แก้วจักรพรรดิ์ และรวมของดีจาก อ.เถิน ของดีจาก จ.สุโขทัยและของดีจาก จ.อุตรดิตถ์ ครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย satan, 6 มิถุนายน 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    อานุภาพพระรัตนตรัย


    "รัตนะ" แปลว่า "แก้ว" เป็นวัตถุที่มีค่า ราคามาก จำแนกประเภทได้หลายอย่าง เช่น เพชร มรกต ทับทิม บุษราคัม อีกประการหนึ่ง หมายถึงของดีและคนดีของพระเจ้าจักรพรรดิ เรียกว่าแก้ว 7 ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว มณีแก้ว นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้ว

    รัตนะในที่นี้หมายถึงแก้วอันประเสริฐสุด สิ่งล้ำค่าสำหรับผู้นับถือพระพุทธศาสนา เพราะเป็นสิ่งที่หาสิ่งอื่นมาเปรียบเทียบมิได้ เป็นชื่อของพระรัตนตรัย 3 ประการ คือ

    1. ท่านผู้สอนให้ประชาชนประพฤติชอบด้วยกาย วาจา และใจ ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชื่อ พระพุทธเจ้า

    2. พระธรรมวินัย ที่เป็นคำสั่งสอนของท่าน ชื่อ พระธรรม

    3. หมู่ชนที่ฟังคำสั่งสอนของท่านแล้ว ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย ชื่อ พระสงฆ์

    พระพุทธเจ้า พระนามเดิมคือ เจ้าชายสิทธัตถะ เป็นพระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ และพระนางสิริมหามายา พระองค์ทรงเจริญวัยโดยลำดับ ได้รับการศึกษาศิลปศาสตร์ ในสำนักของครูวิศวามิตร ซึ่งมีชื่อเสียงในสมัยนั้น พระองค์ทรงตั้งใจเรียน เชื่อฟังคำสอนของครูอาจารย์ สามารถเรียนจบหลักสูตรของสำนักเรียนนั้น ได้รับยกย่องว่าเป็นเลิศในวิชาการ 18 สาขา

    ต่อจากนั้น เมื่อพระชนมายุได้ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพา และมีพระโอรสนามว่า ราหุล เสวยสุขสำราญอยู่ที่ปราสาท 3 ฤดู ดุจเสวยทิพยสมบัติ เมื่อพระชนมายุ 29 พรรษา จึงมีพระทัยน้อมไปในการบรรพชา แสวงหาสัจธรรมอันเป็นเหตุแห่งการพ้นทุกข์ ทรงเลือกวิธีการออกบวช เพื่อบำเพ็ญเพียรให้บรรลุจุดหมายสูงสุด ในที่สุดสามารถบรรลุจุดหมายสูงสุดตามที่มุ่งหวัง ค้นพบสัจธรรมทางแห่งความพ้นทุกข์ ด้วยพระองค์เองแล้วสอนผู้อื่นให้ปฏิบัติตามและรู้ตาม

    พระพุทธเจ้า เป็นแก้วอันประเสริฐสุด เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก เพราะประกอบด้วยคุณธรรมหลายประการ กล่าวโดยย่อมี 3 คือ

    1. พระปัญญาคุณ ทรงมีความฉลาดรอบรู้ตามความเป็นจริง สามารถในการเทศนาสั่งสอนประชาชน ให้เหมาะสมตามพื้นฐานความรู้ของผู้ฟัง ด้วยเนื้อหาสาระที่นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สุข และหลุดพ้นจากความทุกข์ได้

    2. พระบริสุทธิคุณ ทรงมีความบริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสทั้งปวง ไม่กระทำความชั่วทั้งทางกาย วาจา และทางใจ ทรงสอนชาวโลกด้วยมุ่งหวังประโยชน์แก่ผู้ฟังเท่านั้น ไม่มุ่งหวังถึงประโยชน์ส่วนพระองค์เอง

    3. พระมหากรุณาธิคุณ ทรงเป็นผู้อนุเคราะห์ช่วยเหลือเกื้อกูลและสั่งสอนชาวโลกที่เป็นหมู่คณะและรายบุคคล

    โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบาก



    หลังจากตรัสรู้แล้ว พระพุทธองค์ผู้มีพระอัธยาศัยเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาคุณ ทรงอนุเคราะห์เกื้อกูลสัตว์โลกทั้งหลาย ให้บรรลุธรรม สัมผัสความสุข พ้นความทุกข์ ไม่ว่าจะประทับอยู่ ณ ที่ใด พระองค์มิได้ทรงละเว้นกิจ 5 ประการ คือ

    1. เวลาเช้า เสด็จบิณฑบาต

    2. เวลาบ่าย ทรงแสดงธรรมโปรดมหาชน

    3. เวลาค่ำ ทรงประทานโอวาทแก่ภิกษุ

    4. เวลาเที่ยงคืน ทรงพยากรณ์ปัญหาแก่เทวดา

    5. เวลาใกล้รุ่ง ทรงตรวจดูสัตว์โลกที่สามารถและไม่สามารถบรรลุธรรม

    เวลาเช้า พระพุทธองค์ ทรงตื่นบรรทมแต่เช้าตรู่ หลังจากปฏิบัติพระสรีระแล้ว เสด็จดำเนินไปบิณฑบาตยังคามนิคม บางครั้งเสด็จไปเพียงพระองค์เดียว บางครั้งมีภิกษุสาวกตามเสด็จ รับอาหารบิณฑบาตและฉันภัตตาหารแล้ว ทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดมหาชน บางพวกศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย บางพวกได้บรรลุธรรมมีโสดาปัตติผล เป็นต้น

    เวลาบ่าย พระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมโปรดมหาชน ที่ศรัทธาเลื่อมใสพากันถือดอกไม้และของหอม เป็นต้น มากราบไหว้บูชา เข้ามาประชุมกันในพระวิหารอาจมีภิกษุสงฆ์มาร่วมฟังธรรมอยู่ด้วย เมื่อพุทธบริษัทพร้อมแล้ว เสด็จมาประทับนั่ง ที่บวรพุทธอาสน์ แสดงธรรมอันควรแก่อัธยาศัย มีใจความเป็นต้นว่า ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด

    เวลาค่ำ ทรงประทานโอวาทแก่ภิกษุ ที่พากันมาเฝ้า เพื่อทูลถามปัญหา หรือมาขอเรียนพระกรรมฐาน ขอฟังธรรม ทรงอนุเคราะห์ภิกษุทั้งหลายให้สำเร็จกิจตามที่ประสงค์ แล้วจึงกราบทูลลา

    เวลาเที่ยงคืน เหล่าเทวดา ได้โอกาสพากันเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ต่างทูลถามปัญหาที่สงสัย ทรงอนุเคราะห์เทวดาทั้งหลาย ให้รู้ธรรมจำนวนมาก

    เวลาใกล้รุ่ง พระพุทธองค์ ทรงแผ่ขยายพระญาณตรวจดูสัตว์โลก ผู้ที่ได้สร้างสมบุญบารมีไว้ ในบางครั้งเป็นบรรพชิต ในบางครั้งเป็นคฤหัสถ์ จะเป็นรายบุคคลหรือเป็นหมู่คณะก็ตาม เสด็จไปแสดงธรรมโปรด ให้เขาเหล่านั้นได้มนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ หรือนิพพานสมบัติ ตามบุญของแต่ละคน โดยมิได้คำนึงถึงหนทางจะไกลหรือใกล้เพียงใด จะยากลำบาก เหน็ดเหนื่อยเพียงใด ไม่ทรงย่อท้อ ทรงบำเพ็ญพุทธกิจอันเป็นประโยชน์แก่ญาติ และมหาชน

    ด้วยพระมหากรุณาคุณอันยิ่งใหญ่



    พระธรรมวินัยที่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ชื่อว่า พระธรรม พระธรรมนั้นมีความหมายหลายอย่าง คือ สภาพที่ทรงไว้ รักษาไว้ ธรรมดา ธรรมชาติ สภาวธรรม สัจธรรม ความจริง เหตุ ผล คุณธรรม ความดี ความถูกต้อง ความประพฤติชอบ หลักการ แบบแผน ธรรมเนียม หน้าที่ ความชอบธรรม ความยุติธรรม ความเที่ยงธรรม

    "ธรรม" ในที่นี้หมายถึง คำสอนที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ เรียกว่า พุทธธรรม หรือเรียกว่า พระสัทธรรม หมายถึงธรรมของสัตบุรุษ หรือคำสอนของพระพุทธเจ้า จำแนกเป็น 3 ประการ คือ

    "ปริยัติสัทธรรม" คือคำสอนที่แสดงถึงหลักสำหรับศึกษาเล่าเรียน ทรงจำ ได้แก่ พระพุทธพจน์ในพระไตรปิฎก คาถา ชาดก เป็นต้น

    "ปฏิบัติสัทธรรม" คือคำสอนที่แสดงถึงหลักปฏิบัติตามที่ศึกษาเล่าเรียนมา แสดงถึงวิธีการปฏิบัติธรรมที่สูงขึ้นไปตามลำดับ เช่น ไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

    "ปฏิเวธสัทธรรม" คือคำสอนที่แสดงถึงผลที่เกิดจากการปฏิบัติธรรม ได้แก่ มรรค ผล และนิพพาน ซึ่งเรียกว่า โลกุตรธรรม

    พระธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ผู้ประพฤติธรรมย่อมได้รับแต่ความสุขความเจริญโดยสมควรแก่การปฏิบัติโดยส่วนบุคคลบางคนประพฤติธรรมอยู่ แต่ต้องประสบภัยความเสียหายต่างๆ เช่น ราชภัย อัคคีภัย วาตภัย หรือโจรภัย เป็นต้น นั่นอาจเป็นเพราะอกุศลกรรมเก่าที่ได้กระทำไว้ในชาติปางก่อนตามให้ผลทันในชาติปัจจุบัน หรืออาจเป็นเพราะได้กระทำความเสียหายร้ายแรงไว้ จึงได้รับโทษตกไปในที่ชั่ว 2 ประเภท คือ

    1. สถานที่ชั่วในปัจจุบันนี้ ได้แก่ ความทุกข์ยากต่างๆ ถูกลงโทษตามกฎหมาย เช่น ถูกจองจำในที่คุมขัง ได้รับภัยต่างๆ มีราชภัย อัคคีภัย และโจรภัย เป็นต้น

    2. สถานที่ชั่วในภพหน้า ได้แก่ หลังจากเสียชีวิตแล้วไปเกิดในอบายภูมิ 4 ซึ่งเป็นสภานที่หาความเจริญมิได้ มีแต่ความเสื่อมเท่านั้น คือ นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต และอสุรกาย การรักษาผู้ปฏิบัติมิให้ตกไปในที่ชั่ว จึงนับเป็นคุณที่เด่นชัดของพระธรรม

    คุณของพระธรรม เมื่อจำแนกตามบทสวดคือเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว จำแนกธรรมที่เป็นกุศล อำนวยผลแก่ผู้ประพฤติให้เกิดความสุขในระดับต่างๆ ธรรมอันเป็นอกุศล มีเป็นผลเป็นความทุกข์แก่ผู้ปฏิบัติในระดับต่างๆ

    อีกส่วนหนึ่ง เป็นธรรมกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว เป็นธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงให้งดงามในเบื้องต้นด้วยศีล งดงามในท่ามกลางด้วยสมาธิ งดงามในที่สุดด้วยปัญญา เป็นธรรมที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง สามารถให้ผลได้โดยไม่จำกัดกาลเวลา เป็นธรรมที่ควรบอกกล่าวผู้อื่นให้มาพิสูจน์ ทดลองปฏิบัติ เป็นธรรมที่ควรน้อมเข้ามาในตน วิญญูชนพึงรู้ได้เฉพาะตน พระธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติ ให้ร่มเย็นเป็นสุข

    เหมือนร่มป้องกันไม่ให้ร้อนและเปียกฝน




    หมู่ชนที่เข้ามาบวชเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธองค์แล้ว ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย ชื่อว่า พระสงฆ์ พระสงฆ์นั้นที่รวมกลุ่มกัน ด้วยหลักความคิดเห็นและหลักความประพฤติปฏิบัติที่เสมอกันตามพระธรรมวินัย เรียกว่า พระสาวกของพระพุทธเจ้า

    พระสงฆ์ปฏิบัติตามทางที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้คือ มัชฌิมาปฏิปทาทางสายกลาง ไม่หย่อนหรือตึงเกินไป ปฏิบัติเพื่อความสามัคคีแห่งหมู่คณะ จำแนกเป็น 2 ประเภท คือ

    1. อริยสงฆ์ พระสงฆ์ผู้เป็นพระอริยบุคคล หมายถึง หมู่พระสาวกที่ประเสริฐเพราะได้บรรลุโลกุตตรธรรมตามระดับแล้ว เรียกว่า พระอริยบุคคล 4 ประเภท

    2. สมมติสงฆ์ พระสงฆ์โดยสมมุติ หมายถึงหมู่สงฆ์มีจำนวนตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป ซึ่งสามารถประกอบสังฆกรรมได้ตามกำหนดทางพระวินัย อาจเป็นได้ทั้งผู้บรรลุธรรมแล้วและยังเป็นปุถุชน คำว่า พระสงฆ์ ในรตนะนี้ หมายถึง พระอริยสงฆ์

    พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ เป็นองค์ประกอบหลักสำคัญของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า รตนะ เพราะมีคุณค่าประเสริฐกว่าบรรดารัตนชาติทั้งหลายที่มีอยู่ในโลก ทั้งยังเป็นธรรมชาติที่ก่อความยินดีให้เกิดแก่มนุษยโลก เทวโลก และพรหมโลก เป็นเหตุให้สำเร็จความประสงค์คือให้เกิดความสุขอยู่เสมอ เป็นประตูสู่เป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาคือ มรรค ผล นิพพาน และเป็นที่พึ่งสามารถขจัดปัดเป่าทุกข์ภัยและความสะดุ้งกลัวให้พินาศไป แห่งผู้นับถือพระพุทธศาสนาทุกคน ที่นับถือยึดเหนี่ยวจิตใจตลอดชีวิต

    พระพุทธเจ้าชื่อว่าเป็นสรณะ เพราะทรงขจัดภัยแก่สรรพสัตว์ด้วยการให้ตั้งอยู่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และป้องกันมิให้ตกอยู่ในสิ่งอันไม่เป็นประโยชน์

    พระธรรมชื่อว่าเป็นสรณะ เพราะนำผู้ปฏิบัติให้ข้ามพ้นทุกข์กันดารในภพและให้ประสบความแช่มชื่นใจอันเกิดจากการปฏิบัติ

    พระสงฆ์ ชื่อว่าเป็นสรณะ เพราะเป็นเนื้อนาบุญสามารถทำให้ผู้อุปถัมภ์บำรุงให้ได้ประสบสุขอันไพบูลย์

    แก้วมณีโชติรสสามารถส่องแสงสว่างไปในที่มืดทำให้แลเห็นวัตถุตามต้องการได้จริง แต่ส่องไปได้ในสถานที่อันจำกัดเท่านั้น ไม่สามารถส่องแสงสว่างไปถึงทิศคือพระนิพพานได้

    ผู้นับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งตลอดชีวิตย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงทั้งยังเป็นเหตุให้ได้สมบัติอย่างยิ่งคือพระนิพพานอีกด้วย พระรัตนตรัยต่างอาศัยกันและกัน

    กล่าวคือ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้พระธรรม ในขณะที่พระธรรมเป็นคำสอนอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า ส่วนพระสงฆ์เป็นพระสาวกผู้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แล้วศึกษาทรงจำและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ



    .........................................................................

    คัดลอกมาจาก
    หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31 คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด

    ที่มา ธรรมจักร

    ขอขอบคุณ mthai.com
    http://www.eduzones.com/knowledge-2-3-33609.html
     
  2. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมาก

    พระแก้ว หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย อยากให้ทุกคนถือโอกาสไปกราบพระแก้ว เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต บริเวณวัดก็สวยงามมากจนสุดจะบรรยาย เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก

    ภายในพระอุโบสถวัดพระแก้วเป็นที่ประดิษฐน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต)
    พระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ หน้าตักกว้าง ๔๘.๓ ซม. สูงตั้งแต่ฐานถึงยอดพระเศียร ๖๖ ซม. ประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระราชศรัทธาสร้างเครื่องทรงถวายเป็นพุทธบูชา สำหรับฤดูร้อนและฤดูฝน

    เครื่องทรงสำหรับฤดูร้อน เป็นเครื่องต้นประกอบด้วยมงกุฎพาหุรัด ทองกร พระสังวาล เป็นทองลงยา ประดับมณีต่างๆ จอมมงกุฎประดับด้วยเพชร

    เครื่องทรงสำหรับฤดูฝน เป็นทองคำ เป็นกาบหุ้มองค์พระอย่างห่มดอง จำหลักลายที่เรียกว่าลายพุ่มข้าวบิณฑ์ พระเศียรใช้ทองคำเป็นกาบหุ้ม ตั้งแต่ไรพระศกถึงจอมเมาฬี เม็ดพระศกลงยาสีน้ำเงินแก่ พระลักษมีทำเวียนทักษิณาวรรต ประดับมณีและลงยาให้เข้ากับเม็ดพระศก

    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างเครื่องฤดูหนาวถวายอีกชุดหนึ่ง ทำด้วยทองเป็นหลอดลงยาร้อยด้วยลวดทองเกลียว ทำให้ไหวได้ตลอดเหมือนกับผ้า ใช้คลุมทั้งสองพาหาขององค์พระ

    บุษบกทองที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สร้างด้วยไม้สลักหุ้มทองคำทั้งองค์ ฝังมณีมีค่าสีต่างๆ ทรวดทรงงดงามมาก เป็นฝีมือช่างรัชกาลที่ ๑ เดิมบุษบกนี้ตั้งอยู่บนฐานชุกชี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างพระเบญจาสามชั้นหุ้มด้วยทองคำ สลักลายวิจิตรหนุนองค์บุษบกให้สูงขึ้น บนฐานชุกชีด้านหน้า ประดิษฐานพระสัมพุทธพรรณี เป็นพระพุทธรูปที่คิดแบบขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๔ โดยไม่มีเมฬี มีรัศมีอยู่กลางพระเศียร จีวรที่ห่มคลุมองค์พระเป็นริ้ว พระกรรณเป็นแบบหูมนุษย์ธรรมดาโดยทั่วไป

    หน้าฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรฉลองพระองค์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ องค์ด้านเหนือพระนามว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ด้านใต้พระนามว่า พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระพุทธรูปทั้งสองพระองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์สูง ๓ เมตร ทรงเครื่องแบบจักรพรรดิ์หุ้มทองคำ เครื่องทรงเป็นทองคำลงยาสีประดับมณี

    อย่าลืมหาโอกาสไปกราบพระแก้วกันนะคะ ถ้าไปทางรถไปจอดรถที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองข้างกระทรวงกลาโหมก็ได้นะคะ

    ประวัติของพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวไทย(เยี่ยมมาก)

    พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือที่ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกกันว่า "พระแก้วมรกต" ซึ่งสถิตย์เป็นพระประธานคู่บ้านคู่เมือง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ปฐมบรมราชจักรีวงศ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงสร้างพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สถิตย์เป็นองค์ประธาน ณ พระอุโบสถ เมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ แรม ๑๔ ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๒๗

    พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ตามโบราณจารย์ประเพณีถือว่า พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร "พระแก้วมรกต" เป็นพระพุทธรูปที่พระอินทร์ และพระวิษณุกรรม จัดหาลูกแก้วมาสร้างองค์ เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง ๗ พระองค์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และเป็นพระประธานสำคัญในการอัญเชิญประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ของประเทศไทย

    ตำนานโดยสังเขปกล่าวว่า เมื่อพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานล่วงแล้วได้ ๕๐๐ ปี มีพระอรหันต์องค์หนึ่งนามพระนาคเสนเถรเจ้า จำพรรษาอยู่ที่วัดอโศการาม เมืองปาฏลีบุตร พระพุทธศาสนากำลังเจริญเต็มที่ในยุคนั้น พระนาคเสนได้รำพึงและประสงค์จะจัดสร้างพระพุทธปฏิมากรไว้สำหรับเป็นองค์อนุสรณ์ แทนองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ให้ผู้สืบอายุพระพุทธศาสนาไว้สักการะ บูชาแก่เทพยดาและมวลมนุษย์ จึงได้เสี่ยงทายว่า จะสร้างด้วยทองคำ หรือเงิน ก็เกรงว่าพวกมิจฉาชีพจะนำไปทำลายเสีย จะมิยั่งยืนตลอดไป ครั้นจะสร้างด้วยแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ให้เหมาะสมกับ พุทธรัตนะ ก็ยังมิทราบว่าจะหาลูกแก้วสมดังปณิธานเสี่ยงทายได้ที่ไหน และด้วยทิพยจักษ์โสตร้อนอาสน์ถึงพระอิศวร ทรงทราบความปรารถนาแห่งพระนาคเสนเถรเจ้า ที่จะสร้างพระแก้วมรกตนี้ จึงเสด็จลงมาพร้อมด้วยวิษณุกรรม และจัดนำลูกแก้วมณีโชติ ซึ่งเป็นแก้วชนิดหนึ่งซึ่งมีรัศมีรุ่งโรจน์ ที่ภูเขาวิปุละ ซึ่งกั้นเขตแดนมคธ และอยู่ด้านหนึ่งของ กรุงราชคฤห์ ประกอบด้วย

    ๑. แก้วมณีโชติ มีบริวารแวดล้อมอยู่ ๓,๐๐๐ ดวง เฉพาะแก้วมณีโชติ มีขนาดใหญ่ถึงหนึ่งอ้อมเต็ม
    ๒. แก้วไพฑูรย์ มีบริวารแวดล้อมอยู่ ๒,๐๐๐ ดวง
    ๓. แก้วมรกต มีบริวารแวดล้อมอยู่ ๑,๐๐๐ ดวง เฉพาะแก้วมรกตนี้ มีขนาดใหญ่ ๔ กำมือ ๓ นิ้ว

    แก้ววิเศษนี้ มีพวกกุมภัณฑ์ คนธรรพ์ ยักษ์มาร และเทพยดารักษาอยู่มาก พระวิษณุกรรมมิอาจที่จะไปนำลูกแก้วดังกล่าวนี้คนเดียวมาได้ จึงได้ทูลเชิญพระอิศวรเจ้าเสด็จร่วมไปด้วย เมื่อถึงเขาวิปุลบรรพตแล้ว พระอิศวรจึงแจ้งให้พวกกุมภัณฑ์ คนธรรพ์ และยักษ์ที่รักษาลูกแก้ว ทราบถึงความประสงค์ของพระนาคเสนเถรเจ้า ที่จะนำแก้วมณีโชตินี้ไปสร้างพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นอนุสรณ์แทนองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่พวกกุมภัณฑ์ คนธรรพ์ และยักษ์ทูลว่า เฉพาะลูกแก้วมณีโชตินั้นมีอิทธิฤทธิ์มาก เป็นของคู่ควรสำหรับพระมหาจักรพรรดิ์ไว้ปราบยุคเข็ญของโลกเท่านั้น ในเมื่อโลกเกิดจลาจลวุ่นวาย ซึ่งมนุษย์ในสมัยนั้นจะหมดความเคารพยำเกรงซึ่งกันและกัน ก่อการวุ่นวายขึ้น พระมหาจักรพรรดิ์จะได้ใช้แก้วมณีโชตินี้ไว้ปราบยุคเข็ญต่อไป แต่ว่าเพื่อมิให้เสียความตั้งใจและเสื่อมศรัทธา จึงขอมอบถวายลูกแก้วอีกลูกหนึ่ง ซึ่งเป็น "แก้วมรกต" รัศมีสวยงามผุดผ่อง ถวายให้ไปจัดสร้างแทน และพระอิศวรและพระวิษณุกรรม ก็นำแก้วมรกตนี้ไปถวายพระนาคเสนเถรเจ้า แล้วก็เสด็จกลับวิมาน

    พระนาคเสนเถรเจ้า เมื่อได้รับลูกแก้วมรกตแล้ว ก็รำพึงถึงช่างที่จะมาทำการสร้างพระพุทธรูปด้วยแก้วสีมรกต ให้มีพุทธลักษณะสวยงามประณีต วิษณุกรรมซึ่งเป็นนายช่างธรรมดาทราบความดำริของพระนาคเสน จึงแปลงกายเป็นมนุษย์เข้าไปหาพระนาคเสน รับอาสาสร้างพระพุทธรูปตามประสงค์ของพระนาคเสนเถรเจ้า เมื่อได้รับอนุญาตจากพระนาคเสนแล้ว วิษณุกรรมจึงลงมือสร้างพระพุทธรูปด้วยแก้วมรกตสำเร็จลงด้วยอิทธิฤทธิ์ สำเร็จภายใน ๗ วัน เนรมิตพระวิหารและเครื่องประดับ สำหรับประดิษฐานรองรับพระพุทธรูปแก้วมรกต วิษณุกรรมก็กลับไปสู่เทวโลก และพระพุทธรูปแก้วมรกตที่สร้างสำเร็จโดยช่างวิษณุกรรมนี้ มีพุทธลักษณะอันสวยงาม มีรัศมีออกเป็นสีต่างๆ หลายสีหลายชนิด ฉัพพรรณรังษีพวยพุ่งออกจากพระวรกาย เทพบุตร เทพธิดา
    ท้าวพระยาสามนตราช พระอรหันตขีณาสพ สมณะ ชีพราหมณ์ ตลอดประชาชนทั่วไปเมื่อได้เห็นพุทธลักษณะพระแก้วมรกตแล้ว ต่างก็พากันแซ่ซ้องถวายสักการะ บูชา พระนาคเสนเถรเจ้าพร้อมด้วยพวกเทพยดา นาค ครุฑ มนุษย์ กุมภัณฑ์ พากันตั้งสัตยาอธิษฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เข้าประดิษฐานในองค์พระแก้วมรกตรวม ๗ พระองค์ คือ ในพระโมฬีพระองค์หนึ่ง, ในพระนลาตพระองค์หนึ่ง, ในพระอุระพระองค์หนึ่ง, ในพระอังสาทั้งสองข้างสองพระองค์ และในพระชานุทั้งสองข้างสองพระองค์ เมื่อพระบรมสารีริกธาตุแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งเจ็ดพระองค์ เข้าไปประดิษฐานเรียบร้อยทั้ง ๗ แห่ง เนื้อแก้วมรกตแล้ว เนื้อแก้วก็ปิดสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีรอยแผลและช่องพลันก็เกิดปาฏิหาริย์ แผ่นดินไหวสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก พระพุทธรูปแก้วได้ยกฝ่าพระบาทดุจดังเสด็จลงจากแท่นประดิษฐาน เมื่อเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นดังนี้ พระนาคเสนเถระทำนายว่า พระแก้วมรกตนี้จะมิได้ประดิษฐานในเมืองปาฏลีบุตรแน่ ต้องเสด็จเที่ยวโปรดเวไนยสัตว์ในประเทศ ๕ คือ

    ๑. ลังกาทวีป ๒. ศรีอยุธยา ๓. โยนก ๔. สุวรรณภูมิ ๕. ปะมะหล

    เมื่อพระนาคเสนเถรเจ้าดับขันธ์แล้ว พระแก้วมรกตนี้ คงได้รับการปกปักรักษา สักการะ บูชาเป็นเวลาต่อมาอีก ๓๐๐ ปี เมืองปาฏลีบุตรสมัยพระสิริกิติราชดำรงเป็นประมุข เกิดจลาจลวุ่นวาย เกิดสงครามมิได้ขาด ข้าศึกต่างเมืองยกมารบกวน เสนาอำมาตย์ผู้ใหญ่ ก่อการกบฏ ราษฎร์วานิชเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า สุดที่จะทนทาน ประชาชนวานิช พร้อมใจกันพาพระแก้วมรกตพร้อมด้วยพระไตรปิฎก ลงสำเภาหนีออกจากเมืองปาฏลีบุตรไปสู่ลังกาทวีป พระแก้วมรกตจึงประดิษฐานประมาณ ๒๐๐ ปี (พระพุทธศาสนาล่วงมาได้ ๑,๐๐๐ ปี)

    ครั้นถึงสมัยเจ้าอนุรุธราชาธิราช กษัตริย์ของพุกามประเทศ (พม่า) กับพระภิกษุรูปหนึ่งลงสำเภาไปสู่ลังกาทวีป พร้อมด้วยพระสงฆ์พุกามอีก ๙ รูป อำมาตย์พุกาม ๒ คน ของพุกาม ได้ขอบรรพชาต่อพระสังฆราชลังกาทวีป พระภิกษุรูปที่เป็นหัวหน้าของพุกามชื่อพระศีลขัณฑ์ ร่วมมือกันสังคายนาพระไตรปิฎกและคัมภีร์สัธทาวิเศษเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะกลับพุกาม ได้ทูลขอ "พระแก้วมรกต" ต่อประมุขของกรุงลังกาทวีป พระองค์จนพระทัย จึงต้องมอบพระแก้วมรกตให้กับกษัตริย์กรุงพุกามไป ทำความเศร้าโศกเสียใจให้กับชาวเมืองปาฏลีบุตรทั่วลังกาทวีป

    เมื่อกษัตริย์กรุงพุกามได้รับพระแก้วมรกตเรียบร้อยแล้ว จึงจัดขบวนเรือสำเภาอัญเชิญพระแก้วมรกตลงสำเภาสองลำ แต่เมื่อสำเภาแล่นมาในทะเล สำเภาที่อัญเชิญพระแก้วมรกต เกิดพลัดหลงทางไปสู่เมืองอินทปัตถ์พร้อมทั้งพระไตรปิฎก พระเจ้ากรุงพุกามเสียพระทัยมาก เพราะตั้งพระทัยไว้ว่า จะจัดเฉลิมฉลองสมโภชเป็นการใหญ่ในกรุงพุกาม เมื่อเหตุการณ์กลับกลายไป จึงปลอมพระองค์เป็นราษฎรสามัญไปสู่กรุงอินทปัตถ์ เพื่อสืบหาเรือสำเภาที่อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระไตรปิฎก และขอพระแก้วมรกตคืนจากพระเจ้ากรุงอินทปัตถ์ พระเจ้ากรุงอินทปัตถ์ก็ไม่ยอมคืนให้ เพราะถือว่าเป็นบุญญาธิการของพระองค์ ที่พระแก้วมรกตได้เสด็จมาสู่กรุงอินทปัตถ์ พระเจ้ากรุงพุกามทรงพิโรธมาก ดำริจะปลงพระชนม์พระเจ้ากรุงอินทปัตถ์ ก็เกรงว่าบาปกรรมจะติดตามตัวต่อไปภายภาคหน้า จึงแสดงอภินิหาริย์ให้ชาวอินทปัตถ์เห็น โดยเอาไม้มาทำเป็นดาบ ทาด้วยฝุ่นดำแล้วก็เหาะขึ้นไปในอากาศวนรอบเมืองอินทปัตถ์ ๓ ครั้ง สะกดพระเจ้ากรุงอินทปัตถ์และคนหลับทั้งเมือง แล้วเสด็จเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง เอาดาบที่ทำด้วยไม้ขีดไว้ที่พระศอของพระเจ้ากรุงอินทปัตถ์และมเหสี ตลอดจนเสนาบดีผู้ใหญ่ และตรัสขู่ว่า หากไม่คืนสำเภาที่อัญเชิญพระไตรปิฎกและพระแก้วมรกตให้แล้ว วันรุ่งขึ้นจะบั่นเศียรให้หมดทุกคน พระเจ้ากรุงอินทปัตถ์และมเหสีทรงทราบเรื่อง และพิสูจน์รอยฝุ่นดำที่พระศอ ก็พบว่ามีรอยฝุ่นดำจริงตามดำรัสของพระเจ้ากรุงพุกาม มีความหวั่นเกรงต่อชีวิตของพระองค์และราชบริพารเป็นอันมาก ให้อำมาตย์ ๒ คน กราบทูลพระเจ้ากรุงพุกามทราบว่า หากเป็นสำเภาอัญเชิญพระไตรปิฎกและพระแก้วมรกตของพุกามจริง ก็จะจัดถวายส่งคืนให้ ขอให้พระเจ้ากรุงพุกามเสด็จกลับยังกรุงพุกามก่อน พระเจ้ากรุงพุกามก็ยินยอม

    กาลต่อมา เมื่อสำเภาลำที่หายไปก็มาถึงกรุงพุกาม ตรวจสอบแล้วมีแต่พระไตรปิฎกอย่างเดียว หามีพระแก้วมรกตไม่ พระเจ้ากรุงพุกามทรงทราบดีว่า พระเจ้ากรุงอินทปัตถ์มีพระประสงค์จะได้พระแก้วมรกตไว้สักการะ บูชาในกรุงอินทปัตถ์ พระเจ้ากรุงพุกามก็มิได้คิดอะไรอีก พระแก้วมรกตนี้ได้ตกอยู่
    ในกรุงอินทปัตถ์มาช้านานจนรัชสมัยพระเจ้าเสนกราช พระองค์มีพระราชโอรสองค์หนึ่ง สนพระทัยเที่ยวจับแมลงวันหัวเขียวมาเลี้ยงไว้ และบุตรชายของปุโรหิตคนหนึ่งชอบเล่นแมลงวันหัวเสือ ต่อมาแมลงวันหัวเสือของบุตรชายปุโรหิตกัดแมลงวันหัวเขียวของราชโอรสตาย พระราชโอรสเสียพระทัยและฟ้องพระเจ้าเสนกราชผู้บิดา จนมีรับสั่งให้นำบุตรชายของปุโรหิตไปผูกให้จมน้ำตาย ปุโรหิตผู้พ่อพร้อมด้วยภรรยาพาบุตรชายหนีออกจากเมือง เพราะเห็นว่าพระเจ้าเสนกราชปราศจากความยุติธรรม เอาแต่พระทัยตนเอง พญานาคราชก็โกรธพระเจ้าเสนกราชที่อยุติธรรม ที่สั่งให้เอาบุตรปุโรหิตไปผูกมัดเพื่อให้จมน้ำตาย จึงบันดาลให้น้ำท่วมเมืองอินทปัตถ์ เป็นที่ระส่ำระสายแก่ประชาราษฎร์ยิ่งนัก มีพระเถระรูปหนึ่งไม่ปรากฏนาม ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตพร้อมด้วยคนรักษา หนีภัยแล่นเรือไปทางทิศเหนือของเมืองอินทปัตถ์

    ในราชอาณาจักรไทยขณะนั้น กรุงศรีอยุธยา กษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงพระนามว่า พระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงทราบว่ากรุงอินทปัตถ์เกิดกุลียุค น้ำท่วมบ้านเมืองเสียหาย ผู้คนล้มตายมาก ทรงพระวิตกถึงพระแก้วมรกตจะอันตรธานสูญหายไป จึงจัดทัพไปรับพระแก้วมรกตอัญเชิญลงสำเภา พร้อมกับคนรักษากลับสู่กรุงศรีอยุธยา เมื่อมาถึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตประดิษฐานในมหาเวชยันต์ปราสาท ประดับตกแต่งด้วยเครื่องสักการะอันประณีต จัดการฉลองสมโภชเป็นการใหญ่ พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาและประชาราษฎร์ได้ถวายสักการะพระแก้วมรกตตลอดมา และต่อมา พระยากำแพงเพชรได้ลงมากรุงศรีอยุธยา กราบทูลขอพระแก้วมรกตไปสักการะ ณ เมืองกำแพงเพชร ต่อมาโอรสพระองค์หนึ่งมีชนมายุเจริญวัย โปรดให้ไปครองกรุงละโว้ ระลึกถึงพระแก้วมรกตได้ ปรารถนาอยากได้พระแก้วมรกตไว้สักการะ บูชา จึงทูลขอต่อพระมารดา พระมารดามีความรักพระโอรสขัดไม่ได้ จึงทูลขอต่อพระสามี ก็ได้รับอนุญาตให้อัญเชิญไปได้ แต่ให้ไปเลือกเอาเอง เพราะประดิษฐานรวมกับพระแก้วองค์อื่นๆ อีกหลายองค์ พระมารดาและโอรสไม่ทราบว่าพระแก้วมรกตองค์ไหนเป็นองค์ที่แท้จริง จึงให้ไปหาคนเฝ้าประตูรับสั่งคนเฝ้าประตูและให้สินบนช่วยชี้แจง คนเฝ้าประตูรับว่า จะนำดอกไม้สีแดงไปวางไว้บนพระหัตถ์พระแก้วมรกตองค์ที่แท้จริงให้ พระโอรสได้พระแก้วมรกตสักการะ บูชาไว้ ณ เมืองละโว้ เป็นเวลา ๑ ปี ๙ เดือน ก็ต้องอัญเชิญพระแก้วมรกตกลับเมืองกำแพงเพชรตามข้อตกลง

    ในขณะนั้น พ.ศ.๑๙๗๗ พระเจ้าพรหมทัตเจ้าเมืองเชียงราย ทรงทราบว่า พระยากำแพงเพชรผู้ทรงเป็นสหายมีพระแก้วไว้สักการะ บูชา ก็ปรารถนาอยากได้สักการะ บูชาบ้าง จึงจัดขบวนรี้พลสู่เมืองกำแพงเพชร พระปิยะสหาย ทูลขออาราธนาพระแก้วมรกตสู่เมืองเชียงราย เมื่อได้แล้วก็ดีพระทัย จัดขบวนเดินทางกลับไปสมโภช ณ เมืองเชียงรายเป็นนิจ ต่อมาเจ้าเมืองเชียงรายเกรงว่าเมื่อเกิดสงครามขึ้น จะเป็นอันตรายต่อพระแก้วมรกต หวังจะซ่อนเร้นมิให้ศัตรูปัจจามิตรทราบ จึงสั่งให้เอาปูนทาลงรักปิดทองบรรจุเสียมิดชิด ดูประดุจพระพุทธรูปศิลาสามัญ

    ลำดับต่อมา พระสถูปเจดีย์ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตถูกอสุนีบาตพังทลายลง ชาวเมืองจึงอัญเชิญไปประดิษฐานยังวิหารวัดแห่งหนึ่ง ครั้นต่อมาปูนที่พอกไว้ตรงพระนาสิกกะเทาะออก เห็นแก้วสีเขียว เจ้าอธิการและพระสงฆ์ในวัดนั้น จึงกะเทาะเอาปูนออกเห็นเป็นพระแก้วทึบทั้งองค์ บริสุทธิ์ดี มีรัศมีสุกใสสกาวไม่มีรอยบุบสลายเลย ราษฎรเมืองเชียงรายและหัวเมืองใกล้เคียง จึงพากันไปถวายสักการะมิได้ขาดสาย ความได้ทราบถึงพระเจ้าเมืองเชียงใหม่ จัดขบวนรี้พลช้างม้าเดินทางไปอัญเชิญพระแก้วมรกตสู่นครเชียงใหม่ ครั้นขบวนแห่อัญเชิญมาถึงทางแยกที่จะไปนครลำปางช้างที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ก็พาพระแก้วมรกตวิ่งเตลิดไปทางนครลำปาง ควาญช้างได้ปลอบโยนให้หายจากความตื่น ช้างเชือกนั้นก็วิ่งเตลิดพาพระแก้วมรกต กลับหลังวิ่งไปทางนครลำปางอีก ควาญช้างได้พยายามเปลี่ยนช้างเชือกใหม่อีก ช้างตัวใหม่ก็วิ่งไปทางนครลำปางอีก ควาญช้างได้พยายามเล้าโลมเอาอกเอาใจอย่างไร เพื่อจะให้ช้างเดินทางไปนครเชียงใหม่ก็ไม่สำเร็จอีก ท้าวพระยาตลอดจนประชาชนในขบวนแห่พระแก้วมรกต เห็นประสบเหตุการณ์เช่นนั้น จึงส่งใบบอกไปยังพระเจ้าสามแกนเจ้านครเชียงใหม่ให้ทรงทราบ พระเจ้าเชียงใหม่มีความเลื่อมใสพระแก้วมรกตมาก แต่ก็กริ่งเกรงในพุทธานุภาพพระแก้วมรกต และถือโชคลาง เพราะที่ช้างไม่ยอมเดินทางไปนครเชียงใหม่นั้น คงเป็นด้วยพุทธานุภาพของพระแก้วมรกตไม่ยอมเสด็จมาอยู่เชียงใหม่ จึงอนุโลมให้พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ ณ นครลำปาง

    ต่อมา พ.ศ.๒๐๑๑ พระเจ้าติโลกราช เจ้านครเชียงใหม่ เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงอานุภาพมาก ทรงพิจารณาว่า พระแก้วมรกตเป็นสมบัติอันล้ำค่า ไม่สมควรที่จะประดิษฐานอยู่ที่นครลำปางอีกต่อไป จึงได้อาราธนาอัญเชิญพระแก้วมรกตมายังนครเชียงใหม่ แล้วจัดสร้างพระอารามราชกูฏเจดีย์ถวาย พระเจ้าเชียงใหม่สร้างวิหารให้เป็นปราสาทมียอด แต่ก็หาสมปรารถนาไม่ เพราะอสุนีบาตทำลายหลายครั้งและพระแก้วมรกตได้ประดิษฐานอยู่ ณ นครเชียงใหม่นานถึง ๘๔ ปี

    ครั้นพระเจ้าเชียงใหม่ซึ่งเป็นพระราชบิดานางหอสูง เสด็จสวรรคต เมืองเชียงใหม่ไม่มีกษัตริย์จะครองราชย์ ท้าวพระยาเสนาบดีและสมณะ ชีพราหมณ์ จึงพร้อมกันแต่งตั้งราชฑูต พร้อมด้วยเครื่องราชบรรณาการไปขอเจ้าราชโอรส อันเกิดจากนางหอสูง มาครองราชสมบัติแทนพระอัยกาต่อไป พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตทรงทราบ จึงโปรดให้เสนาบดีแต่งจตุรงคเสนาพาเจ้าไชยเชษฐา ซึ่งมีพระชนมายุ ๑๒ พรรษา ขึ้นไปกระทำพิธีราชาภิเษกตามประเพณี ครองราชสมบัติ ณ นครเชียงใหม่ ทรงนามว่าพระเจ้าศรีไชยเชษฐาธิราช เจ้านครเชียงใหม่ เมื่อเสร็จการราชพิธีราชาภิเษกแล้ว พระเจ้าโพธิสารก็เสด็จกลับคืนมายังกรุงศรีสัตนาคนหุตได้ ๓ ปี ก็สวรรคต เสนาบดีพฤฒามาตย์ผู้ใหญ่ ตลอดจนสมณะ ชีพราหมณ์เห็นว่า ถ้าให้ราชโอรสองค์อื่นครองราชสมบัติ ก็คงจะเกิดแก่งแย่งสมบัติกันขึ้น จึงพร้อมใจกันอัญเชิญพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ขึ้นครองราชสมบัติอีกเมืองหนึ่ง พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงเสด็จมาประทับยังกรุงศรีสัตนาคนหุต ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาด้วย เพื่อให้พระราชวงศ์และประชาราษฎร์ได้กราบไหว้นมัสการ บางโอกาสเสด็จมาประทับกรุงศรีสัตนาคนหุตเป็นเวลาช้านาน ทำให้ชาวเมืองเชียงใหม่คิดว่า พระองค์คงจะไม่เสด็จกลับไปครองเมืองเชียงใหม่ จึงได้อัญเชิญเชื้อพระวงศ์ขึ้นครองราชย์แทน ทำให้พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงพระพิโรธมาก กรีฑาทัพยกไปจะตีเมืองเชียงใหม่ แต่พระเจ้าสุทธิวงศ์ทรงทราบข่าวศึกเกรงพระเดชานุภาพ จึงแต่งพระราชสาส์นเครื่องมงคลราชบรรณาการ พร้อมด้วยสาวพรหมจารี ๑๒ คน เลือกเฟ้นเอาที่มีสิริโฉมงดงาม ส่งไปถวายพระเจ้ากรุงอังวะ ขอกองทัพพม่ารักษาเมือง พระเจ้ากรุงอังวะได้โปรดให้ยกกองทัพไปช่วยเมืองเชียงใหม่ เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเห็นว่า จะทำศึกกับเชียงใหม่ ก็เหมือนกับทำศึกกับพม่า จะทำให้เสียไพร่พลตลอดจนเสบียงอาหาร ไม่ชอบด้วยทศพิธราชธรรม และเกรงว่าจะสู้ทัพข้าศึกมิได้ จึงสั่งให้ถอยทัพ พร้อมด้วยอัญเชิญพระแก้วมรกตมาอยู่ในเมืองหลวงพระบาง ๑๒ ปี

    ลุถึง พ.ศ.๒๑๐๗ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เจ้าเมืองมอญ กำลังเรืองอำนาจ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเห็นว่าจะสู้มอญไม่ได้ จึงมีดำรัสแก่อนุชาทั้งสองและอำมาตย์แสนท้าวพระยาลาวทั้งปวงว่า ที่ตั้งกรุงศรีสัตนาคนหุตนี้ เป็นถิ่นที่ดอนใกล้ภูเขาใหญ่ ชัยภูมิไม่เหมาะสมจะเป็นราชธานีของพระมหากษัตริย์ เห็นควรอพยพครอบครัวไปสร้างพระนครใหม่ อยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ อันเป็นชัยภูมิอันสมบูรณ์ด้วยภักษาผลาหาร ใกล้กับฝั่งแม่น้ำยิ่งกว่ากรุงศรีสัตนาคนหุต เมื่อดำริต้องกันทั้งสามพระองค์แล้ว จึงได้สร้างเมืองเวียงจันทน์ขึ้นใหม่ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เองในเมืองเวียงจันทน์ และได้อาราธนาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มาประดิษฐานไว้ในปราสาท แต่นั้นต่อมาอีก ๒๑๔ ปี

    ครั้นถึง พ.ศ.๒๓๒๑ พระเจ้าตากสิน เมื่อครั้งเป็นพระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร ขึ้นแก่กรุงศรีอยุธยา ให้รวบรวมไพร่พลที่เหลือจากพม่าโจมตี ตั้งตัวเป็นมหากษัตริย์สืบวงศ์สยาม ตั้งกรุงธนบุรีหัวเมืองชายทะเลขึ้นเป็นพระมหานคร ได้ยกทัพไปตีกรุงศรีสัตนาคนหุต เพื่อประสงค์จะแผ่พระเกียรติยศให้ยิ่งใหญ่ไพศาล และขยายขอบเขตขันธเสมาอาณาจักรให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยให้สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก ขึ้นไปตีกรุงศรีสัตนาคนหุต

    เมื่อได้เมืองเวียงจันทน์แล้วได้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต กับพระบาง ขึ้นคานหามมายับยั้งอยู่เมืองสระบุรี แล้วแจ้งข้อราชการมีชัยชนะศึก ตลอดจนได้อัญเชิญพระพุทธปฏิมากรพระแก้วมรกตนั่ง และพระพุทธปฏิมากรยืนชื่อพระบางมาด้วย เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทราบ ทรงเลื่อมใสศรัทธาปสาทะ ให้ราชบุรุษอาราธนาพระสังฆราชและพระราชาคณะฐานานุกรมเปรียญทั้งปวง จัดกำลังเรือและฝีพายให้ขึ้นไปรับพระแก้วมรกตและพระบางมายังกรุงธนบุรี โดยให้เรือพระที่นั่งศรี เป็นเรือพระรับพระแก้วมรกต และเรือที่นั่งกราบรับพระบาง พร้อมด้วยเรือชัยต่างๆ เรือตั้งกัน ๑๖ คู่ เรือรูปสัตว์ ๑๐ คู่ มีเรือเครื่องสูงเศวตฉัตรกลองชนะมโหระทึก ดนตรีประจำทุกลำ แห่ล่องมาเป็นขบวนพยุหยาตรานาวาจนถึงกรุงธนบุรี เชิญพระแก้วมรกตและพระบางประดิษฐานไว้ในโรงภายในพระราชวัง ซึ่งปลูกไว้ริมพระอุโบสถวัดแจ้ง ตั้งเครื่องสักการะ บูชา เป็นมโหฬารดิเรกด้วยเงิน ทอง แก้ว บูชาพระไตรยาธิคุณ และโปรดให้มีการถวายพระพุทธสมโภช มีมหกรรมมหรสพฉลอง เวลากลางคืนจุดดอกไม้เพลิงทุกคืนตลอด ๗ วัน ๗ คืน

    ครั้นสิ้นรัชกาลพระเจ้ากรุงธนบุรีแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ณ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อปีขาล พ.ศ. ๒๓๒๕ โปรดให้สร้างพระอารามขึ้นในพระบรมมหาราชวัง ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร

    ครั้นพระอุโบสถสร้างเสร็จแล้วจึงให้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ แรม ๑๔ ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๒๗

    http://blog.hunsa.com/bambam6335
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2007
  3. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    ผมขอจองแก้วจักรพรรดิดวงที่3ครับ ประมาณก่อนที่ยงวันนี้จะโอนเงินไปให้ครับผม....

    อานุภาพ สหภิญโญชนม์
    17/21 ม.8 ถ.เพชรเกษม
    ต.อ้อมใหญ่ อ.เมือง นครปฐม 73160
     
  4. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ครับผม...จัดให้ครับ...แก้วจักรพรรดิ์หรือแก้วมณีโชติรส...จะมาถึงบ้านผมพรุ่งนี้ครับ...แล้วจะได้จัดส่งให้ในวันจันทร์ครับ...เพราะพรุ่งนี้วันเสาร์.../ ส่วนดวงที่ 4 ที่เป็นดวงใหญ่กว่านั้น...จอมมารยูจิโร่ ที่อยู่ญี่ปุ่นจองไว้เมื่อ 6 เดือนก่อนครับ...ผมคงต้องหาใหม่เพิ่มเติมครับ...ไม่รู้ว่าจะมีแก้วใสๆและมีพลังแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า...ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปล่ะครับ...
     
  5. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    อืม...วันนี้จัดส่งไหลน้ำพี้ให้กับมิตรรักแฟนเพลงดังต่อไปนี้ฟรีๆครับ.../ คุณดราก้อนหลอด /คุณ ปิง / คุณสุเชษฐ์ / คุณ บ๊ะจ่าง / คุณ ตุ๊กตาแก้ว / พี่ปราชญ์ / พี่ต๊ะ / พี่หมู / คุณ จ๊อง กับคุณ นัท / คุณ หนิง / คุณ บีมจัง / คุณ เอจัง / เจ๊กัง...ผมให้หินบำบัดไปครับ / ส่วนท่านที่เหลือ จะแจกฟรีในรอบต่อไปครับ / ส่วนคุณ ธัญญธรณ์ ผมจัดส่งแก้วจักรพรรดิ์มาให้แล้วครับ จะถึงวันจันทร์ ส่วนแหวนไหลน้ำพี้นั้น อีก ไม่เกิน 10 วันครับ /ส่วนคุณ ฮิปโปโป วันจันทร์จะจัดส่งซีดีเพลงธรรมมะมาให้ครับผม /
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2007
  6. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    อนุโมทนา ครับ

    --แก้ว --- / ...สวยงาม ดี ครับ

    วันก่อน ผมขึ้น แสวงบุญ ทางเชียงใหม่ ครับ

    14-15 นี้ ไปโคราช

    16-17 เข้าถ้ำ (ปฏิหารย์ ) แถวๆ วาริน อุบลฯ ครับ

    ภูเก็ต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2007
  7. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ครับ...ถ้าผมมีโอกาสมาภูเก็ต...จะบอกล่วงหน้านะครับ...แต่ตอนนี้ยังไม่อยากไปอ่ะ...บ้านพักลุงผม...ญาติผมเอาแรงงานพม่าที่ลงทะเบียนแล้วมาอยุ่เต็มบ้านเลย...555...บ้านลุงผมอยุ่แถวๆ...โรงพยบาล กรุงเทพ-ภูเก้ต..แถวๆๆ ไดรี่ฮัต ครับ...
     
  8. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    วันนี้ได้แก้วดวงที่ 2 และดวงที่ 3 มาแล้วครับ..เดี๋ยวจะเอาไปถ่ายรูปและ จะทำการจัดส่งได้ในวันจันทร์นี้ครับ...
     
  9. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อัปปมาทวรรคที่ ๒

    ๒. อัปปมาทวรรควรรณนา
    ๑. เรื่องพระนางสามาวดี [๑๕]
    ข้อความเบื้องต้น
    พระศาสดา เมื่ออาศัยกรุงโกสัมพี ประทับอยู่ที่โฆสิตาราม ทรงปรารภความวอดวายคือมรณะ ของหญิง ๕๐๐ มีพระนางสามาวดีเป็นประธาน และของญาติ ๕๐๐ ของพระนางมาคันทิยานั้น ซึ่งมีนางมาคันทิยาเป็นประธาน
    จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มิถุนายน 2007
  10. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    มาแล้วครับ...แก้วมณีโชติรส ดวงที่ 2และดวงที่ 3 เดี๋ยววันจันทร์จะได้จัดส่งให้...สวยมากทีเดียวครับ อิอิอิ ^_^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ไหลน้ำพี้แหวนมหัศจรรย์ครองพิภพ

    รับทำเป็นแหวนด้วยครับ...สำหรับไหลน้ำพี้หรือเพชรน้ำพี้...แหวนผู้หญิง วงละ 800 บาทครับ แหวนผู้ชาย วง ละ 1000 บาท แถมให้อีก 5 เม็ด ตัวเรือนจะเป็นแหวนเงินครับ...ไหลน้ำพี้ เรียกอีกอย่างว่า เหล็กไหลแก้วหรือเหล็กไหลจ้าวป่า นั่นเองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กรกฎาคม 2007
  12. ราตรี

    ราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +409
    แหวนไหลน้ำพี้สวยมากค่ะ ขอจองแหวนผู้หญิงหนึ่งวงค่ะ พรุ่งนี้จะโอนเงินไปให้ แล้วจะเมลบอกอีกทีนะค่ะ ที่อยู่ ราตรี สุวรรณดำรงชัย
    14/5 แม่สาบ้านดอย ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180
    จะโอนให้ตอนบ่ายของวันพรุ่งนี้ค่ะ
     
  13. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915

    ครับผม..จะรีบดำเนินการจัดทำให้ครับ...ไม่เกิน 10-12 วันก็ได้รับครับ...และอยุ่จังหวัดใกล้ๆกัน ส่งแป๊บเดียวถึงครับ อิอิอิ...^_^ แถมไหลน้ำพี้ให้อีก 5 เม็ดครับ /หนังสือธรรมะ 1เล่ม / พอดีวันนี้ไปซื้อหนังสือธรรมะและแก้วบริวารของแก้วจัรพรรดิ์มาครับ...
     
  14. หน้ากากเสือ

    หน้ากากเสือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +2,032
    คุณพ่อมดโลจิ ขอดูภาพขยายของแหวนไหลหน่อยได้ไหมครับ ภาพมองไม่เห็นรายละเอียดข้างในหินอ่ะครับ เห็นมีสีเขียวด้วย
     
  15. หน้ากากเสือ

    หน้ากากเสือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +2,032
    เป็นพวกเดียวกับโป่งข่ามหรือเปล่าครับ คือมีซากพืชอยู่ในหินใช่ไหมครับ
     
  16. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ครับผมคุณหน้ากากเสือ...ไหลน้ำพี้มีสีเขียวด้วยครับ...และเป็นคนละชนิดกันกับโป่งข่ามครับ...โป่งข่ามนั้นเป็นแก้วที่อยู่ในดินตามธรรมชาติที่ชาวบ้านไปขุดมาจากใต้ดินลึกลงไปประมาณ 1-2 เมตร ครับ/ ส่วนไหลน้ำพี้เป็นแร่กายสิทธิ์ที่อยุ่ในหินบ้านน้ำพี้ครับผม...คนที่ทำไหลน้ำพี้ออกมาได้นั้นต้องมีวิชาแก่กล้าครับ...ไม่อย่างนั้นไหลน้ำพี้จะแตกหมดครับไม่สามารถทำให้เป้นเม็ดกลมๆครึ่งซีกได้ครับ...และผ่านการปลุกเสกมาจากพระที่วัดน้ำพี้เรียบร้อยแล้ว...และก็มาประจุพลังอีกทีที่ผมครับ...และขั้นตอนสุดท้ายก็เจ้าของผู้ครอบครองสามารถใส่กระแสจิตลงไปในไหลน้ำพี้ได้เองครับ...เพราะถือว่าเป้นการสวดมนต์ไปในตัวด้วยครับผม /

    รูปไหลน้ำพี้ที่มีหลากสีครับเดี๋ยวในอานคตผมจะเอาตัวที่เป็นแร่มาให้ดูเลยครับว่าไหลน้ำพี้ที่เป้นแร่ยังไม่หลอมนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไรครับ ^_^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    นิ๊งหน่อง นิ๊งหน่อง ....ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ...มาบัดนี้...แก้วมณีโชติรส ได้มาอีก 11 ดวงครับผม...ดวงเท่าลูกมะนาวมีคนจองแล้ว 2 ครับ...ส่วนดวงโตๆผมเอาไว้เองครับ 555 เพราะดวงโตๆดวงก่อนให้ จอมมารยูจิโร่ ครับ...ดังนั้นจึงเหลืออยู่ 8 ดวงครับทั่น...แถมแก้วบริวาร 10 ดวงและไหลน้ำพี้ 5 เม็ด และหนังสือธรรมะ 1 เล่ม ให้ครับผม...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กรกฎาคม 2007
  18. ราตรี

    ราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +409
    ได้ทำการโอนเงินให้แล้วนะค่ะ 850 บาทค่ะ ช่วยค่าส่งค่ะ ที่อยู่ลืมเขียนเลขที่หมู่บ้านค่ะ หมู่2 นะค่ะ หัวแหวนขอสีเข้มหน่อยนะค่ะ และขอขอบพระคุณสำหรับของแถมค่ะ
     
  19. ราตรี

    ราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +409
    ได้ทำการโอนเงินให้แล้วค่ะ 02/07/07 :14:40 =850 ช่วยค่าส่ง50นะค่ะ
    ที่อยู่ลืมเขียนเลขที่หมู่บ้านค่ะ ( หมู่2) นะค่ะ หัวแหวนขอเป็นสีเข้มเหมือนรูปแรกนะค่ะ และขอขอบพระคุณสำหรับของแถมมากค่ะ
     
  20. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915

    ครับผม...ผมจะได้ไหลน้ำพี้มาเพิ่มเติมครับ..ผมขอขนาดรอบนิ้วด้วยครับ...เอาเชือกเส้นเล็กๆ...รอบนิ้วมือแล้วเอาออกมาวัดว่าได้ยาวกี่เซ็นติเมตรครับ...และแหวนนี้ก็สามารถยืดได้หดได้ด้วยครับ...ถ้าหลวมก็หดเข้า ถ้าคับนิ้วไปก็ยืดออกได้...
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...