เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!!

ขอบคุณ

ไม่เสียแรงที่ตามจิกขอดูภาพความเป็นจริงที่สวยงาม ยายดูดี ลูกสาวยายก็ดูดี แต่คนที่อุ้มลูกสาวนี่ซิ เคยเล่นเรื่องปอป!!!มาก่อนหรือเปล่า ฮิฮิฮิ " วันนี้จะถอนฟันให้หมด เพราะพรุ่งนี้ต้องสอบปากเปล่า "

 

ตอแหลแระ ...หลังบ้านว่างี้นะยายจะดึงมาเผา อิอิ ว้าหิวแระ ไปแระ...

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>หนุ่มเหลือน้อย<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Apr 2005
โพส: 4
Rep Power: 0


</TD><TD class=alt1><!-- icon and title -->จริงใจ


<HR style="COLOR: #cccffc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ยาย ผมเข้าไปดูรูปตามที่ยายบอกแล้ว ยายรู้ไหมทำไมผมต้องตามจิกขอดูภาพยายแบบชัดๆให้ได้ ดวงตายายฟ้อง ผมเห็นภาพยายครั้งแรก ยายเป็นคนไม่สวยและก็ไม่น่ารัก(พูดตรงๆ) แต่ภาพหน้ายายแปลกมากไม่เหมือนรูปผู้หญิงสวยๆ หรือน่ารักแบบคนอื่นๆ มันสดุดตาคุ้นจริงๆ เหมือนมีบางอย่างบอกออกมาทางแววตาและสีหน้าของยาย ผมดีใจที่ได้รู้จักยายถึงแม้เราจะไม่เคยเจอกัน เราเป็นเพื่อนกันได้ ถ้ายายมีปัญหาปรึกษาได้นะ ทุกเรื่องเลย นานผมจะได้เจอคนเกิดปีเดียวกันซักที ผมจริงใจตามสไตล์คนเกิดวันเสาร์ เออลูกสาวยายน่ารักนะ ทุกคนเลย แต่คนแก่ที่อุ้มลูกเคยเล่นเรื่องปอป มาหรือเปล่า ฮิฮิ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แล้วป๋มล่ะงับแง้ ม่ายยอมน้า T^T ถ้าเปนยายล่ะก้อ ความหนุ่มของป๋มยกให้ยายฟรีๆเล้ย

 

เร่งทำคะแนนสิคะคนเก่งของยายผีป่า ตอนนี้ยายผีป่าเปิดรับบัตรจีบแล้วนี่คะ มาด้วยความจริงใจ ยายผีป่ารับประกันว่าไม่ทำให้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่นอนนะ เชื่อสิ !!!

 

กะลังเร่งสุดชีวิตแย้ว แต่ยังเก็บเงินค่าสินสอดได้ร้อยก่าๆเองอ่ะ แง้T^T งุงิ

 

มารฟ้าเผยโฉม !!!

 

ว้าว... พ่อหนุ่มน้อยของยายเจ้าขา... ยายใจแป้วแย้วนะเค๊อะ เหมือนเพื่อนเก่่าที่จากไปด้วยอุบัติเหตุมาก มาเกิดใหม่เหรอคนดี...

 

หยองับ ผมหน้าโหลมั้ง ไปเหมือน หน้าคนอื่นหลายคนแระอ่ะ คนทักประจำ เพื่อนยายจากไปนานยังครับ?

 

แฟนเก่ามารฟ้าน่ารักสมกันดีนะคะ ทำไมไม่ถนอมกันไว้นานๆล่ะคะคนดี มารักมาปลื้มคนแก่ ทางบ้านจะตำหนิเอานะคะ อิอิ เดี๋ยวหยิกแกล้มช้ำนะ ยายชอบขยำแรงๆเวลามันเขี้ยวง่ะ เพื่อนยายจากไปนาน 20 ปีได้แระ เรียนเก่งมากค่ะ...(b-green)

 

ยายเป็นหยังถึงเอาผมมาปิดหน้าด้วยอ่ะ
<img src=http://palungjit.org/attachments/a.13555/> &nbsp;&nbsp;<img src=http://palungjit.org/attachments/a.13556/>

 

คุณ zipper ไม่ทันสมัยเลย แบบว่าอินเทรน(bb-flower

 

คนแก่ ก้อมิเป็นไรคับ แบบว่าดูแลเราได้อ่ะ งิงิ ^_^ ทำชอบว่าตัวเองแก่จัง ยายปีนี้อายุเท่าไรงับ 27 หรือ28 อ่ะ


ปล.ไม่แน่นะผมอาจเป็นเพื่อนคุณยายก้อได้ งุงิเพราะผมยังมะ20เลย อ่ะ อีกนาน (b-green)

 

Yai will up date this topic next week Na Ka...do wait...

 

พลังธาตุละเอียดของธาตุจิต



1. ธาตุหยาบกับธาตุละเอียดเป็นโลกธาตุซึ่งประกอบไปด้วยธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ



2. อากาศธาตุและวิญญาณธาตุเป็นธาตุที่มีบารมีและบุญ ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งผลในทางที่ดี



3. เมื่อธาตุละเอียดผลักดันให้วิญญาณธาตุขยายตัวออกเป็นฌาณไปสู่โลกุตรธรรม ก็จะสามารถแก้กรรมเก่า ประหารกิเลสและมาร



4. ผู้บรรยายธรรมและผู้สอนการนั่งสมาธิที่ปฏิบัติไม่ได้ถึงฌาณ มักประพฤติไปในทางที่ผิดศีลธรรม ชีวิตจะประสบแต่ภัยวิบัติดังเช่นผู้หลงอำนาจที่นำประเทศชาติไปในทางเสียหาย ดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ทุกวันนี้



5. มนุษย์ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ แม้จะนับถือศาสนาต่างกัน ก็สามารถปฏิบัติสมาธิกันได้ทุกคน เพราะมีธาตุธรรมเดียวกันหมด



6. พลังธาตุละเอียดของธาตุจิตมีอำนาจบารมีเหนือธรรมชาติ และไม่มีศาสนาใดๆ เทียบ เท่าได้



7. จิตหลุดพ้นเป็นพลังธาตุจิตที่มั่นคง ทำหน้าที่กำกับดูแลธาตุที่ด้อยกว่าในโลกียธรรมให้ไปรับกรรมของผลบุญหรือบาปที่ทำไว้ในอดีต และจะส่งผลในชาติหน้า ทุกชาติและทุกภพด้วยจิตสำนึกของตนเอง เมื่อดับขันธ์ไปแล้ว ก็จะไปจุติในโลกธาตุและวิญญาณธาตุเป็นอัตตา

 

From...http://www.geocities.com/knowledge_meditation/

 

รูปที่ 1

เป็นรูปจักรล้อมรอบธาตุธรรม ซึ่งมีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุอยู่

ภายในให้ผู้ปฏิบัตินำไปใช้เป็นสื่อในการเดินสมาธิ เพื่อให้เข้าถึงต้นธาตุต้นธรรมให้ปรากฏ เพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน



การปฏิบัติ ให้น้อมรูปจักรเข้าไปสถิตอยู่ในศูนย์กลางกายแบบนอนแล้วสะกิดจิตให้จักรหมุนตามเข็มนาฬิกา (จากซ้ายหน้าขวาหลัง) ให้เกิดพลังเป็นแสงเล็กๆ แผ่กว้างออกไป กลมเหมือนลูกแก้วไม่มีที่สิ้นสุด



รูปที่ 2

อันธรรมดาสัตว์โลกย่อมอาศัยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงเกิด หากแยกออกจากกันย่อมดับหรือตาย สัตว์โลกเป็นธาตุหยาบมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม มีกายสิทธิ์ปกป้องดูแลอยู่เสมอ และยังมีสายสัมพันธ์กับวิญญาณธาตุอยู่ตลอด เวลา ถ้ามีสิ่งไม่ดีจากภายนอกมากระทบ กระแสจิตถ้ามีถึงกันแล้วก็จะส่งมาช่วยเสมอ ฉะนั้นผู้ที่ไม่มีพลังจิตในตัวเข้มแข็งแต่ชอบใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงหรือทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งามต่อผู้อื่นหรือผู้ทรงศีลในสัมมาทิฐิ หรือมิจฉาทิฐิก็ตาม ผู้กระทำจะต้องถูกกระทบจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องผู้นั้นโดยฉับพลัน ถึงกับบ้าไปเลยก็มี ซากศพก็เช่นเดียวกัน มีวิญญาณธาตุยังคอยดูแลและหวงธาตุหยาบของเขาอยู่เหมือนกัน แม้จะอยู่คนละภพแล้วก็ตาม



รูปที่ 3

จักรแก้ว จักรเป็นประธานของรัตนเจ็ดได้แก่ จักรแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว ดวงแก้วมณี ช้างแก้ว และม้าแก้ว

1. เมื่อปฏิบัติสมาธิ จักรแก้วจะช่วยป้องกันภยันตรายที่จะมากระทบผู้ปฏิบัติ และให้ผู้ปฏิบัตินำไปใช้แก้ปัญหากิจการ ธุรกิจการงานต่างๆ สัมฤทธิ์ผลได้รวดเร็วขึ้น ตามความมุ่งหมายของตน

2. เมื่อต้องการพลัง ให้น้อมจักรแก้วเข้ามายังศูนย์กลางกาย แล้วตามด้วยขุนพลแก้ว (นักรบในอดีต) จะเกิดพลัง

3. ถ้าเป็นการค้าขาย มีการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ให้น้อมจักรแก้วอีกครั้ง พร้อมทั้งขุนคลังแก้ว (ก้อนเงินก้อนทองที่เป็นแก้ว) กิจการงานจะรุ่งเรืองและไม่ขาดทุน

4. การติดต่อจะสะดวกขึ้นไม่มีอุปสรรค ถ้าน้อมจักรแก้วพร้อมทั้งนางแก้ว (นางฟ้าไม่ใช่นางกวัก) และคนที่เราจะไปติดต่อด้วย จะทำให้เขาเกิดเมตตาธรรมในทางสัมมาทิฐิ

5. น้อมจักรแก้วก่อนทุกครั้งไป แล้วน้อมดวงแก้วมณี (ลูกแก้ว) จะทำให้ผู้ปฏิบัติรู้
แจ้งแทงตลอดทุกเรื่องในที่ประชุมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธรรมะ เรื่องกฎหมายบ้านเมืองหรือเรื่องธุรกิจการงานต่างๆ ก็จะสามารถถกและออกความคิดเห็นได้เป็นอย่างเที่ยงธรรม

6. การเดินทางทุกครั้ง จะต้องน้อมจักรแก้ว พร้อมทั้งช้างแก้วม้าแก้วและผู้อื่นที่ร่วมเดิน ทางไปกับเราด้วย แล้วอธิษฐานว่าให้ถึงจุดหมายปลายทางโดยปลอดภัย อย่าให้มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางโดยเครื่องบิน ถ้าไม่ปลอดภัย ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครื่องเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่จะอนุมัติให้เดินทางต่อไปได้

7. ผู้ปฏิบัติจะนำเอารัตนเจ็ดมาใช้ได้ตามความประสงค์ของตนได้ทุกโอกาส แต่จะต้องน้อมจักรแก้วเข้าก่อนทุกครั้งไป และจะสลายไปในที่สุดเมื่อมนุษย์ดับขันธ์แล้ว

8. รัตนเจ็ดส่งผลแรงและส่งเสริมให้งานสำเร็จเร็วต่อผู้ที่ปฏิบัติได้แก่กล้า และปฏิบัติจริงในทางสัมมาทิฐิเท่านั้น

<!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --></OBJECT></LAYER>

 

ตัวเราเป็นที่ตั้งและเป็นที่วัดผลของการปฏิบัติ จะรู้ผลด้วยตัวเราเอง อย่าเอาตำราต่างๆ ที่รู้ไม่จริงมาเป็นวิชาปฏิบัติ จะไม่ส่งผลดี ในการปฏิบัติถ้ามีสิ่งใดมากระทบในขณะที่อยู่ในสมาธิ เราต้องแก้เดี๋ยวนั้นทันที ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น การปฏิบัติสมาธิทำได้ทุกสถานที่ทุกอิริยาบถ หลับตาก็ได้ ลืมตาก็ได้ ให้เกิดพลังแสงเพื่อให้หลุดพ้น พลังจิตเกิดจากการปฏิบัติแต่เพียงอย่างเดียว ถ้าสมาธิจิตไม่สูงแล้ว ผู้นั้นจะไม่เป็นตัวของตัวเอง และจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำไปแล้วนั้นผิดหรือถูก ส่วนมากทำตามกันมาทั้งนั้น ผลสุดท้ายภัยวิบัติต่างๆ ก็จะตอบสนองแน่นอนดังที่มีข่าวปรากฏอยู่บ่อยๆ ในหน้าหนังสือพิมพ์ จงสังวรณ์ไว้ด้วย

​

รูปที่ 1 ธาตุละเอียดเกิดขึ้นได้ด้วยการปฏิบัติสมาธิที่ถูกวิธีจากธาตุหยาบ ทำให้ธาตุละเอียดนิ่งส่งผลเป็นรัศมีแผ่เป็นวงกว้างออกไปเป็นฌานจนผู้ปฏิบัติสามารถแก้กรรมเก่าและประหารกิเลสของตนเองจนสำเร็จได้ในชีวิต



รูปที่ 2 พลังอำนาจของธาตุละเอียดมีปัญญาและบุญบารมีช่วยผลักดันให้ฌาณเข้าสู่ โลกุตตรธรรมและบังคับสรรพสิ่งที่อยู่ในรัศมีของฌานไม่ให้ทำผิดศีลธรรมและส่งผลให้ธาตุหยาบของผู้ปฏิบัติเจริญภาวนามีชัยชนะต่อสิ่งทั้งปวงในทางโลกและทางธรรม เมื่อเดินสมาธิของฝ่ายสัมมาทิฐิจนมั่นคงแล้ว จึงค่อยปฏิบัติของฝ่ายมิจฉาทิฐิไปด้วย จะได้ครบวงจรของสัจธรรมและจะไม่มีศัตรูอีกต่อไป การปฏิบัติทางฝ่ายสัมมาทิฐิ จักรจะต้องหมุนตามเข็มนาฬิกาส่วนของฝ่ายมิจฉาทิฐิ จักรก็จะเดินทวนเข็มนาฬิกา ขอให้ปฏิบัติพร้อมกันไป ฌาณจะได้ทำหน้าที่ขยายออกอย่างเต็มที่จากกำลังสนับสนุนของธาตุละเอียดโดยการขยายออกของฌานและย่อเข้ามาของญาณหยั่งรู้ทั้งสองแบบนี้ให้ได้สัดส่วนเท่ากันและพร้อมกันจนสนิทเป็นเนื้อเดียวกันหมด การปฏิบัติอย่างอื่นก็ให้เดินตามปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง

ธาตุหยาบคือกายสรรพสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในโลกมาร ถ้าไม่มีธาตุหยาบ (กายมนุษย์) แล้ว ก็ไม่มีธาตุละเอียดในกายเกิดขึ้นได้ ใจก็ยังครองเป็นใหญ่อยู่ มักจะทำตามอารมณ์ของตนอยู่เสมอ และไม่เข้าใจทุกสิ่งที่ทำไปแล้วนั้นว่าผิดหรือถูก

ธาตุหยาบเป็นที่ตั้งที่ยึดที่รู้ของทุกคน การปฏิบัติจะทำให้ธาตุละเอียดมีพลังมากขึ้นต่อเนื่องส่งผลผ่านทางจิตให้ธาตุหยาบเจริญในทางธรรม การสะสางธาตุธรรมโดยวิธีเช่นนี้จะทำให้ธาตุหยาบแยกออกจากธาตุละเอียดแล้วจะรู้สึกหงุดหงิดไปด้วยและควบคุมกายของตนให้นิ่งไม่ได้ เพราะวิชากรรมฐานจะต้องฝ่าฟันเอาชนะธรรมชาติให้จงได้ และธาตุทั้งสองจะมีความละเอียดเติบโตและมีพลังไม่เท่ากัน มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการปฏิบัติ เมื่อสำเร็จขั้นต้นไปแล้ว ขั้นสูงต่อไปก็จะประสบเช่น เดียวกันอีก จะมีความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นแน่นอน ถ้ามีผู้คอยชี้แนะก็จะดี ธาตุหยาบก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น และจะไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใดๆที่จะมากระทบอีกต่อไป

เมื่อปฏิบัติจนสำเร็จแล้ว วัตถุธาตุต่างๆภายนอกกายที่ด้อยกว่าก็จะถูกกำจัดหมดไป ธาตุละเอียดก็จะมีพลังเข้มแข็งมั่นคง สะดวกในการขยายฐานต่อไปอีก เพราะสรรพสิ่งก็มีธาตุที่จุดศูนย์กลางอันเดียวกันกับเรา

เมื่อได้ถึงขั้นโลกุตรฌาณแล้ว จะรู้แจ้งเห็นจริงสัจธรรมและจะเข้าใจคำว่า

 

ภพเวียนว่ายตายเกิด
​

เมื่อมนุษย์ดับขันธ์ไป ธาตุละเอียดและธาตุหยาบจะต้องแยกออกจากกันในโลกธาตุและวิญญาณธาตุ ส่วนธาตุหยาบนั้นจะกลายเป็นสังขารธาตุไป แต่ยังมีสายสัมพันธ์ถึงกันอยู่ตลอดเวลา แม้จะอยู่คนละภพก็ตาม รูปร่างหน้าตาก็ยังคงเป็นแบบเดิม แต่พฤติกรรมจะเปลี่ยนไปตามบาปบุญคุณโทษที่ส่งผล ถ้าเมื่อใดหมดบุญแล้ว จะมีการหวนกลับมาเกิดสู่โลกมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตามกฎแห่งกรรมนี้จะต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่หมด เช่น รูปร่าง สัณฐานเดิมและธาตุก็จะปรับเปลี่ยนเข้าสู่ปัจจุบันชาติต่อไป จะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ขึ้นอยู่กับกรรมของตน



ธาตุละเอียดของมนุษย์เป็นจุดสำคัญยิ่งในการเดินวิชา จะต้องปฏิบัติให้ถึงจึงจะเอาชนะใจตนเองได้ ในการช่วยกำจัดภัยร้ายต่างๆหรือต่ออายุให้ผู้อื่น จะต้องทำที่ธาตุละเอียดเท่านั้น เสริมสร้างพลังให้เข้มแข็งให้ชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ก่อน ผู้รับจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันก็จะได้หมดเคราะห์กรรมไป

<!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --></OBJECT></LAYER>

 

อำนาจของธาตุ
​

สัจธรรมเป็นสิ่งที่เที่ยง แก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว ผู้ใดเพียงแค่คิดที่จะทำผิดกฎธรรมชาติข้อนี้ จะต้องมีอันเป็นไปกับชีวิตและครอบครัวของตนอย่างแน่นอน



ภัยวิบัติจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มันเป็นวิบากกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง ทั้งนั้น จะต้องแก้ด้วยพลังธาตุอันเดียวกันที่ละเอียดกว่าเท่านั้นจึงจะเอาชนะมันได้ แม้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ทำไม่สำเร็จและเข้าไม่ถึงทางธรรมด้วย



โลกปัจจุบันเป็นเวทีทดสอบความมั่นคงของธาตุของทุกสรรพสัตว์ อย่าให้ตกต่ำไปจากที่มีอยู่เดิม จงพยายามรักษาให้คงที่ไว้ หรือให้เหนือกว่าอำนาจทุกวัตถุธาตุที่ปรากฏให้ได้ ไม่ใช่มาแสวงแต่ผลประโยชน์ในโลกนี้ ก็จะพลาดโอกาสไปและจะไม่ส่งผลในชาติหน้า



การเริ่มปฏิบัติธรรมครั้งแรกจะต้องผ่านหลายขั้นตอน เช่น (1) จิตเข้มแข็ง (2) พลังจิต และ (3) สมาธิจิต จะต้องมีผู้สอนคอยควบคุมอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพราะธาตุหยาบกับธาตุละเอียดจะต้องแยกออกจากกัน ผู้ปฏิบัติย่อมรู้สึกหงุดหงิดด้วยตัวเขาเอง



ทั้งหมดนี้จะต้องปรับให้เข้ากับธรรมชาติอย่างแท้จริง และไม่ต้องมีพิธีกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ฝึกได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติและศาสนา เพราะทุกชีวิตมีธาตุอันเดียวกันหมด มิฉะนั้นแล้วจะไม่หลุดพ้น จะพบแต่อุปสรรคนาๆ ประการในโลกเวียนว่ายตายเกิด

<!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --></OBJECT></LAYER>
</SPAN></STYLE></NOSCRIPT></TABLE></SCRIPT></APPLET><SCRIPT language=JavaScript src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc1.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc2.js"></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript src="http://geocities.com/js_source/geov2.js"></SCRIPT><SCRIPT language=javascript>geovisit();</SCRIPT> <NOSCRIPT></NOSCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--var SymRealOnLoad;var SymRealOnUnload;function SymOnUnload(){ window.open = SymWinOpen; if(SymRealOnUnload != null) SymRealOnUnload();}function SymOnLoad(){ if(SymRealOnLoad != null) SymRealOnLoad(); window.open = SymRealWinOpen; SymRealOnUnload = window.onunload; window.onunload = SymOnUnload;}SymRealOnLoad = window.onload;window.onload = SymOnLoad;//--></SCRIPT>

 

กฎธรรมชาติ



โลกธาตุและวิญญาณธาตุมีทั้งฝ่ายสัมมาทิฐิและมิจฉาทิฐิอยู่ในธาตุทั้งสอง ฝ่ายใดจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการปฏิบัติสมาธิที่ได้ธาตุละเอียดกว่ากันเท่านั้น ก่อนอื่นจะต้องเข้าใจว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายประกอบไปด้วยธาตุหยาบคือกายมนุษย์ ซึ่งมีใจเป็นใหญ่ มักทำตามใจชอบอยู่เสมอ จะต้องอาศัยธาตุละเอียดที่ซ่อนเร้นอยู่ในธาตุหยาบอีกชั้นหนึ่งและคอยควบคุมดูแลพฤติกรรมอยู่แล้วนั้นให้ช่วยชี้แนะไปในทางที่ถูกที่ควร เมื่อมนุษย์ปฏิบัติจนได้ฌาน ธาตุละเอียดก็จะเจริญขึ้น ส่งผลบุญกลับผ่านทางจิตสู่ธาตุหยาบ ธาตุหยาบก็จะได้อานิสงส์เพิ่มพลังแบบนี้อยู่ตลอดไปจนบรรลุธรรม และจะรู้แจ้งสัจธรรมได้อย่างเที่ยงธรรมด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งภายนอกอื่นใดอีกต่อไป ทุกชีวิตจะต้องปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกันหมด ไม่มีการยกเว้นเพื่อให้ได้บุญ เมื่อมนุษย์ดับขันธ์ไปแล้ว ธาตุหยาบกับธาตุละเอียดจะแยกออกจากกันทันที แต่ยังมีจิตเป็นสื่อติดต่อถึงกันอยู่ ส่วนธาตุละเอียดจะไปรับบุญหรือบาปส่งผลในภพหน้า จงอย่าลืมว่าธรรมชาติไม่มีการปรุงแต่งขึ้น เป็นกฎตายตัวของมันอยู่แล้ว มนุษย์จะไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎอันนี้อีกให้เหมือนกับตำราอื่นไม่ได้เป็นอันขาด แค่คิดจะกระทำก็จะวิบัติไปเอง มนุษย์มีสิทธิเท่าเทียมกันหมดทุกคน สามารถปฏิบัติสมาธิได้โดยไม่จำกัดเพศ วัย เชื้อชาติ วรรณะและศาสนาเพราะมีธาตุธรรมอันเดียวกัน อย่าลืมว่าเราเกิดมาชาตินี้ เพื่อมาแก้กรรมของตนเองเท่านั้น

<!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --></OBJECT></LAYER>
</SPAN></STYLE></NOSCRIPT></TABLE></SCRIPT></APPLET><SCRIPT language=JavaScript src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc1.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc2.js"></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript src="http://geocities.com/js_source/geov2.js"></SCRIPT><SCRIPT language=javascript>geovisit();</SCRIPT> <NOSCRIPT></NOSCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--var SymRealOnLoad;var SymRealOnUnload;function SymOnUnload(){ window.open = SymWinOpen; if(SymRealOnUnload != null) SymRealOnUnload();}function SymOnLoad(){ if(SymRealOnLoad != null) SymRealOnLoad(); window.open = SymRealWinOpen; SymRealOnUnload = window.onunload; window.onunload = SymOnUnload;}SymRealOnLoad = window.onload;window.onload = SymOnLoad;//--></SCRIPT>