ไดอารี่ ชีวิต , ผี , วิญญาณ , พุทธศาสนา By Specialized

เกี่ยวกับการปฏิบัติ

ผมเคยกราบเรียนถามแนวทางปฏิบัติจากหลวงตาม้า ท่านเมตตาบอกว่า

"จับภาพหลวงปู่แล้วภาวนาจักรพรรดิ" (เหมือนอย่างที่พี่ก๊อบมาโพสไว้ครับ ที่ว่ามือจับพระ ใจจับภาพ)

ศิษย์:คำภาวนานี้ให้ผลต่างกันไหม เช่นถ้าผมใช้นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ อย่างนี้จะส่งผลให้ภาพหลวงปู่ชัดขึ้นไหมครับ

หลวงตา: ชัดขึ้น เพราะเป็นการกล่าวถึงชื่อท่านโดยตรง

หลวงตาท่านเคยพูดเอาไว้ว่า "ปฏิบัติเหลาะๆแหละๆไม่ได้อะไรหรอก มันต้องจริงจัง"

มีศิษย์หลวงตาท่านหนึ่ง เคยกราบเรียนถามหลวงตาว่า ภัยพิบัติที่จะเกิดในกรุงเทพจะเริ่มขึ้นเมื่อใด หลวงตาบอกว่า "ไม่สามารถบอกได้หรอก จนกว่ามันจะเกิด ก็มันเป็นแค่นิมิต" แล้วหลวงตาก็หันมาทางผมแล้วถามว่า "จริงไหม" คำพูดเดียวของหลวงตา เหมือนท่านสอนให้ผมรู้ว่า เราไม่ควรไปยึดถือยึดติดในนิมิต ทุกคำพูดของหลวงตาคือคำสอนจริงๆ

หลวงตาท่านเคยพูดเกี่ยวกับการกำหนดดูภพภูมิหรือสิ่งต่างๆ ว่า "แค่อารมณ์สบาย ทรงภาพหลวงปู่ก็ดูได้แล้ว ถ้านิ่งสงบมากเกินไป มันก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว จะเอาไปดูอะไรล่ะ ในเมื่อมันนิ่งแล้ว(หัวเราะ) นิ่งเฉยๆนั้นไม่เกิดประโยชน์หรอก"

หลวงตาท่านพูดเอาไว้ว่า "ภาพหลวงปู่นี้ บางคนใช้เวลาจับภาพท่านไม่เท่ากัน บางคนมองแว๊บเดียวก็จำภาพท่านได้ขึ้นใจ บางคนใช้เวลาเป็นปีจึงจะสามารถจำภาพท่านได้"

"หากหลวงปู่ตัดกระแสใครเมื่อไหร่ จะหลับตาหรือลืมตา ก็จะไม่สามารถนึกถึงหลวงปู่ได้เลย"


รอยยิ้มของหลวงตา

มีศิษย์ผู้หนึ่งเคยถามหลวงตาว่า"หลวงตา มีอะไรที่เหมาะสำหรับหนู จะให้เป็นพิเศษไหมค่ะ"

หลวงตาท่านตอบมาว่า "รอยยิ้มยังไงล่ะ พิเศษที่สุดแล้ว"

 

เกี่ยวกับอารมณ์โกรธ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเข้าไปนั่งรอที่ถ้ำใหญ่เพื่อรอสวดมนต์20.30 แต่ในวันนั้นมีเรื่องที่ทำให้ผมต้องอารมณ์เสีย แต่ผมก็ไม่ได้แสดงออกแถมยังยิ้มด้วยซ้ำ ในขณะที่ความโกรธนี้ไม่สามารถลดลงได้เลย อยุ่ๆหลวงตาท่านก็หันมาทางผมแล้วพูดขึ้นมาอย่างยิ้มๆว่า
"ความโกรธน่ะ มันไม่ดี แค่เราคิดก็บาปแล้ว"

ผมตกใจมาก รู้ว่าการอ่านใจแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับหลวงตา แต่ก็อดตกใจไม่ได้เพราะเจออย่างจังๆ หลวงตาท่านก็พูดต่อไปว่า
"ให้ทรงภาพหลวงปู่ แล้วอธิษฐานบอกท่านว่า ขอให้ได้ยินได้ฟังเฉพาะสิ่งที่เป็นมงคล เท่านั้นแหละ เวลามีใครด่า นินทา หรือพูดไม่ดีกับเรา ให้ทรงภาพหลวงปู่ไว้ แล้วใจเราจะไม่ถูกกระทบโดยคำพูดเหล่านี้เลย นี่แค่สมาธิขั้นต้นนะ ต้องทำให้ได้"

หลวงตาพูดถึงเรื่องการบวช

ผมเคยพูดกับหลวงตาครั้งนึงว่าอยากบวชตลอดชีวิต หลวงตาท่านจึงพูดขึ้นว่า
"การบวชเป็นพระไม่ใช่แค่การโกนหัวหรอกนะ มันอยู่ที่ข้างใน"


ภาพหลวงปู่ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ

ผมเคยกราบเรียนถามหลวงตาว่า"หลวงตาครับ ผมจับภาพหลวงปู่ให้อยู่ในภาพใดภาพหนึ่งไม่ได้เลย ภาพท่านเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จับไม่ได้สักภาพ"

หลวงตา: เปลี่ยนไปเรื่อยๆน่ะถูกแล้ว ไปจับท่านไม่ได้หรอก ตอนนี้เป็นภาพอะไรอยู่ล่ะ

ศิษย์: เป็นภาพท่านกำลังเขียนหนังสือครับ

หลวงตา: (หัวเราะ) เออ แสดงว่าเราต้องเรียนหนังสือ ภาพหลวงปู่เนี่ย จะเกี่ยวข้องกับเรา


มีอีกหลายเรื่องที่ไม่สามารถนำมาลงให้ญาติธรรมและกัลยานมิตรได้อ่านกันนะครับ เนื่องจากบางเรื่องนั้นเป็นปัจจัตตัง บางเรื่องก็เสี่ยงต่อการปรามาส ไม่เหมาะที่จะนำมาเผยแพร่ในสื่อสาธารณะเท่าไรนัก ท่านใดที่ยังไม่เคยได้มีโอกาสไปกราบหลวงตาม้าและอยู่ปฏิบัติธรรมกับท่าน ขอให้หาโอกาสไปให้ได้นะครับ พลังงานบนถ้ำใหญ่ดีมากๆครับ หากไปปฏิบัติธรรมที่นั่นจะก้าวหน้าได้รวดเร็วมาก


ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้กระทำมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนมาถึงปัจจุบันชาตินะครับ

สัทธา ทานัง อนุโมทนามิ
สัทธา ทานัง อนุโมทนามิ
สัทธา ทานัง อนุโมทนามิ

 

ศิษย์ "หลวงตามีเทคนิคพิเศษอะไรแนะนำในการฝึกให้ได้เร็วๆ ไหมครับ"

หลวงตา "นี่ไง ทรงภาพหลวงปู่ไง...นี่ง่ายทีสุดแล้วนะ ลองไปฝึกอย่างอื่นดูสิ หลวงปู่ท่านเมตตาวางไว้ให้อย่างง่ายที่สุดแล้ว เพราะอาศัยบารมีท่าน ทรงภาพหลวงปู่ให้ได้ ฝึกไปเรื่อยๆ ให้เห็นทั้งหลับตาและลืมตา จนกว่าจะเห็นหลวงปู่ยิ้มได้น่ะ"

"หาภาพหลวงปู่มาติดไว้เลย ใหญ่ๆ ยิ่งดี แล้วนั่งมอง อย่าเพ่ง แล้วจำ จำให้ได้ อะไรที่เราไม่คิดนำ นั่นแหละใช่ อารมณ์สบายๆ เดี๋ยวก็มาเองแหละ"


"การครอบวิมานเนี่ย ทำได้เลยทันที ไม่ต้องอะไรมาก นึกภาพหลวงปู่ แล้วกำหนดไปที่คนที่เราจะครอบให้ แล้วอธิษฐานสั้นๆ ว่า "หลวงปู่ช่วยครอบวิมานให้......ด้วยนะครับ แค่เนี้ย ได้แล้ว"

"ภพภูมิมีการซ้อนทับกันอยู่มากมายตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป สถานที่ๆ หนึ่ง อาจจะเคยเป็นเมืองมาก่อน แล้วล่มสลายไป ลองคิดดูสิ ว่าผ่านไปนานหลายร้อยปี สถานที่เดิมๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอด เราถึงต้องไปช่วยเขา"


ณ ค่ำคืนหนึ่งบนกุฏิหลวงตา
ศิษย์ "หลวงตาครับ ผมเห็นแสงที่หน้าประตู"

หลวงตา "อ๋อ เขาอยู่แถวนั้นแหละ เขามาเฝ้าเรื่อยแหละ...."

คือ....ภพภูมิที่ซ้อนอยู่ที่บริเวณถ้ำ และจะคอยอารักขาหลวงตาตลอด
ใครอยากรู้ว่าเป็นภพภูมิใด เชิญหาคำตอบได้ที่ถ้ำครับ...

 

หลวงปู่ดู่ ผู้เปรียบเสมือนประทีปแก้ว
สาธุ นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ
​

ทั้งหมดนี้ขอยกเครดิตให้ เจ้าโอจ๋องแจ๋ง และพี่ก๊อป ที่ช่วยจดบันทึกคำพูดของหลวงตามาเป็นคำสอนให้อ่านกันครับ

สำหรับหลายๆคนที่ อาจจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ เป็นสิทธิของท่านแต่ระวังการปรามาศพระนะครับบาปหนักมาก ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องพวกนี้มีจริงรึเปล่า ผมขอแนะนำให้ "มาปฎิบัติ" เองครับ :d

 

สวดจักรพรรดิ แล้วสัพเพให้เลย @_@

 

ส่งพระให้แล้วเด้อ 3 องค์สุดท้ายของผมล่ะ แล้วผมส่งพระบรมสารีริกธาตุ สันฐานเม็ดกรวดให้ด้วยนะครับ ถ้าได้ของแล้วให้อัญเชิญพระธาตุใส่ผอบ ราคาไม่แพง 100 นิดๆ แล้วรับท่านด้วยพวงมาลัยดอกมะลิ น้ำอบ นะครับ แล้วก็ขอขมาท่านด้วยนะครับ เพราะว่าบางที ตอนส่งของมา อาจจะโดนเหยียบโดนย่ำได้ ตอนแรกผมก็ไม่อยากให้กลัวจะเป็นการปรามาศเพราะส่งผ่านทางไปรษณีย์แต่เห็นแก่พี่อยากได้ ครับ

ปล.พระธาตุที่ให้ สัณฐานเม็ดกรวดนี้เคย แสดงปฎิหารย์เสด็จมาจนเต็มผอบผมมาแล้วครับ บางคนที่ไม่เชื่ออาจจะเห็นเป็นแค่เม็ดกรวดธรรมดา แต่พี่สังเกตุดูดีๆแล้วกันพระธาตุถึงจะสัณฐานเม็ดกรวดแต่มีความมัน วาวในตัวเองครับ

 

จะขยายความให้ละกันนะครับ

"พระบรมสารีริกธาตุ" คือ พระธาตุส่วนย่อยที่บังเกิดแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ มิได้เป็นคำที่ใช้เรียก พระธาตุของพระอรหันตสาวก หรือพระธาตุเจดีย์ต่างๆ (บางทีเรียกว่า"พระบรมธาตุ" หรือ "พระสารีริกธาตุ" ก็ได้)

"พระธาตุ" คือ กระดูก หรือ ส่วนของร่างกายต่างๆ เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง โลหิต ฯลฯ ที่มีคุณลักษณะเป็นที่แตกต่างจากสามัญชนทั่วไป โดยมีลักษณะคล้าย ' ธาตุ ' ซึ่งหากมองโดย ไม่สังเกตให้ดีแล้ว ก็คล้าย กรวด หิน แก้ว เพชร ฯลฯ

[FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]คำว่า พระบรมธาตุและ พระธาตุ ยังอาจหมายถึงสถูปเจดีย์ต่างๆได้อีกด้วย เช่น พระบรมธาตุไชยา พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพนม ฯลฯ [/FONT]

มีต่อ พิมพ์แปป ..

 

คำว่า "พระธาตุ" คนทั่วไปอาจจะคิดว่า คงจะมีอยู่แต่ในเจดีย์ คนทั่วไปคงไม่มีวันได้สักการะบูชา หรือมีครอบครองอยู่ที่บ้าน แต่ความคิดแบบนี้ ตอนนี้เป็นอะไรที่ผิดล่ะครับ เพราะสมัยนี้มีพระบรมสารีริกธาตุ , พระอรหันต์ธาตุมาโปรดผู้ปฎิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก แล้วรูปพรรณสัณฐานก็ตรงตามตำราทุกประการ แล้วไหนจะปฎิหารย์ที่ท่านเสด็จมาให้เห็นอีก สิ่งนี้คงเป็นเครื่องยืนยันว่าพระธาตุ ไม่ได้มีอยู่แต่ในเจดีย์เท่านั้น และก็คงมีส่วนถูกที่ว่าพระธาตุจะเสด็จมากับผู้มีบุญ (ผู้ปฎิบัติธรรม) นั่นเอง

ถ้าถามว่าทำไมพระธาตุถึงมีมากมายล่ะ ? ก็ขอตอบว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่มีมากมายนับแสนเท่ากับเม็ดทรายในมหาสมุทธทีเดียว (สำหรับคนที่ไม่เข้าใจไปศึกษาต่อกันเองนะครับ) เพราะว่าในช่วงกัปป์หนึ่งจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นเพียงแค่ไม่กี่องค์เท่านั้น อย่างยุคนี้ พระสมณะโคดม ท่านก็เป็นพระพุทธเจ้าองค์ ที่ 4 ในภัทรกัปป์ แค่นี้ก็คงพอเข้าใจใช่ไหมครับว่าทำไมพระธาตุถึงมากมาย แล้วอีกอย่างในความเป็นทิพย์ท่านสามารถแสดงให้เห็นมากแค่ไหนก็ได้ครับ แต่พระธาตุที่อยู่ในเจดีย์สำคัญๆ ก็เป็นพระบรมสารีริกธาตุเหมือนกัน แต่เป็นส่วนที่สำคัญๆ และมีประวัติเล่าขานกันมาครับ ความแตกต่างก็มีแค่นี้เองครับ

ส่วนพระธาตุพระอรหันต์ก็มีมากมายเหมือนกัน เช่นพระธาตุพระสิวลี , พระอนุรุทธ เป็นต้น ผมเคยไปอัญเชิญพระธาตุสิวลีมาแล้วจากถ้ำสายธาร มีภาพอยู่ในกระทู้นี้ครับ หาเอาเด้อ

พระธาตุบางสัณฐานรูปร่างออกจะคล้ายเม็ดกรวดบ้าง หินบ้างแต่อย่าปรามาศไปนะครับ เพราะว่าเท่ากับประมาศพระพุทธองค์ทีเดียว ตอนแรกที่ผมได้รับมาผมก็รู้สึกเฉยๆ เพราะว่าพระธาตุที่ได้รับมาไม่ค่อยสวย เหมือนที่เคยเห็นตามที่ต่างๆ แต่พอมาบูชาระยะหนึ่งปรากฎว่าท่านเสด็จมาเพิ่ม จนผมไม่สงสัยในเรื่องนี้อีก

ปัจจุบันบ้านผมมีพระธาตุ ทั้งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าแต่ไม่ทราบว่าองค์ไหนเพราะเกินวิสัยเกินตำรา , พระธาตุพระอรหันต์ , แล้วจะนำภาพมาให้ชม

 

พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ

 

พระธาตุชานหมาก ของหลวงพ่อพระราชพรหมญาณวัดท่าซุง

 

พระอรหันต์ธาตุส่วนหนึ่ง มีทั้งสมัยพุทธกาล และ กึ่งพุทธกาล

 

พระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานสีทองอุไร และแก้ว

 

พระธาตุพระอรหันต์

 

ส่วนนี่ หายากมากๆ

บุพโพธาตุ(พระธาตุน้ำเหลือง)ของพระมหาโพธิสัตว์ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ทำปาฎิหารย์เสด็จมาเพิ่มแล้วครับ ตอนแรกที่ได้มา ได้มานิดเดียวครับจนเพิ่มมาขนาดนี้

 

ส่วนใครอยากมีพระธาตุไว้บูชาแนะนำให้ "หาเอาเอง" !

เอ๊ยยย ไม่ช่าย ครับ ~ แนะนำให้ ปฎิบัติสมาธิ ภาวนา ถือศีล แล้วก็อัญเชิญท่านโปรดเสด็จมาให้สักการะครับ ถ้าบุญถึงวาระถึงท่านก็เสด็จมาโปรดครับ หุหุ ใช้คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า หรือ คาถาจักรพรรดิก็ได้ครับ แล้วอธิษฐานอัญเชิญเอาครับ

หรืออีกวิธีหนึ่งคือ "ขอจากผู้ที่มีครับ" (deejai) แต่อย่าขอผมล่ะผมยังมีน้อยอยู่ หุหุ

 

1. หุหุ นี่เป็นธรรมดาสำหรับคนเริ่มเข้าสู่ทางธรรม มักจะกลัวว่าตัวเองจะทำผิดนู่นผิดนี่ ... ผมขอให้ใช้ศรัทธา และ ความตั้งใจนำครับ เพราะว่าเจตนาในการเคารพบูชานั้นมีค่ามากครับ เหมือนกับการทำบุญ คนที่ไม่ตั้งใจทำบุญทำเพราะว่านานๆทำที กับคนที่ตั้งใจทำบุญ อานิสงค์ย่อมต่างกัน

2. ในสมัยก่อนพระพุทธเจ้าองค์นี้ มนุษย์โลกมีความสูงใหญ่ต่างจากในปัจจุบันมากครับ (หาข้อมูลได้จากตำนานต่างๆ และพระไตรปิฎก) ส่วนเรื่องของพระธาตุนั้น ขอยกตัวอย่าง ตอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก่อนที่จะปลงพระศพท่านนั้น จำได้ว่ามีกษัตริย์สองเมืองต้องการมาขอพระอัฐิของพระพุทธเจ้าท่าน ไปบูชาจนเกือบจะเกิดการรบกันขึ้น ทันใดนั้นเกิดปาฎิหารย์พระสรีระของท่านได้ถูกเพลิงทิพย์ด้วยอำนาจเตโชกสิณเผาจนหมดสิ้นและเกิดพระบรมสารีริกธาตุส่วนสำคัญๆ ก็ได้ถูกอัญเชิญให้กษัตริย์กรุงต่างๆ ส่วนที่ว่าทำไมพระธาตุเยอะ และเพิ่มจำนวนได้ เรื่องนี้เป็นเรื่อง ที่เกินวิสัย อำนาจบารมีพุทธะ สามารถทำได้ครับ ปัญหาแบบนี้อย่าไปคิดหาคำตอบเพราะไม่มีวันคิดออก ให้เจอกับตัวเองแบบผมและท่านอื่นๆท่านจะได้คำตอบที่แท้จริงให้ตัวท่านเอง ... เอวัง(deejai)