แย่งของเซ่น จากผีตายโหง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พิมพ์ฉัตร, 15 เมษายน 2010.

  1. พิมพ์ฉัตร

    พิมพ์ฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +472
    ประมาณ ๗ ปีที่แล้ว เป็นระยะที่ทิ้งการทำกรรมฐาน ไปหลายเดือน หลงระเริง แว้บใหญ่ๆ ตอนนั้นประจำ ฟาร์มที่อยุธยา จำเรื่องราวได้ไม่ชัดเจนหนัก ที่พอจำได้คือ เรารู้สึก คิดถึง น้องลิง (เอม) คิดถึงลายมือน้อง คือ ลายมือเอมอะ ลายมือคนที่ต้องตายโหง ตายด้วยอุบัติเหตุ นับวันเส้นมันเริ่มชัดขึ้น เส้นจะตัดกันแล้ว และ บวกกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อ ๑๐ กว่าปีได้เกี่ยวกะน้อง ทำให้เรา อธิฐานจิตออกไป ในเย็นวันนั้นว่า

    "ด้วยอายุขัยของลูกที่ลูกมี ลูกยอมแบ่งครึ่งอายุขัยให้น้อง ให้อายุขัยตัวเองลดลง และเพิ่มอายุขัยให้น้อง จนเท่ากัน ตายก็ตายพร้อมกัน หรือจะให้ลูกตายก่อนก็ได้"

    ประมาณ ๔ ทุ่ม ตอนนั้นมีน้องรูมเมท ๒ คน ยังดูทีวีอยู่ ไฟก็เปิดตามปกติ เรารู้สึกเหนื่อย เพลีย อยากนอน ก็หลับไป แล้วฝัน ด้วยความที่เจอผีอำ ตั้งแต่เด็กจนโต มันก็จะเจอในแบบเดิมๆ พอสัมผัสได้ว่า โดนผีอำ ก็จะ "ตื่นในฝัน" เราสอนวิธีตื่นในฝันแล้ว ลองหาอ่านกันดูได้

    ในความฝัน เรายังไม่รู้ว่ามันคือความฝัน ในฝันเป็นตอนกลางคืน เรากำลังเดินตามคนอีก ๓ คน เดินเป็นแถว อยู่หน้าห้องพักนี้เอง เราเดินอยู่หลังสุดคน ๓ คนเป็นผู้ชายทั้งหมด ในมือทุกคนจะถือ จานโฟม ที่ใส่ ขนมไทย ของคาว ของหวานประมาณนั้น เราถือ ขนมหวาน ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เราก้มมองดู และหยิบขึ้นมากิน ในระหว่างที่เดิน

    ๓ คน หยุดเดินทันที แล้วเดินเข้ามาหาเรา แล้วรุมด่าเราว่า " เมิงเอาของเซ่นไหว้พวกกรูไป! " ผู้ชายหัวแถว ผอม สูง ใส่กางเกงยีนส์ เสื้อสีเหลือง ส้มๆ ทำท่าโมโหเราสุดๆ มากกว่าอีก ๒ คน เรา ตกกะใจ (แอบกินนิดเดียวเอง แหะแหะ) แต่เราโกหก เราบอก เราไม่ได้เอาไปนะ! (ละอายใจอยู่นะ โกหกในฝันเนี้ย)

    แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็น เรากำลังนอนอยู่บนเตียง ในห้องยังเปิดไฟสว่างอยู่ ในฝันเราลืมตา เพราะผู้ชายที่ผอม สูง คนที่ด่าเราเยอะๆ คนนั้น กระโดดพุ่งลงมาบนเตียงเรา เค้านั่งค่อมอยู่บนตัวเรา เอามือ ๒ จับแขนเราตึงไว้กับเตียง แล้วจิกเล็บลงที่แขนเราทั้ง ๒ ข้าง ความรู้สึกเจ็บ เริ่มส่งความปลายประสาท dendrite axon แล้วพุ่งมาที่สมอง หน้าตาผู้ชายที่จ้องเราเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แบบ เมิงเอาของเซ่นของกรูไป !

    เจ็บจังเลย แค่เสี้ยววินาที สมองคิดเร็วมาก เข้าสู่กระบวนการคิดที่ทำจนชินในฝัน เราทำอะไรอยู่? > เราเพิ่งนอนนี่นา > อ้าว.. ผีอำแน่เลย ต้องลองตะโกนดู ถ้าร้องดังลั่นไม่มีเสียง แสดงว่า ผีอำแน่ๆ

    เรามองหน้า ผู้ชายที่ค้อมเราอยู่ "ปล่อยนะ ไม่งั้นจะร้อง"

    ผู้ชายผอมแห้ง "ร้องไปซิ ร้องไปก็ไม่มีใครได้ยินเมิงหรอก หึหึ " (มันแถม

    เสียงหัวเราะในลำคอให้เราด้วย เยาะเย้ยกันสุดๆ )

    เราก็ลองพูด เฉยๆ แต่ไม่ได้ตะโกน เหมือนแค่ลอง test เสียง " ด้ายยย... ช่วยด้วย ช่วยด้วย" ในฝันนั้น มีเสียงเราดังออกมา

    เราอมยิ้ม แบบชั้นชนะแกแน่นอน เราก็ตะโกนแหกปาก ตะโกนเลย

    "ช่วยด้วย ช่วยด้วย ! " ในฝันเสียงเราดังมาก

    "ช่วย ด.... ช่วย ......" เสียงรอบสอง ที่เราตะโกน ถูกดูดหายไป มีแต่ปากเรามีอ้าปาก พะงาบๆ ด้วยแรงตะโกนสุดเสียง

    " ช่ว...... ............. ............ . ..........." ไม่มีเสียงเรา เล็ดรอดออกมาอีกแล้ว

    ซึ่ง มันเข้าสู่การถูกผีอำ เต็มรูปแบบ เราจะโดนแบบนี้ทุกครั้ง จะมีสถานการณ์ต่างๆ ที่จะมีคน มันจะทำร้ายเรา ไม่ว่า ร้อง ตะโกน ก็ไม่มีเสียงรอดออกมาจากปาก วิ่งหนีสุดแรงเกินก็จะเหมือนไปช้ามากๆ ทั้งที่ออกแรงเต็มที่ เราจะรู้เลยว่านี่ มันคือ การเข้าสู่การโดนผีอำ เต็มรูปแบบแล้ว (หลังจากทำกรรมฐานหนักหน่วง ไม่เป็นอีกเลย นานๆที ๒- ๓ ปี ถึงจะจิตตก โดนทีนึง แต่ไอ้ลิง ทุกวัน จริงๆนะ ทุกวันจริงๆ

    เมื่อรับสภาพว่าโดนผีอำ สู้แรงมันไม่ได้ ก็นึกถึงคุณพระคุณเจ้า หวานแมวล่ะ เรามองหน้ามันที่ยิ้มสะแหยะใส่เรา เราหลับตาลง รับรู้ถึงน้ำหนักตัวของผู้ชายคนนี้ ที่ท้อง และ ที่ขาเพราะเค้ากดขาเราไม่ให้ขยับเลย นึกในใจ เมิงเจอดีแน่ (แหะแหะ แอบนึกคำหยาบในใจ) แล้วเราลืมตา สบตาผู้ชายแห้งๆคนนั้น " พุท.........." ตัวผู้ชายคนนั้น ลอยขึ้นจากตัวเรา แค่ช่องว่างนิดๆ เพื่อหายใจเข้า ก่อนที่เราจะภาวนา "โธ" เพื่อหายใจออก มันก็รีบกดตัวลงทับเราไว้ตามเดิม พอ เราภาวนา " โธ" ในเสี้ยวอึดใจ ผู้ชายคนนั้นก็กลับตัวลอยออกจากเราอีก แต่มันดื้ออะ

    มันมองหน้าเรา แบบตกกะใจนิดๆ เราได้ที นึกในใจ อ๋อ....ใช่ซี๊ (อะไม่ โน๊ต อุดม นะ) ชั้นเว้นระยะห่างพุท -โธ มากไป ได้จะรัว พุท-โธ ให้ติดกันเลย

    เรา "พุทโธ พุทโธ พุทโธ" ผู้ชายผอมแห้ง ถูกแรงกระชากจากไปไหนรู้ ออกจากตัวเราทันที เราเห็นมันเป็นก้อนสีดำ ถูกดึงอย่างแรงออกไปทางขวาของเตียง ซึ่งเป็นผนังห้องนอน เรากำลังรู้สึกว่า ล่วง อก เอ๊ย............ โล่ง อก น่ะ

    ผู้ชายคนที่ ๒ อ้วน อวบ เตี้ย ผิวขาว ก็กระโดดพาร่างอันหนัก ค่อดๆ ขึ้นมาทับตัวเราไว้ รู้สึกจุกที่ท้อง และเจ็บที่แขน ๒ ข้าง มันจิกแขนเราแรงกว่าผู้ชายผอมแห้งคนแรก เสียอีก

    เราไม่พูดพร่ำทำเพลง " พุทโธ" มันลอยปลิวไปเลย หน้าตายังไม่ได้เห็นเลย แต่ก็ไม่ทันได้คิดว่าอะไรเป็นอะไร

    ไอ้คุณผู้ชายคนที่ ๓ หุ่นพอดี ไม่อ้วน ไม่ผอม มันก็กระโดดขึ้นมานั่งค่อมตัวเราไว้ต่อ ๓ แรงแข็งขัน (ถ้าชาติไทย ร่วมแรงแข็งขัน แต่ไอ้ผี ๓ ตัว คงดีเนอะ แอบแขวะ) เราก็เริ่มหมดความอดทน อะไรวะ ไม่จบไม่สิ้นกันซักทีใช่ไหม

    เรามองหน้ามัน แบบว่า จ้องตากัน มันทำหน้าเหี้ยม แบบกรูเหนือกว่าเมิง เราก็ส่งสายตา ให้มันรู้ว่า นึกว่ากลัวหรือไง (คิดว่าตัวเองก็แน่อะ) มันตรึงแขนเราเหมือนที่ไอ้ ๒ คนทำ แต่ไม่เจ็บเท่าไอ้คนที่ ๒ จิกแขนเราไว้ อะ เรา "พุท โธ" เงียบมันยังอยู่ เราเองก็ยังรู้สึกถึงน้ำหนักที่มันกดเราไว้ เริ่มแน่นหน้าอก มันยิ้มสะแหยะ เหมือนพยายามทำทุเรศให้เรากลัว แต่เรายังไม่กลัว
    เรา "พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ" โอ๊ยเหนื่อยวุ้ย

    ผู้ชายหุ่นดี แผดเสียงหัวเราะใส่หน้าเรา "เมิงท่องไปเหอะ ท่องอีก กรูไม่กลัวเมิงหรอก แค่ พุทโธ มันทำอะไรกรูไม่ได้หรอก ฮะๆ ท่องอีกซิ ท่องอีก ! " ถึงคราวเราสลดใจแล้วล่ะ ความกลัวมาเยือนเข้าถึงจิตใจ ใจคอเริ่มไม่ดี

    เรานึกในใจ จะร้องไห้อยู่แล้ว นึกเศร้าใจตัวเอง ทำไมคราวนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่เจอนะ ถ้ารู้ว่าโดนผีอำในฝัน เราบอกว่า นี่ในฝัน เราก็จะตื่นทันที ทำไมไม่ตื่นซะที ไมตื่นไม่ได้ ตื่นซิ ! (แต่ก็ยังไม่ตื่น เสียงทีวีที่น้องรูมเมทดู เปิด volume ต่ำๆ แต่เราก็ยังได้ยินอยู่ น้อง ๒ คนก็คุยกันปกติ)ฝ่ายคุณผี ก็ค่อยๆ ก้มหน้าลงมาใกล้ๆเรา พร้อมรอยยิ้มสะแหยะที่มันชอบทำ เราเห็นหน้ามันชัดขึ้น หน้าเละ แบบผิวกำลังเน่า มันก้มหน้ามาจะชิดหน้าเราแล้ว (อย่าจูบนะเว๊ย แอบคิด กลัว)

    เราเบนหน้าหนีเต็มที่ กลัวจับใจขึ้นมาเลย หนทางสุดท้าย เลือกที่จะหลับตา รู้สึกแน่นหน้าอกมากขึ้นกว่าเดิม เราบอกตัวเอง อรนิ่งไว้ อย่ากลัว อย่าสั่น นึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยไว้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เราก็เลย แว้บ ถึงบทสวดมนต์ บูชาพระรัตนตรัยขึ้นมาทันที ก็เลย รีบท่องออกไป แบบรัว
    " อะระหัง สัมมา.............%$#*(&^^ ......" ท่องจบอย่างรวดเร็ว ถูกมั๊ง ผิดมั๊ง เพราะกลัวอย่างแรง

    ผู้ชายหุ่นดี " ฮึๆ กรูบอกแล้วไงว่า บทสวดมนต์ทำอะไรกรูไม่ได้" มันพูดแบบหน้าจะแนบกะแก้มเราอยู่แล้ว เรารีบหลับตาลงอีก นึกให้กำลังใจตัวเอง อย่ากลัวๆๆๆๆๆ ค่อยๆท่องๆ อย่ารีบ "อะระหังสัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิสะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมะสามิ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะ สังโฆ สังฆัง นะมามิ "

    พอท่องช้าๆ จนจบ ปุบ ผู้ชายหุ่นดี ก็ถูกดึงออกจากตัวเราไป มันร้อง "โอ๊ย ร้อน" ก่อนจะจากไป ความรู้สึกแน่นหน้าอกหายไป เรารู้สึกตัวเบาขึ้น เริ่มรู้สึกถึงแขน ขา ที่สัมผัสอยู่บนเตียง เราพยายามขยับตัว แต่ด้วยร่างกายที่ยังขยับไม่ได้มาก แต่หูได้ยินชัด น้องรูมเมท บอกให้น้องอีกคน เดินมาปิด สวิทซ์ไฟนอน เราอ้าปากพูดขึ้นมาก่อนที่ร่างกายจะขยับได้

    เราเรียก ชื่อ น้องรูมเมท " อุ๊ อุ๊ " ตอนนั้น น้องอุ๊ เดินมา ปิดไฟ พอดี ซึ่งต้องเดินผ่านเตียงเรา
    อุ๊ "มีไรหรือพี่อร"
    เรา "พี่..โดน..ผี..อำ" แบบว่า ปากขยับได้ ลืมตายังไม่ได้ พยายามลืมตาอยู่

    อุ๊รีบเดินไปเปิดไฟอีกครั้ง "อ้าวนึกว่าพี่อรยังไม่หลับ เห็นขยับตัวไปมาได้พักใหญ่แล้ว" เราลืมตาได้แล้ว แล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เราบอกอุ๊ว่า "พี่ได้ยินเรากะกุ้ง คุยกันตลอดเลย แต่เรียกไม่ได้ " เราพูดไป หอบแฮ่กๆไป เหมือนเหนื่อยมาก ความเจ็บที่แขนยังอยู่ พอก้มมองดู มีรอยมือ และรอยจิกที่แขนเรา แดงเป็นจ้ำเลย เพิ่มความใจเสียแก่เรามากเข้าไปอีก

    น้องรูมเมท ๒ คนเกิดอาการกลัวขึ้นมา เราว่าไม่เป็นไรล่ะ นอนกันเนอะ แต่ถ้าวันหลังเห็นพี่เป็นแบบนี้อีก ปลุกเลยนะ ช่วยหน่อย สองคนก็รับปากว่า จะรีบปลุกทันที (ถ้าเห็นอะนะ)

    เช้าวันต่อมา ตัดสินใจโทรหาพ่อทันที เพราะไม่เคยเจอผีอำหนักขนาดนี้เลย แอบคิดว่า พ่ออาจจะว่าเรา เพ้อเจ้อ พอเล่าเหตุการณ์ให้พ่อฟัง พ่อก็นิ่ง ไม่ว่าอะไรซักคำ นอกจากบอกว่า เดือนหน้าจะไปส่งที่ฟาร์ม แล้วจะเอาพระพุทธชินราชไปไว้ที่ห้องให้ด้วย น้ำเสียงพ่อดูห่วงเยอะเลย แต่ก็อบอุ่นใจจัง พูดแล้วคิดถึงพ่ออะ แงแง

    คุยกะพ่อ เสร็จ เกิดเอะใจ อะไรบางอย่างขึ้นมา ผี ๓ ตัวที่มาเล่นงานเรา อย่างหนักเมื่อคืน กะผีตายโหง ๓ ตัว ที่จะเอาน้องเราไปอยู่ด้วย เมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อน

    โทรหาน้องทันที เรา " เอม จำเรื่องตอนเพื่อนหนูตายได้ไหม ๓ คนที่ตาย มีคนผอมๆ สูงๆ ไหม มีคนอวบๆ ไหม อีกคนไม่อ้วนไม่ผอมไหม"
    เอมว่า" คนที่เป็นเพื่อน ผอมๆ สูงๆ นะ เป็นกระเทย แต่อีก ๒ คนเอมไม่ได้รู้จักหรอก แต่เหมือนคนนึงจะอ้วนอยู่นะ ขาวๆ อีกคนจำไม่ได้ ไม่ได้สนิทกัน "

    เรา "หนูลองเล่าเรื่อง ผีตายโหงที่เข้าสิงเอม ตอน ม.ปลายให้เจ้ฟังอีกทีได้ไหม เพราะตอนนั้น เจ้ได้ฟังคร่าวๆ หน่อย " (เนื่องจากตอนนั้น เราเรียน ที่ ม.เกษตร เอมยังเรียนม.ปลายที่เพชรบูรณ์ ทำให้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ถามพ่อแม่ก็ไม่ค่อยจะตอบ )

    เรื่องเมื่อ ๑๐ กว่าปี คือ เอม อยู่ในกลุ่มทีมการแสดง ที่จะต้องโชว์ เวลามีงานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นงานของจังหวัด นอกจากเวลาเรียนก็จะไปซ้อมเต้น กะเพื่อนๆ ทั้งเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน กะเพื่อนที่อื่นๆ

    ที่บ้านจะห้ามแบบไม่มีข้อแม้ ว่า "อย่าไปงานศพเด็ดขาด! " ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไม แต่พอเกิดเรื่องก็เข้าใจ

    เอมได้ข่าว เพื่อนที่เต้นด้วยกันตายด้วยอุบัติเหตุกะทันหัน วันเกิดเหตุ เด็กผู้ชาย ๓ คน ขับมอไซด์ ซ้อนสาม จากตัวเมือง พอถึง แถวๆ ต. ท่าพล ก็ประสานงากะรถบรรทุก ตายคาที่ ๓ ศพ เอมน่ะ ด้วยความเป็น เด็กวัยรุ่น รักเพื่อน มาก่อนสิ่งอื่นใด ก็แอบนัดเพื่อนๆ ที่มีรถยนต์ ขับรถกันไปร่วมงานศพที่บ้านเพื่อน เอมไม่ได้รู้จักทั้ง ๓ คน รู้จักเพียงคนเดียว ก็ไปงานนั้น ทั้งที่ เรื่องไปงานศพเป็นเรื่องใหญ่มากๆในบ้าน เอมมันก็ฝืนกฏเหล็กของพ่อแม่จนได้

    ระหว่างที่นั่งรถไปก็ผ่านตรงจุดเกิดเหตุที่เพื่อนตาย จากการสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ เห็นชัดว่า เอม มีท่าทีเปลี่ยนไป เงียบ ไม่พูดไม่จา เพื่อนก็แปลกใจเฉยๆ ปกติจะฮาแหลก แต่เอม กลับรู้สึกเพียงว่า หนาว หนาวมาก หายใจขัดๆ

    ถึงงานศพ เอมก็นั่งพนมมือฟังพระสวด แล้วมีอาการแน่นหน้าอกมากขึ้น เธออธิบายว่า เริ่มหายใจขัดหายใจเข้าได้แต่หายใจออกไม่ได้ เริ่มจะเป็นลม นี้คือความรู้สึกเอมมันนะ

    แต่คนอื่นๆ ในงานศพ เห็นเอมหน้าซีด จะเป็นลม ตัวสั่น ออกอาการผีเข้าแบบไม่ต้องสงสัย แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร นอกจากรีบพาตัวไปส่งโรงพยาบาลอีกอำเภอนึง (เนื่องจากหนีพ่อแม่ ไปไกลข้ามอำเภอโน้น)

    โชคดี บุญยังมี คนที่อาสาพาไปโรงพยาบาล น่ะ เค้าดูออกว่าเกิดอะไรขึ้น และบ้านพี่ผู้ชายคนนี้เป็นร่างทรง ที่บูชาเสด็จพ่อ ร. ๕

    ในรถ เอมเล่าว่า รู้สึกหนาวมาก เพื่อนถอดเสื้อมาให้ห่ม หลายตัวก็ไม่หายหนาวเลย รู้สึกคลับคล้ายคลับคราว่า พี่เค้าจอดรถ แต่จอดทำไมไม่รู้ แต่พี่คนนั้น อยู่ๆก็มาตะโกนใส่หน้าเอม ว่า "เมิงจะเล่นกะกรูใช่ไหม! เมิงรู้ไหมว่ากรูเป็นใคร" (พี่ร่างทรงว่า เสด็จพ่อจะประทับได้ตลอดเวลา บางทีตัวเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน) เอมตกใจมาก ทำไมพี่เค้าต้องมาด่าเอมด้วย เธอบอกเธอน้ำตาคลอ จะร้องไห้ นี่มันเรื่องอะไรกันนี่ หนาวก็หนาว หายใจก็ไม่ออก ทำไมต้องด่า ต้องดุกันด้วย

    เอ้า... กลับมาที่สายตาคนอื่น พี่คนนั้นจอดรถ เพราะเอมดิ้นแรงมาก ปากก็พูดว่า "กรูไม่ไป กรูไม่ไป" เพื่อนจับเอมไว้แน่น แต่แรงเยอะค่อดๆ ตาขวาง ทำหน้าตาโกรธ เคียดแค้นใส่ทุกคน เพื่อนที่มาด้วยกัน พยายามแข็งใจจับเอมไว้แน่น แต่ไม่กล้าสบตามองเลย

    ฉากเดิมแต่หนังคนละม้วน พี่ผู้ชายคนนั้น " "เมิงจะเล่นกะกรูใช่ไหม! เมิงรู้ไหมว่ากรูเป็นใคร" เอมจ้องหน้าพี่เค้า ทำหน้าโกรธแค้น โมโหสุดๆ ใส่พี่เค้า ซึ่งพอหายแล้ว เอมกลับบอกว่า ชั้นจะร้องไห้นะที่พี่เค้ามาด่า ไม่รู้สึกตัวเลยว่า ไปทำหน้าตาโมโห ใส่พี่เค้าเลย

    เอมเล่าต่อว่า พอพี่เค้าด่าแล้วกำลังจะร้องไห้ ซึ่งใครๆเห็นว่า เอมมันโกรธมากกว่าทำหน้าร้องไห้ หน้าเอมก็สะบัดอย่างแรงไปมองเพื่อนที่จับตัวเอมอยู่

    เอมว่า เอมงงอะ ทำไมอยู่ๆ หน้าเอมหันไปทางนี้อะ ไม่ได้คิดจะหันไป มันก็หันไปมอง มา รู้ตัว ก็งงว่า อ้าวทำไมหันไปมองเพื่อนคนนี้หว่า? ก็มองเพื่อนแบบงงๆ แต่คนเพื่อนน่ะ บอกว่า มอง งงๆ อะไร ทำหน้าจะกินเลือดกินเนื้อมันซะมากกว่า

    พอถึงโรงพยาบาล เอมก็ดิ้นแรงขึ้น กรุไม่ไปอยู่นั่นล่ะ พอจะอุ้ม แม่คุณก็แผลงฤทธิ์ ด้วยแรงที่ ผู้ชาย ๓ คน อุ้มเอมที่หนัก ๔๐ กิโลไม่ขึ้นเลย หนักค่อดๆ เพื่อนผู้หญิงช่วยอีกแรง จนอุ้มลงมาจากรถได้ พออยู่ในโรงพยาบาล เอมก็บอกว่า หายเจ็บหน้าอกแล้ว เธอว่า จำได้ว่า เห็นพระพุทธรูปเต็มไปหมดเลย เห็นแล้วอุ่นใจ สบายใจ หมอให้กลับได้ เพราะ เอมปกติดี เพื่อนยังไม่มีใครกล้าบอกเอมว่า โดนผีเข้า

    ออกจากโรงพยาบาล ปุบ แม่คุณแผลงฤทธิ์ทันที กลับมาทำหน้าโกรธเคือง ตาขวางใส่ทุกคนตามเดิม พี่ผู้ชายที่บ้านเป็นร่างทรงเสด็จพ่อ ร. ๕ ก็เลยตัดสินใจว่า พาแวะบ้านพี่ก่อน ทางผ่านพอดี จะให้ตากะยายช่วย

    บ้านเป็นบ้านไม้สองชั้นทั่วไป พี่ผู้ชายเล่าให้ยายฟัง ยายเรียกเอมขึ้นไปหา เอมบอกว่า จำได้ไม่มาก มันเหมือน ความจำ มันขาดหายเป็นช่วงๆ ยายเอาข้าวเหนียวมาปั้นเป็นก้อนๆ เอามาจ่อที่หน้าเอม แต่ไม่สัมผัสโดนนะ ยายชูข้าวเหนียว ไปมาที่หน้าเอม แล้วถามว่า "กลัวไหม"

    เอม "กลัวค่ะ" แล้วก็ จะไม่อยู่ท่าเดียว ก็เลยไม่ได้ทำพิธีใดๆ

    ยาย "ผีตายโหง ๓ ตัว มันตามมาตั้งแต่ตรงที่มันตายกันแล้ว เด็กคนนี้ไม่มีขวัญรักษาแล้ว ขวัญกระเจิงไปหมดแล้ว พวกมันจะเอาเป็นของเซ่นของพวกมัน จะเอาเป็นบริวาร มันไม่ปล่อยแน่ เพราะขวัญไม่มีแล้ว มันจะทำอะไรก็ง่าย ถ้ากำลังดวงตกอยู่ มันจะรีบฉวยโอกาส นั้นเลย "

    "ทั้งที่เคยเป็นเพื่อนกัน อย่างนั้นหรือ " เราถามเอมกลับ
    ยายเล่าให้เอมฟังว่า "พอตายไปแล้ว วิญญานผีตายโหงพวกนี้จะไม่คิดถึงความเป็นเพื่อนหรอก มันมองหาแต่บริวาร ของเซ่นของมัน"

    ยายยังบอกอีกว่า " รู้ไหม ที่โดนเพราะ เราน่ะ มันไปไหนไม่บอกเจ้าที่ เจ้าทางที่บ้านให้ตามมาปกป้องคุ้มครอง ต้องแก้ด้วยการกลับเข้าบ้านให้เร็วที่สุด ที่บ้านเจ้าที่เจ้าทางช่วยได้ เจ้ก็เห็นว่าหลังจากนั้น เอมดูแล ศาลพระภูมิเจ้าที่เป้นประจำและไปไหนก็จะไม่เคยลืมบอกท่าน ให้ตามไปด้วย เพราะ ผี ตายโหง ๓ คนนั่นก็ยังตามอยู่ เรื่อยๆ อย่างเมื่อคืน ตี ๓ อ่านหนังสืออยู่ที่ระเบียง กลิ่นธูปลอยมา ป่านนี้ใครจะจุด ไม่มีคนเลย ก็โมโหนะ จะกวนกันไปถึงไหน เลย ด่าออกมาว่า จะตามไปถึงไหนว่ะ รำคาญโว้ย เท่านั้นล่ะเจ้ กลิ่นธูปก็เข้ามาปะทะที่จมูก จนแสบจมูกเหมือนมีควันธูปอยู่ใกล้เรามาก แต่มันไม่มีควันที่ไหนเลย "

    หลังจากโดนผีเข้า และไล่ขวัญที่รักษาเอม หนีกระเจิงไปแล้ว ขวัญไม่มีก็เหมือนของเซ่นที่ผีทั้งหลายอยากได้เป็นบริวาร เอมก็ได้ฝากตัวเป้นลูกเสด็จพ่อ ร. ๕ ตั้งแต่นั่นมา

    ยายคนนี้ ยังได้ให้เอม เสี่ยงทาย ด้วยการยกขันเงินมา ในนั้นมี ธูป เทียน ดอกไม้ หมากพูล แล้วบอกให้เอม หยิบอะไรมาก็ได้ เอมเลือกหยิบดอกไม้มา ๒ ดอก

    ยายมองแล้วบอกว่า "มันไม่ปล่อยแน่นอน มันถือว่า เอมเป็นของของมันแล้ว"
    เอมก็ประคองชีวิตมาเรื่อยๆ ด้วยการช่วยเหลือของ เสด็จพ่อ ร. ๕ น้องๆ กุมาร เจ้าที่เจ้าทาง ซึ่งจะเล่าให้ฟังคราวหน้า

    ตอนผีเข้า สภาพที่น้องกลับมาบ้าน มันโทรมมาก ตัวซีดแบบคนจะตาย หน้าเหลือง มันทำให้พ่อแม่ช็อค ถึงจะฟังเรื่องทุกอย่างแล้ว ก็ไม่วาย บ่นว่า ลูกว่าไปติดยา ไปเล่นยาใช่ไหม ผีเข้าอะไร เพ้อเจ้อ บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าไปงานศพ แต่การกระทำของพ่อแม่ คือ หาสารพัดสายสิญจน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาให้ลูกใส่ (เรากลับบ้านหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้เกือบ ๒ อาทิตย์ แต่ก็แอบอมยิ้ม ที่เห็นความรัก ความห่วงใย ที่พ่อแม่มีให้น้องลิง)

    เอม "เจ้ถามทำไมอะ เรื่องเก่าๆ อะ" แล้วเราก็สาธยายให้เอมฟัง ถึง ไอ้ผีตายโหง ๓ ตัว ที่มาด่าเราว่า เราไปแย่งของเซ่นของมันไป นั่นคือ เราอธิฐานจิตออกไป ในตอนนั้น ด้วยแรงกุศล จากสายเลือด ไม่ว่าจะแบ่งอายุขัยให้น้องได้หรือไม่ แต่เจ้าผีตายโหง ก็ตามมาเอาเรื่องเราในทันที พ่อเราที่เคยบอกว่า เรื่องน้องโดนผีเข้า เพ้อเจ้อ แต่เพียงเราเล่าเรื่องผีอำที่แรงที่สุดในชีวิตให้พ่อฟัง พ่อกลับอุ้มพระพุทธชินราช มาด้วยตนเอง อุ้มไว้ตั้งแต่เพชรบูรณ์ ถึง อยุธยา แล้วเลือกที่วางพระพุทธรูปด้วยตนเอง

    ปัจจุบันนี้ ลายมือน้องเปลี่ยนไปแล้ว เส้นที่ตายโหง มันไม่ตัดกันแล้ว เฉียงออกชัดเจน (จากเรื่อง "เสด็จพ่อ ร. ๕ ให้ไปวัดอัมพวัน") ถ้าไม่ได้ เสด็จพ่อ ร. ๕ มาช่วยเอมไว้ ในตอนที่ใกล้จะถึงวันเกิดปีนั้น ป่านนี้ ก็อาจจะต้องตายไปจริงๆแล้ว หลังจากที่เสด็จพ่อ แนะให้เริ่มทำกรรมฐาน จากที่ต้องตายโหง ก็พลิกชีวิตเหลือชดใช้กรรม เจออุปสรรคมากมาย แต่ก็ดีกว่า ที่ครอบครัวเราจะสูญเสียน้องไป

    เราบอกเอม เอมยังไม่สนใจไปทำกรรมฐาน เห็นเราทำ มันก็เฉยๆ แต่ถ้าไม่ได้เสด็จพ่อ ร. ๕ ท่านมาชี้ทางให้เอมไปทำกรรมฐาน ป่านนี้น้องก็คงไม่สนใจในกรรมฐานแบบตอนนี้ เราจึงยกย่อง เทิดทูน เสด็จพ่อ ร. ๕ เหนือเกล้ามาก ที่นำน้องมาวัดอัมพวันได้

    อรอาจจะเขียนไม่เคลียร์อะค่ะ ขอเพิ่มไว้ตรงนี้ว่า

    ของเซ่น ที่พวกผีตายโหง มาว่า อรแย่งของเซ่นของพวกมันไป ก็คือ น้องสาวอร นั่นเองค่ะ ที่เป็นของเซ่น วันนั้น อรขอบุญกุศลของตนได้ช่วยเพิ่มอายุขัยของน้อง ซึ่งผีตายโหง มันอุตส่าห์ทำให้อายุขัยน้องสั้น เร็วขึ้น โดยการฉวยโอกาสช่วงที่กรรมเก่าๆส่งผล ช่วยซ้ำตาม เพื่อเอาวิญญานน้องไปเป็นบริวารของมัน

    อรถึงโดนพวกผีตายโหงมาว่า ว่าแย่งของเซ่นมันไป


    ที่มา >> กรรมฐาน - Meditation - แย่งของเซ่น จากผีตายโหง
    <!-- -->
     
  2. nudjinnong

    nudjinnong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,161
    ค่าพลัง:
    +3,012
    ขนลุกไปหมดแล้วครับเนี่ย
    ให้5กระโหลกครับ
    อนุโมทนาครับผม
     
  3. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาค่ะ โธ่เอยน่าเวนายิ่งนักหนอ สงสัยผีเหล่านั้นเค้าคงยังไม่มีหมดอายุขัยค่ะ

    อุทิศส่วนกุศลให้เค้าด้วยนะคะ อภัยทานเป็นเมตตาธรรมสูงสุดค่ะ ถ้าเค้าทำอย่างนั้น

    เมื่อหมดอายุขัยก็ต้องไปนรกชดใช้กรรมที่ทำไว้ หลายชาติ อย่างน้อยถ้าเราให้อภัยเค้า

    เค้าก็ชดใช้กรรมน้อยลงนิดนึง และอีกอย่างแสดงว่านั้นเป็นกรรมเก่าของคุณถ้าไม่เคยทำไว้ คงไม่มีใครทำคุณได้ ก็ถือซะว่าล้างซวยละกันนะคะ เพื่องสร้างบุญกุศลให้ถึงนิพพานต่อไป

    _______________________________

    สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี

    จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน
     
  4. ฮกหลงขงเบ้ง

    ฮกหลงขงเบ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,143
    ยาวพอสมควร แต่ถึงรสถึงชาติจริงๆ ชวนสยองได้เยี่ยม
     
  5. คนข้างทาง

    คนข้างทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +392
    เนื้อเรื่องน่าขนลุกดีคับ ผมนั่งอ่านตอนตีสองกว่าๆแบบห้องมืดๆด้วย อ่านไปขนลุกไปคับ
     
  6. crimsonn

    crimsonn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +455
    จึ๋ย น่ากลัวว~จัง ถ้าตอนฝันแล้วจำบทสวดไม่ได้ซักบทคงจะแย่เลยครับ

    อนุโมทนา ด้วยคนครับ
     
  7. linkinpark.ball

    linkinpark.ball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +253
    เป็นเรื่องที่ดีมากเลยอ่ะคับ ถึงพริกถึงขิงดี อนุโมทนาสาธุด้วยนะคับ
     
  8. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันค่ะ
     
  9. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    ขอบคุณนะครับ อ่านแล้วขนลุกมากๆ 5555 แต่ผมสงสัยว่า ขวัญ ที่บอกว่าขวัญรักษานี่เป็นยังไงอ่ะครับ ผมไม่รู้
     
  10. พ่อเลี้ยง2

    พ่อเลี้ยง2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +838
    อ่านแล้วมึนคำว่า "เจ้อะ" ลงท้ายด้วย"อะ"บ่อยๆ
    อ่านแล้วปวดหัวอย่างนี้
    น้องต้องไปเล่นmsnไม่ก็hi5
    สงสารคนแก่ๆที่อ่านบ้างครับขอร้องด้วย
     
  11. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    คนเจอกับตัวอย่างอร ก็กลัวไม่น้อยหน้าใครเลยค่ะ แหะแหะ

    ตอนนี้ วิญญานพวกนั้นก็ยังอยู่ค่ะ ยังตามอยู่ ไม่หายไปไหน เฮ้อ...
     
  12. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    โทษทีค่ะ อันนี้ลืมคิดไปจริงๆค่ะ ขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะค่ะ ;9k
     
  13. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ขวัญรักษา คือที่กระหม่อมค่ะ

    อย่างพิธี บายศรีสู่ขวัญ เรียกขวัญให้กลับมายังเจ้าของ เพื่อคุ้มครองเจ้าของผู้นั้น
     
  14. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    น่ากลัวจังค่ะ กิเลสนี่น่ากลัวมากๆ กระทั่งในคนที่ตายไปแล้วมีก็น่ากลัวมาก โมทนาที่ช่วยน้องนะค่ะ
     
  15. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    จากวันนั้น ที่เจอคุณ ผีหัวขาด กลางปี ๒๕๔๙ ถึงวันนี้ เค้าใกล้จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีแล้วค่ะ อีกนิดเดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...