【【วัตถุมงคลฟื้นชีวิต พลิกดวงชะตา】】หลวงปู่หมุน เจ้าคุณเสงี่ยม สุดยอดเกจิ สุดยอดเครื่องราง !!! บ่วงนาคบาศ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย conanzs, 20 มีนาคม 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    {{{ วัตถุมงคลฟื้นชีวิต พลิกดวงชะตา }}}

    หลวงปู่หมุน / ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม / หลวงปู่พวง
    หลวงพ่อสาคร / หลวงพ่อเจิม / หลวงปู่ปัญญา / หลวงตาชัช / หลวงพ่อตี๋ / หลวงพ่อบุญมี / หลวงพ่อสม​



    รายการอัฟเดทล่าสุด อยู่ที่หน้าสุดท้ายครับ


    ท่านสามารถเข้าไปกด LIKE ที่หน้าเพจ เพื่อร่วมพูดคุย สอบถาม และอัพเดทวัตถุมงคลรายการใหม่ๆ ได้ตามลิ้งค์ด่านล่างครับผม

    https://www.facebook.com/kcsiamamulet

    ขอขอบพระคุณทุกๆ ท่าน ที่แวะมาเยี่ยมชมครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2013
  2. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    {{{ เบี้ยแก้ สายอ่างทอง }}}


    [​IMG]


    เบี้ยแก้ หลวงพ่อบุญมี วัดม่วงคัน ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    เบี้ยแก้อาถรรพ์ รุ่น ๓ นะ มะ พะ ทะ เป็นเบี้ยเบี้ยแก้เปลือยไม่หุ้มตะกั่ว บรรจุปรอทและอุดทับด้วยชันโรง เสกอัดด้วยพระคาถาอาคมตามสูตรโบราณของ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อมี จากนั้นปิดด้วยแผ่นเงินจาร กำกับด้วยพระคาถา้เดินธาตุทั้งสี่ นะ มะ พะ ทะ หลวงพ่อท่านจารย์ยันต์กำกับเองเสกเองทุกเม็ด ทำการปลุกเสกทุกๆวันโดยหลวงพ่อมี และพระลูกวัดที่ร่วมกันเจริญพุทธมนต์ จากนั้นหลวงพ่อท่านก็จะมาปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้ง พร้อมกับพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ในพระอุโบสถ จนแน่ใจว่าดีที่สุดแล้วจึงนำออกให้บูชา


    พระครูสิริ บุญเขต หรือชาวบ้านรู้จักในนาม หลวงพ่อมี จิตฺตทโม อายุ 78 ปี พรรษาที่ 58 ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดม่วงคัน ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    หลวงพ่อมี ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ขมังเวทย์ ด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม มหาอุด สิริมงคล โชคลาภ มีฌานสมาบัติแก่กล้า ปฏิปทาน่าเลื่อมใส เป็นพระสุปฏิปันโนที่กราบได้อย่างสนิทใจ

    นามเดิม นายบุญมี ขอผึ้ง ถือกำเนิด ณ บ้านม่วงคัน ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เมื่อวันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2470 เป็นบุตรคนโตในจำนวนทั้งหมด 6 คนคือ 1. หลวงพ่อมี 2. นายเพี้ยน 3.นางบาง 4. นางเชิด 5. นายช่วย 6. นายชอบ ของโยมพ่อชั้น และโยมแม่เจียก

    เรียนจบการศึกษา ป.4 ที่โรงเรียนม่วงคัน หลังจากนั้นได้มาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรมทำนา

    อุปสมบท เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ณ พัทธสีมาวัดม่วงคัน วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2491 โดยมี หลวงพ่อนุ่ม ธมฺมกาโม วัดนางใน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทรง วัดศาลาดิน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อชม ธมฺมธีโร วัดนางใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า จิตฺตทโม

    ครั้นอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่วัดนางใน 4 พรรษา จำพรรษาอยู่วัดชีปะขาว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อยู่กับหลวงพ่อซวง 2 พรรษา แล้วก็มาจำพรรษาอยู่วัดม่วงคัน ได้เดินทางไปมาหาสู่วัดนางใน และวัดชีปะขาวอยู่เสมอมา

    การศึกษาพุทธาคม ไสยเวท มนต์คาถา เริ่มจากการเดินทางไปจำพรรษาอยู่วัดนางใน อ.วิเศษไชยชาญ จ.อ่างทอง ได้อยู่ใกล้ชิดปรนนิบัติรับใช้ หลวงพ่อนุ่ม

    หลวงพ่อนุ่ม เป็นพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในวิชาไสยศาสตร์เวทมนต์คาถามาก ท่านเป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมจาก หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์ และสืบทอดวิชาไสยเวทจากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี และสืบทอดวิชาสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จากหลวงพ่อเข็ม วัดข่อย อ.วิเศษไชยชาญ จ.อ่างทอง พระอาจารย์ที่หลวงพ่อนุ่มเล่าเรียนมา แต่ละองค์ล้วนวัตถุมงคลมีค่านิยมหลักหมื่นต้นๆ ถึงหลักแสน สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อนุ่มเหรียญรุ่น 1 เล่นหากันราคาหลายหมื่น เบี้ยแก้เล่นหาราคาสูง และหายากทั้งเหรียญและเบี้ยแก้มีประสบการณ์มาก

    หลวงพ่อนุ่ม วัดนาง ในพระอาจารย์ของ หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน องค์นี้ มีไสยเวท มนต์คาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ขึ้นชื่อได้แก่พระคาถาทำผงเรียกว่า มนต์พระสังข์ ซึ่งเป็นสุดยอดเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ สิริมงคล โชคลาภ ใช้เรียกทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมา เป็นที่ขึ้นชื่อและมีประสบการณ์ทันตาเห็น

    แม้ในครั้งยุคที่ หลวงพ่อนุ่ม เวลาวัดมีงานปี และ งานบุญ ท่านจะใช้แป้งเสกผงไปโรยบริเวณรอบวัด ตกกลางคืนผู้คนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศจนเบียดเสียดต้องดันกันเข้าบริเวณวัด ทุกครั้งไป เป็นที่ขึ้นชื่อว่าในอำเภอวิเศษไชยชาญไม่มีวัดไหนมีผู้คนมางานมากเท่าวัดนางใน

    หลวงพ่อมีได้ขอศึกษาเรียนวิชาไสยเวทจาก หลวงพ่อนุ่ม จนจบสิ้น ในลำดับแรกท่านได้สอนวิชาทำสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ถ่ายทอดวิชาจุพลังคุณ พระคาถาผงมนต์ พระสังข์ ทำเบี้ยแก้ มหาอุด คงกระพันชาตรี เมตตาค้าขาย ทำน้ำมนต์แก้คุณไสย ขับภูตผี ทำตะกรุด ทำผงปถมังอิทธิเจ ตรีนิสิงเห และผงมหาราช หน้าพระลักษณ์

    เมื่อศึกษาจบสิ้นแล้ว ได้ลาพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์มุ่งสู่อำเภอพุทธบาทผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ขอนแก่น สกลนคร พระธาตุพนม จ.นครพนม สู่ประเทศลาว แล้วกลับมาทางนครราชสีมา เขาปักธงชัย จ.นครนายก ต่อไปวัดยางมณี อ.วิเศษไชยชาญ เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ขอเรียนวิชาสะกดสัตว์ร้ายจากท่านพระครูสุกิจวิชาญ (หลวงพ่อชวน) ท่านเชี่ยวชาญเรื่องวิชาป้องกันสัตว์ร้าย วิชาทำข้อกำไลแขน เชือกผูกเอว ผูกแขนป้องกันสัตว์ร้ายได้สารพัด

    เมื่อได้เรียนวิชา แล้วก็ลาหลวงพ่อชวน จากวัดยางมณีไปกราบนมัสการหลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว 2 พรรษา ได้ขอศึกษาไสยเวทพุทธาคมจากหลวงพ่อซวง หลวงพ่อซวงได้ถ่ายทอดให้จนหมดสิ้น

    หลวงพ่อซวงท่านเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์เช่นกัน มีพลังจิตสมาธิแก่กล้า ไสยเวทย์เข้มขลังพิสดาร เก่งทางมหาอุต อยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวัตถุมงคลที่ ศักดิ์สิทธิ์ มีค่านิยมเล่นหากันสูงเป็นที่ยอมรับและรู้จักในวงการพระเครื่องทั่วเมืองไทย พระรูปเหมือนของท่านมีพุทธคุณมหาอุต อยู่คงกระพันชาตรีมากเล่นหากันหลักหมื่น พระลีลาเนื้อเงินยวงก็เล่นกันหลักหมื่น ผ้ายันต์มีประสบการณ์รถตกจากสะพานลอยตีลังกาหลายตลบ รถหมุนมาตั้งในสภาพปกติไม่มีใครบาดเจ็บ รถก็ไม่ชำรุดเสียหาย วัตถุมงคลหลวงพ่อซวงถือเป็นสุดยอด เรียกหาต้องการกันมาก หลวงพ่อซวงได้สอนไสยเวทย์วิชาต่าง ๆให้หลวงพ่อมี เช่น วิชาสมถะกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน อสุถะกรรมฐาน กสิณ 10 ทำน้ำมนต์ไล่ผี จับคูณไสย เสกมีดหมอ ทำตะกรุด ผ้ายันต์ ผ้ากระเจียด ผ้ายันต์หมาระงับดับทุกข์ภัย วิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาสะท้อน มหาอุต ลงแหวนพิรอดปลอดภัย ลงเขี้ยวงา

    เมื่อจำพรรษาได้ 2 พรรษาก็ได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดม่วงคันในปี พ.ศ.2498 ซึ่งที่บ้านม่วงคันนี้เป็นถิ่นกำเนิดของหลวงพ่อมี ตลอดระยะเวลาที่จำพรรษาอยู่ที่วัดม่วงคัน หลวงพ่อมีท่านยังได้เดินทางไปมายังวัดนางในและวัดชีปะขาวอยู่เสมอ ในครั้งที่หลวงพ่อซวงชรามาก หลวงพ่อมีจะเดินทางไปดูแลรับใช้หลวงพ่อซวง จนถึงวาระสุดท้าย ท่านได้มรณภาพละสังขารไป ในช่วงที่หลวงพ่อมีได้มาจำพรรษาที่วัดม่วงคันนั้น เป็นช่วงที่พระอธิการผลเป็นเจ้าอาวาสวัดม่วงคันสืบต่อจากพระอาจารย์เต๊ะ ซึ่งพระอาจารย์เต๊ะได้ลาสิกขาไปต่อมาในปีพ.ศ.2496 พระอธิการผลก็ได้ลาสิกขา เนื่องจากสุขภาพสังขารไม่อำนวย ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ทำให้วัดม่วงคันวางเว้นขาดเจ้าอาวาสอยู่ 2 ปี

    พ.ศ. 2500 หลวงพ่อมี จิตฺตทโม ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส วัดม่วงคัน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อปี พ.ศ. 2513 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอกพิเศษในนามพระครูสิริบุญเขต เมื่อปี พ.ศ. 2542 จวบจนปัจจุบัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2013
  3. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    {{{ เบี้ยแก้ สายอ่างทอง }}}


    [​IMG]


    เบี้ยแก้ หลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง ต.คำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    เบี้ยแก้ หลวงพ่อสม ท่านถือได้ว่าเป็นพระโบราณไม่ว่าจะทำของอะไรก็แล้วแต่ต้องทำตามแบบโบราณ ตามรอยครูบาอาจารย์ของท่าน แม้แต่การทำเบี้ยแก้ ของท่านไม่ใช่ว่าจะเอาเบี้ยมาใส่ปรอทแล้วเสกเท่านั้น แต่วิธีการทำเบี้ยแก้ของท่านจะไม่เหมือนที่อื่น คือ ท่านต้องให้ลูกศิษย์ของท่านไปหาเบี้ย (หอย) มาให้ท่าน แล้วท่านก็จะนำเบี้ยที่ได้ ทั้งหมดมานั่ง คัดที่ละตัว เอาตัวที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่มีรอยแตก หรือ บิ่น มีฟันครบ 32 ซี่ (ตามอาการ) พอได้ครบตามจำนวนที่ท่านต้องการแล้วท่านก็จะนำเบี้ยทั่งหมดมาทำการ พินทุ ของเสียออก แล้วจึงบรรจุปรอทเสกเป่าลงไปในเบี้ยแล้วปิดด้วยแผ่นทองเหลืองพร้อมด้วยยันต์กำกับ จากนั้นจึงนำไปเสกในโบสถ์ เสกจนแน่ใจว่าเบี้ยใช้ได้ทุกตัวจึงจะถือว่าเสร็จพิธีการของท่าน หลวงพ่อท่านว่าที่ท่านทำอย่างนี้ก็เพราะว่า ผู้ที่บูชาของท่านไป ไม่ว่าจะทำกิจการอะไรค้าขายอะไรถึงเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็จะรอด ทำไร่ ทำนา ทำสวน แขวนหรือฝังดินไว้ ก็จะรอดจากเภทภัยต่างๆ พวกคุณไสยต่างๆ ก็ไม่กล้ากล้ำกราย ช่วยส่งเสริม อำนาจ วาสนา บารมี แก่ผู้นั้น


    จังหวัดอ่างทอง มีอำเภอโพธิ์ทอง มีวัดชื่อว่า "วัดโพธิ์ทอง" ตั้งอยู่ที่ ต.คำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ปัจจุบันมี "หลวงพ่อสม สุชีโว" หรือ "พระครูโสภณสิริธรรม" เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทองเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นแพทย์แผนโบราณ เป็นพระนักการศึกษา พระนักปกครอง และพระนักพัฒนา พร้อมกันไป ชื่อเสียงของหลวงพ่อสมจึงได้ขจรขจายไปทั้งเมืองอ่างทอง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านโดยทั่วไป

    หลวงพ่อสม สุชีโว อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า สม พรหมทอง เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2473 บิดา-มารดา ชื่อ นายหวล และนางละมาย พรหมทอง เกิดที่บ้านบางลำพู ข้างวัดสังเวชวิศยาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ท่านเป็นบุตรชายคนโต

    ช่วงเกิดสงครามโลก ทั่วพระนครภัยพิบัติไปทั่ว ทำให้ครอบครัวพรหมทองได้รับความเดือดร้อน จึงอพยพครอบครัวไปตั้งรกรากอยู่ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

    ด้วยความที่ บิดามีความสนิทสนมกับสม ภารวัดที่อยู่ใกล้กับบ้าน คือ หลวงพ่อทรัพย์ เจ้าอาวาสวัดอินทาราม (วัดตลุก) จึงได้นำบุตรชายไปฝากให้เป็นลูกศิษย์คอยปรนนิบัติรับใช้ในกิจการต่างๆ รวมทั้งอบรมสั่งสอนเล่าเรียนวิชาการต่างๆ จากหลวงพ่อและโรงเรียนประชาบาลที่อยู่ภายในวัดอินทาราม

    ชีวิตในวัย เด็กมีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษา จนจบการศึกษาอันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน นอกจากวิชาสามัญในโรง เรียนแล้ว หลวงพ่อทรัพย์ยังได้อบรมสั่งสอนวิชาแพทย์แผนโบราณ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

    เนื่องจากหลวงพ่อทรัพย์เป็นหมอยาไทยที่ มีชื่อเสียง จะมีผู้คนมาให้ท่านรักษากันมาก จึงมีหน้าที่ปรุงยาไทยให้หลวงพ่อตามใบกำกับยาที่ท่านส่งให้

    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้สั่งสมความรู้ทางแพทย์แผนโบราณอย่างดี

    เมื่อ อายุ 17 ปี ย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม หลวงพ่อทรัพย์ได้แจ้งกับโยมบิดามารดา ขอให้ได้เข้าบวชเรียน ท่านจึงได้บรรพชา ศึกษาเรียนพระปริยัติธรรมที่สำนักเรียนวัดอินทาราม พ.ศ.2490 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2491 สอบได้นักธรรมชั้นโท

    นอกจากนี้ ยังได้เรียนวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เดินทางมาอยู่ปริวาสที่วัดอินทาราม อาทิ หลวงพ่อรุ่งและหลวงพ่อเดิม พระเกจิชื่อดังแห่งวัดหนองโพ จ.นครสวรรค์

    ครั้นต่อมาได้ลาสึก เมื่ออายุ 19 ปี ด้วยเหตุที่โยมบิดามารดามีอายุชราภาพมากขึ้น จำต้องออกมาช่วยงานหาเลี้ยงครอบครัว คือ การควบคุมเรือบรรทุกสินค้าล่องมาค้าขายที่กรุงเทพฯ

    จนเมื่ออายุ 24 ปี วันหนึ่งหลวงพ่อทรัพย์ได้เดินทางมาหาโยมบิดามารดา ขอให้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2496 ณ พัทธสีมาวัดอินทาราม มีพระครูธรรมวิริยโสภณ (ทรัพย์) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์สนิท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เส็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สุชีโว มีความหมายว่า "ผู้มีชีวิตอันงาม"

    หลังอุปสมบทจึงหมั่นศึกษาต่อจากที่ได้เล่าเรียนเมื่อครั้งเป็นสามเณร จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก

    ครั้นหมดภาระทางการศึกษาพระปริยัติธรรม ท่านจึงหันไปศึกษาตำราแพทย์แผนโบราณต่อจากที่เคยได้ศึกษาไว้เมื่อครั้งเป็น สามเณรจากหลวงพ่อทรัพย์ ท่านได้ศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง จากนั้นก็เรียนวิชากับหลวงพ่อเก็บ และไปๆมาๆ เรียนวิชากับหลวงพ่อทรัพย์ที่วัดตลุก และไปอยู่รับใช้ที่วัดตลุกในช่วงบันปลายชีวิตของหลวงพ่อทรัพย์ 4-5 ปี ก่อนมรณะภาพ

    ด้วยความ มุ่งมั่นเกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร ทำให้หลวงพ่อสมได้รับนิมนต์ให้ไปบรรยายวิชาแพทย์แผนโบราณกับหน่วยงานของทาง ราชการ หน่วยงานเอกชน

    ยามว่างงานด้านการรักษาโรค ก็ศึกษาข้อกัมมัฏฐานและหมั่นเพียรปฏิบัติสมาธิกัมมัฏฐานอย่างเอาจริงเอาจัง

    หลวงพ่อทรัพย์ได้ฝึกอบรมหลวงพ่อสม ด้วยการให้ท่านเขียนลบเลขยันต์ต่างๆ ในแผ่นกระดานชนวนอยู่อย่างนั้นนับแรมปี ด้วยสิ่งใดก็ตามเมื่อทำอย่างซ้ำๆ จะเป็นผลดีในการฝึกจิตแบบอดทน

    นอกจากนี้ หลวงพ่อสมได้ไปศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับน้าแท้ๆ ของท่าน คือ หลวงน้าเก็บหรือหลวงพ่อเก็บ แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท

    กล่าวได้ว่าหลวงพ่อเก็บเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเกจิชื่อดัง

    ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อสมได้มาอยู่กับหลวงน้าของท่านที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้ตั้งใจศึกษาวิทยาคมสายหลวงปู่ศุขอย่างจริงจัง จนมีความสำเร็จและมีประสบการณ์ให้ได้เห็นกันในปัจจุบัน ส่งผลให้วัตถุมงคลที่ท่านได้ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตมีความเข้มขลัง ได้รับการยอมรับจากบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง

    หลวงพ่อสมได้ฝึกจิตด้วยความเพียร โดยเห็นว่า "จิตเป็นที่ตั้งแห่งความดีและความชั่ว ความดีและความชั่วนั้นต่างมีพลังงานในตัวของมันเอง และพลังงานของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นปฏิปักษ์กันโดยธรรมชาติ มีการต่อสู้กันอยู่เนืองนิตย์ จิตใจเป็นสนามต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย"

    "ผลแห่งการต่อสู้นั้นด้วย คือ พลอยเป็นสุขเมื่อความดีชนะ พลอยเป็นทุกข์เดือดร้อนเมื่อความชั่วชนะ จิตใจย่อมมีอิสรเสรีที่จะเข้ากับฝ่ายใดก็ได้ เมื่อพิจารณาด้วยปัญญาแล้วเห็นควรเข้ากับฝ่ายใด และมีทางเอาตัวรอดจากอำนาจทั้ง 2 ฝ่ายนั้นด้วย"

    พ.ศ.2525 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามพระครูโสภณสิริธรรม

    พ.ศ.2549 เป็นเจ้าคณะอำเภอโพธิ์ทอง

    ในปีเดียวกัน หลวงพ่อสมได้เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตวัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี จนจบหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต

    หลวงพ่อสมมีชื่อเสียงเกียรติคุณในด้าน การจัดสร้างพระผง ได้มีการนำมวลสารผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ที่ได้ผ่านการเขียนสูตร เรียกสูตร ลบสูตรทุกขั้นตอนตามแบบโบราณ

    หลวงพ่อสมได้บอกเล่าถึงกระบวนการทำผงมวลสารพระเครื่อง ว่า "ต้องหาที่มุมสงบเพื่อให้จิตนิ่งเป็นสมาธิแล้วเขียนสูตรพร้อมเรียกสูตรไปที ละตัวอักขระ จนครบทุกตัวอักขระเลขยันต์บนกระดานชนวน 1 ครั้ง หรือ 1 รอบ ต้องใช้เวลาเขียนสูตร เรียกสูตร ลบสูตรเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง รวมทั้งการหาฤกษ์เขียนสูตรผง จะต้องเป็นฤกษ์ที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้ผงนั้นมีพุทธคุณเข้มขลังมากที่สุด"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    {{{ เบี้ยแก้ สายอยุธยา }}}


    [​IMG]


    เบี้ยแก้ พระอาจารย์พิจารณ์ วัดโพธิผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธย

    เบี้ยแก้พระปลัดพิจารณ์เป็นเบี้ยปรอทผสมระหว่างปรอทธรรมชาติที่ได้จากพระธุดงค์ดักมาจากในป่าเป็นเวลากว่าสิบๆปี ผสมปรอททะเลที่ได้จากแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลอ่าวไทย ทำการปลุกเสกเอง จารเอง ตามตำราพระพิชัยสงครามที่ได้สืบทอดมา ครบเครื่องทั้งเรื่องป้องกันและแก้การกระทำทางคุณไสย ตลอดจนยาสั่งและไข้ป่าเป็นอิทธิวัตถุที่มีลักษณะท้าทายอย่างเปิดเผยต่อการปล่อยคุณไสยและการกระทำย่ำยีในฝ่ายกาฬไสยทั้งปวง ในคราวใดที่มีสิ่งที่เป็นเสนียดจัญไรคุณไสยเข้ามาสู่ตัวเบี้ยแก้นี้ ปรอทในหอยเบี้ยจะมีปฏิกิริยาสั่นเคลื่อนที่ไปมา หากสิ่งนั้นไม่แรงมากจะเคลื่อนช้าๆ แต่หากของแห่งอำนาจไสยศาสตร์แรง เบี้ยจะเคลื่อนไปมาอย่างเร็วมาก เบื้อแก้ตำราของพระอาจารย์พิจารณ์ ว่ากันว่าเปฺ็นเบี้ยที่มีประสบการณ์สั่นได้มานักต่อนักแล้ว


    พระอาจารย์พิจารย์ ผู้เชี่ยวชาญพระพิชัยสงครามแห่งเมืองอยุธยา

    ชาติกำเนิด เป็นบุตรนายสมาน – นางสมศรี พลายบางมด เกษตรชาวสวน เกิด เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่ตำบลบางมด เขตบางขุนเทียน เป็นบุตรคนที่ ๖ ในจำนวนพี่น้อง ๙ คน

    การศึกษาทางโลก เริ่มจากโรงเรียนชั้นปฐมต้นที่โรงเรียนวัดยายรม ปฐมปลายที่โรงเรียนวัดใหม่สีสุก

    มัธยมต้นและมัธยมปลายที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ เขตบางขุนเทียน จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์บัณฑิต ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

    ชีวิตในวัยเด็ก เนื่องจากอยู่ครอบครัวเกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างชาวชนบททั่วไป วัยเด็กติดปู่ ย่า เข้าวัดในวันพระอยู่เสมอ ๆ บางวันต้องพายเรือ นำหมาก พลูและไม้กวาดของโยมย่าไปถวายหลวงปู่บุญมี ( พระถาวรพรหมานุกูล เจ้าอาวาสวัดไทรในขณะนั้น ) จึงได้รับความเมตตาอบรมกรรมฐานเบื้องต้นแต่เยาว์วัย ประกอบกับคติความเชื่อในสมัยนั้น ปู่ ย่า พ่อ แม่ มักนำลูกชายไปถวายเป็นลูกบุญธรรมพระเถระ เพื่อให้เป็นลูกพระลูกเจ้า ว่านอนสอนง่ายและอยู่รอดปลอดภัย กับหลวงปู่ผล วัดหนัง บางขุนเทียน หลวงปู่เอื้อน วัดบางขุนเทียนกลาง หลวงปู่มิ่ง วัดกก เป็นต้น

    ชีวิตในชนบท ฝึกให้ต้องมานะอดทนต้องช่วยพี่ๆ พายเรือตามคลองไปส่งส้มและผลไม้ที่ตลาดดาวคะนอง ( เขตจอมทองปัจจุบัน ) ต้องเดินเป็นระยะทางนับเกือบ ๑๐ ก.ม. กว่าจะจบการชั้นมัธยม

    ชีวิตในวัยหนุ่ม แม้เมื่อเติบโตเป็นหนุ่มแล้ว ยังรักการตระเวนไหว้พระเถระฝากตัวเป็นศิษย์ ขอพรและขอคำแนะนำในภูมิเวทย์ ภูมิธรรมอยู่เสมอ เช่น หลวงพ่อหงส์ วัดบางพลีใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาคร หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จังหวัดสมุทรสงคราม หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จังหวัดนครปฐม พระอาจารย์บุญลือ วัดคำหยาด จังหวัดอ่างทอง หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง จังหวัดอ่างทอง และครูฆราวาส ต่างมี ครูชุบ ครูเล็ก ครูต้อ ( หลานหลวงพ่อพุธ สารสุข ) ครูนรงค์ เผือกเที่ยง ( ศิษย์หลวงพ่อเพชร กัญถเถโก ) เนืองจากเป็นผู้สนใจในทางเวทย์และอักขระอาคม ขณะอายุได้เพียง ๒๕ ปี ก็สามารถ เขียน อ่าน ตำราอักขระขอมโบราณต่างๆได้เป็นพื้นฐานให้ได้ศึกษาตำรับตำรา สมุดข่อยมากมายในเวลาต่อมา

    ชีวิตในร่มกาสาวพัตร อุปสมบทครั้งแรกเมื่อจบปริญญาตรีเป็นการบวชตามประเพณีของชายไทย ณ. วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ( บวชหมู่ ) โดยมีพระครูปัญญานันทะ เป็นอุปํชฌาย์ และได้ลงไปปฏิบัติศึกษากับหลวงพ่อพุทธทาส ที่สวนโมกข์พลารามอยู่ระยะหนึ่ง ครั้นพ้นพรรษาก็ได้ลาสิกขาบทประกอบอาชีพการงานอยู่นับสิบปีเศษ เมื่อมีวันหยุดวันว่างก็ยังตระเวนกราบไหว้ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอยู่เสมอๆ ยังขวนขวายในตำหรับตำราอยู่เป็นนิจย์

    การอุปสมบท ครั้งที่ ๒ เนื่องจากไม่ได้สมรสมีครอบครัว จึงไม่มีภาระพันธะใดๆ นอกจากทำนุบำรุงบิดามารดาตามหน้าที่ ครั้นโยมแม่ป่วยด้วยอาการความจำเสื่อม ตั้งใจบวชเป็นกุศลเดือนหนึ่ง ขณะอายุได้ ๔๓ ปี โดยอุปสมบท ณ วัดโพธิผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพระครูประจักษ์สุตคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์และมีวัดโพธิผักไห่นี้เอง ได้ค้นพบตำราเก่ามากมาย ซึ่งเก็บรักษาไว้แต่โบราณ โดยพระครูพิสิษฐ์สังฆการ อดีต จ.อ. ( ครองวัดแต่พ.ศ. ๒๔๕๙ – พ.ศ. ๒๔๘๐ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ) และพระครูบวรสังฆกิจ ( ครองวัด พ.ศ.๒๔๘๐ – พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นศิษย์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ) ด้วยวัยที่เริ่มมองเห็นสัจจธรรมประกอบกับรักสงบ และสันโดษ จึงอธิฐานชีวิตเพื่อศาสนธรรมตลอดชีพ เริ่มรวบรวมตำราต่างๆ ของวัดโพธิผักไห่ซึ่งมีอยู่มากมาย ตำราของหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ตำราของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เก็บรวบรวมมีดหมอ และฤาษีของครูบาอาจารย์ต่างๆ ขึ้นบูชา ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ เริ่มสร้างวัตถุมงคลต่างๆเพื่อแจกกฐินและผ้าป่าพัฒนาวัดและโรงเรียนมาจนปัจจุบันนี้

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ศรัญญู

    ศรัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +748
    เบี้ยแก้ พระอาจารย์พิจารณ์ วัดโพธิผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธย
    ตัวนี้มีให้บูชาไหมครับพี่...แล้วประมาณเท่าไหร่หรอครับ...^^
     
  6. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    {{{ เบี้ยแก้ สายวัดนายโรง }}}


    [​IMG]


    เบี้ยแก้ หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ต.คูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

    หลวงพ่อกี๋ท่านเรียนวิชาทำเบี้ยแก้ จากหลวงปู่รอด วัดนายโรง และวิชาปรอท จากเจ้าคุณโพธิ์วัดชัยพฤกษ์มาลา สมัยที่หลวงปู่โพธิ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี หลวงพ่อกี๋ท่านทำเบี้ยแก้ครั้งแรกได้ประมาณ 30 ตัว แจกพระธุดงค์ร่วมสมัยและแจกคนใกล้ชิด ไว้กันภูตผีคุณไสย หลวงพ่อตี๋ได้รับการสืบทอดวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อกี๋ ในการจัดสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางเบี้ยแก้ ที่ไม่เหมือนใคร หลวงพ่อตี๋ หรือพระครูสุวรรณโชติวุฒิ เจ้าอาวาสวัดหูช้างในปัจจุบัน ท่านจัดสร้างเบี้ยแก้ตามสูตรที่หลวงพ่อกี๋ท่านถ่ายทอดให้ ท่านสร้างคราวละไม่มากไม่เกิน 20-30 ตัว สร้างกีทีก็มีคนมาบูชาจนหมดทุกที

    ในการจัดสร้างเบี้ยแก้ หลวงพ่อตี๋ท่านจะบรรจุปรอทตลอดจนอุดชันโรงและจารอักขระเองทุกตัว ทุกขั้นตอนล้วนแล้วแต่ทำด้วยมือภายในวัดทั้งสิ้นไม่ใช่ออกจากโรงงาน จึงค่อนข้างยุ่งยากและเสียเวลามากกว่าจะได้แต่ละตัว

    เบี้ยแก้หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้างเท่าที่เห็นมีด้วยกันทั้งหมดสี่แบบคือ
    1. เบี้ยแก้เปลือยหุ้มด้วยตะกั่ว
    2. เบี้ยแก้เปลือยหุ้มด้วยตะกั่ว หลังเปิด
    3. เบี้ยแก้เปลือยหุ้มด้วยตะกั่ว ไร้รอยต่อ
    4. เบี้ยแก้ถักเชือกลงรักมีหูทองแดง 5 เส้นเรียงกันเป็นขาเดียว (ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว)

    หลวงพ่อตี๋ท่านจารอักขระยันต์เองพร้อมเสกเองทุกตัว มีการตอกโค้ด ต กลางดอกจัน และชื่อวัดหูช้างใต้ท้องเบี้ยทุกตัว สำหรับเบี้ยแก้ถักเชือกลงรักท่านจะตอกโค้ดตัวอักษร ท.บ (ย่อมาจากทองใบ ซึ่งเป็นชื่อของท่าน) ไว้ที่หูทองแดง 5 เส้น เบี้ยแก้ทั้งหมดของท่านๆจะปลุกเสกเดี่ยวในโบสถ์


    [​IMG]


    "วัดหูช้าง" นับว่าเป็นวัดเก่าแก่โบราณวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ตำบลคูเวียง อำเภอบางกรวย นนทบุรี จากหลักฐานที่ยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง เช่น วิหาร เจดีย์ ซึ่งเข้าใจกันว่าสร้างขึ้นราวสมัยกรุงศรีอยุธยา ท่านพระครูกิตตินนทคุณ หรือ หลวงพ่อกี๋ อดีตเจ้าอาวาสวัดหูช้าง ส่วนใหญ่ผู้คนจะรู้จักท่านเป็นอย่างดี ว่าท่านเป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญและเก่งกล้าทางด้านคาถาอาคม การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ผีเข้าหรือถูกคุณไสยต่างๆ สมัยท่านมีชีวิตอยู่ใครมีเรื่องเดือดร้อน หรือต้องการให้ท่านขจัดปัดเป่า ท่านก็เมตตาช่วยเหลือให้ทุกรายไปโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ แม้ปัจจุบันท่านจะมรณภาพไปปี พศ.2522 นานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของท่านก็ยังเป็นที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้ วัตถุมงคลของท่าน ก็ยังเป็นที่ต้องการและเสาะแสวงหา ของบรรดานักนิยมและสะสมพระเครื่อง เนื่องจากมีพุทธคุณยอดเยี่ยม ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน ดังที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานกันมา วัดหูช้าง จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีเจ้าอาวาสปกครองวัดนี้หลายองค์ด้วยกัน และหนึ่งในจำนวนนี้มี เจ้าอาวาสองค์หนึ่งที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก และยังเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจยามทุกข์ยาก เดือดร้อนด้วยเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ผีเข้าเจ้าสิง หรือเรื่องอื่น ซึ่งในสมัยนั้นนับว่าท่านเป็นเจ้าอาวาสที่เก่งกล้ามาก และเจ้าอาวาสองค์นี้ก็คือ หลวงพ่อกี๋

    ประวัติของ หลวงพ่อกี๋ นั้น เท่าที่ทราบพอมีสังเขปดังนี้ หลวงพ่อกี๋ เดิมท่านมีชื่อว่า นายกี๋ นามสกุล บุญใจใหญ่ โยมบิดาชื่อ นายคอย โยมมารดาชื่อนางไฝ ซึ่งมีเชื้อสายตระกูล รัตนชื่น มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน 13 คน หลวงพ่อกี๋ นั้น ครอบครัวของท่านเป็นชาว จังหวัด นนทบุรี โดยกำเนิด และเกิดเมื่อปี พ.ศ.2444 ส่วนวันที่เกิด ไม่ทราบหลักฐานแน่ชัด รู้แต่เพียงว่าโยมบิดาของท่านเป็นหมอยาโบราณ ต้นตระกูลของ หลวงพ่อกี๋ ทุกคนส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเป็นหมอรักษาโรค รวมทั้งตัวของ หลวงพ่อกี๋ ด้วย ชีวิตในวัยเยาว์ หลวงพ่อกี๋ ท่านให้ความสนใจ และศึกษาตำราการทำน้ำมนต์รักษาโรคต่างๆ โดยได้ศึกษาวิชาการทำน้ำมนต์จากคุณปู่ของท่านเอง สมัยก่อนนั้นคุณปู่ของท่านเก่งทางด้านการทำน้ำมนต์รักษาโรคต่างๆ กล่าวได้ว่าใครมีโรคอะไรก็จะเดินทางมาหา เนื่องจากสมัยนั้นโรงพยาบาลต่างๆ ก็ยังไม่ค่อยมีเหมือนปัจจุบัน จนต่อมาชาวบ้านต่างๆ ก็ขนานนามท่านว่าหมอบุญเทวดา ครั้นต่อมาเมื่อท่านมีอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ โยมบิดา-มารดาก็จัดการอุปสมบทให้ ณ พัทธสีมา วัดหูช้าง ตำบลคูเวียง อำเภอบางกรวย นนทบุรี เมื่ออุปสมบทแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่ วัดหูช้าง หลังจากนั้น 2 พรรษาผ่านไป หลวงพ่อกี๋ ก็ได้ออกธุดงควัตรไปตามป่าเขาต่างๆ เพื่อแสวงหาความสงบวิเวกฝึกวิปัสสนากรรมฐานบำเพ็ญภาวนา หลวงพ่อกี๋ ท่านมีความมุ่งมั่นฝึกสมาธิเจริญภาวนาด้วยจิตที่ยึดมั่น และไม่ตั้งอยู่ในความประมาท จนจิตรวมเข้าสู่ฐานของสมาธิ ทำให้เกิดความสุขและความอิ่มเอิบ เมื่อท่านเพียรภาวนาอยู่ตามป่าตามเขาพอควรแก่เวลาแล้ว ท่านก็ออกธุดงควัตรต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งต่อมาท่านก็ได้พบกับ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เกจิอาจารย์ดังเจ้าของ ปลัดขิก อันลือชื่อที่เล่าขานกันว่าสามารถทวนน้ำได้ หลวงพ่อกี๋ เมื่อท่านได้พบกับ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ แล้ว ท่านก็ได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับการสร้างปลัดขิกจา หลวงพ่ออี๋ ของดีของหลวงพ่อกี๋ นั้น นอกจากปลัดขิกดังกล่าวแล้ว ก็ยังมี ตะกรุดธงผ้ายันต์สามเหลี่ยม พระเครื่อง พระสมเด็จ กำไล เหรียญรูปเหมือน เป็นต้น รวมถึงหลวงปู่กี๋ท่านเป็นศิษย์ก๋งจาบ แห่งสำนักวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับหลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯและหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ซึ่งเกจิฯร่วมสำนักทั้ง 3 รูปนี้ได้ก่อปาฏิหารย์ในคราวปลุกเสกพระที่วัดปราสาทบุญญาวาสสามเสนคือแผ่นทองแดงของพระอาจารย์ทั้ง 3 รูปหลอมไม่ละลายมาแล้ว และท่านยังฝากตัวเป็นศิษย์ของนนทบุรีอีกด้วย หลวงพ่อจ่อย วัดศรีประวัติ /หลวงพ่อแดง วัดตะเคียน / และพระอาจารย์โหมด อาจารย์ของหลวงพ่อแทน ยอกเกจิฯนนท์ยุคนั้นอีกด้วย

    ส่วนเรื่องราวอภินิหารของ รูปหล่อจำลองของหลวงพ่อกี๋ ปัจจุบันก็มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไปที่ให้ความเคารพนับถือในตัวท่านเดินทาง มากราบไหว้ตลอดเวลา ซึ่งบางท่านก็มากราบไหว้ขอพรท่านเฉยๆ บางท่านก็มาบนบานศาลกล่าวเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ก็สัมฤทธิผลตามที่ต้องการ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ขอให้อยู่ในวิจารณญาณของท่านก็แล้วกัน ส่วนเรื่องราวของ หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาก็มีผู้เล่าขานเสมอ เชื่อว่ามีอีกมากมายไม่สามารถบรรยายได้หมด ณ ที่นี่ได้

    [​IMG]


    พระครูสุวรรณโชติวุฒิ หรือ หลวงพ่อตี๋ เจ้าอาวาสวัดหูช้าง นนทบุรี นั้น ปัจจุบันท่านอายุ 75 พรรษาแล้ว ท่านเป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมที่เหลืออยู่เพียงรูปเดียวและมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่กี๋วัดหูช้าง หลวงพ่อตี๋ เจ้าอาวาสวัดหูช้างรูปปัจจุบันท่านเป็นพระเกจิฯที่สืบสายพุทธาคมมาที่หลวงปู่กี๋ได้ถ่านทอดให้อย่างเข้มขลัง โดยเฉพาะการทำตะกรุดต่างๆเช่น ตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดมหารูด ฯลฯ และเครื่องรางของขลังต่างๆ ท่านยังคงจารเอง รวมถึงวัสดุมวลสารต่างๆทุกขั้นตอนภายในวัด จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านเข้มขลังและทรงคุณค่า วัตถุมงคลราคาไม่แพงเกินไปวัดจัดสร้างเอง และที่สำคัญไม่มีนายทุนมาสร้างให้วุ่นวายรายได้จากการจำหน่ายวัตถุมงคลทางวัดจะนำไปบูรณะถาวรวัตถุภายในวัดทั้งหมด

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928

    เท่าที่รู้ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ ช่วงเข้าพรรษาหลวงพ่อท่านจะเสกไว้ แต่ไม่ได้ให้บูชาไว้รอออกพรรษา เดี่ยวผมจะแวะไปกราบท่านอีกทีครับ...ตัวนี้ราคา 1,200 ครับ
    หลวงพ่อท่านจารให้ ผมเก็บไว้ใช้เองครับ ^^
     
  8. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    ยังคงตามหาต่อไป สำหรับเบี้ยแก้ ตอนนี้ก็ได้มาหลายสาย หลายแบบพอสมควร แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับทุกท่านที่อยากบูชา ไว้แล้วจะหามาอัฟเดทเรื่อยๆ นะครับ วันนี้เอาข้อมูลไปอ่านกันก่อน

    เดี่ยวพรุ่งนี้มาลงวัตถุมงคลให้ทุกท่านได้บูชา

    แล้วพบกันครับผม
     
  9. ศรัญญู

    ศรัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +748
    อ๋อครับพี่...จะรอช่วงออกพรรษานะครับ...^^
     
  10. auan24

    auan24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2012
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +943
    โอนให้แล้วค่ะ 3300 (รวมท้าวเวสสุวรรณ 1600 นะคะ) scb 19:11
    ที่อยู่ pm ค่ะ

     
  11. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928

    แฮ่ๆ ดูเหมือนจะโดนมัดมือชก...ตอนนี้ท้าวเวส ที่วัดราคา 2,000 แล้วนะครับ
    รุ่นนี้มีประสบการณ์เยอะ.....พรุ่งนี้จัดส่งให้ทั้ง 3 รายการ
    ขอบพระคุณมากครับผม
     
  12. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    รายการที่ 211. พระผงนั่งตั่ง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ


    *ราคาพิเศษ * บูชาแล้ว *


    [​IMG]

    [​IMG]


    พระผงรูปเหมือนนั่งตั่ง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ยุคแรก วัดป่าบ้านหนองหล่ม ปี ๒๕๔๒

    พระผงหลวงปู่หมุน รูปเหมือน ปี ๒๕๔๓ เป็นพระชุดแรกที่สร้างที่วัดป่าหนองหล่ม มีมวลสารมากมายหลายอย่างตามตำหรับการสร้างพระผงของหลวงปู่ เช่น ผงว่าน ๑๐๘ เกศา ชานหมาก จีวร และผงพุทธคุณที่หลวงปู่เมตตาเขียนยันต์ทำผง ทั้งผงเก่าๆ ที่หลวงปู่เก็บรวบรวมสะสมไว้ตั้งแต่ตอนที่ท่านออกธุดงค์ในป่ามาผสมและหลวงปู่ท่านปลุกเสกเดี่ยวอยู่นานเป็นปีๆ และยังเข้าอธิฐานจิตแทบทุกพิธีเป็นสุดยอดพระผงที่น่าจับตามอง อีกหนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงปู่


    [​IMG]


    คำบูชาหลวงปู่หมุน ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า

    "ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบไหว้"
    แล้วว่า ( อิ มะ มะ มา มา ) รวม 7 ครั้ง


    ** มีกระเทาะด้านบน ราคาตามสภาพครับผม




    ข้อมูลการโอนเงิน :
    ธนาคารไทยพานิชย์ เลขที่บัญชี
    1172848592 (JIRAWAN KAM)
    ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ###0894343844###
    โอนแล้วโพสต์แจ้งหน้ากระทู้ หรือ PM ได้เลยครับ
    ค่าจัดส่ง ทุกรายการ 60 บาท จะกี่รายการ ก็ราคาเดียวครับ
    รบกวนโอนภายใน 5 วัน ถ้าเกินกว่านั้น ติดขัดตรงไหนแจ้งมาได้ครับ
    ท่านสามารถดูข้อมูลการติดต่อเพิ่มเติมได้ที่กระทู้แรกครับผม
    ขอขอบพระคุณทุกๆท่าน ขออนุโมทนาบุญทุกๆคนครับ
    !!! อย่าลืมแวะเวียน มาเยี่ยมชมกันอีกนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  13. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    รายการที่ 212. พระผงนั่งตั่ง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ


    *ราคาพิเศษ เปิดบูชา ๒,๒๐๐ บาท


    [​IMG]

    [​IMG]


    พระผงรูปเหมือนนั่งตั่ง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ยุคแรก วัดป่าบ้านหนองหล่ม ปี ๒๕๔๒

    พระผงหลวงปู่หมุน รูปเหมือน ปี ๒๕๔๓ เป็นพระชุดแรกที่สร้างที่วัดป่าหนองหล่ม มีมวลสารมากมายหลายอย่างตามตำหรับการสร้างพระผงของหลวงปู่ เช่น ผงว่าน ๑๐๘ เกศา ชานหมาก จีวร และผงพุทธคุณที่หลวงปู่เมตตาเขียนยันต์ทำผง ทั้งผงเก่าๆ ที่หลวงปู่เก็บรวบรวมสะสมไว้ตั้งแต่ตอนที่ท่านออกธุดงค์ในป่ามาผสมและหลวงปู่ท่านปลุกเสกเดี่ยวอยู่นานเป็นปีๆ และยังเข้าอธิฐานจิตแทบทุกพิธีเป็นสุดยอดพระผงที่น่าจับตามอง อีกหนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงปู่


    [​IMG]


    คำบูชาหลวงปู่หมุน ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า

    "ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบไหว้"
    แล้วว่า ( อิ มะ มะ มา มา ) รวม 7 ครั้ง


    ** มีกระเทาะด้านบน นิดหน่อยครับ ด้านหนา้ หลังคมชัด ตอนนี้พระผงนั่งตั่งราคาขึ้นหลักสามพันแล้วนะครับ




    ข้อมูลการโอนเงิน :
    ธนาคารไทยพานิชย์ เลขที่บัญชี
    1172848592 (JIRAWAN KAM)
    ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ###0894343844###
    โอนแล้วโพสต์แจ้งหน้ากระทู้ หรือ PM ได้เลยครับ
    ค่าจัดส่ง ทุกรายการ 60 บาท จะกี่รายการ ก็ราคาเดียวครับ
    รบกวนโอนภายใน 5 วัน ถ้าเกินกว่านั้น ติดขัดตรงไหนแจ้งมาได้ครับ
    ท่านสามารถดูข้อมูลการติดต่อเพิ่มเติมได้ที่กระทู้แรกครับผม
    ขอขอบพระคุณทุกๆท่าน ขออนุโมทนาบุญทุกๆคนครับ
    !!! อย่าลืมแวะเวียน มาเยี่ยมชมกันอีกนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    วันนี้ได้จัดส่งวัตถุมงคลให้ทุกท่านแล้วครับ


    คุณ auan24 EK169836674TH


    ขอบพระคุณทุกๆท่านมากครับผม อย่าลืมแวะเข้ามาเยี่ยมชมกันอีกนะครับ
    ผิดพลาด ขาดตกบกพร่องประการใด กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  15. ท้ง

    ท้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +158
    ยังอยู่ไหมครับ
     
  16. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    องค์นี้ผมแขวนอยู่ครับ ถ้ามีมาอีกเดี่ยวแจ้งให้นะครับ ขอบพระคุณมากครับผม
     
  17. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    พรุ่งนี้ไปอ่างทอง ใครอยากได้ธูปเสก หลวงพ่อสมบ้างเอ่ย
    สาลิกาคู่ ก็ใช้ดีนะ เดี่ยวมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
    ใครมีวัดไหนแนะนำบอกมาได้นะ เดี่ยวแวะไปดูให้ครับ
     
  18. KOB_12

    KOB_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +181
     
  19. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
     
  20. conanzs

    conanzs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +928
    รายการที่ 213. แหวน ปัญญาทีโป ๘๘ ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม (พระสุวรรณศีลาจารย์) วัดสุวรรณเจดีย์ ต.บ้านขวาง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา


    *รายการพิเศษ * บูชาแล้ว *


    [​IMG]

    [​IMG]


    แหวน ปัญญาทีโป ๘๘ หรือบางท่านเรียก แหวนปลอกมีด หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยมวัดสุวรรณเจดีย์ พระนครศรีอยุธยา

    แหวน ปัญญาทีโป ๘๘ สร้างเป็นที่ระลึก ครบรอบอายุวัฒนมงคล ๘๘ ปี ของท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ใช้ยันต์เรียงกันคือ ยันต์นะม้วนโลก ,นะปัดตลอด, หัวใจยันต์เกาะเพชร และปิดด้วยยันต์นะปัดตลอดอีกที หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยวพร้อมกับเข้าพิธีตอนทำวัตรทุก เช้า-เย็น เป็นเวลา 7 วัน ก่อนนำออกให้บูชาเป็นของดีไว้ใช้ก่อนเข้าพรรษา

    [​IMG]

    ยันต์นะม้วนโลก
    ยันต์ตัวสำคัญของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ดีเด่นทางเเคล้วคลาดเเละมหาอุตจ์

    ยันต์นะปัดตลอด
    เพื่อปัดเป่าเพื่อปัดสิ่งชั่วร้าย โดนกระทำย่ำยี ทำของ ให้ออกไป

    ยันต์เกราะเพชร
    มีพุทธานุภาพหลายด้านโดยเฉพาะอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดและคุ้มครองป้องกันภัย


    [​IMG]

    ** เบอร์ 19 ตอนนี้ที่ผมเป็นชุดสุดท้ายแล้วครับ หมดรอบนี้ก็หมดเลย แหวนรุ่นนี้สวยจริงๆ ใครที่พลาดรอบที่แล้ว บูชาได้แล้วครับ




    ข้อมูลการโอนเงิน :
    ธนาคารไทยพานิชย์ เลขที่บัญชี
    1172848592 (๋JIRAWAN KAM)
    ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ###0894343844###
    โอนแล้วโพสต์แจ้งหน้ากระทู้ หรือ PM ได้เลยครับ
    ค่าจัดส่ง ทุกรายการ 60 บาท จะกี่รายการ ก็ราคาเดียวครับ
    รบกวนโอนภายใน 5 วัน ถ้าเกินกว่านั้น ติดขัดตรงไหนแจ้งมาได้ครับ
    ท่านสามารถดูข้อมูลการติดต่อเพิ่มเติมได้ที่กระทู้แรกครับผม
    ขอขอบพระคุณทุกๆท่าน ขออนุโมทนาบุญทุกๆคนครับ
    !!! อย่าลืมแวะเวียน มาเยี่ยมชมกันอีกนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...