เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

คุณอาขา ทำไมภัยพิบัติจะเกิด
ถึงกลายเป็นมหากาพย์อันยิ่งใหญ่จังคะ
ฟังดูเหมือนมีอะไรเกี่ยวพันกัน เยอะแยะไปหมดเลย
เห็นแวปๆ เคยมีคนกล่าวถึงท้าวกกขนากด้วย
ตอนนั้นอ่านแค่ผ่านๆ อ่านดู

 

เย้ เย้ เย้ อาจารย์สุวิกลับมาเล่าต่อแล้ว มาปูเสื่อรออ่านด้วยคนเจ้าค่า

 

อ่านของ อาสุวิ ทีไร ยิ่งกว่า อ่านนิยายไซไฟ แฟนตาซีอีกครับ

รออ่านต่อครับ ลุ้นๆ>_<

 

พรุ่งนี้อยู่บ้านเช้าๆ คุณสุวิมะค่ะ

แบบ 8โมงก่าๆ หนูแว่บไปเอายาจะพอได้ไหมคะ ....

 

ทุกวันเสาร์ และ อาทิตย์
อ.สุวิ จะมา ที่บูธ จตุจักร........เช้า ถึง เย็น ละครับ

วันนี้ ผม แวะ เข้าไป ....
เพื่อนสมาชิก อยู่ กัน พร้อมหน้า พร้อมตา

เป็นที่ อบอ่น ทั้งอาหารการกิน ขนม ขะต้ม เต็ม โต๊ะ.......55

มี คนที่ เข้า ปรึกษา หลายคน ทะยอย เข้ามา
ที่ รักษา อาการ เจ็บป่วย ก็ มี
ที่ เป็น อาไร ไม่รู้ มา ตรวจ หา สาเหตุ ก็ มี ( โรคจากรรม )
อ.สุวิ ให้ คำแนะนำไป ที่ต้อง กินยา ก็ จัดยา ให้
ราย ที่ ไม่ ต้อง กินยา ก็ แค่ แนะนำ ให้ ไป ทำ เอง..........

ที่ มี องค์ เข้ามาปรึกษา ก็ มากัน คุณบาส ก็ ให้ คำปรึกษา แนะนำ ไป

มี อยู่รายหนึ่ง
เค้า โดน วิญญาณ เด็ก ๆ เกาะอยุ่ .... ก็ คงทำให้ เจ้าตัว เจ็บป่วยบ้างแหละ
เจ้าตัว เอง ก็ ไม่ รู้ ว่าเป็นอะไร
อ.สุวิ ตรวจ ให้ พบ ว่า มี วิญญาณเด็ก เกาะ อยุ่

เริ่มต้น ก็ ตีความ ตามอาการ
คิดว่า คง มี กรรม เรื่อง ทำแท้ง มา แหง ๆ......
ปกติ ก็ ต้อง เป็นอย่างนั้น

อ. ก็ โยนมา ให้ อ้าว ดาว ... ช่วยไหว ไหม.....ฮี ฮี
ข้า ฯ เจ้า
มัน พวก วิทยายุทธ ชั้น ปลายแถว.....

จึง จูงมือ เจ้าตัว เค้า ไป กรวดน้ำ เสีย ก่อน.. ดู อาการ
ยังไม่ พอ ยังหนัก อยู่
ทำ อยุ่ สามรอบ ค่อยเบา ลงหน่อย

แล้ว ก็ ส่ง ลูก คืน ให้ ท่านอาจารย์ รับ ไป ......

ขอเป็น ผู้ ชม ดี กว่า..........55

แต่ ราย นี้ เหมือนจะไม่ ใช่ ไม่ ได้ ตรงไป ตรงมา อย่างที่ คิด
ทำให้ อาจารย์หมอ...
ต้อง ตรวจไป ทำ ไป อยุ่ หลาย รอบ.....

เฮ้ย ... มี มา สวมรอย ว่า เป็น เจ้ากรรม นาย เวร ด้วย ..... วุ้ย

( ขอยืม สำนวน อาจารย์ มาใช้ หน่อย....55 )

แต่ ก็ นั่นแหละ จะเป็น ตัวจริง หรือไม่จริง
ก็ ธุระไม่ใช่ ที เรา จะไป ขับไล่ ไส ส่ง เขา

ก็ ต้อง เจรา ต่อ รองกันไป

รักษา กันไป ตามอาการ อาการภายนอก ปวดเมื่อย หนักตึง ... ก็ ทำกายภาพบำบัดให้ไป
ภายใน ... ก็ จัดการรักษาไป
ส่วนเรื่อง กรรม ... ก็ ให้ เจ้าตัว เค้า ไป ทำบุญ อุทิศ บุญกุศล ให้ เค้า ไป ตามระเบียบ

 

อ้าว..แล้วท่านดาวฯ ไยไม่เล่าถึงรสชาดของพิษนาคที่ประหลาดให้ฟังบ้าง

วันนี้ไปต่อจิตอีท่าใหน ท่านจึงประทานมาให้
คงทำความดีความชอบนิ ที่ไปแอบดูเขา เลย ๆๆ...

 

อาจารย์ นะ..... เขียน ไป หัวเราะ ไป......

( คง สมน้ำหน้า ไอ้ ดาว มัน......55 )

ตอนนั้น อ.สุวิ คุย กับ คุณจีรศักดิ์ เรื่อง เขาวงพระจันทน์ อยุ่
ผม เดินกลับมา ที่ โต๊ะ

เค้าคุย อา ไร กัน ....นะ ( เงี้ย หู ฟัง )

ด้วยความสนใจ.....

อาจารย์ ก็ ให้ ลองไป ดู ซิ ที่ใต้ เขาวงพระจันทร์ มี อะไร อยุ่
เรา ก็ ดู ตามไป

อาไร หว่า สีแดงๆ ดำๆ เป็นก้อนๆ กลมๆ ยาวๆ

พูด รำพึง รำพัน ออกมา.....

อาจารย์ กับ คุณจีรศักดิ์ เค้า ยิ้มๆ กัน......

( เราคิด ในใจ อาไร กัน ..... รู้ กันสองคน ...ไม่ บอกเรา )
สักครู่
อาจารย์ จึง เฉลย มาว่า ที่ เห็น เป็นก้อนยาวๆ นั่น ยังดี นะ ไป เห็น ตรงกลางตัวเค้า

เจอ หัว ลา ก้อ ....... ฮี ฮี

ถึง รู้ ว่า เป็นท่าน ขนกพญานาค ท่านเป็นอภิมหาพญานาค
มีขนาด ลำตัว ใหญ่ ระดับ ที่ ประมาณ ไม่ ถูก
คะเนว่า เกล็ด แต่ละเกล็ด ขนาด เป็น หลายไร่ ที่เดียว

แล้ว ตัวท่าน จะใหญ่ ระดับไหน
แถม พิษ มีฤทธิ์ ระดับเทพเทว ธรรมดาๆ มิอาจ ต้านทานได้
นี่ยังไม่ ได้ นับ ปริมาณ ของ พิษ มาเป็นตัวคูณ ด้วย นะ

แค่ แอบ ชำเลือง ไป ดู ....... หน่อยเดียว

ยัง ได้ ของแถม มา
ข้า ฯ เจ้า เอง ยัง ต้อง ขอน้ำพระพุทธมนต์ จาก องค์ พระไภษัติคุรุ พระพุทธเจ้า
มาเป็นโอสถ รักษาตัว
ล้างไป ได้ เกือบหมด เลย แล้ว ละ

สักพัก อ. คง รู้ ถาม ว่า โดน พิษ ละซิ.......

ใช่ แล้ว ครับ.... นี่ แค่ นิดๆ นะ

ท่านอาจารย์ นำยา จาก ปู่ จ๋า เทใส่ ตัวผม
ไหล ลงมาที่ตัวผม
ไหลเป็นทาง ตามลำตัว ผ่าน อก .... รู้สึก ได้ อย่าง ชัดเจน

จึง ถามกลับไป ว่า
อาจารย์ ใส่ อะไร มาให้ ผม

ยา ปู่จ๋า ไง ........ไว้ รักษา พิษนาค ได้ ชะงัด ......

 

ฮิฮิ.....
ไม่ยักเล่าถึงรสชาดของพิษที่ท่านประทานให้นะ ว่าเป็นไง
นี่แค่ไอละเหยมานิดหน่อนเอง

 

เล่าซะเองเลย เรื่องที่บูท ช่วงบ่ายวันนี้
นั่งคุยกะเห็ดหอม(จีรศักด์)อยู่ถึงเรื่องเขาวงศ์พระจันทร์

พูดถึงรอยพระพุทธบาทที่อยู่บนยอดเขา
พูดถึงพลังงานของรอยพระบาท แล้วชวนพวกลูกศิษย์ อ.บาส และดาวทะเลทราย ดูกัน
และลองสัมผัสพลังของรอยพระพุทธบาท ทางไกลกันดู
โดยดูที่ช่วงระยะเวลาต่างๆกัน
เริ่มดูที่ ปัจจุบัน (๓๐ ตุลา)
และย้อนหลังไป ประมานต้นเดือน ตุลา
ย้อนไปประมาณ ๑๐ กันยา
ย้อนไป ปลายเดือน สิงหาคม(ประมาณ ๒๐-๒๕ สิงหา)
และให้เทียบพลังงานที่รับได้ ลักษณะของพลังในแต่ละช่วง

ทุกคนรับรู้ถึงความประหลาดในพลังที่ได้รับ
พลังในปัจจุบัน(ปลายตุลา) กับพลังในอดีต(เดือนสิงหา) พลังงานต่างกันมากทั้งลักษณะและลีลาในเนื้อพลัง
สร้างความสงสัยให้ทุกผู้คน ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากนั้น ก็ชี้ชวนให้ดูใต้ขุนเขาใต้รอยพระพุทธบาทนั้น ว่ามีอะไรอยู่
ดาวทะเลทรายตาดีกว่า ทักถามทันทีว่า
อะไรนะ เป็นท่อนๆยาว ใหญ่มาก มีสีสรรแดงๆเขียว

เราก็ได้แต่ยิ้ม บอกแต่เพียงว่า ระวังตัวด้วย หันไปดูคุณเห็ดหอม ถามเห็นใหม
หันกลับมาทางดาวทะเลทราย แฮ่ๆ เรียบร้อยโรงเรียนนาค
เห็นทำหน้าปูเลี่ยนๆปูเลี่ยน
รู้ได้ทันทีว่า โดนเรียบร้อยแล้ว

 

ได้ข่าวว่ามากรุงเทพฯหรือ
ปู่ อยู่ที่บูท อ.สามตาที่จตุจักร ในวันเสาร์ อาทิตย์ นะ
เสาร์อาทิตย์นี้ อยู่ช่วงบ่ายนะ

 

ขอ ออกความเห็น นิดหนึ่ง

เรื่องพิษนาค นี้

เป็นชื่อเรียก ที่ ใช้กันใน ณ ที่แห่ง นี้ ..... เป็นที่ เข้าใจ กัน ..เฉพาะกลุ่มพวกเรา

หากไป ที่ อื่น เค้า อาจไม่ เรียก เช่นนี้

เช่น

ไวรัส สายพันธ์ใหม่ , การกลายพันธ์ , การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ดีเอ็นเอ

ก็ ไม่ต้องมา ถกเถียงกัน ว่า ใครถูก ไม่ถูฏ

เพราะ พูด ใน มุม มอง ของแต่ ละคน
ที่เห็นต่าง กันออกไป......

( เพื่อป้องกัน การ โต้แย้ง กัน ในภายหน้า ... นะครับ )

 

อาทิตย์ไม่ได้ไป เสียดายจังเลย =A=''

ก็นั่งดูในนี้ละกันครับ แฮะๆ

 

เรื่องย่อๆ นิทายประรำประรา ของเขาวงศ์พระจันทร์(ฉบับเต็มๆก็ถามอากู๋เกิลดูก็แล้วกัน)

เรื่องมีว่ามียักษ์ตนหนึ่งถูกพระรามยิงด้วยศรกระเด็นมาตกที่เขาวงศ์พระจันทร์แล้วสลบไป
แล้วพระรามก็สาปให้ยักษ์ตนนี้สลบอยู่เช่นนั้น จนกว่าศรที่ปักอกจะเคลื่อนหลุด
และให้หนุมาน มาเฝ้าไว้ ถ้าศรเริ่มเขยื่อนหลุดเมื่อไหร่ ก็ให้ตอกย้ำลงไปอีก ไม่ให้ยักษ์ตนนี้ฟื้นขึ้นมาได้
ยักษ์ตนนี้มีลูกสาวชื่อนงค์ประจักษ์ เพียรปลุกให้พ่อฟื้น มี ๒ วิธี
๑ หาน้ำส้มมารดที่ศรที่ปักอก ศรก็จะหลุด ยักษ์ก็ฟื้น แต่ก็ไม่สำเร็จ ด้วยหนุมานมาตอกย้ำอยู่เสมอ
๒ เพียรทอผ้าด้วยไยบัว นำไปถวายพระพุทธเจ้านามพระศรีอริยะเมตไตร อานิสงค์ผลบุญนี้ก็จะทำให้พ่อของนางพ้นคำสาปของพระราม

และอีกส่วนหนึ่ง คือเรื่องรอยพระพุทธบาทที่ปรากฏบนยอดเขา
ตามเรื่องมีฤๅษีท่านหนึ่ง ขอพระพุทธเจ้าประทับรอยพระพุทธบาทไว้เพื่อเป็นที่ระลึกของตน
และทุกคนเข้าใจพ้องกันว่าเป็นรอยบาทของพระศรีศากยะมุนี

และทั้งสองเรื่องดูเหมือนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย

 

แต่จากการสืบค้นของไอ้หมอกลับกลายเป็นว่า

ผู้ที่สลบไสลย ที่ใต้เขาวงศ์พระจันทร์ กลับเป็นนาคยักษ์ตนหนึ่ง มีนามท้าวกกขนาค มีพิษสูงมาก เทพเทวาทุกชั้นฟ้าก็ไม่อาจต้านพิษได้
ท้าวเธอต้องศรพระนารายณ์(ก็พระรามนั่นแหละ) สลบ และถูกจำขังไว้ไต้เขาแห่งนี้
ด้วยเหตุที่ท้าวเธอมีพิษและตัวใหญ่มาก หากฟื้นขึ้นมาได้และเพียงขยับตัวด้วยความโกรธ โลกก็อาจถล่มทลายได้

จึงได้ขอพระบารมีพุทธองค์นามพระกัสปะ ประทับรอยพระบาทข้างขวาไว้เพื่อการแสดงธรรมโปรด นาคตนนี้ ให้อยู่ในสัมมาทิฐิ
และได้ให้ฤๅษีท่านหนึ่ง มาเฝ้าดูแล สักการะรอยพระพุทธบาทนี้ไว้

ตราบใดที่รอยพระบาทนี้ยังคงพลังแห่งพุทธะอยู่ นาคยักษ์ตนนี้ก็ไม่อาจหลุดออกมาก่อภัยภิบัติแก่โลกนี้ได้

ส่วนเรื่องของลูกสาวนางนงประจักษ์ และหนุมาน ไม่ปรากฏความมีอยู่จริง

 

จากที่เล่ามา นาคยักษ์ท่านนี้ ปรากฏกายแล้ว
นั่นแสดงว่า รอยพระบาทที่สะกดนาคท่านนี้หมดพลังแล้ว

คำถามตามมา รอยพระบาทหมดพลังได้อย่างไร
เพราะเราท่านล้วนทราบดีว่าไม่มีเทพเทวาแม้แต่พระยามารท่านใดสมัยใดกล้า หรือมีพลังมากพอจะลบล้างพลังแห่งพุทธะที่ประทานเอาไว้ได้
เหตุนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
หรือพระพุทธองค์ทรงอนุญาติให้ถอนพลังได้ และใครเป็นผู้ไปขออนุญาติ (ปกติหากไม่มีผู้ขอ ท่านจะไม่ประทานให้)
และใครเป็นผู้ไปถอนพลัง และใครสามารถสั่งให้นาคยักษ์ท่านนี้ไปทำงานร่วมกับนาคทั้งหลาย แบบเป็นระบบ

ทั้งหมดนี้คือปริศนา

 

ปริศนาที่ปรากฏทำเอาไอ้หมอคันคะเยอไปทั้งตัวและหัวใจ
เพียรเสาะหาที่มาที่ไป ไม่เลิกรา
ด้วเหตุนี้ ตัวมันต้องพิษนาคแล้ว ต้องพิษนาคอีก ซ้ำซ้อนหลายครา กว่าจะรู้เรื่องเหตุที่ไปที่มา

และด้วยการต้องพิษนาคในครั้งนี้
ทำให้ไอ้หมอมันพบตัวยาธรรมชาติตัวหนึ่งสารมารถยันกับพิษของจอมนาคราชท่านนี้ได้ โดยไม่ต้องใช้ยาที่ประทานจากเบื้องบน
ยาที่ประทานจากเบื้องบนที่สามารถรักษาพิษจอมนาคยักษ์ตนนี้ได้มีเพียงสองตัวคือยา ปู่จ๋า และ มณีปัทเมศวร์ เท่านั้น
ยาตัวอื่นเช่น 7 มณี 9 มณี แม้แต่ แก้วจินดา ล้วนไม่อาจช่วยได้เลย

และจากตัวยานี้เองทำให้ไอ้หมอมันผสมยาได้ชุดหนึ่งสามารถแก้พิษของไวรัสที่รวมตัวกับพิษนาคได้อย่างดี
และยังแก้พิษของไวรัสที่ยากรักษาได้ชะงัด เช่น เอดด์ SLE ไธรัสซิเมีย ไธลอยด์ ฯ

 

ในสามโลกล้วนมีลิขิต ความเป็นไปอยู่
และมีมหาพรหมท่านหนึ่งเป็นผู้ควบคุมลิขิตนี้ ให้เป็นไปตามที่กำหนด
ท่านผู้นี้เป็นผู้ให้ชีวิตอำมะตะแก่นาคท่านนี้

จอมนาคจึงให้ความเคารพและยอมรับคำสั่งจากมหาพรหมท่านนี้ ให้ไปทำงานตามสั่ง
และมหาพรหมท่านนี้ก็เป็นผู้อราชธนา ขอพรจากองค์พุทธะพระกัสปะ ถอนพลังจากรอยพระบาทที่ประทานไว้
เพื่อให้ท้าวกกขนาคเป็นอิสระ และออกไปทำงานให้สามโลกให้เป็นไปตามลิขิต

และหลังจากงานสำเร็จแล้ว จอมนาคท่านนี้ ก็จะเป็นนาคท่านแรกที่ได้เป็นเทพสถิตอยู่บนสวงสวรค์(ได้อยู่ชั้นหกแนะ-ชั้นนี้เป็นชั้นของบุคลที่ทำงานพิเศษให้สามโลก)

 

และบัดนี้ท้าวกกขนาค ได้เป็นอิสระแล้ว
ข่าวนี้กระจายไปทั่วในหมู่นาคทั้งหลาย
เหล่านาคจำนวนมาก ก็พากันมาน้อมเคารพปู่ของปูของปู่นาค ณ เขาวงค์พระจันทร์แห่งนี้

ปัจจุบัน จำนวนนาคที่มาอยู่อาศัยที่บริเวรรอบๆเขาแห่งนี้นับวันยิ่งมากยิ่งขึ้น
อีกไม่นาคสถานที่แห่งนี้ คงกลายเป็นเมืองนาคแห่งใหม่แน่นอน

และเมื่อนั้นการปกครองของเหล่านาคอาจมีปัญหา
แน่นอนท่านท้าววิรูปักษ์เข ไม่อาจว่ากล่าวปกครอง ท่านท้าวกกขนาคได้

ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้ขอประทานอำนาจแห่งพุทธะ สี่พระองค์ ลงประทับซ้อนลงในรอยพระพุทธบาทแห่งพระกัสปะเจ้า ที่ว่างจากอำนาจพุทธะไปพักหนึ่ง
เป็นรอยพระบาทเบื้องขวาสี่รอยซ้อนกัน เพื่อการแสดงธรรมโปรดเหล่านาคทั้งปวงที่พากันมาประชุมกันนะที่นี้ ให้อยู่ในสัมมาทิฐิ
และตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เหล่านาคก็จักมีสิทธิ์ ฝึกตนเพื่อก้างขึ้นสู่ความเป็นมหาเทพและพระอริยะเจ้าได้
ซึ่งแต่เดิมเป็นได้เพียงเทพชั้นต่ำ ชั้นมหาจาตุราชิกา เท่านั้น และไม่อาจก้าวสู่ความเป็นพระอริยะเจ้าได้

 

จากข้อความในโพสที่ผ่านมาจึงเป็นคำตอบที่ว่าเหตุใด อำนาจในรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาจึงเปลี่ยนไป
จาก มีอำนาจอยู่ ตอนปลายสิงหา
ต้นกันยาก็หายไป
แล้วอยู่ๆ พลังพระพุทธบาทก็ปรากฏขึ้นอีก ในชวงกลางๆตุลา

และอำนาจแห่งรอยพระพุทธบาท ที่เคยมีอยู่เดิมกับที่ปรากฏในปัจจุบันจึงเปลี่ยนไป แตกต่างกันมากมาย

 

ลอร์ดออฟเเดอะริง สู้ไม่ได้เลย สู๊ดดดยอดดด