ประมูล 9.00 PM. พระคันธารราฐหน้าตัก 9 นิ้วหล่อจากหินทรายปูนซีเมนต์ขาว หน้า 25

รายการที่ 7
ประมูล 20.00 น. 19/09/54
พระนาคปรก 2 อัครสาวก ศิลปเขมร นาคปรกใหญ่ ( นารายณ์ทรงปืน )<!-- google_ad_section_end --> เลี่ยมกรอบเสร็จ

ได้รับแล้วครับ สวยสมบูรณ์ดูเข้มขลัง ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ได้บุญด้วยกันนะครับคุณ naiburit<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5171437", true); </SCRIPT> และเจ้าภาพพระเครื่องครับ

 

จำนวนเงินที่ต้องนำไปทำบุญมีดังนี้
พลอยประดับเป็นรูปหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ 300.- บาท
พระสังขจายน์โบราณ หน้าตัก 5 นิ้ว 2,000.- บาท
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หน้าตัก 5 นิ้ว 388.- บาท
พญานาคเงินแท้และตัน กว้าง 1 สูง 2 นิ้ว 200.- บาท
พญานาคควอทซ์แดงแกะสลัก 1,250.- บาท
พระปางปฐมเทศนาหล่อโบราณ 100.- บาท
หลวงปู่หุน 2,222.- บาท
นารายณ์ทรงปืน 1,250.- บาท

รวมเงินที่ต้องโอนไปทำบุญ 6,460.- บาท

ถวายช่วยพระพิชิตไป 3,000.- บาท

ยอดเงินคงเหลือทำบุญ 3,460.- บาท

( ยอดอย่างไม่เป็นทางการครับ ต้องอัพบุ๊คอีกครั้งจึงจะแน่นอนครับ )

หมายเหตุ
ถวายช่วยพระพิชิตไป 5,000.- บาท มีผู้ร่วมบุญอื่นที่ไม่ใช่กระทู้เช่าวัตถุมงคล 2,000.- บาท

 

ยอดโดยประมาณขณะนี้ที่ต้องนำไปทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง

ยอดเงินคงเหลือทำบุญ 3,460.- บาท

ผมขอร่วมเพิ่มให้เป็นตัวเลขกลม ๆ เป็น 5,000.- บาท

ขณะนี้ทราบมาจากพระอาจารย์บรรเจิดว่า กำลังต้องการยอดช่วยเหลือเรื่องโรงกรองน้ำประปาชุมชนที่กำลังเป็นปัญหาอย่างแรงที่สุด เพราะชาวบ้านแม่แพม 400 ชีวิตไม่มีน้ำประปาที่สะอาดเพียงพอที่จะดื่มได้เลย ผมคาดว่า จะนำความช่วยเหลือที่ได้จากการบูชานี้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งหรือทั้งหมด ช่วยพระอาจารย์บรรเจิด บ้านแม่แพม เวียงแหง เชียงใหม่ให้ได้น้ำสะอาดดื่มพร้อมกับชาวบ้านไม่น้อยกว่า 400 คน และชาวลีซูที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงกันอีก 500 ชีวิตครับ

ทราบงบประมาณคร่าว ๆ ว่า จะทำเครื่องกรองธรรมชาติ แล้วจะได้น้ำที่ใส แต่ยังไม่มีคุณภาพพอดื่มได้ นำมาผ่านเครื่องกรองในระบบทันสมัย เพื่อให้ดื่มได้ งบประมาณ 40,000.- บาท ช่วย ๆ กันนะครับ

 

ขอเชิญครับ ขอเชิญประมูลพระบูชาปางมารวิชัยหน้าตัก 5 นิ้ว หลวงปู่บุญ วัดวังมะนาว ปี 2529 องค์ที่ ๔๙ เป็นพระจำลองพระประธานในอุโบสถวัดวังมะนาว ต. วังมะนาว อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี

 

..............................................................................

 

ครับ..........................................

 

.......................................................................................

 

วันนี้เวลาประมาณ 11.00 น. พระอาจารย์ปลัดสุชาติได้ให้ผมกราบเรียนสายทางโทรศัพท์กับพระภิกษุพระธรรมจาริกรูปหนึ่ง ขณะนั้นผมอยู่นอกบ้านจึงกราบเรียนสายได้ไม่ค่อยเต็มที่ ได้ใจความว่า พระธรรมจาริกรูปนี้ตอนที่ยังเป็นนักเรียนชั้น ม. 4 อยู่ได้ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร ได้รักษาด้วยแพทย์สมัยใหม่มาตลอด กระทั่งบวชมาเป็นพระธรรมจาริก ได้เข้ารับการรักษาหลายโรงพยาบาล แต่ไม่มีโรงพยาบาลใดสามารถรักษาอาพาธโรคกระเพาะได้เลย เมื่อไม่นานมานี้ ได้พบอาหารเสริมชนิดหนึ่ง เป็น " เอ็นไซม์ " เมื่อฉันแล้วอาการโรคกระเพาะดีขึ้นมาก ขวดละ 3,800.- บาท ผมได้กราบเรียนท่านไปว่า จะเป็นอาหารเสริม หรือสมุนไพร หรืออะไรก็แล้วแต่ ขอเพียงแต่ให้มีแพทย์ปริญญาที่มีใบประกอบโรคศิลป์สามารถออกใบรับรองได้ว่า อาหารเสริมหรือสมุนไพรนั้น สามารถรักษาโรคพระภิกษุรูปนั้นได้ คือมีประสิทธิภาพจริง สามารถยืนยันกันได้ทางหลักการแพทย์ ทางกองทุนสงฆ์อาพาธก็จะร่วมกันปรึกษาเป็นกรณี ๆ ไป เพราะถ้าอนุมัติให้อาหารเสริมเข้าอยู่ในกฏเกณฑ์การต้องอนุมัติ ก็จะมีอีกมากมายหลายหลากวิธีการรักษาประเภททางเลือกที่จะเข้ามา และไม่มีกฏเกณฑ์ใด ๆ ดังนั้น ผมจึงร่วมกันกับพระอาจารย์ปลัดสุชาติได้ปรึกษากันว่า เราควรให้แพทย์ปริญญาเป็นผู้ออกใบรับรอง เพื่อให้ความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในการรักษาแต่ละรูป แต่ละรูป การซื้ออาหารเสริมนั้น พระภิกษุสามเณร หรือ ชาวบ้านส่วนมากมักถูกหลอกด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ แต่ถ้าจะว่าเป็นเช่นนั้นหมด ก็จะกลายเป็นว่าปิดทาง จึงขอให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ปริญญาที่มีใบประกอบโรคศิลป์๑ เมื่อได้ใบรับรองแล้ว นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสงฆ์อาพาธ เช่นนี้จึงควร

 

<TABLE class=tborder id=post5152724 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 24-09-2011, 02:52 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR></TBODY></TABLE>
พระสุชาติ สุชาโตอาพาธต้องล้างไตฟอกเลือดเดือนละ 8 ครั้ง​

เจริญพร นพ.ศุภชัย โยมสมบูรณ์ และทุกท่าน
พระสุชาติ สุชาโต อายุ 34 ปี 10 พรรษา เป็นพระธรรมจาริกนาน 10 ปี ออกเผยแผพระพุทธศาสนาในถิ่นทุรกันดาร ตามแนวตะเขปชายแดน ฝั่งไทย-พม่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ท่านเป็นลูกคนสุดท้าย มีพี่น้อง 3 คน ท่านได้ป่วยเป็นโรคไต ระยะสุดท้าย ต้องฟอกไตทุกเดือนๆ ละ ๘ ครั้ง ค่าใช้จ่ายเดือนละ ๔,๕๐๐ บาท และอาหารเสริมเลี้ยงไต เดือนละ ๓,๕๐๐ บาท ตกเดือนละ ๗,๕๐๐ บาท ที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ ต้องอาศัยค่านิตยภัตรที่โครงการถวายให้บ้าง และหยิบยืมขอวงพี่น้อง และพระเพื่อนด้วยกันมารักษาตัว ซึ่งทางครอบครัวได้ขายที่นามารักษาเมื่อรักษาปีแรก ตอนนนี้ต้องมาจำพรรษาวัดในเมืองเชียงใหม่ เพื่อประหยัดค่าเดินทางจากแม่ฮ่องสอนมาเชียงใหม่ในการรักษาตัวแต่ละครั้ง ท่านพยายามที่จะช่วยเหลือตัวเองให้ถึงที่สุด แต่ท่านว่าบางเดือนท่านเดือดร้อน เพราะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายให้เพียงพอ

เพื่อลดความวิตกกัลวลในวาระสุดท้ายของชีวิตท่านบ้าง อยากให้ผู้มีจิตกุศลได้อนุเคราะห์ท่านตามแต่จะเห็นสมควร ทั้งนี้ทุนธินิอภิบาลพระเผยแผ่พระพุทธศาสนาในถิ่นทุรกันดารได้หารรือกันแล้วอนุเคราะห์เบื้องต้นไป 5000 บาทก่อน ท่านที่ต้องการรายละเอียดติดต่อท่านได้ที่ ( 081-9984429 พระสุชาติ สุชาโต )

พระปลัดสุชาติ สุวฑฺฒโก
ประธานทุนนิธิอภิบาลพระเผยแผ่ฯ

*******************************************************

คำบอกเล่าจากพระสุชาติ สุชาโต

นอกจากการล้างไตเดือนละ 8 ครั้งแล้ว หากมีปัจจัยเพียงพอ จะซื้ออาหารเสริมนูไล้ฟ์ชนิดเม็ดคล้ายเม็ดน้ำมันตับปลา กระป๋องละ 2,800.- บาท และวิตามินซีนูไล้ฟ์ กระป๋องละ 1,800.- บาท อาหารเสริมใช้ได้เกินกว่าเดือนต่อกระป๋อง คิดเป็นค่าใช้ที่พระสุชาติ สุชาโตต้องแบกรับเดือนละประมาณ 8,000.- บาท ซึ่งนับว่ามากเกินกว่าที่จะแบกได้ บางเดือนขาด 500.- บาท บางเดือนขาด 1 พันกว่าบาท เป็นเช่นนี้มาตลอด

จึงเรียนเชิญท่านที่มีจิตศรัทธาต่อการรักษาพระอาพาธได้โปรดช่วยเหลือกันด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนสงฆ์อาพาธด้านล่างนี้
<!-- google_ad_section_end -->







ในกรณีของพระสุชาติ สุชาโต ทางกองทุนสงเคราะห์โดยเฉลี่ยเดือนละ 500.- ถึง 1,000.- บาทเป็นค่าฟอกเลือด โดยไม่ได้นำเรื่องอาหารเสริมขึ้นมาเป็นประเด็น
​

 

................................................................................

 

หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง พระเกจิผู้เรืองอิทธิฤทธิ์

<TABLE class="sites-layout-name-one-column sites-layout-hbox" cellSpacing=0 xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"><TBODY><TR><TD class="sites-layout-tile sites-tile-name-content-1">

[FONT=courier new,monospace]พระธรรมมุนี (หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง)[/FONT]​

หลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรีโดยกำเนิด มีนามเดิมว่า “แพ ใจมั่นคง” เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2448 ตรงกับ ขึ้น 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเส็ง ณ บ้านสวนกล้วย เลขที่ 93/3 หมู่ที่ 3 ตำบลพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี บิดาชื่อ นายเทียน ใจมั่นคง มารดาชื่อ นางหน่าย ใจมั่นคง
เมื่ออายุได้ 8 เดือน มารดาผู้ให้กำเนิดได้ถึงแก่กรรม นายบุญ และนางเพียร ขำวิบูลย์ สามี ภรรยา ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ได้ขอเด็กชายแพ ที่มีอายุเพียง 8 เดือน จากนายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าไปรับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม
เมื่ออายุได้ 11 ปี บิดามารดาบุญธรรม พาเด็กชายแพไปฝากอยู่วัด กับสำนักอาจารย์ป้อม เพื่อที่จะศึกษาเล่าเรียนตามแบบโบราณนิยม คือ การเรียนภาษาไทยภาษาขอม
นอกจากนั้น เด็กชายแพ ยังได้เรียนหนังสือ มูลบทบรรพกิจ ทางธรรมก็มีพระมาลัยสูตร และยังได้หัดอ่านพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ เมื่ออายุได้ 14 ปี บิดามารดาบุญธรรมได้ส่งไปศึกษาต่อที่สำนักวัดอาจารย์ อาจารย์ สม ภิกษุชาวเขมร วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ การศึกษาในกรุงเทพฯขั้นแรกได้เริ่มเรียนหนังสือโบราณท่องสนธิ เรียนมูลกัจจายนสูตร เป็นเวลา 1 ปี ต่อมา ก็ไปเป็นนักเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ
เมื่อศึกษาหาความรู้จนอายุได้ 16 ปี ก็กลับบ้านเกิด เพื่อบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ.2463 ณ วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี โดยมีพระอธิการพันจันทสโร เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ครั้นเมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็ได้เดินทางกลับไปอยู่วัดชนะสงครามตามเดิม และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ต่อไปอีก จนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร จนในปีพ.ศ. 2468 นายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าก็ถึงแก่กรรม
โดยความมุมานะพยายามเด็กชายแพ โดยอาศัยแสงสว่างจากเทียนไขหรือตะเกียงอ่านหนังสือและทบทวนตำรา ด้วยสาเหตุนี้ นัยน์ตา อันเป็นส่วนสำคัญของสังขาร ก็เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ตรากตรำอ่านหนังสือมากเกินไปในที่สุด นายแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้แนะนำ ไม่ให้อ่านหนังสืออีกต่อไป มิฉะนั้น นัยน์ตาอาจพิการได้ ดังนั้นหลังจากสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยคแล้ว การศึกษาด้านพระปริยัติธรรมก็ต้องยุติลง แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีใจใฝ่การศึกษา พระภิกษุแพ เขมังกะโร จึงได้ศึกษาปฏิบัติสมถกัมมัฎฐาน วิปัสสนากัมมัฎฐานในสำนักของพระครูภาวนา วัดเชตุพน
สามเณรเปรียญแพ ได้ทำการอุปสมบทเมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ในวันขึ้น 6 ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ.2469 ณ พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านเจ้าอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า “เขมังกะโร”(แปลว่า ผู้ทำความเกษม ภายหลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แพ เขมังกะโร หรือมหาแพ ก็ได้เดินทางกลับสู่วัดชนะสงคราม เพื่อตั้งใจศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรมให้ได้สูงที่สุด จากนั้นไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ปรมจารย์ชื่อดังยุคนั้นเพื่อเรียนวิชาอาคมจนเชี่ยวชาญไม่แพ้เกจิร่วมสำนักรูปอื่น ๆ เลย
ในปี พ.ศ. 2473 อาจารย์หยด พวงมะสิต เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ได้ลาสิกขาบท ทำให้ตำแหน่งว่างลง ชาวบ้านพิกุลทอง และชาวบ้านจำปาทอง จึงนิมนต์ให้พระภิกษุแพมารับเป็นเจ้าอาวาสในเดือน เมษายน พ.ศ. 2474 ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุเพียง 26 ปี ต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงค์ตำแหน่ง ตามหน้าที่การงานต่างๆ ดังนี้
พ.ศ.2482 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลถอนสมอ
พ.ศ.2483 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น พระอุปัชฌายะ
พ.ศ.2484 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอท่าช้าง
พ.ศ. 2484 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ทำกิจปริยัติธรรมวินัยที่พระคณุศรีพรหมโสภิต
พ.ศ. 2515 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
พ.ศ. 2521 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมภาณี
พ.ศ.2525 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดสมณศักดิ์
พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระสิงหคณาจารย์
พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ
วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2535 ในวาระทรงเจริญพระชนม์มายุครบ 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสิงหบุราจารย์
พ.ศ. 2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2539ใน วโรกาสเสด็จครองราชย์ครบ 50 ปี เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมมุนี
นับตั้งแต่พระภิกษุแพ ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพิกุลทอง ได้บำเพ็ญประโยชน์ และสาธารณประโยชน์ทั่วไป ได้แก่ สร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ หอประชุมกุฎิสงฆ์ หอไตร หอฉัน ศาลาวิปัสสนา โรงฟังธรรม ฌาปนสถาน ศาลาเอนกประสงค์ เขื่อนหน้าวัด ฯลฯ ดำเนินการก่อสร้างสารธรณประโยชน์ เพื่ออนุเคราะห์แก่ประชาชนทั่วไป
1. เป็นประธานก่อสร้างโรงพยาบาลอำเภอท่าช้าง
2. เป็นประธานก่อสร้างที่ว่าการอำเภอท่าช้าง
3. เป็นประธานก่อสร้างสถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าช้าง
4. เป็นประธานก่อสร้างสถานีอนามัยตำบลพิกุลทอง
5. เป็นประธานก่อสร้างโรงเรียนประชาบาลวัดพิกุลทอง
6. เป็นประธานหาทุนสมทบในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอ อินทร์บุรีและสะพานข้ามแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง
7. ดำเนินการก่อสร้างสาธารณประโยชน์ ให้กับโรงพยาบาลสิงห์บุรี
พ.ศ. 2528 ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ 80 ปี เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 4 ชั้น มูลค่า 11,100,000 บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน) สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ 89 เตียง พร้อมทั้งจัดตั้งกองทุนเพื่อใช้เป็นค่ายาและเวชภัณฑ์ สำหรับพระภิกษุสามเณรที่อาพาธในโรงพยาบาลสิงห์บุรี เป็นเงิน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)
พ.ศ. 2532 ก่อสร้างอาคารเอ็กซเรย์ (อาคารหลวงพ่อแพ 86 ปี) เป็นอาคารคอนกรีต เสริมเหล็ก สูง 2 ชั้น มูลค่า 7,000,000 บาท (เจ็ดล้านบาทถ้วน) ก่อสร้างแล้วเสร็จ และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2533-35
พ.ศ.2534 ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ 90ปี เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 6 ชั้น มูลค่า 35,095,555 บาท (สามสิบห้าล้านเก้าหมื่นห้าพันห้าร้อยห้าสิบห้าบาทถ้วน) อาคารหลังนี้ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2534 เวลา 09.09 น. และเปิดให้บริการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 โดยชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 5 เป็นหอผู้ป่วยสามัญ ชั้นที่ 6 เป็นหอผู้ป่วยพิเศษ จำนวน15 ห้อง และทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีได้กราบทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารหลวงพ่อแพ 90 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๙
พ.ศ. 2538 ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 9 ชั้น มูลค่า 120,000,000 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อ วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2539 ชั้นที่ 1-2 เป็นแผนกบริการผู้ป่วยนอก ชั้นที่ 3-4 เป็นฝ่ายอำนวยการ ชั้นที่ 5-9 เป็นห้องผู้ป่วย จำนวน 60 ห้อง ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
ตลอดชีวิตของหลวงพ่อได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างเอนกอนันต์ และได้อุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อนหรือตกทุกข์ได้ยากตลอดมาหลวงพ่อแพ เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนทั่วไปได้แผ่บารมีช่วยเหลือกิจการต่าง ๆ จวบจนท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 รวมสิริอายุ 94 ปี



</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

******************************************

******************************************

จำนวนเงินที่ต้องนำไปทำบุญมีดังนี้
พลอยประดับเป็นรูปหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ 300.- บาท
พระสังขจายน์โบราณ หน้าตัก 5 นิ้ว 2,000.- บาท
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หน้าตัก 5 นิ้ว 388.- บาท
พญานาคเงินแท้และตัน กว้าง 1 สูง 2 นิ้ว 400.- บาท
พญานาคควอทซ์แดงแกะสลัก 1,250.- บาท
พระปางปฐมเทศนาหล่อโบราณ 100.- บาท*
หลวงปู่หุน 2,222.- บาท
นารายณ์ทรงปืน 1,250.- บาท

รวมเงินที่ต้องโอนไปทำบุญ 7,910.- บาท

ถวายช่วยพระพิชิตไป 3,000.- บาท

ยอดเงินคงเหลือทำบุญ 4,910.- บาท

( ยอดอย่างไม่เป็นทางการครับ ต้องอัพบุ๊คอีกครั้งจึงจะแน่นอนครับ )

หมายเหตุ
**ถวายช่วยพระพิชิตไป 5,000.- บาท มีผู้ร่วมบุญอื่นที่ไม่ใช่กระทู้เช่าวัตถุมงคล 2,000.- บาท
*รอโอน

 

ผมขออนุญาตเจ้าภาพพระบูชาปางมารวิชัยหน้าตัก 5 นิ้ววัดวังมะนาว ลดราคาเริ่มต้นประมูล 3,500.- บาท แล้วทำการประมูลร่วมกับรายการประมูลของวันพรุ่งนี้เวลา 20.30 น. ( 08.30 PM. )

ขอให้ติดตามวันพรุ่งนี้นะครับ<!-- google_ad_section_end -->




<!-- google_ad_section_end -->







****************************************************


ช่วงเว้นพัก 30 นาที เพื่อร่วมประมูลหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทองต่อไป


******************************************************

​

 

.................................................................................

 

..........................................................................................

 

........................................................................

 

..........................................................................................
.
.
.
.
.
.
.
.
.................................................................................

 

ประมูล 21.00 น. ( 09.00 PM. ) 30/09/54
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
หน้าตัก 9 นิ้วปี 2535
เริ่มประมูลที่ 45,000.- บาท
ขึ้นแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 500.- บาท
ค่าส่ง EMS 600.- บาท
องค์นี้โอนทั้งหมดที่เบอร์บัญชีนี้
ธ. กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสวังหิน
ชื่อบัญชี สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล
เลขบัญชี 980-1-94158-8
รายการนี้จะนำไปทำบุญช่วยทำโรงกรองน้ำบ้านแม่แพม
และผ้าห่มให้ชาวบ้านแม่แพม
หากมีเหลืออีกจึงทำบุญพระอาพาธ​

 

ช่วงนี้ฝนตกหนักทำให้น้ำขุ่นข้นมาก ไม่สามารถใช้อุปโภค บริโภคได้แล้ว ระหว่างนี้ สิ่งที่ควรทำคือการจัดการน้ำให้สามารถนำมาใช้อุปโภค บริโภคได้

จึงขอเชิญชวนท่านสาธุชนร่วมกันบริจาคเงินเพื่อช่วยทำเครื่องกรองน้ำให้หมู่บ้านแม่แพม ซึ่งมีชาวปากะญอประมาณ 400 คน สำนักอาศรมพระธรรมจาริกบ้านแม่แพม โดยมีพระอาจารย์บรรเจิดเป็นเจ้าสำนัก

ร่วมบุญได้ที่บัญชีนี้เลยครับ
ธ.ก.ส. สาขาเชียงดาว
ชื่อบัญชี พระบรรเจิด กิตติสาโร
เลขบัญชี 094-2-75655-1<!-- google_ad_section_end -->

http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...ใช้ดื่มและใช้ไม่ได้แล้วหน้า-2-a.305212/page-2