เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 26 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. zoba

    zoba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +268
    Zoba ข้อ 1) การเจริญอิทธิบาท 4 เป็นเรื่องของบุญญฤทธิ์จากการทำบารมี ผู้ที่ท่านทำได้ก็สามารถอยู่ได้นานถึง 1 กัปป์น่ะ เป็นขั้นของท่านผู้ที่ถึงโลกอุดรน่ะ ท่านสามารถทรงอยู่ได้นานๆ อย่างปู่ฤษีท่านหนึ่งที่เป็นอาจารย์ของพ่อบุญเหลือ(ศาลาแก้วกู่) อายุท่านก็ประมาณ 2 ล้านปี อย่างปู่ใหญ่ที่ท่านทำหน้าที่สอนอยู่ที่ภูเขาลานเทพ (ภูเขาลูกที่ 13 ในเขตภูเขาควาย) ท่านอยู่มาตั้งแต่ยุคพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ท่านก็อยู่มาหลายล้านปีแล้วเช่นกัน
    ข้อ 2) ไม่ทราบครับ

    ------------------------------------------------------------------------
    ข้อที่1 รบกวนช่วย อธิบายต่อให้กระจ่าง ด้วยครับ
    ข้อที่ 2 ไม่รู้ไม่เป็นไรครับ
     
  2. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    เรียนท่าน Aunyasit ที่นับถือ
    จากที่กระผมได้อ่านมาทั้งหมด
    ผมยอมรับได้ในบางเรื่องครับ
    แต่เรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เช่น
    เรื่องที่เข้าข่ายเป็นการปรามาสพระอริยเจ้า และ พระพุทธเจ้า
    เรื่องที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
    และเรื่องที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงครับ
    อิอิ
    (b-smile)
     
  3. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    kasin84000

    หากยังไม่ใช่นักปฏิบัติตัวจริงก็อย่ามาล้อเล่นกับเรื่องศีลธรรมเลยนะ เพราะไม่เป็นผลดีต่อตัวเองน่ะ ภายภาคหน้าจะปฏิบัติก้าวหน้าได้ยาก หากเรายังวนเวียนทำบารมีอยู่เรื่อยๆ เพราะบารมีจะไปกระทบกันน่ะ

    อะไรที่ตัวเองปฏิบัติยังไม่ถึงก็ให้พิจารณาก่อน หากยังอ่านตำราการปฏิบัติอยู่ก็ควรจะลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังได้แล้วล่ะ
     
  4. ดาวมงคล

    ดาวมงคล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +75
    ข้อความที่ว่า .../....ไม่ต้องงงอะไรหรอก เพราะนัยนี้ทั้งหมดที่ผ่านมาแสดงว่ายังไม่เข้าใจในเรื่องอภิญญาห้าและหก ในกสิณ ๑๐ จนเข้าถึงธรรมที่กล่าวว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต จึงมีคำกล่าวดั่งที่ท่านผู้นั้นเข้าใจแล้วเขียนมาสั่งสอนลูกหลานกัน ก็ถือว่าปล่อยท่านไปเถิดอย่าไปถือสา ส่วนท่านที่ได้ผลของอภิญญาห้าและสามารถนำมาปฏิบัติจนได้ผลคือ ฤทธิ์ทางใจและญาณแปดอย่างก็ขอให้มั่นใจในวิชชามโนมยิทธินี้ให้มั่นคง เพราะด้วยแนวทางปฏิบัติที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้ปูพื้นฐานไว้คือมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ เมื่อมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ย่อมมีพระพุทธเจ้าอยู่ในอารมณ์จิตนั้นด้วย ผู้ปฏิบัติในสายมโนมยิทธิย่อมรู้ย่อมเห็นย่อมสัมผัสกับพระพุทธองค์ได้ด้วยความมั่นใจ
    ...แต่ส่วนใหญ่ในสายปฏิบัติธรรมอื่น มักจะปฏิเสธในพุทธนิมิตนี้ว่าเป็นวิปัสนึกก็อยากจะบอกให้ทุกท่านได้ทราบว่า ในกรรมฐานสี่สิบกองรวมไปถึงมหาสติปัฏฐานสี่อารมณ์แรกต้องนึกคิดก่อนทั้งสิ้น มีก้อนหินกับพวกซากต่างๆ เท่านั้นที่ตายแล้วที่ไม่ต้องนึก เมื่อนึกแล้วมีผลอยู่สองอย่างคือ นึกได้ผิดกับนึกได้ถูก นึกได้ผิดก็ตกนรกไป นึกได้ถูกที่สุดคือพระนิพพานก็เท่านั้นเอง
    ....แต่สำหรับท่านที่นึกได้ถูก ย่อมเกิดญาณทัสนะมีปัญญาเป็นเครื่องรู้ ย่อมแยกแยะได้ว่า สิ่งใดเป็นนิมิตที่ปรุงแต่ง สิ่งใดเป็นบารมีพระพุทธองค์ที่มาสงเคราะห์ ตรงนี้ต่างหากที่ต้องเอาความดีมาเทียบกัน ถึงรู้ ที่คณาจารย์โบราณเรียกว่า ปัจจัตตัง
    ....ในข้อความข้างบนที่คุณคัดลอกมา เราก็อยากจะขอตั้งข้อสงสัยเหมือนกันว่า นึกมาเองหรือเปล่า หรือเป็นพระพุทธเจ้าเสียเองในปัจจุบันนี้ โดยไม่มีพุทธนิมิตก็เที่ยววางตัวอริยเจ้า อริยสงฆ์ต่างๆ มาเป็นรูปแบบใหม่ๆให้คนงงเล่น ก็หนักใจอยู่เหมือนกัน
    "ลองใช้วิชามโนมยิทธิ ไปถามพระอินทร์ดูว่าหลวงปู่ทองทิพย์ ท่านเป็นของจริงหรือของปลอม ฉายา "พุทธปัญโย" นี่น่าจะบอกอะไรได้บ้าง หากไม่สามารถรู้เรื่องของครูบาอาจารย์ได้ ก็ลองส่องภายในมาที่เราดู
    หากท่านมีบุญญฤทธิ์สามารถผ่านจักรแก้ว ผ่านม้าแก้วมณีกาพย์ ผ่านพญานาค 7 เศียร พญามังกร รวมทั้งสามารถผ่านพระแม่ธรณีมาได้ ก็คงจะได้ดูภายในเราแหละ ก็ "ขออนุญาตครูบาอาจารย์ทดสอบวิชามโนมยิทธิ" สักหน่อยก็แล้วกันนะครับ "

    ผมขออนุญาตยกประโยคนี้มาหน่อยนะครับ เพราะรู้สึกว่าคนเมืองบัวจะลืมตอบไปหรือใช้วิชายังไงก็ไม่เห็นก็ไม่รู้นะครับ และเท่าที่ผมเข้าไปดูเวปคนเมืองบัวก็เห็นเป็นเพียงผลของการปฏิบัติธรรมของคนๆนึงเท่านั้นเอง จะถูกจะผิดผมขอให้คนที่เข้ามาอ่านได้พิจารณาด้วยปัญญาของตัวเอง อย่าอ้างตำรา และอย่าหลงเชื่อไปตามคำกล่าวอ้าง เพราะครูบาอาจารย์เคยกล่าวยังนั้นอย่างนี้ ให้ถามว่าตัวรู้จริงตามนั้นไหมดีกว่า ถ้าเป็นนักปฎิบัติจริงเขาไม่คุยมากหรอกนะ และไม่ยกตำราเป็นหัวข้อๆ มากล่าว
    แต่คนจำนวนมากผมรู้สึกสงสารที่หลงไปแบบนั้นแบบนี้ ทำตัวเหมือนเป็นสาวก สมัยพระพุทธเจ้าก็มีเดียร์ถีย์ เป็นหมื่นๆ แสนๆมาให้พระพุทธเจ้าท่านปราบโดยมากก็คนคนหลงผิดหรือมีมิจฉาฯ เป็นหมู่เป็นคณะโดยหลงเชื่อคำของเจ้าลัทธิ ผมเคยดูศาสตศิลป์ของคนเมืองบัวแล้วการบูชาสัญลักษณ์พระพุทธเจ้ายังไม่เหมาะสม ไม่คือ มันก็วัดอะไรได้หลายอย่าง จำไว้อย่างนึงว่าการบูชานี้เป็นสัญลักษณ์อย่างนึงของฝ่ายธรรมและฝ่ายมาร ถ้าบูชาแล้วมีลักษณ์ของสื่อมาร ไม่ใช่ของจริงแน่นอน นี่ผมตั้งข้อสังเกตข้อเดียวที่เหลือไปดูเอง ผมเชื่อว่าคนได้มโนยิทธิในเมืองไทยมีจริง ผมไม่ปรามาศ "แต่ไม่ใช่คนเมืองบัวแน่นอน" และขอปรามาศไอ้พวกที่ไม่ได้ธรรมจริงๆแล้วอวดอุตรินี่สิให้ตกนรกไป เวปคนเมืองบัว จะกลายเป็นลัทธิอีกลัทธินึง โดยอาศัยพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อฤษีลิงดำที่ผมเคารพมากล่าวอ้างเป็นว่าเล่น ขอบอกบรรดาสาวกทั้งหลายว่าอย่าเที่ยวปรามาศใคร โดยที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ จะเป็นกรรมเสียเปล่าๆ
    คุณ KASIN84000 นี่ก็มิจฉาทิฐิซะ ตอบเอาเป็นเอาตายค้านหัวชนฝา ระวังหัวชนฝาตายไปจะเป็นเทวดามิจฉาฯหรือยักษ์นี่ก็ไม่รู้นะครับ และถ้าเจอผมก็ขอแผ่เมตตาให้นะ แต่ถ้าลงนรกแล้วก็ขอให้ท่านยมบาลเมตตาคนๆนี้หน่อยครับ
     
  5. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ดาวมงคล ไม่ต้องกังวลหรอกครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถ้าเขาสั่งสมมาไม่ดีก็เสร็จเองแหละ

    การที่จะเข้าถึงศีลธรรมของหลวงพ่อฤษีลิงดำนั้น ก็ไม่ใช่ของง่ายสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในระหว่างการสนทนาทางธรรม ที่มีท่านมาปรากฏอยู่ในโลกภายในคอยบอกเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ เพราะเมื่อเราทำหน้าที่ของเรา ท่านทำหน้าที่ของท่านน่ะ

    ยังมีอะไรลึกๆเกี่ยวกับหลวงพ่อฤษีลิงดำ ที่เป็นเรื่องของศีลธรรมภายใน ที่คนยังไม่เข้าใจอีกมาก บางทีท่านก็บอกไว้เป็นภาษาสัญญลักษณ์ แต่ผู้ที่ศึกษาไม่ถึงก็ไม่สามารถเข้าใจได้ และก็ตีความผิดเพี้ยนไปก็มี
     
  6. zoba

    zoba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +268
    คุณ aunyasit มีประวัติหลวงปู่ทองทิพย์ ให้อ่านหน่อยมั่ง มั้ยครับ
    ผมลอง search แล้วไม่มีเลย
     
  7. virgo

    virgo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +4
    ถ้าอชิตะภิกขุถวายเศียรแด่พระพุทธองค์จริงก็น่าจะเป็นก่อนละสังขาร หาใช่ในทันทีไม่ เพราะตัดหัวคือตัดชีวิต-ปาณาติปาตา คงไม่มีโอกาสบำเพ็ญญาณต่อแล้ว เห็นด้วยกับคุณ xchan อย่างนึง คือเรื่องสถานที่...จะใช่หรือไม่ใช่ยังไม่ถึงเวลา ส่วนอีกเรื่องก็คือพระแก้วมรกต ในชินกาลมาลีปกรณ์ก็ให้มุมที่น่าสนใจดี ส่วนอีกเรื่องก็คือ "ตำนาน"กับ"นิทาน" บางสิ่งบางอย่างเขาจับมาชนกันในยุคหลังนะครับไม่ใช่เรื่องที่อ้างอิงได้ทั้งหมด ส่วนรามเกียรติ์ ร.1ก็ก็อปมาจากรามายณ ฮินดูจ๋าเลยกับเรื่องนี้ที่ร.1เลือกเอาเรื่องนี้ให้เด่นก็เกี่ยวเนื่องกับการเมืองด้วยเพื่อลบภาพที่ปราบดาภิเษกมาจากการยึดอำนาจจากพระเจ้ากรุงธนบุรีเพราะแก่นของรามายณะอย่างหนึ่งคือสืบเชื้อกษัตริย์จึงคู่ควรบัลลังค์พระเจ้ากรุงธนฯมิใช่เชื้อกษัตริย์การยึดอำนาจจากพระเจ้ากรุงธนฯจึงเป็นเรื่องชอบธรรมขึ้นมาได้ กระแสพระศรีอาริย์มีมานานมากพอดูคุณก็ไม่ควรลืมเกร็ดอย่างหนึ่งว่าพระเจ้าตากก็โดนข้อหาว่าฟั่นเฟือน(คิดว่าตนเป็นพระศรีอาริย์)อันนี้เป็นเรื่องนอกพงศาวดารก็พิสูจน์ลำบากว่าจริงเท็จเท่าใด การอ้างอิงสถานที่และตัวบุคคลทำให้ตำนานใกล้เคียงสำหรับการจับต้องก็จริงแต่นั่นก็ทำให้เกิด"ช่องโหว่ของความเชื่อ"ขึ้นด้วย ซึ่งอันนี้กลัวนะผมว่า วกกลับไปที่ อชิตะภิกขุอีกประเด็นหนึ่งในที่ประชุมสงฆ์นั้น อชิตะเป็นพระอาวุโสน้อยสุดและญาณต่ำสุดในที่ประชุมคราที่ทำให้เกิดทำนายเกี่ยวกับเรื่องชาติของพระศรีอาริย์ ซึ่งมี 2 คราคือคราพระพุทธองค์เสี่ยงโยนบาตรว่าใครจะรับได้ อัครสาวกซ้าย-ขวากับอรหันต์ไม่รู้กี่องค์ดั้นเมฆหาก็ไม่เจอปรากฏว่าบาตรกลับไปตกลงในมือของ นวกะอชิตะที่ตอนนั้นยังเป็นนักบวชธรรมดารูปหนึ่ง และประเด็นที่ทำให้เชื่อว่าอชิตะยังไม่บรรลุในตอนนั้นก็คือเมื่อครานางปชาบดีทอผ้าจีวรถวายพระพุทธเจ้าแล้วพระพุทธเจ้าบ่ายเบี่ยงเป็นนัยไม่ยอมรับนางจึงหันมาถวายแก่อัครสาวก อัครสาวกซ้าย-ขวาเข้าใจโดยนัยของพระพุทธองค์ก็บ่ายเบี่ยงไม่รับเช่นกันนางจึงนำจีวรผืนนั้นถวายพระอรหันต์ไล่อาวุโสลงไปเรื่อง ๆ ก็ไม่มีพระอรหันต์องค์ใดรับไล่จนไปถึงพระรูปสุดท้ายในที่ประชุมซึ่งก็คือพระอชิตะ นางปชาบดีจึงน้อยใจที่จีวรที่ตั้งใจทอถวายนั้นกลับไปตกแก่พระธรรมดารูปหนึ่งพระพุทธองค์จึงตรัสเฉลยเหตุว่าอย่าน้อยใจ เพราะผู้รับผ้าที่นางถวายนั้นคือผู้จักเสวยชาติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป(ศรีอาริย์) ยิ่งขับเน้นข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่าขณะนั้น พระอชิตะยังไม่บรรลุญาณ...(ยังต้องบำเพ็ญอีกนาน) และผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็จะบำเพ็ญตนเพื่ออุบัติในพุทธภูมิคือสวรรค์ชั้นดุสิต(ซึ่งอยู่ในเซตของสวรรค์ 6 ชั้นแรกซึ่งต่ำกว่าพรหม)แต่แนวทางของตัวบุคคลที่ท่านอ้างถึงเป็นตัวอย่างนั้นในบางแนวทางขัดกับหลักบำเพ็ญที่จะนำขึ้นสู่การสั่งสมบารมีเพื่อมุ่งสู่ ดุสิต จุดนี้สำคัญนะวิกฤติศรัทธาเกิดง่ายเพราะช่องโหว่ใหญ่พอดู...ก็แค่ความเห็นเล็ก ๆน่ะครับอย่าถือสาผมเลย
     
  8. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอบคุณครับที่แนะนำ แล้วอย่างผมไม่ทราบว่ามีอะไรคอยคุ้มครองอยู่รึเปล่าครับ
     
  9. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,057
    อยากไปเที่ยวภูเขาควายจังเลย....ทำไมอยู่ประเทศลาวนะ....น่าจะอยู่ประเทศไทยจะได้เข้าไปเที่ยวกับเขาบ้าง...แย่จังอยู่ลาวสะได้.
     
  10. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ลึกๆและจริงๆแล้ว หลวงพ่อยังไม่ลาพุทธภูมิ ดั่งที่เข้าใจกัน
     
  11. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    กู่ไม่กลับแล้ว
    ยังไม่พอ
    ไปปรามาส อ.คนเมืองบัว อีก
    ไม่น่าเลย

    ปล. เทวดามิจฉาทิฏฐิ หรือ ยักษ์ ผมไม่เป็นหรอกครับ
    นรก ผมก็ไม่ไปครับ แต่ใครจะไปก็ไม่รู้นะครับ อิอิ
    ตายจากชาตินี้ ผมจะไปเป็นพรหมครับ
    โชคดีครับ
    (bb-flower
     
  12. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณ zoba ประวัติหลวงปู่ทองทิพย์ ไม่มีใครบันทึกไว้หรอกครับ ผู้ที่จะมีโอกาสใกล้ชิดครูบาอาจารย์ และได้ฟังเรื่องราวต่างๆ อย่างที่คณะผมได้มีโอกาสนั้นก็มีไม่มากครับ ลองถามหลวงพ่อทองพูลสิ ท่านอาจจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับหลวงปู่ทองทิพย์ก็ได้นะ หากมีโอกาสช่วยหาตำนาน "ลินทองกับยักษา" มาให้ศึกษาด้วยนะ เขตนั้น มีด่านม้าแล่น ไม่ใช่เหรอ นั่นแหละเกี่ยวกับลินทองกับยักษาล่ะ เคยได้ยินไม๊ ที่จริงคณะผมหลายคนเป็นหลานศิษย์ของพ่อแม่ด่อน วัดถ้ำเจีย อ. ปากคาด มาก่อนนะ ลองถามคนเฒ่าคนแก่แถวนั้นดูว่าพ่อแม่ด่อนนั้นท่านเป็นอย่างไร

    คุณ virgo เรื่องที่เล่ามานั้น เป็นความคิด ความเห็นจากตำราน่ะ เรื่องจริงทางการเมืองไทย ที่คนเรายังไม่รู้หรือประวัติศาสตร์ที่ไม่มีการบันทึกไว้ยังมีอีกมาก แต่คิดว่าไม่สมควรที่จะนำมาบอกเล่ากันในสถานที่แบบนี้น่ะ

    คุณ wit เรื่องสิ่งรักษาประจำตัวนั้น ทุกคนมีครับ ปฏิบัติไปเรื่อยๆแล้วจะได้พบเห็นด้วยตัวเอง

    คุณปกรณ์ หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านยังอยู่น่ะ หากจิตนักปฏิบัติกำหนดถึงท่าน แล้วท่านมาปรากฏทางทิพย์ได้นั้น แสดงว่าท่านยังไม่เข้าพระนิพพานแน่นอนครับ
     
  13. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    คุณได้ยินสัตว์ ต่างๆคิดได้ด้วยหรือไม่
     
  14. Robert

    Robert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2005
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +3,118
    ถ้ายังเรียก "คนเมืองบัว" ว่าอาจารย์ ก็แสดงว่า ยังไปไม่ถึงไหน ทำไมไม่ปฏิบัติจนพบของจริงซะก่อน แล้วค่อยมาสนทนาในสิ่งตัวรู้จริงละ เฮอ!
     
  15. zoba

    zoba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +268
    คุณ zoba ประวัติหลวงปู่ทองทิพย์ ไม่มีใครบันทึกไว้หรอกครับ ผู้ที่จะมีโอกาสใกล้ชิดครูบาอาจารย์ และได้ฟังเรื่องราวต่างๆ อย่างที่คณะผมได้มีโอกาสนั้นก็มีไม่มากครับ ลองถามหลวงพ่อทองพูลสิ ท่านอาจจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับหลวงปู่ทองทิพย์ก็ได้นะ หากมีโอกาสช่วยหาตำนาน "ลินทองกับยักษา" มาให้ศึกษาด้วยนะ เขตนั้น มีด่านม้าแล่น ไม่ใช่เหรอ นั่นแหละเกี่ยวกับลินทองกับยักษาล่ะ เคยได้ยินไม๊ ที่จริงคณะผมหลายคนเป็นหลานศิษย์ของพ่อแม่ด่อน วัดถ้ำเจีย อ. ปากคาด มาก่อนนะ ลองถามคนเฒ่าคนแก่แถวนั้นดูว่าพ่อแม่ด่อนนั้นท่านเป็นอย่างไร
    --------------------------------------------------------------------------
    หลวงปู่ทองพูล ท่านอยู่บึงกาฬ เรื่องเกี่ยวกับ หลวงปู่ทองทิพย์ ถ้ามีโอกาส จะลองถามท่านดูครับ
     
  16. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอบคุณครับ ผมนึกว่าจะช่วยดูให้ซะอีก ผมกะว่าจะลองสอบถามหลายๆคน แล้วดูว่าข้อมูลตรงกันรึเปล่าครับ
     
  17. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    wawa เรื่องภาษาสัตว์นั้น เรายังไม่รู้ภาษามัน แต่สัตว์บางตัว เช่น เต่าบางตัวก็มีจิตสื่อกระแสกันได้ เท่าที่เจอ เป็นเต่าหับ อย่างไรก็ตามการแผ่เมตตาถึงสัตว์นั้น สัตว์เขาสามารถรับรู้ได้จริง

    wit เรื่องการส่องรู้โน่นรู้นี่นั้น เราไม่นิยมทำให้ใคร ยกเว้นว่าเขาเดือดร้อนจริงๆ ก็จะสงเคราะห์บ้าง เช่น เจ็บป่วย หรือ บางทีเจ้ากรรมนายเวรของคนป่วยเขาบอกโน่น บอกนี่ หรือ เพื่อนที่เป็นหมอเขาถามเรื่องโรคที่เขาวินิจฉัยไม่ออก ก็บอกเขาไปว่าอะไรเป็นอะไร ตรงนี้ไม่อยากให้สนใจอะไรมากเพราะความจริงก็คือความจริง และสิ่งที่เรากำลังศึกษาอยู่นี้เป็น "ความจริงเหนือความจริง"

    ช่วงนี้มีศีลธรรมจากเขตปราสาทหิน ในจังหวัดต่างๆ เช่น โคราช บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ เขามาตามบ่อย รวมทั้งเขตของเจ้าแม่ไทรงาม เจ้าแม่อรพินด้วย ก็ยังไม่รู้ว่าตั้งอยู่ในตำแหน่งไหน ต้องสำรวจข้อมูลดูก่อนไปสถานที่จริง คงจะต้องไปทำศาสน์ศิลป์ให้เขาก่อนสิ้นปี พวกเขารอมานานมากแล้ว เมื่อคืน(12 ธ.ค.)พญานาคที่รักษาเขตปราสาทหินพนมรุ้ง เขาก็มาหา บอกว่ารออยู่นะ ให้รีบไป ก็คงจะต้องไปภาวนาแผ่ให้เขาคืนนึง ก่อนเชิญศีลธรรมเขาเข้าเขตวัด ก็มีหลายระบบที่อยู่ในเขตนั้น

    ก่อนที่จะไปทำศาสน์ศิลป์ให้ผู้ที่รักษาในเขตปราสาทหินนั้น ก็ต้องไปทำศาสน์ศิลป์ให้แม่นางไอ่คำ(ในตำนานผาแดง-นางไอ่)เสียก่อน เขาก็รอมาเป็นหมื่นปีแล้วเช่นกัน นางไอ่คำนี้มีบุญญฤทธิ์สูงมาก เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขาทำฤทธิ์ให้ดู โดยการย้ายรถยนต์พร้อมคนขับและคนโดยสารอีก 2 คน จากที่นึงไปอีกที่นึงระยะทางประมาณ 1 กม.ใช้เวลาแค่พริบตาเดียว ก็เป็นความบังเอิญที่เราขับรถแล้วเลี้ยวผิดซอย ก็เลยบ่นว่าไม่น่าเลี้ยวผิดเลยทำให้ช้า แค่พริบตาเดียว รถไปโผล่อยู่ในซอยที่เราต้องการจะไป ก็ไม่เข้าใจว่าไปได้ยังไง คนที่นั่งมาในรถตื่นเต้นกันใหญ่ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มาทราบทีหลังว่าเป็นฤทธิ์ของนางไอ่คำเขาน่ะ ที่จริงวิชานี้หลวงปู่สุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าท่านเคยมาสอนให้ทางใน แต่ท่านบอกว่ายังไม่ให้ใช้ จนกว่าจะปฏิบัติถึง........ ตอนนี้ก็เพียงแต่ได้มีประสบการณ์รับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงและก็เป็นไปได้จริง

    หลังปีใหม่ ปลายเดือนมกราคมก็ล่องใต้ ไปในเขตของจังหวัดสงขลา เขตของหลวงปู่ทวด ก็คงไปหลายที่ อีกสถานที่นึงที่ต้องไปทำศาสน์ศิลป์ให้เขา ก็คือ เขตเมืองเก่า กรุงชิง จ. นครศรีธรรมราช เท่าที่ดูมีหลายคณะพยามยามเข้าไปทำศาสน์ศิลป์ ทำบวงสรวง แต่ก็ไม่สำเร็จไม่สามารถปลดปล่อยสิ่งเหล่านั้นได้ ผลก็เกิดแค่ว่าได้เลี้ยงทานพวกโลกทิพย์เท่านั้น ไม่สามารถปลดปล่อยให้เขาเปลี่ยนภพภูมิได้เนื่องจากไม่ใช่หน้าที่ของคนเหล่านั้น และเป็นเรื่องของบุญบารมีสัมพันธ์ที่สั่งสมมาต่างกัน ที่กรุงชิงก็คงปลดปล่อยโดยวิธีอธิษฐานย้ายเมืองในโลกทิพย์เอา จะได้ง่ายหน่อย

    สิ่งที่เราทำนั้น สำหรับในโลกมนุษย์ยุคปัจจุบันนั้นคิดว่าเกินจริง แต่มันก็เป็นจริงในโลกทิพย์ ผู้มีตาดีเขาก็รู้แหละ โดยเฉพาะผู้ที่ท่านปฏิบัติถึงโลกอุดร หรือพระสงฆ์ที่ท่านทำหน้าที่เป็นพระธรรมาจารย์ของเหล่าผู้ทำบารมี ท่านจะรู้ดีว่าใครมาทำหน้าที่อะไร เทวดาทั้ง 6 ชั้น ท่านก็ลงมาอนุโมทนาบุญกับอานิสงส์การปลดปล่อยสรรพวิญญาณ ซึ่งในทางศีลธรรมนั้นถือว่ามีอานิสงส์มากมาย สามารถแผ่กุศลไปได้ทั้งทั่วจักรวาล ก็อธิษฐานบารมีครูบาอาจารย์ให้ท่านทำน่ะ

    สำหรับใครที่ยังปฏิบัติยังไม่ถึงตรงนี้ ก็ให้ศึกษาอย่างพินิจพิจารณาก่อนวิพากษ์วิจารณ์ เพราะต้องเกิดตาย วนเวียนกันมาอีกเยอะ หากกระทบบารมีกันตั้งแต่ตอนนี้มันก็ไม่ค่อยดีทั้งภพนี้และภพหน้า หากไม่สามารถปฏิบัติไปรู้ด้วยตัวเองได้ ก็ให้สอบถามผู้รู้เสียก่อน
     
  18. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอบคุณครับ คุณ Aunyasit ถ้ามีอะไรแนะนำผมอีกก็ได้นะครับ คือเรื่องญาณหยั่งรู้หรือเรื่องตาทิพย์ผมไม่ค่อยถนัดน่ะครับ ส่วนมากผมปฏิบัติแล้วจะได้เป็นความสงบซะมากกว่าครับ ถึงเห็นอะไรก็มักจะไม่ค่อยสนใจเลยทำให้สิ่งที่เห็นนั้นดับไปครับ(ปัจจุบันผมใช้วิธีรู้สึกตัวทั่วพร้อมครับ เพราะรู้สึกถูกจริต)

    แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการเห็นนะครับ ตรงข้ามผมเชื่อด้วยซ้ำไปครับ (เพียงแต่ว่าตัวเองไม่ค่อยเห็น เลยต้องอาศัยถามจากท่านอื่นที่รู้เอาน่ะครับ ที่อยากจะถามหลายๆท่านก็เพื่อความมั่นใจครับ)

    ปล.ถ้าไม่ตอบก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็ปฏิบัติของผมไปเรื่อยๆครับ แต่ก็หวังอยู่ลึกๆว่าจะได้รับคำแนะนำจากคุณ Aunyasit หรือจากอาจารย์ของคุณ Aunyasit นะครับ ถ้าต้องการตอบเป็นการส่วนตัวไม่อยากให้ใครรู้ก็ส่งเมล์มาที่ wit00000@hotmail.com ได้นะครับ ขอบคุณครับ
     
  19. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    wit ปฏิบัติไปก่อนแล้วกัน จะปฏิบัติแบบไหนก็ทำไปได้เลย ก็ให้เน้นเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา ให้มากๆ ที่สำคัญก็คือให้มีวินัยในการปฏิบัติ ถึงแม้จะง่วง จะหิว ปวดเมื่อย ฯลฯ ก็ให้ปฏิบัติเหมือนเดิม ให้รู้วาระจิตของตัวเองทุกขณะ ทุกขณะ การกระทำทุกอย่างจะเป็นเพียงอาการภายนอกทันทีหากเราไม่สามารถรู้อาการสงบ ไม่สงบ หรือการเสวยอารมณ์ของจิตได้ ทำความสงบให้มากๆแบบสงบได้ทั้งขณะหลับตาและลืมตา บางครั้งอาจจะต้องภาวนาในจิตใจทั้งวันเพื่อฝึกจิตให้มีความสงบมากพอ

    เมื่อถึงความสงบจริงๆแล้วก็ควรจะพิจารณาถึง มิติของ สติ จิต ใจ ว่าเป็นอย่างไร เมื่อเข้าใจแล้วก็ให้รับรู้ว่าในขณะจิตนั้นๆอะไรทำงาน เช่น สติ หรือจิต หรือใจ เมื่อรับรู้แล้วก็ปล่อยวางไป ฝึกให้รู้อาการการยึดของจิตและอาการวางของจิต แล้วจะเข้าใจไปเอง เมื่อวางสิ่งนึงก็จะรับรู้อีกสิ่งหนึ่ง ก็จะรู้ไปเรื่อยๆและก็จะวางไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆที่เป็นปรากฏการณ์ทางจิตก็ให้พิจารณาเป็นวาระไปแล้วกัน และเอาแค่รับรู้ได้และวางได้ก็พอนะ แค่นี้ก่อนแล้วกัน โชคดีนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2005
  20. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอบคุณที่แนะนำครับ _/\_
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...