ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

วัดแรกไปที่วัดพนัญเชิง ไปถวายผ้าห่มองค์หลวงพ่อค่ะ ถวายแต่ผ้าห่มไม่ได้ถวายสังฆทาน

 

เอาบุญมาฝากครับวันนี้ไปใหว้พระและทำบุญตามตู้บริจาก 6 วัดครับจริงๆจะให้ได้มากกว่านี้แต่เวลาไม่พอครับ อ้อมีเรื่องให้อึ้งและก็ทึ่งด้วยครับแต่ขอติดไว้ก่อนครับแล้วจะเล่าให้ฟังครับวันนี้หมดแรงครับ

 

มาปูเสื่อรอค่ะ :z1

 

ขอบคุณครับพี่อ้อย

ผมก็ลองทำดูแล้วเอาแบบลม 3 ฐานด้วย พองหนอ ยุบหนอด้วย มันรู้สึกเหมือนแยกจิตไปสองอัน อันนึงจับพุง อันนึงจับลม

แต่ของผมแบบ ยุบ หายใจเข้า พอง หายใจออก มันอึดอัดเลยสลับกันครับ พอง หายใจเข้า ยุบ หายใจออกครับ

ส่วนกรรมฐานอื่นๆ 40 กองจะลองพยายามฝึกดูทุกอันครับ แต่หลักๆจะเป็น อานาปานสติ ลมหายใจ 3 ฐาน ภาวนา พุทโธ ครับ



ตอนนี้ผมใช้ นารูฟอส ครับ ฮิฮิ

 

สวัสดีครับ คุณ Me, Myself น้องฝน คุณkonkangwad คุณnaruphos คุณวรเทพ คุณpara007 คุณอ้อย และ กัลยาณมิตร ท่านผู้เจิญ ทุกท่าน

ขออนุญาตทุกท่านนำลิงค์การสอนวิปัสสนากรรมฐานโดยหลวงพ่อจรัญ มาฝากทุกท่านนะครับ ผมว่าการอธิบายต่างๆของหลวงพ่อท่านดีมากๆครับ เข้าใจง่าย หวังว่าคงจะได้ประโยชน์บ้างนะครับ

สอนวิปัสสนากรรมฐานโดยหลวงพ่อจรัญ ตอนที่ 1 - พลังจิต คลิปวีดีโอ


อนึ่งผมเองยังไม่เคยได้ไปกราบท่านเลยครับ ได้แต่อ่านหนังสือ และดูข้อธรรมะต่างๆทาง internet ครับ

โมทนาบุญกับทุกท่านครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

(ปล. ผมเองหายใจเข้าแล้วพุงจะพอง เหมือนเราสูบลมเข้าในลูกโป่งครับ ก็กำหนด "พองหนอ")

 

แต่ของผมแบบ ยุบ หายใจเข้า พอง หายใจออก มันอึดอัดเลยสลับกันครับ พอง หายใจเข้า ยุบ หายใจออกครับ


ชอบชื่อที่คุณฝนเรียกคุณอ่ะ นารูฟอส เหมือนเป็นชื่อเทพ เช่น zeus อะไรงี้ และตรงคำนี้ของคุณ
(แต่ของผมแบบ ยุบ หายใจเข้า พอง หายใจออก มันอึดอัดเลยสลับกันครับ พอง หายใจเข้า ยุบ หายใจออกครับ) เหมือนดิฉันเลยค่ะ เป็นแบบสลับกัน ก็พยายาม แต่ตอนนี้เป็น พุทโธ แล้วค่ะ รู้สึกจะสะดวกขึ้น แต่ยังไม่ไปไหน เหมือนยังติดค้างอะไรอยู่

 

ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ

 

ขออนุโมทนากับท่านริด้วยครับ

 

ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ

 

เมื่อคืนโพสไม่ทันเสร็จ เวปล่มซะก่อน ขอโพสต่อนะคะ

วัดแรกที่ไปถวายสังฆทานคือวัดหน้าต่างนอก (หลวงพ่อจง)

 

วัดที่สองที่ไปถวายสังฆทานคือวัดบางนมโคค่ะ พอถวายเสร็จหลวงพ่อถามว่า ตาลปัตร นี่ใช้ได้ไหม พวกเราก็บอกว่าใช้ได้ค่ะ ท่านเลยเอามาใช้เดี๋ยวนั้นเลย เพราะมีคนมารอถวายสังฆทานอีก

จากนั้นก็ไปให้อาหารปลากัน แล้วก็ไปดูกุฏิหลวงปู่ปานแล้วก็ตำหนักกัมมัฏฐานของหลวงปู่ด้วย

 

วัดที่สามคือวัดมารวิชัยค่ะ (หลวงพ่อบุญมี) พอถวายเสร็จหลวงพ่อให้เอาผ้าห่มองค์พระไปห่มองค์พระประธานในโบสถ์เลยค่ะ แล้วจากนั้นก็ได้ไปกราบไหว้สังขารของหลวงพ่อบุญมีด้วยค่ะ

 

มาอนุโมทนาบุญใหญ่ด้วยจิตศรัทธาค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ

กราบขอบพระคุณพี่me,myselfที่เอาบุญใหญ่มาฝากกัลยาณมิตรทุกคนด้วยนะคะ
กราบขอบพระคุณคณะเจ้าภาพหลักทุกๆท่านค่ะ กับน้ำใจที่งดงามกับการบำเพ็ญบารมีในครั้งนี้ค่ะ สาธุ ^_^ ขอให้ท่านเจ้าภาพมีแต่ความสุข ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ สาธุ

ยิ่งเห็นรูปยิ่งชื่นใจค่ะ
รับรู้ว่าบุญครั้งนี้ยิ่งใหญ่มากๆเลยค่ะ บญที่ทำจากศรัทธาเต็มเปี่ยม กระแสบุญที่ส่งมาเย็นซ่านจริงๆค่ะ สาธุอีกครั้งค่ะ ^_^

 

วัดที่สี่คือวัดเจ้าเจ็ดในค่ะ (หลวงพ่อยิ้ม)

 

วัดที่ห้าคือวัดบางปลาหมอค่ะ (หลวงพ่อสุ่น) วัดนี้อยู่บนเกาะ ตอนนี้กำลังสร้างสะพานข้ามอยู่แต่ยังไม่เสร็จค่ะ วิธีไปวัดนี้ก็โดยสลิงค่ะ สังเกตุให้ดีตอนที่สลิงไม่ได้บรรทุกคนก็ลอยเหนือน้ำนะคะ พอพวกเราขึ้นไปสลิงเรี่ยกับน้ำเลยค่ะ นึกว่าจะจมลงไปซะแล้ว

 

วัดที่หกคือวัดพระขาวค่ะ (หลวงปู่ทิม) คนเยอะมากๆเลยค่ะ ไปกราบไหว้สังขารของหลวงปู่ทิม

 

วัดที่เจ็ดคือวัดศาลาปูน (หลวงพ่อแขนลาย) เหตุที่ชื่อหลวงพ่อแขนลายเขาว่าที่แขนท่านมีอักขระยันต์อยู่ วัดนี้มีหอไตรโบราณที่หน้าบันแกะสลักเป็นรูปพระนารย์ทรงครุฑ ได้จัดขึ้นเป็นโบราณวัถตุค่ะ ข้างใต้หอไตรทำไว้ให้คนรอดเพื่อเป็นสิริมงคล มีทั้งพระพุทธรูปและยันต์ต่างๆ

 

ขออนุโมทนาบุญเป็นอย่างสูงกับคุณMe, myself และคณะด้วยครับ
และขอบคุณที่นำภาพสวย ๆ มาให้พวกเราดูเป็นพุทธานุสติ ธรรมานุสติ และสังฆานุสติ
โมทนาสาธุ

 

วัดที่แปดคือวัดตูม ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปคือหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ ซึ่งพระเศียรตอนเหนือพระนลาฏเปิดออกได้กับพระเกศมาลาถอดได้ ภายในพระเศียรเป็นบ่อกว้างลึกลงไปเกือบถึงพระศอมีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลาเหมือนหยาดเหงื่อ เป็นน้ำใสเย็นบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน สามารถรับประทานได้โดยปราศจากอันตรายใดๆ และไม่ขาดแห้ง ปรากฏเป็นอัศจรรย์อยู่เช่นนี้ตลอดมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แม้จะตักออกมาแล้วใช้สำลีชุบหรือเช็ดให้แห้งหายไปสักกี่ครั้งก็ตาม น้ำนั้นก็ยังกลับมีขึ้นอีก ประชาชนพากันนับถือน้ำในพระเศียรของพระพุทธรูปองค์นี้ ว่าเป็น น้ำศักดิ์สิทธิ์ เกิดขึ้นด้วยอำนาจอภินิหารและบารมี สามารถบำบัดรักษาสรรพโรคภัยไข้เจ็บและบรรเทาทุกข์ร้อนให้ความสุขความร่มเย็นได้

 

วัดที่เก้าคือวัดบางสะแก (หลวงปู่ดู่)

ก็เป็นอันว่าถวายสังฆทานครบทั้ง 9 วัด ตามที่ตั้งใจ นอกจากสังฆทานที่นำไปถวายแล้ว ดิฉันก็ยังบริจาคปัจจัยไปหยอดตามตู้รับบริจาคของแต่ละวัดด้วย จำไม่ได้หมดว่ามีอะไรบ้าง (แบบว่าเยอะ) เช่น ตู้ชำระหนี้สงฆ์ ตู้มูลนิธิหลวงปู่ปาน ตู้ค่าน้ำค่าไฟ ช่อฟ้าใบระกา ฯลฯ

ดิฉันอุทิศผลบุญในครั้งนี้ให้กับท่านกัลยาณมิตรทั้งหมดด้วยค่ะ ขอให้พวกเราถึงซึ่งนิพพานกันในชาตินี้ แล้วก็ให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ สาธุ