของมันเน๊อะ นี่ไงเล่าบุญ” และโดยเฉพาะเด็กๆท่านจะเอ็นดูมากถ้าท่านเห็น ท่านก็มักจะเรียกมาแจกพระบ้าง แจกขนมนมเนยบ้าง สังเกตได้ว่าเหรียญของท่านจะทำเป็นเหรียญเล็กๆขนาดกะทัดรัดสำหรับคล้องคอเด็กๆได้เหมาะสม และเหรียญของท่านก็สร้างปาฏิหาริย์ให้กับเด็กๆมามากต่อมากด้วยเช่นกัน ในคอเด็กๆในละแวกนั้นส่วนใหญ่จะมีเหรียญหรือไม่ก็ล๊อคเก๊ตของท่านเกือบทุกคน เด็กๆก็รักและเคารพนับถือท่านมาก บ้างก็ไปปัดกวาดเช็ดถู บ้างก็ไปบีบนวดให้ท่านท่านก็ได้โอกาสอบรมสั่งสอนคุณธรรมให้แก่เด็กๆไปในตัว
    ในสมัยที่ท่านอยู่พวกหมา พวกไก่ใครมาปล่อยไว้หรือพัดหลงมาเองท่านก็มีเมตตารับเลี้ยงไว้หมด คำพูดคำจาของท่านออกจะนุ่มนวลและเป็นกันเองตามแบบฉบับลูกทุ่งโดยแท้ ไม่ว่าเหตุการณ์จะดีร้ายอย่างไร ท่านจะว่า “ ดีจ๊ะดี ” หมด เคยมีโยมท่านหนึ่งมาบอกหลวงพ่อว่าไฟไหม้บ้านเขา หลวงพ่อก็บอกว่า “ไฟไหม้ก็ดีซิจ๊ะ ก็จะได้บ้านใหม่ล่ะซิหว่า” น้ำท่วมอ้อยท่วมข้าวท่านก็ว่าดี “น้ำท่วมก็ดีซิจ๊ะ ก็จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาดูแลมันอีกไงล่ะ” อย่างนี้เป็นต้น เรื่องขันติธรรมท่านก็เป็นหนึ่งตลอดอายุสังขารในเวลาที่ท่านเจ็บป่วย ท่านไม่เคยออกปากขอความช่วยเหลือจากใคร และไม่เคยแสดงอาการให้ใครเห็น เคยมีลูกศิษย์จะพาไปหาหมอ ท่านไม่ยอมไป ท่านว่าของท่านว่า “เป็นเองก็หายเองซิหว่า” ในด้านการขบฉัน ด้วยนิสสัยของพระปฏิบัติที่เคยถือธุดงค์เป็นวัตรทำให้ท่านมีปกติที่จะฉันแบบเอกา คือการฉันในบาตรแต่อย่างเดียวไม่ใช้ภาชนะอื่น และฉันมื้อเดียว แต่เพื่อไม่ให้ขัดศรัทธาญาติโยมท่านก็ผ่อนปรนลงบ้างในกรณีที่มีกิจนิมนต์ฉันเพลท่านก็สามารถฉลองศรัทธาได้ไม่ให้เสียกำลังใจญาติโยม เวลาท่านออกบิณฑบาต ท่านจะมีบาตรของท่านติดตัวไปเพียงใบเดียวเท่านั้น ใครจะใส่หวาน ใส่คาว ก็เทใส่รวมลงไปในนั้น บางคนหวังดีไม่อยากให้กับข้าวปนกันเกรงว่าท่านจะฉันไม่ได้รส พอท่านรับบิณฑบาตแล้วลับหลังท่านก็แก้ถุงออกแล้วเทรวมลงไปตามเดิม ท่านบอกของท่านว่า “ อย่างนี้ฉันง่ายดีจ๊ะ ไม่ต้องไปคลุกเคล้า เดี๋ยวก็ลงไปเคล้ากันในท้องอยู่ดีแหละจ๊ะ” เส้นทางที่ท่านใช้บิณฑบาตก็แปลกเช่นกันพอได้เวลาสักประมาณ 4 -5 เย็นท่านจะพาพระลูกวัดปัดกวาดทำความสะอาดทุกวันตั้งแต่ออกจากวัดจนกระทั่งสุดเส้นทางบิณฑบาตทั้งขาไปและขากลับอยู่เป็นประจำ ท่านเป็นพระขยัน นอกเสียจากเวลาปฏิบัติของท่านแล้ว ท่านมักจะทำนู่นทำนี่อยู่เสมอ กว่าจะเข้ากุฏิจำวัดได้ก็ค่อนข้างดึกบางคราวท่านก็นั่งปฏิบัติทั้งคืน หากจำวัดท่านก็ตื่นแต่เช้าประมาณตี 3 ทำกิจวัตรส่วนตัวทำวัตรสวดมนต์ตามปกติของท่าน สักประมาณตี 4 ท่านก็จะออกปัดกวาดบริเวณวัด พระลูกวัดรูปไหนยังไม่ตื่นท่านก็ไม่ดุไม่ว่าแต่ท่านจะไปเที่ยวกวาดอยู่ในบริเวณใกล้ๆกุฏิของพระรูปนั้นนั่นเอง นับว่าเป็นอุบายวิธีที่แยบคาย การจำวัดของท่านท่านจะจำวัดในท่าสีหไสยาสน์เสมอ จะเห็นได้จากรูปอิริยาบถต่างๆของท่านที่วัดสุวรรณรัตนาราม และด้วยปฏิปทาจริยาวัตรที่ท่านถือปฏิบัติบ่มเพาะบำเพ็ญเพียรมาอย่างอุกฤษฏ์นี้เอง จึงเป็นผลให้วัตถุมงคลของท่านทรงอานุภาพศักด์สิทธิ์ แม้แค่เสกเป่าเพียงพ่วงเดียวก็ก่อให้เกิดความเข้มขลังมีประสบการณ์เป็นพยานยืนยันมาหลายต่อหลายราย เมื่อจิตของท่านยังทรงกำลังฌานอยู่ ท่านจะกำหนดที่อะไรกะแสจิตก็ยิ่งไวต่อสิ่งนั้น ดังที่ชาวบ้านเกรงบารมีท่านกันนักหนาในเรื่องวาจาสิทธิ์ของท่าน ท่านพูดอย่างไรย่อมเป็นไปอย่างนั้นไม่มีพลาดเลย ยกตัวอย่าง ท่านเห็นญาติโยมที่กราบลากลับไปขึ้นรถกันหมดแล้วแต่ยังไม่ทันได้สตาร์ทเครื่อง ท่านจึงทักว่า “ เอ้า..มันยังไม่ไปกันหรือหว่าน่ะ” ทีนี้เองเจ้าของรถจะสตาร์ทรถอย่างไรก็ไม่ติด พอท่านเห็นท่าไม่ค่อยดีท่านจึงกล่าวว่า “เออ..ไปกันได้แล้ว” เท่านั้นแหละรถก็สตาร์ทติดชึ่ง ได้อย่างง่ายดาย ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เล่ากันว่าหากไม่ขออนุญาตท่านแล้วจะถ่ายรูปท่านอย่างไรก็ถ่ายไม่ติด การล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความพิศวงงงงวยให้กับบุคคลใกล้ชิดอยู่เสมอ เช่น เรื่องของคุณหมอในตลาดพยุหะท่านหนึ่งมากราบหลวงพ่อเมื่อเสร็จธุระแล้วก่อนกลับคุณหมอก็กราบขอพรหลวงพ่อ แต่คราวนี้แทนที่หลวงพ่อจะให้พรตามปกติ หลวงพ่อกลับกล่าวทักขึ้นมาว่า เออ..ไปเถอะอย่างหมอเนี่ยถึงชนกันก็ไม่ตาย คุณหมอก็งงๆกับพรของหลวงพ่อเช่นกัน แต่เมื่อขับรถมาถึงสี่แยกพยุหะปรากฏว่ามีรถวิ่งเข้ามาชนรถคุณหมอจริงๆ สภาพรถยับเยินแต่คุณหมอไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด



    ให้บูชา 350 บาท


    closed
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0064.jpg
      IMG_0064.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.8 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_0065.jpg
      IMG_0065.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.3 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  5. วารินทร์ นานา

    วารินทร์ นานา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ขอรับเหรียญหลวงปู่ปัญญา 1เหรียญ ทันไหมครับ ขอบคุณมากฯกระไหล่ทองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  6. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 611 สมเด็จปรกโพธิ์จิ๋ว หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

    กรุห้วยเขน หลวงพ่อเงิน ปลุกเสกที่ฐานพระประธาน แตกกรุหลายสิบปีแล้วครับ

    ให้บูชาองค์ละ 680 บาท

    มี 2 องค์ครับ เลือก 1 2

    ที่มาหนังสือหลวงพ่อเงิน ของ คุณวิรัตน์ ภัทรประสิทธิ์

    closed
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0068.jpg
      IMG_0068.jpg
      ขนาดไฟล์:
      155 KB
      เปิดดู:
      61
    • IMG_0069.jpg
      IMG_0069.jpg
      ขนาดไฟล์:
      191.7 KB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_0070.jpg
      IMG_0070.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.2 KB
      เปิดดู:
      45
    • IMG_0071.jpg
      IMG_0071.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.7 KB
      เปิดดู:
      42
    • IMG_0078.jpg
      IMG_0078.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.3 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_0079.jpg
      IMG_0079.jpg
      ขนาดไฟล์:
      169.4 KB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_0080.jpg
      IMG_0080.jpg
      ขนาดไฟล์:
      208.8 KB
      เปิดดู:
      37
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  7. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 612 รูปหล่อ ฝังปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย

    ออกปี 2536

    เป็นปฐวีธาตุของหลวงปู่ที่มีที่มาที่ไปแน่นอน
    อานุภาพสูงกว่าพระเครื่องครับ เป็นธาตุกายสิทธิ์ ลองอ่านกระทู้เก่าๆนะครับ

    ให้บูชาองค์ละ 500 บาท

    คุณมโนนโม จององค์ซ้าย
    เหลือองค์ขวา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0056.jpg
      IMG_0056.jpg
      ขนาดไฟล์:
      235.1 KB
      เปิดดู:
      96
    • IMG_0057.jpg
      IMG_0057.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.8 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_0059.jpg
      IMG_0059.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.6 KB
      เปิดดู:
      93
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  8. w.สุรพล

    w.สุรพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,216
    ค่าพลัง:
    +4,544
    รายการที่ 611 สมเด็จปรกโพธิ์จิ๋ว หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>จององค์แรกครับ
     
  9. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 613 พระกรุ วัดนก อ่างทอง หลวงปู่ศุขปลุกเสก

    พระวัดนก(วัดสกุณาราม) อ่างทอง เป็นพระเนื้อผงน้ำมัน มีหลายสี สีเขียว สีเทา สีดำ สีขาว สร้างขึ้นเมื่อปี 2453 โดยหลวงพ่อแก้ว ซึ่งท่านเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท สร้างเรื่อยมาจนถึงปี 2475 โดยนิมนต์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมาร่วมปรกปลุกเสกด้วย เพราะเป็นสหธรรมมิกกัน แม่พิมพ์จึงมีศิลปะแบบเดียวกับพระเครื่องหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า เข้าใจว่าคงได้รับการแนะนำแม่พิมพ์โดยหลวงปู่ศุขครับ โดยพระเครื่องวัดนกจะเป็นเนื้อผงผสมว่าน108ที่มีฤทธิ์ทางเหนียวและผงประกำช้าง ซึ่งที่วัดสกุณารามแต่โบราณใช้เป็นที่พักช้างให้ช้างได้พักผ่อนอาบน้ำให้สะอาด ก่อนที่จะมุ่งหน้าเดินทางเข้าเมืองอยุธยาต่อไป ซึ่งเมื่อก่อนนี้เมืองอยุธยานี้ถือว่าเป็นเมืองหลวง
    ลูกประกำช้างนั้นเป็นวัสดุอาถรรพ์ช้างจะกลัวมาก หลวงพ่อแก้วได้นำมาตำผสมกับว่าน108และผงพุทธคุณและนำมาพิมพ์เป็นพระสมเด็จองค์น้อยที่แกะพิมพ์โดยการแนะนำจากหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นสหธรรมมิกที่สนิทกับหลวงพ่อแก้ว และยังได้นิมนต์หลวงปู่ศุขมาร่วมพุทธาภิเษกด้วยในฐานะที่สนิทสนมกัน ดังนั้นจะเห็นว่าพิมพ์สมเด็จวัดนกนั้นแม่พิมพ์จะมีความคล้ายคลึงกับพระเครื่องวัดปากคลองมะขามเฒ่าในหลายๆพิมพ์ เช่นพิมพ์ข้างอุเป็นต้นครับ
    พระสมเด็จวัดนกนั้นมีการสร้างกัน 2 ยุค คือ ยุคแรกจัดสร้างโดยหลวงพ่อแก้ว ประมาณปี 2453 ถึง 2475 พระยุคแรกจะมีสีเขียวกับสีเทา โดยชาวบ้านมักจะเรียกกันว่าเนื้อหินลับมีดโกน และได้มีการบรรจุกรุเพื่อสืบต่อพระศาสนาเอาไว้ด้วย ต่อมาเมื่อสิ้นยุคหลวงพ่อแก้วแล้ว พระปลัดเฟื้องได้สร้างขึ้นสืบต่อมาอีก เพราะแม่พิมพ์ยังไม่ได้ทำลาย พระปลัดเฟื้องได้สร้างตามแบบฉบับหลวงพ่อแก้วทุกประการ แต่สร้างด้วยเนื้อสีขาวกับสีดำ
    พระสมเด็จวัดนกนี้ ผู้เขียนเคยพบเห็นประสบการณ์มากับตัวเอง กล่าวคือได้มีการนำพระสมเด็จวัดนกและพระเครื่องอื่นๆไปทำการทดลองยิงกันในสนามยิงปืนของทางราชการ โดยให้นักแม่นปืนทำการทดสอบ ปรากฏว่าพระเครื่องหลายๆอย่างได้ยิงออก แต่กับพระสมเด็จวัดนกนั้นกับยิงออกแต่ไม่เคยโดยองค์พระเลย ขนาดยิงในระยะใกล้ ห่างองค์พระแค่ 1 คืบเท่านั้น กระสุนจะเบี่ยงออกซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก แต่พอลองนำพระสมเด็จวัดนกออก และนำก้านไม้ขีดไปปักแทนและทำการยิง ปรากฏว่าหัวไม้ขีดกระจุยทันที ทำให้เป็นที่ฮือฮากันอย่างมากในสนามยิงปืนครับ



    ให้บูชา 1200 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0062.jpg
      IMG_0062.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.7 KB
      เปิดดู:
      68
    • IMG_0063.jpg
      IMG_0063.jpg
      ขนาดไฟล์:
      184.9 KB
      เปิดดู:
      59
  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 614 นางกวักเนื้อผงยาจินดามณี วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิมปลุกเสก

    ให้บูชาองค์ละ 350 บาท เลือกซ้ายขวาครับ

    ปลุกเสกโดย

    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม
    หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก
    ฯลฯ

    closed
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0074.jpg
      IMG_0074.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.5 KB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_0075.jpg
      IMG_0075.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117 KB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_0085.jpg
      IMG_0085.jpg
      ขนาดไฟล์:
      291.8 KB
      เปิดดู:
      149
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  11. spartanmaya

    spartanmaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    598
    ค่าพลัง:
    +2,809
    จองครับ รายการที่ 609 เหรียญเสมาหลวงปู่เจียม วัดหนองยาว
     
  12. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 615 สมเด็จมารวิชัยฐานผ้าทิพย์ วัดไผ่ล้อม

    ให้บูชา 1250 บาท


    เป็นพระดีราคาเบาของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ขนาดเหรียญแม่น้ำคู้ที่ออกนอกวัดราคาไปถึง 4-5000 แล้วครับ เนื้อหามวลสารยังห่างไกลของวัดไผ่ล้อมมาก

    closed
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0076.jpg
      IMG_0076.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.2 KB
      เปิดดู:
      66
    • IMG_0077.jpg
      IMG_0077.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.8 KB
      เปิดดู:
      61
    • IMG_0083.jpg
      IMG_0083.jpg
      ขนาดไฟล์:
      265.8 KB
      เปิดดู:
      169
    • IMG_0084.jpg
      IMG_0084.jpg
      ขนาดไฟล์:
      265.9 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_0081.jpg
      IMG_0081.jpg
      ขนาดไฟล์:
      186 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_0082.jpg
      IMG_0082.jpg
      ขนาดไฟล์:
      168.5 KB
      เปิดดู:
      52
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  13. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    รายการที่ 605 พระกริ่งชินบัญชร ญสส นวะโลหะ ก้นอุดผงพรายกุมาร


    ผมขอจองรายการนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  14. kajit

    kajit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,656
    ค่าพลัง:
    +3,351
    รายการที่ 614 นางกวักเนื้อผงยาจินดามณี วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิมปลุกเสก<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>จององค์ซ้ายครับ
     
  15. amar

    amar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +606
    รายการที่ 615 สมเด็จมารวิชัยฐานผ้าทิพย์
    รายการที่ 614 นางกวักเนื้อผงยาจินดามณี
    องค์ที่เหลือ
    จองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  16. มโนนโม

    มโนนโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +775

    ขอจององค์ซ้ายครับ.....
     
  17. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,370
    ค่าพลัง:
    +7,301
    รายการที่ 611 สมเด็จปรกโพธิ์จิ๋ว หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>จององค์ 2 ครับ
     
  18. judo.yala

    judo.yala สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +15
    ไม่รู้ว่ารายการที่ 615 สมเด็จมารวิชัยฐานผ้าทิพย์ วัดไผ่ล้อม ยังมีอีกหรือเปล่าครับถ้ามี
    ขอจองสักองค์นะครับ<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  19. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,163
    ขอจององค์ขวานะครับท่าน
     
  20. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ได้โอนเงิน ๑๓๔๐ บาทเมื่อ๑๘ สค.เวลา๑๑.๑๗น. เป็นค่าพระ ๓รายการที่อยู่ดูในpmครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...