โครงการ รักเพื่อรัก ของชมรมจิตจักรวาล ท่านใดอยู่ใกล้ก็เข้าร่วมได้ครับเพื่อแยกคนดี

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย supako, 12 มีนาคม 2012.

  1. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ยินดีต้อนรับ ศาสนิกชนคนประพฤติธรรมทุกศาสนา ที่ปราถนาจะเข้าร่วมปฏิบัติสมาธิหมู่กู้วิกฤตโลกทุกท่าน

    (((+)))ประกาศข่าว:
    โครงการจิตจักรวาลสัญจร "รักเพื่อรัก: Love to Love ครั้งที่ 4"
    อ.เมือง จ.ชลบุรี
    >>วันที่:
    27-29 เมษายน 2555
    >>รายละเอียดเพิ่มเติม:
    รับฟังได้ในวันสื่อพระโอวาท<wbr> ครั้งที่ 182 วันที่ 18 มี.ค.2555
    ณ ชั้น 6 ตึกทอง บมจ.ไอซีซี กรุงเทพฯ
    >>สนใจร่วมขบวนทัวร์:
    สำรองที่นั่งรถแอร์และพัดลม<wbr> รวมที่พักกันล่วงหน้าได้ตั้<wbr>งแต่บัดนี้
    ที่คุณตุ๊ก: Tel.089-105-2727
    รับจำนวนจำกัด.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  2. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    รักเพื่อรักครั้งที่ 1ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อลดทอนการเกิด สึนามิ รอบที่สองฝั่ง ภูเก็ต แต่มาเกิด คลื่นสูงทางฝั่งตรงข้าม ทางอ่าวไทยแทน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0.001.jpg
      0.001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.8 KB
      เปิดดู:
      116
    • 0.002.jpg
      0.002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      170.2 KB
      เปิดดู:
      95
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  3. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    รักเพื่อรัก ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยับยั้งการเกิด แผ่นดินไหวรุนแรง
    จะสังเกตุได้ว่า เกิดขนาดเล็กน้อยและหมอกควันที่ เชียงใหม่จะน้อยกว่า จังหวัดใกล้เคียง ณ.ขณะนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0.003.jpg
      0.003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      238.2 KB
      เปิดดู:
      126
    • 0.004.jpg
      0.004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      296.5 KB
      เปิดดู:
      133
    • 0.005.jpg
      0.005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      247.5 KB
      เปิดดู:
      108
  4. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    รักเพื่อรัก ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อลดทอนความรุนแรง ของภูเขาไฟระเบิดที่ ขอนแก่น

    วันที่ 2 มี.ค. 2555
    09.00-12.00 น. กิจกรรมไซโคโชว์ภาคพิเศษ เพื่อสร้างสันติสุขในชีวิต
    หลักสูตร “หลักธรรมนำชีวิต” สำหรับข้าราชการพ่อค้าและ
    ประชาชนชาวขอนแก่น โดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA,M.S
    นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรมผู้สร้าง<wbr>กลยุทธ์ Psychoshow อันลือลั่น
    13.30-16.00 น. ชมรายการยอวาที เรื่อง “รักดีกว่า” โดยทีมยอวาทีของนักเรียนจาก
    โรงเรียนกัลยาณวัตร โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนและโรงเร<wbr>ียนขามแก่นนคร
    16.00-19.00 น. รายการเสวนาพิเศษ เรื่อง
    “ปี 2012 ความเสี่ยงของขอนแก่นกับการเผชิ<wbr>ญภัยพิบัติ”
    โดยคุณเดชา หาชา ครูฝึกป้องกันและบรรเทาสารธารณภ<wbr>ัยเขต 6 จ.ขอนแก่น
    และอาจารย์ธีรวงศ์ เหล่าสุวรรณ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์
    มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
    19.00-21.30 น. ฟังการสื่อถ่ายทอดพระโอวาทจากจิ<wbr>ตจักรวาล ครั้งที่ 181/2
    เรื่อง “คนสามมิติ” โดยอาจารย์ปริญญา ตันสกุล MBA, MS.

    วันที่ 3 มี.ค. 2555
    09.00-12.00 น. กิจกรรมไซโคโชว์ภาคพิเศษเพื่อสร<wbr>้างทักษะและจิตวิญญาณ
    แห่งการเป็นครูที่มีประสิทธิผล หลักสูตร “ครูพันธุ์ใหม่”
    สำหรับตัวแทนครูจากโรงเรียนในจั<wbr>งหวัดขอนแก่น จำนวน 60 คน
    โดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล MBA,M.S
    นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรมผู้สร้าง<wbr>กลยุทธ์ Psychoshow อันลือลั่น
    13.00-15.30 น. รายการ เสวนาธรรม เรื่อง “รักในต่างศาสนา”
    โดยพระครูปลัดธรรมะ จริยาวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ
    มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จ.ขอนแก่น,
    บาทหลวงไมตรี ทาสุวรรณ์ ผู้รับใบอนุญาตและผู้จัดการโรงเ<wbr>รียนมหาไถ่ศึกษา จ.ขอนแก่น
    และอาจารย์อดุล ฟินดี้ ครูสอนศาสนาอิสลาม มัสยิดคุ้มหนองคู จ.ขอนแก่น
    15.30-18.00 น. รับฟังการสื่อถ่ายทอดพระโอวาทจา<wbr>กจิตจักรวาลครั้งที่181/3
    เรื่อง “จะทำอย่างไร ถ้าภูเขาไฟระเบิดที่ขอนแก่น”
    โดยอาจารย์ปริญญา ตันสกุล MBA, MS.
    18.30-19.30 น. เชิญร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ “ปฏิบัติการสมาธิหมู่กู้พิบัติภ<wbr>ัยทางธรรมชาติ ครั้งที่ 3”
    นำโดยอาจารย์ปริญญา ตันสกุล เพื่อช่วยกันพลังร่วมด้านบวก(เม<wbr>ตตาธรรม)
    ค้ำจุนแผ่นดินขอนแก่น ประเทศไทยและโลกให้ลดทอนมหันตภั<wbr>ยพิบัติ
    จากปฏิบัติการชำระโลกให้เบาลง

    โดยจะมีการถ่ายทอดสด ที่ www.jitchakraval.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0.1.jpg
      0.1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.4 KB
      เปิดดู:
      112
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  5. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    Visudhi Punya


    ‎(((0)))
    ความจริงที่จริงแท้เรื่อง "ปัญหาภาวะโลกร้อน":
    1.มนุษย์หนอ...ปัญหาภาวะโลกร้อน<wbr>มิใช่ปัญหาที่แท้จริงที่เธอจะนำ<wbr>มาขบคิดกันให้เสียเวลาหรอก คิดไปพูดไปยังไงๆมันก็เป็นวิธีแ<wbr>ก้ไขแบบโมเมทั้งนั้น เพราะเธอจะหาคำตอบไม่พบหรอกว่าเ<wbr>ธอจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร เนื่องจาก "ภาวะโลกร้อน"ที่ทำให้โลกนี้กำล<wbr>ังมีปัญหาอยู่น่ะ มันมิใช่ตัวปัญหาที่แท้จริงไงล่<wbr>ะ
    >>>หากจะใช้ "หลักคิด" ตามแบบพระพุทธเจ้าว่าด้วยหลักอิ<wbr>ทัปปัจยตาที่ว่า "ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ถ้าเหตุดับทุกสิ่งนั้นย่อมดับตา<wbr>มไปด้วย" แล้วละก็ เธอจักต้องค้นหาให้พบเสียก่อนว่<wbr>าต้นเหตุหรือสาเหตุแห่งปัญหาโลก<wbr>ร้อนที่แท้จริงมันคืออะไรกันแน่<wbr> มิใช่คิดแบบหลงประเด็น คำตอบที่ได้จะไม่ถูกต้องไม่ว่าจ<wbr>ะมองทางโลกแบบนักวิชาการ หรือมองทางธรรมแบบเจ้ากูทั้งหลา<wbr>ย รังแต่จะทำให้ผู้คนงมงายไม่ก็งุ<wbr>นงงหนักเข้าไปอีกเท่านั้นแหละ บาปกรรมที่สอนผิด บาปกรรมที่หลงผิด บาปกรรมที่เห็นผิด.....
    2.เธอจะคิดได้สอนใครๆได้ว่า "มีธรรมะสิ จะสามารถแก้ไขภาวะโลกร้อนได้" โดยแอบอิงอ้างเอ่ยคำที่พระพุทธเ<wbr>จ้าสอนเอาไว้ว่า "เราคือโลก โลกคือเรา" แต่เธอสามารถขยายความให้เห็นเป็<wbr>นรูปธรรมโดยไม่ลึกลับซับซ้อนได้<wbr>หรือไม่ว่า ธรรมะที่ว่าน่ะช่วยแก้ไขปัญหาภา<wbr>วะโลกร้อนได้ยังไง? คนฟังรุ่นใหม่ที่มีใจเป็นวิทยาศ<wbr>าสตร์ที่เขามีปัญญาจะได้คิดรู้ไ<wbr>ด้ด้วยตัวเองว่าอ๋อ...ยังงั้นเอ<wbr>ง....แทนที่จะเชื่อตามเธอตามท่า<wbr>นด้วยการไม่เข้าใจ....


    3.มนุษย์เอ๋ย...การเรียนรู้<wbr>ที่จะใช้ปัญญาเพื่อการแก้ไข<wbr>ปัญหาใดๆนั้นมีหลักคิดดังนี<wbr>้:
    >>>ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า<wbr> ปัญหาที่แท้จริงนั้นมันคืออ<wbr>ะไรกันแน่ หรือ ต้องรู้ประเด็นปัญหาให้ชัดเ<wbr>จนก่อนนั่นเอง
    >>>ต่อมาเมื่อได้รู้ประเด็น<wbr>ปัญหาแล้ว หากปัญหานั้นมีหลายประเด็นเ<wbr>ธอก็จักต้องเรียบเรียงประเด<wbr>็นปัญหานั้นให้ได้ก่อนว่า ปัญหาใดนำไปสู่ปัญหาอะไร เพื่อการจัดเรียงลำดับความส<wbr>ำคัญของปัญหาว่าเธอควรจะแก้<wbr>ไขปัญหาใดก่อนหลังเสียให้ถู<wbr>กต้อง แม้แต่ปัญหาภาวะโลกร้อนนี้ก<wbr>็เช่นกัน
    >>>ถ้าเธอบกพร่องในข้อนี้ เธอจะคิดผิด ตัดสินใจผิด เข้าใจผิด และออกทะเลไปเลย...เหมือนกั<wbr>บที่เธอพยายามออกทีวี-วิทยุ<wbr>-ออกเสียงอยู่ทุกวี่วันนั่น<wbr>แหละ
    >>>ขั้นตอนต่อมา เธอจักต้องหยิบเอาแต่ละประเ<wbr>ด็นปัญหาตามลำดับที่เธอจัดเ<wbr>รียงไว้ขึ้นมาขบคิดที่ละปัญ<wbr>หา เพราะคำตอบของปัญหาแรกที่เธ<wbr>อคิดออกคิดได้อย่างถูกต้องถ<wbr>่องแท้ มันจะเป็นข้อมูลสำคัญที่เธอ<wbr>จักต้องนำไปใช้ในการแก้ไขปั<wbr>ญหาลำดับถัดไปได้เป็นอย่างด<wbr>ีนั่นเอง ไม่เว้นแม้แต่ปัญหาภาวะโลกร<wbr>้อนของเธอด้วย
    >>>ขั้นตอนต่อมา ขณะที่เธอหยิบประเด็นปัญหาน<wbr>ั้นๆมาขบคิดพิจารณา เธอจักต้องมีข้อมูลความรู้ท<wbr>ี่เรียกว่า ภูมิรู้และภูมิธรรมมากพอโดย<wbr>เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปัญหา<wbr>นั้นๆด้วย ซึ่งเธอจะต้องมีครบถ้วนและถ<wbr>ูกต้องเท่านั้น การทำความเข้าใจปัญหาและการ<wbr>พิจารณาแก้ไขของเธอจึงจะมั่<wbr>นใจได้ว่าไม่เบี่ยงเบนผิดไป<wbr>จากสัจธรรมความจริงเหมือนดั<wbr>่งที่เธอผิดเพี้ยนอยู่จนบัด<wbr>นี้
    4.หากเธอปฏิบัติตามที่เราชี<wbr>้แนะมาทั้งหมดได้ โดยไม่มีมิจฉาทิฐิแล้ว เธอจะเห็นแจ้งในธรรมแห่งภาว<wbr>ะโลกร้อนอันเกิดแต่มนุษย์ตา<wbr>มความเชื่อของเธอเองได้ดีขึ<wbr>้น เพราะคำสอนของเธอมันจะเป็นค<wbr>วามจริงมิใช่เป็นแค่เพียงคว<wbr>ามเชื่อส่วนตัวอยู่อีกต่อไป
    ปัญหาภาวะโลกร้อนที่เธอและท<wbr>่านเจ้ากูทั้งหลายต้องรู้:
    (((1.))) กระบวนการคิดสืบค้นหา "ตัวปัญหา" แห่งภาวะโลกร้อน
    @เครื่องมือที่ต้องใช้:
    >>องค์ความรู้ที่ถูกต้อง
    >>ความสามารถสูงสุดในการใช้<wbr>ปัญญาของสมองสองซีก
    >>ความมีเหตุผลและใช้เหตุผล<wbr>เป็น
    >>ความสามารถในการคิดเชื่อม<wbr>โยงจากภายในสู่ภายนอก และจากภายนอกสู่ภายใน
    >>ความสามารถในการมองโลกได้<wbr>หลายมุมมอง
    >>มหาสติ อันประกอบด้วย รู้สติ มีสติ และใช้สติ ตลอดเวลาแห่งการคิดพิจารณาป<wbr>ัญหานี้
    @วิธีคิดตรวจสอบความคิดควา<wbr>มเชื่อของตัวเอง:
    1.หากท่านเชื่อแล้วว่าภัยพิ<wbr>บัติต่างๆทั้งหนักและเบาที่<wbr>เกิดขึ้นต่อโลก มีสาเหตุจากภาวะโลกร้อนจริง
    >>ต้องมีองค์ความรู้อ้างอิง<wbr>ให้ตนเองเชื่อเช่นนี้ได้จริ<wbr>งๆแล้ว
    >>ต้องสามารถอธิบายได้ตามที<wbr>่เชื่อแล้วว่า ภาวะโลกร้อนมันเป็นสาเหตุแห<wbr>่งการก่อให้เกิดภัยพิบัติต่<wbr>างๆนั้นได้อย่างไร?
    2.หากเชื่อแล้วว่าปัญหาโลกร<wbr>้อน เกิดจากมนุษย์เป็นต้นเหตุที<wbr>่แท้จริง ท่านจะต้องมีคำตอบที่ถูกต้อ<wbr>งต่อไปนี้ให้แก่ตัวท่านเองแ<wbr>ล้ว
    >>ท่านน่ะมีองค์ความรู้อะไร<wbr>บ้างที่ทำให้ท่านเชื่อเช่นน<wbr>ี้ได้และสามารถบอกองค์ความร<wbr>ู้นั้นๆต่อคนอื่นๆให้เกิดคว<wbr>ามเชื่ออย่างที่ท่านและเจ้า<wbr>กูเชื่อตามได้อย่างไม่ลังเล<wbr>สงสัยด้วย
    >>ท่านมีเหตุผลส่วนตัวอะไรท<wbr>ี่ทำให้ท่านเชื่อว่ามนุษย์เ<wbr>ป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อ<wbr>นจริงๆ นอกจากองค์ความรู้ที่ท่านแล<wbr>ะเจ้ากูยกมาอ้างอิงอยู่ทุกว<wbr>ี่วันนั้นน่ะ?
    >>ท่านมั่นใจแน่หรือว่าเหตุ<wbr>ผลข้อธรรมะที่เอามาอ้างว่าม<wbr>นุษย์เป็นเหตุแห่งภาวะโลกร้<wbr>อนเพราะขาดธรรมะข้อนั้น ข้อนี้ เป็นการกล่าวอ้างที่ถูกต้อง<wbr>ถ่องแท้ และท่านสามารถตอบให้ผู้คนหา<wbr>ยข้องใจได้หรือไม่ว่า การบกพร่องในข้อธรรมะนั้นๆม<wbr>ันเป็นผลให้เกิดภาวะโลกร้อน<wbr>ได้อย่างไร? อะไรทำให้ท่านมั่นใจเช่นนั้<wbr>น?
    กระบวนการคิดที่เธอทั้งหลาย<wbr>พึงพิจารณา:
    1.ภัยพิบัติโลกที่รุนแรงขึ้<wbr>นทุกวัน เป็นผลจากปัญหาภาวะโลกร้อน
    2.ปัญหาภาวะโลกร้อน เป็นผลสืบเนื่องมาจากมีก๊าซ<wbr>เรือนกระจก จำพวกมีเธนหรือก๊าซในกลุ่มไ<wbr>ฮโดรคาร์บอน และคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลอยข<wbr>ึ้นไปจากพื้นโลกแล้วไปติดค้<wbr>างอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก<wbr> โดยไม่ยอมหลุดลอยออกไปนอกระ<wbr>บบโลก
    3.ที่พวกมันไม่ยอมหลุดลอยออ<wbr>กไปจากระบบโลก แล้วห่อหุ้มปกคลุมโลกทั้งระ<wbr>บบไว้จนเกิดปัญหาที่ว่านี้ก<wbr>็เพราะว่า ก๊าซเหล่านี้เป็นก๊าซที่มีม<wbr>วลมากเป็นก๊าซที่มีน้ำหนักม<wbr>ากกว่าก๊าซทั่วไป พวกมันจึงถูกแรงดึงดูดของโล<wbr>กเหนี่ยวรั้งเอาไว้ไม่ให้หล<wbr>ุดลอยออกไปในอวกาศ
    4.สาเหตุที่ทำให้มันล่องลอ<wbr>ยปกคลุมหุ้มห่อโลกไว้ หนีแรงดึงดูดของโลกไปไม่ได้<wbr>ก็ไม่ต่างจากก้อนเมฆทั่วๆไป<wbr>นั่นแหละ แต่ก้อนเมฆตกลงมาเป็นฝนได้ ก๊าซเรือนกระจกนี้จะตกลงมาก<wbr>็ไม่ได้ จะลอยหลุดออกไปก็ไม่พ้น มันจึงค้างเติ่งอยู่อย่างนั<wbr>้นและนับวันจะสั่งสมหนาขึ้น<wbr>เรื่อยๆเสียอีกด้วย
    5.ทำไมสมัยก่อนเก่าก๊าซเหล่<wbr>านี้จึงไม่มีปัญหาแบบนี้ คือ สามารถหลุดลอยออกไปนอกระบบไ<wbr>ด้สบายๆ แต่ทุกวันนี้กลับมีปัญหา ทั้งๆที่พวกเธอยังผลิตก๊าซเ<wbr>รือนกระจกออกมาในรูปแบบต่าง<wbr>ๆอยู่อย่างเดิม และแรงโน้มถ่วงของโลกก็ยังค<wbr>งที่มิได้มีเปลี่ยนแปลงใดๆ
    6.คำตอบที่ถูกต้องแท้จริงก็<wbr>คือ ในกาลอดีตที่ผ่านมา โลกมีตัวที่ช่วยให้ก๊าซมวลห<wbr>นักพวกนี้ยกตัวลอยสูงขึ้นแล<wbr>ะดันมันออกไปจนพ้นแรงโน้มถ่<wbr>วงของโลกได้อย่างพอเพียงนั่<wbr>นเอง เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกเป็<wbr>นก๊าซ ดังนั้นตัวช่วยดันช่วยยกก๊า<wbr>ซก็ต้องเป็นก๊าซเช่นเดียวกั<wbr>นจะเป็นอื่นไปไม่ได้
    ‎7.ก๊าซที่เป็นตัวช่วยยกหรื<wbr>อขับดันก๊าซเรือนกระจกในอดี<wbr>ตที่ผ่านมา จึงน่าจะเป็นก๊าซมวลเบา และมันจะต้องมีอยู่ในระบบโล<wbr>กในระดับพื้นผิวโลกด้วยเช่น<wbr>กัน มันจะเข้ามาจากนอกโลก มาจากอวกาศไม่ได้ เพราะมันเป็นก๊าซที่เบา จึงมีแต่ลอยขึ้นสูง จะลอยต่ำลงมายังพื้นโลกไม่ไ<wbr>ด้ ที่สำคัญคือมันจะต้องเป็นก๊<wbr>าซที่มีปริมาณมากพอหรือมีคว<wbr>ามหนาแน่นสูงอีกต่างหากด้วย
    8.ถ้าเช่นนั้น ก๊าซที่ว่านี้เป็นก๊าซอะไรก<wbr>ันแน่? ที่มันจะต้องเกิดขึ้นเรื่อย<wbr>ๆอย่างต่อเนื่องเพราะมันลอย<wbr>สูงขึ้นได้และออกไปจากระบบโ<wbr>ลกได้อย่างไร้อุปสรรคเสียอี<wbr>กด้วย
    9.การที่โลกมีปัญหาจากก๊าซเ<wbr>รือนกระจกปกคลุมหุ้มห่อโลกไ<wbr>ว้ จึงไม่ใช่ปัญที่แท้จริงเสีย<wbr>แล้ว เพราะปัญหาที่แท้จริงที่ท่า<wbr>นนักวิชาการหรือเจ้ากูทั้งห<wbr>ลายจะต้องรู้ก็คือ ปัญหาที่ว่า
    >>ก๊าซมวลเบาที่เคยช่วยให้ก<wbr>๊าซเรือนกระจกยกตัวหลุดลอยอ<wbr>อกไปจากระบบโลกนั้นคืออะไรก<wbr>ันแน่?
    >>ก๊าซมวลเบาที่ว่านี้นั้นม<wbr>ันมาจากไหน? มันหายไปไหน? หายไปได้อย่างไร? เพราะอะไรจึงหายไปทั้งๆที่แ<wbr>ต่ก่อนเก่ายังเคยมีอยู่ตามป<wbr>กติ?
    10.จากองค์ความรู้ทางวิชากา<wbr>รและทางสื่อ เธอรู้อยู่มิใช่หรือว่า:
    >>ก๊าซมวลเบากว่าก๊าซมีเธนแ<wbr>ละคาร์บอนไดออกไซด์ก็คือ ออกซิเจน และไฮโดรเจน
    >>ถ้าจะมีผลต่อการลอยสูงแล้<wbr>วดันก๊าซเรือนกระจกที่หนักก<wbr>ว่าออกไปนอกระบบโลกได้ ก๊าซตัวนี้ต้องมีปริมาณมากๆ<wbr>และมีอย่างต่อเนื่องด้วย ถ้าเช่นนั้นมันคืออะไรแน่ ระหว่างก๊าซออกซิเจนกับก๊าซ<wbr>ไฮโดรเจน
    >>น่าจะเป็นก๊าซออกซิเจนมาก<wbr>ที่สุด เพราะสิ่งมีชีวิตทุกรูปธรรม<wbr>ทุกชนิด ต้องหายใจเอาก๊าซออกซิเจนเข<wbr>้าไปเพื่อการยังชีพด้วยกันท<wbr>ั้งสิ้น ไฮโดรเจนนั้นไม่ใช่แน่ๆ
    11.ดังนั้น เชื่อได้ว่าก๊าซมวลเบาที่หา<wbr>ยไปหรือปริมาณลดลงก็คือ ก๊าซออกซิเจนแน่นอน
    12.ดังนั้น ปัญหาภาวะโลกร้อนอันเกิดจาก<wbr>ก๊าซเรือนกระจกลอยตัวขึ้นไป<wbr>สั่งสมอยู่ในชั้นบรรยากาศโล<wbr>กเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่หลุดลอยออกไปจากระบบโลกเ<wbr>หมือนอดีตกาลที่ผ่านมาอีกก็<wbr>เพราะเหตุว่า ภายในระบบโลกมีปริมาณของก๊า<wbr>ซออกซิเจนเจือจางลงมากเกินพ<wbr>ิกัดคงที่หรือต่ำกว่ามาตรฐา<wbr>นแล้วนั่นเอง
    กล่าวคือ ที่มาหรือสาเหตุของปัญหาภาว<wbr>ะโลกร้อนที่แท้จริง จึงมิใช่การที่โลกมีก๊าซเรื<wbr>อนกระจกปกคลุมหุ้มห่ออยู่หร<wbr>อก แท้แล้วปัญหาคือโลกของเธอกำ<wbr>ลังขาดแคลนก๊าซออกซิเจนต่าง<wbr>หากเล่า!!!
    >>>จงระลึกเอาไว้เสมอว่า การไม่เข้าใจปัญหา การไม่รู้ปัญหา แล้วพยายามคิดอ่านแก้ไขนั้น<wbr> นอกจากจะเป็นการแสดงความโง่<wbr>ของตัวเองแล้ว มันยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาน<wbr>ั้นให้ลุล่วงได้อีกด้วย เพราะเธอจะเกาไม่ถูกที่คันน<wbr>ั่นเอง
    >>>การเรียนมากรู้มากมันมิไ<wbr>ด้ช่วยให้ใครฉลาดขึ้นได้หรอ<wbr>ก มีแต่รู้มากขึ้นหรือรอบรู้เ<wbr>ท่านั้น
    >>>คนที่ฉลาดมาก คือ คนที่รู้คิด ฉลาดคิด มีหลักคิด และมีศิลปะในการคิดนั่นต่าง<wbr>หาก ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร นักวิชาการหรือท่านเจ้ากูก็<wbr>ตาม
    13.เมื่อเธอได้รู้แล้วว่า ปัญหาที่แท้จริงของภาวะโลกร<wbr>้อนมันไม่ได้อยู่ตรงประเด็น<wbr>ที่เธอคิดจะแก้ปัญหาโลกร้อน<wbr>นั้นยังไง? แต่มันอยู่ตรงปัญหาที่ว่าเธ<wbr>อจะเชื่อได้ยังไงว่าเป็นเพร<wbr>าะก๊าซออกซิเจนน้อยลงหรือเจ<wbr>ือจางลง ก๊าซพวกนี้จึงค้างคาอยู่ในช<wbr>ั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลกไว้ไม<wbr>่ยอมหลุดลอยออกไปนอกระบบ จนกลายเป็นขยะสั่งสมที่รกโล<wbr>กรกอวกาศอยู่จนป่านนี้นั่นต<wbr>่างหาก
    ดังนั้น หน้าที่ของเธอจึงต้องคิดหาค<wbr>ำตอบให้ตนเองต่อไปว่า ที่เธอคิดอยู่น่ะมันถูกต้อง<wbr>ถ่องแท้จริงหรือไม่ หรือเพียงแค่คิดเอาเอง เดาเอาเองกันแน่?
    14.กระบวนการคิดพิจารณาของเ<wbr>ธอจำต้องเริ่มกระบวนการอีกแ<wbr>ล้ว::
    >>>มีสัญญาณอะไร ที่ทำให้แลเห็นได้ว่าโลกของ<wbr>เธอมีก๊าซออกซิเจนลดน้อยลงจ<wbr>นวิกฤติบ้างมั้ย?
    >>>ในที่สุดจากข่าวสารและเห<wbr>ตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นบนโล<wbr>กบางอย่างที่เธอประสบพบมา ทำให้น่าเชื่อว่าที่เธอคิดไ<wbr>ว้น่ะน่าจะจริงเสียแล้ว โปรดพิจาณาสัญญาณผิดปกติที่<wbr>จะสนับสนุนแนวคิดเธอดังนี้
    @นกตกจากท้องฟ้าลงมาตาย เป็นจำพวกนกบินสูงๆ บินเป็นฝูงๆ พวกมันต้องหายใจเอาก๊าซออกซ<wbr>ิเจนเข้าไป ขณะที่บินมาไกลก็เหนื่อยล้า<wbr> ร่างกายมันต้องการออกซิเจนม<wbr>ากกว่าปกติ แต่ปรากฏว่าในชั้นบรรยากาศร<wbr>ะดับสูงนั้นก๊าซออกซิเจนกลั<wbr>บเจือจางลงกระทันหัน พวกมันมีอากาศหายใจไม่พอ จึงเกิดอาการวิงเวียนเสียสม<wbr>ดุลสิ้นเรี่ยวแรง จึงตกลงมากระแทกพื้น-หลังคา<wbr>บ้านตายเป็นฝูงอย่างที่เห็น
    >>>นี่ก็แสดงว่าก๊าซมวลเบาค<wbr>ือออกซิเจนในระดับสูงเทียมเ<wbr>มฆ เจือจางจริงๆ ปริมาณจึงไม่มากพอที่ขับดัน<wbr>ก๊าซเรือนกระจกให้ออกไปจากร<wbr>ะบบโลกได้เหมือนแต่เก่าก่อน<wbr>อีก
    ‎@ปลาเล็กปลาน้อยเป็นฝูงๆ ที่อยู่ในทะเลและแหล่งน้ำจื<wbr>ดหลายแห่งทั่วโลก ลอยมาเกยชายฝั่งชายหาดนับแส<wbr>นนับล้านตัว ก็เพราะพวกมันหากินกันเป็นฝ<wbr>ูงๆ ในขณะที่ต้องใช้ออกซิเจนในน<wbr>้ำหายใจผ่านเหงือกของมันนั้<wbr>น พอดีกับที่ปริมาณก๊าซออกซิเ<wbr>จนในน้ำและในทะเลย่านนั้นเจ<wbr>ือจางหรือต่ำกว่าค่ามาตรฐาน<wbr> ทำให้พวกมันที่แย่งกันใช้ออ<wbr>กซิเจนในน้ำนั้นกันอยู่แล้ว<wbr>ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ พวกมันจึงต้องพากันดิ้นรนแล<wbr>ะลอยคอขึ้นมาหายใจเหนือน้ำก<wbr>ันยกใหญ่ ซึ่งการหายใจเหนือน้ำนั้นมิ<wbr>ใช่ธรรมชาติของพวกมันเลย บ้างจึงศูนย์เสียสมดุลทางกล<wbr>ไกประสาทสัมผัสไป บ้างก็อ่อนเพลียอ่อนแรงจนสู<wbr>้คลื่นลมไม่ไหว เลยถูกพัดพาเข้ามากองก่ายกั<wbr>นแถวๆชายหาดชายฝั่งให้เธอเห<wbr>็นนั่นล่ะ
    >>>นี่ก็แสดงว่านอกจากในชั้<wbr>นบรรยากาศโลกแล้ว แม้แต่ในน้ำและในทะเลหรือมห<wbr>าสมุทรนั้น ปริมาณก๊าซออกซิเจนก็ยังต่ำ<wbr>กว่าค่ามาตรฐานเพื่อการอยู่<wbr>รอดของสัตว์บินและสัตว์น้ำอ<wbr>ีกด้วย
    ‎15.เมื่อคิดได้ดั่งนี้แล้ว<wbr>....เปรี้ยง!!! แจ็คพ็อตแตก!!!
    >>>ใครคิดตาม "การสอนคิด" ที่เราสอนสืบเนื่องมาเกี่ยว<wbr>กับปัญหาภาวะโลกร้อนแล้ว จะรู้ดีว่านี่เป็นคำตอบที่ถ<wbr>ูกต้องถ่องแท้แน่นอนว่าตัวก<wbr>ารทำให้เกิดภาวะโลกร้อนก็คื<wbr>อ การที่ก๊าซออกซิเจนในระบบโล<wbr>กลดลงอย่างกระทันหันจนเป็นอ<wbr>ันตรายต่อชีวิตของนกที่เป็น<wbr>สัตว์บินสูง และสัตว์น้ำที่อยู่ในน้ำระด<wbr>ับเดียวกับมนุษย์อย่างพวกเธ<wbr>อเข้าให้แล้ว และแน่นอนว่า ภัยที่โลกขาดออกซิเจนนี้มัน<wbr>ย่อมมีผลร้ายต่อพวกเธอที่เป<wbr>็นมนุษย์เข้าสักวันหนึ่งแน่<wbr>นอน หากพวกเธอแก้ปัญหาโลกขาดออก<wbr>ซิเจนที่กำลังเป็นปัญหาอยู่<wbr>นี้ไม่ได้!!!
    >>>ปัญหาภาวะโลกร้อน จึงเป็นปัญหาขี้เล็บขี้ปะติ<wbr>๋วไปทันที เพราะปัญหาแท้จริงเกี่ยวกับ<wbr>โลกกำลังขาดแคลนก๊าซออกซิเจ<wbr>นเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าการคา<wbr>ดคิดของจิตมนุษย์กันเสียอีก<wbr>แน่ะ
    15.เมื่อคิดรู้ด้วยปัญญาของ<wbr>เธอได้ว่าดั่งนี้แล้ว หน้าที่ของเธอที่จะสืบค้นคว<wbr>ามคิดกันต่อไปอีกก็คือ
    @.ทำไมออกซิเจนที่เคยมีมากม<wbr>ายในระบบโลก ปัจจุบันจึงวิกฤติด้านปริมา<wbr>ณเช่นว่านี้ได้?
    >>>เพราะมันถูกใช้ไปมากเกิน<wbr>กว่าปกติ
    >>>เพราะมันมีปริมาณการผลิต<wbr>น้อยลงกว่าเดิม
    >>>เพราะเหตุผลทั้งสองข้อนั<wbr>้น
    @.ทำไมออกซิเจนจึงถูกใช้ไปม<wbr>ากเกินกว่าปกติ?
    >>>เพราะปริมาณประชากรโลกเพ<wbr>ิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะที่ปริมาณก๊าซออกซิเจนที<wbr>่ใช้หายใจมีจำนวนเท่าเดิม
    @.ทำไมมีปริมาณการผลิตน้อยล<wbr>งกว่าเดิม?
    >>>เพราะกระบวนการผลิตสร้าง<wbr>ออกซิเจนในระบบโลกขัดข้อง หรือมีปัญหา
    >>>กระบวนการผลิตสร้างมีปัญ<wbr>หา ก็เพราะกลไกในกระบวนการผลิต<wbr>ขัดข้อง
    >>>ปัญหาต่อมาจึงอยู่ที่ว่า<wbr> กลไกการผลิตกับกระบวนการผลิ<wbr>ตคืออะไร? อย่างไร? และสถานที่ผลิตก๊าซออกซิเจน<wbr>มันอยู่ที่ไหนในระบบโลกของเ<wbr>ธอเนี่ย?
    16.จากองค์ความรู้ที่ว่าปล<wbr>าตายเพราะขาดออกซิเจน แสดงว่าก๊าซออกซิเจนมันต้อง<wbr>มาจากใต้น้ำ และคนบนภูมีอากาศเจือจางกว่<wbr>าระดับพื้นโลก จึงแสดงว่า ก๊าซออกซิเจนมันต้องมาจากใต<wbr>้ฝ่าเท้าของเธอ หรือ ใต้พื้นโลกหรือในใจกลางโลกล<wbr>ึกลงไปนั่นแหละว่ามั้ย?
    >>>แสดงว่าโรงงานผลิตก๊าซออ<wbr>กซิเจน มันต้องอยู่ในใจกลางโลก
    >>>ออกซิเจนมิได้ล่องลอยอยู<wbr>่ทั่วไปในบรรยากาศ เหมือนนักวิทยาศาสตร์โลกเขา<wbr>บอก(หลอก)เธอแน่นอน เพราะยิ่งสูงยิ่งเจือจางขนา<wbr>ดนกตกลงมาตายเลยทีเดียว
    17.ที่เธอต้องคิดต่อมาก็คือ<wbr> เดิมทำไมกระบวนการผลิตก๊าซอ<wbr>อกซิเจนในใจกลางโลกจึงสามาร<wbr>ถผลิตสร้างก๊าซออกมาให้พวกเ<wbr>ธอได้ใช้กันอย่างเพียงพอและ<wbr>หนาแน่น แต่มาพักหลังๆนี่จึงลดน้อยล<wbr>งเพราะกระบวนการผลิตมีปัญหา<wbr>ล่ะ ปัญหาที่ว่านี้มันคืออะไรกั<wbr>นแน่?
    18.ถ้าเธอหยิบเอาคำกล่าวของ<wbr>พระศาสดาที่ว่า
    "เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก" กับ "เราคือโลก โลกคือเรา" มาพิจารณาเธอย่อมได้ความรู้<wbr>เพิ่มเติมทันทีว่า
    @.ค้ำจุนโลกหมายถึงการช่วยใ<wbr>ห้โลกสมดุล
    @.ถ้ามนุษย์อย่างพวกเธอรักไ<wbr>ม่ได้ ให้ไม่เป็น (ไม่เมตตา-ไม่รักกัน) โลกก็จะเสียสมดุล
    @.มนุษย์อย่างพวกเธอไม่สมดุ<wbr>ลเพราะไม่รักกัน โลกก็จะไม่สมดุลและจะไม่รัก<wbr>มนุษย์อย่างพวกเธอด้วย
    @.คนไม่รักกันจะทะเลาะกัน ทุบตีกัน ทำร้ายกัน ฆ่ากันตาย โลกไม่รักมนุษย์ก็จะทำร้ายม<wbr>นุษย์ เอาชีวิตมนุษย์ ด้วยภัยพิบัติธรรมชาติอย่าง<wbr>ที่เห็นและอย่างที่เป็นอยู่
    19.จากความจริงที่พิสูจน์สั<wbr>งเกตได้ก็คือ เริ่มต้นที่โลกเกิดภาวะเรือ<wbr>นกระจกจนนำไปสู่การเกิดภัยพ<wbr>ิบัติใหญ่หลวงนั้น มีสาเหตุจากการที่มนุษย์โลก<wbr>เริ่มมีจิตสำนึกต่ำทรามลงอย<wbr>่างน่าใจหาย รู้ธรรมแต่ไม่รู้ทำ ดังนั้นสิ่งน่าคิดก็คือ
    >>>มนุษย์โลกขาดความรัก ความเมตตาต่อกัน มันทำให้โลกเสียสมดุลได้อย่<wbr>างไร?
    >>>ความรักความเมตตามันช่วย<wbr>ค้ำจุนโลกให้สมดุลได้อย่างไ<wbr>ร?
    20.จากองค์ความรู้ของจิตจัก<wbr>รวาลที่ว่า ภายในแกนโลกนั้นพระบิดาติดต<wbr>ั้งก้อนธาตุออกซิเจนเหลวบริ<wbr>สุทธิ์เข้มข้น 100% เอาไว้ เพื่อให้จิตวิญญาณที่มาเกิด<wbr>เป็นสัตว์และเป็นมนุษย์ แสดงความรักต่อกันแล้วปลดปล<wbr>่อยพลังงานจิตออกมาในรูปของ<wbr>คลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกเ<wbr>พื่อแบ่งปันให้แก่โลกในเวลา<wbr>เดียวกัน
    >>>โลกจะนำเอาพลังงานความรั<wbr>กด้านบวกนี้ ไปทำปฏิกริยาทางไฟฟ้านิวเคล<wbr>ียร์กับอะตอมของธาตุออกซิเจ<wbr>นในแกนโลก ก่อให้เกิดการระเบิดใหญ่(นิ<wbr>วเคลียร์ฟิสชั่น) เป็นปฏิกริยาแบบลูกโซ่
    >>>ผลการระเบิดต่อเนื่อง ทำให้โลกหมุนรอบตัวเองได้ ทำให้คายก๊าซออกซิเจนออกมาอ<wbr>ย่างต่อเนื่องสู่พื้นผิวโลก<wbr>ให้พวกเธอใช้หายใจ เหลือเท่าไหร่ก็ลอยขึ้นไปดั<wbr>นก๊าซมวลหนักจำพวกก๊าซอุตสา<wbr>กรรมที่พวกเธอทำกันขึ้นมาเอ<wbr>งจากโรงงานให้หลุดออกไปจากร<wbr>ะบบโลก ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กโลกห่<wbr>อหุ้มพวกเธอทั้งโลกไว้ ช่วยให้เธอมีชีวิตรอดอยู่ได<wbr>้ และอื่นๆอีกมากมาย (กลับไปอ่านหนังสือจิตจักรว<wbr>าลเล่มแรกๆในสามสิบกว่าเล่ม<wbr>ดูสิ)
    >>>ความรักจากจิตมนุษย์ ช่วยให้โลกหมุนได้ต่อเนื่อง<wbr> ช่วยให้เกิดก๊าซออกซิเจนออก<wbr>มามากมาย และอื่นๆ
    21.คงไม่ต้องสอนพวกเธออีกแล<wbr>้วกระมังว่า ถ้าจะแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน เธอจะต้องแก้ยังไง
    >>>งดใช้ถุงพลาสติกเหรอ?
    >>>หยุดเผาผลาญน้ำมันเหรอ?
    >>>ยกเลิกธุรกิจอุตสาหกรรม โรงงาน เช่นนั้นเหรอ?
    >>>ธรรมะแก้สภาวะโลกร้อนของ<wbr>เจ้ากูเจ้าการทั้งหลาย ที่เผยแพร่ไว้นั้นมันช่วยแก<wbr>้ปัญหานี้ได้จริงหรือ?
    22.ท้ายสุดแล้ว คำตอบเดียว คือ....
    @.ต้อง LOVE TO LOVE ทั่วประเทศไทย ภายในสามปีนี้ใช่มั้ยพี่น้อ<wbr>งงงงงงงงง.......??????
    @.คิดเป็นกันรึยังเนี่ย? เราสอนให้เธอคิดจนเหนื่อยแล<wbr>้วน้า.....
    @.เกิดมาทั้งทีมีแต่เห็นแก่<wbr>ตัว พวกตัว ไม่ทำเพื่อโลกของตัวบ้างก็เ<wbr>สียทีที่ได้มาเกิดบนโลกใบนี<wbr>้น่ะน้า.....

    ด้วยรักและปรารถนาดี
    ป.วิสุทธิปัญญา
    11-03-2012
     
  6. ลูกความดี

    ลูกความดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +525
    ด้วยความเตารพ ผมสงสัยคำว่า เพื่อแยกคนดี
    ไม่ทราบว่าทางกลุ่มหรือทาง จขกท ใช้มาตรฐานใดในการแยกว่าบุคคลท่านใดควรเป็นคนดีหรือไม่ดีครับ และเราจะรู้ตัวเราเองได้อย่างไรว่าเราอยู่ในกลุ่มคนดีที่โดนแยก

    เพราะในความรู้สึกของผมคนดีคือคนที่มองว่าคนที่ไม่ดีไปกว่าเราหรือเลวกว่าเราก็คือคนดี เพียงแค่ยังไม่ถึงโอกาสและเวลาของเขาเท่านั้น และให้ความรักความเมตตาได้ทุกกลุ่มชนชั้นโดยไม่มีการแบ่งแยก ... ด้วยความเคารพครับ (rose)
     
  7. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    มิทราบครับผม
    และมิอาจวิจารณ์ เพราะคนดีในความหมายของจิตจักวาล ไม่เหมือนคนดีทั่วๆไปครับ
     
  8. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    แยกคนดีของจิตจักรวาล อาจหมายถึง การแยกผู้ที่มีประจุบวกมาร่วมทำพิธีถ่ายเทประจุบวกสู่แกนกลางโลกมากกว่าครับ โดยคนเหล่านี้จะต้องมีสภาวะจิตที่ไม่เสื่อม ณ ขณะทำพิธี หากใครรู้ตัวว่ายังไม่บวกก็คงเป้นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมพิธีนี้ได้ แค่มาด้วยใจก็ถือว่ามีจิตใจที่ดีงามแล้ว

    ลักษณะนิสัยของมนุษย์ที่บ่งชี้ว่าสภาวะจิตเสื่อมโดยคร่าวๆมีดังนี้

    - ตกเป็นทาสทางอารมณ์ตนเองเสมอ
    - รักผู้อื่นไม่ได้ ให้ผู้อื่นไม่เป็น
    - มองโลกในแง่ร้าย
    - หลงมายาคิดว่าเป็นแก่นแท้ แล้วยึดติดอัตตาตัวตนของตนจนงมงาย
    - ไม่สามารถเข้าถึงการสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านบวกได้
    - ลืมความดีงามของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย แต่กลับจดจำความไม่ดีงามของผู้อื่นได้อย่างยาวนานไม่รู้ลืม

    อะไรประมาณนี้รึเปล่าครับ :)
     
  9. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ครับผม ประมาณนั้นแหล่ะครับ
    แต่ที่แน่ๆ คนดีล้วนเก็บตัวอยู่ในบ้านหรือเคหะสถานยามค่ำคืน ในยุคนี้ เอาแค่นี้พอประมาณครับ

    วันที่มีการถ่ายทอดสื่อ จะมี ทีวี ออนไลห์ทางอินเตอร์เน็ต อยู่ครับ ลองดูได้นะครับ ว่าท่านดีพอที่จะเป็นคนดีหรือยังครับ ที่ลิงค์นี้นะครับ
    ข่าวสารภัยต่างๆ จะมีแจ้งตลอด ท่านไม่ต้องไปตกอกตกใจกับข่าวสารลวงโลกอื่นหรอกครับ ถ้าอาจารย์ไม่บอกไม่แจ้ง อย่าไปหวันไหวมากนักครับฟังหูไว้หู



    TV Online การสื่อพระโอวาทจากองค์จิตจักรวาล
     
  10. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    อย่างในวันที่ 8 เมษายน 55 ก็จะมีการสื่อก็เข้าไปเปิดดูได้เวลา ประมาณ 14.30-15.00 เป็นต้นไปครับ
    วันที่ 27 - 29 เมษายน 2555 มีสื่อที่ชลบุรี
    ถ้ายังมีการสื่อของอาจารย์อยู่แสดงว่า สถานการณ์ของภัยธรรมชาติในบ้านเรา ยังไม่รุนแรงขนาดต้องย้าย ตัวเองไปที่ปลอดภัยหรอกครับ
     
  11. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    นี้คือ เฟรชบุ๊ค ของอาจารย์ครับ สมัครเฟรชบุ๊ค ก่อนนะครับแล้วเข้าไปสมัครกลุ่มเข้าไปพูดคุยกับอาจารย์ ข่าวสารต่างๆจะมีการแจ้งมาตลอดและการวิเคราะห์ภัยต่างๆครับ

    Visudhi Punya | Facebook
     
  12. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    >>วันที่ 8 เมษายน 2555
    >>เวลา 13.30-18.30 น.
    >>ณ ตึกทอง ชั้น 6 บมจ.ไอซีซี.กรุงเทพฯ
    >>สื่อพระโอวาท ครั้งที่ 183
    >>ถ่ายทอดสดทาง www.jitchakraval.com/<wbr>Live:TV-Online
    >>Re-run ทาง TV ดาวเทียม S แชนแน่ล เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป ทุกวันเสาร์-อาทิตย์สิ้นเดื<wbr>อน (เวลาอาจเปลี่ยนแปลง)
     
  13. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    Visudhi Punya ‎(((+)))ปฏิบัติการทางเท็คน<wbr>ิกเพื่อการชำระโลก::
    1.คุณ Natt Petnin เคยเรียนรู้เรื่องการทำนาขอ<wbr>งชาวนามาบ้างมั้ยล่ะ
    2.หลักการทำนาของชาวนา:
    ((2.1)).ต้องจัดหาพื้นที่ๆจ<wbr>ะทำนาก่อน..........
    >>>กำหนดพื้นที่เป้าหมายที่<wbr>จะปฏิบัติการชำระตามคำพิพาก<wbr>ษาของพระบิดา
    ((2.2)).เมื่อรู้พื้นที่ๆจะ<wbr>ทำนาแล้ว ชาวนาก็จะลงมือ "ทำคันนา" เอาไว้โดยรอบพื้นที่นานั้น.<wbr>........
    >>>สร้างแรงสั่นสะเทือน ให้เกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ-แยก รอบๆพื้นที่เป้าหมายที่กำหน<wbr>ดเลือกไว้แล้ว โดยจะแยกทำเป็นแปลงๆหรือเป็<wbr>นเขตๆพื้นที่ไป
    ((2.3)).จากนั้นชาวนาก็จะผั<wbr>นน้ำเข้านา.......
    >>>ช่างเท็คนิกก็จะทำให้เกิ<wbr>ดพายุฝน น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ด้วยพายุฤดูร้อนมั่ง พายุหมุนมั่ง พายุโซนร้อนมั่ง สุดแท้แต่ว่าจะเอาน้ำมาจากไ<wbr>หนได้บ้าง เน้นน้ำท่วมในพื้นที่ๆกำหนด<wbr>ไว้ด้วยแนวแผ่นดินไหว-ยุบแย<wbr>กรายรอบนั่นแหละ
    ((2.4)).เมื่อชักน้ำเข้านาแ<wbr>ล้ว ชาวนาก็จะนำเอาควายมาไถนา เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับปล<wbr>ูกข้าวต่อไป.........
    >>>จะมีช่างเท็คนิกอีกชุดหน<wbr>ึ่งเข้ามาทำหน้าที่ปฏิบัติง<wbr>านใต้ดิน ด้วยการพรวนดินใต้พื้นโลกให<wbr>้ร่วนซุยเพื่อดูดซับเอาน้ำท<wbr>ี่ท่วมลงไปแอบเก็บกักไว้ ทำให้ใครๆคิดว่าหลังน้ำท่วม<wbr>แล้วแผ่นดินแล้งแห้งผากทั้ง<wbr>ๆที่เป็นภาพลวงตา ทางการเลยปล่อยน้ำออกจากเขื<wbr>่อนมาเป็นการใหญ่...คราวนี้<wbr>เลยพากันจมน้ำสำลักน้ำกันอี<wbr>กรอบ!!!
    ((2.5)).พอเสร็จไถนาแล้ว ชาวนาก็จะหว่านเมล็ดข้าวลงไ<wbr>ปในแปลงนาของตนใช่หรือไม่ล่<wbr>ะ???
    >>>เราในพระนามแห่งองค์จิตจ<wbr>ักรวาล ผู้นำโครงการ "รักเพื่อรัก ทั่วประเทศ" พร้อมคณะจิตจักรวาลทายาทผู้<wbr>ประกาศปณิธานแห่งนิพพาน จะเดินทางไปยัง "แปลงนาเป้าหมาย ทั่วประเทศ" เพื่อนำเอาธรรมของพระบิดา เปรียบดั่งปุ๋ยชั้นดีไปหว่า<wbr>นให้ทั่วแปลงนานั้นด้วยการ "ให้ฟรี...เพราะเป็นปุ๋ยชั้<wbr>นดีจากพระบิดา" แล้วก็ลาจากจร


    <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/groups/talktostudent/319783751415888/?comment_id=321910861203177"><abbr title="30 มีนาคม 2012 เวลา 0:53 น." data-utime="1333043632"></abbr>

    [​IMG]Visudhi Punya ‎(((+)))ปฏิบัติการทางเท็คน<wbr>ิกของพระบิดา :(ต่อ)
    ((2.6)).เมื่อหว่านข้าวปลูก<wbr>ข้าวแล้ว ชาวนาก็จะรอผลผลิตเพื่อการเ<wbr>ก็บเกี่ยว โดยข้าวที่โตจนออกรวงคือข้า<wbr>วเมล็ดดีที่ทำประโยชน์ได้ ส่วนข้าวเมล็ดเน่าหรือลีบมั<wbr>นก็จะเน่าจมโคลน จมธรณี จมน้ำหายสาปสูญ เพราะเป็นข้าวไม่มีอนาคต ไม่มีค่าว่ามั้ย???........
    >>>เราเดินทางกลับจากนาแปลง<wbr>นั้นๆแล้ว พระบิดาก็จะมีเจ้าหน้าที่เท<wbr>็คนิกจากส่วนกลางเข้ามาตรวจ<wbr>สอบผลผลิต ข้าวเมล็ดไหนดีที่เติบโตให้<wbr>เห็นว่ามีอนาคตก็จะเก็บเอาไ<wbr>ว้ ข้าวเมล็ดไหนลีบหรือเน่าเสี<wbr>ยก็คัดทิ้งด้วยการปล่อยให้เ<wbr>น่าไปกับคงคา วารี และพระแม่ธรณี
    3.หายสงสัยรึยังล่ะคราเนี้ย<wbr>......ว่าทำไมแผ่นดินไหว-ยุ<wbr>บแยกแถวๆนอกพื้นที่เมืองหรื<wbr>อชุมชน เพราะไม่มีใครทำนาทันทีโดยไ<wbr>ม่มีการสร้างคันนาหรอก....ว<wbr>่ามั้ย?

    ป.วิสุทธิปัญญา
    30-03-2012




    • Visudhi Punya น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าเม<wbr>ล็ดข่าวที่ชาวนากำลังหว่านน<wbr>ั้น ส่วนใหญ่เป็นเมล็ดข้าวไม่ค่<wbr>อยสมบูรณ์ ถ้าไม่แห้งจนกรอบ(เพราะขาดน<wbr>้ำอันหมายถึงธรรมะ)ก็เป็นเม<wbr>ล็ดลีบ(เพราะเกิดมายังมีกรร<wbr>มอันต้องชดใช้เป็นนักหนา) และส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมล็ดที<wbr>่เต็มไปด้วยเชื้อโรคเชื้อรา (อันหมายถึงจิตที่มืดบอดทาง<wbr>ปัญญา มากอวิชชาและงมงาย แล้วห่อหุ้มเอาไว้ด้วยกิเลส<wbr>ตัณหาเสียจนหนาเตอะจนยากที่<wbr>จะแตกหน่อออกมาได้)
      เมล็ดข้าวมากมายเหล่านี้ เป็นสินทรัพย์ของชาวนาที่รก<wbr>ยุ้งฉางมานานแล้ว พระบิดาจึงต้องเร่งระดมให้ม<wbr>ีการทำนาพร้อมกันทั่วโลกเพื<wbr>่อจะได้เอาข้าวทุกเมล็ดในยุ<wbr>้งฉางทั่วโลกออกมาหว่านปลูก<wbr> เพื่อคัดแยกว่าไหนดี ไหนเน่าเสีย โดยจะได้เลือกเอาเมล็ดข้าวพ<wbr>ันธุ์ดีไว้ใช้ขยายพันธุ์บนโ<wbr>ลกนี้ต่อไป ส่วนเมล็ดที่เป็นชยะรกโลกก็<wbr>จักได้ชำระทิ้งไปเสียในคราว<wbr>เดียวกัน
      <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/groups/talktostudent/319783751415888/?comment_id=322222867838643"><abbr title="30 มีนาคม 2012 เวลา 11:48 น." data-utime="1333082932" class="timestamp livetimestamp"></abbr>




    • [​IMG]Visudhi Punya ‎(((+)))(((+)))ใครคือผู้ร่<wbr>วมกระบวนการทำนาบ้าง?
      1.พระบิดาทรงกำหนดพิกัดพื้น<wbr>ที่ในการทำนา
      >>>ทรงกำหนดพิกัดเพื่อการชำ<wbr>ระโลกไว้เป็นส่วนๆอย่างชัดเ<wbr>จน ตามแผนที่โลกยุคพลังงานใหม่<wbr> ของจิตจักรวาลที่เราได้ประก<wbr>าศให้พวกเธอได้เห็นได้รู้ได<wbr>้เป็นเจ้าของ (ซื้อไว้ส่วนตัว) กันแล้ว
      2.ทรงบัญชาให้ช่างเท็คนิกวา<wbr>งแผนกำหนดวันเดือนปีที่จะทำ<wbr>นา บนพิกัดพื้นที่ต่างๆในข้อ 1.ให้สอดคล้องเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลเลิศตามเป้าหม<wbr>ายและวัตถุประสงค์เป็นที่สุ<wbr>ด
      >>>ช่างเท็คนิกผู้มีหน้าที่<wbr>ขีดเส้นคันนาบนพื้นที่ที่กำ<wbr>หนด จะวางแผนและกำหนดแผนปฏิบัติ<wbr>งานที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกข<wbr>ึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แล้วก็ดำเนินการไปตามนั้น สิ่งที่มนุษย์บนโลกบนพิกัดต<wbr>่างๆจะรับรู้ได้ คือ มายาอันเกิดจากแผ่นดินไหวรา<wbr>ยวัน หนักบ้างเบาบ้าง เกิดที่นั่นที่นี่เรื่อยมา และนับวันจะถี่ขึ้นและรุนแร<wbr>งขึ้น เอาชีวิตบ้าง ไม่เอาชีวิตบ้าง สุดแท้แต่เคราะห์กรรม นอกจากนั้นเมื่อแผ่นดินเขย่<wbr>าค่อยๆแต่บ่อยๆมันจะทรุดตัว<wbr>ลงไปเรื่อยๆเหมือนร่อนทราย ที่ใดดินนิ่่มที่นั่นจักทรุ<wbr>ดหรือยุบตัวลงก่อนที่อื่นๆ เป็นต้น
      >>>การสั่นสะเทือนพื้นแผ่นด<wbr>ินดังว่านี้เปรียบเสมือนการ<wbr>สร้างคันนาเพื่อการทำนานั่น<wbr>เอง จะมีช่างเท็คนิกที่เป็นรูปธ<wbr>รรมชั้นสูงจากต่างมิติเข้าม<wbr>าทำหน้าที่ด้วยการตีเส้น-คำ<wbr>นวน-วัดกะระยะอย่างละเอียดท<wbr>ุกกระเบียดนิ้วให้สอดคล้องก<wbr>ันกับแผนที่โลกใหม่ของพระบิ<wbr>ดาอย่างมีบวกลบได้ไม่เกิน 20% ผลที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่มนุ<wbr>ษย์เรียกว่า "รอยร้าวของแผ่นเปลือกโลก" ซึ่งมันจะมีทั้งรอยเดิมที่ม<wbr>นุษย์เข้าใจว่าเป็นรอยเลื่อ<wbr>นที่ตายแล้วจะถูกปลุกให้ฟื้<wbr>นตื่น และรอยร้าวใหม่แนวใหม่ที่จิ<wbr>ตจักรวาลกำหนดไว้ตามแผนปฏิบ<wbr>ัติการจัดองค์กรโลกทางกายภา<wbr>พและทางพลังงานกันใหม่ เพื่อนำมนุษย์ โลกและทุกสรรพสิ่งเข้าสู่ยุ<wbr>คพลังงานใหม่ในอีกไม่ช้านาน<wbr>นั่นเอง
      <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/groups/talktostudent/319783751415888/?comment_id=322230371171226"><abbr title="30 มีนาคม 2012 เวลา 12:10 น." data-utime="1333084231" class="timestamp livetimestamp"></abbr>

    • [​IMG]Visudhi Punya ‎(((+)))ใครคือผู้ร่วมกระบว<wbr>นการทำนาบ้าง?
      3.เมื่อช่างเท็คนิกชุดใหญ่ ชุดรังวัดที่ดินแล้วตีเส้นค<wbr>ันนายกย้ายทีมออกไปหลังเสร็<wbr>จภารกิจแล้ว ก็จะมีช่างเท็คนิกอีกชุดหนึ<wbr>่งเข้ามาทำหน้าที่รับช่วงต่<wbr>อ
      >>>ช่างชุดนี้จะมีหน้าที่ชั<wbr>กน้ำเข้าพื้นที่นาในลักษณะข<wbr>องน้ำไหล น้ำหลาก น้ำท่วม น้ำล้น และน้ำฝน ที่ส่วนใหญ่จะมาจากฟ้าในลัก<wbr>ษณะของพายุแบบต่างๆ เธอจะสังเกตได้ว่าเมฆจะลอยต<wbr>่ำดำปิ้ดปี๋ ตกอยู่ที่เดียวเป็นเวลานานๆ<wbr>โดยไม่ยกย้ายเมฆไปทางอื่น เผลอแผล็บเดียวน้ำก็ท่วมถึง<wbr>เข่าแล้ว
      >>>ขณะที่บันดาลให้ฝนตกนั้น<wbr> จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง มีฟ้าร้อง ฟ้าผ่าเสียงดังน่ากลัว มีพายุลูกเห็บตก มีพายุหมุนพัดบ้านพัง มีต้นไม้เสาไฟฟ้าหักโค่น ทำให้จิตใจผู้คนสั่นไหวตื่น<wbr>เต้นตกใจหวาดกลัวอยู่ยาวนาน<wbr>...นี่คืออาการ "ไถนาให้ดินร่วนซุยจนเละ" นั่นแหละ
      >>>ดังนั้น ปฏิบัติการไถนาจึงมีเป้าหมา<wbr>ยเพื่อให้เกิด "ความกลัวตาย" และให้เกิด "สติทางวิญญาณ" ของผู้คนบนพื้นที่นานั้นๆโด<wbr>ยแท้ว่า ตนเองที่เปรียบเสมือน "เมล็ดข้าวหนึ่งเมล็ด" นั้นจะตัดสินใจอย่างไรเมื่อ<wbr> สภาพดินฟ้าอากาศมันเหมาะที่<wbr>จะเจริญเติบโตงอกงามได้แล้ว<wbr> ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการสั่<wbr>นสะเทือนจิตสำนึกให้ตื่นขึ้<wbr>นมาทำหน้าที่งอกงามรุนแรงขึ<wbr>้นและถี่ขึ้นเรื่อยๆใช่หรือ<wbr>ไม่ จนเพื่อนมนุษย์หรือเมล็ดข้า<wbr>วเปลือกจำนวนมากได้เสียสละช<wbr>ีวิตตนเองไปกับการเตือนในแต<wbr>่ละครั้งคราเป็นจำนวนไม่น้อ<wbr>ยแล้ว
      <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/groups/talktostudent/319783751415888/?comment_id=322236361170627"><abbr title="30 มีนาคม 2012 เวลา 12:29 น." data-utime="1333085345" class="timestamp livetimestamp"></abbr>

    • [​IMG]Visudhi Punya ใครคือผู้ร่วมกระบวนการทำนา<wbr>บ้าง?
      4.พระบิดาทรงอนุญาตให้เรานำ<wbr>เอาปุ๋ยไปหว่านซ้ำ บนพื้นที่ชุ่มน้ำและคราดไถน<wbr>ำไปบ้างแล้ว
      >>>เราจัดโครงการ "รักเพื่อรัก" ตามแผนการ 3 ปี เพื่อทำหน้าที่ตามพระบัญชาด<wbr>้วยการนำพาปุ๋ยพันธุ์ดี ยี่ห้อจิตจักรวาล ไปหว่านในที่นาแปลงต่างๆให้ทั่วประเทศ เพื่อช่วยสร้างความอุดมสมบู<wbr>รณ์ให้แผ่นดินถิ่นทำนา ปุ๋ยของพระบิดาที่เรานำพาไป<wbr>มิใช่สูตร ไนโตรเจน หรือฟอสฟอรัส แต่เป็นปุ๋ยที่ทำด้วย "ความรักบริสุทธิ์" ส่งตรงมาจากองค์จิตจักรวาลก<wbr>ันเลยทีเดียว ยุคนี้จะหาความรักแบบนี้ที่<wbr>ไหนในระบบโลกไม่ได้อีกแล้ว
      >>>เราไปหว่านปุ๋ย (หว่านพระโอวาท/สัจธรรม/<wbr>ข่าวสารการชำระโลก/<wbr>ชวนไปนิพพานให้ถูกทาง-ไม่เดิ<wbr>นถ่างขา/<wbr>สอนให้รู้จักรัก(ผลิตปุ๋ยใช้<wbr>เองเพราะมีโรงงานผลิตอยู่ใน<wbr>จิตใจของตนที่พระบิดาให้ทุก<wbr>คนมาแล้ว) เพื่อช่วยให้ทุกคนในจังหวัด<wbr>นั้นได้ปุ๋ยดีที่สุดในจักรว<wbr>าล เพื่อหมายช่วยให้เมล็ดข้าวเ<wbr>ปลือกที่แห้งฝ่อห่อเหี่ยว แต่อยากมีโอกาสเติบโตได้ฟื้<wbr>นชีวิตคืนเป็นต้นข้าวกล้าที<wbr>่มีอนาคต มีประโยชน์ต่อโลกนี้ได้ดังป<wbr>ระสงค์
      >>>ถ้าเราไปแล้ว ผู้คนตื่นตัวน้อย หรือต่อต้าน หรือไม่ใส่ใจ แสดงว่าพวกเขาได้พิพากษาตนเ<wbr>องแล้วว่า พร้อมจะเป็นเมล็ดข้าวเปลือก<wbr>ที่ไร้อนาคต พวกเขาคงต้องเผชิญชตากรรมอั<wbr>นน่าสลดเมื่อสามปีที่กำหนดผ<wbr>่านพ้นไปเป็นแน่แท้....พวกท<wbr>ี่ตื่นตัวอย่างมีสำนึกมิใช่<wbr>งมงาย ได้มีโอกาสร่วมทำสามเหลี่ยม<wbr>กับพระบิดาแบบสดๆในพื้นที่น<wbr>านั้น ก็จะได้รับการถ่ายทอดพลังแห<wbr>่งรักอันเป็นปุ๋ยทางจิตวิญญ<wbr>าณ (เมล็ดข้าวเปลือกในแต่ละคน)<wbr> โดยตรงจากองค์จิตจักรวาล พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ เพื่อการสั่นสะเทือนทางจิตว<wbr>ิญญาณด้านบวกของพวกเธอผู้เข<wbr>้าร่วมพิธีให้ฟื้นคืนความมี<wbr>ชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่ สู่การเป็นเมล็ดข้าวเปลือกท<wbr>ี่ทรงคัดสรรไว้แล้วมิใช่คัด<wbr>ทิ้งกันต่อไป....
      <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/groups/talktostudent/319783751415888/?comment_id=322243701169893"><abbr title="30 มีนาคม 2012 เวลา 12:51 น." data-utime="1333086713" class="timestamp livetimestamp"></abbr>

    • [​IMG]Visudhi Punya ใครคือผู้ร่วมกระบวนการทำนา<wbr>บ้าง?
      5.เมื่อครบสามปีแล้ว ช่างเท็คนิกที่มีหน้าที่ไถน<wbr>าก็จะไถในพื้นที่ๆคั่งค้างอ<wbr>ยู่ต่อไป ไถกันทั้งวันคืน ไถหนักขึ้นๆจนพวกเธอยืนทรงก<wbr>ายแทบไม่ไหวแน่นอน
      >>>ไถให้ดินร่วน ดินนุ่ม แล้วอุ้มน้ำลงไปเก็บไว้ ที่น้ำท่วมมากมายแล้วหายไปนั่นล่ะ
      >>>สั่นสะเทือนทุกวัน สั่นเบาๆค่อยๆไม่ให้ล่วงรู้<wbr> เพื่อทำให้แผ่นดินร่วนยุบตั<wbr>วลงต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เกิดแผ่นดินยุบ-แยก เกิดภูเขาพังถล่ม เกิดรูขนาดยักษ์ (Big Hole) เป็นต้น
      >>>รอยปริร้าวของแผ่นเปลือก<wbr>โลกที่ตีเส้นรอไว้ล่วงหน้าแ<wbr>ล้ว จะเกิดอาการทรุดตัวลงจนเกิด<wbr>เป็นแผ่นดินไหวรุนแรง นำไปสู่สึนามิขนาดยักษ์ทันท<wbr>ีที่พลังความรักจากจิตมนุษย<wbr>์บนโลกเสื่อมจนถึงขีดที่ไม่<wbr>พอที่จะก่อให้เกิดแรงระเบิด<wbr>ในใจกลางโลกได้ เปลือกโลกจะทรุดตัวตามแนวรอ<wbr>ยร้าวของเปลือกโลกที่เตรียม<wbr>ไว้ทันที ภัยสถานเบาก็แค่ตึกรามบ้านช<wbr>่องถล่มทลาย และคลื่นยักษ์กลืนกินบ้านเม<wbr>ืองและชีวิตคนเรือนแสน แต่หนักสุดรุนแรงสุดคือ "แผ่นดินจะหายไป" เพราะถูกสูบจมลงไปอยู่ใต้แผ<wbr>่นเปลือกโลกที่เป็นหินแข็ง ลึกลงไปหลายร้อยกิโลเมตรซึ่<wbr>งมนุษย์เคยมีประสบการณ์ในยุ<wbr>ค "เลมูเรียแอตแลนติส" มาครั้งหนึ่งแล้ว แผ่นดินที่กำลังรอวันหายไปใ<wbr>ต้โลก คือ บริเวณพื้นที่สีแดงในแผนที่<wbr>จิตจักรวาลนั่นแหละ
      (((0))))))))))))))))))))))<wbr>))))))))))))))))).........<wbr>..................
     
  14. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    • Visudhi Punya ‎(((==คำเตือนภัย==)))
      1.ด้วยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ<wbr>่านมา พระบิดาได้ทรงเมตตามีคำเตือ<wbr>นเอาไว้ว่า ประเทศไทยจะมีปัญหาให้ต้องเ<wbr>ผชิญสองเรื่อง คือ ไฟกับน้ำ โดยทิ้งประเด็นให้คิดไว้สอง<wbr>เรื่อง
      2.ประเด็นที่ทรงทิ้งให้คิด คือ
      ((1)).ปีนี้จะเป็นปีแห่งภัย<wbr>พิบัติจากน้ำและไฟ มันจะไปด้วยกันได้ยังไง? ให้พวกเธอเก็บเอาไปขบคิด
      ((2)).ภัยจากน้ำและไฟอย่างไ<wbr>หนจะรุนแรงกว่ากัน?
      3.วานนี้ (27-03-2012) ก็เกิดโรงงานทำพลุระเบิดอย่<wbr>างรุนแรงขึ้นที่อำเภอแก่งคอ<wbr>ย จังหวัดสระบุรี ใครได้เห็นภาพข่าวแล้วจะรู้<wbr>ว่ามันน่ากลัวมาก โชคดีที่เกิดกลางวัน ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน<wbr>ก็เกิดกรณีรถแก๊สไวไฟชนจนพล<wbr>ิกคว่ำกลางถนนทำให้แก๊สรั่ว<wbr>ออกมา ระเบิดลุกเป็นไฟสูงเท่าตึกส<wbr>ี่ชั้น ทำให้บ้านเรือนใกล้เคียงเกิ<wbr>ดอัคคีภัยเสียหายไปจำนวนหนึ<wbr>่ง...นี่ก็ยงัดีที่ไม่มีใคร<wbr>ตาย...
      4.เกิดสองครั้งติดกันเช่นนี<wbr>้ รวมกับที่เคยเกิดมาก่อนหน้า<wbr>แล้วด้วย แต่ยังไม่มีใครเสียชีวิตนั้<wbr>นล้วนเป็นสัญญาณเตือนภัยล่ว<wbr>งหน้าให้รู้ว่า ต่อไปข้างหน้าจะหนักหนากว่า<wbr>นี้ น้องๆพี่ๆจงโปรดระวังรักษาช<wbr>ีวิตของตนไว้ให้ดี....
    • <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/groups/talktostudent/319952278065702/?comment_id=320728071321456"><abbr title="28 มีนาคม 2012 เวลา 1:32 น." data-utime="1332873165" class="timestamp livetimestamp"></abbr>

    • [​IMG]Visudhi Punya ‎(((+)))**คำเตือนภัย**
      5.กรุงเทพมหานครและฝั่งธนบุ<wbr>รี ให้ระวังภัยจากพายุฤดูร้อน หากพลังลบจากจิตสำนึกโดยรวม<wbr>ของคนกรุงมีปริมาณสูงเกินพิ<wbr>กัด อาจรุนแรงถึงระดับพายุหมุน(<wbr>ทอร์นาโด) ที่ไม่สามารถจะคาดการณ์ความ<wbr>เสียหายเอาไว้ล่วงหน้าได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกราน<wbr>ต์ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนศก<wbr>นี้
      6.กรุงเทพมหานครธนบุรี และเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศของ<wbr>ไทย ให้ระวังอัคคีภัยโดยเฉพาะใน<wbr>เขตชุมชนที่เต็มไปด้วยพลังล<wbr>บทั้งหลาย ซึ่งนอกจากอาจจะมีโอกาสได้พ<wbr>บเจอพายุหมุนขนาดย่อมๆ และเจอลูกเห็บโตๆตกกระหน่ำแ<wbr>ล้ว สัญญาณไฟไหม้ก็อาจจะดังกังว<wbr>าลให้บาดใจไม่น้อยเลย<a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/groups/talktostudent/319952278065702/?comment_id=320736064653990"><abbr title="28 มีนาคม 2012 เวลา 1:48 น." data-utime="1332874108" class="timestamp livetimestamp"></abbr>



    [​IMG]Visudhi Punya ‎>>>คำเตือนภัย<<<
    7.เกษตรกรในย่านที่ในชั้นบร
    • <wbr>รยากาศมีพลังงานลบสูง จะเกิดพายุแม่เหล็ก ทำให้เกิดลมแรงจนนำไปสู่พาย<wbr>ุลูกเห็บและพายุหมุนขนาดใหญ<wbr>่ที่อาจสร้างความเสียหายให้<wbr>ในลักษณะนี้ได้ทุกภาคทั่วไท<wbr>ย ในขณะที่สภาวะปกติ จะเกิดอาการแล้งน้ำ ข้าวกล้านาแล้งแผ่นดินแห้ง การเพาะปลูกจะมีปัญหา เพราะทางการจะคำนวนปริมาณน้<wbr>ำที่จะเก็บตุนไว้ในเขื่อนผิ<wbr>ดพลาด
      8.จะเกิดเพลี้ยแมลงโจมตีพืช<wbr>ไร่และนาข้าว
      9.ภายในก่อนสิ้นเดือนเมษายน<wbr>ศกนี้ นอกจากให้ระวังภัยจากพายุแล<wbr>ะน้ำท่วมชั่วคราวแล้ว คนไทยอาจมีเหตุให้สั่นสะเทื<wbr>อนจิตใจทางด้านลบครั้งสำคัญ<wbr> จนแยกไม่ออกว่าไหนน้ำฝนไหนน<wbr>้ำตา....ดังนั้นจงอย่าเพลิด<wbr>เพลินกับงานสงกรานต์เสียจนล<wbr>ืมคำเตือนภัยของเราทั้งเก้า<wbr>ประการข้างต้นนั้นเสียล่ะ!!<wbr>!

      ป.วิสุทธิปัญญา
     

แชร์หน้านี้

Loading...