+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 กันยายน 2009.

  1. technology

    technology เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,097
    ผมขอรับรายการฟรี 553 ครับ

    ขอบคุณครับ
     
  2. ปัญจ

    ปัญจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    27,373
    ค่าพลัง:
    +88,082
    เมื่อวานนี้, 11:21 PM #2748
    dekdelta2

    วันนี้, 05:27 AM #2752
    dekdelta2

    นอนดึก ตื่นเช้า หรือไม่นอนกันเลยนี่
    เรียนชั้นคลินิก ไม่เหมือนเรียนห้องเรียนปกติ จัดสมดุลชีวิตดีๆ ล่ะครับ
     
  3. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ประชาสัมพันธ์ หนังสือเฉลยข้อสอบโควตามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    หนังสือเฉลยข้อสอบโควตามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    รวบรวมเทคนิคการทำข้อสอบ + ข้อสอบที่มากถึง 15 ปี รวมถึง 1500 ข้อ

    เฉลยละเอียด สอดแทรกเนื้อหา ระดับ basic biology รวมทั้ง basic medical science ที่สามารถใช้ในการสอบวิชาเฉพาะแพทย์, การสอบ PAT 2 ได้ครับ

    ทำข้อสอบและอ่านเฉลยหมด รับรองว่าจะเก่งชีววิทยามากขึ้นครับ

    ใช้ได้กับนักเรียนสายวิทย์ทุกคน ระดับ ม.ปลาย ครับ


    ซื้อฝากลูกฝากหลานกันได้นะครับ เล่มละ 169 บาท

    ค่าส่ง 20 บาท ขนาด A4 ความหนาประมาณ 260 หน้า

    เล่มนี้ผมเป็นผู้แต่งร่วมและบรรณาธิการครับ

    ใครมีลูกมีหลาน เอาไปฝากได้ มีจำหน่ายเฉพาะร้านหนังสือในภาคเหนือ

    ส่วนวิชาอื่นรอก่อนนะครับ ยังไม่มีเวลาตรวจเลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0080.jpg
      scan0080.jpg
      ขนาดไฟล์:
      500.7 KB
      เปิดดู:
      150
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2010
  4. ไวยวัฒน์

    ไวยวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +887
    รายการที่ 554 หนังสือเฉลยข้อสอบโควตามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    หนังสือเฉลยข้อสอบโควตามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    รวบรวมเทคนิคข้อสอบ +
    รายการนี้ลงด้วยรึครับ(ล้อเล่นนะครับ)
     
  5. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948

    ขอบคุณที่แนะนำครับ พอดีวันนี้ปลุกนาฬิกาตื่นเช้าไปหน่อย เลยเข้าเว็บก่อนไปราวน์ครับ ชั้นคลินิกก็โอเคนะครับ สนุกแต่เหนื่อยกว่าชั้นพรีคลินิกนิดหน่อย

    ส่วนกลางคืนก็หลับดึกอยู่แล้วครับ ช่วงนี้ชินกับการอยู่เวร ยังไงก็ขอบคุณสำหรับความหวังดีของพี่คับ
     
  6. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948

    ลงครับ ที่หายๆไปก็เอาไปปั่นเล่มนี้แหละครับ ตอนนี้กำลังปั่นพื้นฐานแพทยอยู่ แต่คงต้องรอเวลาที่ว่างกว่านี้ คงต้องเป็นปีหน้าแล้วล่ะครับ ลูกหลานใครติดตามผลงานของผมก็ซื้อเล่มเขียวเข้มของ Sci center เล่มนั้นผมก็แต่งหลักเหมือนกันครับ
     
  7. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 554 มีดีที่หลวงปู่ศุขปลุกร่วมเสก ปี 2461

    ตอนนี้พระหลายๆวัดวงการเริ่มยอมรับว่าหลวงปู่ศุขเสกแล้วนะครับ เช่น
    วัดเขาธรรมามูล วัดวิหารทอง ปรกวัดอนงค์ วัดส้มเสี้ยว วัดหัวหาด วัดคลองขอม(เนื้อทองเหลือง) กรุวัดนก อ่างทอง ฯลฯ

    .........................................................................

    ประวัติ
    หลวงพ่อโต
    วัดวิหารทอง อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    หลวงพ่อโต อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดวิหารทอง เป็นคนตำบลดงคอน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท และเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าที่ประวัติของท่านไม่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานแน่ชัด เป็นเพียงการเล่าขานสืบต่อกันมาจากผู้เฒ่าผู้แก่
    โดยกำเนิด เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2401 มรณภาพปี 2485 อายุได้ 83 ปี พรรษาที่ 53 บิดาชื่อเงิน มารดาไม่ปรากฏนาม มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4 คน ใช้นามสกุล ยอดดำเนิน
    หลวงพ่อชื่อ โต รักการบวชเรียนมาแต่เล็ก โดยลงมาอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศึกษาในสำนักใดไม่ปรากฏหลักฐาน คุณวุฒิในด้านบาลีและเปรียญได้เล่าเรียนมาแต่ไม่ได้เข้าแปลในสนามหลวง
    เมื่อท่านกลับมาจำพรรษาอยู่ ณ วัดวิหารทอง ในเวลานั้นพระอินทโมลีฯ ( หลวงพ่อช้าง ) วัดพระบรมธาตุวรวิหาร ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท และพระครูวิมลคุณากร ( หลวงปู่ศุข ) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท กำลังปรากฏชื่อเสียงโด่งดัง ท่านได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์ทั้งสอง ได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้มาพร้อมกับหลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    เมื่อท่านกลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดวิหารทอง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มาแต่โบราณได้ทะนุบำรุงซ่อมสร้างเสนาสนะ และถาวรวัตถุซึ่งกำลังชำรุดทรุดโทรมให้กลับคืนสภาพดีดังเดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระอุโบสถวัดวิหารทองเป็นของเก่า ฝีมือช่างอยุธยามีลีลาอ่อนช้อยงดงามมาก ยากที่จะหาพระอุโบสถวัดอื่นใดจะงามเท่า
    ถาวรวัตถุที่ท่านได้สร้างไว้และหลงเหลืออยู่ก็คือมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท สำหรับศาลาการเปรียญ และกุฏิสงฆ์ได้ทรุดโทรม รื้อถอนสร้างเสริมขึ้นใหม่ทั้งสิ้นนอกจากท่านจะทะนุบำรุงซ่อมสร้างพระอุโบสถวัดวิหารทองแล้ว ท่านยังไปสร้างพระอุโบสถวัดดงคอน , วัดสกุณาราม , วัดโพธิ์ทอง , และวัดศีรษะเมือง สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอีกด้วย
    จากผลงานที่ท่านได้ทะนุบำรุงสร้างถาวรวัตถุไว้ในบวรพุทธศาสนาได้ยิ่งใหญ่มหาศาล เช่นนี้ ย่อมแสดงออกถึงคุณและเจริญวัตรของท่านนั้นจะต้องเป็นที่รวมศรัทธาแด่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั้งได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวงบ้านเชี่ยน (หันคา ) แต่ต่อมาท่านได้ลาออกจากตำแหน่ง ในสมัยสมเด็จมหาสมณเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวโรรส ดำรงตำแหน่งอธิบดีสงฆ์
    หลวงพ่อโต อดีตเจ้าอาวาสวัดวิหารทอง เป็นพระเถระ ซึ่งมีญาณแก่กล้ารูปหนึ่งบำเพ็ญสมาธิจนเกิดอภิญญาวาจาสิทธิ์ พูดคำใดเป็นคำนั้น เป็นผู้รักษาวาจาสัตย์ มีความรู้แก่กล้า สมกับเป็นศิษย์ของพระอินทโมลีฯ ( หลวงพ่อช้าง ) วัดพระบรมธาตุวรวิหาร ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท และพระครูวิมลคุณากร ( หลวงปู่ศุข ) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท โดยแท้จริง
    [​IMG]
    [​IMG]

    .............................................................................................................................................

    ประวัติหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง จ.ชัยนาท
    แทน ท่าพระจันทร์
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    [​IMG]
    เหรียญหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในอดีตหลายรูปด้วยกัน ในวันนี้ผมมีรูปเหรียญของหลวงพ่อโต วัดวิหารทองมาให้ชมกันครับ

    วัดวิหารทอง ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ตำบลเที่ยงแท้ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท เดิมเป็นวัดโบราณเก่าแก่ และเป็นวัดร้างเหลือเพียงองค์พระเจดีย์ ต่อมาเจ้าคณะเมืองสวรรคบุรี นามว่า "หลวงวัง" ซึ่งเป็นผู้ที่มีฐานะมั่งคั่ง ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ ให้กลับมามีสภาพเป็นวัดขึ้นใหม่โดยมีหลวงพ่อสอนเป็นเจ้าอาวาส ระหว่างในปีพ.ศ. 2453-2460 เมื่อท่านมรณภาพแล้ว หลวงพ่อเมฆ จึงได้เป็นเจ้าอาวาส ต่อมาจนถึงปี พ.ศ. 2465 หลวงพ่อโตก็ได้เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน

    หลวงพ่อโตท่านเกิดในปี พ.ศ. 2401 โยมบิดาชื่อโยมเงิน หลวงพ่อโตท่านเป็นพระที่มีกิตติคุณต่างๆ มากมาย ของขลังที่ท่านทำแจกลูกศิษย์มีผู้ได้รับประสบการณ์ต่างๆ หลายคน หลวงพ่อท่านได้พัฒนาวัดวิหารทองให้เจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้

    หลวงพ่อโตท่านเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ครั้งหนึ่งในงานทำบุญเลี้ยงพระประจำปี ได้มีเหตุการณ์คนร้ายกระตุกสร้อยคอ โดยมีผู้หญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นชาวบ้านในย่านนั้น ได้วิ่งร้องไห้มาบอกหลวงพ่อว่า ถูกคนร้ายกระตุกสร้อยคอทองคำหนักสองสลึงไป หลวงพ่อท่านก็ปลอบว่า "เดี๋ยวก็ได้คืนมันเอาไปไม่ได้หรอก" ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็สงสารเจ้าของสร้อยคอ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน อีกสักพักต่อมาก็มีคนร้ายนำสายสร้อยมาถวายให้กับหลวงพ่อโต หลวงพ่อก็เลยถามว่า "นึกอย่างไรจึงนำมาถวาย" คนร้ายรับสารภาพว่า "หาประตูทางออกจากวัดไม่เจอ วิ่งวนอยู่หลายรอบก็หาไม่เจอ เจอแต่กำแพงวัดทั้งนั้น ทั้งๆ ที่เคยเข้าออกประตูวัดอยู่ประจำ วิ่งจนเหนื่อยอ่อนไปหมดแล้วครับ คิดในใจว่าหลวงพ่อคงไม่ให้ออกจากวัดแน่ จึงนำสร้อยมาคืนครับ" หลวงพ่อจึงเทศนาสั่งสอนว่า "ไม่ใช่ของของเราอย่าไปเอาเป็นเงินร้อน นอนไม่เป็นสุข อีกทั้งจะต้องรับเคราะห์กรรมต่อไปในชาติหน้าอย่าทำอีกเลย" คนร้ายก็ให้สัจจะแล้วหลวงพ่อก็มอบสร้อยคืนเจ้าของไป

    หลวงพ่อโตท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเนื้อตะกั่วของหลวงพ่อโต ท่านนั้นท่านได้ขอเนื้อชนวนตะกั่วของหลวงปู่ศุขมาเทเป็น ชนวนด้วย เรื่องพุทธคุณนั้นหายห่วง ดีครบในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเมตตามหานิยม เขาว่ายอดเยี่ยมครับ หลวงพ่อโต ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2485 สิริอายุได้ 84 ปี พรรษาที่ 63

    วัตถุมงคลที่หลวงพ่อโต ท่านทำแจกศิษย์นั้นมีหลายอย่าง เช่น ตะกรุด ผ้าประเจียด แหวนพิรอด เหรียญหล่อ และเหรียญปั๊ม ในวันนี้ผมก็ได้นำรูปเหรียญปั๊มรุ่นแรกรูปหลวงพ่อโตมาให้ชมกันครับ ปัจจุบันก็หาชมได้ยากเหมือนกัน คนชัยนาทและท้องถิ่นเขาหวงมากครับ สนนราคาก็ค่อนข้างสูงพอสมควรครับ

    ด้วยความจริงใจ
    แทน ท่าพระจันทร์
    ที่มา...[​IMG]

    .................................................................................................................................................................
    อภินิหารในวัตถุมงคล
    1. ดิ่งพสุธา
    นายรอด บ้านอยู่ห้วยกรด อ.สรรคบุรี มีอาชีพขึ้นต้นตาลเอาน้ำตาล วันหนึ่งเกิดพลาดขึ้นมาได้ตกต้นตาลจากยอดลอยละลิ่ว มือกางตีนกางตกถึงพื้นดังเผละ ปรากฏว่าลุกขึ้นมาได้ไม่เป็นอะไรเลย ในตัวมีเหรียญอัลปาก้า รูปเหมือนเหรียญเดียว ซึ่งการตกต้นตาลนี้มี 2 กรณี คือ ตาย กับ พิการ แต่โดยมากตาย บางคนพูดว่า ท่านหลวงพ่อโตท่านสำเร็จวิชาหินเบา คือของหนักมาปะทะจะกลายเป็นเบา
    2. หินเบา
    นายแดง หรือ ประสิทธิ์ อิ่มเชื่ออยู่ เป็นคนบ้านเดียวกับผม เมื่อปีกว่าๆ มานี้ แกอ่านเจอว่าศูนย์สามแยกเกษตรมีเหรียญหลวงพ่อโตจำหน่าย แกจะไปเช่า บังเอิญ เฮียกวง เจ้าของศูนย์ไม่อยู่ แกเลยจ้างมอเตอร์ไซค์ไปที่ศูนย์ธนบุรีหรือไงนี่แหละผมไม่แน่ใจ ที่อยู่ตรงข้ามสมาคมแซ่ลิ้ม ปรากฏว่ามอเตอร์ไซค์คันของแกโดนรถฮีโน่ 6 ล้อ ชนแกอย่างจังชนตรงขา รถมอเตอร์ไซค์กระเด็นไปชนสะพาน คนขับรถเลือดทั้งตัว รถมอเตอร์ไซค์พังยับ นายแดงหลังจากโดนรถฮีโน่ชนขาแล้วยังกระเด็นออกไป หัวยังไปชนสะพานปูนดังโพละ หัวก็ไม่แตกเช่นกัน ในคอมีเหรียญพุทธลีลาเหรียญเดียว แสดงว่าหลวงพ่อโตสำเร็จวิชาหินเบาจริงๆ ผมได้ถามแกว่าก่อนที่จะโดนรถชนไม่รู้ตัวบ้างหรือ แกบอกรู้เลยหนังตาเต้นตลอดเวลาที่ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ แกนึกแต่ว่าแค่เฉี่ยวๆ เท่านั้น เลยไม่ยอมลงรถ

    3. เตือนภัย
    เรื่องนี้เกิดกับ นายลิ้ม บ้านอยู่ตลาดเก่า ตลาดสรรคบุรี เป็นร้านทอง ตลาดเก่านี้อยู่ใกล้กับวัดพระธาตุ แกขายของและเลี่ยมทองด้วย ผมเคยเจอแกเกือบ 10 ปีมาแล้ว แกเล่าว่า เตี่ยแกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อโต เลยมีวัตถุมงคลหลวงพ่อโตเป็นเหรียญหล่อรุ่นแรก แกนับถือมาก ถ้าแกไม่ได้คล้องคอแกจะเอาไว้ใต้หมอน บ้านแกสมัยก่อนมักจะมีคนมาจี้, ปล้น, งัดแงะประจำ เพราะเป็นร้านทอง แกบอกเวลามันมาทุกครั้งแกจะรู้ตัว ถ้าหมาไม่เห่าแกก็ตื่นเอง ถ้าไม่ตื่นเองก็นอนไม่หลับเฉยๆ แม้เวลาเดินทางถ้าจะมีเรื่องโดนจี้มักจะมีเหตุบอกจนรู้ตัวทุกครั้ง เช่น ลูกร้องอ้อนตาม, ตาเขม่น, จิ้งจกร้องทั้งบ้าน บางครั้งหล่นลงมาใส่จนแกรู้ตัวเลิกไปนั่นแหละจึงจะไม่มีเหตุการณ์บอก แกรอดจากการถูกจี้ ปล้นนับครั้งไม่ถ้วน และไม่เคยโดนจี้เลย
    อีกเรื่องหนึ่ง จ่าบุญชู เคยรับราชการ สภ.อ.หันคา สมัยเกือบ 10 ปีมาแล้ว แกเล่าให้ผมฟังว่า แกนับถือเพราะแกเคยไปล้อมจับเสือคนหนึ่ง แต่จะล้อมกี่ครั้งก็จับไม่ได้ เพราะเสือคนนั้นรู้ตัวทุกที เพราะจ่าเขามีพระหลวงพ่อโตใช้อยู่องค์หนึ่ง พิมพ์ยืน เนื้อชิน แกได้ไปล้อมจับคนร้าย คนร้ายรู้ตัวทุกที แกเอะใจ ครั้งหลังแกเลยถอดออกแขวนกิ่งไม้ไว้แล้วเข้าไปจับคนร้ายตอนเช้ามืด ปรากฏว่าแกจับได้ ดีใจมากเอาตัวคนร้ายไปส่งโรงพัก ปรากฏว่าลืมพระพอกลับมาดูพระ ปรากฏว่าหายไปแล้ว
    เอาอีกสักเรื่องหนึ่ง นายปทุม คนบ้านเนินขาม ไปรบสงครามลาว มี พระหลวงพ่อโต เนื้อชิน นั่ง ไปองค์หนึ่งพ่อให้มา ได้ไปลาดตระเวนปรากฏว่าข้าศึกรู้ตัวทุกครั้ง พอเจอกันก็ต่างคนต่างหนี แกเอะใจ ตอนจะไปลาดตระเวนใหม่ แกถอดพระหลวงพ่อโตออกแขวนกิ่งไม้แล้วไปลาดตระเวน ได้เจอกับข้าศึกและยิงข้าศึกตาย 3 คน ได้รับการชมเชย แกดีใจมาก กลับมาถึงแคมป์ปรากฏว่ามือดีลักหลวงพ่อโตเอาไปแล้ว
    เอาอีกสักเรื่องน่า เรื่องสุดท้าย เรื่องนี้ได้รับการบอกเล่าจาก มหาทองอยู่ ประภัทรสโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดวิหารทอง เนื่องจากพระครูพิมพ์ไปสร้างศาลาที่วัดสนามชัย ท่านเล่าว่า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวัดนก ไม่ขอเอ่ยชื่อ ได้ไปลักเครื่องเขา เจ้าของได้เอาพ้อมครอบเครื่องเอาไว้ และเอาหมาพันธุ์ฝรั่งตัวเล็กๆ เฝ้าไว้ โดยให้นอนบนพ้อมอีกทีหนึ่ง ผู้ช่วยคนนี้คงจะไม่รู้ว่าพระหลวงพ่อโต
    ไม่ให้เอาไปขโมย แกได้เข้าไปขโมยเครื่องเขากับเพื่อนปรากฏว่าหมาตื่น จะเข้าไปกี่หนก็ตื่น เห่าทุกครั้ง แกเลยให้เพื่อนอยู่ข้างนอก แกเอากระสอบไปครอบหมาแล้วอุ้มหมาออกมาทั้งๆ ที่เห่า แกเอาหมาออกมาทุบตายแล้วเข้าไปใหม่ เข้าไปแกะเครื่อง (เข้าใจว่าเครื่องรถไถ) คราวนี้แกได้ยินเสียงนกสับไกปืน 3 ครั้ง แสดงว่ายิงไม่ติด แกได้วิ่งออกมา คราวนี้ยิงออก เขาใช้เหรียญรุ่นแรก
    ความผูกพันในศิษย์อาจารย์
    เกี่ยวกับผมเองกับท่านหลวงพ่อโต ท่านแปลกมาก ไม่ว่าผมจะเดือดร้อนอย่างไร บอกกับท่านท่านไม่เคยช่วยเหลือเลยสักครั้งเดียว แต่แปลกถ้าท่านจะช่วยเหลือท่านจะช่วยเอง เช่นมาปลุกให้ตื่นเมื่อมีเหตุร้ายหรือมีภัย เป็นต้น พระเครื่องของท่านติดตัวผมมาสิบกว่าปี ช่วยให้รอดพ้นอันตรายนับครั้งไม่ถ้วน
    คาถาแก้หลังสะดุ้ง
    หลังสะดุ้งเกิดจากเส้นด้านหลังอักเสบหรือพลิก โดยมากเกิดกับคนมีอายุ ถ้าเป็นหลังสะดุ้งให้หาหมากมา 3 คำ คือ พลูป้ายกับปูน โดยถวายหลวงพ่อโต 1 คำ กินเอง 1 คำ (ถ้าคนอื่นมาวานให้รักษา) และเอาไปนอนทับอีก 1 คำ เวลากลางคืนให้ทับบริเวณที่หลังของคนเจ็บสะดุ้ง ให้ภาวนาคาถาพร้อมทั้งระลึกถึงท่านหลวงพ่อโตว่า “อมมะระกะโต บอกกับหลวงพ่อโต หายกัน” ให้ภาวนาคาถานี้จนกระทั่งหลับไป อาการหลังสะดุ้งของคนป่วยจะหายไป แต่ห้ามเรียกร้องเงินทองนอกจากหมาก
    ถ้าเป็นความกันแต่เราไม่ผิด ให้เขียนชื่อศัตรูลงในใบพลู แล้วเอาปูนป้ายทับ แล้วเอาไปนอนทับภาวนาคาถานี้เช่นกัน จะเลิกแล้วต่อกัน คาถานี้เป็นคาถาเกี่ยวกับจิต เข้าใจว่าให้ระลึกถึงท่าน ท่านจะสามารถช่วยเหลือได้นั่นเอง ถ้าจะเรียนไว้ก็จุดธูปบอกท่านเรียนกันได้เลย ถ้าเป็นความกันก็ใช้หมาก 3 คำ เช่นกัน
    มรณภาพแล้วยังคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์
    ที่วัดวิหารทอง เมื่อหลวงพ่อโตมรณภาพไปแล้ว ทางศิษย์และกรรมการวัดได้ปั้นรูปหลวงพ่อโตขึ้น แบบรูปหล่อ โดยใช้ดินและผงวิเศษสีขาว ภายในบรรจุอัฐิของท่านที่รูปหล่อนี้ คนอำเภอสรรคบุรีและใกล้เคียงเมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนมักจะมาบอกกล่าวบนบานต่อท่าน แม้เมื่อมีการก่อสร้างเมรุขึ้น ยังนิมนต์ท่านเป็นประธานการก่อสร้าง
    ครั้งหนึ่ง กรรมการวัดเงินหมด มีเงินเหลือ 800 บาท ได้จุดธูปบอกท่านว่าเงินหมดแล้ว ขอให้ผู้มีจิตศรัทธานำเงินมาร่วมในการก่อสร้าง ปรากฏว่าอีก 4 วันต่อมา มีผู้นำผ้าป่ามาทอด จำนวน 40,000 บาท โดยการนำของ นายสำราญ อ่ำบัว และชาวกรุงเทพฯ
    อีกครั้งหนึ่งคือ วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 เวลา 09.09 น. ทางวัดได้ขุดหลุมก่อสร้างเมรุ โดย นายช่างสัมฤทธิ์ ไป๋งาม เป็นหัวหน้าควบคุมการก่อสร้าง ขณะขุดหลุมวางฐานมีเมฆฝนตั้งเค้ามืดครึ้มจะตกลงมา คณะกรรมการได้จุดธูปบอกหลวงพ่อขออย่าให้ฝนตก ปรากฏว่าเมื่อเมฆลอยมาใกล้ก็ฉีกออกเป็นสองทาง ฝนไม่ตกบริเวณวัดเลยแต่ไปตกที่อื่น เมื่อเทฐาน ตั้งเสา เทปูนฝ้าเสร็จประมาณ 10 วัน คนงานประมาณ 100 คน บ่นบอกว่าร้อนอบอ้าว คณะกรรมการวัดจึงจุดธูปบอกหลวงพ่อขอให้ฝนตก (ขอบ่อยเหลือเกิน) ประมาณ 15.00 น. ของวันนั้น ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก คนงานต้องหลบฝนบนศาลาคลายร้อนได้ทันตา ขณะที่ดำเนินการก่อสร้างเมรุนี้ มีของหาย มีคนขโมยนาฬิกาแขวนบนศาลา, เหยือกน้ำ, แก้วน้ำ, หม้อ, กระทะ ฯลฯ บนศาลาการเปรียญไป คณะกรรมการได้จุดธูปบอกหลวงพ่อขอให้ได้ของคืน ปรากฏว่าขโมยได้นำของทั้งหมดใส่กล่องอย่างดีเอามาคืนไว้ที่ศาลาครบทุกรายการ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก
    มรณะสัญญาณและมรณภาพ
    หลวงพ่อโตได้ดูแลก่อสร้างโบสถ์ วิหาร และศาลาการเปรียญให้วัดต่างๆ จนกระทั่งอายุประมาณ 81 ปี หลวงพ่อมีดำริว่าจะบูรณะวัดมเหยงค์ ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับวัดห่างออกไปทางเหนือประมาณครึ่งกิโลเมตร และมีดำริจะบูรณะวัดเรไลย์ ซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำซึ่งเป็นวัดร้าง (ปัจจุบันเป็นวัดร้าง แทบไม่เหลือเนื้อที่ของวัดอยู่เลย อยู่หน้า ร.ร.อนุบาลสรรคบุรี) และที่วัดมเหยงค์นี้เอง คืนวันหนึ่งท่านเดินผ่านวัดมา ท่านได้มายืนพิจารณาเพื่อบูรณะวัด บังเอิญท่านปวดเบา พอท่านถ่ายปวดเบาเสร็จท่านก็เดินออกมาที่ถนน ซึ่งเป็นสวนของชาวบ้านด้วยอำนาจกรรมเก่า ทำให้ท่านตกลงไปในหลุมขวากที่เจ้าของสวนขุดหลุมดักขโมย พอท่านได้สติเท้าของท่านทั้ง 2 ข้างก็เหยียบลงที่ปลายขวาก ด้วยน้ำหนักตัวที่มากประมาณ 80 กิโลกรัมเศษ เท้าของท่านได้เหยียบขวากมิดถึงพื้นดิน ทำให้เท้าของท่านเป็นรองช้ำ แต่ขวากไม้ไผ่ไม่สามารถตำเท้าของท่านได้เลย แต่ก็ทำให้ท่านเดินไม่สะดวก และไม่ได้มาวัดมเหยงค์อีกเลย จนกระทั่งอายุ 82 ปี พรรษา 62 สามเณร 13 พรรษา เดือน 8 ปีมะโรง พ.ศ.2483 ท่านก็มรณภาพด้วยโรคชรา ยังความเศร้าโศกเสียใจต่อศิษย์เป็นอย่างสูง ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ 1 ปี ท่านได้นอนนั่งภาวนาอย่างเดียว เมื่อมีศิษย์มาขอวัตถุมงคลท่านจะพูดว่าวัตถุมงคลของท่าน เสือ, โจร, ขโมย จะเอาไปใช้ไม่ได้ผลเลย ให้ดูกูเป็นตัวอย่าง เพราะขโมยแท้ๆ จึงทำให้เจ้าของสวนเขาขุดหลุมขวากเพื่อกันขโมยกันทรัพย์สิน กูขอสาปแช่งไว้เป็นสัจจะวาจา
    ทายาททางอาคม
    หลวงพ่อโตมรณภาพด้วยโรคชรา เพราะตรากตรำในการก่อสร้างและทำนุบำรุงพระศาสนาตลอดชีวิตท่าน พออายุครบ 7 ขวบ ก็บวชเป็นสามเณรเลย นับว่าหาได้ยากมาก ในสมัยที่พระครูพิมพ์เป็นเจ้าอาวาสวัดวิหารทอง ท่านได้สร้างเหรียญหลวงพ่อโตไว้ 1 รุ่น และที่วัดดงคอน (โคกดอกไม้) พระครูพร้าได้เคยสร้างเหรียญรูปท่าน แกะพิมพ์คล้ายของเดิม แต่เขียนว่า วัดดงคอน มีเซียนบางคนได้ขูดชื่อวัดออก และนำไปหลอกจำหน่ายเป็นเหรียญรุ่น 1 ปัจจุบันที่วัดดงคอนได้สร้างมณฑป (สร้างไว้หลายปีแล้ว) สร้างไว้ด้วยความเคารพ และตั้งใจสร้างสวยงามมาก เจ้าอาวาสชื่อพระครูพร้า มีศักดิ์เป็นหลานของท่าน อายุประมาณ 80 ปีได้ ดูดวงชะตาพอได้ รดน้ำมนต์พอได้ ในอำเภอสรรคบุรีถ้ามีงานพุทธาภิเษกจะขาดท่านไม่ได้เช่นกัน วัตถุมงคลมีจำหน่ายบ้างเป็นครั้งคราว เช่น พระสมเด็จ, พระพิมพ์สรรค์ 9 คนแถววัดให้ความเคารพยำเกรงมาก
    วัดดงคอนอยู่ห่างที่ว่าการอำเภอไม่ไกลนัก จะมีรูปหล่อของขุนสรรค์ วีรบุรุษแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย เป็นผู้หนึ่งที่รวบรวมคนร่วมกับชาวบ้านบางระจันต่อสู้กับพม่า มีความศักดิ์สิทธิ์มาก แต่ทุกครั้งที่ผมผ่านไปผมอดสะเทือนใจไม่ได้ “วีรบุรุษยามมีชีวิตอยู่ก็ต้องต่อสู้กับข้าศึก อดอยากลำบากมาก ยามเมื่อตายไปแล้วยังต้องมายืนตากแดดอีก” ผมว่าอย่างน้อยควรจะทำฉัตรกันแดดให้ท่าน และขอสมมุติยุติประวัติและอภินิหารหลวงพ่อโตแต่เพียงนี้
    ภาคผนวก
    วัดวิหารทองนี้ เดิมมีที่ดิน 2 ฝั่ง แม่น้ำ แต่ภายหลังได้ปรับพื้นดินฝั่งตะวันตกเพื่อก่อสร้างที่ว่าการอำเภอ ได้พบพระพิมพ์ ทั้งเนื้อดิน, เนื้อชิน และเนื้อว่าน บอกชื่อท่านและ พ.ศ. ที่สร้าง ในเจดีย์คนตายมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมมากคือ เนื้อชินเงิน ทั้งนั่งและยืน
    ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2540 ทางวัดได้ทำการรื้อศาลาหลังเก่า ได้พบพระพิมพ์ปิดตา เนื้อผงสีขาว โดยแอบซุกซ่อนไว้ที่หัวเสา โดยเจาะหัวเสาเอาไว้ เซียนพระมีความคิดเห็นตรงกันว่า ผงอิทธิเจสีขาว หลวงพ่อโตคงจะได้มาจากหลวงพ่อปากคลองมะขามเฒ่า แล้วหลวงพ่อโตได้สร้างเป็นพระปิดตาขึ้นโดยผสมทรายเสก เมื่อผงยุบตัวทรายเสกเลยผุดให้เห็น พระชุดนี้แตกกรุออกมาประมาณ 500 องค์ แต่แทนที่จะได้เงินจำหน่ายเป็นทุนในการก่อสร้าง แต่กลับเป็นว่าใครมือยาวสาวได้สาวไป
    วัตถุมงคลอีกแบบหนึ่งที่หลวงพ่อได้รับนิมนต์ปลุกเสกและไม่ได้กล่าวเอาไว้คือ เหรียญรูปพระพุทธรุ่นแรก คือ เหรียญหลวงพ่อหินเขื่อน (เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท) หลวงพ่อได้ร่วมกันปลุกเสกกับหลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม อีกองค์หนึ่งจำไม่ได้เสียแล้ว
    คาถาขอดชายผ้า
    หลวงพ่อโตเคยขอดชายผ้าให้เสือหว่างขณะหนีตำรวจ คาถานี้ผมได้เรียนและถ่ายทอดเอาไว้ ใครจะเรียนให้จุดธูป, ดอกไม้, ธูป, เทียน ใส่พานขอเรียนต่อหน้ารูปถ่ายท่าน จะขอด 3 ขอด 5 ขอด 7 ขอด ก็ได้ แต่ต้องขอดแบบพิรอด คาถาว่าดังนี้
    “นะอุตตะรังปิจะ (3 จบ)
    นะใยยะนะ พระอะ
    ระหังพุทโธ นะโม
    พุทธายะ”

    ผ้าขอดนี้ตำราเดิมเป็นของหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว หลวงพ่อเฒ่าได้ตำรามาจากสมเด็จพระวันรัต วัดป่าแก้ว อาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวร หลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง เคยขอดให้ทหารไปรบที่เกาหลี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เคยขอดให้ โผน กิ่งเพชร ผมผู้เขียนให้ไว้เป็นทาน
    ( ที่มา : ลานโพธิ์ ฉบับที่ 966 เดือนมกราคม 2550 : หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง ยอดพระอาจารย์แห่งชัยนาท
    ภาพและเรื่องโดย..ฅน เมืองสรรค์ )



    เหรียญยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (ชินราช) สร้างปี 2461 จากประวัติในหนังสือเซียนพระว่าคนรุ่นเก่าต่างรู้ว่าหลวงพ่อโต ท่านได้นำไปให้หลวงปู่ศุข เสกเป็นองค์ปฐมฤกษ์จากนั้นท่านได้นำพระกลับวัด แล้วมาปลุกเสกตามวิชาไปเรื่อยๆ จนแจกหมดครับ พระชุดนั้นมีทั้งเนื้อตะกั่วหล่อ และทองเหลืองหล่อครับ

    ให้บูชา 1300 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6849.jpg
      IMG_6849.jpg
      ขนาดไฟล์:
      193.3 KB
      เปิดดู:
      186
    • IMG_6850.jpg
      IMG_6850.jpg
      ขนาดไฟล์:
      169.2 KB
      เปิดดู:
      148
  8. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ลงรายการเดียวนะครับ วันนี้
     
  9. arjarhnnop

    arjarhnnop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37,321
    ค่าพลัง:
    +76,428
    ขอจองรายการนี้ครับ.......................
     
  10. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ฮั่นแน่ อ.นพ แอบมาเก็บของดีไปซะแล้ว :cool:
     
  11. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    เด็กเดลต้า ของเขาดีจริงๆ นำวัตถุมงคลสายลป.ศุขมาลงอีกนะครับ
     
  12. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ขอบคุณที่ติดตามนะครับ วัตถุมงคที่หลวงปู่ศุขอธิษฐานส่วนใหญ่ถูกคนตาดี เก็บเอาไปเกือบหมดแล้วครับ ขนาดวัดส้มเสี้ยว วัดหัวหาดยังเปิดกัน 3-5 หมื่นเลยครับ
     
  13. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 555 เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อทาบ วัดกระบกต้นผึ้ง

    ให้บูชา 1909 บาท

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อทาบ วัดกระบกต้นผึ้ง

    ปี 2503 สวยๆ เหรียญละ 7-9000 บาท

    เหรียญนี้สภาพใช้ 70 % แต่มีดีที่ มีสีผึ้งเขียวติดอยู่ด้านหลังเหรียญเล็กน้อยครับ

    พุทธคุณมหานิยมอย่างเดียว

    ......................................................................

    <TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=5 cellPadding=8 width=600 border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=600 colSpan=3>พระครูอรรถโกศล หลวงพ่อทาบ นครปุญโญ
    โดย... จ. สวนหลวง



    </TD></TR><TR><TD align=left width=600 colSpan=3>
    พระอาจารย์ที่สนิทสนมกับท่านมักจะนิมนต์ให้ท่านไปร่วมงานด้วยเสมอ ไม่ใช่ว่าท่านจะเป็นพระชั้นผู้ใหญ่หรือเจ้าคณะตำบลอะไรแต่ด้วย ความเคารพนับถือเป็นการส่วนตัวอีกทั้งเลื่อมใสท่านไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อนิดวัดทับมา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อหอม วัดชากหมากนี้นับถือกันมาก เคยเดินธุดงค์ร่วมกันหลายคราว หลวงพ่อดิ่ง วัดบ้านค่ายก็นับถือ กันมาก เสียดายที่ท่านอายุน้อยและสร้างพระเครื่องน้อยไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของท่านจะดังไม่น้อย นอกจากนี้ท่านสนิทสนมกับหลวงพ่อเฮี้ยง และหลวงพ่อศรี วัดอ่างศิลาอย่างมาก ไปมาหาสู่กันเสมอ ๆ
    พระสงค์ที่พาพระเณรออกเดินธุดงค์ไปทางวัดกระบกขึ้นผึ้ง มักจะพากันเข้าไปทำวัตรและพักอย่างน้อยหนึ่งคืน แล้วถึงจะออกเดินทางต่อไป แม้แต่การทดลองทดสอบวิชาจากพระธุดงค์หรือพวกกระเหรี่ยง พวกชาวลาวที่ไป ขายผ้าขายของป่าตามที่ต่าง ๆ แต่พอเวลาใกล้ค่ำก็มาขอพักที่วัด ท่านรู้ดีว่าคนพวกนี้บางคนนิสัยดีเคารพในสถานที่ บางคนก็อวดเก่งชอบลองดีดูว่าเจ้าอาวาสจะเก่งไหม ผู้ที่ชอบลองกับท่านนั้นบางรายท่านดัดนิสัยเสียจนไม่ต้อง นอนเลยทั้งคืน พอเช้าเข้าไปกราบขอขมาท่านแล้วก็รีบเดินทางไปจากวัดทันที
    เมตตาสูง พระอาจารย์ต่าง ๆที่เล่าเรียนวิชาจากพรอาจารย์นั้น บางรูปชอบทางคงกระพันชาตรี บางรูปชอบทางรักษาโรคบางรูปเก่งทาง ลงหมึกลงน้ำมัน บางรูปเก่งทางแก้อาถรรพณ์ ท่านเองมีครบครัน แต่ท่านมุ่งไปทางมหานิยมทางเมตตา ทางเจริญทรัพย์ ทางค้าขาย เพราะใคร ๆ ก็ต้องการผู้คนที่มีของดีท่านไปไหนจะรอดพ้นอันตราย จึงเป็นที่นิยม ของพวกหนุ่ม ๆ กันมาก ที่พวกเขาต่างต้องการ
    สีผึ้งยอดขลัง สีผึ้งของท่านเป็นสีผึ้งที่มีสีแปลกอย่างมาก ผิดจากสีผึ้งของพระอาจารย์อื่น ๆ ของหลวงพ่อหอมนั้นท่านจะปลุกเสกตั้งแต่เช้าไปจนถึงพระอาทิตย์ตรงศีรษะ หรือเพลพอดีเป็นอันใช้ได้ แล้วการปลุกเสกของท่านต้องปลุกเสกที่กลางแจ้ง ทำครั้งหนึ่งมากพอสมควรแล้วมี ความขลังมาก ท่านจะใช้สีผึ้งที่ซื้อมาจากร้านในตลาด บางครั้งศิษย์ของท่านก็ซื้อไปให้เยอะ อย่างสีผึ้งเจ็ดจันทร์เจ็ดอังคารของหลวงพ่อรัตน์ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ต้องครบ 7 จันทร์ 7 อังคาร ถึงจะขลังเด่นทางมหานิยมทางค้าขาย สีของสีผึ้งจะเหลืองปนขาว แต่ของหลวงพ่อทาบสีจะเขียวมีส่วนผสมของ ว่านบางชนิดที่มีสรรพคุณทางมหานิยมพอเอาไว้สักพักหนึ่งหลังจากที่เคี่ยวแล้วจะออกสีเขียว แต่แรกจะออกสีน้ำตาล การปลุกเสกนั้นลงทางมหานิยมทางมหาเสน่ห์ ทางเมตตาทั่ว ๆ ไป แต่เด่นทางมหาเสน่ห์ยิ่ง พวกหนุ่ม ๆ ต่างเดินทางไปแวะเวียนขอกันมาก เรื่องอันเกิดมาจากศิษย์ของท่านคนหนึ่งเป็นคนทำมาหากิน ขยันทำงานแต่ ด้วยฐานะยากจน ท่านให้สีผึ้งไปแล้วชีวิตก็ดีขึ้นเขามีภรรยารูปร่างหน้าสวยงามฐานะดี นี่เองจึงเป็นที่ต้องการ ของคนหนุ่ม ๆ ยิ่งนัก แต่ท่านใช่จะให้ใครง่าย ๆ บางคนท่านให้แต่ว่าต้องรับสัจจะกับท่านก่อนว่า เมื่อได้ตามที่ ประสงค์แล้วห้ามผิดสาบานหรือสัจจะเป็นอันขาด ถ้ารับได้ท่านถึงให้สีผึ้งนั้นเพียงแค่หัวไม้ขีดเท่านั้นเอง แต่แล้วต้องห้ามใช้อีกเลย การทำสีผึ้งของท่านนั้นมีสรรพคุณสูงยิ่ง แต่ว่าถ้าใช้ไม่มีจะบังเกิดโทษทันที ท่านจึงไม่ยอมให้ใครนัก จึงได้เอาว่านที่มาใช้ผสมคั้น เอาน้ำทำสีผึ้งนั้นมาผสมทำพระเครื่องพร้อมด้วยสีผึ้ง ของท่านผสมทำพระเครื่องไปเลย
    พระเครื่องของท่านที่เป็นพระสมเด็จยุคแรกนั้นจะมีความหนาพอสมควร สมัยก่อนนั้นจะพบเห็นตามแผงพระเครื่องทั่วๆ ไปบ่อยมาก แต่ไม่มีใครที่จะรู้จักกันนัก นอกจากคนใน ท้องถิ่นที่มาพบเข้าถึงจะรู้ว่าเป็นของท่านหรือคนที่เคยพบเห็นมาแล้ว เนื้อพระของท่านยุคนั้นจะออกสีแดงปนเขียว บางองค์ปนน้ำตาล ด้านหลังสังเกตให้ดีจะมีคราบของสีผึ้งหลังจากนั้นท่านก็สร้างขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เนื้อพระจะออกสีเขียว มีความละเอียดอย่างมาก พระเครื่องของท่านเป็นพระพิมพ์สมเด็จที่ทรงจะแตกต่าง จากพระสมเด็จของพระอาจารย์ทั่ว ๆ ไป ดูแล้วจะคล้าย ๆ กับพระสมเด็จของวัดเกศไชโยเหมือนกัน วงแขนจะกว้างเหมือนวงกลมรี อกพระจะเป็นร่องกรอบซุ้มนั้นจะมีทั้งกรอบซุ้มกระจก และซุ้มโค้งชั้นเดียว ใบหูกว้างยาวมาถึงไหล่ ใบหน้าใหญ่เกศแหลมแบบเกศพระพุทธทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือพระเชียงแสนลาว หรือเชียงรุ้ง


    </TD></TR><TR vAlign=center><TD align=middle width=200>[​IMG]</TD><TD align=middle width=200>เหรียญรุ่นแรกสภาพสมบูรณ์ </TD><TD align=middle width=200>[​IMG]



    </TD></TR><TR><TD align=left width=600 colSpan=3>
    พระปิดตา พระปิดตาของท่านเนื้อจะแตกต่างจากพระสมเด็จ พระปิดตาของท่านเนื้อจะออกสีดำผง ไม่ละเอียดแต่มีความแห้งแกร่ง เพราะพวกว่านผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมนั้นบดไม่ละเอียด มีด้วยกันหลายพิมพ์ บางพิมพ์ มีเส้นเกศาของท่านผสมด้วย ส่วนมากจะปิดทองที่องค์พระ ความหนาขององค์พระนั้นแตกต่างกัน
    เหรียญรูปเหมือน เหรียญรุ่นแรก ของท่านจะเป็นรูปไข่ ด้านหน้ารูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ ห่มจีวรรัดดอกไม้ ใต้รูปหลวงพ่อมีภาษาไทยเขียนว่า หลวงพ่อทาบ
    ด้านหลังเหรียญ เป็นยันต์สี่เหลี่ยมในยันต์นั้นมีตาขอมอ่านว่า นัง มิ สะ แถวที่สองอ่านว่า ธัง และเป็นองค์พระมียอดอุณาโลมและตัวขอมอ่านว่า ยะ แถวล่างสุดมีตัวขอม อ่านว่า นา วิ พุธ อันเป็นหัวใจทางมหานิยม ทางแคล้วคลาด เหรียญรุ่นแรกนี้ดูจะเป็นเหรียญเรียบ ๆ แต่ว่าราคาการเล่าหาเวลานี้อยู่ที่พันต้น ๆ ครับ
    เหรียญรุ่นสอง เหรียญรุ่นสองทรงจะคล้ายสีเหลี่ยม รูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ เหนือศีรษะ เขียนว่า พระครูอรรถโกศล ทรงเหรียญของท่านจะแปลกกว่า เหรียญพระอาจารย์ทั่วๆ ไป เหรียญรุ่นสองนี้จะเห็นแต่ในภาคตะวันออก นาน ๆ ครั้งจะมีเห็นตาม สนามพระในส่วนกลางบ้าง แต่ก่อนพอจะหาได้ง่าย ปัจจุบันราคาแพงเลยไม่ค่อยมีใครจะเช่าหามีแต่จะปล่อยกัน เหรียญรุ่นสองของท่านจะเด่นทางด้านเมตตามหานิยมไม่แพ้เหรียญรุ่นแรก นอกจากนี้ก็มีผ้ายันต์แบบต่าง ๆ รุ่นแรก ๆ ท่านจะเขียนด้วยมือของท่านเอง มาระยะหลังคนต้องการเยอะ ท่านเลยให้ช่างทำขึ้น โดยท่านผู้กำหนด ยันต์และอักขระต่าง ๆ ผ้ายันต์ของท่านดีทางค้าขาย พวกแม่ค้านิยมกัน บูชาติดบ้านเรือนก็ดี แล้วก็มีพวกตะกรุดโทน ซึ่งเอาแน่นอนไม่ได้ มีทั้งแบบตะกรุดเปลือยและตะกรุดที่ถักเชือก พ.ศ. 2505 ท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้น อีกครั้งหนึ่งตามความต้องการของบรรดาศิษย์ และเพื่อให้ทางวัดเก็บเอาไว้มอบให้กับชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญ เพื่อนำรายได้มาใช้ต่าง ๆ ในวัดนั้น พระเครื่องของท่านรุ่นนี้ก็มีหลวงปู่ทิม อิสสริโก วัดระหารไร่ หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก หลวงพ่อวรพรต วัดป่า ชลบุรี และพระอาจารย์ในจังหวัดระยองอีกหลายรูป ร่วมกันปลุกเสกใน โบสถ์ มีหลวงพ่อทาบ ท่านเป็นประธานการปลุกเสกจัดแบบเงียบ ๆ แต่มีอิทธิคุณสูงมาก
    มรณกาล เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีผู้ใดจะหนีไปได้สักรายเดียว บางท่านป่วยมานานต้องทนทุกข์ทรมาณ บางท่านก็ไปอย่างฉับพลัน ไม่มีความทุกข์ความเจ็บป่วยแต่ประการใด เมื่อท่านชราภาพร่างกายของท่านอ่อนแอลง แต่กระนั้นท่านก็ยังพูดอบรม สั่งสอนพระเณรให้อยู่ในศีลให้ปฏิบัติ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมแล้วให้ทำไว้ ถ้าช่วยได้มากยิ่งดี แล้วท่านก็จาก ไปในที่สุด เมื่อปี พ.ศ. 2509 สิริรวมอายุของท่านได้ 89 ปีเศษ เหลือไว้แต่ชื่อเสียงของท่านที่ปรากฏมาจนทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในพระอาจารย์ที่คนนับถือมากรูปหนึ่งในระยอง สำหรับท่านนักนิยมสะสมพระเครื่องแล้วหากว่าถ้าไม่อาจที่ จะหาของดีหลวงปู่ทิม หลวงปู่เฮี้ยงหรือหลวงพ่อหอมมาบูชาได้ก็ใช้หลวงพ่อทาบแทน รับรองว่าไม่ผิดดหวังแน่ แต่ที่สำคัญคือผู้มีพระเครื่องต้องปฏิบัติดีด้วยนะครับถึงประสบผล


    </TD></TR><TR vAlign=center><TD align=middle width=200>[​IMG]</TD><TD align=middle width=200>เหรียญรุ่นแรกสภาพผ่านการใช้งานมามาก </TD><TD align=middle width=200>[​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • df.jpg
      df.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105 KB
      เปิดดู:
      284
    • cd.jpg
      cd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.4 KB
      เปิดดู:
      239
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2010
  14. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 556 พระมงคลมหาลาภ พิมพ์กลาง หลังเรียบ วัดสารนารถธรรมาราม ปี 2499

    ประวัติทราบกันดีนะครับ ว่าสร้างจากผงกูโบ้ส และมีเกจิอาจารย์มากมาย โดยเฉพาะสายกรรมฐานตั้งแต่ หลวงพ่อลี หลวงปู่ฝั้น พระอาจารย์สิงห์ หลวงปู่ดูลย์ รวมทั้ง แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม

    องค์นี้แบบไม่ลงกรุ เนื้อจัดสวย ไม่ขาวแบบปี 2506 ครับ


    ให้บูชา 2900 บาท

    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • am.jpg
      am.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.9 KB
      เปิดดู:
      187
    • er.jpg
      er.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.8 KB
      เปิดดู:
      222
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2010
  15. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 557 พระพุทโธน้อย พิมพ์เล็ก แบบสวยๆครับ

    พุทโธน้อย เนื้อดินผสมปูนแดง หน้าตุ๊กตา อธิษฐานธรรมโดย อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม

    พระติดหน้าติดตา ฐานบัวครบ

    สวยครับองค์นี้

    ให้บูชา 3200 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ปกก.jpg
      ปกก.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.4 KB
      เปิดดู:
      233
    • ปกหแ.jpg
      ปกหแ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.2 KB
      เปิดดู:
      179
  16. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,974
    ค่าพลัง:
    +5,388
    ที่ 555 เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อทาบ วัดกระบกต้นผึ้ง<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ให้บูชา 1909 บาท

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อทาบ วัดกระบกต้นผึ้ง

    ปี 2503 สวยๆ เหรียญละ 7-900 บาท

    เหรียญนี้สภาพใช้ 70 % แต่มีดีที่ มีสีผึ้งเขียวติดอยู่ด้านหลังเหรียญเล็กน้อยครับ

    พุทธคุณมหานิยมอย่างเดียว

    ......................................................................

    <TABLE border=0 cellSpacing=5 borderColor=#ffffff cellPadding=8 width=600><TBODY><TR><TD width=600 colSpan=3 align=middle>พระครูอรรถโกศล หลวงพ่อทาบ นครปุญโญ
    โดย... จ. สวนหลวง


    </TD></TR><TR><TD width=600 colSpan=3 align=left>
    พระอาจารย์ที่สนิทสนมกับท่านมักจะนิมนต์ให้ท่านไปร่วมงานด้วยเสมอ ไม่ใช่ว่าท่านจะเป็นพระชั้นผู้ใหญ่หรือเจ้าคณะตำบลอะไรแต่ด้วย ความเคารพนับถือเป็นการส่วนตัวอีกทั้งเลื่อมใสท่านไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อนิดวัดทับมา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อหอม วัดชากหมากนี้นับถือกันมาก เคยเดินธุดงค์ร่วมกันหลายคราว หลวงพ่อดิ่ง วัดบ้านค่ายก็นับถือ กันมาก เสียดายที่ท่านอายุน้อยและสร้างพระเครื่องน้อยไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของท่านจะดังไม่น้อย นอกจากนี้ท่านสนิทสนมกับหลวงพ่อเฮี้ยง และหลวงพ่อศรี วัดอ่างศิลาอย่างมาก ไปมาหาสู่กันเสมอ ๆ
    พระสงค์ที่พาพระเณรออกเดินธุดงค์ไปทางวัดกระบกขึ้นผึ้ง มักจะพากันเข้าไปทำวัตรและพักอย่างน้อยหนึ่งคืน แล้วถึงจะออกเดินทางต่อไป แม้แต่การทดลองทดสอบวิชาจากพระธุดงค์หรือพวกกระเหรี่ยง พวกชาวลาวที่ไป ขายผ้าขายของป่าตามที่ต่าง ๆ แต่พอเวลาใกล้ค่ำก็มาขอพักที่วัด ท่านรู้ดีว่าคนพวกนี้บางคนนิสัยดีเคารพในสถานที่ บางคนก็อวดเก่งชอบลองดีดูว่าเจ้าอาวาสจะเก่งไหม ผู้ที่ชอบลองกับท่านนั้นบางรายท่านดัดนิสัยเสียจนไม่ต้อง นอนเลยทั้งคืน พอเช้าเข้าไปกราบขอขมาท่านแล้วก็รีบเดินทางไปจากวัดทันที
    เมตตาสูง พระอาจารย์ต่าง ๆที่เล่าเรียนวิชาจากพรอาจารย์นั้น บางรูปชอบทางคงกระพันชาตรี บางรูปชอบทางรักษาโรคบางรูปเก่งทาง ลงหมึกลงน้ำมัน บางรูปเก่งทางแก้อาถรรพณ์ ท่านเองมีครบครัน แต่ท่านมุ่งไปทางมหานิยมทางเมตตา ทางเจริญทรัพย์ ทางค้าขาย เพราะใคร ๆ ก็ต้องการผู้คนที่มีของดีท่านไปไหนจะรอดพ้นอันตราย จึงเป็นที่นิยม ของพวกหนุ่ม ๆ กันมาก ที่พวกเขาต่างต้องการ
    สีผึ้งยอดขลัง สีผึ้งของท่านเป็นสีผึ้งที่มีสีแปลกอย่างมาก ผิดจากสีผึ้งของพระอาจารย์อื่น ๆ ของหลวงพ่อหอมนั้นท่านจะปลุกเสกตั้งแต่เช้าไปจนถึงพระอาทิตย์ตรงศีรษะ หรือเพลพอดีเป็นอันใช้ได้ แล้วการปลุกเสกของท่านต้องปลุกเสกที่กลางแจ้ง ทำครั้งหนึ่งมากพอสมควรแล้วมี ความขลังมาก ท่านจะใช้สีผึ้งที่ซื้อมาจากร้านในตลาด บางครั้งศิษย์ของท่านก็ซื้อไปให้เยอะ อย่างสีผึ้งเจ็ดจันทร์เจ็ดอังคารของหลวงพ่อรัตน์ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ต้องครบ 7 จันทร์ 7 อังคาร ถึงจะขลังเด่นทางมหานิยมทางค้าขาย สีของสีผึ้งจะเหลืองปนขาว แต่ของหลวงพ่อทาบสีจะเขียวมีส่วนผสมของ ว่านบางชนิดที่มีสรรพคุณทางมหานิยมพอเอาไว้สักพักหนึ่งหลังจากที่เคี่ยวแล้วจะออกสีเขียว แต่แรกจะออกสีน้ำตาล การปลุกเสกนั้นลงทางมหานิยมทางมหาเสน่ห์ ทางเมตตาทั่ว ๆ ไป แต่เด่นทางมหาเสน่ห์ยิ่ง พวกหนุ่ม ๆ ต่างเดินทางไปแวะเวียนขอกันมาก เรื่องอันเกิดมาจากศิษย์ของท่านคนหนึ่งเป็นคนทำมาหากิน ขยันทำงานแต่ ด้วยฐานะยากจน ท่านให้สีผึ้งไปแล้วชีวิตก็ดีขึ้นเขามีภรรยารูปร่างหน้าสวยงามฐานะดี นี่เองจึงเป็นที่ต้องการ ของคนหนุ่ม ๆ ยิ่งนัก แต่ท่านใช่จะให้ใครง่าย ๆ บางคนท่านให้แต่ว่าต้องรับสัจจะกับท่านก่อนว่า เมื่อได้ตามที่ ประสงค์แล้วห้ามผิดสาบานหรือสัจจะเป็นอันขาด ถ้ารับได้ท่านถึงให้สีผึ้งนั้นเพียงแค่หัวไม้ขีดเท่านั้นเอง แต่แล้วต้องห้ามใช้อีกเลย การทำสีผึ้งของท่านนั้นมีสรรพคุณสูงยิ่ง แต่ว่าถ้าใช้ไม่มีจะบังเกิดโทษทันที ท่านจึงไม่ยอมให้ใครนัก จึงได้เอาว่านที่มาใช้ผสมคั้น เอาน้ำทำสีผึ้งนั้นมาผสมทำพระเครื่องพร้อมด้วยสีผึ้ง ของท่านผสมทำพระเครื่องไปเลย
    พระเครื่องของท่านที่เป็นพระสมเด็จยุคแรกนั้นจะมีความหนาพอสมควร สมัยก่อนนั้นจะพบเห็นตามแผงพระเครื่องทั่วๆ ไปบ่อยมาก แต่ไม่มีใครที่จะรู้จักกันนัก นอกจากคนใน ท้องถิ่นที่มาพบเข้าถึงจะรู้ว่าเป็นของท่านหรือคนที่เคยพบเห็นมาแล้ว เนื้อพระของท่านยุคนั้นจะออกสีแดงปนเขียว บางองค์ปนน้ำตาล ด้านหลังสังเกตให้ดีจะมีคราบของสีผึ้งหลังจากนั้นท่านก็สร้างขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เนื้อพระจะออกสีเขียว มีความละเอียดอย่างมาก พระเครื่องของท่านเป็นพระพิมพ์สมเด็จที่ทรงจะแตกต่าง จากพระสมเด็จของพระอาจารย์ทั่ว ๆ ไป ดูแล้วจะคล้าย ๆ กับพระสมเด็จของวัดเกศไชโยเหมือนกัน วงแขนจะกว้างเหมือนวงกลมรี อกพระจะเป็นร่องกรอบซุ้มนั้นจะมีทั้งกรอบซุ้มกระจก และซุ้มโค้งชั้นเดียว ใบหูกว้างยาวมาถึงไหล่ ใบหน้าใหญ่เกศแหลมแบบเกศพระพุทธทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือพระเชียงแสนลาว หรือเชียงรุ้ง

    </TD></TR><TR vAlign=center><TD width=200 align=middle>[​IMG]</TD><TD width=200 align=middle>เหรียญรุ่นแรกสภาพสมบูรณ์ </TD><TD width=200 align=middle>[​IMG]


    </TD></TR><TR><TD width=600 colSpan=3 align=left>
    พระปิดตา พระปิดตาของท่านเนื้อจะแตกต่างจากพระสมเด็จ พระปิดตาของท่านเนื้อจะออกสีดำผง ไม่ละเอียดแต่มีความแห้งแกร่ง เพราะพวกว่านผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมนั้นบดไม่ละเอียด มีด้วยกันหลายพิมพ์ บางพิมพ์ มีเส้นเกศาของท่านผสมด้วย ส่วนมากจะปิดทองที่องค์พระ ความหนาขององค์พระนั้นแตกต่างกัน
    เหรียญรูปเหมือน เหรียญรุ่นแรก ของท่านจะเป็นรูปไข่ ด้านหน้ารูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ ห่มจีวรรัดดอกไม้ ใต้รูปหลวงพ่อมีภาษาไทยเขียนว่า หลวงพ่อทาบ
    ด้านหลังเหรียญ เป็นยันต์สี่เหลี่ยมในยันต์นั้นมีตาขอมอ่านว่า นัง มิ สะ แถวที่สองอ่านว่า ธัง และเป็นองค์พระมียอดอุณาโลมและตัวขอมอ่านว่า ยะ แถวล่างสุดมีตัวขอม อ่านว่า นา วิ พุธ อันเป็นหัวใจทางมหานิยม ทางแคล้วคลาด เหรียญรุ่นแรกนี้ดูจะเป็นเหรียญเรียบ ๆ แต่ว่าราคาการเล่าหาเวลานี้อยู่ที่พันต้น ๆ ครับ
    เหรียญรุ่นสอง เหรียญรุ่นสองทรงจะคล้ายสีเหลี่ยม รูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ เหนือศีรษะ เขียนว่า พระครูอรรถโกศล ทรงเหรียญของท่านจะแปลกกว่า เหรียญพระอาจารย์ทั่วๆ ไป เหรียญรุ่นสองนี้จะเห็นแต่ในภาคตะวันออก นาน ๆ ครั้งจะมีเห็นตาม สนามพระในส่วนกลางบ้าง แต่ก่อนพอจะหาได้ง่าย ปัจจุบันราคาแพงเลยไม่ค่อยมีใครจะเช่าหามีแต่จะปล่อยกัน เหรียญรุ่นสองของท่านจะเด่นทางด้านเมตตามหานิยมไม่แพ้เหรียญรุ่นแรก นอกจากนี้ก็มีผ้ายันต์แบบต่าง ๆ รุ่นแรก ๆ ท่านจะเขียนด้วยมือของท่านเอง มาระยะหลังคนต้องการเยอะ ท่านเลยให้ช่างทำขึ้น โดยท่านผู้กำหนด ยันต์และอักขระต่าง ๆ ผ้ายันต์ของท่านดีทางค้าขาย พวกแม่ค้านิยมกัน บูชาติดบ้านเรือนก็ดี แล้วก็มีพวกตะกรุดโทน ซึ่งเอาแน่นอนไม่ได้ มีทั้งแบบตะกรุดเปลือยและตะกรุดที่ถักเชือก พ.ศ. 2505 ท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้น อีกครั้งหนึ่งตามความต้องการของบรรดาศิษย์ และเพื่อให้ทางวัดเก็บเอาไว้มอบให้กับชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญ เพื่อนำรายได้มาใช้ต่าง ๆ ในวัดนั้น พระเครื่องของท่านรุ่นนี้ก็มีหลวงปู่ทิม อิสสริโก วัดระหารไร่ หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก หลวงพ่อวรพรต วัดป่า ชลบุรี และพระอาจารย์ในจังหวัดระยองอีกหลายรูป ร่วมกันปลุกเสกใน โบสถ์ มีหลวงพ่อทาบ ท่านเป็นประธานการปลุกเสกจัดแบบเงียบ ๆ แต่มีอิทธิคุณสูงมาก
    มรณกาล เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีผู้ใดจะหนีไปได้สักรายเดียว บางท่านป่วยมานานต้องทนทุกข์ทรมาณ บางท่านก็ไปอย่างฉับพลัน ไม่มีความทุกข์ความเจ็บป่วยแต่ประการใด เมื่อท่านชราภาพร่างกายของท่านอ่อนแอลง แต่กระนั้นท่านก็ยังพูดอบรม สั่งสอนพระเณรให้อยู่ในศีลให้ปฏิบัติ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมแล้วให้ทำไว้ ถ้าช่วยได้มากยิ่งดี แล้วท่านก็จาก ไปในที่สุด เมื่อปี พ.ศ. 2509 สิริรวมอายุของท่านได้ 89 ปีเศษ เหลือไว้แต่ชื่อเสียงของท่านที่ปรากฏมาจนทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในพระอาจารย์ที่คนนับถือมากรูปหนึ่งในระยอง สำหรับท่านนักนิยมสะสมพระเครื่องแล้วหากว่าถ้าไม่อาจที่ จะหาของดีหลวงปู่ทิม หลวงปู่เฮี้ยงหรือหลวงพ่อหอมมาบูชาได้ก็ใช้หลวงพ่อทาบแทน รับรองว่าไม่ผิดดหวังแน่ แต่ที่สำคัญคือผู้มีพระเครื่องต้องปฏิบัติดีด้วยนะครับถึงประสบผล

    </TD></TR><TR vAlign=center><TD width=200 align=middle>[​IMG]</TD><TD width=200 align=middle>เหรียญรุ่นแรกสภาพผ่านการใช้งานมามาก </TD><TD width=200 align=middle>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
    ขอจองครับ
     
  17. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ผงที่จะสร้างพระนั้น โดยนิมนต์อาจารย์

    ผู้มีชื่อเสียงหลายวัดทำพิธีประจุมนต์ เข้าพิธีปลุกเสกมีพระเกจิที่มีชื่อเสียงเช่น

    พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร

    พระวรเวทย์คุณาจารย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

    พระมหารัชชมังคลาจารย์

    พระมงคลเทพมุนนี จนฺทสโร (สด มีแก้วน้อย) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

    พระครูวินัยธรเฟื้อง (ญาณปปทีโป)

    หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ (ช่วยทำพิธีและประสานงานด้วย)

    พระสอาด อภิวัฑฒโน วัดสัมพันธวงศ์

    พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา

    พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน

    พระชอบ สัมจารี วัดอาวุธวิธกสิตาราม ธนบุรี เป็นต้น

    พร้อมด้วยบันจุเทพมนต์พรหมมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆ

    มาเข้าพิธีอธิษฐานบันจุมนต์ลงด้วย และบันจุมนต์โยคีโดยโยคีฮาเร็บ

    (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียงและ พ.ต.อ.ชะลอ อุทกภาชน์

    ผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ทำพิธีบรรจุ เสร็จพิธีแล้ว จึงได้ใช้ผงประสมทำเป็น

    องค์พระได้มงคลฤกษ์ จึงได้ทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องนั้นอีกครั้งหนึ่ง

    พระเครื่องที่จะทำพิธีปลุกเสกนั้น ห่อด้วยผ้าขาว 7 ชั้น ผ้าเขียว 7 ชั้น

    พิธีนอกนั้นเหมือนเมื่อเมื่อบันจุมนต์ลงในผงแลน้ำที่ จะสร้างพระ

    ตั้งน้ำมนต์สำหรับแจกผู้ที่ต้องการซึ่งมาร่วมพิธี 40 ตุ่ม แต่ไม่ได้กล่าวถึงผงที่นำมาประสมสร้างพระนั้นว่ามีอะไรบ้าง

    มีผู้สนใจต้องการทราบอยู่เป็นจำนวนมา จึงสมควรเขียนประวัติ

    เนื่องด้วยผงที่นำมาประสมสร้างพระเครื่องนั้น ให้ท่านทราบไว้ด้วย ดังต่อไปนี้

    1.ผงขอจากพระอาจารย์ต่างๆ ที่ท่านทำและรวบรวมไว้หลายวัด

    เช่น วัดพระเชตุพน วัดตรีทศเทพ และวัดสัมพันธวงศ์ ฯลฯ

    ผงแป้งที่ทำเลผงจากพระของเก่าบ้าง

    2.ผงพระที่ทำด้วยว่านต่างๆ ที่นิยมว่าเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ 108 อย่าง

    ทำจากดอกไม้บูชาพระต่างๆ 108 อย่าง

    3.ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ 7 ท่าและจากสระน้ำ 7 สระ

    4.ผงที่ทำด้วยเอาคัมภีร์เก่าๆ ทั้งใบลานและสมุดข่อยมาเผาบด ตั้งแต่หมายเลข 1-5 นี้ประสมสร้างพระผงรุ่นก่อนแล้วเอามาบดผสมเข้ากัน กับผงใหม่ที่นำมาเข้าพิธีด้วย

    5.ผงที่ได้จากดินสังเวยชนียสถาน 4 แห่งในอินเดียคือ

    5.1 ดินที่ลุมพินีระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ ซึงเป็นที่ประสูติของพระพุทธเจ้า

    5.2 ดินที่มหาโพธิ์ พุทธคยาที่ตรัสรู้

    5.3 ดินที่สารนาถ มฤคทายวัน เมืองพาราณสี ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้า

    ทรงแสดงธรรมจักร 5.4 ดินที่กุสินารา ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน

    6.ดินจากสถานที่สำคัญ 9 แห่ง คือดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จ

    เสวยวิมุตติสุข 7 แห่ง บริเวณพุทธคยา มีที่รัตนะจงกลม แลที่สระมุจลิน

    เป็นต้น แลดินที่พระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้าที่บนเขา คิชกูฏ

    (เมืองราชคฤห์) ดินที่ที่พระคันธกุฏีที่ประทับในเมืองสาวัตถี ซึ่งพระครูสุภารพินิจ (โทน สุขพโล) วัดสัมพันธวงศ์
    ได้ไปนมัสการปูชนียสถานนั้นๆ และได้นำมาเมื่อปี พ.ศ.2497

    ผู้ที่มีพระเครื่องแบบพุทธมงคลมหาลาภ พระแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นต้นไว้บูชา เป็นอันได้ระลึกถึงแลบูชา สังเวชนียสถาน

    7.ผงปูนหินขาว ราชบุรี

    8.ผงปูนซีเมนต์ขาว และนอกจากนี้ ก็ยังมีดินเหนียวอย่างดี สีเหลือง และน้ำอ้อยเป็นต้น

    ผงเหล่านี้นั้น ประสมกันมากบ้างน้อยมาก แล้วบดให้ละเอียดแร่งกรองด้วยผ้าป่าน สำเร็จเป็นผงที่จะสร้างพระเครื่องใช้น้ำมนต์ที่ทำไว้ นั้นประสมกับของที่จะทำพระให้

    พระมีคุณภาพดี สวยงามทนทาน ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ประสมผงพิมพ์เป็นรูปพระพุทธมงคลมหาลาภบ้าง สมเด็จบ้าง

    ส่วนพระเครื่องอื่นสร้างด้วยดินประสมผงเผาแล้วนำมา

    เข้าพิธีปลุกเสกในคราวเดียวกันกับพระพุทธมงคลมหาลาภ

    เสร็จแล้วแจกจ่ายในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี พร้อมด้วยพระอัครสาวก ในการต่อมา พระเครื่องเหล่านี้

    เมื่อแจกจ่ายแก่ผู้จำนงในงานผูกพัทธสีมา อุโบสวัดสารนาถธรรมารามแล้ว

    ก็จะได้จัดการทำบันจุในอุโบสถ หรือเจดีย์ตามสมควรเพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่สารนาถธรรมาราม อันเป็นมหาปูชนียสถานในกาลต่อไปฯ
     
  18. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    อาจารย์ประถมเขียนสรุปรายละเอียดการปลุกเสกไว้เพิ่มเติมว่า เมื่อโยคีโยฮาเล็บ เจ้าพิธี สร้างผงวิเศษด้วยวิธีประยุกต์ของท่านแล้วอัญเชิญพรหมชั้นโสฬสมาทำการปลุกเสกผง เสร็จพิธีแล้ว ท่านพ่อลี วัดอโศการามเข้าไปเดินดูในโบสถ์ว่าทำอะไรกัน ก็ยื่นมือไปหมายผัสสะดูก็สะดุ้งโหยง" เฮ้ยหยังแรงจังซี้ "ก็เลยขอผงไป 1 บาตร เพื่อสร้างพระพุทธจักรของท่านที่วัดอโศการาม ต่อจากนั้นทางวัดก็จัดหาว่าน เกษรดอกไม้ ผงต่างๆ ตามที่ได้เขียนรายละเอียดไปแล้ว นำไปให้อาจารย์ชอบ วัดอาวุธเป็นแม่งานจัดสร้าง เพราะมีฝีมือทางนี้ น่าเสียดายที่เนื้อพระแก่ปูนทำให้เนื้อหามวลสารไม่สะดุดตา ต่อมาก็ให้โหรวางลัคนาฤกษ์ปลุกเสกตรงกับเพชรฆาตฤกษ์คือถือว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในระหว่างเพชรฆาตฤกษ์ เป็นฤกษ์ชนะมาร แต่ทางโหราศาสตร์ถือเป็นฤกษ์ที่เหมาะแก่การยาตราทัพ ฤกษ์ตีค่าย นับว่าเป็นฤกษ์แข็ง ที่หลวงพ่อพระอริยคุณษธาร บันทึกว่าปลุกเสกพระ น่าจะเป็นวาระสอง หลังการสร้างผงวิเศษ การทำพิธีก็แปลก ใช้เบ็ญจาห้าชั้นถึง1,500ต้น สำหรับประดิษฐานพระเครื่องห่อหุ้มด้วยแพรเขียว 1,500 ห่อใหญ่ๆ และถวายพระนามว่า พระมงคลมหาลาภ ( แต่มิได้ประกอบด้วยมหัทโนฤกษ์ ) อาจารย์ชั้นเยี่ยมถูกนิมนต์เข้าร่วมพิธีเป็นส่วนใหญ่ รวมระยะเวลาปลุกเสก 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเริ่มต้นพร้อมกัน ฝ่ายพรหมช่วยเสก 1 ชั่วโมงก็กลับ ส่วนพระสงฆ์เสกต่ออีก 1 ชั่วโมงโยคีโยฮาเล็บ กับพระอริยคุณาธารก็ลงมือเสกด้วย คุณประถมบอกว่าเสียดายช่วงนั้นอยู่ชายแดนไม่งั้นอาจได้พระงดงามกว่านี้ ต่อจากนั้นก็ได้นำพระมงคลมหาลาภไปที่วัดสารนาถธรรมาราม เพื่อเข้าพิธีพุทธาภิเษกพระประธาน โดยนิมนต์พระสายท่านอาจารย์มั่น ภิริทัตโต ประมาณ 30 รูป เสกกัน 18 วัน 18 คืน สวดลัคขีคือห้องพระพุทธคุณ อิติปิโสภควา เล่นกันแสนจบทีเดียว เป็นพระที่ตรวจพบว่าอยู่ในชั้นนพปดลเสวตฉัตรเช่นเดียวกับพระหลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร แต่รังสีไม่ใช่ทองคำเป็นสีเขียว เรื่องแคล้วคลาดอย่าบอกใครด้วยฤาษีนารอทท่านนั่งมองอยู่ ไม่ต้องเที่ยวแสวงหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยาก คุณประถมกล่าวอีกว่าตัวท่านเองใช้พระครูโลกอุดร สมเด็จวัดระฆัง พระมงคลมหาลาภห้อยคอบูชา
     
  19. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    พระมงคลมหาลาภ วัดสารนารถธรรมาราม อ.แกลง ระยอง ปี 2499

    สร้างเพื่อแจกในงานหล่อพระประธานที่วัดสารนารถธรรมาราม
    สังเกตเนื้อนะครับ ว่ามีความแห้ง ช่ำ

    ออกปี 2499 ไม่ใช่ของปี 2506 และไม่ขาวเหมือนของวัดสัมพันธวงศ์


    โอกาสดีสำหรับผู้ที่สนใจแล้วนะครับ

    องค์แรก พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์เฑาะ ไม่ลงกรุ

    ให้บูชา 3900 บาท

    ปิดครับ ให้คุณ namo
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2010
  20. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    องค์ที่ 2 พิมพ์กลาง
    องค์นี้บิ่นนิดนึง ราคาเบาๆ

    ให้บูชา 2009 บาท ขนาดบิ่นกว่านี้เนื้อขาวแข็งๆยังราคา 2000 กว่าเลยครับ

    สำหรับผู้ที่ศรัทธาในพุทธคุณ

    ปิดครับให้คุณnamo
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...