เเจกความรู้เรื่องยาสมุนไพร ทุกขนานครับ

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย ไร้หนทาง, 7 มกราคม 2013.

  1. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กระทือ ชื่ออื่น : กระทือป่า กะแวน กะแอน แสมดำ แฮวดำ เฮียวดำ (ภาคเหนือ) เฮียวแดง (แม่ฮ่องสอน)
    สรรพคุณ l กระทือ : สมุนไพร กลุ่มยาแก้บิด ท้องเดิน ท้องร่วง โรคกระเพาะ

    * ราก - แก้ไข้ตัวเย็น แก้ไข้ต่างๆ แก้ไข้ตัวร้อน แก้เคล็ดขัดยอก
    * เหง้า
    - บำรุงน้ำนม แก้ปวดมวนในท้อง แก้บิด บิดป่วงเบ่ง
    - แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง ขับผายลม ขับปัสสาวะ
    - แก้จุกเสียด แก้เสมหะเป็นพิษ
    - ขับน้ำย่อย เจริญอาหาร
    - เป็นยาบำรุงกำลัง
    - แก้ฝี
    * ต้น
    - แก้เบื่ออาหาร ช่วยเจริญอาหาร ทำให้รับประทานอาหารมีรส
    - แก้ไข้
    * ใบ
    - ขับเลือดเน่าร้ายในเรือนไฟ
    - แก้เบาเป็นโลหิต
    * ดอก
    - แก้ไข้เรื้อรัง
    - ผอมแห้ง ผอมเหลือง
    - บำรุงธาตุ แก้ลม

    วิธีและปริมาณที่ใช้ l กระทือ : สมุนไพร กลุ่มยาแก้บิด ท้องเดิน ท้องร่วง โรคกระเพาะ

    * รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด และปวดท้อง บิด
    โดยใช้หัวหรือเหง้ากระทือสด ขนาดเท่าหัวแม่มือ 2 หัว (ประมาณ 20 กรัม) ย่างไฟพอสุก ตำกับน้ำปูนใสครึ่งแก้ว คั้นเอาน้ำดื่มเวลามีอาการ
    บางท้องถิ่นใช้หัวกระทือประกอบอาหาร เนื้อในมีรสขมและขื่นเล็กน้อย ต้องหั่นแล้วขยำกับน้ำเกลือนานๆ
    กระทือเป็นพืชที่มีสารอาหารน้อย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8_012.jpg
      8_012.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.6 KB
      เปิดดู:
      710
    • Image10.jpg
      Image10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68 KB
      เปิดดู:
      641
    • images1.jpg
      images1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14.8 KB
      เปิดดู:
      109
  2. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กระทืบยอด
    ชื่ออื่นๆ
    กะทืบยอด กะทืบยอด (ภาคกลาง); จิยอบต้นตาล (ภาคเหนือ); นกเขาเง้า (โคราช); ทืบยอด (สุราษฎร์); เนี้นซัวเช้า (จีน)

    ลำต้น เป็นยาแก้ดับพิษร้อนภายใน แก้ปัสสาวะพิการ แก้ไข้ แก้กาฬ แก้สะอึก ใช้ถอนพิษเบื่อเมา วิธีใช้โดย การนำมาต้มเอาน้ำดื่ม
    - ราก แก้โรคหนองใน แก้นิ่ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กระทุงหมาบ้า
    ชื่ออื่น ๆ : ผักอ้วนหมู เครือเขาหมู(ภาคเหนือ);กะทุงหมาบ้า คันชุน สุนัขบ้า(ภาคกลาง); มวนหูกวาง(เพชรบุรี); เถาวัน(ปักษ์ใต้)

    สรรพคุณ: ลำต้น แก้โรคตา แก้หวัด ทำให้จาม พิษงูกัด ใบ แก้แผลที่ถูกน้ำร้อนลวกแก้บวม แก้ฝี วิธีใช้โดยการนำใบสด มาตำให้ละเอียดแล้ใช้ทา รากทำให้อาเจียน ขับพิษร้อน กระทุ้งพิษ พิษฝี พิษไข้หัว ไข้กาฬแก้ปัสสาวะพิการ แก้พิษน้ำดีกำเริบ ช่วยให้นอนหลับ ผลเป็นยารักษาโรคให้สัตว์ เถา เป็นยาเย็นขับปัสสาวะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20120706173714.jpg
      20120706173714.jpg
      ขนาดไฟล์:
      185.1 KB
      เปิดดู:
      172
    • 42_.jpg
      42_.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.3 KB
      เปิดดู:
      217
  4. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กระเบาน้ำ
    ชื่ออื่นๆ : กะเบาข้าวแข็ง กะเบาข้าวเหนียว กะเบา กะเบาเบ้าแข็ง (ภาคกลาง) มะกูลอ กะตงคง (ลาว-เชียงใหม่) กะดงเบา (ลำปาง) กะเบาใหญ่ (นครราชสีมา) เบา กูลา (ปัตตานี) หัวค่าง (ประจวบ) กะเบาตึกกะเบาดึก กราเบา (เขมร) ตั้วโฮ่งจี๊ (จีน)

    สรรพคุณ l กระเบาน้ำ : สมุนไพร กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน

    เนื้อไม้ ใช้เป็นวัสดุในการก่อสร้างต่าง ๆ
    เนื้อในของผล ใช้เป็นอาหาร
    เมล็ด ในเมล็ดจะมีน้ำมัน ซึ่งเรียกว่า Chaulmoogra Oil และจะมีสารจำพวก glycerides อยู่ เช่น oleicacid, hydnocarpic acid, palmatic acid, chaulmoogric acid น้ำมันในเมล็ดใช้ แก้โรคผิวหนัง ได้ทุกประเภท วิธีใช้ โดยการเอาสัก ๕-๑๐ เมล็ด นำมาแกะเปลือกออก ตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืชลงไปพอควร คลุกเข้ากัน จากนั้นก็เอามาผิวหนังได้ แก้โรคเรื้อน วิธีใช้ โดยการนำเอาน้ำมันจากเมล็ด ๓ มล. น้ำเชื่อม ๔๐ มล. น้ำนมอุ่น ๓๐ มล. น้ำ ๑๖๐ มล. ผสมเข้ากัน กินวันละ ๓ เวลา หลังอาหาร หรือไม่ก็ใช้น้ำมันจากเมล็ดฉีดเข้าผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อ ซึมผ่านแผล (direct infusion) เลย ในครั้งแรกใช้ ๑.๕ มล. ต่อมา ๑ มล. ในอาทิตย์ละครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นน้ำมันใส่ผม รักษาโรคบนศีรษะ คุดทะราด แก้มะเร็ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กระเพรา

    ชื่อที่เรียก : ทั่วไปเรียก กระเพรา กระเพราขาว ทางภาคเหนือเรียก กอมก้อ

    สรรพคุณ : ใช้เป็นยาตั้งธาตุ แก้ปวดท้อง แก้ท้องขึ้น แก้ท้องเฟ้อ แก้ธาตุพิการ ใช้ปรุงเป็นยาขับลมในลำไส้ แก้ลมตานทราง ทำให้ขับผายลมทำให้เรอ แก้ลมจุกเสียดในท้อง แก้ท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อ กระเพรา นี้เป็นสมุนไพรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้ในการรักษาโรคของเด็กเล็กๆเป็นอย่างมากถ้าจะปรุงเป็นยาผงจะใช้แต่ใบของมันเท่านั้นแต่ถ้าจะปรุงเป็นยาต้มจะใช้ทั้งต้น กระเพรานี้ถ้าใช้สัก 3-5 ใบขยี้หรือบดให้ละเอียดผสมกับเกลือละลายน้ำสุกหรือน้ำผึ้งหยดให้เด็กอ่อนเพิ่งคลอดรับประทานช่วยในการถ่ายขี้เทาและขับผายลมได้ดีมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • biodiversity-126839-4.jpg
      biodiversity-126839-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20 KB
      เปิดดู:
      147
    • jpg_27.jpg
      jpg_27.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.9 KB
      เปิดดู:
      130
    • mm.jpg
      mm.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.6 KB
      เปิดดู:
      78
    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.4 KB
      เปิดดู:
      83
  6. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กราย
    ชื่ออื่น ๆ : หางกราย หนามกราย (ไทยภาคกลาง) แนอาม ตานแดง หนองมึงโจ้ แสมดำ ขี้อ้าย (ภาคเหนือ)


    ลูก รสฝาด แก้บิด อุจจาระเป็นมูกเลือด ปวดเบ่ง เสมหะเป็นพิษ แก้ท้องเดิน หากเกิดอาการท้องร่วงอย่างแรง หรือเป็นบิดให้ทานลูกกรายก็จะหาย


    เปลือกต้น รสฝาด กล่อมเสมหะ คุมธาตุและให้อุจจาระเป็นก้อน แก้อุจจาระเป็นฟอง แก้บิดปวดเบ่ง ชะล้างบาดแผล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 137_1.jpg
      137_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.6 KB
      เปิดดู:
      134
    • kray.jpg
      kray.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.9 KB
      เปิดดู:
      76
  7. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กวาว
    ทองเครือ กวาวเครือขาว ตามจอมทอง(ชุมพร)
    ก๋วาวเครือ จานเครือ(อีสาน)
    โพะตะกู ตานเคือ กวาวเครือ ทองกวาว กวาวหัว (กระเหรี่ยง-กาญจน์บุรี่)

    นำผงกวาวเครือขาวตำผสมกับน้ำนมวัวมีสรรพคุณช่วยความจำผิวหนังนุ่มกระชับอายุยืน
    รับการกวาวเครือขาวร่วมกับน้ำมันเนยหรือน้ำผึ้งมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ
    รับประทานผงกวาวเครือขาวผสมกับมะขามป้อมสมอไทย สมอพิเภก มีสรรพคุณบำรุงสายตา รักษาโรคตาฟาง
    รับประทานผงกวาวเครือขาวผสมกับน้ำนมควายมีสรรพคุณบำรุงเส้นผม
    หัวกวาวรับประทานได้เเเต่ต้องไม่มากจนเกินไปจะมีพิษทำโทษต่อร่างกายเราเอง
    เป็นยาบำรุงกำลังอย่างดี
    เปลือกหัว นำมาตำเเก้พิษงู
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กอก
    ชื่อพื้นเมืองหรือชื่อตามท้องถิ่น : มะกอก (กลาง) กอกฤก กูก กอกหมอง (เหนือ) กอกเขา (ใต้ทางนครศรีธรรมราช) กอก (ใต้) มะกอกดง ไพแซ มะกอกฝรั่ง หมากกอก (อุดร-อีสาน-)
    สรรพคุณทางด้านสมุนไพรไทย :

    เนื้อผลมะกอก - มีรสเปรี้ยวฝาด หวานชุ่มคอ บำบัดโรคธาตุพิการ*โดยน้ำดีไม่ปกติ และมี่ประโยชน์แก้โรคบิดได้ด้วย

    ธาตุพิการ หรืออาหารไม่ย่อย (Indigestion หรือ Dyspepsia) คือ อาการไม่สุขสบายที่เกิดขึ้น อาจมีเพียงอาการเดียว หรือหลายๆอาการพร้อมกัน อาจเกิดในขณะกินอาหาร และ/หรือภายหลังกินอาหาร เช่น แน่นท้อง อึดอัด เรอ แสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ บางครั้งอาเจียน

    น้ำคั้นใบมะกอก - ใช้หยอดหู แก้ปวดหูได้ (ตรงนี้หากกรณีมีแมลเข้าหูและนำน้ำมันมะกอกนะครับ)
    ผลมะกอกสุก - รสเปรี้ยว อมหวาน รับประทานทำให้ชุ่มคอ แก้กระหายน้ำได้ดี ลักษณะแบบตอนกินแล้วฝาดแต่พอกินน้ำตามแล้วหวานคอดีเช่น เดียวกันกับผลมะขามป้อม
    เปลือก - ฝาด เย็นเปรี้ยว แก้ร้อนในอย่างแรง แก้ลงท้องปวดมวน แก้สะอึก
    เมล็ดมะกอก - สุมไปให้เป็นถ่าน แช่น้ำ เอาน้ำรับประทานแก้ร้อนใน แก้หอบ แก้สะอึกดีมาก ใผ

    ใบอ่อนหรือยอดอ่อน – รับประทานเป็นอาหารได้

    ประโยชน์ทางอาหารของมะกอกส่วนที่เป็นผักคือยอดอ่อนและใบอ่อน ออกในฤดูฝน และออกเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี ส่วนผลเริ่มออกในฤดูหนาว การปรุงอาหารคนไทยทุกภาคของเมืองไทยรู้จักและรับประทานยอดมะกอกเป็นผักสด

    ในภาคกลางรับประทานยอดอ่อนใบอ่อน ร่วมกับน้ำพริกปราร้า เต้าเจี๊ยวหลน ชาวอิสานรับประทานร่วมกับ ลาบ ก้อย แจ่วป่นต่างๆ โดยเฉพาะกินกับลาบนี่อร่อยเหาะ(ผู้เขียน) สำหรับผลสุกของมะกอกนิยามฝานเป็นชิ้นเล็กๆใส่ในส้มตำหรือพล่ากุ้ง รสชาติจะอร่อยยิ่งๆขึ้น

    คุณค่าทางอาหารของมะกอก ยอดอ่อนของมะกอก 100 กรัม ให้พลังงาน 46 กิโลแคลอลี่ไม่มีบลาบลา

    - เส้นใย (fiber) 16.7 กรัม

    - แคลเซียม 49 มิลลิกรัม

    - ฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม

    - เหล็ก 9.9 มิลลิกรัม

    - เบต้าแคโรทีน 2017 ไมโครกรัม

    - วิตามินเอ 337 ไมโครกรัมของเรตินอล

    - วิตามินบีหนึ่ง 0.96 มิลลิกรัม

    - วิตามินบีสอง 0.22 มิลลิกรัม

    - ไนอาซิน 1.9 มิลลิกรัม

    - วิตามินซี 53 มิลลิกรัม

    น้ำมันมะกอกต้านมะเร็งผิวหนัง

    ความนิยม น้ำมันมะกอกในบ้านเรามีมากขึ้น มีหลากหลายยี่ห้อวางขาย ใส่ผมบ้าง ทาผิวบ้างก็มี รวมไปถึงแบบที่ใช้ประกอบอาหาร ซึ่งแพงหน่อยนึง จริงๆการทานน้ำมันมะกอกชาวยุโรปฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนจะนิยมทานมานานแล้ว แต่บ้านเราอาจไม่นิยมมากนัก เลยมีผู้ผลิตแบบใช้ประกอบอาหารไม่มาก ราคาจึงสูง ซึ่งน้ำมันมะกอกนี้เองนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย โกเบ ของญี่ปุ่น ซึ่งไม่ใกล้กับโกฮับ ที่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวของไทย (ตะลึ่งตึ่งโป๊ะ) วิจัยมาแล้วว่ามีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ โดยใช้นำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์ ทาหลังจากออกแดด โดยในน้ำมันมะกอกมี วิตามิน E และ C สูง ที่สามรถไปจัดการอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดเมื่อร่างกายได้รับรังสี UV จากแดดที่ทำลายเซลล์ผิวหนัง โดยน้ำมันมะกอกจะช่วยไปชะลอการเกิดเนื่องอก และลดความเสียหานที่เกิดกับเซลล์ได้

    นำมันมะกอกกับการประกอบอาหารอย่างที่บอกว่าน้ำมันมะกอกมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก ประกอบกับมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว จึงเหมาะกับการทอดด้วยความร้อนสูง สมารถใช้ซ้ำได้โดยไม่เกิดปฏิกริยาเปลี่นแปลงใดๆ (ไม่เกิดปฏกริยาออกซิเดชั่น จนเกิดเป็นสารพิษตกค้าง เหมือนไขมันสัตว์ และไขมันจากเมล็ดพืช)

    อีกอย่างเมื่อนำมาทอดน้ำมันมะกอกจะทำให้อาหารดูดซึมน้ำมันเพียงเล็กน้อย ทำให้รสชาติอาหารดี ประกอบกับความหอมของน้ำมันมะกอก จากหนังสือ Herb & Healthy ได้สรุปประโยชน์ของน้ำมันมะกอกไว้เป็นประเด็นดังนี้

    1.ช่วยในการหมุนเสียนของดลหิต ป้องกันภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ป้องกันความดันโลหิตสูงหัวใจล้มเหลว

    2.ช่วยระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะตับอ่อน ลำไส้ ถุงน้ำดี ยังป้องกันการก่อตัวของนิ่วอีกด้วย

    3.ช่วยในเรื่องผิวหนัง ให้มีความยืดหยุ่น และป้องกันมะเร็งดังที่ได้พูดไปแล้ว

    4.น้ำมันมะกอกช่วยระบบการเผาผลาญอาหาร (metabolic function) ภายในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกที่ดีในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน (พบว่าระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดลดลง 12 % เมื่อรับประทานน้ำมันมะกอก)

    5.ดีต่อระบบกระดูก เพราะน้ำมันมะกอกช่วยร่างกายในการดูดซึมแคลเซียมได้ดี

    6.ป้องกันโรคมะเร็ง เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระ ดังที่ได้กล่าวไปในบทความเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ

    7.ทำให้ร่างกายทนทานต่อสารกัมมันภาพรังสี ได้ดีขึ้น (แต่ไม่ใช่ทานแล้วไป จับกากนิวเคลียร์เลยนะ อันนี้แค่ทำให้ร่างกาย ไวต่อผลจากรังสีน้อยลง ยังต้องป้องกันที่ชุดอยู่ดี) โดยน้ำมันมะกอกเป็นอาหารที่ถูกบรรจุใน list อาหารของนักบินอวกาศ

    8. อาหารเด็กอ่อน เนื่องจากน้ำมันมะกอกมีน้ำมันตามธรรมชาติใกล้เคียงกับน้ำนมมารดา (แต่น้ำนมมารดา ต้องสำคํญที่สุดนะครับ อันนี้ใช้ทำพวกอาหารไว้เสริมให้เด็กกิน)

    9. ป้องกันการชราภาพและยังยั้งการเสื่อมถอบของสมอง

    10.ป้องกันภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจ จากการวิจัยพบว่าน้ำมันมะกอกช่วยลดระดับ คอเรสโตรอลชนิดเลวหรือ LDL แต่ไม่ทำให้ลด คอเรสโตรอลชนิดดี HDL ได้

    นี่แหละครับคือประโยชน์จากมะกอก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    ครับผมจะลงให้เรื่อยๆๆนะครับจะลงผสมสูตรยากับภาพสมุนไพรไปด้วยเเละก็ว่านยาเเละก็ตำรายาโบราณ
     
  10. แผ่นฟ้า

    แผ่นฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +428
    ขอบคุณนะค่ะ :cool::cool::cool:
     
  11. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กำลังเสือโคร่ง
    ขวากไก่ หนามเข็ม (ชัยภูมิ) ขอเบ็ด (หนองคาย) ขี้แรด (ปราจีนบุรี) เขี้ยวงู (ชุมพร) ตึ่ง เครือดำตัวแม่ (ลำปาง)เบน เบนขอ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) เล็บครุฑ (จันทบุรี) เล็บรอก (พัทลุง) หมากตาไก้ (เลย)


    สรรพคุณ
    ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ใช้ แก่น ต้มน้ำดื่ม ช่วยบำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย
    ตำรายาไทย ใช้ ราก ตำพอกแก้ฝี แก้ริดสีดวงลำไส้ ลำต้น แก้โลหิตเป็นพิษในการคลอดบุตร บาดทะยักปากมดลูก และสันนิบาตหน้าเพลิง แก้ปอดพิการ แก้ไอ ดับพิษในข้อในกระดูก เส้นเอ็น แก้พิษตานซาง ขับพยาธิในท้อง แก้กามโรค แก้เถาดานในท้อง แก่น บำรุงโลหิต ดับพิษไข้ แก้กระษัย ไตพิการ ปัสสาวะพิการ ใบ แก้โรคผิวหนัง ใช้อาบลูกดอก และแก้อัมพาต เปลือกต้น แก่น และใบ รสเฝื่อน ต้มดื่มแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้เส้นเอ็นพิการ แก้กระษัย แก้เหน็บชา แก้เข้าข้อ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1292687683.jpg
      1292687683.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.7 KB
      เปิดดู:
      169
    • ph007_01.jpg
      ph007_01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.8 KB
      เปิดดู:
      82
    • ph007_02.jpg
      ph007_02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.1 KB
      เปิดดู:
      105
    • ph007_03.jpg
      ph007_03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137.2 KB
      เปิดดู:
      120
  12. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กะทกรก
    อังนก น้ำใจใคร่ สอกทอก จากกรด อีทก นางจูม นางชม ผักเงียวงัว

    สรรพคุณ เนื้อเถา มีรสชาติฝาดเฝื่อนเล็กน้อย ใช้เป็นยาคุมธาตุถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิด รักษาบาดแผล เปลือก นำมาต้มรมแผลที่เน่าเปื่อย ทำให้แผลแห้ง เมล็ด ทาท้องเด็ก แก้ท้องอืด ทำให้ผายลม วิธีใช้โดยการ ตำเมล็ดให้ละเอียด และผสมกับน้ำสับปะรดลนควันให้อุ่น
    และใช้ทาท้องเด็ก ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ แก้กามโรค ใบ นำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเบื่อ ขับพยาธิ หรือตำให้ละเอียดเอากากสุมศีรษะ แก้ปวดศีรษะ
    ใบนำมาตำทาเเก้หิด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กระเม็งตัวเมีย
    กาเม็ง, กะเม็ง (ไทย), ห้อมเกี้ยว, หญ้าสับ (พายัพ), บักอั่งเน้ย, เฮ็กบักเช่า (จีน-แต่จิ๋ว)
    สรรพคุณ

    ยานี้มีรสเปรี้ยว ชุ่ม เย็น ใช้ทำให้เลือดเย็น ห้ามเลือด บำรุงไต แก้อาเจียนเป็นเลือด กระอักเลือด เป็นหนองใน ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นบิด ถ่ายเป็นเลือด ลำไส้อักเสบ ตับอักเสบเรื้อรัง โรคผิวหนังผื่นคันจากการทำนา โรคผิวหนังเรื้อรัง บาดแผลจากของมีคม และทำให้คิ้วหนวดดกดำ

    วิธีและปริมาณที่ใช้

    ใช้กิน ใช้ทั้งต้น หนักประมาณ 10-30 กรัม ต้มเคี้ยวให้ข้น คั้นเอาน้ำมาทำเป็นเม็ดหรือผงกิน

    ใช้ภายนอก ใช้ตำหรือบดเป็นผงพอกหรืออุดจมูก

    ข้อห้ามที่จะใช้

    พวกที่ปัสสาวะบ่อยๆ ไม่หยุด หรือถ่ายเป็นน้ำมากห้ามกิน

    ตำรับยา

    1. แก้อาเจียนเป็นเลือด กระอักเลือด ใช้ต้นนี้สด หนัก 120 กรัม ตำชงด้วยปัสสาวะเด็กกิน

    2. แก้ไอเป็นก้อนเลือด ใช้ต้นนี้สดหนัก 60 กรัม ตำคั้นเอาน้ำมาผสมน้ำอุ่นกิน

    3. แก้เลือดกำเดาออก ใช้ยานี้สดประมาณ 1 กำมือ ล้างให้สะอาดตำคั้นเอาน้ำผสมเหล้าต้มกินหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง ขณะมีเลือดออกที่จมูกก็ตำคั้นเอาน้ำซุบสำลีอุดจมูกห้ามเลือดได้ดี

    4. แก้หนองใน ปัสสาวะเป็นเลือด ใช้ใบสดต้นนี้ร่วมกับใบผักกาดน้ำสดๆ (Plantago asiatica) อย่างละเท่าๆ กัน หนัก 60 กรัม ตำคั้นเอาน้ำกินวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

    5. แก้เลือดออกในลำไส้และในปอดหรือมีแผลภายในเลือดออก ใช้เมล็ดต้นนี้ผิงไฟให้แห้งบดเป็นผงผสมน้ำข้าวกินวันละ 6 กรัม หรือใช้ต้นสดหนัก 10 กรัม ผสมน้ำตาลกรวดต้มกิน

    6. แก้บิดถ่ายเป็นเลือด ใช้ต้นนี้แห้งหนัก 30 กรัม ต้มน้ำกิน

    7. แก้บาดแผลมีเลือดออก ใช้ต้นนี้สดตำพอก หรือใช้ต้นนี้แห้งบดเป็นผงโรยที่แผล

    8. แก้ปวดหัวข้างเดียว (ลมตะกัง) ใช้น้ำคั้นจากต้นนี้หยอดจมูก

    9. แก้สตรีที่ตกขาวมาก ใช้ต้นนี้หนัก 30 กรัม ต้มกินกับเป็ดหรือหมูก็ได้

    10. แก้ของคลอดเป็นผื่นคัน ใช้ต้นนี้หนัก 120 กรัม ต้มเอาน้ำผสมสารส้มชะล้าง

    11. แก้ปวดฟัน ใช้ยานี้ผิงไฟไหม้แห้งบดเป็นผง ทาที่เหงือก

    12. แก้คอตีบ ใช้ต้นนี้หนัก 60-90 กรัมบดใส่เกลือเล็กน้อยชงน้ำกิน จะขับเสลดออกมา

    13. แก้เด็กปากเปื่อยเจ็บเนื่องจากเชื้อรา ใช้น้ำคั้นจากใบของต้นนี้ 2 หยด ผสมน้ำผึ้ง 8 หยอดทาแผลเปื่อยเจ็บนั้นบ่อยๆ


    กะเม็งมีรสเปรี้ยว ชุ่มเย็น ส่วนวิธีและปริมาณที่ใช้ ของกะเม็งนั้น จะใช้ทั้งต้นแห้ง 10-30 กรัม ต้มเอาน้ำกิน หรือจะนำมาบดเป็นผง ทำเป็นยาเม็ดลูกกลอน หรือกินเป็นผงก็ได้ (ส่วนผมชอบบดเป็นผงชงกับน้ำร้อนแล้วผสมกับน้ำผึ้งอีกทีหนึ่ง)

    1. รักษาแผล
    - หมอยาทุกภาคต่างรู้ดีว่ากะเม็งเป็นสมุนไพรทำแผล ช่วยห้ามเลือดและป้องกันการติดเชื้อ มีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ว่า สมัยสงครามเวียดนาม กะเม็งเป็นยาคู่สนามรบมีการนำมาใช้ทั้งสดและแห้งเพื่อห้ามเลือด นอกจากนำมาใช้รักษาแผลให้คนแล้ว กะเม็งยังเป็นยารักษาแผลในสุนัขตัวโปรดได้ด้วย
    - กะเม็งยังใช้ตำพอกแก้อักเสบเมื่อถูกแมลงสัตว์กัดต่อย
    - ใช้ต้มอมบ้วนปากรักษาอาการปากและเหงือกเป็นแผล
    - แก้ปวดฟัน โดยใช้ต้นสดผิงไฟให้แห้งแล้วบดเป็นผงทาที่เหงือกแก้ปวดฟันก็ได้ และ--- รักษาอาการปากเปื่อย-ปากเจ็บเนื่องจากเชื้อราในเด็ก โดยใช้น้ำคั้นจากใบ ๒ หยดผสมน้ำผึ้ง ๘ หยด ทาบ่อยๆ
    - รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาการฟกช้ำ อาการแพ้ได้อย่างดี โดยบดตำเอามาพอกที่บาดแผล ลดอาการอักเสบ ปวดแสบปวดร้อน อาการอักเสบจะดีขึ้น ให้พอกไปเรื่อยๆ และคอยเปลี่ยนยาบ่อย ๆ

    2. แก้บิดถ่ายเป็นมูกเลือด ใช้ต้นแห้ง 30 กรัม หรือ ต้นสด 120 กรัม ต้มน้ำกินติดต่อกัน 3-4 วัน
    3. แก้โรคผิวหนังผื่นคันจากการทำนา
    กะเม็งยังช่วยรักษาอาการน้ำกัดเท้า ชาวนาสมัยก่อนจะนำใบกะเม็งขยี้ทาเท้าทิ้งไว้ให้แห้งก่อนลงนา การศึกษาวิจัยสมัยใหม่พบว่ากะเม็งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อทั้งราและแบคทีเรีย และเป็นสมุนไพรที่ขึ้นได้ดีในหน้าน้ำ เป็นเรื่องน่าแปลกเพราะดูเหมือนว่า ธรรมชาติจะได้ประทานสมุนไพรชนิดนี้มาให้กับชาวนาใช้รักษาโรคน้ำกัดเท้า ในหน้าลงนาได้พอดิบพอดี แต่ถ้ามือและเท้าเปื่อย จากการทำนาแล้ว ก็สามารถใช้น้ำคั้นจากใบทารักษาได้ โดยทาวันละ 2 ครั้ง จนกว่าจะหาย

    4. แก้ผมหงอกก่อนวัย ใช้น้ำคั้นจากต้นเคี่ยวกับน้ำมันงา หรือน้ำมันมะพร้าวทา ศีรษะจะทำให้ผมดกดำ และแก้ผมหงอกก่อนวัย
    5. เบาหวาน นอกจากเป็นยาอายุวัฒนะแล้ว หมอยาพื้นบ้านยังบอกว่ากะเม็งเหมาะที่จะทำเป็นชาสมุนไพรสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ดียิ่งนัก
    5. รักษาตับ
    กะเม็งเป็นสมุนไพรที่มีการกล่าวขวัญถึงในหมู่หมอยาสมัยก่อนทั้ง ไทย จีน พม่า อินเดีย โดยใช้เป็นยารักษาตับ หมอยาไทยมักจะบอกว่ากะเม็งรักษาอาการดีซ่านตัวเหลืองตาเหลือง เคยมีหมอพม่าและหมออินเดียมาดูงานที่โรงพยาบาลต่างพูดตรงกันว่า กะเม็งเป็นสมุนไพรที่บ้านเขาใช้รักษาตับ มีทั้งใช้กะเม็งเดี่ยวๆ หรือบางครั้งก็ใช้เป็นตำรับร่วมกับต้นลูกใต้ใบ ผักหวานบ้าน มะขามป้อม เป็นต้น สอดคล้องกับการค้นคว้าทางเอกสาร พบว่าหมอยาพื้นบ้านในประเทศต่างๆ ก็มีการใช้กะเม็งรักษาโรคตับเช่นกัน
    6. แก้อักเสบ บวมน้ำ
    นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์จากทางบ้านคือ ใช้ต้นกะเม็งสดๆ ๓-๔ ต้น ล้างให้สะอาดนำไปต้มให้เดือดประมาณ ๑๐ นาที แล้วดื่มน้ำโดยผสมน้ำตาลทรายลงไปผสมพอมีรสหวาน ดื่มกินไม่เกิน ๒ วัน ช่วยแก้อักเสบ บวมช้ำ (พระจีรพันธ์ ธัมมกาโม วัดพบพระใต้ จ.ตาก)
    7. โรคไต
    ถ้าเป็นไม่นาน ให้นำต้น กะเม็ง ทั้งสองชนิด คือ กะเม็งตัวผู้ กับ กะเม็งตัวเมีย โดยให้เอาทั้งต้นแบบชนิดแห้งชนิดใดช
    นิดหนึ่ง จำนวน 1 กำมือ ต้มกับน้ำจนเดือด ดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น หรือต้มดื่มน้ำทั้งวันก็ได้ จะช่วยล้างพิษหรือสารตกค้างจากไตจนหมด ทำให้ไตสมบูรณ์ขึ้น ร่างกายก็แข็งแรงตามไปด้วย ไม่มีอาการปวดเมื่อย ผิวกายไม่ตกกระ และยังช่วยชะลอความแก่ เพราะไตดีขึ้นนั่นเอง ผิวพรรณสดใสอีกด้วย
    8. แก้มะเร็ง ใช้ได้ดีมากกับผู้ป่วยมะเร็งตับ
    9. รักษาอาการแผลเรื้อรังเน่าลุกลามรักษายาก เช่นแผลจากเบาหวาน แผลจากมะเร็ง
    10. แก้หืด
    11. แก้หลอดลมอักเสบ
    12. แก้จุกเสียด
    13. รักษาแผลในกระเพาะ ลำไส้
    14. แก้กลากเกลื้อน
    15 รักษาอาการชักเกร็ง มือเกร็ง ที่เกิดจากอาการทางประสาท ทำให้เป็นลมวิงเวียน ชักเกร็ง มือเกร็ง ซึ่งอาการเช่นนี้คล้ายๆ กับโรค Hyperventilation ในแผนปัจจุบัน วิธีใช้นั้นจะใช้กะเม็งเป็นตัวหลักตำคั้นน้ำผสมกับสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมตัวอื่นๆ เช่น ขิง ว่านเปราะหอม เป็นต้น แล้วใช้น้ำคั้นที่ได้ให้ผู้ป่วยจิบ และใช้ผ้าชุบน้ำผสมน้ำคั้นสมุนไพรเหล่านั้นเช็ดหน้า คลุมหัวผู้ป่วยไว้
    16. เป็นยาอายุวัฒนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2013
  14. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กะเม็งตัวผู้
    สรรพคุณเหมือนตัวเมีย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กระวาน
    กระวานเทศ


    ส่วนที่ใช้ : ราก หัวและหน่อ เปลือก แก่น กระพี้ ผลแก่ที่มีอายุ 4-5 ปี (เก็บในช่วงเดือนสิงหาคม-มีนาคม) เมล็ด

    สรรพคุณ : กระวาน

    รากกระวาน – แก้โลหิตเน่าเสีย ฟอกโลหิต แก้ลม เสมหะให้ปิดธาตุ รักษาโรครำมะนาด

    หัวและหน่อกระวาน - ขับพยาธิในเนื้อให้ออกทางผิวหนัง

    เปลือกกระวาน – แก้ไข้ ผอมเหลือง รักษาโรคผิวหนัง แก้ไข้อันง่วงเหงา ขับเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้อันเป็นอชินโรค และอชินธาตุ

    แก่นกระวาน – ขับพิษร้าย รักษาโรคโลหิตเป็นพิษ

    กระพี้กระวาน – รักษาโรคผิวหนัง บำรุงโลหิต

    ใบกระวาน – แก้ลมสันนิบาต แก้สันนิบาตลูกนก ขับผายลม ขับเสมหะ แก้ไข้เพื่อลม รักษาโรครำมะนาด แก้ลมเสมหะให้ปิดธาตุ แก้ไข้เซื่องซึม แก้ลม แก้จุกเสียด บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้ไข้อันง่วงเหงา

    ผลแก่กระวาน – รสเผ็ดร้อน กลิ่นหอม ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) 5-9 เปอร์เซนต์ มีฤทธิ์ในการขับลม (Carminative) และฤทธิ์ในการยับยั้ง การเจริญของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ขับโลหิต บำรุงธาตุ แก้ลมในอกให้ปิดธาตุ แก้ลมเสมหะให้ปิดธาตุ แก้ลมเจริญอาหาร รักษาโรค รำมะนาด แก้ลมจุกเสียดแน่นเฟ้อ แก้ลมสันนิบาต ผลแก่ของกระวานตากแห้ง ใช้เป็นเครื่องเทศ

    เมล็ดกระวาน – แก้ธาตุพิการ อุจจาระพิการ บำรุงธาตุ
    กระวาน

    กระวาน

    เหง้าอ่อนกระวาน – ใช้รับประทานเป็นผักได้ มีกลิ่นหอมและเผ็ดเล็กน้อย

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :
    ผลกระวาน ขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และแน่นจุกเสียด ใช้ ผลกระวาน แก่จัดประมาณ 6-10 ผล (0.6-2 กรัม) ตากแห้งบดเป็นผง รับประทานครั้งละ 1-3 ช้อนชา ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือครึ่งถ้วยแก้ว ใช้รับประทานครั้งเดียว ผลกระวาน ยังใช้ผสมยาถ่าย เช่น มะขามแขกเพื่อบรรเทาอาการไซ้ท้อง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    กานพลู(ภาคกลาง)
    ดอกจันทร์(เชียงใหม่) จันจี่(ภาคเหนือ)
    ส่วนที่ใช้ : เปลือกต้น ใบ ดอกตูม ผล น้ำมันหอมระเหยกานพลุ

    สรรพคุณ : กานพลู

    เปลือกต้นกานพลู - แก้ปวดท้อง แก้ลม คุมธาตุ

    ใบกานพลู - แก้ปวดมวน

    ดอกตูมกานพลู - รับประทานขับลม ใช้แต่งกลิ่น
    ดอกกานพลูแห้ง ที่ยังไม่ได้สกัดเอาน้ำมันออก และมีกลิ่นหอมจัด มีน้ำมันหอมระเหยมาก รสเผ็ด ช่วยขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง และแน่นจุกเสียด แก้อุจจาระพิการ แก้โรคเหน็บชา แก้หืด แก้ไอ แก้น้ำเหลืองเสีย แก้เลือดเสีย ขับน้ำคาวปลา แก้ลม แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้เสมหะเหนียว ขับผายลม ขับลมในลำไส้ แก้ท้องเสียในเด็ก แก้ปากเหม็น แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้รำมะนาด กับกลิ่นเหล้า แก้ปวดฟัน

    ผลกานพลู - ใช้เป็นเครื่องเทศ เป็นตัวช่วยให้มีกลิ่นหอม

    น้ำมันหอมระเหยกานพลู – ใช้เป็นยาชาเฉพาะแห่ง แก้ปวดฟัน ฆ่าเชื้อทางทันตกรรม เป็นยาระงับการชักกระตุก ทำให้ผิวหนังชา

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :

    แก้อาการท้องขึ้น ท้องอืดเฟ้อ ขับลม และปวดท้อง
    ดอกกานพลูแห้ง

    ดอกกานพลูแห้ง

    ใช้ดอก กานพลู โตเต็มที่ ที่ยังตูมอยู่ 4-6 ดอก หรือ 0.25 กรัม
    ในผู้ใหญ่ – ใช้ทุบให้ช้ำ ชงน้ำดื่มครั้งละครึ่งถ้วยแก้ว
    ในเด็ก – ใช้ 1 ดอก ทุบแล้วใส่ลงในขวดนม
    เด็กอ่อน – ใช้ 1 ดอก ทุบใส่ในกระติกน้ำที่ไว้ชงนม ช่วยไม่ให้เด็กท้องขึ้นท้องเฟ้อได้

    ยาแก้ปวดฟัน
    ใช้นำมันจากการกลั่นดอกตูมของดอก กานพลู 4-5 หยด ใช้สำลีพันปลายไม้ จุ่มน้ำมันจิ้มในรูฟันที่ปวด จะทำให้อาการปวดทุเลา และใช้แก้โรครำมะนาดก็ได้
    หรือใช้ทั้งดอกเคี้ยว แล้วอมไว้ตรงบริเวณที่ปวดฟันเพื่อระงับอาการปวด หรือใช้ ดอกกานพลูตำพอแหลกผสมกับเหล้าขาวเพียงเล็กน้อยพอแฉะใช้จิ้มหรืออุดฟันที่ปวด

    ระงับกลิ่นปาก
    ใช้ดอกตูม 2-3 ดอก อมไว้ในปาก จะช่วยทำให้ระงับกลิ่นปากลงได้บ้าง
    เมนูน้ำสมุนไพร ชากานพลู

    ส่วนผสม

    ดอกกานพลู 4-5 ก้าน
    น้ำผึ้งหรือน้ำตาลกรวด 1 ช้อนชา

    วิธีการทำ

    1. ใส่กานหลูในถ้วยชา ใส่น้ำร้อนเกือยเต้มทิ้งไว้ 5 นาที

    2. ใส่น้ำผึ้งหรือน้ำตาลกรดลงไปคนเข้ากัน

    ควรดื่มอุ่นๆ จะช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยย่อย ได้เป็นอย่างดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    ยาแก้โรคมะเร็ง

    ขนานที่ ๑ ท่านให้เอาหัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑ กำมะถันเหลือง ๑ ตัวยาทั้งสามอย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๔ บาทเท่ากัน กะลามะพร้าวแก่ ( ผ่าเป็นสี่ส่วนเอาสามส่วน ) ตัวยาทั้งสี่อย่างนี้นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทานต่างน้ำชาจนน้ำยาจ
    มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล เคยใช้รักษาหายมามากแล้ว ฯ

    ขนานที่ ๒ ท่านให้เอากระดูกงูเห่า ๑ หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑ ทิ้งถ่อน ๑ แก่นมะเกลือ ๑ มะเดื่อปล้อง ๑ ยาทั้งหกอย่างนี้เอาอย่างละเท่าเท่ากันนำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอ สมควรใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาก่อนอาหาร วันละสามเวลา
    มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งทุกอย่าง เป็นยาตัดรากโรคมะเร็งให้หายขาด เคยใช้รักษาหายมามากแล้วได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

    ขนานที่ ๓ ท่านให้เอาใบต้นหนอนตายอยาก หนัก ๑ บาท เปลือกต้นกุ่ม หนัก ๑ บาท หัวยาข้าวเย็นเหนือ หนัก ๑ บาท หัวยาข้าวเย็นใต้ หนัก ๑ บาท ดินประสิว หนัก ๒ ตำลึง สารส้ม หนัก ๑ บาท กำมะถัน หนัก ๑ บาท ตัวยาทั้งเจ็ดอย่างนี้นำมาใส่หม้อดินต้นกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทานครั้งละหนึ่งถ้วยชา เวลาเช้า กลางวัน เย็น วันละสามเวลา ประมาณ ๓๐ วัน
    มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งในกระดูก ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

    ขนานที่ ๔ ท่านให้เอา ต้นพลูแก่ ๆ ( พลูกินกับหมาก ) ๑ ใบพลูแก่ ๆ ๑ ดอกพลู ๑ รากพลู ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าเท่ากันนำมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อดินต้นกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทาน เวลาเช้า - เย็น วันละ ๒ ครั้ง
    มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

    ขนานที่ ๕ ท่านให้เอา ลูกลำโพงกาสลัก ( ลูกแก่ ๆ ) ๑ ลูกกระเบา ( ลูกแก่ ๆ เอาเฉพาะเมล็ดใน ) ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ยางไม้ตะเคียน ๑ ตัวยาทั้งสี่อย่างนี้เอาอย่างละเท่าเท่ากันนำมาตากแดดให้แห้งบดเป็นผงหุงด้วยน้ำมันงาบนเตาแกลบ (ใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิง) ใช้ทารักษาแผลโรคมะเร็งผิวหนัง ภายนอกหรือใช้ทารักษาแผลเชื้อราทุกชนิด
    มีสรรพคุณ ชะงัดนักแล ฯ

    ขนานที่ ๖ ท่านให้เอา รากต้นเตย ๑ หัวจุกสับปะรด ๑ รากต้นมะเฟือง ๑ หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยา ข้าวเย็นใต้ ๑ ข้าวเปลือกข้าวเจ้า ๑ ตัวยาทั้งหกอย่างนี้เอาอย่างละเท่าเท่ากันนำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทานครั้งละหนึ่งถ้วยชา
    มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งซึ่งผู้ป่วยมีอาการท้องอืดรับประทานอาหารไม่ได้เป็นเวลานานแล้วเมื่อรับประทานยานี้แล้วจะทำให้หายอาการป่วยนั้น เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้ว ฯ

    ขนานที่ ๗ ท่านให้เอา หัวยาข้าวเย็นทั้งสอง ( คือ หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑ )

    ๑ กระดูก ควายเผือก ๑ กำมะถันเหลือง ๑ ขันทองพยาบาท ๑ หัวตันหนอนตายอยาก ๑ ตัวยาทั้งหกอย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๒๐ บาทเท่าเท่ากัน เง้าสับปะรด หนัก ๑๐ บาท กระดูกม้า หนัก ๔ บาท ต้นพริกขี้หนู ๑ ต้น ( เอาทั้งต้นตลอดถึงราก ) ผิวไม้รวก ( ขูดเอาเฉพาะผิว ) ๓ กำมือ ตัวยาทั้งสิบอย่างนี้นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทานครั้งละหนึ่งถ้วยชา เวลาหลังอาหารวันละสามเวลา
    มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็ง แก้โรคแผลกลาย แก้โรคฝีทุกชนิด แก้โรคไอ แก้โรคเลือดออกจากหลอดลม รักษาแผลในหลอดลม แผลในลำไส้ ได้ผลดีชะงัดนักแล ฯ

    ยาแก้โรคมะเร็งในมดลูก

    ท่านให้เอา หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑ ตันหนอนตายอยาก ๑ รากนมแมว ๑ หัวพุทธรักษา ( สีขาว ) ๑ ตัวยาทั้งห้าอย่างนี้เอาอย่างละ ๔ บาทเท่ากัน เกลือทะเล ( เกลือใส่แกง ) ๑ กำมือ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา
    มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งในมดลูก ได้ผลดีชะงัดนักแล ฯ

    ยาแก้โรคเส้นท้องตึงเป็นเถาดาน

    ขนานที่ ๑ ท่านให้เอา ต้นตะไคร้ ๑ ต้น ดีปลี ๑๒ ดอก พริกไทยร่น ๓๖๐ เม็ด ตัวยาทั้งสามอย่างนี้น้ำมาตำเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง ใช้รับประทานวันละ ๓ เวลา
    มีสรรพคุณ แก้โรคเส้นท้องตึงเป็นเถาดานรับประทานอาหารไม่ได้ขับลมในท้องและบำรุงเครื่อง สืบพันธุ์ให้มีสมรรถภาพแข็งแรงดีอีกด้วย

    ขนานที่ ๒ ท่านให้เอา ข้าวเหนียวดำ ( ดิบ ๆ ) กับพริกไทยร่น ตัวยาทั้งสองอย่างน้ำเอาอย่างละ ๑ ฝาเบียร์ ( อย่างละหยิบมือ ) น้ำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งแท้ใช้รับประทานเฉพาะวันเสาร์เวลาก่อนนอน
    มีสรรพคุณ แก้โรคเส้นท้องตึง เส้นยึดเจ็บปวดให้หายไปอย่างชะงัดนักแล ฯ

    ครับผมจะสลับกับสูตรยากันไปมานะครับ
    เหมาะสำหรับทุกท่านจะรวบรวมไว้เป็นเล่มพิมเเจกอีกนะครับ
    ผมจะพยายามค้นหารูปมาลงไว้(ก็หารูปในเวปในเนตนี้เเละครับ ยกเว้นในเวปไม่มีผมก็หามาลงเอง) ในสมุดหนังสือของผมเองสมุดสมัยไปอบรบมา ก็มีรูป เยอะ มีอยู่2000กว่าหน้าครับ สมุนไพร 1000กว่า ชนิด ทีใช้รักษา ผมจะลงให้ประมาณสัก700ชนิดพอครับ เพราะ บางอย่างไม่จำเป็นเท่าไร
    บางตำราก็ซ้ำกันก็มี
     
  18. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    อันนี้ก็ของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม มันเหมือนในสมุดของผม ผมก็เลยเอามาลงด้วยเพื่อจะมีประโยชน์รวมๆๆกันไปอีก เหมาะกับกระทู้นี้ (ผมไม่ต้องพิมเองก็เลยขอก๊อปมาในกระทู้มาลงไว้ ขออภัยท่านทีลงไว้ด้วยนะครับ)

    สมุนไพรที่หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม เมตตาแนะนำแก่ญาติโยม

    ๑. ชาตะไคร้
    สรรพคุณ แก้ปวดกระดูก ปวดหลัง ปวดแข้ง ปวดขา ป้องกันกระดูกผุ นั่งดูหนังสือแล้วตาลาย ลุกขึ้นแล้วหน้ามืด ป้องกันโรคไต เบาหวาน คอเลสเตอรอล

    วิธีทำ เอาต้นตะไคร้ล้างให้สะอาด (ตะไคร้ที่ใช้ทำอาหาร) ใช้ส่วนที่เป็นต้น ใบกับรากไม่เอา หั่นตากแดดให้แห้งสนิท แล้วนำมาคั่วให้เหลืองหอม เก็บไว้ชง หรือต้นกินต่างน้ำ เหมือนน้ำชา

    ๒. ยาอายุวัฒนะ
    สรรพคุณ แก้มะเร็วเม็ดเลือด เสกด้วยนวหรคุณ ๙ รักษาโรคมะเร็งระยะเป็นใหม่ๆ รักษาเอดส์ ต้องเสกด้วยพุทธคุณ ๑๐๘ แก้ท้องเฟ้อ มดลูกเสีย กินทุกวันทำให้ร่างกายแข็งแรง

    วิธีทำ เกลือทะเลเม็ด ๓ ส่วน บอระเพ็ดสดหั่น ๕ ส่วน มะขามเปียกเอาเม็ด และซางออกสับ ๗ ส่วน นำมาโขลกผสมกัน กินเช้า-เย็น หรือก่อนนอน ครั้งละก้อนเท่าหัวแม่มือ ถ้าต้องการให้ถ่ายกินตามธาตุหนัก-เบา แล้วดื่มน้ำตามมากๆ

    ๓. โรคไตวาย
    วิธีทำ ให้ไปถากเปลือกงิ้วแดง ถากขึ้น ๒ ถากลง ๑ มาต้นดื่มต่างน้ำ (ต้มสดๆ เลย) (เวลาถากเปลือก อย่าถากรอบต้น ต้นไมจะตาย)

    ๔. เสียงแหบแห้ง
    วิธีทำ ให้นำกระเทียบ พริกไทย โขลกให้ละเอียด ละลายด้วยน้ำผึ้งกิน

    ๕. ตกขาว
    วิธีทำ นำสับปะรดทั้งหัวหมกปูนขาว ๓ วัน (ถ้ายังไม่สุกหรือฉ่ำให้หมกต่อ) แล้วนำมาปอกกินตามปกติ

    ๖. โรคชัก เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคป่วง
    วิธีทำ นำพริกไทยเม็ดโขลกให้ละเอียดใส่แคปซูลไว้ นำพริกขี้หนูป่นใส่แคปซุล กินพร้อมกันอย่างละ ๑ แคปซูล (ของยาแผนปัจจุบัน) กินก่อนอาหารเช้า-เย็น

    ๗. โรคกระเพาะ
    วิธีทำ ให้เอากล้วยน้ำว้า ฝานบางๆ ตากแดดให้แห้งสนิท แล้วป่นให้เป็นแป้ง เวลากินตักครั้งละ ๑ ช้อนคาว ใส่น้ำสุกอุ่นๆ แล้วดื่ม

    ๘. เลือดกำเดาออก
    วิธีทำ เอาใบพุทรา (พุดซา) ๓ กำมือ ยาข้าวเย็นเหนือหนัก ๔ บาท ยาข้าวเย็นใต้หนัก ๔ บาท มาต้นดื่มต่างน้ำ

    ๙. มะเร็ง
    วิธีทำ นำลูกใต้ใบทั้ง ๕ กับต้นไมยราพทั้ง ๕ มาต้มกินต่างน้ำ (ทั้ง ๕ หมายถึง ราก, ต้น, ใบ, ดอก และผล)

    ๑๐.๑ โรคตับแข็ง
    วิธีทำ กินบอระเพ็ดวันละ ๕ แว่น (ยาวประมาณ ๒ ซม. หรือองคุลี) โดยเฉพาะคุณแม่ที่กินยาดองหลังคลอดบุตร และรักษามะเร็ง หรือโรคท้องมานต้องลงด้วย “นะโม พุทธายะ”

    ๑๑.๒ โรคตับอีกขนาน
    วิธีทำ บอระเพ็ดสด ๑ ช้อนคาว เคี้ยวๆ แล้วตามด้วยน้ำผึ้งเดือนห้า

    ๑๑. ร้อนใน อาเจียน
    วิธีทำ ใบตำลึงต้มกินหาย อีกขนานให้เอายอดกะทกรกและยอดตำลึงต้มกิน หรือคั้นเอาน้ำกิน

    ๑๒. โรคภูมิแพ้
    วิธีทำ ให้กินบอระเพ็ด

    ๑๓. โรคหอบ-หืด
    วิธีทำ นำต้นตำแยแมวมาโขลกใส่น้ำซาวข้าวกรองเอาแต่น้ำกิน

    ๑๔. โรคหัวใจโต
    วิธีทำ กินกระถินแล้วเอาเปลือกับรากมาต้นน้ำดื่ม

    ๑๕. นมหลง (ปวดนม หรือนมคัด)
    วิธีทำ เอานุ่นมาจุดไฟแล้ว ใส่ไหกระเทียมอย่าให้ควันออก เอาปากไหกดครอบเต้านมไม่นานน้ำนมจะไหลหายปวด

    ๑๖. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือด นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
    วิธีทำ ข้าวเย็นเหนือ, ข้าวเย็นใต้ หนัก ๔ บาท ฟ้าทะลายโจร (สด) ๑ กำมือ รากหญ้าคา (สด) ๑ กำมือ นำตัวยาทั้งสี่อย่างมาต้มดื่มแทนน้ำ

    ๑๗. ไข้ทับระดู (เป็นไข้ระหว่างมีประจำเดือน)
    วิธีทำ หญ้าเจ้าชู ๓ กำมือ ยาข้าวเย็นเหนือ, ข้าวเย็นใต้ หนัก ๔ บาท นำตัวยาทั้งหมดมาต้มตื่มต่างน้ำ

    ๑๘. บิดหัวลูก (เป็นโรคบิดระหว่างตั้งครรภ์ ลูกขี้ มักตายในท้อง หรือไม่ก็คลอดออกมาแล้วตาย)
    วิธีทำ
    ๑. นำเปลือกมะพร้าวอ่อน (ปอกผิวสีเขียวออกเอาเฉพาะส่วนที่กาบอ่อน) บิดเอาน้ำ ๑ แก้ว
    ๒. น้ำปูนใส (ปูนกินหมาก) ๑/๒ แก้ว
    ๓. เปาะหอม ทั้งสามสิ่งนำมาโขลก กรองเอาแต่น้ำมากิน

    ๑๙. โรคลำไส้เน่า เป็นยาเทวดา
    ท่านผู้พิพากษา หัวหน้าศาลจังหวัดสิงห์บุรี ชื่อมหาเทียบ นองบุญนาค เปรียญธรรม ๖ ประโยค (เสียชีวิตไปตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐) เป็นคนทำถวาย

    วิธีทำ ใช้หม้อดิน เอาเกลือมา ๓ กำ ให้กลั้นใจหยิบ ๓ จับ แล้วเทใส่หม้อ ท่านสอนให้ท่อง “พุทธัง ปัจจักขามิ ๑ กำ ธัมมัง ปัจจักขามิ อีก ๑ กำ สังฆัง ปัจจักขามิ อีก ๑ กำ” ใส่หม้อ สตุเกลือ (โดยไม่ต้องใส่น้ำ) จนละเอียดไปหมดแล้วปลงลงมาเอาไข่ขาว (ไข่ไก่ ๕ ฟอง ไม่เอาไข่แดง) ใส่แล้วคนให้เข้ากันท่อง “พุทธัง ปัจจักขามิ, ธัมมัง ปัจจักขามิ, สังฆัง ปัจจักขามิ” กินครั้งละ ๑ ช้อนคาว

    ๒๐. รักษาผิวหน้าไม่ให้เหี่ยวย่น
    วิธีทำ ขนาน ๑ ใช้น้ำผึ้ง กับผิวมะนาว ทาหน้าเป็นประจำ หรือขนาน ๒ ใช้ไส้ตะเกียงเจ้าพายุที่ใช้แล้ว ผสมน้ำมะนาว ทาหน้าเป็นประจำก็ได้

    ๒๑. ผมอ่อนสลวย
    วิธีทำ ใช้น้ำส้มมะขาม (มะขามเปียก) สระผม

    ๒๒. ยามเช้า
    ตื่นเช้าแกว่งแขน ๑๐๐ ครั้ง เตะขาขึ้น ๑๐๐ ครั้ง แล้วอย่าเพิ่งไปล้างหน้า ดื่มน้ำสะอาดบริสุทธิ์ ๕ แก้ว (ถ้าอายุเกิน ๔๕ ปี กินน้ำต้ม ถ้ายังไม่ถึง ๔๕ ปี ไม่ต้องต้ม) รับรองอุจจาระดี หูตึงหาย ปวดศรีษะซึกหนึ่ง น้ำตาไหล ปวดลูกตา หายเลยทีเดียว
    ยาตำหรับพิเศษ

    ยาทั้งหมด ๒๐ ตำหรับที่รวบรวมมาลงหนังสือเล่มนี้ เป็นยาที่ใช้รักษาโรคทางกายเท่านั้น ในส่วนของโรคและความผิดปกติทางจิตวิญญาณ หลวงพ่อก็ยังมียาพิเศษไว้รักษาด้วย

    “สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน”
    การทำกรรมฐาน ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง รักษาโรคคิดมาก วิตกกังวล นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูงต่ำและโรคหัวใจได้
    การเจริญกรรมฐาน จะทำให้อารมณ์ดี มีจิตใจสะอาด จะรู้บุญคุณของพ่อ-แม่ ไม่ลืมพระคุณของชาติภูมิ มาตุภูมิ และบ้านเกิดเมืองนอนของตน ไม่ลืมบุญคุณครูบาอาจารย์
    การเจริญกรรมฐาน เวลานั่ง กำหนดลมหายใจยาวๆ เข้าไว้ หายใจเข้ายาวๆ หายใจออกยาวๆ ให้สม่ำเสมอ จะทำให้ใจเย็น และเกิดปัญญาแก้ไขปัญหาได้
    ผู้ที่เจริญกรรมฐาน จิตใจจะโน้มเอียงไปในทางดี จะรักษาโรคเห็นแก่ตัว โรคอิจฉาริษยาได้ จะทำให้เกิดความเตตา สงสารผู้อื่น
    กรรมฐานสามารถรักษาโรค และต่ออายุได้
    กรรมฐานเป็นการป้องกันจิตวิญญาณไว้มิให้หลงตาย ทำให้มีสติอยู่ตลอดเวลา
    กรรมฐาน ช่วยรักษาโรคกรรม ซึ่งหมอทั่วไปรักษาไม่หาย
    โลกเราที่ยุ่งยากเดือดร้อนทุกวันนี้ทางหนึ่ง ย่อมเกิดจากความโลภของคนเราที่คอยเผาดวงใจให้เร่าร้อน ทำใจให้พร่อง ทำใจให้หิว
    อารมณ์ร้ายเป็นอารมณ์อันตรายที่สำคัญที่ต้องหาความอดทนมาเป็นเครื่องมือป้องกันไว้ คำด่าว่า เสียดสีนินทานี่แหละ ที่ทำใจให้ร้อน เมื่อใจร้อนแล้ว เรื่องร้อนต่างๆ ก็ตามาอย่างที่เห็นกันอยู่เสมอ วิธีที่เหมาะสมวิธีหนึ่ง คือการวางตัว
    การสร้างความดี ก็ต้องละความชั่ว สร้างความดี ก็ต้องละบาปมาทำบุญ แล้วยังมีบาปในใจมากอีกรับรองไปไม่รอด
    การสร้างความดี เป็นการใช้หนี้กรรม เราควรชดใช้ให้หมดไปในชาตินี้ ดีกว่าไปใช้หนี้บวกดอกในเมืองนรกเป็นร้อยปี
    ความดี สร้างให้กันไม่ได้ เราต้องสร้างเอง ต่างคนต่างทำ เราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกตายไม่ได้ แต่เราเลือกทำความดีได้
     
  19. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    ยาแก้ไข้ทับระดู และ ระดูทับไข้

    ท่านให้เอา พริกไทยร่อน ๑ ดีปลี ๑ สะค้าน ๑ ลูกสมอไทย ๑ ผักคราด ๑ ชะพลู ๑
    แก่นมะหาด ๑ ไม้สัก ๑ แก่นจิก ๑ แก่นต้นรัง ๑ แก่นไม้่ประดู่ ๑ เมล็ดฝ้าย ๑ รากหญ้าคา ๑ หัวแห้วหมู ๑
    ใบมะกา ๑ ก้านสะเดา ๑ ต้นกะเพรา ๑
    ตัวยาทั้ง ๑๗ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน,ตาไม้ไผ่สีสุก ๗ ตา,หัวกะลามะพร้าว ๓ หัว
    ตัวยาทั้ง ๑๙ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา ก่อนอาหาร เช้า-เย็น มีสรรพคุณแก้ไข้ทับระดูและระดูทับไข้ ได้ผลดี

    (ยาถอนพิษต่าง ๅ)

    ท่านให้เอา สารส้ม ๑ ก้อน (ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย) นำมาตำให้ละเอียด ผสมน้ำต้มสุก ใช้รับประทาน
    มีสรรพคุณ จะทำให้เกิดการ อาเจียรถอนพิษต่าง ๆ เช่น เห็ดพิษ พิษกรดด่าง ยาพิษ เป็นต้น ให้หายไป

    ยาแก้โรคปวดเข่าอย่างรุนแรง

    ท่านให้เอา เถากะทกรกหนัก ๑ บาท หญ้างวงช้าง ๑ รากคนทา ๑ ขิงแห้ง ๑ หญ้าหางช้าง ๑ หัวข่า ๑
    ตัวยาทั้ง ๕ นี้ เอาหนักอย่างละ ๑๐ บาทเท่ากัน ตัวยาทั้ง ๖ นี้ นำมาใส่หม้อดิน ต้มกับน้ำ ๓ ส่วน เคี่ยวให้เหลือ ๑ ส่วน ใช้น้ำยา ทานครั้งละ ๑ ถ้วยกาแฟ เวลา เช้า-กลางวัน-เย็น วันละ ๓ เวลา
    มีสรรพคุณ แก้โรคปวดหัวเข่าอย่างรุนแรงให้หายไป

    ยาแก้โรคเบาหวาน

    ท่านให้เอา รังผึ้ง (เอาทั้งรังพร้อมทั้งตัวอ่อน) ๑ รัง เหล้า ๑ ขวด หัวกระชาย ๑๒ หัว
    เปลือกตะโกนา (ต้นตะโกดัด สดหรือแห้งก็ได้) ๓ เปลือก ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้ นำมา
    ดองรวมกัน โดยนำรังผึ้งใส่ลงในโถหรือใส่ในโหล เทเหล้าลงผสมพอท่วมรังผึ้ง ใส่หัว
    กระชาย (ซึ่งปลอกเปลือกและทุบให้แตกเสียก่อน) และใส่เปลือกตะโกนาลงผสม หมัก
    ดองไว้ ๓ วัน ใช้น้ำยาดองนี้รับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชาจีน เวลาก่อนอาหาร เช้า-เย็นวันละ ๒ เวลา
    ทุกวันติดต่อกันไปจนครบ ๑ เดือน
    ท่านให้เอา ต้นเหงือกปลาหมอทั้ง ๕ (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) จำนวนพอสมควร นำมา
    ล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผงจำนวน ๖ ถ้วยชาจีน เอา
    พริกไทยร่อนจำนวน ๓ ถ้วยชาจีน บดให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งแท้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาด
    เท่าเมล็ดพุทรา จำนวน ๑๐๘ เม็ด ใช้รับประทานครั้งละ ๑ เม็ด ก่อนเวลาอาหาร เข้า-เย็น ทุกวัน ติดต่อกันไปจนครบ ๕๔ วันโรคเบาหวานจะหายขาด

    ยาแก้โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

    ท่านให้เอา หัวกระเทียมโทน (กระเทียมหัวเดียวโดยเฉพาะไม่มีกลีบ) ๒๑ หัว นำมา
    ปอกเปลือกแล้วใส่โหล หรือใส่โถ ใส่น้ำผึ้งแท้ลงผสมให้ท่วมหัวกระเทียม ปิดฝาโหลหรือ
    โถให้สนิท หมักดองไว้ ๗ วัน ใช้รับประทานเวลาก่อนนอน ครั้งละ ๓ หัว พร้อมทั้งน้ำ
    แก้โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

    ยาแก้โรคหูหนวก

    ท่านให้เอา ใบต้นโคนทิสอ ๑ ใบต้นหูกวาง ๑ ใบต้นตะขบป่า ๑ พิมเสน ๑ การบูร ๑
    ตัวยาทั้ง ๕ นี้เอาอย่างละพอสมควร นำมาตำผสมกันให้ละเอียด ย่างไฟให้สุกกรอบ
    บดให้ละเอียด ละลายกับน้ำมันมะพร้าวพอสมควร ใช้หยอดช่องหูวันละครั้ง ทุกวันติดต่อกันไปเรื่อย
    อาการหูหนวกจะค่อยๆ หายไป

    ยาแก้สตรีตกเลือดประเดือน

    ท่านให้เอาหัวปลาไหล (ตากแห้ง) ๑ หัว นำมาเผาไฟให้ไหม้ บดให้ละเอียด ผสมน้ำส้มสายชู
    และแทรกสุราเล็กน้อย ประมาณน้ำยา ๑ ถ้วยชา ใช้ทานเพียงครั้งเดียว มีสรรพคุณแก้สตรีตกเลือดประจำเดือนให้หยุดทันทีเคยใช้รักษาหายมามากแล้ว

    ยาครรภ์รักษา

    ท่านให้เอา หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑ เกษรทั้ง๕
    (คือ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาค ๑ ดอกมะลิ ๑ ดอกสารภี ๑ เกษรบัวหลวง ๑) เนระพูสี ๑
    ตัวยาทั้ง ๔ นี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน
    นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยาทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา
    มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงสุขภาพของแม่และลูกในครรภ์ ทำให้คลอดลูกออกง่าย
    เคยใช้ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ
     
  20. ไร้หนทาง

    ไร้หนทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +2,274
    ก้ามปูหลุด
    ปีกแมลงสาบ (ทั่วไป) ก้ามปู(ภาคกลาง)
    ลำต้นเเละใบ นำมาต้ม เเก้โรค กระหายน้ำ
    ต้นเเละใบ ตำพอกฝี
    ใบใช้ต้มกินเเก้อาการบวม ลดอาการบวมต่างๆๆ เเก้หนองใน ไอเป็นเลือด ตกขาว บิด

    วิทีใช้ ก้ามปูหลุดนะครับ


    วิธีและปริมาณที่ใช้ :
    ใช้ทั้งต้นแห้งหนัก 15- 30 กรัม (สดใช้ 60- 90 กรัม ) ต้มกับน้ำดื่มหรือคั้นเอาน้ำดื่ม

    แก้ไอเป็นเลือด
    ใช้ต้นสด 60- 90 กรัม ต้มกับปอดหมูหนัก 120 กรัม ผสมน้ำต้มให้เหลือ 1 ชาม ดื่มหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง

    แก้โรคหนองใน
    ใช้ต้นสด 60- 120 กรัม ใส่น้ำต้มให้เหลือ 1 ถ้วย ดื่มหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง

    แก้สตรีมีตกขาวมาก
    ใช้ต้นสด 60- 120 กรัม น้ำตาลกรวด 30 กรัม ต่าฉ่าย (Mytilum crassitesta Lischke) 30 กรัม ผสมน้ำต้มให้เหลือครึ่งชาม ดื่มหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง

    แก้บิดเรื้อรัง
    ใช้กาบหุ้มดอกสดหนัก 150 กรัม ข้าวสารคั่วจนเกรียม (เริ่มไหม้) 30 กรัม ต้มน้ำแบ่งดื่มเป็น 3 ครั้ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...