เปิดโปงดวงตะวัน!! ศูนย์กลางระบบสุริยะ (โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Siani_3D, 5 เมษายน 2011.

  1. nongnai99

    nongnai99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +82
    อันนี้เห็นด้วยครับ แต่ขอบอกว่านักวิทยาศาสตร์ที่เก่งๆเค้าจินตนาการสูงทั้งนั้นเลยนะครับ เช่นนิวตัน ในสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องวัดแรงโน้มถ่วงที่กระทำกันระหว่างวัถตุต่อวัตถุ แต่สามารถคิดแคลคูลัสเพื่อพิสูจน์ทฤษฏาของเขา
    แต่มาวัดได้เอาจริงๆไม่รู้กี่ปีต่อจากนั้นแต่เค้าคิดถูก เพราะความคิดของเขาก็ออกมาจากจินตนาการ :cool:

    ผมว่าการคิดนอกกรอบไม่ผิดครับแต่ขอให้มีการคิดเป็นเหตุเป็นผลหรือพูดง่ายๆก็คือใช้จินตนาการอยู่ในหลักพื้นฐานของความเป็นไปได้

    ป.ล.ผมว่าจขกท.น่าจะเหมาะกับสายวิทย์นะครับ :cool:
     
  2. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ช่วยหา..

    ปรากฏการณ์ SUN DOG ที่ศรีสะเกษ..
    • View topic - เมื่อเช้าเห็นดวงอาทิตย์มีสามดวงครับ

    (ขอลงแต่ลิงค์ ไม่นำมาแปะนะคะ ให้เครดิตบอร์ดเขา)

    ส่วนอันนี้ที่เมือง ฉางชุง
    เมืองฉางชุนเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ "อาทิตย์ 3 ดวง"
    เมืองฉางชุนเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ "อาทิตย์ 3 ดวง" - china radio international
     
  3. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    ปรากฏการณ์ Sun dog นี้

    ภาษาไทย แปลว่า หมาพระอาทิตย์หรือครับ

    แหะๆ
     
  4. ระยับแดด

    ระยับแดด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +117
    มิราจ ภาพลวงตา
     
  5. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ชอบประโยคนี้ค่ะ จินตนาการบนพื้นฐานของความเป็นไปได้

    แต่ที่ยากก็คือการพิสูจน์หรือการทดลองทฤษฏี ซึ่งต้องใช้ทั้งเงินและเวลาบวกความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ด้วย คนทั่วไปที่ช่างสังเกต จึงได้แค่สงสัย คาดเดา และทดลองในความคิด

    นอกจากวันหนึ่งมีกลุ่มคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดังกล่าว นำความคิดหรือจินตนาการเหล่านั้นไปต่อยอด เพื่อการพิสูจน์หรือเพื่ออะไรบางอย่าง

    ตัวอย่างเช่น จูนส์ เวิร์น ได้รับการยกย่องเป็น "บิดาแห่งนิยายวิทยาศาสตร์" ที่พูดถึงเรื่องเรือดำน้ำตั้งแต่ยังไม่มีเรือดำน้ำ

    กล่าวกันว่า จินตนาการของจูนส์ เป็นการจุดประกายความคิดในการสร้างเรือที่สามารถดำดิ่งลงไปใต้ท้องทะเลที่เรียกว่า "เรือดำน้ำ" นับเป็นผู้เปิดโลกทัศน์แห่งความคิดในการประดิษฐ์เรือดำน้ำขึ้นมาอย่างแท้จริง

    หาได้น้อยนะ ที่นักจินตนาการกับนักวิทย์จะผนวกอยู่ในคนๆเดียวกัน แต่ก็ยังพอมีให้เห็น อย่างไอน์สไตน์ หรือ นิโคลา เทสลา ไง

    183ปีจูลส์เวิร์นบิดาแห่งนิยายวิทยาศาสตร์


    [​IMG][​IMG]

    คมชัดลึก : ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ผู้ใช้บริการเว็บไซต์กูเกิลดอทคอม อาจจะแปลกใจกับลูกเล่นใหม่ที่ปรากฏบนหน้าเว็บเพจแรกของกูเกิล ที่ได้จำลองคำว่า Google ให้เป็นช่องหน้าต่างของเรือดำน้ำ และมีจอยสติ๊กทางด้านขวามือให้ผู้ใช้ได้บังคับทิศทางเรือดำน้ำกูเกิลลำนี้ เพื่อชมทัศนียภาพใต้ท้องทะเลที่เวบไซต์เสิร์ชเอนจิ้นอันดับหนึ่งของโลกจำลอง ขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้สัมผัสและใช้จินตนาการต่อเนื่องถึงโลกใต้น้ำจริงๆ




    ลูกเล่นของกูเกิลนั้นเป็นการรำลึกถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ จูลส์ เวิร์น นักประพันธ์นิยายวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งประเทศฝรั่งเศส ที่ครบรอบ 183 ปีในปีนี้ ผลงานของจูลส์ เวิร์น ได้เปิดโลกทัศน์แก่นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรุ่นใหม่ในการคิดค้นเครื่องมือ เครื่องจักร ที่นำมนุษย์ไปสู่โลกที่อยู่ในจินตนาการ ทำให้จูลส์ เวิร์น ได้สมญานามว่า "บิดาแห่งนิยายวิทยาศาสตร์"


    ผลงานของจูลส์ เวิร์น เช่น ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ (Twenty Thousand Leagues Under the Sea) และผจญภัย 80 วันรอบโลก (Around the World in Eighty Days) ที่ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาในปี 2413 และ 2416 ตามลำดับ เป็นตัวจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเครื่องบิน บอลลูน และเรือดำน้ำ ของนักวิทยาศาสตร์ในสมัยต่อมา


    นอกจากนั้นผลงานชิ้นอื่นๆ ของจูลส์ เวิร์น ที่เน้นในเรื่องการผจญภัยในอวกาศ ใต้น้ำ และสถานที่แปลกๆ ต่างๆ ได้สอดแทรกความน่าตื่นเต้นของตัวละครได้สมจริง แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือการจุดประกายความคิดในการสร้างเรือที่สามารถดำดิ่งลง ไปใต้ท้องทะเล ที่เรียกว่าเรือดำน้ำ ซึ่งจูลส์ เวิร์น เป็นผู้เปิดโลกทัศน์แห่งความคิดในการประดิษฐ์เรือดำน้ำขึ้นมาอย่างแท้จริง จนปัจจุบันเราจึงได้เห็นเรือดำน้ำขนาดใหญ่ขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ มีพลประจำการนับพัน และเรือดำน้ำบางลำ เช่น "ทริเอสเต" ยังสามารถดำลึกลงไปใต้ท้องธารได้ถึง 10,916 เมตร ทั้งยังทนแรงกดดันกว่า 1,000 บาร์ (บาร์ :หน่วยวัดแรงดันบรรยากาศ) ได้อย่างสบายๆ


    อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นไม่ได้มีความสามารถเกินจินตนาการของผู้สร้างนั้นได้เลย ลองอ่านเรื่องใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ ที่จูลส์ เวิร์น เขียนเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้วสิ แล้วคุณจะทึ่ง
    <hr>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  6. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    แหม นายเบทร์ เก่งเลขเก่งวิทย์อย่างคุณ ยังทำเป็นถามอีกนะ :d
    แต่เอาเถอะ ป้าก็อยากรู้เหมือนกัน เขาว่างี้นะ

    Parhelion เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ Sun Dog ซึ่งแปลว่า "ข้างดวงอาทิตย์"

    ปรากฏการณ์ นี้ หากเกิดกับดวงจันทร์ จะเรียกว่า "มูนด๊อก" (Moon Dog) และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Paraselene หรือ Paraselenae (พหูพจน์ของ paraselene) มูนด๊อกจะหาดูได้ยากกว่า และจะเกิดได้เมื่อดวงจันทร์มีความสว่างมากเท่านั้น ซันด๊อกจะพบได้ง่ายในเขตหนาว เช่น ทวีปแอนตาร์คติค และ ทวีปอาร์คติค แต่ก็เกิดได้ในเขตร้อนเช่นกัน แม้แต่ในประเทศไทย

    เออ แล้วทำไมเรียก Sun Dog อ่ะ จะเปรียบว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกจูงอยู่ข้างๆของดวงอาทิตย์เหรอ? นายเบทร์ ช่วยตอบหน่อย.. :d

    (เกือบจะเรียกคุณนำหน้าชื่ออยู่แล้ว เบรคทัน เดี๋ยวได้กลายเป็นคุณนายเบทร์จะยุ่ง! 55)
     
  7. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    แหมผมไม่ได้เก่งอ่ะไรหรอกครับ อย่าชมผมเลย เด๋วลอยไปดวงจันทร์ ความรู้ผมก็แค่หมาตัวน้อยๆบนพระอาทิตย์ครับ แหะๆ

    หึหึหึ อยากเห็นนจังครับไอ้ซันด็อกเนี่ย

    ทำไมถึงเปรียบว่าสัตว์เลี้ยง หลังจากดูรูปแล้ว ผมเห็นว่าเจ้าหมาสามตัว เอ๊ย
    ดวงอาทิตย์สามดวง ดวงตรงกลางน่าจะเป็นดวงจริง ส่วนดวงข้างๆสองดวงน่าจะเป็นของปลอม

    เข้าสู่คำถามทำไมถึงเปรียบว่าสัตว์เลี้ยง ก็หลังจากดูรูปแล้วมันมีคล้ายเชื่อกที่คล้ายจะผูกให้ดวงอาทิตย์ตรงกลางจับไว้ระมังครับ
    มันก็คล้ายหมาที่ไปเดินเล่นกับเจ้าของ จะมีเชือกไว้ผูกคอหมาแล้วเดินตาม

    แล้วป้าคิดว่าไงครับ
     
  8. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    พอฟังขึ้นค่ะ ..
    ตอนนี้ป้าขอ "ว่ายังไงก็ว่าตามกัน" ไปก่อน
    คือ บางทีป้าก็เป็นโรคขี้เกียจคิดอ่ะนะ 55

    ขอบคุณที่สนทนาด้วยจ้า.. :d
     
  9. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    ความเห็นของผู้ตั้งกระทู้ ข้าพเจ้าขอคารวะสักสิบจอก:cool::cool:

    เรามั่นใจได้อย่างไรว่า จักรวาลที่ดำเนินและเป็นอยู่อย่างที่เราเห็นนี้ เป็นเช่นนั้นจริงๆ เราเชื่อระบบสมองกับระบบประสาทของเราได้แค่ไหน ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง

    เชื่อว่าบางท่านคงคุ้นเคยกับทฤษฎีสัมพัทธภาพและควอนตั้มเป็นอย่างดี ขอรื้อฟื้นทบทวนความจำตามประสารู้ไม่มากสักนิดหนึ่ง
    สัมพัทธภาพ จะกล่าวถึงเรื่อง ความเร็วแสง แรงโน้มถ่วง เวลา ระยะทาง และผู้สังเกตุการณ์ เชื่อไหมว่าเหล่าหัวกระทิทางฟิสิกส์ของโลกยอมรับว่า เวลาไม่มีอยู่จริง ระยะทางไม่มีอยู่จริง สุดท้ายเลยอาจทำให้สมองระเบิดได้ง่ายๆ คือ แม้แต่ความว่าง(space) ก็ไม่มีอยู่จริง เป็นไงครับ ปวดหมองดีไหม

    แต่ควอนตั้มซึ่งใหญ่ๆไม่ เล็กๆทำ เมื่อศึกษาถึงอนุภาพและคลื่นกลับพบว่า แสงเป็นได้ทั้งคลื่นและอนุภาค ตามแต่ผู้สังเกตุอยากจะเห็นเป็นเช่นใด โอย..... สมองจะบวมแล้ว และเด็ดกว่านั้น เราอาจบอกตำแหน่งของอนุภาคได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่อาจวัดความเร็วมันได้ กลับกัน เมื่อวัดความเร็วมันได้ แต่ดันบอกตำแหน่งมันไม่ได้ นี่ ยิ่งปวดหมอง
    ทั้งสองทฤษฎีล้วนค้านกับสามัญสำนึกของมนุษย์อย่างรุนแรง และเราไม่มีทางจะนึกสภาพเช่นนั้นออกได้ เพราะธรรมชาติมันก็เป็นอยู่ของมันอย่างนั้น แต่มนุษย์ดันไปอยากรู้มากๆเข้า เลยงงรับประทาน
    และอย่าลืมเป็นอันขาดว่า เราเรียนรู้ได้ตื้นเขินมากๆ ด้วยข้อจำกัดทางกายภาพของเรา หรือธรรมชาติคาดหวังให้เราเป็นเช่นนั้น

    ขอยกตัวอย่างเรื่องความจริงอีกเรื่อง ขออนุญาติท่านที่ดมกาว ขอพาดพิงหน่อยน่ะครับ
    ผมก็เคยได้ยินได้ฟังมาว่า เมื่อเสพทินเนอร์เข้าไปแล้ว โลกจะกลายไปเป็นอีกแบบหนึ่ง สามารถดึงดาว ดึงจันทร์ แม้แต่ตะวัน เข้ามาสู่อ้อมกอดได้ และในช่วงที่เป็นเช่นนั้น เขาเชื่อว่ามันเป็นความจริง
    นี่เป็นตัวอย่างเรื่องของการรับรู้ โดยมีจิตเป็นสำคัญ สมองประมวลผล ดังนั้นจิตสามารถหลอกสมองได้อย่างง่ายดาย(เอ..หรือว่าสมองหลอกจิต ชักจะเมาแล้วน่ะ)และเราก็เชื่ออย่างเป็นตุเป็นตะมาเช่นนั้น ตั้งแต่เกิดเลยหล่ะ
    ดังนั้น ระยะทางจาก 93 ล้านไมล์ เหลือ 8 ไมล์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะสัมพัทธภาพบอกไว้เองว่า ระยะทาง ไม่มีอยู่จริง
     
  10. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    อ้างอิงจากข้อมูลที่ว่า
    "2 สตราโทสเฟียร์ (stratosphere)

    เป็น ชั้นที่มีเสถียรภาพต่ำสุด มีความสูงตั้งแต่ 15-50 กม. อุณหภูมิในระดับล่างของชั้นนี้จะคงที่จนถึงระดับความสูง 20 กม. จากนั้นอุณหภูมิจะค่อยๆสูงขึ้น เป็นชั้นที่เครื่องบินใช้ บินเพราะไม่มีความแปรปรวนของสภาพอากาศและเครื่องบินทั้งหมดที่บินในชั้นจะนี้จะเป็นเครื่องบินไอพ่น"

    .....อืม ไม่เห็นนักบินทั้งหลาย รายงายเลยว่าพบดวงอาทิตย์ใต้เครื่องบิน หรือ พบว่าเครื่องบิน บินลอยอยู่เหนือพระอาทิตย์นะ....
    ......แต่ท่าน จขกท เป็นผู้ช่างสังเกตดี ขอชื่นชมครับ
    ปรากฎการณ์บางอย่าง ก็เป็นปรากฎการณ์สะท้อนของแสง ทำให้เห็นเป็นภาพใกล้ๆ ด้งเช่น "รุ้งกินน้ำ" เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  11. nongnai99

    nongnai99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +82
    ขอบคุณมากเลยครับสำหรับข้อมูลดีๆ :cool:
     
  12. lite

    lite สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +21
    ขับเครื่องบินระวังชนดวงอาทิตย์นะคะ (deejai)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  13. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    ชอบมากๆ เลยครับที่ว่า

    "สัมพัทธภาพ จะกล่าวถึงเรื่อง ความเร็วแสง แรงโน้มถ่วง เวลา ระยะทาง และผู้สังเกตุการณ์ เชื่อไหมว่าเหล่าหัวกระทิทางฟิสิกส์ของโลกยอมรับว่า เวลาไม่มีอยู่จริง ระยะทางไม่มีอยู่จริง สุดท้ายเลยอาจทำให้สมองระเบิดได้ง่ายๆ คือ แม้แต่ความว่าง(space) ก็ไม่มีอยู่จริง เป็นไงครับ ปวดหมองดีไหม









    ต้องให้นักคิด ผู้นั้น วิ่งรอบสนามฟุตบอลสัก 30 รอบตอนเที่ยงๆแดดเปรี้ยงๆแบบไทยๆ

    ถ้าเขาล้มลงตรงไหน ก็ไปบอกเขาว่า ระยะทางไม่มีจริง ความเหยื่อยของท่านยอมไม่มีจริง ทุกสรรพสิ่งล้วนสมมติขึ้นมา ท่านจงลุกขึ้น บัดเดี๋ยวนี้แล้ว วิ่งต่อไปเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2011
  14. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    ตามสัมพันธภาพที่ผมได้ยินได้ฟังมานั้น
    ไม่ได้กล่าวว่า เวลา ระยะทาง ไม่มีอยู่จริง
    แต่ได้กล่าวว่า ไม่มีเวลา ระทาง ที่เป็นสากลเท่านั้นเองครับ

    ดังนั้น เวลา ระยะทางมีอยู่จริง แต่ไม่เท่ากันนั้นเอง

    ความคิดส่วนตัวของผม
     
  15. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    จากคำอธิบายของไอน์สไตน์..

    ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษ


    "วางมือบนเตาร้อนเพียงหนึ่งนาที
    รู้สึกราวกับนานเป็นชั่วโมง
    นั่งกับสาวงามนานหนึ่งชั่วโมง
    กลับรู้สึกเหมือนแค่หนึ่งนาที
    นี่แหละสัมพัทธภาพ"

    "Put your hand on a hot stove for a minute,
    and it seems like an hour.
    Sit with a pretty girl for an hour,
    and it seems like a minute.
    That's relativity "


    ระยะทางและเวลาขึ้นอยู่กับผู้สังเกต

    -----------------------------------------------------------------------

    + เรื่องเล่าออกแนวขำๆ จากหนังสือ คุรุวิพากษ์คุรุ

    แซมมี่น้อยเล่าให้ปู่ของเขาฟังถึงนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และทฤษฎีสัมพันธภาพ

    "ทฤษฎีนี้กล่าวว่าอะไรล่ะ?" ปู่ถาม

    "ครูบอกว่า มีแค่ไม่กี่คนในโลกนี้ที่จะเข้าใจได้" เด็กชายอธิบาย
    "แล้วครูก็บอกเราว่า มันหมายถึงอะไร สัมพันธภาพเป็นอย่างนี้ครับปู่ ถ้าคนคนหนึ่งนั่งอยู่กับสาวสวยหนึ่งชั่วโมง จะรู้สึกเหมือนหนึ่งนาที แต่ถ้าเขานั่งอยู่บนเตาร้อนๆนานหนึ่งนาที จะรู้สึกเหมือนหนึ่งชั่วโมง นั่นคือ ทฤษฎีสัมพันธภาพ"

    "ปู่นิ่งเงียบ และค่อยๆ ส่ายหน้าช้าๆ "แซมมี่" ปู่พูดเบาๆ "แค่นี้ไอน์สไตน์ของเจ้าก็ทำมาหากินได้แล้วหรือ"


    คนเราเข้าใจสิ่งต่างๆ ตามระดับจิตสำนึกของตัวเอง


    -----------------------------------------------------------------------

    จาก “ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น” นายแพทย์สม สุจิรา

    ถ้าวิ่งเร็วกว่าแสงจะสามารถย้อนเวลาได้ ไม่มีอะไรเร็วกว่าแสง
    ยกเว้นจิต ถ้าฝึกจิตมาดีจะอยู่เหนือกาลเวลา


    อ่านประกอบกับเรื่อง "จิตทั้งเจ็ด" จากลิงค์ล่าง
    ปัญหาที่ ๒ ถามถึงความเป็น พระสัพพัญญูของพระพุทธเจ้า (เมณฑกปัญหา วรรคที่ ๑)

    จิตของพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    จิตดวง ที่ ๗ ได้แก่จิตของพระสัพพัญญูพุทธเจ้า ผู้ทรงทศพลญาณ จตุเวสารัชชญาณ ประกอบด้วยพุทธธรรม ๑๘ ชนะไม่มีที่สิ้นสุด มีญานไม่มีที่สิ้นสุด ย่อมเกิดรวดเร็วเป็นไปรวดเร็วในสิ่งทั้งปวงเพราะจิตบริสุทธิ์ในสิ่งทั้งปวง แล้ว
    " ขอถวายพระพร ลูกศรที่ไม่มีข้อ มีปมที่เกลี้ยงเกลา ไม่มัวหมอง อันนายธนูยกขึ้นสู่แล่งธนู อันไม่คดโก่ง อันเลี่ยงสุขุมเป็นอันดีแล้วยิงไปที่ผ้าฝ้าย หรือผ้ากัมพลเนื้อละเอียด ลูกศรนั้นจะทะลุไปได้ช้า หรือว่าจะข้องอยู่ที่ผ้าประการใด ? "
    " อ๋อ...ไม่ช้า พระผู้เป็นเจ้า ลูกศรนั้นต้องทะลุไปได้อย่างรวดเร็ว"
    " ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร ความคิดของพระสัพพัญญูพุทธเจ้า ก็ทะลุปรุโปร่งไปในสิ่งทั้งปวงได้รวดเร็วฉะนั้น
    ขอถวายพระพร จิตของพระสัพพัญญูพุทธเจ้า ได้ล่วงเลยจิตทั้ง ๖ ไปแล้ว จึงเป็นจิตบริสุทธิ์ เป็นจิตรวดเร็ว เป็นจิตหาเครื่องเปรียบมิได้ ด้วยคุณอันคณานับมิได้ เพราะเหตุที่จิตของพระพุทธเจ้า เป็นจิตบริสุทธิ์รวดเร็วนั่นเอง พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ได้ จิตของพระพุทธเจ้าในเวลาทรงทำยมกปาฏิหาริย์นั้น เป็นไปรวดเร็วนักไม่มีใครอาจชี้เหตุการณ์ได้ มหาบพิตร ปาฏิหาริย์เหล่านั้น เมื่อเทียบกับจิตของพระสัพพัญญูทั้งหลายแล้ว ยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่ง เพราะพระสัพพัญญุตญาณของพระพุทธเจ้า เนื่องด้วยการนึกด้วยจิตนั้น พอนึกก็รู้ได้ตามประสงค์"

    -----------------------------------------------------------------------

    สรุปเป็นทฤษฎีส่วนตัว หรือความเห็นส่วนตัวขณะนี้ว่า..

    ระยะทางและเวลาขึ้นอยู่กับผู้สังเกต ซึ่งผู้สังเกตแต่ละคนก็มีระดับความเข้าใจในสิ่งต่างๆ ตามระดับจิตสำนึกหรือการมองเห็นของตนเอง และผู้สังเกตที่จิตฝึกมาดีแล้ว จิตจะอยู่เหนือกาลเวลา


    วิทย์สมองปนวิทย์จิตเลย... 55
     
  16. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    [​IMG]


    วันนี้ผมเห็นแบบนี้ครับ แต่ยิ่งกว่านี้อีก เหมือนมีอะไรบางอย่างลอยออกจากต่างหากจากจุดที่สว่างที่สุด และเป็นดวงที่มีความคมชัดแต่ไม่เหลื่อมตา

    ข้อสันนิษฐาน
    น่าจะเกิดจากการหักเหของลำแสง หรือไม่ก็เกี่ยวกับเมฆ ครับ

    เหมือนเวลาที่เรามองลงไปในสระว่ายน้ำใสๆ ดูแล้วตื้นเขิน นั่นเพราะว่าภาพหักเห ในลักษณะของภาพจากมุมบน(เรายืนดูบนผิวน้ำ)

    แต่ในกรณีเห็นดวงอาทิตย์เหมือนมีอีกดวงที่คมชัดดังกล่าวมา น่าจะเกิดจากชั้นบรรยากาศเข้ามาเกี่ยวข้องครับจึงทำให้เหมือนมีดวงอาทิตย์จากภาพมุมล่าง(มองจากข้างล่างขึ้นข้างบน) หรือจะจินตนาการหลุดโลกไปก็ว่าเป็นยานอวกาศไม่ให้เราเห็นเพื่อพรางตา แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นบนพื้นโลกย่อมต้องมีสักแห่งที่จุดเงามืดของยาน

    พักนี้ฝันเห็นแต่ยานอวกาศเหมือนในคลิปที่เป็นเมฆกลมๆใหญ่ๆ แต่มีสีแดงคล้ายกับการเสียดสีของชั้นบรรยากาศน่ากลัว แล้วก็มียานเล็กๆเต็มไปหมด ลอยเหนืออยู่บนบึงในเมืองไทยนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าที่ไหน เห็นมีวัดไทยด้วย มันแปลกจนต้องบอกก็เพราะว่ามันฝันอย่างนี้มา 4 ครั้งแล้วครับ อ่อ..อีกลำพอเข้ามาในชั้นบรรยากาศแล้วมีท้องยานมันใหญ่มาก มีสัญลักษณ์ม้วนๆ ...สงสัยจะอ่านเว็บพลังจิตมาไปหน่อยเก็บเอาไปฝันซะนี่ (ฮา)
     
  17. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    วันนี้แวะไปเข้าเรียนมาแล้วค่ะ เอาลิงค์มาแปะไว้ด้วย
    http://www.rmutphysics.com/CHARUD/oldnews/231/Light1.htm

    พูดถึงเรื่องแสง นึกถึงเพลงนี้เลย..

    แสงหนึ่งคือรุ้งงาม

    โดย บอย โกสิยพงษ์


    รู้ไหมว่าเราซาบซึ้งใจแค่ไหน
    และรู้ไหมว่าเรานั้น ปลาบปลื้มเท่าไหร่
    ที่ได้มีเธอ เป็นพลังอันสำคัญ
    เพราะว่าเรานั้นรู้เธอทำเพื่อใคร
    เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน เธอไม่ไหวหวั่น
    เพื่อที่จะให้เรานั้นได้เดินต่อไป

    แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
    แต่ว่าสำหรับเรานั้น...

    เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
    แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
    ก็เด่นชัดขึ้นทันที
    เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
    แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
    ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด

    ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นเช่นไร
    วันและคืนจะหมุนเปลี่ยนสักเท่าไหร่
    เรานั้นก็แน่ใจ ว่าจะมีเธอยืนอยู่ข้างหลัง

    แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
    แต่สำหรับเรานั้น...

    เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
    แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
    ก็เด่นชัดขึ้นทันที
    เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
    แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
    ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด

    จึงอยากขอมอบเพลง เพลงนี้ให้
    ให้เธอรับรู้ว่าสำหรับเรา เธอสำคัญเพียงไหน

    เธอเป็นดั่งแสง ที่มองไม่เห็น
    แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
    ก็เด่นชัดขึ้นทันที
    เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
    แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
    ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
    แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
    ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด

    ฟังและอ่านความเป็นมาโดยย่อได้ที่..

    http://www.thaibizsoftware.com/index.asp?catid=1&contentID=10000004&getarticle=49&title=%93%E1%CA%A7%CB%B9%D6%E8%A7%A4%D7%CD%C3%D8%E9%A7%A7%D2%C1%94
     
  18. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ไม่อยากจะบอกเลยว่า.. เคยคิดเหมือนกัน --'

    เห็นชัดๆว่า ก้อนเมฆอยู่หลังดวงอาทิตย์ บางค่ำคืนก็เห็นก้อนเมฆอยู่หลังดวงจันทร์ แต่พอนึกถึงคำสอนในห้องเรียน ที่บอกว่า ดวงอาทิตย์อยู่ไกลโลกมาก จึงได้ตัดความสงสัยนั้นไป.. ไม่อยากจะคิดมากอะไร!

    พอได้อ่านกระทู้นี้ เริ่มคิดอีกแย้ว ^^
     
  19. bask55

    bask55 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    แค่ส่วนเมฆหนาเมฆบางนิ : )
     
  20. saisiam

    saisiam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +14
    ไม่ใช่ว่าดวงอาทิตย์สว่างมาก เลยทำให้แสงของมัน กลบเมฆที่มาใกล้มากๆ หรอกหรอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...