เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ลองดูเฉยๆ ยังไม่ได้เรียนวิชาอาบน้ำแข็ง เพราะไม่มียาเขียว
ก็แค่อยากรู้ว่าน้ำเย็น น้ำแข็งเนี่ยโดนราดหัวลงมาจะเป็นเช่นไรเท่านั้น
เผื่อว่า ที่บ้านเครื่องต้มน้ำร้อนเสีย พายุเข้าไฟฟ้าดับ 5555+
แต่โดนน้ำเย็นไปแล้วเนี่ย อาการที่ว่า เหมือนมีอะไรอุดตันที่รูจมูกที่มันเหมือนคาๆ ค้าง จะออกก็ไม่ออกเนี่ย มันหายไปแล้ว แต่ลมบนหัว ยังบานเหมือนเดิม ว่าเรื่องหัวบาน เมื่อสองอาทิตย์ก่อนไปบ้านลูกค้า เดินผ่านโต๊ะวางของจุกจิก ที่มีของแบบว่า ก้อนหิน พระแม่มารีแบบแก้วที่มีแสงแว๊บๆ เชิงเทียนรุ่นดึกดำบรร ช้างหินแกะสลักจากจีน ไม้แกะสลักเป็นรูปคนจากอินโดนีเซีย ตุ๊กตาสาวจีนใส่ชุดผ้าไหม ตุ๊กตาฝรั่ง สารพัดของจุกจิก ตอนแรกเดินผ่าน แค่ขนหัวลุก เดินผ่านรอบสองก็ลุกอีก คิดว่าอุปทาน วันนี้ ไปยืนตรงโต๊ะตัวนั้น โช๊ะ ขนหัวลุกอีกแล้วไม่ใช่อุปทานแล้ว

 

จะฝึกอะไรก็ตามแต่ โดยธรรมชาติแล้ว หากจิตมีกำลัง ไม่ว่าจะเผชิญอะไร
ร้อน หนาว เจ็บปวด หรืออะไร ก็จะไม่ทำให้เสียการทรงตัวทางอารมณ์
(ควบคุมได้) จักระ เป็นจุดกำเนิดเฉยๆ แต่ธรรมชาติจิตที่มีกำลัง จะไวมาก
พลังงานจะถูกควบคุม และดู ด้วยจิต กำหนดได้ แค่ดู ใช้ความรู้สึก
ดังนั้น เราจะไม่สนจักระ สิ่งที่รู้สึกแค่กระแสทั่วร่างก็พอ (ครอบคลุม)
สิ่งที่จะทำให้เราพลาด และ แพ้ คือ การถูกแทรกด้วยอารมณ์ไม่ดี
ดังนั้นการประคองอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ เราสามารถสร้างพลังงานได้ตลอดเวลาแม้ขณะหลับ ด้วยลมหายใจเพียงอย่างเดียว

แล้วจะรู้ว่า จักระทั้งหมดจะถูกปลุกขึ้นมาให้ทำงานพร้อมๆกัน โดยที่ไม่ต้องไปเพ่ง อย่าลืมว่า ต้องรักษากำลังให้ดี อารมณ์คือสิ่งสำคัญ อย่าให้ความขุ่น
ปรากฎ มิฉะนั้น โดนแทรกเหมือนสะดุดล้ม จิตจะตกชัววูบ

ตรงนี้ เคยทะนงตัวเองไปหน่อย จริงๆไม่ได้ฝึกไร แค่ฝึกลมหายใจเท่านั้น
ให้เข้ายาวๆ ออกยาวๆ ร่างกายจะสร้างพลังงานเอง ทำตลอดเวลา
มันจะต่อเนื่องกันเองอัตโนมัติ เป็นลูกโซ่ แล้ว ก็ได้สัมผัสสิ่งแปลกๆ
ตาจะเห็นเอง หูจะไวเอง อะไรๆๆ ก็จะมาเอง โดยไม่ต้องไปสนมัน

การฝึกของเรา
1 ฝึกลมหายใจเข้าออก อย่างมีสติ ลมหายใจจะสร้างพลังงานเอง
2 ไม่ให้อารมณ์ถูกแทรก ด้วยความรู้สึกอิจฉา โกรธ เกลียด หรือขุ่นใดๆ

นี่เป็นฐาน การสร้างพลังงานง่ายๆ หรือ การรวมจิตไว้ที่ลมหายใจนั่นเอง
แค่นี้ก็ ไปนอนแช่น้ำแข็งก็ได้ ไปอบซาวน่าเพื่อทดสอบอารมณ์ตัวเองก็ได้ (จะไม่รู้สึกใดๆเลย)
เจออะไรที่มากระทบทวารทั้ง 6 ก็จะควบคุมได้

แค่2 ข้อนี้ ก็ ทำให้โปร่ง สบาย จิตจะเบาเห็นแสงสว่าง แล้วภาพจะปรากฎ

( แล้วแต่ จิต แต่ละคนจะเจอ ส่วนเราไม่ได้เรียนจากครูที่ไหน สังเกตุจากจิตตัวเอง เห็นเอง ตายเอง รอดเอง รู้เอง)

 

สาวน้อยก้าวหน้าไปไกลแล้วเนอะ

 

เรื่องเล่าก่อนนอน (ผีมึความจจำ..ต่อ)
............................................

ที่โคนเสา เห็น เป็นสาวสวย ม๋วย อึ๊ม มานั่งอยู่
หน้า เศร้า...ก็เลย ถามว่า มายังไง..เป็น ยังไง

อ๋อ! มาอยู่ที่นี่ นานแล้ว เหมือนกัน...แฟนเสี่ยเขามาเช่าให้อยู่
ตอนหลัง เขาไม่ค่อยมาหา..ก็เลยน้อยใจ..
ในใจคดว่า เขากำลังจะมีใครใหม่แล้ว..ทะเลาะกันนิดหน่อย
ก็เลยหายามากิน...เลยตาย...พอตายก็รู้ว่า คิดผิด ที่ฆ่า ตัวตาย
.....................................................................
ไม่โกรธใคร...โกรธ ตัวเอง...ไม่อยากไปหน
รออยู่ว่า เขาตายเมื่อไร.ก็คงจะแวะมารับไปด้วยกัน
ก็ต้อง รอไป....คงอีกไม่นานหรอก น่ะ......
......................................................
น้องจะเข้ามาอยู่ในห้องนี้ใช่ใหม
งั้นขออบู่ด้วยคนน่ะ..สัญญาซ่า จะไม่รบกวน
เราสองคน ดู วิญญาณในจิต..ก็พบว่า
เป็นวิญญาณที่ รอคอย แฟน ตามที่บอกจริงๆๆ
ไม่ได้มีจิตอาฆาต หรือ จะหลอกใคร
........................................................
เราก็ โอเค...
ผ่านไป 1 คืน..ให้ น้อง เขานอนคนเดียว
โทรมาถาม..ว่าตลอดคืน เรียบร้อยใหม...เขามากวนใหม
......................................................
อ๋อ..เขาไม่กวนหรอก...แต่ตอนเคลิ้มๆๆ 4 ทุ่มกว่า กำลังจพหลับ
เขามาสกิด...พอเรามอง
เขาก็ บอก...."ขออนุญาติ ..ใช้ห้องน้ำหน่อย "
ก็ตอบ เขาไป..."อยู่ด้วยกัน...จะใช้อะไร...ก็ใช้ไป เภิด"
...............................................................
เออ...เจอผี ที่ไม่ดุ และแถม ยังมีมารยาท ดี อีกด้วย
................................................................

 

อีก 4-5 เดือน ต่อมา...ไ้ด้เวลาต้องไป จ่าย ค่าเช่า คอนโด
ก็ไป ที่ นั่น..พอขึ้นไป ที่ ชั้น สอง...พบว่า ที่ หน้า ห้อง ถัดไป 5 ห้อง
มีผู้คนมามุง เห็นมีตำรวจด้วย...ก็สงสัย จะมีเรื่องไม่ดี ในห้อง นั้น

พอดี ผู้ดูแล ตึก เห็น เรา ..ก็เดิน มาหา
เขารู้จักเรา..รู้ว่า เรามีญาณพิเศษ เกี่ยวกับผี และวิิญญาณ
ก็บอกว..."ห้องนั้นมีลุงแก่ๆๆ ไม่มีลูกหลานมาเช่า อยู่คนเดียว เงียบๆๆ"

ปกติ แก จะัเดิน เข้า ออก..ไปหาข้าวกิน..ไปเดินเล่น ออก กำลังกาย
แกจะผ่าน เค้าเตอร์ ทัก ทายพนักงานทุกวัน
แต่นี่เห็นเงียบไป สอง วัน..ผิดปกติ...ก็เลยเอากุญแจ มาเปิด ห้อง ดู
ก็พบว่าแก ตาย แล้ว...
ต้อง แจ้ง ตำรวจมาตรวจ เพื่อ ออกเอกสาร ยืนยันการตาย
.......................................................................
ทีนี้ แก ตายใน ห้อง..อาจารย์ ช่วยดู หน่อย ว่า
วิญญาณ แก ยัง อยู่ในห้อง หรือ ไม่
....................................................................
เราก็ ตกลง...ก้าวเข้าไป ในห้อง..สำรวจ ทั้ง จิต และวิญญาณ
พบว่า ห้อง นั้น ว่างเปล่า ไม่มีวิญญาณ หรือ พลังใดๆๆ
แปลว่า..ลุงแกไปแล้ว จริงๆๆ.
.เพราะ อยากไป แบบคนไม่มีห่วง..ไม่มีลูกหลาน
....................................................................
เป็นอันว่า ห้อง นั้น..ไม่มีผี..ไม่มีวิญญาณ...
ที่ หลอก หลอนคน ที่จะมาเช่า คนต่อไป
....................................................
(ยังมีต่อ)

 

อาจารย์ เล่าเรื่องวิญญาณในห้องเช่า
ทำให้ ผม นึกขึ้นมาได้ ว่า เคยมี ประสบการ คล้ายๆ กัน

สมัยปี 38-39 สิบหว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นผม สร้างคอนโด ห้าร้อยกว่าห้อง ขายไปได้เกือบหมด คือ 98%
พอดี เศรษฐกิจ ตก ฮวบ แบงค์ เซ ไฟแนนท์ ล้ม
กระเทือนมาถึงเรา ด้วย ลูกค้า ที่จองไว้ ซื้อไว้ เตรียมจะโอน ก็พรอย มีปัญหาไปด้วย

ความซวย จึงมา เยือน จากขายได้ แล้ว เกือบหมด รอโอนให้ ลูกค้า เราก็ ได้เงินแล้ว
กลายเป็น ทะยอยโอนได้ ทีละห้อง สองห้อง
ห้องที่ยัง ว่างอยู่ ก็ ปล่อยให้ เช่าไป....

กลายเป็นว่า เก็บค่าเช่าไป เดือนๆ หนึ่ง ประคองตัวไป
ลูกค้าส่วนใหญ่ ก็ เป็นนักศึกษา บ้างก็ มากกัน สองสามคน หารค่าเช่ากัน (ประหยัดดี)
บางคน พอมีแฟน ก็ พามาอยู่ด้วย (ก็ ประหยัด อยุ่ดี )
นักศึกษา สาวๆ ที่หน้าตาดี หน่อย ก็มัก มี คนอุปการะ จ่ายค่าเช่าให้

สรุปว่า เรื่องเก็บค่าเช่า ไม่มีปัญหา .. ลูกค้า เรา มีสะตังจ่าย ทุกเดือน

อยู่ กันมา ราบรื่นด้วยดี หลายปี ผ่านไป
เช้าวันหนึ่ง ลูกน้องผม ที่ ดูแล คอนโด โทรมาแต่เช้า

เฮีย เฮีย มีคนตาย ในคอนโด...............
งานเข้า ซิ ทีนี้ ...
ก็ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ .. ฯ ไป ตาม ขั้นตอน

พอผมไปถึง ก็ทราบว่า ห้องนี้ ผู้เช่า เป็นอาจารย์สาว สอนในมหาลัยฯ.....
พักอยู่คนเดียว ปกติ อาจารย์ท่านนี้ เป็นคนเรียบร้อย นิสัยดี ไม่สุงสิงกับใคร มากนัก

สันนิฐานว่า เครียด เรื่องการงาน การโยกย้ายตำแหน่ง อะไรพวกนี้แหละ แล้วไปกินยานอนหลับ เกินขนาด ... หลับ ไม่ตื่นเลย

กว่าจะมีคนรู้ ก็ หลายวัน ที่เดียว จนมีกลิ่นเหม็นเน่าออกมา
ห้อง ข้างเคียง สงสัย ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ดูแล ตึก โทรเช็คกัน ก็ ทราบว่าไม่ไปทำงานหลายวันแล้ว ............

จึงต้อง เชิญเจ้าหน้าที่ มาเปิดประตู เข้าไปดู

พอเปิดเข้าไป ต้องพงะ...... สภาพ เน่าอืด กลิ่น เหม็นพุ้ง ไปทั่วห้อง
ตำรวจ มาตรวจสอบ ... เรียบร้อย ร่วมกตัญญู มาเก็บศพไป

แจ้งญาติพี่น้อง มารับศพไป ทำบุญตามประเพณี..

เอาละ กลับมาที่ห้อง นี้ อีกที... กลิ่น ยังหลุ้ง ... เปิดประตูหน้าต่าง ไว้
แม่บ้าน มาช่วยกัน ทำความสะอาดหน่อย...
พวกแม่บ้าน เอง ก็ กลัวๆ ไม่น้อย ต้องมากัน ทั้งทีม แถม ให้ ร.ป.ภ. ยืนหน้าประตู เป็นเพื่อน อีกด้วย

ทำกันไปจนเสร็จ สับ

กลิ่น ก็ยังไม่หมด... ต้องทำความสะอาด ล้างซ้ำ สอง ซ้ำสาม กลิ่นค่อย จางลง

ความหวาดกลัว ของ ผู้พักอาศัย ก็ ยัง หวาดๆ อยู่ แม้น พนักงานของผม เองที่พักในคอนโด ก็พอย หวาดๆ กับเขาไปด้วย

ทำบุญเลี้ยงพระ สักหน่อยคงจะดี ก็ทำกันไป ทำบุญเลี้ยงพระ และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไป ...
เป็นขวัญกำลังใจ ให้ คน ที่ยังอยู่ อีกด้วย ก็ ทำกันไป

หลังจากนั้น ก็ ดูเหมือน เหตุการปกติ แต่ หลัง หกโมงเย็น ชั้นนั้น ทั้งชั้น เงียบหมด ไม่มีใครกล้า เดินผ่าน ห้องที่มีคนตาย....

คนยังกลัว กันอยู่

อย่างนี้ ต้องแก้ไข............................ ติ๊กต๊อก ติ๊ก ต๊อง......

ต้องทำให้ คนเห็นว่า ห้องนี้ ไม่มีปัญหา
คิดว่า คง ต้อง ใครไปอยุ่ ในห้องนี้ .. ลุกน้องผม แต่ละคน ก็ ใจกล้าหาญ ทั้งน้าน..

จนคิดว่า ผม คงต้องไป อยู่ เอง ก็ ได้ วะ..

สุดท้าย ยังดี ที่ มีลูกน้อง ผม คนหนึ่ง มาขอไป อยู่ ในห้อง นั้น
เจ้าลูกน้อง ผม คนนี้ เค้า เป็นคน มีศีล รักษาศีล ปฏิบัติธรรม เป็นประจำ อยู่แล้ว
เค้าบอกว่า ที่อยากไป อยู่ ที่ห้อง นั้น เพราะว่า อยาก ฝึกจิต ตอนเอง
และ ยังได้ สวดมนต์ ทำสมาธิ ในห้องนั้น จะได้ อุทิศสวนบุญกุศล ให้ แก่ ผู้ตาย...

โอ้........... สาธุ

คิดดี จริงๆ เน้อ..... อยากจะ โดดกอด สักที................. 55

วันแรก ที่ ลูกน้อง ไปนอนให้ห้องคนตาย
เช้า เค้ามาทำงาน พอถึง ออฟฟิค ผม ก็รีบถาม ( ให้กำลังใจ)
เป็นไง เมื่อคืน มี อะไรไหม

........... ไม่ มีปัญหา ครับ.... แค่ เค้า มาปิดไฟ เปิดไฟ ให้ บ้าง ตอน ดึก.ๆ......
เป็นอยุ่ อย่างนี้ สักสองสามวัน ก็ หายไป

ผม ก็ ถาม อย่าง นี้ ไป ทุกวัน ก็ยังเป็นห่วงลูกน้อง เรา เหมือนกัน

สรุปได้ว่า วิญญาณ ผู้ ตาย เป็น คนดี มีความรู้ นิสัยเรียบร้อย
ก็ ไม่ ได้คิด พยาบาทใคร หรือ ไม่คิด จะไป แกล้งใคร

แต่ ตอนตาย ตายแล้ว วิญญาณ ยังไม่ ได้ ย้ายภพภูมิในทั้นที ก็ เพราะ บุญไม่มาก บาปไม่แรง พอที่จะส่งไป ภพภูมิ ต่อไป
ก็ ยังคง ทำตัว เหมือน ตอน มีชีวิตอยู่ นั้นแหละ วนเวียนอยู่ อย่างนั้น

จนถึงวาระ ที่ผลกรรม บุญหรือบาป มาส่งผล ให้ย้ายภพ ย้ายภูมิ ไป

คนไทยเรา จึงมี ประเพณี นิยม ทำบุญ ให้ แก่ ผู้ล่วงลับไปแล้ว
ตั้งแต่ ทำบุญสวด 7 วัน หรือ ร้อยวัน ก็ตาม
เพื่อหวังให้ บุญกุศล นี้ ตามไป ค้ำชู อุดหนุ่น แก่ญาติ ผู้ล่วงลับไป...

หลังจาก ที่ ลูกน้อง ของผม เข้าไป อยุ่ ได้ สักพักใหญ่ๆ ....
คนที่ผ่านไปมา ก็ เห็นมีคนอยู่ ตามปกติ
เรียน... ป. จ. ว. มาแล้ว นำมาใช้หมด

อยุ่ในห้อง เปิดประตูไว้ เปิดไฟ จะได้ ให้คน อื่น ห้องข้างเคียงรู้ ว่ามีคนอยู่
เปิด วิทยุ ไว้
เวลา ไหว้พระสวดมนต์ ก็ ดังๆ หน่อย....55

หลายเดือน ต่อมา เหตุปกติ
ดูเหมือนคนในคอนโด คง ลืม เรื่องนี้ ไป แล้ว...

ใครมี บ้านเช่า จำไว้ เผือว่า จะไปประยุกต์ใช้ สำหรับเหตการ อื่นๆ ก็ไม่ว่ากัน

 

อนุโมทนา สำหรับผู้กล้าที่มั่นใจในความดีมีศีลธรรมของตนเองก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนดีอยู่ที่ไหนก็ปลอดภัยแม้จากผู้อยู่ต่างภพก็ตาม

 

กราบสวัสดีค่ะท่าน อ.สามตา ที่เคารพอย่างสูง ;38
ขอโอกาสเล่าความประทับใจนะคะ
นกได้มีโอกาสรู้จักกับอ.สามตา จากน้องคนหนึ่ง เค้าทำงาน I.T.
และไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้
มีอยู่วันหนึ่ง น้องสาวเค้าโดนวิญญาณเข้า 5 ตน
น้องสาวเค้าหายจากความทุกข์ ด้วยความช่วยเหลือจากอ.ท่านหนึ่ง ท่านมีตาทิพย์
จึงจุดประกายให้น้องคนนี้สนใจเรื่องตาที่สามมาก และพยายามหาข้อมูลทางเวปต่างๆ

ในที่สุดก็มาพบเวปนี้ (good)และได้เดินทางไปพบกับอ.สามตา
ที่บู๊ธ 042 (ตรงข้ามตลาด อ.ต.ก.) ทันที น้องเค้าเล่าให้ฟังว่าได้วิชาความรู้มากมาย

และต่อมา นกก็ได้เดินทางไปพบอ.สามตา เพราะช่วงนั้น สนใจจะไปทำงานและเรียนต่อที่แคนาดา
ปรึกษาอ.หลายท่าน หลายศาสตร์ ทุกท่านบอกว่าวีซ่าผ่านได้ไปแน่นอน
แต่...อ.สามตา บอกว่าไม่ได้ไป ตอนนั้นไม่เชื่อ เพราะอ.5 ท่านยืนยันว่าได้ไปแน่นอน

ในที่สุดก็ไม่ได้ไป (cry)จริงๆ อ.สามตา ท่านแม่นยำจริงๆค่ะ

ผ่านมา 1 เดือน เพื่อนๆ มาชวนทำธุรกิจ MLM 5 คน 5 บริษัท
ไม่แน่ใจว่าจะเลือกทำบริษัทฯไหนดี ถึงจะได้เงินจริง และได้ไปเที่ยวต่างประเทศฟรีจริงๆ
เพราะช่วงนั้นมีบริษัทฯที่หลอกลวงเยอะมาก จึงพิมพ์ชื่อบริษัทฯ 5 ชื่อ
แล้วให้อ.สามตา ช่วยวัดพลังให้ ท่านอ.ได้ให้คะแนน บริษัท C (ชื่อสมมุติ) สูงที่สุดใน 5 บริษัทฯ
และท่านได้บอกด้วยว่า ถ้าทำบริษัทฯนี้นอกจากจะได้เงิน
และจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศฟรีแน่นอน อ.เห็นนกอยู่บนเครื่องบินนะ
;aa171 เดือนผ่านไปได้เงินมา 4 หมื่นและได้เที่ยวเกาหลีฟรี 5วัน4คืน จริงๆค่ะ
ด้วยความเคารพและศรัทธาในความแม่นยำของอ.สามตา
จึงมีโอกาสพาเพื่อนๆ ไปกราบท่านอ.สามตา เกือบ 100 คน แล้วค่ะ
และท่านก็ได้ใช้ตาที่สาม วิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำค่ะ เช่น

rabbit_run_awayเพื่อนคนหนึ่ง ตกงานมา 6 เดือน ทุกข์ใจมาก
อ.บอกว่าจะได้งานบริษัทฯ จำกัด มหาชน ภายใน 3 เดือน
ผ่านไป 1 เดือน เพื่อนโทรมา ด้วยนำเสียงดีใจมาก ได้งานบริษัทฯ จำกัด มหาชน จริงๆค่ะ

sleeping_rb เพื่อนอีกคน เป็นทนายความเกีรยตินิยมอันดับ 2
ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ เค้าถามอ.ว่า จะมีลูกได้ไม๊ อ.บอกว่ามีได้
แต่ต้องทำกีฟ เพราะท่อรังไข่ตัน เพื่อนคนนี้หน้าแดง อึ้งในความแม่นยำของอ.สามตามาก
พอเดินออกมาจากบู๊ธ 042 ด้วยกัน เพื่อนบอกว่าเพิ่งไปเอกซ์เรย์ที่โรงพยาบาล
มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ท่อรังไข่ตันจริงๆ

ท่านได้เมตตาสอนนก และเพื่อนๆ เสมอว่าอย่าโลภ
ให้รักษาศีล 5 ไว้ให้มั่น แล้วจะเจริญรุ่งเรือง
นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ไม่ให้งมงาย

ตอนนี้นก และเพื่อนๆ มีขวัญและกำลังใจในการถือศีล
ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ กันถ้วนหน้า กราบอนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยค่ะ

ขอกราบเท้าท่านอ.สามตา ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
ดีใจมากค่ะที่ได้พบ...เพชรแท้
ดีใจมากค่ะที่ได้พบ...ของจริง จริงๆ
ดีใจมากค่ะที่ได้พบ...ท่านในชาตินี้ภพนี้

ยังมีเรื่องประทับใจอีกมากค่ะ
ตลอดระยะเวลาที่ได้เป็นศิษย์ท่านมา 1 ปี 2 เดือน 19 วัน
แล้วจะขอโอกาสมาเล่าต่อ...นะคะ -Happy Smile_Nok Nok...

 

พบ สวป. อดีตทหารสมเด็จพระนเรศวรเจ้า

หลังจากที่จบเรื่องวิญญาณงูจงอาง
ผมก็กลับเข้าไปนั่งคุยกันท่านพี่โคมฉาย และพี่แพท
และแฟนของผมในห้องเหมือนเดิม ก็คุยกันสัพเภเหระ
ไปตามเรื่องของคนทีไม่ค่อยได้เจอกัน
เพราะหลังจากงานมินิมหกรรมทางจิตครั้งที่ 5
ผมก็ไม่ค่อยได้พบกับสมาชิกของชมรมคนตาทิพย์เท่าใดนัก
ก็มีเฉพาะที่สนิทกันจริง ๆ ที่ยังโทรหากันบ้าง
ทานข้าวด้วยกันบ้าง แต่กับท่าน อ. โคมฉาย นี่
ไม่เจอกันเลย น่าจะร่วมปีครับ ก็คุยกันมากหน่อย
ผมนี้ เวลาได้คุยกะคนอื่นรู้สึกมีัความสุข
(แต่ไม่รู้ว่า คนที่ได้คุยกะผม มีความสุขอะเป่า 555 )



คุยกันได้สักพัก มองออกไปนอกห้อง
งานเข้าท่าน อ. จุกอีกแล้วครับ
เห็นท่านยืนรักษาชายคนหนึ่งอยู่ข้างนอก ด้วยความอยากรู้
( คนอื่นน่าจะเรียกว่า สาระเน ครับ ) จึงไปนั่งเก้าอี้ดูกรรมอีก
( มั่วได้หลายครั้งแล้ว ก็จะมั่วอีกครับ ) ก็หลับตาสแกนดู
ซักพัก ก็เป็นเป็นภาพ ชายคนหนึ่งแต่ชุดนักรบไทย
โบราณ จิตบอกว่า เป็นทัพหน้า หน่วยทะลวงฟัน
หรือที่เี่รียกเต็ม ๆ ว่า อาทมาต ซักพักภาำพก็หายไป
กลายเป็นภาพทหารพม่ามายืนทวงหนี้




ผมจึงลืมตาขึ้น ก็เห็น ท่านพี่เม้าตาอิน มายืนอยู่ข้าง ๆ
ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ท่านพี่เม้าท์ก็ถามว่า เป็นยังไง
ก็เลยตอบไปว่า อ้อ นักรบ ครับท่านพี่
ท่าน อ. โคมฉายมาเมื่อไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านก็ถามต่อว่า
ฝ่ายไหนล่ะ ผมก็ตอบว่า ไทยครับ
พี่เม้า และ อ. โคมฉาย และ อ. จุก
ท่านก็ยืนยันว่าถูกต้อง เพราะว่า ทุกท่านได้สแกน
ก่อนผมเรียบร้อยแล้ว จึงได้ลงมือรักษา หลังจากรักษาเสร็จ
จึงได้ทราบว่า ท่านเป็น สวป. ครับ ท่านอยู่ที่เขาค้อนี่ล่ะครับ
และท่านก็รู้ตัวด้วยว่า ท่านเป็นหน่วย อาทมาต
ในกองทัพสมเด็จพระนเรศวรเจ้าด้วยครับ .



...ทหารของพระองค์ท่านแทบทุกคน
ที่ได้เกิดมาใหม่ในชาตินี้ ส่วนใหญ่จะรู้ตัวว่าเป็นทหาร
ของท่านกันแทบทุกคน ผมสันนิฐานว่า นักรบของพระองค์นั้น
ไม่ได้มีฝีมือในการรบเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องได้ฝึกวิชาอาคมมาด้วยทั้งนั้น
การจะให้วิชาอาคมเข้มขลัง ก็ต้องเกิดจากกำลังสมาธิ
ก็ต้องได้ฝึกกรรมฐานมาทั้งนั้น มาชาตินี้ ก็ยังคงมีบารมี
จากการฝึกกรรมฐานในชาติที่แล้วมา
มาชาตินี้เพียงแต่มาทบทวนและฝึกเพิ่มเติมและั
กระตุ้นของเก่า ก็ทำให้มีความสามารถที่ละระลึกสัญญาเก่า ๆ
ในชาติก่อนได้ ถึงแม้จะประติดประต่อเรื่องราวอะไรไม่ได้
แต่แค่รู้ว่าเป็นทหารของพระองค์่ท่านนี้ จำได้กันแทบทุกคน
โดยไม่ต้องมีใครทัก ท่าน สวป. ท่านก็ได้เล่าความรู้สึก
ของท่านให้ฟัง แต่ท่านก็ไม่กล้าที่จะเล่ามาก
ท่านคงกลัวว่า พวกเราจะไม่เชื่อกระมัง 555



แต่ถ้าท่านได้มาอ่านโพสของผมเรื่อง
ความผูกพันในสมเด็จพระนเรศวรเจ้า ท่านคงบอกว่า
ไอ้นี่มัน บ้ากว่าตูอีกว่ะ 5555555
ท่าน อ. จุก คงได้บอกเรื่องเจ้ากรรมนายเวรแก่ท่าน
สวป. ไปแล้ว ผมจึงไม่ได้คุยเรื่องเจ้ากรรมนายเวรอีก
ก็ต่างก็แยกย้ายกันไป เพราะกลุ่มเราก็เตรียมตัวเดิน
ทางกลับ กทม. แต่ก่อนกลับ คณะเราก็ว่าจะไปแวะชม
วัดผาซ่อนแก้ว ว่ากันว่า ข่างล่างของวัดนี้ ถ้าใครตาดี
ก็จะเห็นเป็นแก้ว ก้อนขนาดมหึมาอยู่ข้างใต้ดิน
เดี๋วยมาเล่าต่อว่า มีจริืงรึเปล่า ครับ
แต่วัดนี้ สวยมาก วิวรอบ ๆ วัด
ก็สวยไม่มีที่ติเลยทีเดียวครับ พี่น้อง........................
​

 

ขออนุญาติ คุณมังกรเรียนด้วยคนนะคะ ต้องขอบคุณน้องดาวฯที่ทำให้ได้มีโอกาสแอบเรียนด้วย

 

โอ้โห มีเรื่องอ่านตื่นตาตื่นใจเยอะแยะเลย พี่ชยานี่ตุนไว้นาน ตานี้ได้อ่านเต็มๆ ขอบคุณมากๆค่ะ
ไล่ตามอ่านตั้งแต่แม่นางตานี แม่นางที่รอคอยพี่(น่าฉงฉาน) ผีก็ยังงอน
โชคดีที่มีแม่นางนุ่นขวาง ม่ายงั้นหูยานแน่ๆ รูปสมัยหนุ่มๆนี่ก็หล่อ คิดถึงพระเอกนักร้องตอนโน้นเลยเนาะ
รวมเล่มเลยนะคะพี่ชยา หลายรสชาตเลยจริงๆ รัก รบ ครบเลย เหอๆสุดยอดแมนเลยนะพี่ อิอิ
แถมพัฒนาดูนายเวรได้อีก ขนาดบอกว่า ไม่มีเวลานั่งสมาธินะเนียะ ข้าน้อยขอคารวะ

พี่ดาวทะเลทราย บอกว่า ใครมี บ้านเช่า จำไว้ เผือว่า จะไปประยุกต์ใช้ สำหรับเหตการ อื่นๆ ก็ไม่ว่ากัน
เหอๆ ถ้าเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ข้าน้อยจะเชิญลูกน้องพี่ดาวทะเลทรายช่วยจัดการให้
หรือถ้าเป็นพี่ดาวทะเลทรายเองก็เป็นพระคุณ อิอิ

เปิดไปเจอหน้าหนึ่ง นึกว่าใครเอารูปดาราฮ่องกง เกาหลีัมาโพส
เหม่ๆลูกสาวสวยจริงๆค่ะพี่มังกรบูรพา ยินดีกับบัณฑิตใหม่นะคะ สมใจปะป๊าแล้ววววว

คุณvisnuเขียนถึงกระดาษความดีความชั่ว อดคิดถึงเรื่องพิภพมัจจุราชไม่ได้
การแต่งกายยังเป็นแบบนี้รึป่าวน้อ


[SIZE=-1]พิภพมัจจุราช ใครถึงฆาตดับชีวี
สุวรรณ ตรวจดูบัญชี ถ้าทำดีให้ไปสวรรค์
ทำชั่ว ท่านยมว่าไง...........ข้าส่งลงไปนรกโลกันต์นะซิ!

ต้นงิ้ว กะทะทองแดง เอาหอกแหลมแทงทุกวัน ทุกวัน

พญายม (ฮ่ะ...ฮ่ะ...ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า)
สุวาน (ฮ่ะ...ฮ่ะ...ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า)
สุวรรณ

สามแรงแข็งขัน ทำดี ทำดี (ฮ่ะ...ฮ่ะ...ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า)[/SIZE]

ขอบคุณรูปและเนื้อเพลงจาก ลิงค์Bloggang.com : ��ҹ��� : ����Ѩ���Ҫ

 

สวัสดีค่ะพี่วิ ดาวฯอยากโทรหาพีวิเหมือนกันนะคะ อิจฉาพี่จังจะได้ไปกราบท่านอ.สามตาตัวเป็นๆ ในเร็วๆนี้หล่ะซิคะ

มาเรียนกับท่านพี่มังกรด้วยกันค่ะ ท่านพี่มังกรออกจะเก่งและน่ารัก

ขอบพระคุณท่านพี่ชยาสำหรับเรื่องเล่า คุณดาวทะเลทรายด้วยค่ะ

 

อย่าถือว่าเรียนเลยครับ เอาเป็นว่า ผมแนะนำและให้ความรู้จากประสบการณ์ น่าจะดีกว่า

ผมเพิ่งฝึกพวกจักระ และลมปราณ แค่ปีกว่าเองครับ ก็พอถ่ายทอดเรื่องราว ตามที่ผมเข้าใจ

 

แวะเยี่ยมชมสำนักปฎิบัติธรรมผาซ่อนแก้ว











<!-- google_ad_section_end -->

กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุด้านใน

 

<!-- google_ad_section_end -->

 

เมื่อเวลา 2 ทุ่มครึ่งที่ผ่านมา(ตะกี้นี้เองครับ) ผมได้จัดชุดถวานสังฆทานพร้อมด้วยอาสนะ ไปถวาย

หลวงปู่บุญฤทธิ์ที่สวนทิพย์ ระหว่างที่ยกถังสังฆทานเพื่อประเคนหลวงปู่ ท่านได้เมตตาถามผมว่า

"วันนี้ วันเกิดโยมรึ" โอ..โอ..โอ..พี่น้องครับ ความรู้สึกปลื้มปิติเกิดขึ้นกับผม เป็นล้นพ้นทวีคูณ

จนหาที่เปรียบมิได้ ผมก็ได้กราบเรียนหลวงปู่ไปว่า "ใช่ขอรับ ผมเกิดวันเสาร์ที่ 20 ก.พ 2503

ซึ่งวันนี้ตรงกับวันเกิดผมพอดี ขอรับ" เมื่อหลวงปู่รับทราบดังนั้น ท่านนิ่งหลับตาครู่หนึ่ง เสร็จแล้วท่าน

ก็โปรดญาติโยมท่านอื่นเป็นรายต่อไป

นอกจากนี้แล้ว ผมยังได้รับพระอายุวัฒนะมงคล 96 ของหลวงปู่ ติดมือมาด้วยครับ

 

เรียนถาม คุณพี่ มังกร ครับ

ผมมีอาการแปลกๆ จะมีอาการ กระดูกสันหลังแข็งเหมือนมีอะไรมาอัดอยุ่ข้าง

ใน บางครั้งสะโพกจะสบัดเองไปข้างหน้าข้างหลัง

ผมอยากทราบวิธีที่จะสลายพลังหรือถ่ายเทพลังครับ เพราะได้ลองอ่านกระทู้ดู

แล้ว ได้ลองคิดเรื่องท่อกลวงในร่างกายแล้ว ก็ยังไม่สามารถถ่ายเทออกไปได้

ครับ ส่วนมากจะเป้นตอนที่จิตนิ่งๆครับ

 

ผมยังไม่แน่ใจตรงข้อความสีแดงนะครับ ว่าเกิดจากการฝึกด้านพลังหรือไม่

แต่เห็นบันทัดสุดท้ายที่บอกว่า จะเป็นตอนจิตนิ่ง ๆ...คือเอางี้ครับ พวกที่เขาฝึก

สายพลัง พอฝึกถึงขั้นจิตนิ่งตัว อาการทางกายต่าง ๆ จะหายไปครับ....นอกเสียจากว่า

จะมีตัวลึกลับพิลึกกึกกือ ที่เรามองไม่เห็น หรือที่น้องบาสvisnu จะเรียกว่า "เจ้ากรรมนายเวร"

และถ้าหากเป็นเจ้ากรรมนายเวรจริง ความสามารถของผม ไปไม่ถึงหรอกครับ เรื่องแบบนี้

ต้องพึ่งน้องบาส visnu ครับ


แต่ถ้าคุณ hastin คิดว่าเป็นอาการที่เกิดจากการฝึกสายพลัง แล้วต้องการระบายพลังออก

ช่วยส่ง P.M.วิชาที่คุณฝึกมา หรือเล่าในกระทู้ก็ได้ครับ จะเป็นประโยชน์อยู่ไม่น้อย


อีกอย่างหนึ่งครับสำหรับผู้ฝึกสายพลัง ก็คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตามที่ท่านดาวทะเลทราย

ได้เตือนไปแล้ว พอเกิดปัญหาปุ๊บ ก็ไม่มีครูที่สอนมาแก้ให้ คือเรียนผูก ไม่เรียนแก้ครับ

 

ขอบคุณมากครับพี่

เดี๋ยวผมขอนึกย้อนหลังก่อนนะครับ ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาโพสใหม่

ครับ

 

เราต้องหมั่นคอยสังเกตุรายละเอียดต่าง ๆ ด้วยครับ เช่นตอนเวลาปรกติมีอาการหรือไม่

หรือว่าถ้าปล่อยเวลาผ่านไปซัก 2-3 วัน โดยที่เราไม่ได้ฝึกสมาธิ ไม่ได้ฝึกสายพลัง คือต้องดู

สิ่งเหล่านี้ เป็นเครื่องพิจารณาประกอบด้วยครับ เพราะอาการต่าง ๆ สำหรับผู้ขยันฝึก จะไม่

อยู่นิ่ง หรือคงที่ครับ เดี๋ยวเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา