เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบี้ยแก้ เบี้ยจั่น วัดมอญ

    เล่าเรื่องเครื่องรางของขลังหลวงพ่อทรง วัดมอญ จะข้ามเบี้ย ไปไม่ได้เลย ท่านทำสืบเชื้อสายแนวเบี้ย อ่างทองแบบไม่ให้เสียชื่อ รุ่นอาจารย์ของท่าน เบี้ยของท่าน บรรจุปรอท วิทยาศาสตร์ธรรมดา คงไม่ได้มาจากการดักปรอทเหมือนของโบราณ อันนี้เขาเล่าน่ะครับ ผมไม่เคยไปดักเอง แต่ เป็นปรอทที่สำเร็จ ด้วยอำนาจจิต ที่สูงของหลวงพ่อ และแรงครู ทำให้ปรอท เป็น และสั่นได้ เคลื่อนไหวได้ เมื่อมีเหตุอะไรบางอย่าง เป็นการบอก และป้องกันตัว นอกจากนั้นจากความเห็นเดิม ยังมีลูกศิษย์หลวงพ่อ อาราธนาบอกเบี้ยให้ฝนหยุดตกได้อีกและไม่ใช่ครั้งเดียว จัดว่าเป็นของสรรพคุณแปลก มีสรรพคุณทางคุ้มครองเหลือเฟือ

    ปรอทจะถูกบรรจุอยู่ในตัว หอยชนิดหนึ่ง พร้อมกับเศษตะกั่ว ตัดใส่ลงไป เพราะเป็นเคล็ดหลวงพ่อ ว่าถ้าปรอทรั่วหรือหนีไป ก็จะหนีไปไม่หมด แต่ยังเหลือที่เกาะกินอยู่บนตะกั่วบ้าง และประโยชน์อีกอย่างสาเหตุที่ปรอทมีราคาแพง ตะกั่วจะช่วยประหยัดปรอทไปได้ในตัว แล้วอุดด้วยชันโรงใต้ดิน ที่ปากหอย กันปรอท ไหลออก และอาจจะมีปิดด้วย แผ่นโลหะ ทองแดง หรือ ตะกั่วปิดไว้อีกทีก็ได้ ชันโรงนี้ถวายจากลูกศิษย์ท่านหนึ่ง มาสองครั้ง พอทำเบี้ยได้หลาย พันตัว อาจจะถึงหมื่น ในระยะเวลา ประมาณ สองปีกว่าเกือบสามปี ที่ผมได้เห็นเหตุการณ์ มาตลอดที่วัดมอญ อันนี้พูดเฉพาะของวัดน่ะครับ

    เบี้ยตัวครู หน้า.JPG เบี้ยตัวครู หลัง.JPG
    มาเริ่มที่ตัวใหญ่หรือตัวครูก่อน รูปนี้คือเบี้ยตัวครูที่ท่านมอบให้พระครูอุปฯสองวาระตัวขวาคือตัวแรก มอบให้นานแล้ว ส่วนตัวซ้าย พึ่งมามอบให้ไม่นาน พระครูอุปทฯจำไม่ได้ชัดเจนแต่ผมจำได้ว่า หอยมือเสือนี้ ผมกับนายหมีนำมาเอง จากบางแสน ถวายหลวงพ่อไว้แต่ท่านไม่ค่อยให้ทำ เพราะเปลืองปรอท และชันโรง คนที่ได้ไปจึงนับคนได้ผมก็ได้มาแค่ตัวเดียวที่หุ้มตะกั่ว แต่ย้ำอีกครั้งผมเคยกราบเรียนถามท่านเองว่าตัวใหญ่กับตัวเล็กสรรพคุณต่างกันอย่างไร ท่านว่าเหมือนกัน

    และอีกอย่างจะเห็นว่าสายอาจารย์ท่านน่ะ เป็นอาจารย์ดังๆทางเบี้ยสายอ่างทองทุกคน เช่นสายหลวงพ่อพัก วัดโบถส์ ( หรือ วัดโพธิ์ ) หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำวัดโพธิ์ปล้ำ นอกจากนั้น ท่านเคยเล่าถึงหลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง ให้ผมฟัง แต่ไม่ละเอียดนัก และผมก็ไม่ได้เฉลียวใจ เลยไม่ได้ถามให้ละเอียด แต่มาคิดได้ที่หลังว่าท่านคงต้องมีความเกี่ยวข้องกัน หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง แน่นอน และหลวงพ่อโปร่งก็เก่งทางด้านเบี้ย เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นหลวงพ่อโปร่งยังมีบารมีสูง ขนาดว่า คนที่ถูกยิงและถูกแทงมา แล้วซมซานหนีมาหาท่านในวัด พวกตามมาไล่จะฆ่าทิ้งตามมา ท่านยังบิณฑบาต ขอชีวิตไว้ได้ คนที่รอดนี้ยังมีชีวิตอยู่ เป็นคนศาสนาอื่นซ่ะด้วยครับ

    พ่อ พัก คำ  นุ่ม โปร่ง.JPG
    จากซ้ายไปขวา เบี้ยหลวงพ่อ พัก หลวงพ่อ คำ หลวงพ่อ นุ่ม และหลวงพ่อโปร่งตัวเลี่ยมเงินตัวเดียว

    จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าหลวงพ่อทรงท่านจะไม่เก่งทางเบี้ยด้วย การที่ท่านให้เบี้ยถุงใหญ่ ก่อนล่ะสังขารแก่ท่านพระครูอุปฯ เหมือนเตรียมไว้ให้เหมือนเป็นการบอกย้ำให้ท่านพระครู อุปฯถึงของชิ้นสุดท้ายที่มอบให้คือเบี้ย เหล่านี้นี่เอง

    ผมว่าคนจะใกล้ตายน่ะครับ ทำอะไรคงทิ้งทวนแล้วล่ะครับท่านพระครูอุปฯจึงมั่นใจว่าเบี้ยของหลวงพ่อนี้เป็นเครื่องราง อันมหัศจรรย์จะเป็นเครื่องรางแทนตัวท่าน สืบสายคนวิเศษชัยชาญต่อไป

    แนะนำว่าท่านใดที่มีเบี้ยของหลวงพ่อทรง ยิ่งได้รับกับมือตอนมีสังขารอยู่ขอให้นำมาใช้ติดตัว ดีกว่าวางไว้เฉยๆและระวังตก หล่น หายเพราะคนทำได้แบบนี้ขนาดนี้ ท่านพระครูอุปฯว่าในอ่างทองตอนนี้ไม่มีแล้วครับอันนี้เป็นมุมมองของท่านพระครูน่ะครับผมแค่ถ่ายทอดมาให้ฟัง

    ส่วนด้านนี้เป็นด้านหลังเบี้ย จะอุดชันโรงแล้วแปะด้วยแผ่นทองเหลือง ลงมะอะอุ ขึ้นยอดเรียกว่าสองตัวนี้ท่านเอามาโชว์ก็แล้วกัน น่ะครับผมว่าคงอยู่ที่วิเศษฯน่ะแหละไม่ไปไหน ก่อนถ่ายผมขออนุญาติแล้วถ้ามีคนไปตื้อท่านก็อย่าว่าผมน่ะครับ .......แหะๆ

    เบี้ยแก้.JPG
    เบี้ยแก้นี้ ผมจำไม่ได้ว่า ใครเริ่มก่อนอาจจะเป็นศูนย์ที่ทำมาควบบนสายคาดตะกรุดสี่มหาอำนาจ หรือศิษย์คนหนึ่งของท่านเอาวัสดุ หอย ปรอท และชันโรงมาให้หลวงพ่อทำให้ มีประมาณหลักหลายสิบตัวเหมือนกัน หลวงพ่อให้พระในวัดกรอกปรอทและอุดชันนะโรง เป็นเบี้ยคัดขนาดมาทำเสร็จแล้วหลวงพ่อให้ไปไว้ที่หอสวดมนตร์วัตถุมงคลส่วนใหญ่ทำเสร็จแล้วท่านจะให้เอาไปเก็บที่หอสวดมนตร์ อาจจะมีได้หลายนัยยะ

    อันแรกคือไม่พลุกพล่าน มีพระถือลูกกุญแจ ถึงไม่ใส่ใครจะเข้าไปไม่ได้ง่ายๆ เพราะไม่ใช่ทางผ่าน ถ้าเข้าไปจะต้องผ่านพระที่ดูแลตู้เข้าไปในหอสวดมนตร์ก็มีวัตถุมงคลอื่นเก็บอยู่เรียกว่าจะไม่มีคนหยิบฉวยไปได้ง่ายๆเหมือนวางตรงที่ท่านรับแขก

    อันที่สอง ในหอสวดมนต์น่ะ พระเข้าไปทำวัตรสวดมนต์ เรียกว่าปลุกเสก ไปทุกวันนอกนั้นบางทีมีคนเอาพระไปให้เสกถ้าเยอะเป็นพิธีกรรม ก็จะยกเข้าไปข้างในหอสวดมนตร์เพราะมีพระพุทธรูป พระประธาน รูปครูบาอาจารย์ท่านก็อยู่ข้างใน ท่านก็เข้าไปปลุกเสกในนั้นจะเห็นได้ว่าตอนมีพระผงอยู่เป็นหลายๆถาดและหลายๆลัง มีพระทั้งของผมเข้าไปฝากไว้พระพุทธชินราช ( อาจารย์ อนันติ์ หล่อองค์พระให้ แล้วผมมาขอหลวงพ่อ หล่อฐานและเรือนแก้วให้ผม ) พระนาคปรก พระนอนวันอังคารองค์ใหญ่ หลังๆก็เริ่มมีคนเอามาวางฝากปลุกเสกด้วยเยอะขึ้นท่านจะวงสายสิญย์ไว้ ด้วยตัวท่านเองในบางครั้ง และท่านอาจจะไปเสกให้ในตอนกลางคืนก็ได้ หรือวันที่ฤษถ์ดีๆว่างๆจากภารกิจก็ได้เรียกว่าเสกทับถมกันไป แต่อากาศในหอสวดมนตร์นี้จะอับหน่อยสังเกตุว่าท่านไม่ค่อยมานั่งเท่าไหร่ นอกจากจำเป็นเท่านั้น

    อันที่สาม การวางไว้ข้างนอกทำให้คับแคบลงในที่จะรับแขกและเพราะของมีเจ้าของ อาจจะมีคนอยากได้แล้วจะมาขอไปซ่ะหรือ ถือวิสาสะ หยิบไปเฉยๆ หลวงพ่อท่าน เลยให้ยกหนีไปซ่ะ

    เอาว่าสรุปว่าเบี้ยแก้จะวางในหอสวดมนตร์ส่วนของศูนย์น่ะเขาคงเอาแยกมาปลุกเสกต่างหาก ที่นี้ใครเห็นก็อยากได้ รวมทั้งพระที่มาทำวัตรทุกเย็นด้วยแต่ไม่มีใครกล้าหยิบ เพราะหลวงพ่อบอกมีเป็นของมีเจ้าของ พอได้เวลา เจ้าของเขามารับคืนไปทั้งถาด เพราะเป็นของเขา ทุกคนบ่นเสียดายไปตามๆกัน ใครก็อยากได้ เพราะดูแล้วมีเสน่ห์น่ารัก

    เมื่ออยากได้ก็เริ่มต้องทำเอง ผมจำไม่ได้จริงว่าใครเริ่มแต่หลวงพ่อไปได้ ชันนะโรงมาจากศิษย์คนหนึ่ง คนนี้ชื่อคุณ ช เป็นคนดี ใจกว้างมากท่านหนึ่งทีเดียว คุณ ช ไปได้หนังเสือ และชันนะโรงมาจาก แถวนครสวรรค์และจากอีสาน ถ้าจำไม่ผิด เอามาถวายหลวงพ่อพระวิโรจน์วานผมไปซื้อปรอทจาก ร้านแถวเจ้ากรมเป๋อ ที่ หน้าวัดสามปลื้มผมเลยบอกไม่เอาตังค์แต่แบ่งผมมั่งนี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นนายหมีไปเอาหอยมาจากพี่สาวแถวบางแสนมาหลายสิบกิโล หลายพันตัวและจากนั้นผมกับนายหมีตามไปที่บางแสน และ อ่างศิลาอีกหลายครั้ง ได้อีกหลายพันตัวไปหลายครั้งตอนบ่ายๆหลังเลิกงาน ไปมาหมดแทบจะทุกร้าน เรียกว่าลุยด่ะไปกว้านซื้อทุกร้านที่ผ่านไป

    แบบที่ขาย แบบนับตัวขาย หรือ ขายเหมาเป็นกิโล ตัวใหญ่ กลาง เล็ก ปนกัน เรียกว่าแทบหมด จนร้านที่เคยไปประจำบอกหอยหมดแล้วค่ะ รอสั่งชุดใหม่ก่อน และคนขายหอยยังบอกว่าคนมาหามาก อันนี้คงเป็นลูกศิษย์สายวัดกลางบางแก้ว หรือ สายนครปฐม มากว้านซื้อไปจนหอยนี้ต้องสั่งมาจากนอกมา เช่นอินโดนีเซีย หรือจาก เขมร อันนี้คนขายเล่าให้ฟังจนกระทั่งผมต้องไปเอาหอยคัด แบบคัดขนาดไว้ขาย ราคาแพง ก็ต้องกัดฟันซื้อ เพราะมีความต้องการจากทางวัด หอยคัดนี้เอาไว้ขายนักท่องเที่ยว แบบคัดๆ มีราคาตั้งแต่ตัวล่ะ 15 บาทขึ้นไปจนไปถึงถุงล่ะร้อยบาทมีแค่สี่ตัวชักเรียกว่ามีราคาแพง จนไม่สามารถซื้อได้เยอะในคราวๆหนึ่ง แต่เมื่อไปแล้วต้องมีอะไรติดมือกลับมาบ้าง นอกจากนั้น ยังซื้อหอยจั่นมาแทน เพราะถูกกว่าเยอะ ผนังบาง ตัวเบา กิโลหนึ่งได้เป็นหลายร้อยตัว เหมามาทีเป็นสิบๆกิโล และเหตุการณ์ค่อนข้างจะกลับตาลปัตร เพราะหอยจั่นกลับเป็นที่นิยม ซึ่งตอนแรกนึกว่าเป็นมวยแทน

    เมื่อหอยแถวใกล้มือหายาก และผมจึงติดต่อเพื่อนใจบุญจากภูเก็ตให้ซื้อให้ส่งทางเครื่องบินมาอีกประมาณ สามครั้ง ครั้งล่ะหนึ่งหีบใหญ่แบบวัสดุไปรษณีย์ แต่เป็นหอยที่ได้ขนาด ซ่ะแค่ครึ่งๆที่เหลือจะเป็นหอยตัวเล็กลงไปปริมาณหอยที่ผมกับนายหมีหาไปถวายหลวงพ่อน่ะ น่าจะหลายพันตัวอาจจะถึงหมื่นไปด้วย ( อันนี้นายหมีมันก่ะ แต่ผมว่างานนี้น่าจะเกินหมื่น สบายๆ ) แต่จะมีตัวเล็กๆปนอยู่ด้วย รวมทั้งหอยจั่น บางที่ผมถือถุงใส่หอย( ถุงข้าวสารถุงใหญ่ ) เข้าไปในวัดมีพระบ้าง ฆราวาสบ้าง ปรี่มาขอแบ่งไปมั่ง เพราะใครก็อยากได้ผมก็แบ่งให้ไปด้วยต้องการผูกมิตร นอกจากนั้นยังซื้อหอยมือเสือมาทำตัวครู อีกที่เปลืองปรอทมากต้องเอาตะกั่วใส่เพิ่มเข้าไปเยอะ

    ผมขออนุญาติ เนื้อที่ตรงนี้นิดเดียว แล้วจะไม่พูดเรื่องแบบนี้อีก เรื่องเบี้ยนี้ผมเคยเล่าลงในบอร์ดเก่า แต่เคยมีคนอวดรู้ อวดว่าใจธรรมมะสูงส่ง ระดับปรมัตถ์ พูดอ้างถึงกรรมบท๑๐ ธรรมมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่มาพูดจาเสียดสี ส่อเสียด ใช้คำหยาบคายกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้อย่างคล่องสบายปาก เจตนาให้คนทะเลาะกัน ผิดศีลข้อสี่ และข้อหนึ่งชัดเจน...... และ ศีลที่เหลือ จะมีเหลืออีกกี่ข้อก็ไม่รู้ แต่ว่ากำลังเตรียมตัวว่าจะไปนิพพาน...แหะๆ แล้วดันทำมาพูดอวดรู้ สอนคนอื่น เรื่องธรรมมะ ซ่ะยาวเหยียด ที่ลอกมาจากหนังสือธรรมมะมา ธรรมมะที่ไม่เคยได้ปฏิบัติจริงจัง และไม่ได้เข้าไปสัมผัสใกล้ในใจเลย แล้วเท่านั้นยังไม่พอ ดันมาอวดรู้เรื่องการหาหอย ปริมาณหอย รู้ไปหมด หามาจากไหน ว่าทำเบี้ยมากี่ตัวๆ แต่จะบอกให้ว่า คนดีแต่พูดแต่ไม่เคยทำน่ะ เขาอ่านออก พูดออกมาหาสาระหลักเกณฑ์หลักฐานจริงๆไม่ได้ ส่วนคนเคยทำจริงๆน่ะ เขาขับรถมาเป็น หมื่นๆกิโล เดิน ไปหาวัสดุให้วัด เกือกสึกไปหลายคู่ วิ่งไปวัด กลับไปกลับมา วิ่งไปหาของ ไปๆ มาๆ เป็นสองสามร้อยเที่ยว ด้วยต้องการช่วยงานหลวงพ่อน่ะด้วยความรักและจิตศรัทธา รถซื้อใหม่ระยะเวลาแค่ สามปีที่มาเจอหลวงพ่อ รถวิ่งไป เกือบ แสนสี่หมื่นกิโล ปกติเขาวิ่งกัน ปีล่ะ สองหมื่นกว่ากิโลก็เยอะแล้ว หมดค่าน้ำมัน ค่าสึกหลอ หมดเงิน ค่าตะกั่ว ค่าปรอท ค่าหอย ค่า แผ่นโลหะ ค่าแท่นแม่พิมพ์พระ ค่าโม่ไฟฟ้า ค่ามอเตอร์ใหม่ ค่าปูน ค่าน้ำมันตั้งอิ้ว ค่าวัสดุ ค่าโค้ด เครื่องม้วนตะกรุด และอีก จิปาถะฯลฯ หมดเงินไปเป็นแสนๆบาทน่ะไม่เคยมาคุยอวดมาก่อนที่ไหน นอกจากครั้งนี้ ไม่เคยบ่นก่ะหลวงพ่อสักคำ พอใจทำซ่ะอย่าง และหลวงพ่อท่านก็ ทราบดี เงินทองที่ได้มาจากการสร้างบารมีของท่าน ท่านจะได้เอาไปรักษาตัวท่าน อย่างที่บอกให้ฟังมาก่อนว่า หลวงพ่อท่านเป็นโรคคนรวย ค่าใช้จ่ายเยอะในการบำรุงรักษาตัวครับ

    ฉนั้น มันเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วในการหาหอยเบี้ย แค่หมื่นกว่าตัว ให้หาอีกหมื่นก็สบายบอกตามตรง แต่ยังหาพระแบบหลวงพ่อทรงยังไม่เจอ ถ้าเจอ ผมก็เอาอีกครับ ไม่เข็ดหรอกครับ.....แหะๆ

    ตอนหลวงพ่อยังมีสังขารอยู่ พอหอยแถวบางแสนและอ่างศิลาแทบหมด ต้องส่งหอยมาจากภูเก็ต สามลัง ลังหนึ่งก็เป็นพันตัวแล้ว ส่งมาสามลัง อยากจะบอกว่าหลายพันตัวเข้าไปแล้ว จนแถวภูเก็ตก็บอกตอนนั้นก็ใกล้หมดเหมือนกัน ต้องรอสั่งชุดใหม่ แต่ก็ยอมรับว่า หอยมันมีหลายขนาด เขาขายเหมามาน่ะ ตัวกลางๆ ตัวเล็กซ่ะเยอะ ทางวัดก็คัดเอาแต่ตัวใหญ่ๆ กับกลางๆ ส่วนตัวเล็กๆ น่ะ ไม่ค่อยได้ใช้ หลังหลวงพ่อล่ะสังขาร ยังหลงเหลืออยู่ที่วัดตัวกระเปี้ยกๆอยู่อีก ของผมน่ะแหละครับ ซื้อมาถวายหลวงพ่อเองครับ

    ส่วนปรอทน่ะ หาง่ายหน่อยแต่แพง เขาใส่ขวดไว้ เป็นกิโล กิโลล่ะ ๑๘๐๐ บาท ที่แถวร้านเจ้ากรมเป๋อ แต่พอเข้าไปซื้อนายหมีมันไปแอบสืบมาว่า ให้บอกว่ามาจากคณะวัดสุทัศน์ เขาไม่ถามอาจจะเป็นขาประจำ คิดแค่ ๑๕๐๐ บาทต่อกิโล ( แต่ พ.ศ. นี้ บอกเลยว่า ๑๘๐๐ บาท แล้วจ้า ไม่มีลด และเป็นวัสดุ สงครามด้วย หาซื้อยากจ้ะ ตอนนี้ บอกแค่นี้แหละ....กลัว ) พวกผมเลยขอบารมีวัดสุทัศน์ซื้อมา ปรอทนี่ผมซื้อไปหลายครั้ง ไม่ต่ำกว่าสามสิบกิโลนอกนั้นบางทีหลวงพ่อ หรือ พระฝากเงินวัดไปทางลูกศิษย์คนอื่นไปซื้อ เพราะฝากผมๆไม่เอาตังค์และยังมีลูกศิษย์ใจบุญท่านอื่นที่ผมไม่ทราบนามซื้อมาถวายหลวงพ่ออีกคิดว่าในสองสามปีนี่ น่าจะหลายสิบกิโล ก่ะไม่ถูกครับ

    มีอย่างเดียวที่ผมหาไม่ได้คือ ชันนะโรงอย่างไรๆ ก็หาซื้อไม่ได้ เขาว่าต้องไปได้จากเมืองลาว หรือ พม่าดีว่าได้จากคุณ ช หามาได้ ไม่ต่ำกว่า สองครั้ง ครั้งล่ะมากๆ เรียกว่าท่านสั่งลูกน้องไว้ ไปเจอที่ไหนให้บอกไปขุดมาจนเกลี้ยงเรียกว่าเอาไม่ให้เหลือไว้ทำเชื้อ....แหะ รังมันร้างแล้วน่ะครับ

    ในเบี้ยชุดแรกๆ จะมีพระสวัดดิ์ และพระวิโรจน์ กรอกปรอทอุดชันโรงแล้วตัดแผ่นทองแดง ตอกโค้ด ตัว ท ปิดเขียนยันต์ อาจจะมีพระอื่นช่วยบ้าง หลังๆเหลือแต่พระวิโรจน์ทำคนเดียว ทั้งกรอก อุด แล้วถักด้วยไนลอนสีเขียว บางทีปิดด้วยตะกั่ว ที่หลวงพ่อลงจารบนแผ่นใหญ่ แล้วตัดมาปิด นำมาจำหน่ายแบบทั้งเปลือยและถัก การถักมีถักอย่างเดียว หรือสอดตะกรุดตามรูปให้ดูข้างล่าง

    เบี้ยแก้ ตระกรุด.JPG

    สรุปว่าเบี้ยชุดวัดน่ะ สร้างมาเรื่อยๆ ที่มีขนาดพอดี หรือขนาดใหญ่น่ะในชุดแรกๆ ต่อมาเล็กลงเพราะหอยหายากขึ้นต้องเอามาถักให้ดูตัวใหญ่ขึ้น ชุดแรกน่ะเปลือยๆผ่านมือหลวงพ่อทุกตัว เพราะออกได้เรื่อยๆทางวัดออกในราคาตัวล่ะ ห้าร้อยบาท ส่วนตัวใหญ่ จำได้ว่า ๑๕๐๐ บาทครับ

    เบี้ยนี้สรรพคุณดีมากๆ ไม่ได้อุปปาทาน ต้องไปหามาลองเอง ปรอทจะวิ่งเหมือนเต้นได้ จะสั่นๆ มันมีสาเหตุ ลองมาแล้วหลายคน รักษาโรคบางประเภทก้ได้ ผมเคยเป็นโรคต้นขาซ้ายชาในยุคหนึ่งประมาณสามปี ผมทำงานหนึ่งยากมาก ประมูลมาได้ มีปัญหาตลอดยี่สิบสี่ชมจนเครียดความดันขึ้นมากขาชาจับแล้วผิวหนังหนาๆ รักษาหมอปัจจุบันแล้ว ไม่หายพอทุเลาให้หมอนวดช่วยคลายเส้นออกกำลังให้ยืดหยุ่น ก็ยังไม่หายดี จนมาได้เบี้ยหลวงพ่อแล้วสังเกตุเวลานั่งอยู่เอาเบี้ยใส่พวงกล้องพกไว้ที่กระเป๋า กางเกงซ้าย มันจะสั่น เป็นพักๆ พอจับทางได้เลยเอามาอธิษฐานแล้วเอามาถูกะขาซ้าย ทำบ่อยๆอำนาจปรอทปลุกเสก เขาจะดูดของพิษออกมา ตอนนี้ขาน่าจะ๙๕ % แล้ว มีเสียวๆนิดหน่อย แต่ไม่ชาแล้ว

    เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจจัตตังอีก ฟังแล้วไม่เชื่อต้องลองดูเองน่ะครับ

    ส่วนปรอทสั่นได้นี่ไม่ได้มีผมคนเดียว มีหลายคนที่ได้ไปใช้ การสั่นคงมีเหตุอะไรสักอย่าง อาจจะเป็นที่ที่มีปีศาจอยู่ก็ได้ ...แหะๆ หรือสถานที่นั้นแรง ปรอทเขาเลยสั่นเพื่อป้องกันตัวเราหรือ บอกเหตุน่ะครับ ปรอทเมื่อปลุกเสกด้วยพลังจิต ก็จะไวในการสัมผัส เมื่อไปกระทบกับพลังจิตอีกรูปแบบอื่น เขาจะสั่นและเต้นเมื่อกระทบกับพลังจิตรูปแบบอื่น และด้วยอาคมและแรงครูที่หลวงพ่อท่านได้เชิญมากำกับไว้ ทำให้ปรอทนั้นพลังด้านคุ้มครอง ปกป้องพลังจิตอื่นนั้นๆ ถ้ามาร้ายเช่นพวกคุณ ไสย ภูติผีปีศาจ สัมภะเวสี หรือของเมื่อกระทบพลังจากของขลังสำนักอื่น


    เคยมีน้องในบอร์ดเก่า เอาเบี้ยหลวงพ่อที่ผมให้ไปฟรีๆเพราะโดนไถแบบกันเอง ไปให้ เหล่าพระอาจารย์ที่นับถือและอาจารย์ฆารวาสทางเหนือตรวจสอบดู ปรากฎว่าผลตรงกันที่ เบี้ยหลวงพ่อนี้ มีพลังสูง ไม่แต่ปกป้องคุ้มครอง ทางด้าน กัน และ แก้ แต่สามารถ รุกหรือกระทำได้ด้วย เรียกว่ามีสรรพคุณพันช่อง ทั้งรุก และรับ กัน และแก้ แล้วแต่อธิษฐาน ขนาดว่าอาจารย์ฆารวาสท่านหนึ่ง ที่ทางเหนือจะเรียกหมออาคมว่าหนาน ดูเสร็จ ออกปากขอลูกศิษย์เลย เมื่อไม่ได้ ก็ขอแลกกับของเก่าที่มี แต่น้องคนนั้นไม่ให้ด้วยเสียดาย เพราะผมบอกไปแล้วว่า มีแค่นี้อย่ามาขออีก ผมไม่มีให้อีก เพราะผมก็มีแค่ของส่วนตัว สรรพคุณของเบี้ยนี้ ฟังมาอีกหลายคน เจอมาก่ะตัวเองก็อีกหลายอย่าง แต่ก่อนผมเคยพกของหลวงพ่อพัก ตัวล่ะหลายสตางค์ เลยเอาเก็บ ไม่ใช่ไม่ดีน่ะครับ แต่แพงและหายากกลัวหายหรือ ชำรุด เอาของหลวงพ่อทรงพกติดตัวแทน เหมือนของเก่านั่นเลยครับ มั่นใจว่า แท้ด้วยเพราะรับกับมือ เอาไปเสกเพิ่มด้วยมืออีกหลายครั้ง

    ตามรูปข้างบนน่ะครับ เป็นเบี้ยในชุดแรกๆ มีทั้งเบี้ยเปลือยเบี้ยถักลงรักสอดตะกรุดทองแดงเลียนแบบหลวงพ่อพัก แบบสอดตะกรุดเงินไม่ลงรักและแบบสอดตะกรุดทองแดง ตะกรุดนี้ท่านลงเองทุกดอกมีทั้งพระสวัดดิ์พระวิโรจน์กรอกและอุด ส่วนการถักเป็นายหมี

    เบี้ยนี้ก็มีปริมาณมากพอสมควร ไปหาตามลูกศิษย์น่าจะได้แบ่งมาบ้างแต่บอกตามตรงคงดูยากน่ะครับแต่ก็พอมีเคล็ดอยู่บ้าง แต่ไม่บอกที่นี่ครับ เพราะมีคนทำเบี้ยปลอมออกจำหน่ายแล้ว โดนกันมาหลายราย น่าดีดลูกแปคนล่ะป้าบนัก กับคนผีเปรตเหล่านี้ที่หากิน บนศรัทธาของคน ในตัวหลวงพ่อทรงอย่างมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2008
  2. ผาแดง

    ผาแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,640
    ค่าพลัง:
    +10,719
    สวัสดีครับพี่พี
    ห่างหายไปหลายวันครับสำหรับผม พอดีพึ่งจะเสร็จธุระทางบ้าน แต่ได้ถ่ายรูปวัตถุมงคลของหลวงพ่อทรงที่เก็บไว้แล้ว ก็คงจะทยอยลงให้ชมไปเรื่อยๆครับ
     
  3. ผาแดง

    ผาแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,640
    ค่าพลัง:
    +10,719
    <TABLE class=tborder id=post1289141 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">18-06-2008, 08:14 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#307 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Si_V<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1289141", true); </SCRIPT>
    สมาชิก






    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1289141 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอรบกวนถามผู้รู้ด้วยครับ ว่าพระกริ่งเศรษฐีนวโกฏิ ของหลวงพ่อทรงท่านมีกี่รู่นครับ
    เพราะพึ่งสนใจในเกี่ยวกับพระเครื่องนะครับ และได้ทำการเช่าจากศูนย์พระแห่งหนึ่ง โดยรายละเอียดเขียนไว้ว่าสร้างจำนวน 1,118 องค์ โดยที่หย้ากล่องขององค์พระท่านเป็นปี 2550 คับ
    <!-- / message -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เรียนคุณ Si V

    ไม่ทราบว่าพระเศรษฐีนวโกฏของคุณคือรุ่นนี้ใช่ไหมครับ องค์นี้คือองค์ที่ผมบอกว่าเช่าไปให้แฟนผมแขวน แล้วนำไปให้หลวงพ่อเสกซ้ำแล้วท่านเมตตาจารให้ด้วย ( ท่าน จาร มะ อะ อุ ให้ มะ อยู่ตรงหน้าโค้ดรูปศาลา อะ อยู่ด้านบนขวามือ )
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    โค้ด ท บนเบี้ยชุดแรกๆ อย่างที่กล่าวไว้ในความเห็นเดิมๆ โค้ด ทเป็นพระเอก จะไปปรากฏตัวบน วัตถุมงคลของหลวงพ่อทรง หลายจำนวน หลายรายการ


    ในยุคแรก หลังจาก มีศิษย์ท่านหนึ่งทำเบี้ยมาประมาณถาดหนึ่งหลายสิบตัว อาจจะถึงหลักร้อย จนเจ้าของเขามาเอากลับไปอย่างที่เล่ามา ทุกคนที่รู้เห็นเบี้ย ต่างเสียดายเพราะอยากได้ ใจสลายและไม่ทราบว่ามาก่อนว่าหลวงพ่อเสกเบี้ยได้จนมาถึงจุดต้องทำกันเอง เมื่อหลวงพ่ออนุญาติ และท่านเองก็อยากจะทำเพื่อโปรดคน พวกเราก็ช่วยกันหาวัสดุ อย่างเดียวที่ผมหาไม่ได้คือ ชันนะโรงจนหลวงพ่อไปได้มาจากคุณ ช. ในตอนแรกแล้วตอนหลังไปได้มาอีกหลายกิโล

    ทำให้มีวัสดุพร้อม พวกพระที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อก็เริ่มทำเบี้ยในยุคแรกนี้ผมจำได้ว่าพระสวัด เป็นคนเริ่มทำ มีเวลาและพิถีพิถันหน่อยทำทั้งเบี้ยแก้และเบี้ยจั่น มีการปิดทองแดงที่ก้น จารและตอกโค้ด ทอย่างที่ผมเอามาโชว์เป็นเบี้ยจั่น เบี้ยชุดนี้ทำหลายร้อยตัวตอนนั้นพระสวัดยังไม่คล่อง ใส่ปรอทมากในตัวเบี้ยเมื่ออุดชันนะโรงทำให้ปรอททะลักออกมาเกาะเป็นเม็ดๆอยู่บนผิวชันนะโรงอันนี้ทำให้เป็นจุดสังเกตุได้ และถ้าใครเอาไปเลี่ยมเงิน ปรอทจะเกาะกิน เงินทันทีทำให้หมอง คงยังไม่มีใครเอาไปเลี่ยมทองน่ะครับ เพราะถ้าเลี่ยม ทองจะถูกปรอทกินทันทีผมเคยเห็นนาฬิกาเรือนทองถูกปรอทกินจนขาวน่ากลัวครับอันนี้เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ผมไม่กล้าเล่นกับปรอท ให้ท่านอื่นเล่นดีกว่าผมแค่เก็บ เบี้ยน่ะครับ

    เบี้ยเลี่ยมเงิน.JPG
    ตามรูปน่ะครับ จะเห็นว่าเงินหมองทุกตัวเพราะปรอทกิน ยกเว้น เบี้ยจั่น ที่เลี่ยมปลาสติกแบบจับขอบ กันปรอทไหลออกมาเงินยังวาวอยู่เพราะพึ่งเลี่ยมมา


    ที่ผมเอามาเปิดเผยก็อยากจะให้รู้ว่าเบี้ยรุ่นนี้เล่นได้ มีโค้ดมีจุดสังเกตุ ต่างจากเบี้ยเปลือยหรือ เบี้ยถัก เพราะบอกตามตรงดูยากแต่ก็พอมีวิธีดูน่ะครับ

    เบี้ยจั่น บน.JPG
    จากรูปจะเห็น เบี้ยจั่นสามตัว อันนี้เป็นเบี้ยจั่นใหญ่ กลาง เล็กตอนหลวงพ่ออยู่ที่โรงพยาบาล ท่านกระซิบบอกผมว่าเบี้ยจั่นๆหลายครั้ง ผมเล่าไปแล้วผมไม่เข้าใจความหมายในเชิงลึกแต่รู้ดีว่าท่านบอกใบ้ให้ใช้เบี้ยจั่นแน่นอน

    เบี้ยจั่น ล่าง.JPG
    ที่เห็นเป็นด้านหลัง จะเห็นแผ่นทองแดง ลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดมุม ลงอักขระโดยพระสวัดดิ์ แล้วแปะแบบเอายันต์เข้าข้างในและมีการตอกโค้ด ท ชัดเจนชันนะโรงมีระยะเวลาประมาณ สอง สามปี จะเริ่มแข็ง ชันนะโรงจะไม่ใส แต่ขุ่นทึบเหมือนดินน้ำมัน ท่านไปเจอเบี้ยลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยแก้ หรือ เบี้ยจั่นรีบเก็บไว้น่ะครับ น่าจะเป็นรุ่นเดียวที่มีเอกลักษณ์ ชัดเจนส่วนรุ่นอื่นน่ะต้องดูที่มาที่ไป และดูหน้าคนขายด้วยน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2008
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    โค็ด ท ๑.JPG
    ผมซูมโค้ดมาให้เห็นตัว ท แบบชัดๆ ท่านจะได้พอจำไว้ได้น่ะครับ การปลอมโค้ด ปลอม ชันนะโรงนี่คงยาก อย่างมากเขาเอาไปอบ ชันนะโรงจะแข็งกรอบเบี้ยชุดนี้ทำหลายร้อยตัว เบี้ยที่หลวงพ่อแจกพระหลานท่านไป ก็เป็นแบบนี้ผมเห็นมีการนำมาขายในเว็บ จากวิเศษฯ ผมดูก็รู้ว่าเป็นของแท้ครับถ้าท่านอยากได้ก็ไปคุยกันเองน่ะครับผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว ตัว ท ในรูปมาจากหอยตัวใหญ่ ด้านขวา

    โค็ด ท ๒.JPG
    อันนี้เป็นโค้ด ท จากตัวกลาง น่ะครับ ส่วนขนที่ท่านเห็นน่ะไม่ใช่เกศาน่ะครับ แต่เป็นขนเสือครับเผอิญผมเก็บในถุงเดียวกับตะกรุดหนังเสือไฟของหลวงพ่อขนมันเลยติดชันโรงมาน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2008
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    โค็ด ท ๓.JPG
    อันนี้เป็นโค้ด ท จาก เบี้ยจั่นที่ผม ใช้ติดตัวอยู่ตอกไม่แรงเท่าไหร่ แต่พอดูรูปทรงสันฐานออก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2008
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ขอออกตัวไว้นิดว่าการเขียนของผมมาจากความจำซ่ะส่วนใหญ๋ ซื้ออะไรบางทีไม่ได้นับไว้โดยเฉพาะหอยนี่ คงไม่มานั่งนับเด็ดขาด เพราะมันเยอะ เพื่อให้มีความถูกต้อง ผมให้นายหมีโทรถามพระวิโรจน์( ตอนท่านอยู่แถวตะพานหิน ) น่ะว่าสร้างเบี้ยมาประมาณเท่าไหร่ ท่านบอกว่าเบี้ยแก้น่ะประมาณ 5000 ตัว ส่วนเบี้ยจั่นน่ะประมาณ 3000 ตัว มารวมกับของพระสวัดดิ์ที่สร้างในยุคแรก น่าจะใกล้กับประมาณ 9000 ตัวที่สร้างมาจากในวัด และมีหอยตัวเล็กๆที่ทิ้งไปเพราะสร้างไม่ได้ อีกหลายพันตัว อันนี้ตรงกับการคาดคะเนของผมว่าซื้อหอยไปถวายหลวงพ่อน่ะ เป็นหมื่นตัวขึ้นไป แล้วคงมีส่วนที่ทำกันมาเอง เอาไปแจก หรือ เอาไปใช้ หรือ ขายกันเองอีก เช่นที่ติดอยู่ ตะกรุดสี่ มหาอำนาจ และพวกศิลปินเดี่ยวและหมู่ที่มาขอหลวงพ่อสร้างอีกอีก คิดว่า รวมๆกัน เป็นหมื่นๆ ตัวแน่นอน


    หอยยุคแรกจะได้ขนาด ตามรูปที่เลี่ยมเงินจากความเห็นเก่า ผมถวายให้หลวงพ่อจารซ้ำแล้วถวายท่านไปหนึ่งตัว เขย่าดังบึ้กๆ ส่วนเบี้ยจั่นที่อยู่ในเลี่ยมเงินตัวบน จากรูปเดิม เป็นของประจำตัว อันนี้ใช้ดี มีคนถามหาอยู่เรื่อยๆ เพราะเบี้ยนี่ก็คือสตางค์มาแต่โบราณ หลวงพ่อยังย้ำให้ผมขนาด นอนอยู่ในโรงพยาบาลว่าเป็นของดี ปริมาณ 8-9000 ตัวนี่จัดว่ามากในช่วงสองถึงสามปี น่าจะมีหมุนเวียนอยู่บ้างในกลุ่มลูกศิษย์ แต่อย่าไปหาที่วัดเลย เพราะไม่เหลือติดวัดสักตัวเป็นเรื่องน่าแปลก ที่มีอยู่ก็เป็นของใหม่ครับ แต่เขาจะบอกว่าเอามาจากห้องหลวงพ่อ


    มาว่าเรื่องเบี้ยต่อ เพราะมีปริมาณมากอาจจะยังพอหาได้ การแยกนี้คงยาก ว่าหลวงพ่อไหนเป็นหลวงพ่อไหนในเบี้ยใหม่ๆ คงต้องดูที่มาด้วย และดูคนขายด้วย

    เบี้ยเปลือย ล่าง.JPG
    ในรูปเป็นเบี้ยเปลือย หงายท้องให้ดูชันโรง และแผ่นทองแดง เอาว่ามีลักษณะแบบนี้ ชันโรงนี้ลูกศิษย์ชื่อคุณ ช หามาให้สองครั้ง ครั้งแรกถวายประมาณ 2 กิโลไม่พอ เบี้ยเป็นที่ต้องการ เลยหามาถวายครั้งที่สองประมาณ 5 กิโล จัดว่าเยอะพอสมควร ชันโรงส่วนหลังนี่ยังเหลือน่ะครับ

    เบี้ยจั่นบน.JPG

    อันนี้เป็นเบี้ยจั่น ด้านบน


    เบี้ยจั่นล่าง.JPG
    เบี้ยจั่นด้านล่าง

    เบี้ยใหญ่.JPG
    ส่วนตัวนี้เป็นเบี้ยชนิดใหญ่ สอดตะกรุดทองแดง ตะกรุดนี้หลวงพ่อลงเฉพาะให้มาใส่ในตัวเบี้ย


    เบี้ยจิ๋ว.JPG
    ส่วนตัวนี้เป็นเบี้ยขนาดจิ๋ว ยาวประมาณ เซ็นต์กว่าๆ


    เบี้ยตัวครู บน.JPG
    ส่วนตัวนี้ใหญ่พิเศษ ใช้หอยมือเสือ มาทำ เปลือง ปรอท มากต้องเอาตะกรุดตะกั่วใส่ไปด้วย และ เปลืองชันนะโรงที่อุด แล้วเอาตะกั่วมาตีปิด หลวงพ่อจาร ให้ทั้งบนตัวหอยและด้านล่าง

    เนื่องจากเปลืองมาก น่าจะมีแค่หลักสิบตัว และผมถามหลวงพ่อว่าตัวเล็กตัวใหญ่ ต่างกันไหม ท่านว่าเหมือนกัน ฉนั้นอย่าไปหาตัวใหญ่เลยครับ ตัวเล็กก็ใช้ได้เหมือนกันน่ะครับ

    เบี้ยตัวครู ล่าง.JPG
    ทางนี้เป็นด้านล่าง จะเห็นว่าหลวงพ่อลงยันตร์และอักขระเต็มไปหมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2008
  8. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ผมขอมาทักทายพี่พีด้วยคนนะครับ อ่านหน้าแรกของกระทู้แล้ว ประทับใจในบทความที่พี่เขียนยกย่องหลวงปู่บุญศรีและหลวงพ่อทรงมาก

    ตัวพี่เองคงทำบุญไว้มาก ถึงได้มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่บุญศรีท่านโดยตรง ที่ผมพูดแบบนี้เพราะผมกราบถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านผมแล้ว ในด้านพลังขององค์พระที่หลวงปู่ท่านได้สร้างไว้ให้ลูกหลานได้มีโอกาสบูชา ผมได้รับคำตอบว่า ถ้าได้มีโอกาสนำไปบูชาขอพรแล้ว ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองสืบไปอย่างที่สุด

    ดังนั้น ที่มีผู้กล่าวว่า หลวงปู่ท่านจบกิจพระศาสนาแล้วในแบบปฏิสัมภิทาญาณนั้น เห็นจะมีมูลครับ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว พระของหลวงปู่ จะมีพลังขนาดนี้ได้อย่างไร

    ผมจึงใคร่ขอให้พี่พี ถ้ามีโอกาสช่วยนำเสนอเรื่องราวประสบการณ์ที่เกี่ยวกับหลวงปู่บุญศรีให้ผมและเพื่อนๆที่อยากรู้ท่านอื่นทราบนะครับ เพื่อรำลึกในพระคุณอันวิเศษของหลวงปู่ จะเปิดเป็นกระทู้ใหม่ไปเลยก็ได้ครับ

    ในส่วนของหลวงพ่อทรง ผมเองก็มีโอกาสบูชาพระปิดตาท่านมาเช่นกัน เคารพท่านมากเช่นกันครับ
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ครับ พระแบบพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระครู บุญศรี หายากมาก ยังไม่เจออีกเลย อันนี้ ทั้งพวกพ้องในสาย ซึ่งชอบไปหาพระ ในแนวนี้ เพราะถ้าเจอ ผมคงได้ข่าว แล้วไปหาแล้วล่ะครับ จัดว่าท่านมีเอกลักษณ์ แบบหนึ่งเดียวจริงๆในแบบของท่าน

    กราบเรียนตามตรง ผมเขียนเรื่องหลวงปู่ พระครูบุญศรีไว้นานแล้ว จากประวัติ และเรื่องบางอย่างที่ ท่านเล่าให้ฟังบ้าง หลวงปู่จะไม่เล่ายาว แบบคนแก่ทั่วไป พอสบายๆ ถามไป จะเล่าไปสักหน่อย พอชักลึกๆจะหยุดเล่าแล้วเฉไปคุยเรื่องอื่น หรือ ยิ้มแล้วเฉยซ่ะ มองด้วยสายตาแบบรู้ทันว่าเรา ถามเพราะอยากรู้ ตกลงว่าอด ต้องให้เหตุการร์ผ่านไป อาจจะหลายเดือน แล้วแอบวกมาถามใหม่ ท่านอาจจะเมตตาเล่าต่ออีกหน่อย แล้วผมถึงเอาเรื่องมาปะติดปะต่อกัน กว่าจะได้สักหน้า บางทีเป็นปีครับ....แหะๆ

    หลวงปู่เป็นคนลึกลับ ไม่ใช่คนในพื้นที่ ฉนั้นคนในพื้นที่ก็ไม่รู้จักท่านมาก รู้เท่าที่ท่านอยากให้รู้ ไม่ชอบคุยอดีต ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวของท่าน เป็นพระห้าแผ่นดิน เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงมาก อยู่อย่างสันโดษมากๆ ไม่ง้อใคร ชอบเจริญกรรมฐานแบบ อสุภกรรมฐาน เป็นอารมณ์ และนิ่งมาก

    ผมมีเหตุผลเหมือนกันที่ไม่เขียนเรื่องท่าน แต่อาจจะถึงเวลา เพราะการบูชาครู น่าจะเป็นหน้าที่ของศิษย์ ที่เคารพ และ รัก ท่านอย่างมาก ท่านอยู่ในใจผม ทั้งหลับและตื่น ผมไม่เคยลืมท่านเลย

    ให้ผมจบเรื่องของหลวงพ่อทรง อย่างที่ใจอยากและต้องการก่อนครับ เพราะผมรู้ว่าการเขียนเรื่องหลวงปู่พระครูบุญศรี จะเป็นเรื่องหนักและยาวอย่างมาก เพราะในส่วนหนึ่งของชีวิตท่าน มีการพูดคุยและโต้เถียงกันมาก และผมไม่อยากให้ใครเผลอไปลงนรกเพราะไปปรามาสท่านครับ

    ด้วยความเคารพ
     
  10. tuaang

    tuaang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    818
    ค่าพลัง:
    +1,634
    อนุโมทนา ติดตามงานเขียนในกระทู้นี้ของ คุณพี มาตลอด
    ได้อ่าน ได้ซึมซับทางอ้อม ก็หวังเป็นอานิสงค์ ที่ได้รับจากข้อความ+รูปภาพ
    ที่ คุณพี และเพื่อนๆ..มาแบ่งปันครับ

    ขอบคุณที่ได้ สละเวลาและ ให้เกียรติตอบ PM ผมครับ

    อืม เบี้ยแก้ อืม สาธุ
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    เป็นเกียรติที่คุณให้ผมมากกว่า ที่กรุณา สละเวลามาลงความเห็นในกระทู้นี้ครับ

    ขอบคุณครับ
     
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    มีดปากกา ทรง1 ไม้พะยุง.JPG

    มีดหมอ

    หลวงพ่อทรงท่านจะพกมีดเล่มหนึ่ง บางทีติดย่ามบางทีที่อังสะ แล้วพระอีกองค์ คือ รูปหล่อ ทั้งชุดนี้เคยแสดงอภินิหารให้หมอและพยาบาลเห็นมาแล้ว เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังต่อไปก็แล้วกัน


    มีดนี้เป็นลูกศิษย์ท่านเดียวกับที่นำชันนะโรงมาให้ไปติดต่อช่างอำนวย ที อ.พยุหะคีรี มาให้ ช่างนวยนี้มีชื่อเสียงมากพอตัว เป็นที่รู้จักกันดี ที่ยังเป็นช่างตีมีด อันดับหนึ่งของ พยุหคีรี ที่ยังเหลืออยู่ ในขณะที่ช่างที่เหลือส่วนใหญ่ จะเป็นช่างเจียรมีดซ่ะส่วนใหญ่ แกจะขึ้นใบแล้วตีขึ้นรูปทีล่ะใบด้วยฆ้อน ทีล่ะใบ ใบมีดจะอ่อนช้อยปลายงอนสวย ตะไบจนเรียบด้วยมือ ตีลายด้วยการใช้เครื่องมือ สลัก ร่องเลือด ได้หลายลาย ด้วยมือทั้งสองข้าง แต่ที่นิยมเลียนแบบมาแต่โบราณคือลายเสมาแข้งสิงห์ และนาคสมพงษ์ ( เล่ม ใหญ่ )


    ช่างคนนี้เป็นคนมีอารมณ์ศิลปิน ไม่พูดมาก ต้องมีอารมณ์ถึงจะทำ ถ้าไม่มีอารมณ์อาจจะไปเมาเหล้าซ่ะหลายวัน เมื่อมีอารมณ์ ถึงกลับมาทำมีดต่อ เป็นช่างแบบโบราณ บูชาครู และครูมีดนี่แรงน่ะครับ ทำผิดครู บ้านอาจจะวุ่นวาย ร้อนอกร้อนใจ ในขณะที่ช่างสมัยใหม่น่ะ ไม่แน่ใจว่ามีครูหรือ ปล่าว ตัดขึ้นรูปมีดด้วยเครื่องมือ แล้วใช้หินเจียรเป็นรูปมีด ใบมีดกระโดกกระเดก ตีลายแข็งกระด้าง ให้ฟรีๆ ผมยังไม่ค่อยอยากได้เลย


    ความเป็นศิลปินของแก ลูกค้าต้องมีความอดทน รอในผลงานและคุ้มค่า และต้องระวังคำพูด ถ้าพูดไม่เข้าหูแล้ว อาจจะเลิกเอาง่ายๆ เรียกว่ามีฝีมือและไม่ง้อ แต่คิวแกยาวเพียบ คนเข้าใจในฝีมือของแก ผมเคยไปคุยก่ะแกตอนต้นปี (สมัยยังไปพยุหะคีรีบ่อยๆ เพื่อไปช่วยหลวงปู่พระครูบุญศรี สร้างโบถส์ ) แกบอกว่าต้องรอออกพรรษาก่อนจึงจะว่างทำให้ แต่เราก็ต้องอดทน พุดคุย หาเหล้าไปฝาก จึงจะขอลัดคิวได้ ผมมีมีดที่แกทำ แบบ hand made หลายเล่ม สวยๆ ถ้าสนใจจะเอาให้ดูได้ แต่คงมาผิดบอร์ด...แหะๆ ความที่แกทำที่ละเล่มทำให้งานช้ามาก


    ผมเคยยุให้แกหาลูกมือมาหัด แล้วแก QC - ควบคุมคุณภาพเอา แต่แกไม่เอาเท่าไหร่ จึงปล่อยเลยตามเลย ผมสนิทสนมกับช่างนวยนี่พอสมควร เรียกว่าโทรคุยกันได้ถูกคอ คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างคือแกดูมีดหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อกัน หลวงพ่อ โม หรือสายพยุหะ " ขาด " ความที่เป็นช่างตีมีดสืบสายเลือดของแท้มาจากพยุหะ สัมผัสช่างตีมีดดังๆของพยุหะ( ไม่กล้าบอกชื่อ กลัวจะว่าผมมาอำพวกคุณ ) มาจากในอดีต จึงมองมีดด้ามงาออก ทั้งลักษณะใบ ทั้งลวดลายบนมีด ทั้งลักษณะการตอกลาย ทั้งลักษณะด้าม ทั้งลักษณะฝัก ทั้งงานแหม เรียกว่าดูขาด ฟันธงได้ คนที่รู้ เมื่อซื้อมีดมาเอาไปให้แกช่วยดูให้ เพราะบางทีแท้แค่ใบ หรือ ด้ามแท้ แต่ส่วนอื่นเสริมเข้าไปใหม่ มีดหลวงพ่อเดิม เป็นมีดที่เล่นยากที่สุดครับ มีปลอมเยอะที่สุด ใครเอามาขายก็หลวงพ่อเดิม ทั้งนั้นครับ


    แต่ปกติแกจะซุ่มๆไม่ดู เปลอะ เพราะเดี๋ยวจะมีเรื่อง เพราะของมันแพง แต่กับผมแกเปิดเผย ความที่แกดูมีดด้ามงาขาด ผมเคยให้แกหามีดหลวงพ่อเดิมให้หนึ่งเล่ม แล้วซ่อมให้ผมอีกหนึ่งเล่ม ช่างแบบนี้ น่าจะสงวนไว้ก่อนที่จะกลายเป็นมีดฝรั่งไปหมด ส่วนที่เก่งอีกอย่างของแกคือเก่งเรื่องงา อ่านงานงาออก ฝีมือเหลาและขัดงาดี งาสวยงาม ไม่ขัดจนงาสุกมากขัดลูกในตา

    ส่วนแหมนี้ทำมาจากร้านเฮงกี่ ซึ่งรุ่นพ่อก็ช่างโบราณ ทำแหม ให้มีดหลวงพ่อเดิมมาตั้งแต่โบราณลูกสาวก็สืบสายเลือดมา อัทธาศัยดี ฝีมือดี ทำด้วยมือ เครื่องมือแบบโบราณ ต้องรอ เมื่อมีดเสร็จ ฝักเสร็จ ด้ามเสร็จ แล้วรอร้านเฮงกี่ทำเเหม ทำปลอกมีด ทีล่ะอัน แล้วถึงกลับมาให้ช่างนวยเข้าด้ามเรียกว่า ต้องใจเย็นจริงๆ เพราะการเข้าด้ามบางเจ้าภาพ (แบบผม ) ต้องใส่ตะกรุด ใส่ผงอิธเจ ใส่เกศาหลวงพ่อ โอ้ย ขั้นตอนสาระพัด คุณจะเห็นว่าจะได้มีดด้ามงาสวยๆที่มีสรรพคุณครบ ซักเล่มมันยากเย็นน่ะ


    ผมรู้จักช่างนวยเพราะร้านเฮงกี่นี่เอง เพราะไปบ่อย ไปซื้อมีดมาออกบูชา ช่วยหลวงปู่บุญศรีออกเพื่อสร้างโบถส์ จนเจ้าของร้านแกชักสงสาร เลยบอกว่าอยากได้มีดสวยๆไหมจ้ะ สวยกว่าที่ร้าน จะแนะนำช่างให้ แต่แกคุยยากน่ะทำก็ช้าอีก แต่งานสวยมาก ผมหูผึ่ง คนมีฝีมือผมชอบน่ะ คบแล้วไม่มีเสียมีแต่ได้ ให้เก่งจริงเถอะ ไม่เสียเวลา ผมรีบไปหาแกทันที และไปบ่อยจนคบค้าสมาคมกับช่างนวยได้


    เบี้ยที่ผมเลี่ยมมาก็มาจากร้าน เฮงกี่นี้เองในรูปตอนเบี้ยแก้


    มีดที่โชว์น่ะ ด้ามบนเป็นไม้ดำ หรือ ไม้งิ้วดำ ไม่ใช่ไม้มะเกลือน่ะครับ ใบมีดยาวสองนิ้วครึ่ง ตอก ทรง ๑ ( หมายความว่า หลวงพ่อทรงรุ่นหนึ่ง ) อีกข้างตอก ว.ศ.ด. ( หมายถึงวัดศาลาดิน ) ไม้งิ้วดำนี้มีแค่สามเล่ม


    ส่วนเล่มล่างเป็นไม้พยุง ขนาดลวยลาย โค้ด เหมือนกันทุกอย่าง มีดช่างนวยนี่ ที่มีใบขนาดเท่ากัน จะสลับใส่ปลอกแทนกันได้ เพราะทำได้ใกล้เคียงแน่นอนกันมาก ( เหมือนของช่างฉิม ...แหะๆ ) ช่างโบราณจะเป็นแบบนี้ อันนี้ทำให้บอกได้ แต่ช่างสมัยใหม่น่ะ ด้ามใครด้ามมัน สลับปั้บ จะคับหรือหลวมทันที


    มีดไม้พยุงน่ะเป็นชุดแรก มีประมาณ ๒๐ กว่าด้าม ทุกด้ามบรรจุ ผง เกศา และ ตะกรุดของหลวงพ่อ วัดออกเล่มล่ะ ๑๕๐๐ บาท ผมว่าถูกไปซ่ะอีกสำหรับความสวยงามละเมียดละมัยขนาดนี้ พร้อมทั้งของดีที่ประจุในด้ามด้วยพระที่มีอาคมระดับหลวงพ่อทรง ซึ่งใช้แทนของเก่าได้สบาย ที่ใบหลวงพ่อจะจารกำกับให้อีกทีน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2008
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เปิดดูไฟล์ 348241

    มีดหมอ (ต่อ )

    อันดับต่อมา เนื่องจากมีดด้ามไม้พยุงชุดแรกหมดไปอย่างรวดเร็ว แบบหายวับไปกับตา ผมเลยยุหลวงพ่อว่ามีดอย่างช่างคนนี้มันต้องด้ามงาน่ะครับ ท่านเห็นด้วย คุณ ชช เลยไปสั่งทำมาอีก ประมาณ ๓๐-๔๐ เล่ม เป็นงาทั้งหมด รวมทุกชุดจะประมาณ ๖๐ กว่าเล่มเป็นมีดใบเหล็กกล้าธรรมดา ขนาด ๒.๕ นิ้วเหมือนกัน โค้ดและ ลายเหมือนกันทุกอย่าง ด้ามก็บรรจุ ผง ตะกรุด ของหลวงพ่อ ชุดนี้นานหน่อย เพราะแพงขึ้น แต่ตอนนี้ก็ไม่เหลือติดวัดแม้แต่เล่มเดียว


    ส่วนเล่มล่าง เป็นมีดน้ำพี้ เนื้อเหล็กเขียวปี๋จากบ่อน้ำพี้ของแท้ ขนาดโค้ดเหมือนกันทุกอย่างและเป็นสามกษัตริย์ ทำโดยร้านเฮงกี่

    มีดน้ำพี้นี้ คุณ ชช สั่งทำพิเศษหนึ่งเล่ม ไปฝากหลวงพ่อเสก หลวงพ่อแอบเอามาโชว์ให้ผมดูบอกว่าสวยดี ผมเห็นแล้วต่อมหมวกไตทำงานอย่างหนัก แอนดรินาริล ฉีดไปทั่วร่างกาย ขอบตาร้อนผ่าว กิเลสขึ้นอย่างไม่อาจยับยั้ง อยากได้บ้างเลยโทรไปหาช่างนวยแล้วบึ่งรถไป พยุหะคีรีทันที อ้อนช่างนวยให้ตีให้เล่มหนึ่งซิ ช่างนวยมีเหล็กน้ำพี้เหลือหน่อยพอดี ทำได้อีกด้ามเดียว เลยลัดคิวทำให้ผมก่อนในฐานะ คนเก่าแก่ กันเอง ตกลงมีดน้ำพี้สามกษัตริย์ นี้มีแค่สองด้าม


    รวมมีดตอก ทรง ๑ ว.ศ.ด. นี้ทั้งหมด มีประมาณ ๖๐ กว่าเล่ม จัดว่ามีปริมาณ พอสมควรแม้จะน้อยไปหน่อย ( ทำมากกว่านี้อีกสิบเท่า ก็ไม่พอหรอกครับ ) สำหรับ พระอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ระดับหลวงพ่อทรง แต่ทรงคุณค่ายิ่ง ทั้งงานฝีมือ ทำด้วยมือไม่ใช้เครื่องมือสมัยใหม่ช่วยมาก มีความประณีต วิจิตรบรรจง มีศิลปะของครูมีดไทยแท้ๆสืบสายกันมา และมีอาคมอันแก่กล้าที่ประจุอยู่โดยหลวงพ่อทรง ท่านที่ครอบครองก็จัดว่าเป็นหนึ่งใน ๖๐ ท่านที่โชคดี

    มีดหมอปากกานี้ส่วนตัวผม เร็ตติ่งให้ จัดว่าเป็นของที่สวยงามสุดยอดที่สุดของหลวงพ่อทรง ในมุมมองทุกมิติ จัดให้เป็นของสวยงามอันดับหนึ่งครับ ในประเภทเครื่องรางของหลวงพ่อ


    แล้วขอเล่าเรื่อง ร้านเฮงกี่ หน่อยน่ะครับ ร้านนี้เป็นร้านเงินเก่าแก่อยู่ที่ อ.พยุหคีรี รุ่นพ่อทำแหมมีดหมอให้หลวงพ่อเดิม มีฝีมือและความซื่อสัตย์ หลวงพ่อเดิมท่านชอบใช้ ฝีมือและความซื่อสัตย์อันนี้ถ่ายทอดมายังรุ่นลูก คุณไปใช้บริการจะไม่ผิดหวัง แต่......แหะๆ รอนานหน่อยน่ะครับ ต้องเข้าใจและอดทน อยากได้งานเรียบๆ ก็บอกเขา อยากได้งานวิจิตรหน่อย ก็บอกเขา แล้วก็รอจ้ะ

    เขามาตั้งร้านใหม่ติดสายเอเซีย แต่ผมแนะนำให้ไปร้านเก่า เข้าไปในตัวเมือง พยุหคีรี เกือบจะถึงแม่น้ำ ถามคนที่นั่นรู้จักแทบทุกคน

    คุยก่ะน้องสาวน่ะง่ายกว่าคุยก่ะพี่สาวน่ะ แกจะเป็นคนคุยง่าย แกจะประจำอยู่ร้านในเมือง และที่พูดว่าสาวๆน่ะ รุ่นใหญ่แล้วทั้งนั้น อย่าไปทำชีกอ ล่ะก้อ ระวัง จะเจอมีดหมอหลวงพ่อเดิมเสียบเอา เดี๋ยวว่าผมไม่เตือนมาก่อน .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2024
  14. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    ส่วนแหมนี้ทำมาจากร้านเฮงกี่ ซึ่งรุ่นพ่อก็ช่างโบราณ ทำแหม ให้มีดหลวงพ่อเดิมมาตั้งแต่โบราณลูกสาวก็สืบสายเลือดมา อัทธาศัยดี ฝีมือดี ทำด้วยมือ เครื่องมือแบบโบราณ ต้องรอ เมื่อมีดเสร็จ ฝักเสร็จ ด้ามเสร็จ แล้วรอร้านเฮงกี่ทำเเหม ทำปลอกมีด

    ขออภัยครับ คุณพี่พีครับ คำที่ทำเป็นสีแดงไว้นี้ ผมอ่านแล้วงงผมว่าเป็นคำนี้ แหนบ นะครับ
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ขอบคุณครับ สำหรับคำถาม

    คำว่า แหม เป็นคำช่าง อ่านว่า " แม๋ " หมายถึง ปลอกเงิน ที่เป็นสายรัด ปลอกมีด และ ฝักมีด อาจจะเป็น เงิน หรือ ทอง เดินเป็นเส้นลวดเล็กพันกัน คล้ายดิ้น มัดซ้ำบนปลอกรัดเงิน ครับ เอาไว้ผมจะถ่ายรูปซูมให้ดูน่ะครับ
     
  16. Si_V

    Si_V เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +437
    ใช่ครับคุณผาแดง ขอบคุณมากครับที่นำภาพมาประกอบให้ดูด้วย
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เปิดดูไฟล์ 348283

    มีดหมอ (ต่อ )

    ในชุดเดียว กับที่คุณ ชช ทำ มีดขนาด ๒.๕ นิ้ว ไม้พยุงและงา จะมีมีดขนาด ๕ นิ้วมาด้วย

    ในชุดไม้พยุงมีมีดขนาด ๕ นิ้วไม้พยุงมา ๑ เล่ม เจตนาคุณ ชช จะทำมาถวายหลวงพ่อ แต่ทางวัดเผลอเอาไปวางในตู้เลยถูกซื้อไปในแทบจะทันที เป็นโค้ด ทรง ๑ ว.ศ.ล. เหมือนกันแต่ใบมีดยาวห้านิ้ว ผมไม่มีตัวอย่างเพราะถูกคนเอาไปก่อน ไม่ทราบราคาจำไม่ได้ ที่ไปทำไม้พยุงเพราะไม้พยุงหลวงพ่อได้มาต่างหาก ท่านเสกและมอบให้ไปทำพร้อม พวก วัสดุ เส้นเกศา ผงวิเศษ และตะกรุดสำหรับประจุด้าม

    พอทำชุดงามา ก็ทำมีดด้ามงาขนาดใบมีด ๕ นิ้วมา ๒ เล่ม เผอิญผมอยู่ในเหตุการณ์พอดี เลย ปะเหลาะคุณ ชช ของซื้อต่อมาเล่มหนึ่ง อีกเล่มคุณ ชช เลยยึดไว้ใช้เอง ตกลงมีดห้านิ้วทั้งหมดมีแค่สามเล่ม คือ ไม้พยุงทั้งเล่ม กับแบบ ด้ามเป็นงา ฝักเป็นไม้พยุง อีกสองเล่ม ฝีมือแบบเดิม ช่างชุดเดิม เพราะทำมาพร้อมกัน ใบและลายพริ้วสวยงาม แหมทำอย่างปราณีต ขนาดนี้เป็นขนาดนิยม เพราะกำลังดีไม่ใหญ่ไป

    คุณ ชช นี่ ลักษณะเป็นคนมีสัจจะ มีศีลธรรม ไม่พูดมาก ไม่หลุกหลิก ทำมาถวายหลวงพ่อแบบไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่าย ไม่ใช้พวกนายทุนที่มาตีสนิทหลวงพ่อแล้วทำของขายเอาเงินบำรุงส่วนตัว และผมรู้ว่าการ ทำมีดกับช่างนวยน่ะ มันยาก ต้องเทียวมาเทียวไป เดี๋ยวพวก แกล้งลืม จัดว่ามีต้องมีเวลา มีค่าใช้จ่ายและโสหุ้ยมาก ผมขอคารวะมาด้วยความจริงใจ ตอนหลังจากการจำหน่าย หลวงพ่อเกรงใจ เอาเงินทุนค่าทำคืนให้ มีดนี้ คนทำก็ไม่ได้อะไร ทางวัดก็ไม่ได้กำไรเท่าไหร่ นิดหน่อยไม่มากเหมือนวัตถุมงคลอันอื่นที่ทุนต่ำทำทีเดียวได้จำนวนมากกว่า เหมือนพวกเหรียญ หรือ พระผง

    จัดว่าคนที่ได้กำไรมากคือคนที่ซื้อไป เพราะราคาวัด ๑๕๐๐ บาท สำหรับไม้พยุง ส่วนงา น่ะ ๒๕๐๐ หรือ ๓๐๐๐บาทผมจำไม่ได้แน่ แต่คุ้มค่ามาก จัดว่าใครที่อ่านเรื่องนี้ แล้วเคยซื้อไป โปรดทราบว่าท่านมีเครื่องรางที่สวยงามที่สุดของหลวงพ่อทรงอยู่ในมือท่านแล้ว ขอให้เก็บให้ดี นำออกมาใช้เมื่อถึงคราวคับขัน นึกถึงหลวงพ่อ หลวงพ่อจะช่วยท่านแน่นอน เพราะวิชามีดหมอนี่ครูแรงมาก

    ส่วนอันล่างเป็นมีดสาริกา ผมซื้อมาสำเร็จรูป จากพยุหะ เพราะช่างนวยบอกไม่ทำแล้ว มันจับไม่ถนัด ผมซื้อมาให้หลวงพ่อลงให้ แรกที่ท่านเห็นท่านหัวเราะชอบใจ ผมเลยใส่กล่องกับตะโพนงา และทองเหลืองชุดแรก ฝากหลวงพ่อไว้หนึ่งพรรษา และยังเอามีดนี้ติดกระเป๋าเอาไปให้ท่านเสก อีกหลายครั้ง จำไม่ได้ แต่น่าจะเกือบร้อยครั้ง เอาว่าจุใจ ท่านลงจารตัวเล็กๆที่ใบมีดให้อีก เลยเอามาโชว์ให้ดู

    เอาว่าตอนนี้ หมดชุด มีด ตอก ทรง๑ ว.ศ.ล. ต่อไปจะเป็นมีดแบบพิเศษ ที่ทำมาถวายท่านและให้ท่านเสกต่างหาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2024
  18. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    รับทราบครับและขอบคุณครับ ที่แท้เป็นศัพท์ช่างนี่เอง ผมนึกว่าเป็นคำอุทานแสดงความประหลาดใจ หรือเวลาไม่พอใจ ไม่นึกว่าจะเป็นปลอกรัด อ่านแล้วไม่เข้าใจศัพท์เฉพาะก็เลยงงๆ เลยเข้าใจผิดไป
     
  19. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    ชอบจัง ตื่นมาแต่เช้าก็รีบเข้ามาเปิดอ่านกระทู้นี้เลย

    ขอบคุณพี่พีมากครับ ที่กรุณาบอกเล่าเรื่องราวดีๆ

    _/|\_
     
  20. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    ไม่ได้ติดตามหลายวันเนื่องจากไปตรวจงานต่างจังหวัด
    กลับมาก็รีบติดตามเลย
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
    อนุโมทนากับพี่พีด้วยครับที่เป็นสื่อกลางในเรื่องราวของหลวงพ่อของเรา
     

แชร์หน้านี้

Loading...