ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

สวัสดีค่ะพี่น้องเรือธรรมทุกท่าน ไปทำธุระที่เมืองไทยมาหนึ่งอาทิตย์คิดถึงกัลยาณมิตรค่ะ กระทู้วิ่งไปหายหน้ายังไม่มีเวลาอ่าน

ขอเชิญร่วมโมทนาในมหากุศลที่ดิฉันและญาติพี่น้องได้ร่วมกันสร้างในครั้งนี้ค่ะ

ได้ถือศิลแปดสองคืนสามวัน ถวายสังฆทานพระพุทธรูปพร้อมผ้าไตรสามผืนที่วัดคมนียเขต
และได้จองพระศรีอริยเมตไตรย์เพื่อนำมาถวายที่วัดนี้หลังจากทำพิธีในวันที่๗ กพนี้

ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตประดิษฐาน ณ วัดบางเหรียง ต.ทับปุด จ.พังงา หนึ่งองค์ สีแดงและที่วัดท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี อีกหนึ่งองค์ สีม่วง สวยงามมาก หากท่านใดมีโอกาสผ่านไปวัดดังกล่าวก็แวะนมัสการนะค่ะ

ไม่มีรูปมาให้ดูเพราะไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปไป ใครได้ไปกราบก็ช่วยถ่ายรูปมาให้ดูกันด้วยนะค่ะ หรือไม่แน่เดือนหน้าจะแวะไปถ่ายรูปมาให้ดู เพราะจะกลับไปเมืองไทยอีกครั้ง

เพิ่งมาถึงวานคืน อากาศหนาวค่ะ
บุญรักษาค่ะ<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

ไม่เป็นไรค่ะ....ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ลำบาก
ขอบพระคุณมากๆๆๆ เลยค่ะ ...(^_^)

 

งานทอดผ้าป่าซื้อที่ดิน สำนักปฏิบัติอัญญาวิโมกข์โพธิรังษี

สาธุ.. และขออนุโมทนากับทุกท่านอีกครั้งค่ะ

ขอโทษคุณกบด้วยนะคะ ที่หนิงลงจำนวนผิดไป _/\_

ส่งภาพจากกล้องหนิงมาให้ชมกันก่อนนะคะ ธรรมะที่ได้รับจากท่านครูบาฯ ที่เมตตาต่อคณะเรานั้น.. โปรดรอสักครู่.. จะนำมาให้อ่านกันค่ะ

 

ธรรมะจากท่านครูบาเจ้าเพชร ตอนที่ ๑

ธรรมะจากท่านครูบาเจ้าเพชร แสดงแก่คณะชุมชนมโนมยิทธิฯ วันอาทิตย์ที่ ๑๐ ม.ค. ๕๓


ช่วงตอนต้น ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่ามีการแนะนำตัวบุคคลหรือเปล่า ว่า คณะเรามาจากไหน หนิงเข้ามาช้า แต่ได้ยินเสียงท่านพูดผ่านไมค์ว่า อ่อๆ มีมาจากเว็บพลังจิตด้วยเรอะ อือๆ ชื่อดี ชุมชนมโนมยิทธิศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


ด้วยความที่อยากเข้าไปกราบท่านถึงตัว..เลยเสนอหน้าเข้าไปกราบท่าน ทั้งคณะ...เป็นโชคดีที่ได้จังหวะ ว่าง ไม่มีคณะใด สนใจที่จะกราบท่านเลย มีเพียงคณะเรา คณะเดียวโดดๆ


ท่านเห็นพวกเรานั่งซะห่างเชียว หลวงพ่อ บอกว่า เอ้า มานั่งใกล้ๆ หลวงพ่อนี่ มา...จะได้คุยกันได้ (มาทราบภายหลังว่า หลวงพ่ออาพาธ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานค่ะ ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็มางานทันที)

ยังไม่มีใครอาจหาญ เข้าไปนั่ง..ใกล้ๆ ท่านครูบาเจ้าเพชร มองหน้าทุกคน แล้วถามว่า พระกับผี กลัวอะไรมากกว่า

พวกเรา นิ่ง..ฮ่า.. หนิงคิดในใจว่า "ไอ่ที่นั่งๆ อยู่เนี่ย มานกลัวผีทุกคนเลยค่ะหลวงพ่อ.."
<O</O
และแล้ว..หลวงพ่อบอกว่า กลัวผี..กลัวผี ก็มานั่งใกล้พระ.. อ่า....เลยต้องเขยิบๆ เข้าใกล้ๆ หลวงพ่อมากขึ้น งานนี้ท่านกัปตันไม่ได้มาด้วย แต่ดวงตาที่ท่านครูบาฯ มองมาที่ตัวบุคคลแต่ละบุคคล มองลึกเข้าไปถึงดวงจิตของแต่ละบุคคลอย่างไร ไม่รู้สิ


(ซึ่งตอนหลังจากจบพิธีทอดผ้าป่าแล้ว ท่านพูดว่า บอกไว้เลยนะ วันนี้ หลวงพ่อรับรู้ได้ว่า มีดวงจิตหลายดวงที่ขันธ์ห้าไม่ได้มา แต่น้อมจิตมาเนี่ย หลวงพ่อเห็นดวงจิตหลายดวงที่มาร่วมโมทนาบุญด้วย ดวงจิตใครน้อมไปโมทนาด้วย ก็รับทราบกันไปนะคะ ว่าหลวงพ่อรับทราบการโมทนานั้นแล้วค่ะ)
<O
น้องจอร์ช ถามเรื่องอภิญญา.. แต่ท่านตอบว่าอย่างไร ปลาทองตัวแม่ลืม..สนิท...


ต่อมา.. ท่านถามว่า เอ้า ใครจะมีอะไรถามอีก.. คณะนี้มีไหม เอ้าๆ ถามมาๆ ไม่มีใครถาม .. หนิงเลยสะกิดน้องจอร์ชที่ยังคงนั่งอยู่หน้าสุด ใกล้หลวงพ่อมากที่สุด หนิงบอกจอร์ชไปว่า ถามท่านจิ .. อยากรู้ไม่ใช่เหรอ ว่าที่ปฏิบัติๆ กันมาเนี่ย ถูกแล้วหรือยัง ต้องแก้ไขตรงไหนอีกมั่ง...


ตาจอร์ช ฉับไวมาก คลานกลับไปหาหลวงพ่อ ถามท่านว่า "หลวงพ่อครับ ที่พวกผมปฏิบัติแบบนี้ถูกแล้วหรือยังครับ" แว๊ก. ตาจอร์ช ถามจริงด้วย พอได้ยินคำถามล่อเป้าแบบนี้


ก่อนจะตอบ ท่านนิ่งไปสักพักแล้วตอบว่า “ผิด...มันผิดหมด”
ของจริงมันนั่งสมาธิ ภาวนา ภาวนา ภาวนาไป พอจิตมันรู้มันเห็นอ่ะ ปั๊บ นี่ ของจริง เข้าใจไหม? พอเรานั่งสมาธิ ภาวนา ภาวนาไป มันบวกความปวดความเมื่อย นี่.. ของจริง ต้องแก้ไขตอนนั้น ตำราเอามาแก้ไม่ได้นะลูก นี่พูดทางปฏิบัติ ทางพระนิพพานถูก ต้องบอกอย่างงี้
<O
ทำไมรู้มั๊ย “เธอถามของจริงใช่ไหม”ต้องตอบจริง ชั้นมาเอาใจไม่ได้ เอ้อ ถูกแล้วนั่นแหละ ตามนั้นแหละ ถูกแล้ว
<O</O<O
มันก็โง่ อยู่อย่างนั้นละ หึ..หึ.. ไม่ได้ เจอหลวงพ่อแล้วต้องฉลาดเลย..นะ.. นั่งสมาธิ ปฏิบัติ ภาวนา พอมันปวด หาวิธีเอาเอง (พวกเราทำหน้า งง..กันทุกคน) ในตำราไม่มีลูก ปวดอ่ะ

ปวดขึ้นมา ต้องใช้อะไร ใช้ขันติข่ม ใช้..ใช้ ข้อธรรมพระพุทธเจ้าข่ม ข่มแล้วมันอยู่ไหมละ

พังหมด ออกหมด เขื่อนแตกออกหมดทุกคน นั่งไม่ได้ ต้องหาวิธี เอาเองลูก หมาจนตรอกเป็นอย่างไร? มันไม่เอาแล้วตำรา หมาจนตรอกมันแยกเขี้ยวฮือๆ มันสั่งว่า หมานี่นะ อย่าไปกัดเค้านะ กัดเค้าก็ไม่หานะ อันนี้มันต้องเอา มันต้องกัดเขานะ อย่างนี้เขาเรียกอะไร ปัญญาจนตรอก มันจะเกิดขึ้นเองลูก เวลาภาวนาอ่ะ เนี่ย ตรงนี้ ตำราไม่มีเลย พริบพลั่บๆ

แต่ว่ามันจะเกิดสิ่งอัศจรรย์อันหนึ่ง เราได้ฟังธรรมะจากครูบาอาจารย์เยอะๆ นะ ฟังของหลวงพ่อฤาษี ฟังของหลวงตามหาบัว ฟังของใครก็แล้วแต่ มันจะบันทึกเป็นเมมโมรี่ ในสัญญาหมด พอเวลาถึงคราวขับขันสิ่งเหล่านี้ มันจะออกมาช่วยเราเอง แต่ว่า ต้องปล่อยให้เขาออกมาไม่ใช่เราไปเค้นมันออกมา

 

ธรรมะจากท่านครูบาเจ้าเพชร ตอนที่ ๒

ต่อตอนที่ ๒ นะคะ


นี่แหละเรียกว่า ธรรมปัจจุบันกาล กิเลสปัจจุบันกาล การบรรลุมรรคผล ก็บรรลุในปัจจุบัน ธรรมต้องทำปัจจุบัน เอาธรรมอดีตมาบรรลุมรรคผลไม่ได้นะ


เ</Oราไปอ่านพระไตรปิฏกแล้วปฏิบัติตาม ธรรมพระไตรปิฏกบรรลุมรรคผลไม่ได้ บรรลุได้แต่ตำราอ่ะ เนี่ย.. เข้าใจไหม? ไอ่ .. ไอ่..ไอ่.. ที่เขียนว่า กระชายเท่านั้น ข่าเท่านั้น ขิงเท่านี้ ไอ่นั่นเท่านั้น ทำมาแล้วกลายเป็นยาชนิดนี้
<O
นี่ๆ ความจริง ได้ตำราแล้วคุณได้ยามั๊ย คุณไม่ได้ คุณต้องไปหายา ตำราอันหนึ่ง ยาอันหนึ่ง ยาต้องปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วถึงจะเป็นตัวยา
<O
ตำรา อ่านแล้วมันก็เป็นตำรา เป็นตำราคือ เรารู้ว่า มันต้องเอาไอ้นี่ ต้องไอ่นี่ ต้องไอ้นี่ นี่แล้วเราต้องไปหา ฉะนั้น..เมื่อเราอ่านหนังสือธรรมะแล้วนะ เราฟังธรรมะเสร็จแล้ว ตอนนี้ เราเริ่มค้นหา ค้นหา หา ที่ตัวเรา มรรคผลนิพพานอยู่ที่นี่ (ชี้ที่ตัวท่าน) เนี่ย แล้วก็ถามมาต้องตอบตรงนะ
<O
ถามว่า “ปฏิบัติถูกไหม” ต้องตอบว่า “ผิดทันทีเลย” เพราะของเธอหนะ มันใช้เทคนิค ตำราเข้ามาช่วย เพราะหลวงพ่อท่านบอกยังงั้นๆๆ เนี่ย ยังใช้ตำราอยู่ มันต้องพรึบ คนที่มีปัญญาเท่านั้น ถึงจะหลุดพ้นได้ คนที่ไม่มีปัญญาหลุดพ้นไม่ได้<O</O
<O</O
ปัญญาหมายถึงอะไร หมายถึงรู้จักวิธีแก้ไข เวลามันติดมันขัด ต้องรู้จักวิธีแก้ไข ถ้าไม่รู้จักวิธีแก้ไข อย่างพวกที่เค้าเรียนจบเปรียญ ๙ ประโยค พวกนี้เค้าก็เป็นพระอรหันต์หมดสิ จริงไหมลูก? ไม่ใช่ แล้ว..แล้ว บางคนนะ เรียนจบปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก พอไปเข้างานต้องฝึกงานก่อน มีประสบการณ์ฝึกงานมากี่ปี ประสบการณ์น้อย อันนี้มีประสบการณ์จากที่ไหน เออ รับมาก่อน รับแล้วมาฝึกงานก่อน ยังทำจริงไม่ได้
<O</O
ดูงานก่อน ๓ เดือน ๖ เดือน ใช่ไหม นี่บริษัทต่างๆ ใช่มะ คุณกอง.. (ถามลูกศิษย์ท่านที่นั่งข้างๆ) มันต้องดูงานก่อน ไมช่ได้มั๊ย ใช้ได้แล้วถึงจะรับ ว่าบรรจุ ไอ่นี่ บรรจุแล้ว
<O</O
นี่ ข้อแรกตำราเอามาใช้ ในการทำงานไม่ได้ มันต้องรู้จักการพลิกแพลง ในการทำงานในบริษัทนั้นๆ มันต้องรู้จักองค์กรของบริษัทนั้นๆ รู้จักองค์ประกอบของบริษัทนั้น ต้องศึกษาเอาเอง ด้วยการปฏิบัติ เห็นมะ เนี่ย..มันมีของจริงอยู่เยอะแยะลูก
<O
เนี่ย สงสารมากนะ บางคนปฏิบัตินะ ตามตำรา ตามตำราๆ อูย..... สงสารมาก อยากจะบอกเค้าจังเลย บอกว่า จะพูดให้หู ปากทะลุถึงรูหู เลยว่า “มันผิด” จะบอกอย่างงี้นะ เค้าก็คงเถียงกลับมา ก็ตามตำรา เปรี๊ยะเลย มันจะผิดได้ยังงัย ใช่มะ เราของจริง ก็มึงผิด ก็ดูอยู่เนี่ย เราอะ ของจริง มันเจอขึ้นมาแล้ว ถึงใจ ถ้าไม่เจอของจริง ไม่ถึงใจ ธรรมะ อัศจรรย์นะลูก โดนกับตัวแล้วร้องไห้เลย ถึงแล้วน้ำตามันร่วงพราวๆ โห..ที่สุด อ่ะ พูดไม่ออก
<O
=โดนขัดจังหวะ จากลูกศิษย์หลวงพ่อเดินเข้ามาบอกว่า ทางโน้นพร้อมแล้วขอรับ=
จึงต้องจบ แต่ก่อนจบ ท่านครูบา พูดว่า “ไอ่นี่มันถามมา ธรรมกูแตกเลย หลวงพ่อหายป่วย” (ความลับเลยแตก ว่าเมื่อวาน หลวงพ่อยังนอนอาพาธที่โรงพยาบาล พอออกมาปุ๊บก็มาที่นี่เลย เราจะบาปกันไหมเนี่ย)
<O
จากนั้น เราก็สลายตัว ไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ดูร่มรื่น หลวงพ่อครูบาฯ เมตตาเล่าให้ฟัง ว่า ต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นไม้ใหญ่เดิมที่อยู่มานาน จึงขอใช้สถานที่นี้เป็นจุดทำกิจต่างๆ ที่สำคัญๆ เช่น การทอดผ้าป่าตามโบราณพิธีในวันนี้ค่ะ

 

ขออภัยครับ ไม่ได้แจ้งให้ละเอียด ผมได้โอนเข้าบ/ชกลาง 200 ครับ
และเข้าบ/ช อ.ชนะ 200 ครับ

 

ส๊า...ธุ ธรรมะหลวงพ่อครูบาฯ จี้ลงกลางใจ อยากไปด้วยจังครับ
ขอบพระคุณพี่หนิงเป็นอย่างยิ่งครับที่เสียสละเวลาพิมพ์ธรรมะอันทรงคุณค่าให้พวกเราได้อ่านกัน

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ _/\_

 

สาธุ ค่ะ คุณ assume ต้องไปร่วมฟังด้วยกัน ค่ะ แล้วจะสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก น้องที่ไปด้วยกันบอกว่า ชอบท่านเทศน์ได้ตรงมาก ชอบใจ

พี่หนิงว่าไม่ได้ "จี้ลงกลางใจ" ค่ะ เป็นคำสอนที่ปักตรึงกลางหัวใจหลายๆ ท่านทีเดียวละ ด้วยความจำของปลาทองตัวแม่ พี่หนิงใช้การอัดเสียงท่านในขณะนั้นค่ะ มาถอดความพิมพ์ให้ทุกๆ ท่านได้อ่านพร้อมๆ กัน

 

ไม่เป็นไรค่ะ หนิงต้องขอโทษด้วยค่ะ :d

 

มาต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยคนครับ

ยินดีต้อนรับสู่ธรรมะนาวาครับคุณ Toay

รับไม้พายจกาพี่หนิงแล้ว ได้ที่นั่งแล้ว

ก็ตามระเบียบครับ พายได้เลย

หากว่าเคยพายมาแล้วก็มาช่วยกันครับ หากว่ายังไม่เคยพายก็เข้ามาถามไถ่ครับ

เดี๋ยวจะมีผู้รู้มาช่วยกันไขข้อข้องใจครับ

คาดว่าน่าจะอ่านได้จนถึงหน้าปัจจุบันแล้ว

เรือลำนี้มีครบครับ ทาน ศีล ภาวนา

เข้าร่วมได้เลยครับ อย่างน้อยโมทนาบุญก็ได้ด้วยร่วมบุญกันด้วย

เรือลำนี้ ท่านกัปปิตัน คัดท้ายไว้แล้วครับ เป้าหมายคือข้ามทะเลระทม ไปให้ถึงฝั่งนฤพานครับ

Welcome On Board

 

ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยคนครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

โมทนาบุญด้วยคนครับ คุณ ohaey_19

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอโมทนาบุญด้วยคนครับ อ.ชนะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

โมทนาบุญด้วยคนครับ คุณ Abodabe

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอโมทนารับบุญด้วยคนครับ คุณ assume

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอโมทนารับบุญด้วยคนครับ คุณ gentenaar

สาธุ สาธุ สาธุ

 

Hit to the point.

ธรรมะของ หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน
โดนเข้ากลางใจ

ขอโมทนาบุญด้วยครับ พี่หนิง

สาธุ สาธุ สาธุ

ผมขอกราบแทบเท้า หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ

กราบ กราบ กราบ

 

ปุ่มอนุโมทนาหายไปไหนไม่รู้ครับ ทำยังไงดี.. ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่่านที่ไปร่วมงานทำบุญทอดผ้าป่าในครั้งนี้ด้วยนะครับ

สายลม

 

สวัสดีค่ะ พอดีช่วงนี้อ้อยอ่านหนังสือธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้นอยู่ค่ะเพื่อรอปฏิบัติภารกิจบางอย่างอยู่ อ่านคำสอนของสมเด็จองค์ปฐมแล้วโดนใจเลยเอามาฝากท่านกัลยาณมิตรทุกท่านเนื่องในวันครูค่ะ

เล่มที่ 4 ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้นทุกข์ สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสว่า กลุ่มสนทนาธรรมของคุณหมอนี้ นับว่าหาได้ยากยิ่งนักในโลกนี้ เพราะพูดกันแต่ธรรมที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์เท่านั้น เป็นเวลา 15 ปีแล้ว ธรรมะในเล่มนี้จึงมุ่งสอนเน้นธรรมที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ขั้นสูงเกือบทั้งสิ้นเพื่อให้พ้นภัยตนเอง และทรงตรัสว่าภัยที่ร้ายแรงที่สุดในโลกนี้ ก็คือภัยที่เกิดจากอารมณ์จิตของเราเองทำร้ายจิตเราเอง

เล่มที่ 5 ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น ทรงอุปมาอุปมัยเหมือนรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่ช่วยขนคนไปพระนิพพาน จึงให้กรรมฐานเข้านิพพานแบบง่ายๆกับคุณอาหมอว่า รู้ลม-รู้ตาย-รู้นิพพาน จุดสำคัญที่สุด คือ ต้องตัดสังโยชน์ 3 ข้อแรกให้ได้ก่อน(สักกายทิฐิ, วิจิกิจฉา, สีลัพพตปรามาส) เพื่อกันอบายภูมิ 4(สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ) แล้วใช้ความเพียรปฏิบัติ รู้ลม-รู้ตาย-รู้นิพพาน ทำให้คล่องจนสามารถไปพระนิพพานได้ในขณะจิตเดียวเช่นกัน บารมี 10 จึงสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติ ทรงเน้นให้ทุกคนเกาะพระธรรม อย่าเกาะร่างกายหรือขันธ์ 5 ของพระองค์และของหลวงพ่อฤๅษี และให้อดทนเข้าไว้ เพราะเป็นชาติสุดท้ายแล้ว อะไรเกิดขึ้นก็ต้องอดทน ทนไม่ได้ก็ต้องทน โดยใช้อริยสัจเป็นหลักสำคัญในการแก้ปัญหา

ส่วนหนังสือธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ 7 สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตา ตรัสสอน มีความสำคัญดังนี้
ตัณหา 3 ต้นเหตุที่ทำให้ต้องเกิด

1. ทำกรรมฐานได้เท่าใด ให้พอใจแค่นั้น จิตจักมีความสุข ที่ทุกข์เพราะจิตดิ้นรน มีความอยากได้มรรคได้ผลมากเกินไป จัดเป็นกามสุขคัลลิกานุโยคได้เหมือนกัน ต้องดูอารมณ์ของจิตให้ดี

2. ต้องมีสติสัมปชัญญะกำหนดรู้เอาไว้เสมอ การผิดพลาดก็เพราะนิวรณ์ 5 รบกวนจิต ต้องรีบตัดให้เร็วที่สุดด้วย กรรมฐานแก้จริต จนจิตชินสามารถตัดนิวรณ์ได้เป็นอัตโนมัติ จุดนี้ต้องใช้ความเพียรหนัก จักพ้นเกิดพ้นตายได้ก็อยู่ที่ตรงนี้ว่าจิตมีกำลังเอาจริงหรือเปล่า

3. การฝึกมโนมยิทธิ จะได้หรือไม่ มิได้อยู่ที่ครูฝึก แต่อยู่ที่จิตผู้ฝึกจักระงับนิวรณ์ 5 ได้ละเอียดแค่ไหน เมื่อเห็นพระนิพพานแล้ว ไม่ควรประมาทว่า เราจักเข้าถึงพระนิพพานเมื่อใดก็ได้

4. การไปเห็นพระนิพพานก็ดี การไปได้มาได้ก็ดี หากเหลิงเกินไป ทะนงตนไม่สร้างความดี คือ ละจากรากเหง้าของตัณหา 3 ประการ ก็จักไปพระนิพพานไม่ได้ในบั้นปลาย<O</O

5. ตัณหา 3 คือ จิตตกอยู่ในห้วงกามตัณหา มีความทะยานอยากในความโกรธ โลภ หลง อะไรมากระทบร่างกาย อายตนะสัมผัสก็มีความไม่พอใจเกิดขึ้นกับอารมณ์มีแต่ความทะยานอยาก คือ อยากโกรธ อยากอาฆาตพยาบาท อยากทำลาย
<O</O
6. เมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านไป ได้ตอบโต้กับบุคคลเหล่านั้นจนสะใจ หรือพอใจแล้ว จุดนี้จิตตกอยู่ในห้วงภวตัณหา เป็นการสนองอารมณ์ของกามตัณหาให้สะใจ
<O</O
7. เมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านไป เป็นอดีตธรรมแล้ว แต่จิตไม่ยอมวางอารมณ์ขุ่นมัว ยังครุ่นคิดปรุงแต่งอดีตธรรมนั้นให้เหมือนอยู่ในธรรมปัจจุบัน หากเจอคู่อริใหม่ก็จะด่าใหม่ ล้วนเป็นอารมณ์ที่ยังไม่ถึง บางครั้งเห็นหน้าเขามาแต่ไกล ก็บ่นหรือด่าในใจแล้ว ต้นเหตุจากพรหมวิหาร 4 ไม่มีเลย ในขณะนั้นนี่แหละคือวิภวตัณหา
<O</O
8. ตัวอยากโลภก็เช่นกัน โลภในคน สัตว์ วัตถุ ทรัพย์สินต่างๆ ที่เห็นว่ามันสวยสดงดงาม เป็นที่ถูกใจหรือพอใจนี่คือกามตัณหา เมื่อได้มาแล้วก็หลง อยากให้มันมีความทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง นี่คือภวตัณหา แต่ในที่สุด คน สัตว์ วัตถุ ทรัพย์สินต่างๆ แม้กระทั่งร่างกายของตนเอง ซึ่งมาจากธาตุ 4 ก็ต้องเสื่อม เศร้าหมอง หาความสดใสไม่ได้ ร่างกายก็ต้องป่วย ต้องแก่ วัตถุธาตุก็ต้องเก่าทรุดโทรมไปตามกาล ตามสมัย แต่จิตหลง หรือโง่ไม่ยอมรับความจริง จิตมีอารมณ์เสียดาย จะให้อดีตกลับมาเป็นปัจจุบันใหม่ ไม่เข้าใจกฎของไตรลักษณ์ หรือกฎธรรมดาของโลก นี่คือวิภวตัณหา
<O</O
9. เมื่อร่างกายนี้ตายแล้ว แต่อารมณ์จิตยังไม่รู้จักพอ มีแต่ความทะยานอยาก หลงอยู่ในสภาวะของตัณหา 3 ประการ จึงเป็นเหตุให้เกิดต่อๆ ไปไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเป็นดวงจิตที่ไม่รู้จักยุติกรรม มีความหลงในร่างกาย หรือหลงในอายตนสัมผัสที่เรียกว่า สักกายทิฐิ(ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับร่างกาย) ทำให้อยากโกรธ อยากโลภ อยากหลง ต่อกรรมไปในทางทะยานอยากตามสภาวะของตัณหา 3 ประการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด<O</O
<O</O
ผลบุญใดๆที่เกิดขึ้นจากธรรมทานนี้ข้าพเจ้าขอน้อมจิตมอบถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน คุณอาหมอสมศักดิ์ อาจารย์ชนะ อาจารย์วิภาพร อาจารย์สุนันทา และขอจงเป็นพลวปัจจัยให้ทุกท่านที่ได้อ่านบทความที่เป็นธรรมทานที่ข้าพเจ้าได้คัดมาจากหนังสือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่รวบรวมโดยคุณอาหมอ ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ<O</O<O</O