เมื่อสามีขอเลิกเพราะรักหญิงอื่นที่คุยกันทางmsn

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย แม่่พระ, 30 เมษายน 2011.

  1. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    สุขสันต์วันอาทิตย์ ขอให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี

    จุดเริ่มต้ันของชัยชนะ อยู่ที่จิตใจของเราเอง

    ทุกปัญหาของชีวิตมีทางออกเสมอ สำหรับคนเชื่อว่ามีทางออก

    เมื่อยอมรับความจริงที่เลวร้ายได้ ความกดดันต่างๆก็ผ่อนคลาย
     
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    มาส่งกำลังใจให้เจ้าของกระทู้อีกครั้งนะคะ
    ขอให้สู้ต่อไปในทางธรรม
    ขอให้จิตใจของคุณชุ่มเย็นและเปี่ยมสุขค่ะ
     
  3. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    โดยส่วนตัวผมนะครับแม้ผมปฏิบัติธรรมผมก็ยังเคยพลาดพลั้งเช่นกันครับ

    - ดังนั้นสิ่งนี้ทำให้เราเข้าใจได้ว่า ไม่มีใครที่ดีไปหมดทุกอย่าง ทุกคนต้องทีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวกันหมด
    - เราเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้เป็นพระอิฐ พระปูน หรือ พระอรหันต์ ดังนั้น ความอยากในกามมารมณ์มันมีกันทุกคนครับ ความทะยานอยากใคร่ได้เสพย์ตามอารมณ์ที่ตนเองพอใจยินดีนั้นมีเหมือนกันหมดทุกคน ไม่ว่าสามีคุณ ตัวคุณเอง ผม หรือ ใครๆก็ตามที ก็มีเหมือนกันทั้งนั้นครับ อาจจะต่างกันก็แค่การมีสติที่จะยั้งในอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต้องการนั้นๆมาเรามีมากน้อยแค่ไหน เพียงพอที่จะทานกิเลสตัณหาได้หรือไม่
    - ในเวลานี้ผมรู้ดีว่าคุณมีความปารถนาอย่างที่สุดจนหาประมาณมิได้ ปารถนาให้สามีคุณกลับคืนมา ปารถนาให้ความครัวกลับคืนมา ขัดเคืองขุ่นข้องใจว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นต้องเข้ามาในชีวิตครอบครัวคุณจนทำให้บ้านแตกด้วย แล้วก็ปารถนาอย่างนั้นอย่างนี้ไปเรื่อยๆตามความพอใจยินดีที่คุณสำคัญไว้อยู่ในใจ เมื่อปารถนามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น เพราะเมื่อในความเป็นจริงที่เป็นอยู่นี้มันไม่มีทางเป็นไปดั่งความปารถนานั้นเลย แม้ซักนิดก็ไม่มี คุณก็จะคับแค้นกาย-ใจ โศรกเศร้า เสียใจ ร่ำไร รำพัน นี้คือทุกข์ ทุกข์เพราะไม่ได้ตามที่ตนปารถนานั้นๆ หากลดความปารถนาลงคุณก็จะทุกข์น้อยลง
    - การลดความปารถนานั้นคุณต้องยอมรับความเป็นจริงตามสัจธรรมที่ว่า เรามีความพรัดพรากเป็นที่สุด เราไม่สามารถหลีกลี้หนีพ้นสิ่งนี้ไปได้ เราจักต้องพรัดพรากจากครรักหรือสิ่งของที่รักที่พอใจไม่ช้าก็เร็วขึ้นอยู่กับ กานดูแลรักษาของเรา กาลเวลาที่เปลี่ยนผันไป และ สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆบุคคลหรือสิ่งของนั้นๆ ซึ่งเราไม่สามารถที่จะหยุดยั้งความพรัดพรากเช่นนี้นี้ได้เลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดมา ตั้งอยู่ เสื่อมดับสูญสลายไป มันไม่คงอยู่กับเราตลอดไป เราไม่สามารถจะไปบังคับให้สิ่งนั้นๆเป้นไปดั่งที่ใจเราต้องการได้ เพราะมันไม่มีตัวตนอันที่เราจะยื้อยึดฉุดรั้งตามใจปารถนาได้ มันไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเรา เพราะหากมันเป้นของเราจริงมันมีตัวตนที่บังคับได้จริงความพรัดพรากนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับคุณอย่างเช่นที่เป็นอยู่นี้แน่นอน ขอให้คุณยอมรับและเข้าใจในสัจธรรมนี้เป็นที่ตั้งแห่งจิตก่อนนะครับ
    - เมื่อยอมรับตามสัจธรรมนี้แล้วให้คุณตั้งจิตมั่นพึงเจริญปฏิบัติใน "ศีล" เพื่อความมีจิตเป็นกุศล เว้นจากการกระทำทางกาย-วาจาที่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองและคนอื่น ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการทำ "สมาธิ" เราทำสมาธิเพื่อความสงบของใจ ลดละความคิดฟุ้งซ่านขยะในสมองต่างๆลงเพื่อให้มีพื้นที่ว่างพอควรแก่งาน เมื่อมี ศีล และ สมาธิตั้งมั่นแล้วย่อมเอื้อผลประโยชน์แก่จิตที่เป็น "พรหมวิหาร๔" นั่นคือ ความปารถนาอยากให้ผู้อื่นมีความสุข ความเอื้ออนุเคราะห์ สงเคราะห์แบ่งปันให้ผู้อื่นมีความสุข หลุดพ้นจากทุกข์พันธนาการ เมื่อคุณเกิดจิตเมตตาและกรุณาตามนี้แล้ว จิตใจคุณย่อมเป็นไปเพื่อ "ทาน" คือการให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนกลับคืน ให้เพราะอยากให้ผู้รับได้ใช้ประโยชน์สุขจากการให้นั้นของเรา ให้แล้วไม่มาเสีบดายหรือเสียใจในภายหลัง จากนั้นจิตใจคุณควรมีความยินดีแก่ผู้อื่นเมื่อเขานั้นได้พ้นจากทุกข์แล้ว สุดท้ายคือวางใจไว้กลางๆไม่หยิบจับเอาความพอใจยินดีและไม่พอใจยินดีใดๆมาตั้งเป็นแก่อารมณ์ตน เพราะหากคุณติดข้องใจสิ่งใดๆไปไม่ว่าจะเป็นความพอใจยินดีหรือไมพอใจยินดีผลกระทบที่จะสะท้อนกลับมานั่นก็คือความทุกข์นั่นเอง เพราะพอใจก็ปารถนาทะยานอยากใคร่ได้ พอไม่ได้ตามปารถนานั้นก็เป็นทุกข์ เมื่อมีความไม่พอใจยินดีก็เกิดเป็นความขัดเคืองขุ่นข้องใจเกิดเป็นโทสะทะยานอยากจะผลักสิ่งนั้นๆหนีไปให้ไกลตนเกิดความทุกข์จากการประสบจากสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่พอใจ ดังนั้นในชีวิตคนปกติทั่วไปเราจึงขาดสภาพของอุเบกขาจิตไม่ได้ โดยข้อธรรมปฏิบัติทั้งหมดนี้จะต้องพึ่งพาความมี "สติ" และ "สัมปชัญญะ" อย่างมาก เราต้องมีความระลึกรู้ มีความรู้ตัว มีความคิดดีเป็นกุศล ไม่คิดทำร้ายเบียดเบียนตนเองและคนอื่น พูดดีไม่พูดจาให้ร้าย ส่อเสียด พร่ำเพ้อ เพ้อเจอ ไม่พูดจาใดๆที่ไม่ก่อประโยชน์แก่ตนเองและคนอื่น พูดจาให้เหมาะสมควรแก่กาล ทำดี กระทำในสิ่งที่ดีงามไม่ทำร้ายตนเองและคนอื่น กระทำในสิ่งที่ควรที่เหมาะสมแก่กาล
    สรุปทางออกของคุณในตอนนี้นะครับคือ
    1.สติ
    2.รู้และยอมรับตามสัจธรรม
    3.ศีล
    4.สมาธิ
    5.พรหมวิหาร๔
    6.ทาน
    7.คิดดี พูดดี ทำดี
    8. ตั้งใจอดทนเพื่อชีวิตตัวน้อยๆของปาฏิหาริย์ตัวน้อยๆ เพื่อให้เขาได้มีชีวิตที่ดี ไม่ขาดตกบกพร่อง จนขาดความอบอุ่น

    ฟังดูง่ายนะครับแต่ทำยาก แต่ว่าหากทำได้ชีวิตคุณจะเป็นสุขปราศจากทุกข์
    อ่านวิธีการเข้าอุเบกขาจิตเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ วิธีการเข้าถึงอุเบกขาจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2012
  4. surapong chot

    surapong chot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +1,212
    สู้ๆๆ เพื่อลูกครับ...
     
  5. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    สู้ๆนะคะ หากเขายอมทิ้งลูกทิ้งเมียไปมีใหม่ได้ เขาก็ไม่ใช่คนดีที่เราควรจมปลักหรอกค่ะ เมื่อเราเป็นเมียเป็นแม่ที่ดีของลูกแล้วไม่ต้องมัวเสียใจนะคะ สักวันเขาเองที่จะเสียใจที่ทิ้งคุณไป และต่อไปพยายามสร้างแต่กรรมดีสักวันเดี๋ยวคุณก็จะได้เจอคนดีๆมาเป็นคู่บุญคุณเองค่ะ
     
  6. samarin_140

    samarin_140 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +595
    กัลยาณมิตรท่านอื่น ได้ให้ข้อคิดคติธรรมที่ดีมากแล้ว โดยเฉพาะ คุณ ddman
    ดิฉัน จึงเพียงแค่มาให้กำลังใจ และกล่าวขอบคุณค่ะ

    ขอบคุณเรื่องราวของจขกท.ที่ทำให้เกิดคำตอบที่ดีมาก ๆ ต่อหลาย ๆ คน ที่มีโอกาสได้เข้ามาอ่าน อนุโมทนากับธรรมทานด้วยนะคะ

    ดิฉันชอบอ่านเรื่องราวอีกด้านนึงของความรักค่ะ เอาไว้ปลอบใจกับการไม่มีโอกาสได้มีคู่อย่างเค้า เดาว่า ช่วงนึงของชีวิตจขกท.มีความสุขมาก คุณสามารถเลือกที่จะนึกถึงความทรงจำที่ดี จะได้มีความสุขเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใคร

    เกี่ยวกับการฝึกสติ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านเทศน์ตอนหนึ่งว่า "อย่าลืมลมหายใจ" ฟังดูง่ายใช่มั้ยคะ แต่ดิฉันเองก็ลืมประจำเหมือนกันค่ะ อยากให้ลองทำดูค่ะ ด้วยความปรารถนาดี

    ถ้าว่างก็มาเยี่ยมแล้วก็มาอัพกระทู้ของคุณบ่อย ๆ นะคะ จะติดตามอ่านค่ะ ^.^
     
  7. นางพญา20

    นางพญา20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +1,163
    เขาไม่ดีเราก็ต้องตัดใจค่ะ จิ๊กคิดว่าสักวันเมื่อสามีคุณได้รับผลกรรมที่ได้ทำไว้กับคุณ เมื่อนั้นเค้าจะระลึกได้ว่าได้ทำผิด ได้เสียสูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รักไปแล้วเมื่อนั้นเข้าจะไม่เหลือใคร เวรกรรมมันมีจริงนะค่ะ สักวันเข้าต้องได้รับกรรมอยางแน่นอน ตัวคุณเองต้องมีกำลังใจสู้ต่อไปนะค่ะ อยู่ต่อไปอย่างน้อยไม่มีผู้ชายคนนั้นก็ยังมีลูกที่คอยให้กำลังใจเรา มองหน้าเขาไว้แล้วบอกกับตัวคุณเองว่าคุณจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขาแล้วคุณจะมีกำลังใจสู้ต่อไปค่ะ เพราะจิ๊กก็จะป็นกำลังใจให้อีกด้วยนะค่ะ อย่าเศร้าเลยค่ะวันพรุ้งนี้ยังมี
     
  8. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ไสหัวมันไป..คนไม่รักดี..อิอิ..(เพลงค่ะ คนไม่รักดี)..
    ..................................................................................................
    จริงๆแล้ว ทุกอย่างมีเหตุและผลนะคะ คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ ล้วนมีกรรมต่อกัน สิ่งที่ดีที่สุดคือ จงอโหสิค่ะ.
     
  9. ใจใจใจ

    ใจใจใจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ทางผ่าน

    ชีวิตครอบครัวของเราก็แบบนี้ เขาก็เล่นเกมแชทในเกม จนความเป็นครอบครัวห่าง และค่อยๆ หายไป เราน้อยใจ ก็เขียนจดหมาย ทำนองขอเลิกเพื่อให้เขาหันมาถามว่าเป็นอะไร แต่เปล่าเลยเรื่องราวบานปลาย เขาไปมีอะไรกับผู้หญิงที่เขาคุยด้วย เหตุผลเพราะเราขอเลิกเขาเสียใจ เขาจึงไปมีไรกัน พอเรารู้เขาก็ยอมรับว่าเขารักกัน เราให้เขาเลิก เขาไม่เลิกเราเคยให้สามีของรุ่นพี่โทรมาหาเราที่บ้านตอนเราไปงานเลี้ยง เขาเข้าใจว่าเรามีคนอื่น เขาก็หมดใจจากเรา เราเลยแยกกันอยู่ จนเขามาขอหย่าหลายครั้ง สุดท้ายเขาบอกถ้าไม่หย่าให้เขาจะฟ้อง เราไม่ได้กลัวการฟ้องร้อง แต่เราห่วงว่าเสียเงินเปล่าๆ ที่เรายังไม่หย่าตอนแรก ก็เพราะว่าอยากให้ทั้งเขาและเราทบทวนดู แต่เราเห็นความพยายามที่เขาอยากได้ใบหย่า เราก็ไปหย่าให้ แต่เราไม่เคยโกรธเขานะ ได้แต่เสียใจ อ่านหนังสือธรรม มากจนเราเข้าใจว่าเป็นกรรม ที่เราต้องผ่าน มันไปให้ได้ ทุกวันนี้เราก็เลี้ยงลูก เค้าก็ดีนะส่งเงินให้ใช้อยู่ เราก็สอนลูกให้รักพ่อ แล้วทำบุญให้เขากับผู้หญิง สวดมนต์ แผ่เมตตาให้เขามีความสุข บางครั้งคิดถึงเราโทรไปหาเป็นบางครั้ง แต่พยายามตัดใจที่จะไม่โทรไปรบกวนเขาอีก ทุกวันนี้เราก็สบายใจ หน้าที่การงานก็ก้าวหน้า ส่วนเขานานทีกลับมาพาลูกไปกินข้าว เราก็พูดคุยแบบเพื่อน ไม่ว่าอะไรถือว่ามันจบไปแล้ว คิดซะว่าใช้กรรม และเราต้องผ่านมันไปให้ได้ ทั้งที่เรายังรักเขาอยู่ แต่เป็นรักที่ไม่ครอบครอง อยากให้เขามีความสุข ช่วยกันส่งลูกให้เรียนจบ มีงานทำ
     
  10. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    จริงๆความคิดเห็น และคำชี้นำ จากท่านสมาชิกทุกๆท่านก็กล่าวไว้ดีทั้งหมดแล้ว ไล่กดอนุโมทนาให้ไม่ทันเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณ bluebaby2 กับคุณ ddman ทั้งสองท่านนี้ดูเหมือนจะมีความชำนาญในเรื่องของการเข้าใจความรัก การพลัดพรากได้ดี เพราะมักจะเห็นท่านทั้ง 2 ไปตอบกระทู้เกี่ยวกับเรื่องราวรักๆ ใคร่ๆบ่อยมาก 5555 ภัทรชอบไปแอบอ่าน เนื้อหาใจความตรงประเด็นและชัดเจนชอบมาก ทำไมตอนน้้นภัทรไม่เจอพวกคุณทั้ง 2 จะได้ให้คุณเคาะกระโหลกให้หายโง่บ้าง และก็อาจจะเจ็บช้ำทุกข์ใจน้อยลง

    ก็ในเมื่อทุกท่านพูดไว้ดีหมดแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะเสริม นอกเสียจากว่าให้เราคิดเถอะค่ะว่า โลกใบนี้มันไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริงหรอก ตัวเราก็ไม่ใช่ของเรา เพราะถ้ามันเป็นของเราๆก็คงจะสั่งมันได้ว่าอย่าเจ็บ อย่าแก่ อย่าตาย ส่วนสามีก็ไม่ใช่ของเรา เพราะถ้าใช่เขาก็ต้องอยู่กับเรา เพราะฉนั้นเขาอยากอยู่ก็ให้เขาอยู่ เขาอยากจะไปก็ให้เขาไป ยกถวายพระพุทธเจ้าไปเลย เพราะถึงยังไงเสีย เขาก็ต้องจากเราไปอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว ไม่จากเป็น ก็จากตาย จากเร็วๆนี่แหละดีแล้วเราจะได้ไม่ต้องทุกข์นาน ลืมได้เร็ว มัวแต่ยื้อหยุด ฉุดเขาไว้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้เขารักเราได้เหมือนเดิมหรือป่าว ถ้าเขาเป็นของๆเราจริงๆเราก็ต้องสั่งเขาให้หยุดรักคนอื่นได้ แต่ป่าวเลยเพราะเขาไม่ได้เป็นของเราอย่างแท้จริงเราถึงบังคับบัญชาสั่งการไม่ได้ ใครเขาอยากได้ถังขี้ คุณก็ให้เขาไปเถอะค่ะ มีอะไรน่าพิสวาสหร๋อร่างกายสังขารนี่ ก็มีแต่กองทุกข์ มีแต่กองขี้ทั้งนั้น ถ้าใครเขาอยากได้ก็รีบยกๆให้เขาไปเลย อยู่ใกล้ๆเราก็เหม็นจะตาย

    ความรักมันบังคับกันไม่ได้ค่ะ จิตใจคนเรา ถ้าเขาหมดรักเราๆก็ต้องปล่อย คิดง่ายๆว่าถ้าเขายังรักเราอยู่ เขาจะไม่มีวันทำให้เราเจ็บ เขาจะไม่มีวันทำให้เราทุกข์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาทำเราได้ลง ความรักมันก็หมดไปแล้ว แม้แต่ความรักยังไม่อยู่กับเราถาวรเลย การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักคือความทุกข์ แต่ถ้าเขาอยู่โดยที่ไม่รักเราแล้วยิ่งจะทุกข์กว่าค่ะ เหมือนต้องฝืนทนอยู่กัน

    ลูกอยู่กับเราๆเลี้ยงได้ก็เลี้ยงไปค่ะ ดีกว่าให้เด็กโตมารับรู้สภาพพ่อแม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน สภาพจิตใจเด็กจะเป็นยังไง ภัทรเองก็มาจากครอบครัวที่แตกแยกนะ คุณแม่เป็นภรรยาน้อยด้วยซ้ำ แม่ใจเด็ดตัดพ่อขาดกลางเลย 5555 เลี้ยงลูกแบเบาะตัวคนเดียว แล้วก็เฝ้าสอนลูกว่าพ่อตายแล้ว เราโตมาเราก็คิดพ่อตายแล้วเรามีแต่แม่ แต่ที่ไหนได้พ่อก็ยังมีชีวิตอยู่มาตลอด แต่แม่เฝ้าบอกแบบนั้นเพื่อให้ลูกไม่เป็นเด็กที่มีปัญหา แต่ทุกวันนี้เขาตายจริงๆแล้วหรือป่าวก็ไม่เคยรู้เช่นกัน 5555

    จริงๆแล้วมันจะไม่มีอะไรทำให้จิตใจเราทุกข์ได้เลย ถ้าเราปล่อยวางเป็น ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ แล้วเราก็อภัยทาน สักวันนึงใครจะรู้เขาอาจจะซมซาน คลานกลับมาหาคุณก็ได้ เรื่องของเวรกรรมมันมีจริงๆ มันไม่ต้องรอชาติหน้าหรอกค่ะ สมัยนี้กรรมมันติดยานอวกาศแล้วไปได้เร็วกว่าแสง ขอเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้สู้ต่อไปนะค่ะ ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่มีสภาพแบบนี้ มันมีคนอีกไม่รู้ กี่ร้อย กี่ล้านคนที่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบคุณ อย่าได้ตั้งคำถามเลย ว่าทำไม ทำไม ทำไม แค่ก้มหน้ายอมรับว่ามันเป็นกรรมของเรา แล้วเดี๋ยวทุกอย่างจะดีเองค่ะ ความจริงแม้มันจะเจ็บปวด แต่มันก็คือความจริง ดีกว่าเรามานั่งโกหกตัวเองมิใช่หร๋อค่ะ โชคดีค่ะ สู้นะค่ะ เพื่อลูกนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2012
  11. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เพราะมีปัญญาสามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้แบบไม่ต้องพึ่งพาใคร ๑ .. เพราะความหนักแน่นในอุปนิสสัยที่สั่งสมมานาน แม้ประสบปัญหาปางตายก็สามารถยุติปัญหาได้ด้วยความเด็ดขาด๑..
    เพราะมีบุญได้ใส่ใจในพระธรรมและพบพระอาจารย์ที่ประเสริฐ๑..

    และเพราะในระยะเดียวกันนั้น ผมก็คงผจญวิบากทุกข์หลายๆประการอยู่ เลยไม่มีอะไรจะแนะนำใครๆได้เช่นกันน่ะครับท่านภัทรฯ

    ขออนุโมทนาในถ้อยธรรมที่ร้อยเรียงขึ้นด้วยเมตตาจิตอย่างยิ่งครับ..
    และเป็นกำลังใจทุกท่านที่กำลังทุกข์เพราะรักครับ..
     
  12. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    กราบขอบพระคุณนะค่ะ สำหรับความคิดเห็นไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองเป็นแบบนั้น แต่พอมาเห็นท่านพูดแบบนี้ แล้วพิจารณาดู ว่าทุกอย่างมันจริงตามที่ท่านพูดมากเลยค่ะ เป็นคนมีความมั่นใจในตัวสูง ถูกเลี้ยงมาให้คิดเอง ทำเอง ตัดสินใจเอง ตั้งแต่เด็ก พ่อเลี้ยงที่เป็นฝรั่งกับคุณแม่ชอบบอกเสมอว่าเดินผิดเดินถูกก็เดินไปเอง เมื่อผิดแล้วก็แก้ไขเอง คงเป็นเพราะแบบนี้มั้งค่ะ ภัทรเลยค่อนค้างคิดเองตัดสินใจเอง ไม่ต้องรอใคร แต่กว่าจะคิดได้ ก็เกือบตายเหมือนกันนะค่ะ แล้วก็เป็นคนที่อดทนกับความทุกข์ได้เก่งมาก เป็นคนอื่นเขาไม่ทนทุกข์ซ้ำซากอาจจะตายไปเลยก็ได้ แต่มีพระสงฆ์รูปนึง ท่านเคยกล่าวว่าโยมเป็นคนมีความอดทน ไม่งั้นโยมเป็นโรคประสาทไปแล้วบ้าไปแล้ว เพราะจิตใจโยมเข้มแข็ง ภัทรก็ย้อนท่านว่าแต่ภัทรก็เคยกินยาฆ่าตัวตายนะเจ้าค่ะ ท่านก็บอกว่าอันนั้นมันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ แต่จริงๆโยมสามารถอดทนได้เป็นอย่างดี มานักนึกถึงคำพูดของพระรูปนั้นก็นึกอืม มันก็จริง ท่านบอกว่าเส้นลายมือภัทรถ้าดูดีๆแล้วมีสิทธิ์เป็นโรคประสาทได้ง่าย แต่เรากลับไม่เป็น กระโหลกหยุบทุกวันนี้ คงไม่กล้าโกนหัวบวชชี แต่ว่าสติปัญญาเราเหมือนพวกนักวิทยาศาสตร์ รอบรู้ไปหมด 55555 ไม่รู้ชมหรืออะไร แต่ก็ภูมิใจที่ผ่านวิกฤตต่างๆมาได้ นะตอนนั้นแม้แต่คุณพ่อคุณแม่เรายังช่วยเราไม่ได้เลย ที่เรารอดมาได้เพราะตัวเราเองแท้ๆเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2012
  13. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เวลาที่จิตจะเกิดความเข้าใจหรือปัญญาได้ก็ต่อเมื่อสิ้นหวังจนถึงที่สุด หรือ
    ไม่ก็สงบนิ่งอย่างที่สุด ไม่ว่าทางไหนก็เป็นเพราะเรานั้นพร้อมจะรับคำตอบ
    ของปัญหาอย่างแท้จริง ไม่มีอคติใดๆ และบ่อยครั้งมันก็หมายถึงการผ่าน
    เรื่องราวที่บีบคั้นจนสุดจะทนได้ ผ่านความสูญเสียจนไม่เหลืออะไรเลย
    เพราะมันอาจเป็นเพียงทางเดียวที่ทำให้เราเกิดปัญญาได้ เพราะมันอาจจะ
    เป็นทางเดียวที่ทำให้เรายอมเปลี่ยนความเชื่อและวางอคติลงได้ แม่ที่สูญ
    เสียลูกไปอย่างนางกีสาโคตมีอาจจะไม่มีทางได้ดวงตาเห็นธรรมเลยถ้าไม่มี
    เหตุการสูญเสียลูก เมื่อไหร่ที่เราเดินเข้าไปสู่ความมืดมิดที่สุดเราก็ใกล้แสง
    สว่างมากที่สุด นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากเผชิญและพร้อมจะหนีไปให้
    ไกล ธรรมะจึงเกิดขึ้นได้กับคนที่พร้อมที่รับที่สุด เหมือนคนที่กินอาหาร
    ธรรมดาจนอิ่มแล้ว เอาอาหารชั้นดีเลิศแค่ไหนมาป้อนให้ก็รับไม่ได้หรือรับได้
    น้อย ปัญญาก็เหมือนอาหารชั้นเลิศไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เหตุที่ทำให้เราเกิด
    ปัญญาได้อาจจะเป็นเพียงทางเดียวที่ทำให้เราเกิดปัญญาได้ บางทีอาจจะ
    เป็นเรื่องน่ายินดีมากกว่าจะเป็นเรื่องร้ายก็ได้
     
  14. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    วิเคราะห์ได้จากคำที่ท่านภัทรฯเล่าเรื่อง และสงเคราะห์ด้วยหลักการแห่งพระอภิธรรมจึงได้สรุปไปตามนั้น..นะครับ..

    พระอภิธรรมนี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดเลยทีเดียว ท่านภัทรฯหากได้ศึกษามาจะสามารถทราบอัธยาศัยของคนได้ไม่ยาก ทั้งจะเข้าใจเหตุผลต้นปลายที่มาที่ไปของสิ่งทั้งปวงที่เกิดกับเราและคนทั่วไปได้อย่างชัดเจน..มีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาต่างๆในชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะควร..และที่สำคัญที่สุดคือช่วยให้มีความเห็นถูกตรงไม่เบี่ยงเบนจนตกไปจากพระพุทธศาสนา..อันเกิดและพบได้ยากเย็นนักหนาแก่เรา..อาศัยปุพพเกตปุญญตาคือบุญเก่าอันสั่งสมมาดีแล้วนั่นเองจึงได้รับเอาได้..แม้ท่านภัทรฯเอง ก็ย่อมเข้าหาแลรับเอาพระธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีเเล้วได้ด้วยบุญอันตนเคยสั่งสมมาดีแล้วนั่นเอง..ไม่มีสิ่งใดเกิดเองลอยๆหรือฟลุคหรือเพราะโชคดีโชคร้ายอะไรๆ..เจตนาเดิมที่ตนมีไว้นั่นแหละคือโปรแกรมที่สนับสนุนหรือฉุดเราทั้งหลายไปตามกำลังของเขา..

    ท่านภัทรฯคือเทียนที่กำลังส่องสว่าง เพื่อนำปัญญามาให้แก่ชุมชนคนทุกข์เพราะรัก เจตนานี้ย่อมเป็นปัจจัยแก่การเป็นผู้ฉลาด แม้ในปัจจุบันและสัมปรายภพ ย่อมทราบวิธีแก้ไขทุกข์ของตนได้ด้วยความแยบ คาย ท่านภัทรฯเป็นปัจจัยให้เกิดเทียนอีกหลายเล่ม ในอนาคต เขาย่อมสามารถเกื้อกูลตนแลคนอื่นได้นับไม่ถ้วน..ท่านภัทรฯกำลังให้ธรรมทาน อันมีผลสูงสุดกว่าการให้ใดๆในโลก..จึงน่าขอบคุณพ่อเลี้ยงและคุณแม่ รวมทั้งชายชั่วที่ทำร้ายท่านภัทรฯด้วยว่า ท่านและเขานั้นคือปัจจัยที่หล่อหลอมความเด็ดเดี่ยวให้ท่านภัทรฯ จนกระทั่งได้พบแสงสว่างคือพระธรรมอันประเสริฐเช่นนี้...

    ขออนุโมทนาในบุญของท่านภัทรฯด้วยครับ..
    บุญอันท่านภัทรฯเจริญแล้วด้วยดี พึงเป็นพลวปัจจัยให้ถึงฝั่งพระนิพพานโดยราบรื่นสะดวกรวดเร็วสมดังปรารถนา..แม้ในกิจแห่งกุศลทั้งหลายที่ท่านภัทรฯปรารภแล้ว พึงสำเร็จสมประสงค์โดยพลันเทอญ..
     
  15. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    จริงค่ะตอนเราทุกข์เรามองเห็นอะไรเป็นความมืดสนิทไปหมด หาประตูทางออกไม่เจอ แต่พอถึงเวลาที่เราจะเจอแสงสว่าง มันก็แค่เดินออกจากที่มืด ทำไมตอนนั้นภัทรมองไม่ออกเลยว่า ยิ่งเราตัดสินใจหลุดพ้นจากความมืดเร็วเท่่าไหร่เราก็จะเห็นทางสว่างอยู่ข้างหน้า แต่ก็อโหสิกรรมไปหมด และลืมเรื่องราวทุกอย่างเหมือนปิดประตูใจเราไปเลยไม่เคยไม่นึกไปคิดถึงมันอีก แม้แต่งานศพก็ไม่ไป ใครว่าใจดำ ใจอำมหิตก็เถอะค่ะ แต่เราคิดว่าเราหลุดพ้นออกมาแล้ว มาเจอสิ่งที่ดีที่ประเสริฐสุดแล้วขอหลีกเลี่ยงที่จะกลับไปเจอความทุกข์ในอดีตอีก ขอบคุณมากๆนะค่ะคุณ bluebaby2 สิ่งที่ท่านกล่าวมาทั้งหมดมันเป็นสัจธรรมความจริงตามนั้นเลย
     
  16. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    แล้วท่าน ddman ทราบไหมละเจ้าค่ะ ว่าทำไมภัทรถึงมาเป็นภัทรอังคารที่มาพร่ำพูดธรรมะอยู่ ณ วันนี้ เมื่อก่อนนับถือศาสนาคริสซะด้วยซ้ำ สมัยเรียนอยู่เมืองนอกเขาเป็นภาคบังคับให้เราต้องเข้าโบสถ์ เราก็เข้าไปตามๆๆเขาอย่างงั้น ทุกวันอาทิตย์ต้องไปดีดกีตาร์ร้องเพลง ถวายพระเจ้า แต่พอครอบครัวล้มละลายกลับมาเมืองไทย ทุกๆๆคนก็บอกว่าต้องนับถือศาสนาพุทธเพราะเป็นศาสนาของคนที่เป็นคนไทย เราก็ยังสับสนกับชีวิตอยู่ดีตอนนั้น แต่พอมาถึงช่วงที่มีความทุกข์ มันมานั่งร้องเพลงดีดกีตาร์ถวายพระเจ้าไม่ออกแล้ว ทุกข์ถึงขนาดกินยาฆ่่าตัวตาย แต่มันมีเสี้ยววินาทีนึงก่อนที่จะหมดล้มหายใจ
    จิตใจรู้สึกเป็นห่วงคุณพ่อและคุณแม่นอนดิ้นกระแด่วๆอยู่ในห้อง ใจก็คิดไปว่าเอ้อ ถ้าเราตายไปพ่อแม่เราละจะทำยังไง พวกเขาไม่เคยลำบาก ไม่เคยจน เขาจะอยู่กันยังไง แล้วถ้าเราตายไป ใครละจะดูแลพ่อแม่เรา แค่นั้นแหละ จิตที่มันยังไม่พร้อมที่จะตายทั้งๆที่ตัวเองก็พยายามจะตาย มันบอกว่าขอให้ลูกรอดตายด้วยเถิด หากลูกรอดตายลูกจะขอนับถือพระพุทธองค์ไปตลอดชีวิต ถามว่าตอนนั้นรู้หรือป่าวว่าพระพุทธองค์ดีอย่างไรประเสริฐอย่างไรไม่ได้รู้เลย รู้แต่ว่าเป็นศาสนาพุทธที่ีคนไทยทุกคนต้องเคารพกราบไหว้ แทนที่เราจะคิดถึงพระเจ้าตอนจะตาย แต่กลับนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแทน มันก็แปลกมากๆเลยค่ะ แต่ตอนนั้นเราก็เห็นดวงสว่างจ้าในห้อง ไม่รู้หรอกว่าเป็นดวงอะไรแต่จิตเรากำลังจะดับ แล้วอยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนพังประตูเข้ามา แล้วเราก็ถูกส่งล้างท้องที่โรงพยาบาล ออกจากโรงพยาบาลก็ยังกลับมาอยู่ในนรกขุมเดิม อีกประมาณ 2-3 ปีจนกระทั่งถูกทำร้ายร่างกายสลบไปห้าวันถึงได้หลุดพ้นจริงๆ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้นับถือศาสนาพุทธอย่างจริงจัง เพราะนรกบนดินมันปิดกั้นเราหมด แต่ก็มาเกิดความศรัทธาช่วงหลังจากที่เราหลุดพ้นออกมาแล้วก็เดินหน้าทำบุญ แต่ก็ยังไม่เข้าใจหลักธรรมอะไรมากมายจนมาพบครูบาอาจารย์ ตอนนี้ก็เป็นภ้ทรอังคารอย่างที่ท่านๆเห็นกันนี่แหละค่ะ ตอนนี้หร๋อ ทุกๆลมหายใจเข้าออก มีแต่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ และ มารดา และมีธรรมะอยู่เต็มหัวใจ ไม่คิดจะทิ้ง รักพระธรรมคำสอนยิ่งกว่าชีวิต และจะถือไปปฎิบัติตลอดไปตราบจนกระทั่งถึงฝั่งพระนิพพาน หากไม่สามารถที่จะไปได้ในชาตินี้ ก็ขอให้ไปได้เร็วที่สุดในชาติใดชาตินึง และทุกชาติที่จะต้องกลับมาก็ขอให้ได้มาพบกับพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนาทุกชาติไป ขอเป็นเพียงแม้เศษธุลี ใต้ฝ่าพระบาทของพระพุทธองค์ก็สุขใจแล้วเจ้าค่ะ
     
  17. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ก็ขอให้คุณแม่ม่ายฝ่าฝันเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้เหมือนที่ภัทรเคยผ่านมานะค่ะ คิดเสียว่าผู้ชายที่ไม่ดีก็แค่ขำๆๆ ค่ะ มีเขาก็เหมือนเรากำลังอ่านหนังสือ พอเขาจากไปก็เหมือนกับเราได้อ่านหนังสือจบเล่มแล้วๆก็มานั่งคิดว่าหนังสือห่วยมากไม่น่าเสียเวลาอ่านเลย 55555 วางแล้วก็เชิดใส่ แต่ภัทรเชื่อนะค่ะว่ายังไงซะเพชรก็คือเพชรวันยังค่ำค่ะ เมื่อของมีค่าได้หลุดลอยไปจากเขาๆจะเห็นคุณค่าของมันทีหลังค่ะ เพราะสิ่งที่เขาได้ไปอาจจะเป็นกรวดก็ได้ค่ะ ยังไงสักวันเขาก็ต้องมานั่งเสียใจว่า ตรูไม่น่าโยนเพชรทิ้งเล๊ย ถึงเวลาค่อยมานั่งคิดกันใหม่นะค่ะ ว่าเพชรเม็ดนี้จะยอมไปอยู่ในบนตัวของคนที่ไม่มีคุณค่าหรือป่าว มันอาจจะเป็นแค่บ่วงพิสวาส คนเรามันก็แค่นี้แหละค่ะ หลงไหลในกามารมณ์ ผู้หญิงคนใหม่เขาอาจจะลีลาเด็ดดวง แต่กินอาหารซ้ำซากทุกวี่วันต่อให้มันจะอร่อยเด็ดดวงสักแค่ไหน สักวันมันก็ต้องมีความเบื่ออยู่ดีแหละค่ะ ปล่อยเขาไปมีความสุขกันให้เขารองดูสิค่ะว่าไอ้ที่ว่าถึงพริกถึงขิง จุดจบมันก็แค่เสียววินาทีเดียว มันก็หายไปแล้ว จะอะไรกับมันมากมาย คนเราส่วนมากคิดกันไม่ได้หรอกค่ะ รสพิสวาสติดกันดีเหลือเกิน อยู่กับลูกให้มีความสุขเถอะนะค่ำ สบายใจ ใช้เวลาช่วงนี้อย่างมีความสุขค่ะ
     
  18. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    นี่ยังไม่น่าแปลกหรือประหลาดใจเท่ากับชาวผิวขาวที่เกิดโตและวนเวียนอยู่กับลัทธิที่มารดาบิดาส่งเสริมเขาบังคับเขาให้ต้องข้องเกี่ยวตั้งแต่เกิดทีเดียว แต่ท่านจำนวนไม่น้อยกลับสามารถแหวกหลืบม่านแห่งความไม่รู้ มาพบแสงสว่างแห่งพระธรรมได้อย่างเหลือเชื่อ...พบท่านผู้มีบุญอันยิ่งเหล่านี้ได้จากวัดป่านานาชาติ..ครับ (ที่ไม่แปลกเพราะอย่างน้อยท่านภัทรฯมีบุญมีแม่เป็นคนไทยที่ยังรู้จักหรือได้ยินคำว่าศาสนาพุทธมาบ้าง..)

    ท่านภัทรฯจะคิดหรือว่าท่านเหล่านั้นมาด้วย"ความบังเอิญ"?..แม้ท่านภัทรฯเอง ก็มาด้วยเหตุทำนองเดียวกันประการหนึ่ง..นั่นคือความที่เคยสั่งสมบุญอันดีมีการเคยสดับพระธรรมมาแล้วจะกี่อสงไขยที่ผ่านมาก็ตาม บุญนั้นไม่เคยลืมเราเลย ครั้นได้ปัจจัยสนับสนุน ผลของบุญนั้นย่อมปรากฏให้ได้เสวย..อันบุคคลทั่วไป ที่จะยอมรับนับถือคำตรัสสอนของพระพุทธองค์ที่มีแต่การปล่อยวาง ทวนกระแสโลก ย่ิอมยากเย็นเป็นไปได้ยาก..ถ้ามีใครเอาปืนจ่อศีรษะบุคคลคนหนึ่งบังคับว่า"ท่านจงยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาเถิด หาไม่เราจะฆ่าท่านท่านให้ตายในบัดนี้.." จะมีคนยอมตายมากกว่าที่จะยอมรับนับถือพระพุทธศาสนา ..จึงกล่าวได้ว่า ศาสนาพุทธนั้น ไม่ธารณะในที่ทั้งปวง ด้วยเหตุที่เป็นความจริงที่ขัดอัธยาศัยปรกติของสรรพสัตว์ยิ่งนักนั่นเอง..



    ดังนั้น เมื่อท่านภัทรฯได้เคยวางจิตหยั่งรากคือศรัทธานี้ไว้แล้ว ก็ย่อมสามารถงอกงามเจริญเติบโตได้ในศาสนานี้ เช่นเดียวกับใครๆที่ฝังรากศรัทธาในลัทธิอื่น เจตนาเหล่านั้นย่อมเป็นดุจตาข่ายที่ดักนกไว้ให้วนเวียนอยู่ในบ่วงตาข่ายเหล่านั้นแล้วๆเล่าๆเช่นกัน ..เพราะเสพส้องจนคุ้นเคย ยากจะเปลี่ยนได้..

    จากที่เล่ามาถึงอาการใกล้ตายแล้วเกิดคิดถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..เกิดความศรัทธาขึ้นแม้ด้วยยังไม่รู้จัก แต่อานุภาพแห่งกุศลในเวลานั้นที่มีพระพุทธพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ย่อมมีกำลังมาก ความสว่างนั้นคือกำลังของปิตีที่เกิดขึ้น นี่ถ้าเสียชีวิตในเวลานั้น ป่านนี้คงอยู่บนสวรรค์แล้ว คงไม่มากล่าวข้อธรรมในพลังจิตเลยนะครับ..

    บุคคลใดผู้มีศรัทธาในพระพุทธเจ้า แม้ตายไปก็ย่อมได้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ...

    อ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ..


    002
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...