ไครรู้จักบ้านสวน พีระมิด มั่งครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ล้มเหลว, 19 กันยายน 2012.

  1. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ท่านท้าวเวศสุวรณ ท่านเป็นพระโสดาบัน ท่านสำเร็จจาก การฟังธรรม
     
  2. willingboon

    willingboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +349
    ผมว่าเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ที่ผมศึกษามาก่อนหน้านี้มีแต่คนปรามาสในหลวงและชีวิตพวกเขาได้รับผลกรรมมากมาย ไม่ว่าเขาจะคิดในใจ พูดหรือทำเลยก็ได้รับผลกรรมมากมาย บ้านสวนเขาก็เลยสอนว่า การคิด พูด ทำไม่ดีไม่ว่ากับใครก็ตามแต่จะได้รับผลกรรมแน่นอน ซึ่งท้าวเวสสุวรรณท่านเตือนมา ว่าคนที่คิด พูดและทำไม่ดีกับคนอื่นจะได้รับผลกรรมอย่างไร นี่คือผลแห่งกรรมในการทำบาปของแต่ละคนเองซึ่งท่านเตือนมาบอก บางคนอ่านแล้วก็คิดว่าบ้านสวนแช่งคนอื่น แต่ผมอ่านมาหลายๆกระทู้เลยรู้ว่าเป็นการบอกผลแห่งกรรมจากท้าวเวสสุวรรณ และผมดูคลิปมาก็เป็นจริงบางคนมาสารภาพ เช่นว่าคิดไม่ดีกับอาจารย์อุบลแล้วเขาก็เป็นโรคขี้กลาก บางคนได้รับอุบัติเหตุ เป็นต้น เป็นการยืนยันว่ากรรมที่พูด คิดหรือทำไม่ดีกับใครก็ตามแต่ต้องได้รับผลอย่างแน่นอน ผมว่าลองอ่านไปเยอะๆจะเข้าใจครับว่าเขาสอนอะไร
     
  3. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ผ่านไป2500กว่าปี ตอนนี้คงเปนอรหันแล้วละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  4. nakoruru

    nakoruru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,120
    ผมว่าเป้น ก่ีารเตือน มากกว่าครับ เหมือนครูสอนลูกศิษย์ดื้อๆ ก็ต้องใช้"ไม้เรียว" แต่เจตนาของท่านก็เตือนเพื่อให้เราหยุดยั้งการประกอบกรรม ปรามาส ล่วงเกินผู้อื่น
    คนเราจะได้รับผลกรรมก็เพราะสร้างเหตุ ตามกฎแห่งกรรม ถ้ากลัวบาป ก็อย่าทำบาป ไม่ใช่ ตัวเองทำบาปแล้วไปหาว่าเขาแช่ง มนุษย์เราก็เป็นเสียอย่างนี้ โลกธรรม 8 หลายๆท่านก็คงรู้กันนะ แต่ก็รู้เพียงท่องจำ

    กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
    1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
    2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
    3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
    4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
    5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
    6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
    7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
    8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
    9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
    10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)

    ตัวอย่าง
    1.อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา ประเภท "เขาว่า" "ได้ยินมาว่า" ทั้งหลาย
    2.อย่าได้ยึดถือถ้อยคำสืบๆกันมา ประเภท "ใครๆว่า" "โบราณว่า" ตามกระแส
    3.อย่าได้ยึดถือโดยความตื่นข่าวว่า เข่าว่าอย่างนี้ ประเภทข่าวลือ ข่าวโคมลอย ทั้งหลาย
    4.อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา อย่าไปตามตำรามากนัก ตำราว่าอย่างนั้น ต้องออกมาเป็นอย่างนั้น เท่านั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะอย่าลืมว่า ตำราบางเล่ม คนแต่งก็มั่วมาบ้าง เขียนไม่ครบบ้าง ใส่ไข่เอาเองบ้าง คนมีกิเลสไปแก้ไขตำรา คนมีผลประโยขน์ ไม่แก้ไขตำราเท่ากับเราโดนหลอก
    5.อย่าได้ยึดถือโดยนึกเดาเอาเอง เช่น เข้าใจเอาเอง หรือข้อมูลไม่พอ ใจร้อนเดาสุ่มเอา มั่วๆ เอา
    6.อย่าได้ยึดถือโดยการคาดคะเน การคาดการณ์ตามประวัติศาสตร์ ตามสถิติ ความน่าจะเป็น ซึ่งอาจจะผิดก็ได้ เพราะเห็นแค่ร้อย อย่าเหมาว่าที่ร้อยเอ็ดจะเป็นไปด้วย
    7.อย่าได้ยึดถือตรึงตามอาการ อย่าเห็นว่าอาการแบบนี้ น่าจะเป็นแบบนี้ ให้คิดเผื่อๆไว้ด้วย เช่น เห็นคนไข้เป็นแบบที่เคยรักษาคนอื่นๆมาก่อน อย่าไปตรึกเอาเองว่าเป็นแบบนั้น เห็นเงาก็จ่ายยาได้ เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า 8.อย่าเข้าข้างตนเอง นั่งสมาธิเห็นโน่น เห็นนี้ อย่านึกว่าเป็นจริง เพราะอาจจะเป็นจิตหลอกจิต
    9.อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่า ต้องกันกับทิฐิของตัว อย่าเอาความเห็นของตนเป็นใหญ่ อะไรที่ตรงกับที่ตนคิดไว้เท่านั้นที่เชื่อได้ คนคิดแบบนี้ ดื้อตายชัก
    10.อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ ระวังจะโดนหลอก อย่าลืมว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา การยึดอาจารย์ของตนเองมากไป ก็ไม่ดี ควรทำตาม ทดสอบดู ถ้าผิดพลาดก็ไม่ต้องเชื่อ ถ้าทำแล้วดีขึ้นก็แสดงว่าเชื่อได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  5. Jenny19

    Jenny19 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +97
    พระพุทธองค์ท่านก็ทรงบอกไว้แล้วว่า
    ธรรมะของท่านเป็นเพียงใบไม้หยิบมือเดียว
    แต่มีธรรมะ มีศาสตร์วิชาความรู้อีกมากมาย
    อันเปรียบได้กับใบไม้ที่อยู่นอกกำมือ ในป่าอีกนับประมาณมิได้

    และการสงสัยในสิ่งที่บ้านสวนพีระมิดทำก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
    ตัวดิฉันเองก็ไม่เคยพบเคยเห็นการสอนธรรมะที่ใดที่เหมือนบ้านสวนพีระมิด
    ที่เน้นให้คนสารภาพกรรม สำนึกกรรม เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม และไม่กลับไปทำชั่วอีก
    ดูแล้วไม่มีคำสอนใดเลยที่จะขัดกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
    และสิ่งที่ อ.อุบลสอนนั้นเมื่อได้ลองเข้าไปดู ไปศึกษาทั้งในเว็บไซต์และคลิปรายการแล้ว
    ก็เห็นว่าสิ่งที่ท่านสอนนั้นคือ คำสอนของพระพุทธเจ้าแบบไม่มีบิดเบือน
    เอาเรื่องที่คนทั่วไปคิดว่ายาก เอามาสอนให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ปฏิบัติได้จริง
    แถมที่สำคัญ บ้านสวนพีระมิดสอนให้เรานับถือ เคารพ ศาสดาของทุกศาสนา
    ดิฉันเห็นว่าสิ่งใดที่มีคุณ มีประโยชน์ ไม่ลบล้าง ล่วงเกิน หริอบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า
    อ.อุบลนำมาสอน นำมาประยุกต์ใช้ มาเป็นตัวช่วยให้ผู้คนพ้นทุกข์ได้เร็วขึ้น

    เรียกว่าตัวเองก็ไปมาหลายที่นะคะ ไปถือศีล บวชชีพราหมณ์มาก็หลายหน
    กลับมาก็ยังผิดศีลเหมือนเดิม แต่บ้านสวน มีอะไรที่สามารถทำให้คนเคยชั่วมากมาย
    กลับมาเปลี่ยน หันมารักษาศีลได้ในระยะเวลาอันสั้น ถ้าไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์และศึกษาดูนะคะเพราะดิฉันเจอกับตัวเองแล้วของจริงค่ะ

    จากที่ดิฉันเห็นบางท่านนำคลิปรายการบางตอนมาให้ชมแล้วมาสรุปว่าเป็นการงมงาย
    ดิฉันอยากให้ลองเข้าไปศึกษาดูค่ะ เพราะมีคลิปรายการอีกมากมาย ที่คุณยังไม่ทราบ
    ที่สอนให้คนเชื่อในกฎแห่งกรรม สอนให้เรารักษาศีลห้า ปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน
    สร้างบุญทุกบุญเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งอันนี้ถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ดิฉันลองเข้ามาศึกษาบ้านสวนพีระมิดค่ะ


    กับแค่การได้รับชมเพียงแค่คลิปที่คุณยกมาเพียงคลิปเดียว
    จะใช้ตัดสินการกระทำของบ้านสวนพีระมิดว่าหลวกลวง ต้มตุ๋น ก็ดูจะไม่เป็นการยุติธรรมนะคะ

    การปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
    เป้าหมายสูงสุดคือนิพพาน ตอนแรกดิฉันก็ไม่ได้สนใจเรื่องนิพพานหรอกค่ะ เข้ามาศึกษาเพราะอยากหายโรค หายจน
    แต่พอได้รับรู้การสอนของ อ.อุบล
    และบ้านสวนพีระมิด ที่สอนให้เห็นว่าการปรารถนานิพพาน
    ไม่ใช่เรื่องยาก ทำให้ตอนนี้ตัวเองก็ลองหันมาปฏิบัติดูบ้าง
    ก็ยิ่งมองว่าเราสามารถทำได้ (อย่าคิดว่าดิฉันบรรลุแล้วนะคะ ยังชั่วอีกเยอะ)

    ยิ่ง พูดถึงเรื่อง รหัส อ.อุบลช่วยด้วย อันนี้เจอมากับตัวเลยค่ะ ว่าได้ผลจริง เราไม่งมงาย แต่พิสูจน์ด้วยการทำซ้ำๆ บ่อยๆ ถ้าได้ผลสำเร็จตามที่เราใช้ แสดงว่าของจริงค่ะ เพราะพิสูจน์แล้ว ซึ่งตัวดิฉันเอง ได้ผลมาแล้ว ส่วนที่ใช้ไม่ได้ผลก็มีเหมือนกันค่ะ แต่.. เราต้องสำรวจตัวเองนะคะ ถ้าเมื่อไหร่ศีลพร่อง ศีลด่าง หรือผิดศีลเนี่ย อันนี้ไม่ได้ผลจริงๆค่ะ ลองมาแล้ว ซึ่งก็ถือว่า เป็นการสอนให้เรารักษาศีลไปโดยปริยาย

    อีกอย่างดิฉันมองว่า อ.อุบลไม่ได้ อยู่เหนือพระพุทธเจ้านะคะ เพราะสุดท้าย ก็คือถ้าอยากใช้ได้ผล คุณก็ต้องรักษาศีล 5 ตามคำสอนพระพุทธเจ้าสิ เพียงแค่ใช้ชื่อ อ.อุบลเป็นแค่คำเรียกเท่านั้น สำหรับเราคิดว่า คำนี้สามารถใช้ได้ทุกชาติศาสนาสามารถเรียกได้เหมือนกันค่ะ ไม่ได้เป็นคำเฉพาะ ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง ซึ่งบางศาสนาถ้าเป็นพระ เค้าก็อาจไม่กล้าเรียกก็เป็นได้ เพราะกลัวจะไปขัดกับศาสนาเขาก็เป็นได้


    เท่าที่ดิฉันได้ดูคลิปต่าง ๆ แล้ว เห็นว่า อ.อุบลนำคำสอนของพระพุทธองค์มาถ่ายทอดให้พวกเราหลุดพ้นจากความทุกข์
    สอนให้เรารักษาศีล ปฏิบัติดี คิดดี พูดดี
    สอนให้เชื่อในกฎแห่งกรรม และสร้างบุญทุกบุญถวายแด่ในหลวงเท่านี้ดิฉันก็คิดว่าเพียงพอกับการที่จะเคารพ บูชาแล้วล่ะค่ะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  6. ขนมเข่ง

    ขนมเข่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    สำหรับเรานะ เราคิดว่า รหัส อ.อุบลช่วยด้วยอ่ะ มีหลายคนมาเขียนไว้ในเวปไซต์ว่าใช้ได้ผลอย่างโน้นอย่างนี้ เราก็เลยลองใช้ในหลายๆเรื่อง แล้วก็ได้ผลจริงๆด้วยนะ เราว่าถ้าหากใครสงสัยก็ให้ลองใช้จะดีกว่านะ เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนว่าไม่ให้เชื่ออะไรโดยไม่ได้พิสูจน์ ท่านให้พิสูจน์แล้วถ้าผลนั้นเกิดขึ้น หรือมีจริง ท่านให้เชื่อได้นะ โดยไม่ว่าจะทำอะไรให้เอาศีล 5ไปจับ ถ้าไม่ผิดศีลก็ทำได้ แต่ว่าถ้าพิสูจน์เห็นผลแล้วว่าเป็นความจริง แล้วถ้ายังไม่เชื่ออีก อันนี้เรียกโครตโง่เลยนะ เหมือนกับว่ามีคนบอกว่าร่างกายคนเรามีเลือดเป็นสีแดง เราอาจจะไม่เชื่อก็ได้นะ เพราะเราไม่เห็น แต่ถ้าเราเห็นแล้ว รู้แล้ว แต่ยังไม่เชื่ออีก อันนี้เรียกโง่ เพราะถือว่าพิสูจน์แล้ว ดังนั้น เราว่าทุกคนต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองนะ ลองเอาไปใช้เลยดีกว่านะ
    เราว่าต้องลงมือทำจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  7. ขนมเข่ง

    ขนมเข่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    ในงานธรรมะบำบัดที่ โรงแรมเดอะเทลเวอเลอร์ เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง เราก็ได้มีโกาสไปฟังด้วย โดยอ.อุบล เล่าให้ฟังถึงเรื่องศีล 3ชั้น ละเอียดมาก แล้วก็มีช่วงชมบารมีพระศรีอาริย์ โดย อ.อุบล ได้อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มาสถิตที่ กาย วาจา และใจของท่าน โดยท่านได้อันเชิญมาให้ผู้คนได้สัมผัส เพื่อพิสูจน์ว่า พระศรีอาริย์มีจริงๆ ไม่ได้มีแต่ในตำรา โดยในยุคของท่านจะไม่มีผู้คนเจ็บป่วย จะมีแต่คนสวย หล่อ มีแต่คนดี โดยท่านบอกว่า ถ้าพระบารมีของพระศรีอาริย์ท่านมาจริงๆ ถ้าเดินเข้ามาใกล้แล้ว อาการที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะปวดแขน ปวดขา หรืออะไรก็ตามจะหายไป แล้วก็มีคนเดินไปใกล้ๆ อ.อุับล แล้วก็หายจริง ตอนแรกไม่เชื่อหรอก คิดว่าหน้าม้าหรือป่าว? แต่พอมีคนเดินไปเยอะๆก็หายกันหมด เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก ว่าหายได้ยังไง แต่สำหรับตัวเรา เราปวดนิ้วชี้มากเลย ก็หายเหมือนกันนะ แต่ว่าเราหายตั้งแต่ อ.อุบล เริ่มอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์แล้ว เราคิดว่าไม่ใช่อุปทานแน่ๆ เพราะถ้าอุปทานมันจะหายได้ไง แล้วก็ไม่มีหน้าม้าแน่ๆอ่ะ เพราะมันคือเรื่องจริง ใครจะไม่เชื่อก็ไม่รู้แหล่ะ แต่เราเห็นและสัมผัสมายังไงก็เล่าแบบนั้น เราคิดว่าถ้าคนมีปัญญานะ เขาจะยังไม่เชื่อ และศึกษาค้นคว้าแบบเรา ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นนี้มันคืออะไร แต่สำหรับใครที่ไม่เชื่อ ถึงพิสูจน์แล้วก็ไม่เชื่อ ก็ปล่อยเขาเถอะ ไม่อยากหายป่วยก็ช่างเขา เราไม่ได้เป็นด้วย เราเชื่อเพราะเราหายจริง แล้วเราก็คิดว่า พระศรีอาริย์ท่านมีจริงๆนะ ท่านต้องมีบารมีมากแน่ๆเลยอ่ะ แล้วผู้คนในยุคของท่านก็จะไม่เจ็บป่วยกันด้วย เพราะนี่ขนาดแค่อันเชิญบารมีมานะ ยังหายปวดนิ้ว ปวดแขน ขา และอื่นๆ ได้เลย เราคิดว่าต้องรีบช่วยกันตามหาพระศรีอาริย์กันแล้วล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  8. Light Candle

    Light Candle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +59
    เราก็เป็นคนประเภทที่ไม่เชื่อ ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์

    เลยลองใช้ "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" บ้าง แปลกมากเลย เราหายไข้ทันที ตอนแรกคิดว่าบังเอิญ ก็ลองใช้อีกหลายเรื่อง เช่น หาของไม่เจอ, รถติด, หาที่จอดรถไม่ได้ มันแปลกมากๆๆๆ เลย

    ถ้าเราใช้แล้วมีความสุขแบบนี้ เราก็ใช้นะ แล้วเราจะย้อนดูตัวเองว่าเราบริสุทธิ์พอหรือยัง รักษาศีล 5 ครบหรือยัง น่าจะดีกว่าไปสงสัยคนอื่น

    ส่วนเรื่องของขลังที่เขานำมาเสนอเนี่ย จากที่อ่านดูใน link ก็ไม่เห็นเขาจะบังคับให้เราซื้อ หรือโฆษณาสรรพคุณอะไรเลยนะคะ

    แต่เราคิดว่า ไม่ว่าของขลังอะไร ก็ต้องใช้ร่วมกับความดี ไม่คิดร้ายกับคนอื่นทั้งกาย วาจา และใจ

    และเราก็ควรศึกษาการกระทำของเขาให้ดีก่อน ถ้าอันไหนที่ไม่จริงก็ยกประเด็นนั้นมาถามกันด้วยเหตุและผล จุดประสงค์ที่เขาทำ

    ตัวเราเองก็ยังไม่ได้ดีไปกว่าเขาเลย ดูง่าย ๆ ว่าเรายังป่วย ยังทุกข์ ยังจน

    ก็เพราะเราสร้างเหตุไว้เช่นไร เราก็ย่อมได้รับผลเช่นนั้นไงล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  9. AnyaS

    AnyaS Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +33
    เท่าที่ได้ศึกษา บ้านสวนพีระมิด สอนธรรมมะ
    ในแบบชาวบ้าน ๆ ง่าย ๆ ตรงไปตรงมา
    เน้นที่จิต มากกว่า เครื่องแต่งกาย
    ให้เชื่อกฎแห่งกรรม (ผลของการกระทำ)
    ที่สำคัญ สามารถพิสูจน์ได้ตามหลัก วิทยาศาสตร์
    สอนให้เป็นมนุษย์ที่ปกติ ด้วยการมีศีล 5 ละวาง ความโลภ โกรธ หลง
    โดยเฉพาะเรื่องการทำสมาธิแบบลืมตา ไม่ต้องนั่งหลับมาปี๊
    ให้มีสมาธิ สติจดจ่อกับทุกอย่างที่กำลังทำ อันนี้ชอบมาก
    ซึ่งนำมาปฏิบัติปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ในการทำงานได้
    ให้พูดดี คิดดี ทำดี เสมอ

     
  10. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    ยังๆ ท่านรอพระศรีอารย์อยู่ เนื่องจากท่านปรารถนาเป็นเทวอุปัฏฐากแห่งองค์พระศรีอารย์พุทธเจ้า แล้วจึงจะเข้าพระนิิพพานในยุคนั้น
     
  11. Archeopteric

    Archeopteric Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +53

    มีช่วงไหน sale 50% ไหม
    อิอิ
     
  12. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ท่านกลับนิพพานได้นานแล้ว ท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์องค์หนึ่งของฝ่ายมหายาน ท่านสร้างบารมีไปเรื่อยๆท่านไม่ย่ำรออยู่กับที่หรอกเป็นเทพชั้นสูงหรืออรหันต์ก็อุปฐากได้5555+ อีกอย่างท่านไปหาพระศรีอาริ์ได้ตลอดเวลาถึงแม้จะยังไม่มาเกิดเป็นพุทธเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  13. คนวนขวา

    คนวนขวา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +41
    ผมไม่เคยไปหาเลยครับ แต่อ่านแล้วก็สับสน

    สรุปเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ..ดีครับ

    แต่เชื่อพระพุทธองค์ดีกว่าครับ...ว่าอย่าเพิ่งเชื่อ

    จนเกิดปัญญาซะก่อน..อิอิ
     
  14. Purplecarpet

    Purplecarpet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +197
    เราเข้าไปในเว็บบ้านสวน ดูรายการคุยไปแจกไป เห็นอ.อุบลบำบัดคนโดยการแสดงกฏแห่งกรรม ให้คนพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อคนสารภาพบาปที่เคยทำมาด้วยความสำนึกผิด ซึ่งเป็นการดับเหตุ ผลก็ดับ คืออาการปวดที่เกิดจากกรรมนั้นๆก็หายได้ทันที เช่น เคยเล่นไพ่ ล้างไพ่ ถือไพ่ มีส่วนทำให้ปวดข้อมือ
    หลังบำบัด คนก็พูดว่าดีขึ้นหรือหายกันทันที
    ดูแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ เป็นเหตุเป็นผลตรงกับธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับ, สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    ถ้าดีขึ้นหรือหายจริงๆก็รู้สึกยินดีด้วย
    แล้วก็เห็นหลายท่านเขียนเกี่ยวกับรหัสอ.อุบลช่วยด้วย พอดีว่าตัวเองกำลังง่วง เมื่อกี้เลยทดลองใช้ แต่คิดในใจน่ะค่ะประมาณว่า อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้หนูหายง่วงด้วยเถิด ปรากฏว่าหายง่วง เหลือเชื่อจริงๆ
     
  15. xcz

    xcz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +45
    ตัวแทนบ้านสวนมาตอบก็ดีแล้ว ขอถามนะ
    1.ตั้งแต่ท่านมาเชื่อนี่ เสียเงินซื้อของรวมค่าค่ายด้วยคิดเป็นเงินคนละเท่าไหร่กันบ้าง
    2.เทพสฟิงซ์นี่ เพราะอะไรถึงเป็นที่นับถือของพวกท่าน มีที่มาอย่างไร
    3.รหัส อ.อุบลช่วยได้ที่บอกว่าช่วยได้ทุกอย่าง ในเมื่ออ.อุบลบอกว่าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ทำไมไม่ใช้ พระพุทธเจ้าทรงช่วยได้
    4.ของที่ขายทำไมแพงมากแล้วผ่านการปลุกเสกอะไรมาถึงมีปาฏิหารย์อย่างที่บอก เช่นจี้สฟิงซ์
     
  16. willingboon

    willingboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +349
    เท่าที่อ่านคำถามมานี่ ทำให้รู้ว่าไม่เคยศึกษาที่นี่มาก่อนเลย เพราะทุกคำถามเขามีการเขียนไว้หมดแล้ว หากสนใจก็ไปหาอ่านกันนะครับ เพราะหากฟังคนอื่น หรืออ่านแล้วคล้อยตามหรือแย้ง เท่ากับว่าเราไม่ได้พึ่งพาตนเองเลย เชื่อหรือไม่เชื่อแบบง่ายเกินไป

    สำหรับผมเองนั้นสงสัยหลายอย่างก็เลยลองไปอ่านและศึกษาดู และพบว่าที่นี่เขาสอนเรื่องศีลห้าได้ดีมาก แสดงให้เห็นถึงผลของบาปที่ทำมา และเน้นการดับทีเหตุ และผมเองซึ่งปวดหลังมานาน เพิ่งรู้และระลึกได้ว่าตนเองเคยเอาน้ำมันเดือดๆราดหลังหนูมาก่อนทำให้เขาทุกข์ทรมานมาก จึงได้ตั้งจิตด้วยความสำนึกผิด พูดในสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไปเพื่อเป็นบทเรียนแก่คนอื่นว่าอย่าทำแบบผมอีก เอาบุญที่ทำมาอุทิศให้เขาและตั้งใจว่าจะไม่ทำเลวๆแบบนั้นอีก อาการปวดหลังของผมก็หายทันที และไม่ปวดอีกเลย

    เงินทองผมก็ไม่ได้เสีย เพราะไม่มีการเก็บเงินทองค่ารักษาเลย อาหารและอื่นๆเขาก็เลี้ยงหมดทุกอย่าง เรื่องทำบุญเขาก็บอกว่าแล้วแต่ เขาเน้นเรื่องการทำบุญด้วยแรงกายเป็นหลัก แต่ละครั้งที่ไปทำบุญก็ไม่เคยเห็นเขาบังคับให้ทำบุญอะไรเลย มีแต่การเข้าค่ายที่เขามีค่าลงทะเบียนและนำเงินค่าสมัครทั้งหมดมอบให้ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เพื่อไปช่วยผู้คนตามเจตนารมณ์ของท่าน

    ผมมีความสุขมากครับที่ได้ลองเปิดใจ ศึกษาและค้นพบกรรมที่ตนเองทำมาจนเป็นเหตุให้ตนเองเจ็บป่วยแบบนี้ และได้ดับที่เหตุอย่างแท้จริง และหันมารักษาศีลห้าอย่างจริงจัง
     
  17. xcz

    xcz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +45
    คุณwillingboon ถ้าคุณคิดว่าทุกคำถามที่เราถาม ถูกเขียนไว้หมดแล้วรบกวนให้ลิงค์มาด้วย โดยเฉพาะเรื่องสฟิงซ์ กับรหัสอ.อุบลช่วยด้วย ทำไมไม่เป็น พระพุทธเจ้าทรงช่วยด้วย

    ถ้าคุณไม่ได้ซื้อของก็แค่บอกว่าคุณไม่เคยซื้ออะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นจี้สฟิงซ์ หรือรูปปีระมิด เรื่องเลี้ยงข้าว เลี้ยงอาหาร เราไม่ได้ถามเพราะเราคิดว่าค่าลงทะเบียนหลายร้อยอยู่ มันก็คงcoverได้ แล้วอีกอย่างคุณไปช่วยขุดดิน ลงแรงทำโน่นทำนี่ ถ้าเค้าจะเลี้ยงข้าวก็ไม่เห็นแปลก

    ขอยกคำถามมาถามอีกครั้ง

    1.ตั้งแต่ท่านมาเชื่อนี่ เสียเงินซื้อของรวมค่าค่ายด้วยคิดเป็นเงินคนละเท่าไหร่กันบ้าง
    2.เทพสฟิงซ์นี่ เพราะอะไรถึงเป็นที่นับถือของพวกท่าน มีที่มาอย่างไร
    3.รหัส อ.อุบลช่วยได้ที่บอกว่าช่วยได้ทุกอย่าง ในเมื่ออ.อุบลบอกว่าเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ทำไมไม่ใช้ พระพุทธเจ้าทรงช่วยได้
    4.ของที่ขายทำไมแพงมากแล้วผ่านการปลุกเสกอะไรมาถึงมีปาฏิหารย์อย่างที่บอก เช่นจี้สฟิงซ์<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  18. dinkin

    dinkin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +41
    สฟิงค์เนี่ย ในตำนานกรีกคือปิศาจที่คอยทายปริศนาคนเดินทางผ่านไปมา
    พอตอบไม่ได้ก็จับกิน ต่อมามีคนตอบคำถามได้ อิตัวสฟิค์นี่ก็เลยขายหน้า
    เอาหัวชนภูเขาตายไป อยากทราบว่ามันเลื่อนขั้นเป็นเทพให้คนกราบไหว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
     
  19. Nipanada

    Nipanada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +903
    """"""""""""""""""""""""""""
    ไม่ได้จะเข้ามาตอบคำถามของคุณหรอกนะ
    แต่จะเข้ามาถามว่า "ทำไมถึงได้สนใจ
    เรื่องของอ.อุบลและบ้านสวนพีระมิด
    จังเลยคะ"
    คือ เรื่องการเช่าพระ วัตถุมงคล
    หรือเครื่องรางของขลัง ก็มีแทบทุกที่นะ

    แม้กระทั่งในเว็บพลังจิตเนี่ย
    เค้าก็มีห้องสนทนานี้นะ ไม่สนใจ
    เข้าไปสัมภาษณ์ คนในห้องสนทนา
    คนบูชาพระ บ้างเหรอคะ ว่า
    พวกเค้าหมดเงินไปเท่าไหร่ กันแล้ว ...

    คิดดูเองแล้วกัน ว่าพวกเค้าจะตอบ
    คำถามคุณว่ายังไง ก็ในเมื่อ
    เรื่องของการบูชาวัตถุมงคลของแต่ละคน
    มันเป็นความคิด ความเชื่อ ความเคารพ
    ส่วนตัวของแต่ละคน และมันก็เป็น"เงิน"
    ในกระเป๋าของเค้า คุณจะไป
    เป็นห่วงเป็นไย อะไรกับเงินของคนอื่นล่ะคะ

    บางคนเค้าเช่าพระเป็นแสน เป็นล้าน
    เค้าก็เช่า เพราะเขามีปัญญา
    และมีเงินที่จะเช่า ไอ้เราจะไปยุ่งอะไร
    กับเงินของเค้า....เล่า

    เพราะถ้าเค้าคิดว่า ไม่ดี เค้าก็คงไม่บูชามาไว้
    คุ้มครองตัวเองหรอก...

    ส่วนเรื่องเกี่ยวกับความเร้นลับเกี่ยวกับ
    องค์เทพสฟิงซ์ ก็บอกแล้วว่า
    ให้ไปหาข้อมูลอ่านได้ มีให้อ่านเพียบเลย
    สำคัญไม่สำคัญ คิดดูแล้วกันว่า
    พระอาจารย์รัตน์ ท่านเคยบอกว่า
    ณ บริเวณเท้าขวาของสฟิงซ์
    มีความลับที่สำคัญ ที่จะมีผลต่อ
    การตีกลับของขั้วแม่เหล็กโลก
    ที่จะลดความรุนแรงของมหันตภัย
    ให้ลดลงได้ อีกทั้งช่วยปรับสมดุล
    ในร่างกายมนุษย์ ช่วยให้มีสุขภาพ
    ร่างกายที่ดีขึ้นได้
    ...
    (สั้นๆนะคะ ไปค้นหาอ่านเพิ่มเติมเอาเองนะ)

    ส่วนเรื่อง รหัสนี้ ทำไมถึงใช้ชื่อ อ.อุบล
    อันนี้ก็มีคำตอบในลิงค์ที่คุณก็อปมานั่นแหล่ะ

    นี่..แสดงว่า ก็อปมาอย่างเดียว
    แต่ไม่เคยอ่าน ใช่ไหม๊...


    คำตอบง่ายๆ สั้นๆก็คือ อ.อุบล
    ไม่ได้เป็นผู้กำหนด รหัสนี้
    แต่เป็นเพียงผู้ที่บอก ให้คนอื่น
    ได้ลองใช้ดูเท่านั้น ส่วน"ใคร"เป็นผู้กำหนด
    ก็ลองไปอ่าน และ ค้นหา "คำตอบ"
    เอาเองนะจ๊ะ...

    จริงๆอยากจะบอกว่า หยุดสนใจเรื่อง
    ของอ.อุบล บ้านสวนพีระมิด เถิดนะคะ

    แล้วก็เอาเวลาว่างที่คุณมี ไปบอก
    ไปเตือน ให้คนสนใจเรื่องธรรมะ
    ใส่ใจเรื่องศีลห้า ทำสมาธิ
    จะมีประโยชน์กว่า...หรือเปล่า

    เพราะถ้าคุณเป็นคนที่หวังดีต่อคนอื่นด้วยใจจริง
    ก็เอาเวลาที่มี ไปเขียนรณรงค์ให้คนทำดี
    เยอะๆ ดีกว่า..เนอะ...






     
  20. ichi_1

    ichi_1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +58
    เราว่ามาโฟกัสกันที่หลักธรรมคำสอนดีกว่าคะ คือ จะว่าไปตอนนี้คือหลายๆสำนัก หลายๆวัด หลายๆสถานที่ปฏิบัติต่างก็ทำวัตถุมงคลออกมาบูชากันเป็นล่ำเป็นสัน ยิ่งวัดไหนยิ่งดังก็ยิ่งทำออกมาให้บูชากันมาก....การจะบูชาหรือไม่บูชาเราว่ามันขึ้นอยู่กับศรัทธาจริตของแต่ละคน เพราะถ้าเราไม่สนใจไม่เชื่อก็ไม่ต้องไปเช่าไปบูชาซะก็จบ แต่จะไปวิพากวิจารณ์มันก็จะไปกระทบกับความเชื่อความศรัทธาของคนที่เขาไปเช่าไปบูชา เอากันง่ายๆเลยเรื่องที่มีการเช่าพระดังๆทั้งหลาย คนที่เขาเชื่อเขาศรัทธาต่อให้มีราคาสูงขนาดไหนถ้ามันมีคุณค่าทางใจเขาก็ทุ่มเงินกัน ทั้งๆที่จริงๆตามความรู้ที่เราเคยรู้มาจากปู่ย่าตายายพระพุทธองค์ท่านทรงห้ามเรื่องการซื้อขายพระพุทธรูป

    ถ้าจะมาหาหรือจับประเด็นที่วัตถุมงคลก็คงจะไม่ได้เป็นการใช้ปัญญาในการค้นหาว่าปรากฏการณ์ของบ้านสวนพีระมิดเป็นของจริงหรือไม่จริง เพราะตอนนี้เราว่าชาวพุทธทุกคนจะต้องตื่นและลุกขึ้นมาเพื่อช่วยกันทำหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนากันได้แล้ว

    ถ้าสำนักไหนหรือสถานปฏิบัติธรรมไหนนำคำสอนของพระพุทธองค์ไปบิดเบือนก็ช่วยๆกันค้นหาด้วยปัญญาคิดหรือสงสัยให้เป็นเช่น อะไรทำให้คนมากมายถึงเชื่อ? มีเทคนิคหรือนำหลักการตลาดอะไรมาใช้หรือเปล่า?? หายกันจริงหรือเปล่า??

    เราเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะที่เกิดความสงสัยในบ้านสวนพีระมิด แล้วมาตั้งกระทู้ในเว็ปพลังจิตเพราะทำให้ทุกๆคนออกมาช่วยกันค้นหาคำตอบแต่ละคนควรใช้ปัญญาให้มาก อย่าเผลอทำตัวเป็นนักอนุรักษ์ ปกป้องพระศาสนาแล้วก็เอาพระ, พระพุทธรูปหรือโจมตีที่ตัวบุคคลโดยการไปตกแต่งรูปอย่างที่เห็นใน FB (น่าจะเป็นของปลอม)เพราะขนาด ท่านว.วชิรเมธียังโดนโจมตีเลย

    1. ไม่ใช้อารมณ์ในการตอบคำถามหรือเสนอความคิดเห็น เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นสงครามศาสนาของย่อมๆกันไปซะก่อน
    2. การแสดงความคิดเห็นจะต้องไม่เป็นการดูหมิ่นความคิดเห็นของผู้อื่น
    3. การแสดงความคิดเห็นควรจะต้องระมัดระวังความคิด จิตของตนเองให้มากๆเพราะการที่เราเผลอไปดูหมิ่นอะไรที่เรามองไม่เห็นด้วยหรือยังหาทางพิสูจน์ไม่ได้ ถ้าสิ่งๆนั้นเป็นของจริงเดี๋ยวจะกลายเป็นการสร้างบาปให้กับตนเองซะมากกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...