เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

เหรียญหลวงพ่อไพร วัดบางแคกลาง รุ่นแรก
ท่านสร้างเหรียญ ไว้ รุ่นเดียว
แต่ ที่เป็นพระเนื้อดินเผา ก็ มี หลายพิมพ์
ที่ คน นิยม มากๆ ก็ จะเป็น เบี้ยแก้
ที่ทำจาก หอย ใส่ ปรอทไว้ ข้างใน อุดปิดด้วย ชันรง เพชร ( สูตร ของ ท่าน )

แค่ ชันรง เพชร อย่างเดียว ผม เอง อยู่ใกล้ๆ รัศมี ที่ออกมา ก็ ทำเอา แสบหน้า หสบตา
เหมือน ยืน ตากแดด เลยทีเดียว



เอามา เล่า ต่อ อีก นิด พอเป็น กระสายยา

เป็นเครื่อง ยืนยัน อีก อย่างหนึ่ง ว่า แม้น จังหวัด ติดๆ กับ กทม. ในอดีต ก็ ยัง มี เรื่อง ผีเข้า คน อยู่ ไม่น้อย

คนในระแวก วัด ก็ จะไป ตามหลวงพ่อ มา ไล่ บ้าง
หรือ ที่ มี พระ หรือ เหรียญ ของหลวงพ่อไพร เอาออกมา ไล่ ก็ ได้ ผล เช่นกัน

ขั้นตอน กรรมวิธี
ใครสนใจ ค่อย โทรมา สอบถาม ตอบเป็นรายบุคคล ไป จะดี กว่า

..................

 

เบี้ยแก้ ของ หลวงอา ที่ท่านสร้าง ตามตำหรับ หลวงพ่อไพร

เบี้ยตัวนี้ หลวงอา ให้ผม ไว้ นานแล้ว ที่ใต้ท้อง อุดด้วย ชันรงเพชร
ผม เอา กาวอีพ๊อซซี่ ทาหุ้มไว้ อีก ชั้น เพื่อ ความ คงทน ในการใช้งาน ครับ

 

บ้านผมอยู่ บุรีรัมย์ ครับ เรื่องของปอบก็เป็นเรื่องที่ผมได้ยินตั้งแต่เด็กๆ
...คนที่เคยโดนผีเข้า หรือ ปอบเข้า ผมก็เคยเห็นมาแล้ว
...มีครั้งนึงเคยไปดูคนโดนผีเข้า เขาว่าเป็นผีปอบมาอีกหมู่บ้านหนึ่ง คนที่โดนเข้าสิง นี้ก็โดนเข้าสิง บ่อยๆ เปลี่ยนหน้ากันมาเข้า แต่ปอบที่มาเข้าตอนที่ผมไปดู เขาบอกว่าเขาหิวข้าว ต้องให้คนหาข้าวมาให้กินเขาถึงจะไป แต่ต้องเป็นข้าวกับลาบเลือดเท่านั้น ..แต่หมอผี คนที่มาไล่ ไม่ให้กินอะไร เขาใช้ไม้ หวาย มัดสายสิญจน์ แล้วพ่วงไปมัดตัวคนที่โดน ผีเข้า สอบถามไล่เลียง ว่ามาจากใหนยังไง พร้อมกับร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่นาน แล้วก็ ออกไป
......บางครั้ง มีคนสองคนโดนผีเข้า พร้อมกัน อยู่บ้านคนละหลัง แล้วก็มาทะเลาะกัน(ผีทะเลาะกัน 55555)
....ตอนนี้ผมคิดว่า ผีปอบ แถวๆบ้าน ที่กล่าวถึง คงมีอีกมาก ถ้ามีโอกาส อาจารย์ แวะไปปราบให้หน่อยนะครับ ...เอาให้ราบคาบไปเลย☆☆

 

ตอนนี้ภาคเหนือ มีแผ่นดินใหว ภาคใต้ มีระเบิด ...
เกิดอะไรขึ้นครับ ..
เราจะช่วยกันได้อย่างไร

 

ส่งภาพ พระยอดขุนพล กรุวัดพระศรีฯ จ.ลพบุรี
มาให้ อ.สุวิ ดู

องค์ นี้ แหละ ที่ เล่า ประสบการ ให้ อ. ฟัง

 

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ได้ บวช พระลูกชาย ที่วัดราชสิทธาราม

อิ่มบุญ อิ่มใจ กันทั่วหน้า

นำบุญ มาฝาก เพื่อนสมาชิก ทุกๆ ท่าน นะครับ

 

ยินดีกับคุณดาวด้วยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

แจ้งข่าวบุญ บวชพระ อีกหนึ่งรูป


รับทราบข่าว จาก หลวงพ่อบุญมา วัดป่ากังวาลไพร จ.ชัยภูมิ

มีชาวบ้าน ที่ มีจิตศัทธา ที่จะบวชเป็นพระภิษุ เพื่อจรรโลง พระพุทธศาสนา อีก 1 ท่าน

ซึ่ง จะบวช ในวัที่ 6 ก.ค. 57 นี้
และมาจำพรรษา ที่ วัดป่ากังวาลไพร เพื่อช่วย ในการ ก่อสร้าง วัดป่า ฯ ต่อไป

จึง เรียนมา เพื่อ ทุกท่าน ได้ ร่วม อนุโมธนา บุญ ใน ครั้งนี้ .

 

ฤดูฝน ออกจะ เงียบเหงา ด้วยว่า ไม่ค่อยมี กิจกรรม กัน

ตัวผม เอง ก็ ไม่ค่อยมี กิจกรรมอะไร แปลกใหม่ ยังอยู่ กับ เรื่อง เดิมๆ
งาน ก็ ทำ เหมือนเดิมๆ ตก เย็น ก็ ซ้อมกอล์ฟ บ้าง คุยกับ เพื่อนในวงการ นักสะสมพระเครื่องบ้าง
งานบุญ งานกุศล ก็ พอมี บ้าง เป็นระยะ

หลัง ออกพรรษา ก็ คงมี งาน ทอดกฐิน ให้ ได้ทำบุญ กัน ครื้น เครง ฯ ละนะ

........................

วันก่อน ไป พบ สุนัข ตัวหนึ่ง มันโดน รถ ทับ ขา หัก นอน กอง อยู่ กับพื้น

พอเห็น เข้า เกิด สงสาร มัน จึง เดินเข้าไป ใกล้ๆ เพื่อตรวจอาการ ดู
พบว่า กระดูกขา หน้า ข้างซ้าย หัก

อาการ อย่างนี้ ถ้าเป็น มนุษย์ โดน เข้าไป คงเจ็บปวดมาก ต้องหามส่ง ร.พ. เป็นแน่
เป็น หมา ที่ไม่มีเจ้าของ เลี้ยง อย่างนี้ คง ลำบากแน่
ทำไงได้ ไหนๆ ก็ เจอกันแล้ว ถือว่า มีวาสนา ต่อกัน ก็ ต้องช่วยกันไป

ว่าแล้ว ก็ ส่งพลังรักษา ตามแบบ วิชา ยูเรอัส ที่ ร่ำเรียนมา

พอเสร็จสรรพ ยังคิดในใจ ว่า ที่เหลือ ก็ แล้วแต่ วาสนา ละนะ ............

อาการอย่างนี้ แม้นไม่มีบาดแผล ภายนอก แต่ กระดูกหัก มีการฉีกขาด ของกล้ามเนื้อภายใน

หาก ไม่มีการติดเชื้อ และ อับเสก ก็ จะ แห้งและ ค่อยๆ หาย ได้เอง ในที่สุด
หาก ติดเชื้อ อีกไม่กี่วัน พอเชื้อเข้ากระแสโลหิต มัน ก็ คง ต้องตาย เป็นแน่

คิดถึง อย่างนี้ แล้ว จึง ต้อง จัดไป อีก หนึ่ง ชุด ให้ เจ้าหมา น้อย

สามสี่วันต่อมา
ผมไป ที่ นั่นอีก มองหา เจ้า หมาน้อย ตัวนั้น ก็ หาไม่เจอ มันไป ไหน หว่า

จน เจอ ยาม ที่ดูแลลานจอดรถ ถาม เค้า
จึงรู้ ว่า หมา ตัวที่ โดนรถทับ มัน อยู่ ประจำ แถวๆ ลานจอดรถ นี่ ยาม เป็นคนให้อาหารมัน

สักพัก เห็น หมา ตัวหนึ่ง สี น้ำตาล เหมือนตัว ที่โดนรถทับ เลย วิ่ง มา ใกล้ๆ
ยาม จึง บอก ว่า มันมาแล้ว

อ้าว............. เฮ้ย วิ่ง ได้ แล้ว หรือ มัน เก่ง จริงๆ ถึง จะวิ่ง สามขา ก็ ถือว่า มัน แน่มาก

ดู เหมือนว่า อาการ บาดเจ็บ คงจะ ทุเลา ลงมากแล้ว ไม่มี อาการ อับเสก บวม อยู่ เลย

รอด ละ เจ้า หมาน้อย..................55

 

มักเจอ คำถาม ซ้ำๆ หลายเรื่อง อันเกี่ยวกับ การฝึกพลังบ้าง
การ ทำสมาธิบ้าง
เรื่อง ลี้ลับบ้าง

คำถาม เหล่านี้ บ้างก็ ตอบกันไป ตามที่ คาดคะเน เอา
จะหาคำตอบ ที่ ทำให้ หายค้างคาใจ ได้ ยาก

เรา ลอง มา รวบรวม และ เฉลย คำถาม เหล่า นี้กันดู ดี ไหม

เช่น

1. เป็นคำถาม ผู้ที่ฝึก ด้านพลัง จักวาล หรือ พลังฯ อื่น มัก สงสัย ว่าจริงไหม
จักระ7 ในตำรา เขียนไว้ว่า อยู่ กลางศรีษะ
อยู่ ตรงนั้น จริงๆ หรือเปล่า

ตอบ. อยู่บริเวณ กลางศรีษะ นะ จริง แต่ ไม่จำเป็น ต้อง กลาง เป๊ะ นะ แต่ละคน อาจไม่ได้อยู่ ตรงกัน เป๊ะ
แต่ จะอยู่ บริเวณ กลางศรีษะ ค่อนข้าง เยี้อง ไป ด้านหลัง สัมพันธ์ กับ กระดูก ต้นคอ
เท่าที่สังเกต จุด นั้น มักจะ ตรง หรือ ใกล้เคียง กับ ขวัญ บนศรีษะ


2 . ถาม ทำไม คนที่ฝึกพลัง เค้าจึง ห้าม ไม่ให้ ไปยุ่ง กับ จักระ1
ตอบ. เค้าไม่ ได้ ห้าม หรือ ห้าม ก็ แต่ เฉพาะ คนที่ ฝึกใหม่ๆ ยังไม่ชำนาญ ในการควบคุม พลัง ได้ แม่นยำ
เพราะ จักระ1 เป็นจุดรวม พลังงาน ที่ มี พลังมาก มายนัก ( มากเกินกว่าที่ เราคาดคะเนไว้ มากนัก) พลาดพลั้งไป พลัง ขึ้นมา เหมือนสตาร์ทเครื่องติด แล้ว ควบคุมไม่ได้ บาดเจ็บ หรือ เดี้ยง เอาง่ายๆ ที่เคย พบ กอง อยู่ ตรงนั้นเลย
ต้อง ช่วยกัน เยียวยารักษา เป็นการใหญ่ คนที่จะฝึก จักระ1 ควรอยู่ในการดูแล ของครูบาอาจารย์ ที่ท่าน มีความชำนาญ ในการฝึกฝน
ข้อนี้ สรุป ว่า มีอันตราย จึง เตือนกันไว้

3. ฝึกพลัง แล้ว ทำได้ จริง กันทุกคน หรือเปล่า
ตอบ. ทำได้จริง แต่ ขึ้นอยู่ กับว่า แต่ละคน ที่ ฝึก ตั้งใจจริง แค่ไหน
ตั้งใจฝึก ก็ ได้แน่ ขยันฝึกฝน ก็ ชำนาญ แน่ ฝึกต่อเนื่อง ก็ ยิ่งมั่นคง ...
รวมแล้ว ใช้เวลา เป็นปี หรือ หลาย ปี นะครับ

4 ฝึก เปิดตาที่3 แล้ว เห็น ผี เห็น ฯ ได้ จริง หรือ
ตอบ. ...................55

ข้อนี้ ไว้ ค่อย มาตอบ อีกที..... เอาแค่เป็นตัวอย่าง แค่นี้ ก่อน นะครับ

 

ต่อข้อ4 นะครับ

4 ฝึก เปิดตาที่3 แล้ว เห็น ผี เห็น ฯ ได้ จริง หรือ
ตอบ. .................การฝึกจนถึงระดับ 5 จะทำให้ เปิดตาที่3 หรือ จักระ6 ทำงานได้เต็มที่
คนที่ฝึก ทุกคนก็ รู้ อย่างนี้ ในตำรา ก็ บอกไว้เช่นนี้
หลายๆคน ที่ ตั้ง ความหวัง ไว้ อยากได้ ตาที่สาม กัน

พอถึง ระดับ 5 ได้ จริงๆ ผลที่ได้ ก็มีทั้ง ได้ ดังหวัง และ ได้ น้อยกว่าที่หวัง หรือบ้างก็ ได้ มากเกินหวัง ก็มี..........55

ข้อนี้ จึง สรุป ได้ ว่า แม้น ฝึก ถึงระดับที่5 แล้ว เปิดตาที่สาม (จักระ6 ) ทำงานแล้ว ก็ ตาม
แต่ละคน ได้ ไม่ เท่ากัน
ขึ้นอยู่ กับ พื้นฐาน โครงสร้าง ที่ ติดตัวมา ประการหนึ่ง
กับ ที่ ขยันอดทน ฝึกฝนมา ขนาดไหน อีกประการหนึ่ง

ในระดับที่5 นี้ ครูบาอาจารย์ ท่านให้ ความสำคัญมาก เพราะ เหมือนเปิดประตู เข้าสู่ อีกมิติ ( ประมาณ นั้น นะ)
สำหรับคนที่ เริ่มทำได้ ก็ อาจจะซุกซน ไปเที่ยวนั่น เที่ยวที่นี่ ตามเรื่องตามราวไป

ท่านอาจารย์ ท่านเคยพูดไว้ว่า หลังจากนี้ ไป ที่ พวกเธอ ใช้ตาที่สาม ได้แล้ว อาจารย์ คง ไม่สามารถ ติดตามไป ช่วย ได้ ตลอด นะ
เพราะฉะนั้น ท่านจึง ทุ่มเท ให้พวกเรา เป็นอย่างมาก เพื่อให้พวกเรา มี ภูมิ คุ้มกัน สูงที่สุด เท่าที่ ท่านจะ ให้ ได้

ผมยังจำได้ อาจารย์ ท่าน ส่งพลังให้ เรา ทุกคน ( ที่เข้าอบรมในวันนั้น) เช้า สาย เที่ยง บ่าย เย็น
แทบ ทั้ง วัน ที่ อยู่ให้ห้องอบรม เช้า มา ก่อน ยังไม่ทั้ง เรียน ทั้นสอน อะไร ท่าน ให้ พลังมาก่อนแล้ว
แล้วจึง ค่อย เรียน กันไป
พอสาย ท่านส่งพลัง ให้ อีก รอบ แล้ว เที่ยง ก่อนพักกินอาหาร ก็ อีก รอบ บ่าย อีกรอบ
แถม ตอนเย็น ก่อน กลับบ้าน ก็ อีกรอบ

ท่าน ส่งพลังให้ พวกเรา ขนาดนี้ เพื่อ กระตุ้น ให้ จักระ 6 ของ ทุกคน ทำงาน
และ ยังเพิ่ม ภูมิคุ้นกัน ให้ แก่ พวกเรา อีก
ต้องทำอย่างนี้ 4-5 วัน วันละ 4-5 ครั้ง ครับ

แม้น ฝึกกันอย่างนี้ แล้ว แต่ละ คน ก็ ได้รับไป มากบ้างน้อยบ้างไม่เท่ากัน .....

ที่ หัวไวหน่อย ได้ เร็ว ก็ ได้เห็น ตั้งแต่ วัน นั้นเลย

ยังจำได้ ในวันที่ เรียน กัน วันนั้น เห็นจริงๆ กับ ตา

มี พระอาจารย์ หลายๆ ท่าน ลงมา ซ้อน กับ อาจารย์ ผม ท่านลงมา ยืนสอน ที่หน้าห้องเรียน
ทีแรก ก็ นับ อยู่ หรอก องค์ ที่ 1 , 2 ,3 ,4 ,5, 6,7,8,9,10.......... ชักจะเยอะ...55

จน ตั้ง เลิกนับไป ท่าน ทะยอย ลงมา สอนพวกเรา ที ละท่าน ทีละท่าน ทั้งวัน

และที่สำคัญ ท่านที่มาเป็นท่านสุดท้าย นะ ซิ......... อาจารย์ ใหญ่.......

ท่าน มาแบบ เห็น แล้ว ผม อึ่ง............ ที่สุด


ข้อนี้ ตอบ นอกประเด็น ไป เยอะ

แล้ว สรุปว่า อย่างไง ละ

คนที่ เปิดตาที่สาม แล้ว เห็น ผี จริงไหม

ตอบ ..... บางคนก็ เห็นได้ บางคน ก็ ไม่เห็น ครับ คือ ได้ ไม่เท่ากัน หรือ ได้ ใน ระดับความถี่ ต่างกัน
เปรียบเทียบ ว่า ได้ เครื้่อง รับ วิทยุ มาคนละ เครื่อง หรือ บางคนได้ หลายเครื่อง
บางคน ได้ วิทยุ เอฟเอ็ม บางคนได้ เอเอ็ม บางคน ได้ ซีบี ฯลฯ
จึง สรุป ไม่ได้ ว่า แต่ละ คน ได้ รับ อะไรมาบ้าง แต่ ได้ นะ ได้ กันทุกคน

 

ข้อ 5. ในวัดผี เข้า ไม่ได้ จริงหรือ
ในโบสถ ในเขต เสมา ผี เข้าไม่ได้ จริงหรือไม่

คำถาม ที่ มีที่มา ยาวนาน เป็นเรื่อง ที่ พูด ต่อๆ กันมา เคยได้ยิน ตั้งแต่ สมัยผม ยังเป็นเด็กๆ
แล้ว เป็น เรื่อง จริง หรือ ไม่

 

ข้อ 5. ในวัดผี เข้า ไม่ได้ จริงหรือ
ในโบสถ ในเขต เสมา ผี เข้าไม่ได้ จริงหรือไม่

คำถาม ที่ มีที่มา ยาวนาน เป็นเรื่อง ที่ พูด ต่อๆ กันมา เคยได้ยิน ตั้งแต่ สมัยผม ยังเป็นเด็กๆ
แล้ว เป็น เรื่อง จริง หรือ ไม่

คำถามนี้ ตอบ แบบตรงๆ ว่า เคยเห็น บ่อยๆ ไป ว่า มีผี อยู่ในวัด หรือ จะเรียกให้สุภาพ หน่อย ก็ ว่า จิตวิญญาณ จะน่าฟังกว่า

ในวัด หรือ แม้นใน โบสถ ก็ ตาม เคย พบเห็น บ่อยๆ ว่า มี จิตวิญญาณ อยู่

ที่ ว่า ผี เข้า วัด หรือ เข้าโบสถ ไม่ ได้ จึง ไม่จริง
เรื่องนี้ อาจจะมี ที่มา จากหนังผี ไทย ในยุค สมัย ผม เด็กๆ ( นานมาแล้ว )
ที่ในหนัง คน เจอผี แล้ว วิ่งหนีเข้าวัด ไปหลบในโบสถ แล้ว ผี ก็ เข้าไม่ได้

ดูหนัง จน ติดตา ตรึงใจ จำ เอามา คิดว่าเป็นเรื่องจริง

ในทำนองเดียวกัน ก็ ยังมี อีกหลายเรื่อง ที่ ดูหนัง แล้ว ไปคิดเอาเอง ว่า มันเป็นจริง ตามนั้น

อันที่จริง เรื่อง จิตวิญญาณ ที่ อยู่ ในวัด หรือในโบสถ ผมก็ เคย ถ่ายภาพ เอามาให้ดู กันหลายครั้งแล้ว บางคน อาจจะ ลืมไป.........55

แม้นแต่ ในบ้าน คนธรรมดา ตามถนนหนทาง พวกจิตวิญญาณ เค้า ก็ มี สิทธิ์ ที่ จะอยู่ ได้ ตามอัธยาศัย เหมือนคนเรา นั่นแหละ

ตอบ ให้ ก่อน ที่ จะโดนคำถาม
แล้ว ผี เข้า วัด ได้ อย่างไร ยิ่ง ในโบสถ ด้วย เข้าได้ เพราะอะไร

ข้อนี้ ตอบ ได้ ไม่ยาก
ตอนเป็น คน เคย ไป วัด ไหม ไปทำอะไร ..... ไป ทำบุญ ไปฟังธรรม ไป นั่งสมาธิ ฯ
ตอนตาย แล้ว อยาก ทำบุญ บ้างไหม อยากไป ไหว้ พระ บ้างไหม .......55

 

ข้อ 6. เป็นคำถาม คนที่ ที่กลัวผี ห้อยพระแล้ว กันผี ได้ ไหม.

ตอบ. ข้อนี้ ถ้าตอบ แบบตรงๆ ให้ตรงประเด็น ก็ เกรงใจ จะกระทบกระเทือน จิตใจ บางคนได้บ้าง
เค้า จึงมัก ตอบ แบบเอาใจ รักษาน้ำใจ กัน
แต่ก็ นั่นแหละ มันจึง ทำให้ คนเรา เข้าใจอะไร ผิดบ้าง ถูกบ้าง ไม่ตรงประเด็น กันซัก ที

ไหนๆ ก็ มีคนเค้า ว่า อยู่ แล้ว ว่า อ้ายดาว มัน ปาก....... 55
ก็ คง ต้อง ขอ อนุญาติ ตอบ แบบตรงๆ ก็ แล้ว กัน

เรื่อง ที่ ว่า ห้อยพระแล้ว กันผี ได้ ไหม
ถ้า สามารถหาพระ หรือ ของขลัง ที่ มีคุณสมบัติ ในด้าน ขับไล่ ผีสาง ก็ กันได้จริง
แต่ ต้องเข้าใจ ให้ ตรงกันก่อน ว่า พระเครื่อง หรือ ของขลัง ใดๆ ก็ ตาม
ผู้ที่ ท่านสร้าง ท่านสร้าง และ ประจุ พลัง ไว้ ในด้านใดบ้าง และ ปริมาณ มาก แค่ไหน

พระกันผี มีจริงๆ
เช่น เบี้ยแก้ ของ หลวงปู่รอด วัดนายโรง กทม. ท่านเป็นพระในยุคร้อยกว่าปี ที่ผ่านมา เบี้ยแก้ของท่าน มีอานุภาพ ในด้านป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกัน คุณไสย ฯ
และยังมี เบี้ยแก้ ของ หลวงปู่ หลวงพ่อ ที่มีชื่อเสียง อีกหลาย ท่าน
เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
เบี้ยแก้ หลวงพ่อไพร วัดบางแคกลาง สมุทรสงคราม เป็นต้น
ที่ยกตัวอย่าง มา
ก็ มัน เป็น เครื่องรางของขลัง มีอายุเก่าแก่ ตั้งแต่ ร้อยกว่า ปี มาจนใหม่หน่อย ก็ ยัง หกเจ็ดสิบปี ขึ้นไป

ซึ่ง คงหาของแท้ๆ ได้ ยาก หน่อย ละ
แล้ว ของใหม่ๆ ที่หาได้ง่ายๆ หน่อย มีไหม

จะว่าไป ของใหม่ๆ หน่อย ในยุค นี้ ที่ ดี ดี ก็คงจะมี บ้างแหละ แต่ ต้อง ไป ตรวจสอบกันเอง ว่า ดี จริง เหมือน ของครูบาอาจารย์ รุ่นเก่าๆ ท่านทำไป หรือ ไม่

เท่าที่ เคยลอง เซาะหา โดยเฉพาะ ทาง อินเตอร์เน็ท ถามหาจาก อากู่ กูเกิ้ล ดู
ได้รายชื่อมา เยอะแยะ ติดตาม จนได้ ตัวอย่างมา ทดสอบ ก็ ยัง ไม่เคยได้ ของดี ถูกใจ สัก ที

ส่วนใหญ่ จะ เป็นราคาคุย มากกว่า คุณภาพ ก็ ตามยุคตามสมัย นี้ แหละ ครับ

อีกอย่างหนึ่ง ที่ อยากแนะนำ

ทรายเสก ของ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท
เป็นของดี ของวิเศษ ในด้าน ป้องกัน คุณผี คุณไสย ยิ่งนัก

และเป็นของ ที่ เค้า แจกกันฟรีๆ ไม่มีขาย
ถึงแม้นว่า หลวงพ่อ ท่านจะมรณะ ภาพ ไป ตั้งแต่ ปี 2522 แล้ว ก็ตาม

ทรายเสก ที่ ท่านทำไว้ ก็ ยังมี ลูกศิษย์ เก็บรักษา เอามา แบ่งปันกัน ยามจำเป็น บ้าง
และ เมื่อ ประมาณ ปี สองพันห้าร้อยสามสิบกว่าๆ ทางวัด บังเอิญ พบกรุพระ ของหลวงพ่อกวย

ในกรุ ท่าน เอาทรายโรย รอง พระที่ บรรจุ ไว้ มากทีเดียว
ทราย เหล่า นี้ แหละ ก็ เป็นทรายเสกที่ ท่าน เสกไว้
ทำให้ พวกลูกศิษย์ เก็บ และ แจกจ่าย กันมา จนทุกวันนี้

ทรายเสก ของหลวพ่อกวย มี อานุภาพ มาก ทีเดียว อย่าว่าแต่ ผีสาง เลย
แม้น เจ้า มีศาล ยังอยู่ไม่ ได้
เคยมีคน บ้านอยู่ใกล้ๆ ศาล เจ้า ไม่รู้ คิดอย่างไง เอาทรายเสก ไป โรยรอบศาล
ทำให้เจ้า ในศาล เดือดร้อน อยู่ไม่ได้
จน กระทั่ง ต้อง ไป เข้า ชาวบ้านแถวนั้น ให้ มาบอก ให้ เอาทรายเสก เหล่านั้น ออกไป

ยังมี ของขลัง ที่มี คุณสมบัติ ในทำนอง นี้ อีก หลายอย่าง เช่น

มีดหมอ
ไม้ครู
ตะกุดกัน กระทำ
เชือกคาดเอว
ประคำ บางชนิด
ผ้ายันต์ บางชนิดที่ สร้างไว้เฉพาะ ด้านนี้โดยตรง

ฯลฯ

แต่ สรุป ได้ว่า พระเครื่อง หรือ เครื่องราง ที่ กันผี ได้ นะ มี จริง

แต่ ต้อง รุ้จัก คัดเลือก และ รู้วิธี แสวงหา

มิใช่ว่า ไป หยิบ ไปหา อะไรมา ก็ จะ ใช้ ได้ ไปหมด ( อันนั้น มันเป็นความเชื่อ เอาเอง)

ใครจำเป็นต้องใช้ จริงๆ ค่อย มาคุยกัน เป็น กรณีไป อันไหนพอช่วยกันได้ ก็ ช่วยกันไป
ปัจจุบัน ของดี มีน้อย ใช้สอย ให้ประหยัด

...... ครับ ผม

 

ภาพงานบวชพระ ใหม่ ที่จะมาจำพรรษา ที่ วัดป่ากังวาลไพร

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 57 ที่ผ่านมา

 

รบกวนคุณดาวทะเลทรายในเรื่องนี้ด้วยครับ ผมแจ้งเรื่องให้ทราบทาง PM ครับ ขอบคุณครับ

 

พลังอธิษฐานของกระทิ ตอนที่ 1 พลังจิตไม่ใช่เรื่องไกลตัว อายุไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการเข้าถึง




นิทานที่จะเล่าต่อไปนี้ ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของกระทู้นี้ คือคุณหมอสุวิเรียบร้อยแล้วนะคะ


ข้าเจ้าจะเขียนเป็นตอนๆ ไปเรื่อยๆ ตามแต่จะนึกได้ โดยเรื่องทั้งหมดก็นำมาจากนิทานส่วนตัว ในแง่หนึ่งเป็นนิทานที่เกิดจากนิมิตร ในแง่หนึ่งใครๆ เรียกว่าพลังจิตก็แล้วแต่ แต่ดิฉันจะเหมาว่าเป็นนิทาน เพื่อให้เหมาะกับชื่อของกระทู้นี้ค่ะ เรื่องเล่าตื่นนอนตอนสายๆ


ก่อนอื่นเรามาว่ากันด้วยเรื่องของพลังจิต หรือพลังสมาธิ การเกิดนิมิตรระหว่าง และขณะเกิดสมาธิกันก่อน ว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนสามารถมีได้ และไม่ได้จำกัดอายุว่า ฉันอายุมากแล้ว ฉันแก่มากแล้ว ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้รู้ได้เห็นอะไรๆ เหนือธรรมชาติกับเขาหรอก


ถ้าใครคิดอย่างนี้ ข้าเจ้าอยากจะให้ทุกท่านลองนึกย้อนไปในประวัติพระพุทธเจ้าสมณะโคดม หรือพระพุทธองค์ในพระพุทธศาสนา ว่าพระองค์ตรัสรู้เมื่อพระชมน์เท่าใดกันคะ? (ว่าด้วยวิชาพระพุทธประวัติ กันสักนิดดดด)



สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้มีความสามารถมาตั้งแต่เด็ก แต่สามารถปรารฎได้กับคนในช่วงวัยที่แตกต่างกันได้

แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เหล่านี้เกิดจากการฝึกปฏิบัติ การปฏิบัติของบางคน เป็นสิ่งที่สะสมมาแล้วในอดีต พอในปัจจุบัน ได้สัมผัสเพียงไม่นาน ความรู้เก่าที่เคยสะสมมาในอดีต(ชาติ) ก็อาจทำให้ได้สัมผัสพลัง(สิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าที่ตาธรรมดาเห็น และยึดติดจากการมองด้วยตาทั้งสองข้างมาตั้งแต่เด็ก โดยจะเห็นแค่เพียงสามมิติเท่านั้น เหนือไปจากนั้นคือ มิติที่สี่ที่ห้าไม่สามารถมองเห็นได้ หรือเคยมองเห็นได้ แต่ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ก็เลยเลิกสนใจ เลิกใส่ใจไป ทิ้งมันไป เลิกคิดถึงมันไป (เหมือนที่กะทิในเรื่องที่จะเล่าต่อจากนี้ไป เคยประสบ+เกิดขึ้นกับเธอมาแล้ว)



ดิฉันขอยืนยันว่า พลังจิต พลังสมาธิ เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ ทุกคนทำได้ ไม่มีใครเหนือกว่าใคร แม้แต่คนที่มองเห็นพลังจิต (จะเรียกว่าพลังนิมิตรหรืออะไรก็แล้วแต่) เพียงแต่ว่า จะมีอะไรมา "จุดไฟ" ให้สิ่งนั้นติดขึ้นมา แล้วบังเอิญหรือไม่บังเอิญ ที่ตรงนั้นดันเป็นตัวคุณ เช่น ...


พระพุทธเจ้าทรงได้ยินพิณสามสาย แล้วเกิดจุดประกายในการปฎิบัติ(รู้ว่าจะต้องทำยังไง)


เอาคนธรรมดาบ้าง (ตัวอย่างที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง อย่าว่ากันนะคะ แต่ขอบอกว่า 2 ใน 4 อันนี้เป็นสิ่งที่ได้ยินจากปากของเจ้าตัวเองค่ะ อีก 1 มาจากการอ่านและสัมผัสอยู่ร่วมประสบการณ์เจ้าของเรื่อง และอีก 1 เรื่องจากการอ่านและฟังข่าว) ขออนุญาตเอามาเขียนลงไว้ แต่ไม่ได้บอกให้ลองทำตามดูนะคะ)

ตย.

คนๆ หนึ่ง ในวัยรุ่น อยากลองบุหรี่ (ขออนุญาตท่าน(คนแถวๆ นี้แหละคะ) นะคะ) ระหว่างสูบ เพ่งมองควันบุหรี่ แล้วเกิดสมาธิ เห็นบางสิ่งจากควันที่ลอยอยู่นั้น ทำให้เกิดพลังการมองเห็น จนทุกวันนี้ และพอมีลูก ก็สอนให้ลูกของตนมองพระในใจ จนเกิดมีพลังมองเห็นพระซ้อนกันในดวงจิตเป็นชั้นๆ จากกำลังสมาธิ (เดือน มิ.ย.57 พระลูกชาย เพิ่งจะบวชไปนะคะ สาธุค่ะ)


ดาราชายคนหนึ่ง ชอบแข่งรถมากค่ะ ช่วงวัยรุ่นเขาเคยขับรถบนถนนด้วยความเร็ว จนเกิดอุบัติเหตุชนคนเสียชีวิตมาแล้ว เขายินดีรับโทษนี้ ด้วยการรับเลี้ยงดูทายาทของผู้เสียชีวิต แต่เขายังจะขอแข่งรถต่อไป แต่เปลี่ยนไปลงแข่งในสนามแข่งรถให้ถูกต้อง

ขณะที่เขาฝึกการแข่งขันอยู่นั้น ด้วยความที่ต้องใช้สมาธิในการควบคุมรถบนความเร็วสูง เขาเกิดพลังสมาธิ แยกระหว่างความนิ่งกับความเร็วให้เป็นสอง (ขั้วที่มีความต่างกันในเวลาเดียวกัน) และทำให้มองเห็น(จุดไฟติด) ขึ้นมา

ปัจจุบัน เขาใช้สิ่งนี้รักษาผู้ป่วย ด้วยการมองแล้ววินิจฉัยโรค และรักษาโรคของผู้คนอื่นได้



ตย. ต่อมา ชายคนหนึ่งเป็นสถาปนิก รับเหมาะ ตกแต่งภายใน (ขออนุญาตท่าน(คนแถวๆ นี้แหละคะ) นะคะ) เดิมมีตังค์ใช้สบายมากมาย อู้ฟู่มาก มีบ้านหลายหลัง มีรถใช้หลายคัน แต่เพราะพิษฟองสบู่แตก เขาล้มละลาย ไม่เหลืออะไรเลย นั่งรถเมล์ รถแท็กซี่ จากความเศร้าสลดเสียใจ เขาได้พบพระอาจารย์ท่านหนึ่ง จากคำพูดของท่านที่เขารู้สึกสะกิตใจ และเอาไปขบคิด จนได้พบบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาคิดได้ แต่เกิดกำลังสมาธิ จนไปเรียนวิชาสมุนไพร มารักษาผู้คน เป็นแพทย์ทางเลือกจนถึงปัจจุบัน ด้วยการรักษาคนผ่านกำลังสมาธิ พลังจิต



มาถึงตัวของผู้ที่ชื่อ "กะทิ" บ้าง เกิดกำลังสมาธิ จากการเพ่งมองสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนติดตา แล้วเกิดเป็นพลังสมาธิ คล้ายๆ กับคนที่พูดถึงไปข้างต้นดังกล่าว

ผู้ฝึกสอนกะทิ ได้มองเห็นสิ่งนี้แล้ว ว่ากะทิสามารถทำได้แน่นอน และดูเหมือนจะมีนัยมาแต่แรกเป็นพิเศษ เพราะขณะเรียนสมาธิ กะทิเรียนพร้อมเพื่อนๆ ค่ะ และก็สงสัยว่าทำไมครูแต่ละคนถึงได้พูดเพ่งเล็งมาที่กะทินักหนาเหมือนใส่ใจในกะทิเป็นพิเศษนัก (เธอล่ะม่ายเข้าใจเหล่าครูบาอาจารย์เอาซะเลย) ทั้งที่เธอแสนจะซน บ้า ไม่ปกติเป็นที่สุดในหมู่เพื่อนๆ ซึ่งผิดกับคติของการเรียนสมาธิเป็นอย่างยิ่ง

ครูทั้งหลายต่างเรียกเธอว่า "ดวงวิญญาณที่แสนซุกซน" และมักได้ยินคำเตือนให้หยุดจิตที่ซุกซนน้้น อยู่บ่อยๆ โดยที่กะทิเองก็ไม่ได้เข้าใจเลย แต่เธอก็ฝึกไป เพราะเพื่อนๆ ในกลุ่มต่างก็ไปร่วมฝึกกัน



สรุป กะทิ เธอกลัวตัวเองจะไม่อยู่ในกลุ่มเพื่อนนั้นเอง ไม่ได้มีความคิดจะฝึกอย่างจริงจังกับเขาเลยมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพื่อนๆ พากันไปที่บ้านครู เธอ ก็แต่เป็นติ่งติดห้อยเพื่อนไปเฉยๆ (จริงๆ แล้วเบื้องหลังครูที่นี่จะเลือกด้วยนะคะ ว่าใครมีสิทธิ์เข้าเรียนหรือไม่ค่ะ แต่เธอและเพื่อนๆ ไม่ค่อยจะรู้ในข้อนี้หรอกค่ะ)

...แล้วมันเกิดอะไรขึ้นหลังจากกะทิเรียนๆ เล่นๆ อยู่ 2 ปี ล่ะ?..


วันที่เธอคิดว่าเธอเป็นบ้ามีอยู่จริง แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จะเรียกว่าควรยินดีกับเธอ หรือเรียกว่าน่าสงสารดีนะ? เดี๋ยวเราจะมาเจอลึกกับนิทานจากกะทิกันต่อค่ะ




ข้อสังเกต... ผู้อ่านคงพอจะสังเกตเห็นว่า การได้พลังสมาธิมา จนไรๆ ได้เนี่ย ... ไม่ได้เริ่มต้นจากความวิเศษใดๆ เลย เกินที่ใครๆ จะเอื้อมไม่ถึงนะคะ ... ไรๆ มันเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ แม้แต่การกระทำที่ดูเหมือนจะทำผิดมากกว่าทำถูก ก็ยังผลให้เกิดเหตุและผลของสิ่งที่กระทำนั้น ที่อะไรๆ ในโลกนี้มันก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน

และใน 4 กรณีตัวอย่างนี้ (ไม่รวมถึงพระพุทธเจ้า) ก็จะเห็นได้ว่า เรื่องเหล่านี้เกิดกับคนที่อยู่ในช่วงวัยธรรมด๊าธรรมดา ไม่ได้เกิดมีมาตั้งแต่เด็กแต่อย่างใดนะคะ


โปรดติดตาม นิทาน พลังอธิษฐานของกระทิ ตอนที่สองค่ะ ตอนรูปแบบของสมาธิไม่มีคำว่าตายตัวหรอกนะกะทิ


เนื้อเรืองนิทานน่าติดตามอยู่บ้างรึเปล่าคะเนี่ย รบกวนช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^ ^




อนึ่ง ผู้สนใจการทำนาย สุขภาพ การเงิน การงาน ความรัก จากเบอร์โทรฯ พื้นดวง เลขที่บ้านเพื่อประกอบกิจการ สอบถามได้หลังไมค์ค่ะ




ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญ และบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ในพระพุทธศาสนา และแด่พระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงจิต และขอบุญนี้จงคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์และอมนุษย์ทั้งปวง ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ

 

รีบเล่าต่อเลยครับ ชอบฟังเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ขอบคุณครับ

 

แล้วคุณกระทิตอนนี้คุยกับต้นไม้ได้แบบท่านอาจารย์ไหมครับ ไม่ได้หมายถึงคุยกับนางไม้หรือรุกขเทวดานะ หมายถึงถามเรื่องสรรพคุณของต้นไม้ หรือไม่ก็ถามว่าเขาชอบดินแบบไหน ขาดปุ๋ยอะไร ทำไงจะออกดอก ฯลฯ

 

ปูเสื่อรอฟังอยู่ครับ อิๆ