เรื่องจริงอิง Fiction "ภัยพิบัติ 5 มิติ"

เสียดายคลิปลัลล่าหายไปแล้ว
อดดูเลยตรู

นึกว่าคลิปเพลงทั่วๆไป เลยผ่านไป
ท่านOVLOV นะท่านOVLOV ไม่กระซิบกันมั่งเลย

 

Video: เพลง ปูว์ลั้ลลา DRZO Parody หญิงลี เสียงได้ทำนองเป๊ะ ~ Frequency

 

รอบแรกผ่านไปไม่ได้สนใจ พอคุณ NOWAY บ่นเสียดายก็เลยย้อนกลับไปดู ดูไม่ได้แล้ว แต่คุณ OVLOV ก็ไม่ได้ทำให้แควน ๆ ผิดหวัง ขอบคุณครับ

 

“ทูตวีรชัย” รับแล้วไทยเสียดินแดนพระวิหาร เกินเส้นมติ ครม.


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2556 16:02 น.






รัฐสภาเริ่มถกคดีเขาพระวิหาร ปชป. โวย “ปู” ชิ่งหนีตามเคย บี้ให้มาร่วมประชุมพร้อมถ่ายทอดสด ส.ว.อุตรดิตถ์ สาระแนเสนอประชุมลับ อ้างเรื่องละเอียดอ่อน เจอเป่านกหวีดค้านพร้อมเสนอญัตติเลื่อนหารือเพราเอกสารไม่พร้อม แต่แพ้โหวต “ทูตวีรชัย “ แปลคำพิพากษา รับไทยเสียดินแดนยอดเขาพระวิหาร ไปทางทิศเหนือ เกินเส้นมติ ครม. ปี 2505 และ บริเวณทางขึ้นเขาพระวิหารทางฝั่งกัมพูชา แต่ไม่กินพื้นที่ยาวถึงภูมะเขือ

วันนี้ (13 พ.ย.) การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม แต่ปรากฏว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย มีเพียง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำหน้าที่ชี้แจงเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเริ่มอภิปราย ฝ่ายค้านได้ทวงถามว่าญัตติดังกล่าวคณะรัฐมนตรีได้เสนอขอให้เปิดอภิปราย แต่ทำนายกฯจึงไม่มาร่วมประชุมเพื่อรับฟังและชี้แจงข้อซักถามของสมาชิก และควรเปิดโอกาสให้มีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทษทัศน์ช่อง 11 ด้วย เพราะเป็นประเด็นที่คนไทยทั้งประเทศต้องการความชัดเจนจากปากนายกฯเพื่อไม่เกิดความสับสน

นายนิคมชี้แจงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ติดภาระกิจรับเสด็จ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะรีบมาร่วมประชุม ส่วนการถ่ายทอดสดตนได้ประสานไปยังสถานีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ

ขณะที่นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ เสนอว่า ประเด็นที่จะมีการอภิปรายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แลอาจจะกระทบต่อการเจรจาระหว่างประเทศในอนาคต ควรให้มีการประชุมลับ เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายเต็มที่ แต่ ส.ส. ฝ่ายค้านแสดงความไม่เห็นด้วยและได้เป่านกหวีดคัดค้าน โดยอ้างว่าต้องเป็นการประชุมอย่างเปิดเผยเพื่อให้คนไทยได้รับรู้

ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวชี้แจงว่า ตนและคณะได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาเสนอ โดยนายกฯมาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ตอนนี้มีภารกิจรับเสด็จพระองค์ พระเจ้าวรวงค์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ หากเสร็จสิ้นก็จะกลับมา ส่วนการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ขัดข้อง เพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าวคนไทยควรรู้ แต่ขอว่าการอภิปรายเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นประเด็นไหนที่มีกระทบต่อกัมพูชาอาจจะขอประชุมลับเป็นช่วง ๆ แต่หากสมาชิกมีข้อเสนอแนะสร้างสรรค์ก็พร้อมจะรับฟัง “ วันนี้อภิปรายตามมาตรา 179 วันหน้าถ้าจะไปเจรจาอะไรก็ต้องนำมาขอความเห็นชอบจากตามมาตรา190 และต้องรับฟังความเห็นของประชาชนด้วย ดังนั้นจึงสมาชิกไม่ต้องกลัวว่ารัฐบาลจะทำอะไรไม่ถูกต้อง

นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตำหนินางนฤมลว่า การเสนอให้มีการประชุมลับไม่ใช่หน้าที่สมาชิก แต่เป็นภาระกิจของคนเสนอคือรัฐบาล ถ้าเห็นว่าการอภิปรายจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็สามารถเสนอได้ นายกฯต้องมีความรับผิดชอบต่อระบอบรัฐสภาอย่างยิ่งยวด ในเมื่อนายกฯกำลังขอความเห็นจากพวกตนตามรัฐธรรมนูญ ก็ต้องอยู่ในห้องประชุม ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองมากกว่าที่เป็นอยู่

นายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว. สรรหา กล่าวว่า จากเอกสารที่ตนพึ่งได้รับมาเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ ตนขอให้มีการแปลเป็นภาษาไทยให้กับสมาชิกได้ศึกษาอย่างละเอียดก่อนที่จะนำมาอภิปรายในสภา ดังนั้นตนขอเสนอให้เลื่อนไปเป็นวันอื่น

นายไชยวัฒน์ ไตยสุนันท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอญัตติให้เลื่อนการประชุม เนื่องจากมีเหตุผลนายกฯ ไม่พร้อมมารับฟัง และ การถ่ายทอดไม่เรียบร้อยเพื่อประโยชน์ควรจะเลื่อนการพิจารณา ขณะที่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยและเสนอญัติขอให้ดำเนินการประชุมต่อไป ดังนั้นนายนิคมได้ให้สมาชิกทำการมติปรากฏว่า 304 เสียง ต่อ 90 เสียงให้ดำเนินการประชุมต่อไป

จากนั้นที่ประชุมได้เริ่มเข้าสู่สาระ โดยนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจํา กรุงเฮก หัวหน้าทีมต่อสู้คดีเขาพระวิหาร อภิปรายสรุปสาระสำคัญคำของคำพิพากษาของศาลโลกวันที่ 11 พ.ย. ว่า สำหรับคำว่ายอดเขา เป็นคำแปลชั่วคราวมาจากคำว่า Promontory เพราะยังหาคำว่าที่เหมาะสมกว่ายอดเขาไม่ได้ บางคนใช้คำว่าชะง่อนผา ซึ่งจะรับไปพิจารณา

นายวีรชัย กล่าวว่า สำหรับคำพิพากษาในส่วนที่เป็นเหตุผลนั้นมีสาระสำคัญคือ ศาลตีความคำพิพากษา ปี 2505 มีองค์ประกอบหลัก3 ประการ คือศาลไม่ได้ชี้ขาดเรื่องเขตแดน ซึ่งศาลรับฟังข้อต่อสู้ของเรา ขณะที่ แผนที่ 1ต่อ 2 แสน ตร.กม. ศาลฟังกัมพูชาแต่จำกัดในบริเวณพิพาทในคดีเดิมเท่านั้น แม้เส้นเขตแดนบนแผนที่ดังกล่าวจะยาวกว่า100 กม. และศาลได้ตีความว่าปราสาทอยู่บนดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และระบุดินแดนที่ไทยต้องถอนกำลังออก ดูในหลักศาลจากคดีเดิมว่ากองกำลังของไทยตั้งอยู่ที่ใด โดยคำให้การในปี 2504 ก่อนมีคำพิพากษา วันนี้ศาลจึงเห็นว่า อย่างน้อยบริเวณใกล้เคียงปราสาทจะต้องรวมที่ตั้งของตำรวจตระเวนชายแดนไทย ที่ตั้งอยู่ทิศเหนือของเส้นมติครม.ปี 2505 ที่กำหนดในภายหลังคดี แต่อยู่ใต้เส้นเขตแดนบนแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนตร.กม. และอยู่เหนือเส้นสันปันน้ำ ดังนั้น ศาลในวันนี้ จึงเห็นว่า เส้นเขตแดนตามมติครม.ไม่อาจเป็นขอบเขตใกล้เคียงปราสาทเขาพระวิหารได้

นอกจากนี้ ศาลยังตีความว่าอธิบายพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร โดยใช้ลักษณะของภูมิศาสตร์ เป็นหลัก จากนั้นก็ตีความว่าพื้นที่ในคดีเดิมคือแคบและจำกัดอย่างชัดเจน ส่วนทางเหนือจำกัดโดยดินแดนของกัมพูชา บริเวณใกล้เคียงปราสาทพระวิหาร ศาลตีความจำกัดว่ายอดเขาพระวิหาร ด้วยเหตุผล ว่าไม่รวมภูมะเขือ เพราะเป็นพื้นที่ภูมิศาสตร์แยกจากกัน ผู้ว่าฯราชการจังหวัดเขาพระวิหาร ในสมัยนั้นก็ให้การว่าพื้นที่ภูมะเขืออยู่คนละจังหวัดกับยอดเขาพระวิหาร ขณะที่ทนายความของกัมพูชาก็บอกว่า ภูมะเขือไม่ใช่พื้นที่สำคัญในการพิจารณา และไม่มีหลักฐานว่ากองกำลังของไทยอยู่ที่ภูมะเขืออีกด้วย จึงสรุปได้ว่าพื้นที่ใกล้เคียงจำกัดเพียงยอดเขาพระวิหาร และจะต้องเล็ก แคบ จำกัด และเห็นได้ชัด

นายวีรชัย กล่าวต่อว่า ศาลรับทราบข้อต่อสู้ของไทยเพื่อถ่ายทอดแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ตร.กม.ลงไปในพื้นที่จริง และศาลในคดีเดิมก็ไม่ได้พิจารณาจึงอยู่นอกอำนาจของศาลปัจจุบัน การถ่ายทอดเส้นของแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ตร.กม. ไม่สามารถดำเนินการฝ่ายเดียวได้ นอกจากนี้ ศาลยังตัดสินว่าไทยและกัมพูชาต้องร่วมมือกันและประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องปราสาทเขาพระวิหารในฐานะมรดกโลก และจำเป็นต้องมีทางเข้าปราสาทจากที่ราบในฝั่งกัมพูชา นอกจากนี้ ศาลยังไม่วินิจฉัยของประเด็น เส้นเขตแดนมีผลผูกพันหรือไม่ และพันธกรณีการถอนกำลังทหารต่อเนื่องหรือไม่ เพราะศาลเดิมไม่ได้ตัดสินเอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นสมาชิกได้ทยอยอภิปรายแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ขณะที่เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมานั่งฟังในห้องประชุมด้วย

 

‘อุ๊งอิ๊ง’ โพสต์ภาพอยู่ลอนดอน หลังสะพัดลูกแม้วหอบสัมภาระหนีไปอังกฤษ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤศจิกายน 2556 21:28 น

ASTVผู้จัดการ – “อุ๊งอิ๊ง” โพสต์อินสตาแกรมในร้านอาหารอิตาเลียนที่ย่านไนท์บริดจ์ กรุงลอนดอน คอนเฟิร์มข่าวลือลูกแม้วหอบสัมภาระ 8 ใบ 156 กก. หนีไปอังกฤษคืนที่ผ่านมา เพื่อหลบสถานการณ์การเมืองร้อนในประเทศ

จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (14 พ.ย.) ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการเผยแพร่ภาพที่ถ่ายจากจอคอมพิวเตอร์ของสนามบิน ระบุข้อมูลว่า “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหลบหนีโทษจำคุก 2 ปีจากคำพิพากษาของศาลฎีกา และหลานสาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี 910 ซึ่งออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 00.50 เช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) โดยเดินทางไปถึงสนามบินฮีทโธรว์ของอังกฤษเมื่อช่วงเช้าตรู่คือ 6.22น. (ตามเวลาในประเทศอังกฤษ) หรือ 14.22น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นราว 13 ชม.

ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ระบุด้วยว่า “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร พร้อมพี่สาว “เอม” พินทองทา คุณากรวงศ์ หรือ พินทองทา ชินวัตร ซึ่งเดินทางโดยชั้นธุรกิจได้ขนสัมภาระไปอย่างน้อย 8 ชิ้น น้ำหนักรวมกว่า 156 กิโลกรัม ทำให้เกิดข่าวแพร่สะพัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้ครอบครัวเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากไม่วางใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศในช่วงนี้ ซึ่งมีกลุ่มผู้ขับไล่รัฐบาลออกมาเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ประกาศว่าจะมีการยกระดับการชุมนุม

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 20.30น. ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย น.ส.แพทองธาร ได้โพสต์ภาพตัวเองผ่านอินสตาแกรม @ingshin21 ซึ่งมีผู้ติดตามอยู่ประมาณ 87,000 คน โดยปรากฎภาพ น.ส.แพทองธารสวมเสื้อกันหนาวสีเข้มและผ้าพันคอสีอ่อนนั่งอยู่ในคาเฟ่แห่งหนึ่งพร้อมแก้วกาแฟ ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ พบว่า เป็นร้านกาแฟอิตาเลียนชื่อ Gran Caffe Londra เลขที่ 32-34 HANS CRESCENT, KNIGHTSBRIDGE, LONDON, SW1X 0LZ ตั้งอยู่ในย่านไนท์บริดจ์ ย่านหรูหราของกรุงลอนดอน และใกล้กับที่พักซึ่งเคยมีข่าวว่าครอบครัวชินวัตรใช้เงินหลายร้อยล้านบาทซื้อเอาไว้พักพิงยามมาเยือนประเทศอังกฤษ

ภาพดังกล่าวถือเป็นการยืนยันได้ว่าลูกๆ และคนในครอบครัวชินวัตรบางส่วนได้เดินทางไปยังประเทศอังกฤษจริง แต่จะเป็นการหลบความร้อนแรงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ หรือ ความไม่แน่นอนใดๆ หรือไม่นั้น ไม่มีใครทราบได้ แต่ในอดีตเมื่อมีส่อว่าจะเกิดเหตุรุนแรงทางการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวมักจะมีพฤติกรรมในการเดินทางออกนอกประเทศไทยอยู่บ่อยครั้งอยู่แล้ว

 

ณ เพลานี้เดือนพฤศจิกายนแล้วก็จริง

แต่ดาวอาทิตย์ยังอยู่ในราศีตุลย์

บางคนก็ตุนข้าว
บางเจ้าก็ตุนของ "ของ"

...

วันที่ 17 ดาวอาทิตย์ถึงจะย้ายเข้าราศีพิจิก

โหมดการ "จิก" กันอย่างแท้จริง
คงจะเริ่มเข้มข้นขึ้นตามลำดับ

...

เห็น น้าเต้ปแกเป่านกหวีดปรี๊ดดดๆ...
แล้วทำตาพองๆ...เหมือนเตียวหุย

ดูๆ ไปทรงแกก็คล้ายราหูอยู่เหมือนกัน
ผิวคล้ำๆ แถมใส่ชุดดำอีกตะหาก

วันก่อนแกประกาศลาออกจาก ส.ส. ปชป
มาเป็น ปชช. เต็มตัว

ตรงกับวันที่เกตุมาสนิทองศา-ลิปดากับราหู
ต่อได้เต็มตัวแปลงร่างสำเร็จพอดี

แม่นละ...น้าแกนี่เอง...

แถมแกเล่นใช้พลังธาตุลมของราหูเป่านกหวีด ปรี๊ดดๆ
สนั่นลั่นเมือง

ช่วงนี้ราหูเป็นราชาโชคซะด้วย
เลยอาจมีผู้นิยมชมชอบไม่น้อยเหมือนกัน

...

หลังวันที่ 17 ไปแล้วนี่
อาทิตย์ย้ายเข้าราศีพิจิก อย่างที่บอก

น่าจะเป็นไงมั่ง?

อาทิตย์เข้าภพมรณะของดวงเมือง

อาทิตย์ธาตุไฟเข้าราศีธาตุน้ำ
ไฟตกน้ำ...ฟุ่บบ! เลย

อาทิตย์เข้าเรือนอังคาร บ้านศัตรู
แต่เสียเปรียบเค้านะ ก็บ้านเค้านี่

อาทิตย์ตกน้ำ เกิดคลื่นใต้น้ำ น้ำเดือดได้สารพัด
น้ำทะเล น้ำแข็งละลาย

น้ำทั้งหลายที่เย็นๆ อยู่เดิม
กลายเป็น...น้ำโห...ได้เหมือนกัน

...

ข้อดีคิดได้เรื่องนึงคือ

อากาศจะเย็นลงอีก เข้าสู่หน้าหนาว
ก็อาจจะร้อนใจ แต่หนาวกายได้

เพราะดาวอังคารก็ไปอยู่เรือนอาทิตย์อยู่เช่นกัน

...

ทั้งหลายทั้งปวงนี่

ปลายๆ เดือน ดาวอังคารย้ายเข้าราศีกันย์
แล้วเล็งมฤตยูกันเจ๋งๆ

ดาวมฤตยูเหมือนถูกท้าทาย
เดินพักรถอยหลังมาตั้งนาน

พาลเปลี่ยนใจ ใส่เกียร์เดินหน้า
สับเข้าโหมดเสริดมั่งดีกว่า

ว่ากันตรงๆ ไปเลย
ไม่ต้องอายกันละ

...

หลัง 5 ธันวาไปแล้ว

เกตุย้ายเข้ามาเพิ่มแรงให้อังคาร
ช่วยงานเล็งมฤตยู ให้เจิดเต็มที่

งานนี้คงมีเฮ
ทั้งมุมเล็ง มุมหอก ตอกเข้ามาเต็มเมือง

ของดีๆ ทั้งน้านน...ที่ไม่ได้เชิญ แต่อยากมา

แถมดางหางก็มาช่วยตีธงเข้าเส้นภัย
ที่ไม่น่าจะเป็นเส้นชัย

ให้ได้มั่นใจได้ว่า

ไม่พลาดแน่...







ไม่มีอะไรจะ สุโก้ย ไปกว่านี้อีกแล้ว...



อาเมน...

 

ท่าน OVLOV..

อังคารราศ๊กันย์ปลายเดิอนนี้ มันจะมันส์กว่ากินถั่วนะสิท่าน

ก็มันตำแหน่งมหาจักรเสียด้วยน่ะสิ

มหาแปลว่า เปรียญ 3 เอ้ย...คนละเรื่องนี่หว่า

มหาแปลว่าเยอะๆ มากๆ เช่นมหาสมุทร คือ น้ำเยอะ

มหาโจร คือ โจรใหญ่ มีลูกน้องเยอะ

มหาหิงษ์ แฮะๆ..ชักมั่ว

ทีนี้จักร หมายถึงอะไรหว่า

ลักษณะมันกลม หมุนไปได้

มันน่าจะคล้ายล้อรถนะท่าน

มหาจักร ก็หมายถึง อะไรสักอย่าง ที่มีล้อหลายๆล้อ

ไรหว่า....ติ๊กต๊อกๆ..

 

ขออภัยเหล่าน้าที่เคารพ แถมคบกันมานาน

ว่าอ่านไปอ่านมา

อาไรของมันวะ...

มียก มีย้าย

มีเล็ง มีหอก...

มีตอกกันด้วย


สุดท้ายไม่พอ

มีตกน้ำป๋อมแป๋มอีกตะหาก


เอ้อ! ฟังแล้วปวดตับ...

...

แถมอีกท่านมาต่อ

บอกว่า มันส์กว่าถั่ว

มีจักร มีล้อ

มีกลม มีหมุน

ไม่พอ


แถมมี...


ติ๊กต๊อกๆ...อีกตะหาก


ฟังแล้วอยาก


เจ็บติ่ง...


แทนตับ...

...

น้าๆ บ่นมาบอกว่าไม่แก่

แต่พอมีอายุ


ฟังไม่รู้เรื่อง


อารายวะ...


ทั้งติ่ง ทั้งตับ


สับสนกันไปหมดแล้ว

...

ไม่เป็นไรครับน้า

ฟังไม่รู้เรื่อง

ก็ค่อยๆ ว่ากันไป

เอาเป็นว่า

ฟังไปเรื่อยๆ ก่อน


พอเพลินๆ...



เหมือนเดินดูลำยอง

...


พอหลัง 5 ธันวาไปแล้ว


คิดเอาเองนะน้า...

แบบหวังใจว่า...


ถ้าที่ผ่านมา...

น้าก็ยังฟัง


ไม่รู้เรื่องอยู่ดี



ไม่เป็นไร


รอบนี้...



ก็ขอให้ตั้งสติดีๆ



แล้วถ้ามีโอกาส


ก็...




"โปรดฟังอีกครั้ง"









น่าจะชัดกว่านี้...



















อา-เมรุ...

 

แบบว่า..ไม่มีช้อยส์อื่นๆท่ี่มัน มันๆน้องจาก"โปรดฟังอีกครั้ง" หลอฮะ แบบนี้มันก็เดิมๆเลยสิฮะ

 

ช้อยอื่นมีดังนี้

ยุบสภากับลาออกคงไม่มีในพจนานุกรม ช้อยอื่นมีดังนี้

- สลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตากับกระสุนยาง
- สงครามมวลชนเช่น แดงเดือดปะทะประชาชนคนรักชาติ
- ชายชุดดำกับ M79 กับ .....
- ภัยธรรมชาติเช่น แผ่นดินไหว/พายุนอกฤดูกาล

เอาเหอะช้อยไหนก็ได้ขอพ่วงนักการเมืองเลวไปด้วยก็แล้วกัน คนกลุ่มนี้เป็นปัญหาของสังคมไทย

 

17-18 พฤศจิกายน อีกแล้ว

อะไรๆ ก็ประเดประดังมาพร้อมกันวันนี้ ติดตามอ่านทู้นี้ก็ว่าเสียวๆแล้ว ยังจะมามีปฏิกิริยาดวงอาทิตย์มาเสริมอีก รู้สึกหนาวๆ ขึ้นมา แต่นี่มันก็หน้าหนาว เอ๊ะ รึว่าหน้าฝน เอ๊ะ รึว่าหน้าร้อน งงๆๆ

 

20 พฤศจิกา ท่าจะไม่รอด

 

ก่อนนี้ก็ไม่แน่ใจ

ด้วยเหตุที่ว่า ดาว5 หรือดาวศาล เป็นประ
หรือเรียกว่าปะๆปุุๆ ขาดๆวิ่นๆ ก็พอได้
กำลังถอยหลังกรูดๆอีกต่างหาก

แล้วจะไปทำอะไรได้มากล่ะพี่น้อง

ใครๆเขาก็ว่างี้ทั้งนั้นแหล่ะ

แต่พอดี เหล่ไปเห็น
อ้าว เว้ย เฮ้ย
ดาว 4 6 5 เขามาอยู่บ้านของอีกคน สลับที่กันไปมา
ที่เขาเรียกกันหรูๆ ว่า ปริวรรตเกษตร

พอไปเหล่ ดาวเสาร์ 7 คู่ต่อสู้ ที่ใครๆก็ว่า กำลังช้างสาร เป็นอุจจ์

ดูไปๆ มันไม่เจ๋งจริงดังที่เขาว่านี่หว่า

เพราะที่แท้ พี่เขาดันไปอยู่นวางค์7 ดาวอังคาร เป็นนิจ

หมายถึงกิ๊กก๊อก เบบี้

ซี้แหงๆ

 

ภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ

"ในส่วนของทางโหราศาสตร์ ดูจากดวงเมืองเอง ก็บอกได้เหมือนกันว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้” ซึ่งน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะนี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ดาวเสาร์และราหู โคจรมารวมอยู่จุดเดียวกันที่ราศีตุลย์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ดวงเมืองแตก-ดวงเมืองร้าว!!”

เพราะดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนที่ 10 ของดวงเมือง ซึ่งเรียกว่า “กัมมะ” หมายถึงผู้บริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งก็คือคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือผู้ที่ดูแลปกครองบ้านเมือง ส่วนราหูเป็นเจ้าเรือนที่ 11 ซึ่งเรียกว่า “ลาภะ” หมายถึงรายได้ ผลประโยชน์ นโยบายของชาติ การจัดเก็บภาษีอากร ถ้าเป็นคณะบุคคลจะหมายถึงรัฐสภา ซึ่งเน้นไปที่สภาสามัญ (ส.ส.) เมื่อดาว 2 ดวงโคจรมาเจอกัน กลายมาเป็น “คู่มิตร” กัน จึงส่งให้ดวงบ้านดวงเมืองแตกยากที่จะประสาน

“ถามว่าครั้งนี้จะเกิดการเผชิญหน้าและมีการนองเลือดมั้ย ถ้าศึกษาตามดวงเมืองที่เคยเกิดขึ้น มันมีเค้านะ เพียงแต่คราวนี้น่าจะแรงกว่าคราวที่ผ่านๆ มา เพราะเหตุการณ์ความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต คือเหตุการณ์ที่เกิดจากผลของการโคจรของดาวราหูมาพบราศีตุลย์เพียงดวงเดียว แต่ครั้งนี้มีดาวเสาร์มาโคจรประกบคู่ รัฐบาลและรัฐสภาสุมหัวกันออกกฎหมายจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายนิรโทษกรรม, พ.ร.บ.เงินกู้ หรือแม้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯลฯ มาสุมหัวกันที่ราศีตุลย์ ราศีคนถือคันชั่ง เลยทำให้ดวงเมืองแตก”

เฝ้าระวัง! ช่วงเวลาอันตราย
ลองให้ระบุช่วงเวลาที่ถือว่าเป็นจุด peak และควรเฝ้าระวังมากที่สุด เมื่อพิจารณาจากการเดินทางของดวงดาวแล้ว อาจารย์ภิญโญบอกว่าน่าจะอยู่ในช่วง “วันที่ 10-14 ธ.ค.” เพราะเป็นช่วงที่ราหูซึ่งคุมดวงเมือง โคจรไปในราศีตุลย์ เล็งกลางพระอาทิตย์ได้สนิท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่วงเวลาก่อนหรือหลังจากที่เตือนเอาไว้จะนิ่งนอนใจได้ เพราะความรุนแรงอาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ตามอิทธิพลของดาวราหูที่มาโคจรเจอกับดาวเสาร์ที่ดวงเมืองพอดี และหลักฐานที่ช่วยย้ำเตือนได้ดีที่สุดก็คือช่วงเวลาที่เคยจารึกไว้ในประวัติศาสตร์นั่นเอง

ในอดีต เคยมีปรากฏการณ์ราหูโคจรมาเจอกับดาวเสาร์ที่ราศีตุลย์เหมือนกัน แต่เกิดขึ้นนานมากแล้ว เคยเกิดเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นตั้งแต่สร้างกรุงเทพฯ มาคือ เมื่อปี 2351 ในครั้งนี้รัฐปัตตานีแข็งเมือง ต้องส่งกองทัพจากทางใต้เข้าไปปราบปราม กบฏก็หนีไปทางรัฐมลายู จนเกิดปัญหาเรื่องดินแดนทางใต้ แต่กบฏทำการไม่สำเร็จ สามารถปราบปรามได้ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงหัวเมืองปัตตานี และในปีถัดมา 2532 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสวรรคต เปลี่ยนแผ่นดินจากรัชกาลที่ 1 เป็นรัชกาลที่ 2
อีกรอบหนึ่งคือปี 2408 ที่ราหูกับเสาร์โคจรมาเจอกัน เป็นปีที่เสียพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2 และมีเรื่องการเสียดินแดนให้ประเทศมหาอำนาจอย่าง อังกฤษและฝรั่งเศส

“เพราะฉะนั้น ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ดาวราหูและดาวเสาร์โคจรมาเจอกันที่ราศีตุลย์เป็นครั้งที่ 3 น่าจะนำมาซึ่งเหตุการณ์สำคัญประมาณ 4 เรื่อง คือ 1.การสูญเสียบุคคลสำคัญซึ่งเกิดไปแล้ว และอาจจะเกิดขึ้นอีก 2.เรื่องการสูญเสียดินแดน อันนี้น่าจะเป็นเรื่องคดีเขาพระวิหาร แต่ยังไงก็อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องความวุ่นวายทางภาคใต้ด้วย 3.เรื่องอุบัติภัย ทั้งน้ำ ไฟไหม้ และพายุ และ 4.เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งจากการศึกษาจะเห็นว่ามีทั้งการเปลี่ยนแปลงโดยเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย เช่น ยุบสภา และบางรอบก็มีการชุมนุมและเกิดการจลาจลเกิดขึ้น เกิดความวุ่นวายจนคนไทยต้องฆ่ากันเอง นำมาซึ่งการยึดอำนาจ”

จากการศึกษาวัฏฏะของดวงดาวทั้ง 2 ดวงนี้ พบว่าพระราหูมีวัฏฏะ 18 ปี เพราะฉะนั้น ถ้าจะศึกษาอิทธิพลของราหูในอดีตว่าส่งผลยังไงต่อบ้านเมืองบ้าง ตามสูตรเขาให้เอา พ.ศ. ณ ขณะนี้ ลบด้วย 18.6 ปี แล้วย้อนถอยย้อนหลังไปดูเหตุการณ์ 2-3 รอบ จะเห็นอดีตที่สามารถนำมาคาดคะเนได้

“ลองย้อนกลับไปครั้งแรก (ลบด้วย 18.6 ปี) จะอยู่ในช่วง พ.ศ.2538 ซึ่งจบเห็นว่าเกิดเหตุการณ์ที่ดำเนินไปคล้ายๆ กับขณะนี้คือ เกิดการสูญเสียผู้ใหญ่ของบ้านเมืองไปหลายท่าน มีทั้งสมเด็จย่า, หม่อมคึกฤทธิ์ และพระองค์เจ้าอีกหลายพระองค์ พอมาปีนี้ (พ.ศ.2556) เราก็เสียรองนายกฯ ไปถึง 2 คน, อดีตรองนายกฯ และเราก็เพิ่งเสียสมเด็จพระสังฆราช ลองเปรียบเทียบเหตุการณ์ดูแล้วจะเห็นว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก”

อีกด้านหนึ่งคือเรื่องอุบัติภัย ปี 2538 เกิดน้ำท่วมใหญ่ จากภาคกลางตอนล่างถึงภาคใต้ตอนบน ท่วมนาน 6 เดือนกว่า ซึ่งถือว่ารุนแรง และปีนี้ก็เกิดน้ำท่วมเหมือนกัน ระดับน้ำก็หนักอยู่เหมือนกัน แต่เผอิญว่าคนไทยมีประสบการณ์เรื่องการรับมือกับน้ำแล้ว ผลที่ออกมาก็เลยทุเลาลงไป

เรื่องสุดท้ายที่เหมือนกันอย่างชัดเจนคือ เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เมื่อปี พ.ศ.2538 มีการยุบสภาครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค. ในรัฐบาล “ชวน หลีกภัย” และเลือกตั้งใหม่ พรรคชาติไทยได้เสียงข้างมากทำให้อำนาจเปลี่ยนมือครั้งใหญ่

“โหราศาสตร์ใช้เป็นเครื่องเตือนภัยให้เห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นอีก พิจารณาจากเหตุการณ์ขณะนี้ที่เริ่มเขม็งเกลียวเข้ามา ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการนองเลือด เพราะการที่ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล-รัฐสภา ออกมาจำนวนมาก แล้วทางฝ่ายรัฐเองก็ปลุกม็อบอีกด้านหนึ่งขึ้นมาต้าน มันก็เสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าขึ้น

 

ไปทำบุญมา

ไปทอดผ้าป่าที่พร้าวมาได้ยอด 131,213 บาท บุรณะเจดีย์เก่า ได้โอกาสเลยเรียนถามมาว่าตกลงมันจะนองเลือดกันจริงหรือ แล้วแก้ไขได้หรือไม่
ได้คำตอบว่า มันใกล้ถึงวาระแล้วคงจะหลีกเลี่ยงได้ยากเรีื่องกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ได้แต่แผ่เมตตาแผ่ส่วนบุญไปให้ ส่วนแก้ไขได้หรือไม่ก็ได้คำตอบว่าสมเด็จพระสังฆราชท่านได้ช่วยไปแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจากนั้นก็คงต้องว่ากันไปตามกฏแห่งกรรม ส่วนคนที่มีบุญมากพอบุญก็จะนำพาให้อยู่ถูกที่ถูกเวลายามเกิดเหตุการณ์

 

มองข้ามชอร์ต ไป24 นี้

เท่าที่เห็นดาว 2 ทับดาว 2 เดิมในดวงเมือง

ได้ตำแหน่งเป็นเกษตรเสียด้วยสิ

ดาว2 หมายถึงประชาชน

หรือว่า คนจะมากันมืดฟ้ามัวดินก็ไม่รู้นะนี่

 

ึไปทำบุญบูชาพระบรมธาตุห่มผ้าพระธาตุที่เมืองเหนือมา ขอให้ทุกๆท่านได้บุญด้วยกันนะครับ สาธุๆๆ

 

เมือวานนี้ไปทำบุญกฐิน ส่งท้ายฤดูกฐิน
ที่วัดสวนหงษ์ อ.บางปลาม้า
ของหลวงพ่อปลื้ม อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งสังขารไม่เน่าเปื่อย

เพื่อสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม

โมทนาบุญ กันได้ พ่อแม่พี่น้องเอ้ยยยยยยยยยย

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 

บอกตรงว่าณ.วันนี้อยากมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางการเมืองกับเขาบ้างแบบไม่ต้องรอให้ใครมาจ้างเพราะการบริหารงานแบบประชานิยมนี้สร้างความเสียหายให้คนในชาติบ้านเมืองมากมายแม้กระะทั่งคนที่นิยมประชานิยมและเลือกเข้าไปเองอาจยังไม่เข้าใจผลเสียของมันเพราะหน้ามืดตามัวชอบกันเข้าไปแต่เศรษฐกิจเสียหายมากมายตอนนี้กำลังแสดงผลกรรมใดใครก่อเพราะบ้าอำนาจมัวเมาในอำนาจสร้างความแตกแยกให้แก่แผ่นดินฟ้าผ่าที่ไหนขอให้ผ่าเครื่องบินที่พวกมันเช่าหรือเครืองบินส่วนตัวอยากให้คนตระกลูหนึ่งอย่าได้กลับมาเมืองไทยรวยนักก็ไปซื้อประเทศอยู่เป็นส่วนตัวสิอย่ามาอยู่เมืองไทย เมืองไทยเป็นของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่แค่ครอบครัวคนรวยๆแล้วก็ไม่ใช่ที่ผูกขาดอำนาจของใครเสียดายคนไทยบางคนหน้ามืดตามัวรับใช้คนรวยที่อยากมีอำนาจแต่เขาก็ทำสำเร็จไปแล้วโดยอาศัยระบบเลือกตั้งเศร้าใจๆๆๆๆเเสียดายที่ก็ไม่ชอบคนนำฝ่ายต่อต้านที่เคยเป็นนักการเมืองแล้วลาออกแต่ก็ไม่รู้จะไปรวมกับใครดีถึงจะมีพลังให้มันรู้กูไม่เอามึงโว้ยทั้งสองพวกเลย

 

เมื่อไม่ชอบการเมืองแบบปัจจุบัน

ก็ควรถึงเวลาเสียที...

รายละเอียด อย่าเพิ่งไปสนใจ

เป้าหมายมันอยู่ที่นั่น

ปฏิรูปประเทศ....