เพราะกรรมแท้ ๆ หรือแค่กิเลสคน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย phodej, 5 ตุลาคม 2013.

  1. phodej

    phodej เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +300
    ยศสูงตำแหน่งใหญ่ อย่านำไปวัดดีคน
    ไร้ทรัพย์แสนยากจน อาจดีล้นเกินคนรวย
    พวกมีทรัพย์สินมาก ต้องดูจากแหล่งมาด้วย
    เรื่องง่ายอย่างงงวย หลายคนรวยเพราะโคตรโกง
    หลายคนข่มเหงเขา กดขี่เอาอย่างไอ้โม่ง
    เอาเปรียบด้วยกลโกง แล้วอ้างโยงกับบุญกรรม
    ทลายโอกาสเขา แล้วโกงเอาแบบอธรรม
    ศีลสัตย์แทบไม่จำ แต่น่าขำโคตรร่ำรวย

    ทำดีแทบเกือบตาย บางคนกลายได้ความซวย
    ยุติธรรมอ้างแก้ขวย ว่าที่รวยเพราะบุญเก่า
    เพราะทานไม่เคยทำ จึงต้องช้ำทนอับเฉา
    บ่ะ! คงเพราะบุญเก่า ตาเถรเฒ่าเทวทัต
    จึงเกิดตระกูลสูง ท่ามกลางกรุงวงศ์กษัตริย์
    ทำไมใยสอนขัด- แย้งชะมัดกันเหลือหลาย
    พูดจริงหน่อยครับท่าน วิชาการพูดทำไม?
    ข้อมูลอ้างเพื่อใคร? ชี้แจงให้ถูกต้องที...ฯ

    ประพันธ์เมื่อ...๒๙ กันยายน ๒๕๕๖ : ๑๗.๔๕ น.
    ณ บ้านเลขที่ ๓ หมู่ที่ ๑๐ บ้านโนนไทรทอง ตำบลแพด อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร...

    **********

    หมายเหตุ: ทบทวนความทรงจำบางอย่าง สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับนิทานปรัมปราทางพระพุทธศาสนา(เถรวาท) เรื่องเวสสันดรชาดก (ซึ่งมีเรื่องเล่าเอาไว้ใน ขุททกนิกาย ชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ (สำหรับชุดที่มี ๔๕ เล่ม) โดยผูกเรื่องในภาคภาษาบาลี เอาไว้เป็นบทร้อยกรอง หรือคาถา (คาถาในภาษาบาลี = เทียบได้กับบทกลอนต่าง ๆ) แบบสรุปประเด็นสำคัญบางส่วนเท่านั้น รายละเอียดทั้งหมดจะต้องไปเปิดอ่านดูเอาเองในคัมภีร์อรรถกถา ซึ่งเขียนเล่าเรื่องเอาไว้อย่างยืดยาว... ในบทสรุปชาดก (มีปรากฏเฉพาะในชั้นอรรถกถาลงมา) คร่าว ๆ ดังนี้ ....


    พระเวสสันดร กลับชาติมาเกิดเป็น พระพุทธเจ้า (สิทธัตถะ โคดม)
    พระนางมัทรี กลับชาติมาเกิดเป็น พระนางยโสธรา/พิมพา (พระชายาเจ้าชายสิทธัตถะ)
    ชาลีราชกุมาร กลับชาติมาเกิดเป็น พระราหุล (พระโอรสเจ้าชายสิทธัตถะ)
    กัณหาชินาราชกุมารี กลับชาติมาเกิดเป็น นางอุบลวรรณาเถรี
    พระเจ้ากรุงสญชัย กลับชาติมาเกิดเป็น พระเจ้าสุทโธทนะ(พระราชบิดาเจ้าชายสิทธัตถะ)
    พระนางผุสดี กลับชาติมาเกิดเป็น พระนางสิริมหามายา (พระราชมารดาเจ้าชายสิทธัตถะ)
    กษัตริย์มัทราช กลับชาติมาเกิดเป็น พระมหานามะเถระ
    นายนักการ กลับชาติมาเกิดเป็น พระอานนท์
    ช้างปัจจยนาเคนทร์ กลับชาติมาเกิดเป็น พระมหากัสสปะเถระ
    เวสสุกรรมเทพบุตร กลับชาติมาเกิดเป็น พระโมคคัลลานะเถระ
    พระอินทร์ กลับชาติมาเกิดเป็น พระอนุรุทธะเถระ
    อัจจุตฤาษี กลับชาติมาเกิดเป็น พระสารีบุตรเถระ
    พรานเจตบุตร กลับชาติมาเกิดเป็น พระฉันนะ
    พราหมณ์เฒ่าชูชก กลับชาติมาเกิดเป็น พระเทวทัต (สันนิษฐานกันว่าเป็นพระเชฏฐาของพระนางพิมพา/ ยโสธรา)
    นางอมิตตดา กลับชาติมาเกิดเป็น นางจิญจมาณวิกา

    ฯลฯ
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    ทดลองแต่งบ้าง...


    เพราะเขลามาส่วนหนึ่ง จึงเข้าถึงความเห็นผิด
    ว่าบุญบาปไม่มีฤทธิ์ ประสิทธิ์ผลในที่ใหน
    เพียงเห็นเขาชั่วไป กลับได้ดีมั่งมีเงิน
    ก็เพลินหลงเปรมปรี ว่าได้ดีเพราะกรรมชั่ว
    ตานี้ย่อมมืดมัว กลั้วตัณหาน่าเห็นใจ..
    ก็ตาของตนมัว จะโทษใครที่ใหนได้...
    ดูผิดคิดผิดไป เป็นนิสสัยบ่มสันดาน..
    เป็นความลำบากนาน แก้ไม่ได้บรรลัยเลย..

    ก็เหตุเก่านั้นมีอยู่ จึงพึงรู้โดยประมาณ
    แม้ผลก็ย่อมบาน มาแต่เหตุใช่อื่นไกล..
    เขาทำความชั่วใหม่ ผลที่ได้ย่อมแบ่งสรรค์
    ส่วนหนึ่งเพราะเพียรพลัน..ในปัจจุบัน ณ.กาเล
    ยังมีส่วนของเก่า ที่ทำำไว้แต่ปุพเพ
    ไฉนจึงไม่เห หันใจไปใส่พิจารณา..

    เหตุหนึ่งเพื่อผลหนึ่ง นั้นไม่มีในปรมัตถ์
    พระธรรมจำแนกอรรถ ด้วยปัจจัยมากมายหนา
    เเม้จิตคิดสงกา ในเรื่องนี้มีมานาน..
    สั่งสมมาแต่กาล.....นับไม่ถ้วน...ควรสลดใจ

    เหตุหนึ่ง...เพราะห่างมิตร เช่นบัณฑิตธรรมทั้งหลาย
    เหตุสอง ตนวางใจ...ไม่แยบคาย จึงมีได้แต่ปัญหา
    สะสมแต่สงกา ในสัญญาจนชำนาญ
    ทั้งยังคบแต่พาล ฟังคำเขาเฝ้าเห็นจริง..

    ควรแท้อย่าประวิง วิ่งหาธรรมนำสวัสดี
    สงสัยเป็นนิวรณ์ พาตนถอนจากสุขี
    เห็นผิดอยู่เช่นนี้ จะมีดีได้อย่างไร
    หิริโอตตัปปะ ก็ย่อมจะมีไม่ได้..
    พาตนไป chibหาย ใครก็ช่วยไม่ได้เอย..


    อ่านเอาเรื่อง...
    นิวรณ์ข้อวิจิกิจฉา (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B2-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AF.283810/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2013
  3. phodej

    phodej เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +300
    เผยเท็จ บังจริง

    เชื่อถูกแท้ตรงจริง แน่หรือ
    อาจแค่มิจฉาถือ ไว้มั่น
    สิ่งผิดต่อปากมือ มุสา
    สัมมาแท้ถูกคั่น ปิดไว้ บังปัญญา

    ประพันธ์เมื่อ...๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ : ๐๙.๐๔ น.

    ณ บ้านเลขที่ ๓ หมู่ที่ ๑๐ บ้านโนนไทรทอง ตำบลแพด อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร...
    ..........

    ผมไม่ได้ว่าใครหรอกนะ แต่อยากบอกว่า เท่าที่ผมรู้ (อย่าต้องถึงขนาดให้ผมระบุชื่อและตัวตนว่าใครบ้าง) พระที่มีความเป็นปาราชิก (หมดสภาพความเป็นพระแล้ว) ในเมืองไทยยังมีอีกเพรียบ ที่ไม่สมควรใช้ผ้ากาสาวพัสตร์ห่อกายหลอกลวงโลก (แล้วมาอ้างเอาบาปบุญหลอกหาเงิน หายศตำแหน่ง ฯลฯ แน่จริงสึกออกมาฟัดกันในคราบคฤหัสถ์สิ อย่าใช้ผ้าเหลืองเป็นเกราะกำบัง)...

    ลืมบอกไปอีกอย่างว่า พวกนี้ถ้าสึกออกมาจริงต้องยึดทรัพย์สมบัติในขณะครองสมณเพศให้หมด อย่าให้นำออกมาใช้เป็นทุนในคราบคฤหัสถ์เด็ดขาด รู้ไหมตอนผมสึกออกมา ถ้าผมสะสมทรัพย์สมบัติเอาไว้ตั้งแต่สมัยบวช เพื่อเอามาเป็นทุนตั้งตัว ผมไม่มาตกระกำลำบากอยู่อย่างนี้หรอก ขนาดหนังสือต่าง ๆ ที่ผมทิ้งไว้ตามวัดต่าง ๆ มันสามารถตั้งห้องสมุดย่อม ๆ ได้เลยแหละ สมัยบวชเงินที่ได้มาแทบไม่ได้นำมาหาความสุขใส่ตัวเองเลย ส่วนใหญ่หมดไปกับกิจการศาสนาทั้งนั้น (ทั้ง ๆ ที่หลายเรื่องไม่ใช่หน้าที่ของผมด้วยซ้ำ)... นี่ไม่ใช่เป็นการเกทับใคร (แต่ให้ไปถามพวกทิดซึ่งบวชมานาน ที่ลาสิกขาทั้งหมดในประเทศนี้ดู ว่ามีใครเอาทุนในคราบพระมาตั้งตัวกันบ้าง ? กล้าแฉตัวเองด้วยความจริงไหม ?)...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013
  4. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    ยิ่งมียศถา บรรดาศักดื์ โภคคะทรัพย์ศฤงคาร ยิ่งทำให้มอมเมาความสดวกสบาย สุดท้ายก็ต้องกลับมาโลกธรรม ไปไม่่ถึงโลกุตระ หวนให้คิดถึงครูบาอาจารย์สมัยครั้งก่อนเก่ามา ละทิ้งโลกธรรม ปลีกวิเวกออกไปหาสัจธรรมความจริงตามป่าเขา
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    ท่านจขกทพึงทราบสภาพธรรมที่แท้จริงที่ไม่มีใครหรืออะไรที่สามารถจะเข้าไปแก้ไขจัดการหรือปกป้องใครๆไม่ให้ทำชั่วหรือเห็นผิดใดๆได้ เพราะสังขารทั้งหลาย เกิดจากการปรุงแต่งของปัจจัยทั้งสิ้น..

    เหล่าพระทุศีลลวงโลกที่มีทั่วทุกหัวระแหงในประเทศนี้ก็มีด้วยความที่ตนได้กำลังบุญหนุนมาให้ได้บวชได้ห่มธงชัยของพระอรหันต์ แต่การบวชไม่ได้มีผลให้เขามีจิตที่ดี เพราะไม่ได้สดับ พระธรรมของพระพุทธเจ้า ... ทั้งตนสั่งสมสันดานโลภมาแน่นหนาจึงกระสันต์ในลาภสักการะ จึงอาศัยธงชัยพระอรหันต์ไปในการทำมิจฉาอาชีวะ ..ส่วนชนทั้งหลายผู้ไม่ได้สดับเช่นกันย่อมไม่ทราบ เหตุผลในการทำบุญที่ถูกต้อง ทั้งไม่สามารถแยกแยะว่าพระที่ดีและทุศีลนั้นเป็นอย่างไร จึงพากันหลงร่วมสนับสนุนกันและกันตามความเสมอกันแห่งธาตุ ...จึงพึงเข้าใจยอมรับว่า เขาก็มาด้วยกรรมของเขา เราเองก็จะไปตามกรรมของเรา แล้วอธิษฐานขอให้ตนมีปัญญาพ้นเสียจากความงมงายไร้เหตุผลทั้งปวงตลอดไป..

    เมื่อตนไม่ขวนขวายแสวงหาปัญญาในที่ที่ควร จะโทษใครที่ใหนกันเล่า?..ไม่มีใครรับผิดชอบใครได้จริง ตนเท่านั้นต้องพึ่งตน..พระพุทอธเจ้าทั้งหลายมีปรกติตรัสสอนไว้เช่นนี้....

    ส่วนความเห็นที่ดิ่งไปว่า ทำดีได้ดีมีที่ใหน ทำชั่วได้ดีมีถมไปนั้น หากใครมีอยู่ก็พึงทราบว่า ได้ตกไปแล้วจาก สัมมาทิฏฐิ เป็นผู้แหงนหน้าหาศาสดาในลัทธิอื่นไปนานแล้ว..ืีที่เขาจะได้ความชอบใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ ย่อมไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ แม้เกิดทีไรก็จะแสวงหาศาสดาที่มีคำสอนสอดคล้องกับทิฏฐิตนไปแล้วๆเล่าๆดุจนกที่ติดข่ายของนายพราน ดิ้นไม่หลุดฉะนั้น...

    ท่านจขกท เมื่อมีจิตเอื้อเฟื้อเกื้อกูลชนผู ้ไม่รู้ พึงขวนขวายศึกษาพระธรรมให้มากแล้วนำไปบอกสอนต่อชนในที่ต่างๆ พระธรรมนั้นเป็นปัจจัยแก่ปัญญา ปัญญาแรกที่ชาวพุทธควรมีคือ"สัมมาทิฏฐิ" หาไม่แล้วการพูด ทำแลคิดย่อมเสี่ยงต่อการเบี่ยงเบนไปสู่มิจฉามรรค ที่นำแต่ความเสื่อมมาสู่ตนและบริวาร..ดังที่ท่านจขกท ได้ประสบพบมาด้วยตนเองแล้ว ส่วนคุณความดีที่ท่านจขกท ทำไว้นั้น นับว่าเป็นอริยะทรัพย์ ที่ท่านพึงโสมนัสเมื่อระลึกถึง ท่านมีบุญมากที่คนจำนวนไม่มากสามารถทำได้เท่า..ทรัพย์นี้ย่อมไม่กลายเป็นโมฆะแม้เมื่อท่านต้องย้ายภพ แม้ข้าพเจ้าก็ขออนุโมทนาในกิจกุศลอันดีที่ท่านทำไว้แล้วด้วยปัญญาดีด้วยความเคารพครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...