ปิดรับบริจาค เชิญร่วมงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัยปี2556และเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระสงฆ์ 100 รูป

แยกจิตออกจากกาย (พรครูบาเหนือชัย โฆสิโต)

​

ปฏิบัติการด้วยการแยกจิตออกจากกาย

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ขณะที่กำลังนั่งสมาธิบนโขดหินโดยอธิษฐานว่า “จะขอนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าจะบรรลุธรรม แม้ตายก็จะไม่ลุกจากที่นี่” นั่งนิ่งอยู่ 15 วัน จนผึ้งมาเกาะทำรังตามเนื้อตัว รู้สึกเจ็บจึงพยายามแยกความรู้สึกของกายออกจากจิต มาบวชนี้ก็ต้องการความพ้นทุกข์แล้ว เจ้ากรรมนายเวรอยู่ที่ไหนก็แห่กันมาเลย มาเอาไปเลยทั้งต้นทั้งดอก สักพักมาจากไหนไม่รู้ มาตอมเลย กระดุกกระดิดฟุ้งซ่านมันต่อยเอา เอ้า!บทไหนก็จะตายแล้ว ปวดๆ เมื่อยๆ ไปหมดเลย กระดูกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ลุกก็ลุกไม่ได้ผึ้งตอมอารมณ์ใจเวลาคนธาตุขันธ์จะแตก เขาเรียกว่ายางคางคกมันออก เขาเรียกคราวตาย ตาฝ้าฟางเสลดจุกติดคอหายใจไม่ออก กระดูกกระเดี้ยวคาถาบทไหนก็เอาไม่อยู่ จะตายแล้ว ชินบัญชรก็เอาไม่อยู่ อิติปิโสก็เอาไม่อยู่ บทไหนๆ ก็ไม่อยู่แล้ว ตายแน่ๆ ก็เลยภาวนาบทหายใจเข้าตายแน่ หายใจออกตายแน่ แม้กายจะเจ็บแต่จิตนิ่งใสสว่าง ความเจ็บก็ทุเลาลง นั่งจนหมดสติไป ในฝันได้เห็น “หลวงปูเกษม” ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง มาบอกว่า นี่คือการเข้านิโรธสมาบัติ แยกจิตกับกาย และให้หมั่นเพียร นั่งสมาธิ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการบรรลุธรรม

เมื่อแยกจิตออกจากกายได้แล้ว ให้แยกจิตออกจากเวทนา แรกๆ มันไม่อยากจะแยกออกจากเวทนา เพราะมันเป็นเพื่อนก่ากันมาหลายภพหลายชาติ เวทนามีทั้งทุกข์และสุข แต่จิตต้องการความสุข เมื่อมีความสุขก็ดีใจ เมื่อเจอความทุกข์ก็โวยวาย ต้องเอาจิตคบกับเพื่อนใหม่ เพื่อนใหม่ของจิตนั้นคือสมาธิ แรกๆ ไม่อยากจะคบหรอก เพราะสมาธิมันหยุด มันนิ่ง มันสงบ ไม่อยากจะคบ เพราะไม่เคยคบ คบแต่เวทนา

ทีนี้เมื่อใจหยุด ใจนิ่ง เมื่อนิ่งได้ 10 วินาที ก็สงบ เมื่อสงบได้ 2 นาทีก็เป็นสมาธิ เป็นสมาธิได้ 2 ชั่วโมงก็เป็นสมาบัติ พอเป็นสมาบัติ 3 วัน ขึ้นไปก็เป็นนิโรธสมาบัติ เมื่อเป็นนิโรธสมาบัติเสร็จแล้วก็เข้าสู่วิมุตติ หลุดออกจากโลกธรรม 8 หลุด ออกจากกาย ขันธ์ 5 เข้าสู่วิมุตติญาณทัสสนะญาณรู้ทัสสนะตัวเองก็พบเชาว์พระนิพพาน เชาว์พระนิพพานมีพระวรกายเหมือนพระประธานเป็นกายแก้ว เมื่อเข้ามาใกล้ๆ เราแล้วนี่เป็นกายที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ เป็นพระสงฆ์องค์เจ้าเต็มไปหมด หัวเราะชอบใจเสร็จแล้วค่อยๆ เดินห่างไปกลายเป็นกายแก้วทีละองค์ๆ เต็มป่าเต็มเขาไปหมด

​

อนุโมทนาที่มา : https://www.facebook.com/notes/ข้าพระพุทธเจ้าฯ-พระขี่ม้าบิณฑบาตร/แยกจิตออกจากกาย/136899099785581

 

อานิสงส์ถวายภัตตาหาร

​

ทุกชีวิตที่เกิดขึ้นมา มีจุดสุดท้ายที่เหมือนกัน คือ ล้วนบ่ายหน้าไปสู่ความตาย ความตายนั้นติดตัวเรามาพร้อมๆ กับการลืมตาขึ้นมาดูโลก บัณฑิตนักปราชญ์ผู้มีปัญญาจะมองเห็นว่า ความตายไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แต่เป็นเครื่องเตือนสติไม่ให้ประมาทมัวเมาในชีวิต จะได้ดำรงตนให้เหมาะสมกับการเกิดมาเป็นมนุษย์ เมื่อทราบว่า ไม่สามารถที่จะพ้นจากพญามัจจุราชไปได้ ก็ตั้งใจสร้างบุญบารมีอย่างเต็มที่

เมื่อถึงเวลาที่จะละจากโลกนี้ไป ก็จากไปอย่างไม่สะทกสะท้าน เพียงแต่ย้ายที่อยู่ที่ทำงานใหม่ ไปสู่ภพภูมิที่เหมาะสม กับบุญบารมีที่ได้ทำเอาไว้ เสวยผลบุญรอเวลาที่จะมาสร้างบารมีต่อไปในโลกมนุษย์ สร้างบารมีไปจนกว่าจะสามารถขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปได้ เมื่อนั้นก็จะหลุดพ้นจากพญามัจจุราช ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

มีวาระแห่งภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน อันนสังสาวกเถราปทาน ความว่า

“เรามีปีติอย่างยิ่ง เพราะได้เห็นพระสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระฉวีวรรณดั่งทองคำพระนามว่าสิทธัตถะ เสด็จดำเนินอยู่ในระหว่างชุมชน มีพระลักษณะประเสริฐ ๓๒ ประการ ดังดวงประทีปส่องโลกให้โชติช่วงหาประมาณมิได้ ไม่มีใครเปรียบ ทรงฝึกพระองค์แล้ว ยังความรุ่งเรืองให้ปรากฏ เราถวายอภิวาทพระสัมพุทธเจ้า นิมนต์พระองค์ผู้เป็นมหามุนีให้เสวยภัตตาหาร พระมุนีผู้ประกอบด้วยมหากรุณาในโลก ทรงอนุโมทนาแก่เราในกาลนั้น เรายังจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ผู้ทรงพระมหากรุณาพระองค์นั้น ทำความแช่มชื่นเบิกบานแล้ว ได้บันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดหนึ่งกัป ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ถวายทานใดในเวลานั้น ด้วยผลแห่งทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายภัตตาหาร”

นี้เป็นคำกล่าวของพระเถระรูปหนึ่ง ที่ท่านบรรลุพระอรหันต์แล้วได้ระลึกถึงบุพกรรมที่ได้สร้างเอาไว้ในอดีต ท่านประกาศบุพกรรมท่ามกลางมหาชน ทำให้สาธุชนทั้งหลายต่างก็เชื่อมั่นในผลแห่งกรรมว่า ผลบุญนี้มีอานิสงส์ไม่มีประมาณ

การถวายทาน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตของทุกๆ คน เพราะเราเกิดมาในโลกนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยปัจจัยสี่ในการดำรงชีพ คือ ต้องมีอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ในแต่ละภพแต่ละชาติที่ทุกๆ คนเกิดมา จะมีบุญเก่าคอยหล่อเลี้ยง หากใครก็ตามที่ได้สร้างมหาทานบารมีเอาไว้มาก การเกิดขึ้นของปัจจัยสี่ก็สะดวกสบายเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย

พระเถระรูปนี้นับว่าท่านเป็นผู้ที่มีบุญเก่าสั่งสมมาดี เพราะท่านได้มองย้อนไปดูประวัติในแต่ละภพแต่ละชาติ ทำให้ทราบว่า ท่านเป็นผู้ที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา และได้บำเพ็ญบุญไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ อันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมาหลายภพหลายชาติ ทำให้บุญที่สั่งสมเอาไว้ส่งผลให้เจริญรุ่งเรือง เป็นบุญต่อบุญ สมบัติต่อสมบัติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเกิดในยุคใดก็ตาม ท่านก็มีโอกาสสร้างบุญทุกๆ ครั้งตามกำลังและสภาวะของตนในภพชาตินั้นๆ

* แม้ในสมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ท่านได้บังเกิดในตระกูลหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่ทราบถึงการเสด็จอุบัติขึ้นของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ใช้ชีวิตเยี่ยงชาวโลกทั่วๆ ไป โดยไม่ได้สร้างบุญอะไรเป็นพิเศษ แต่อานุภาพแห่งบุญที่ท่านเคยทำต่อเนื่องกันมาหลายชาติ ได้ส่งผลให้ตัวท่านเป็นผู้มีจิตเมตตา อ่อนโยนกับทุกๆ คน ไม่เป็นคนตระหนี่และไร้น้ำใจแต่อย่างใด

วันหนึ่ง เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริก ผ่านไปยังเมืองที่กุลบุตรท่านนี้อาศัยอยู่ กุลบุตรผู้ใจบุญเมื่อเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้งดงามด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ และมณฑลแห่งพระรัศมีด้านละวา กำลังเสด็จบิณฑบาตอยู่ ก็มีจิตเลื่อมใส คิดในใจทันทีว่า

สมณะรูปนี้งดงามน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ต้องเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงคุณอันประเสริฐเป็นแน่แท้ เป็นบุญลาภของเราแล้วหนอที่จะได้สร้างบุญใหญกับพระพุทธองค์ เมื่อดำริอย่างนี้ก็ก้มลงกราบพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมกับอาราธนาพระพุทธองค์ว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงอนุเคราะห์ข้าพระองค์ด้วยเถิด ข้าพระองค์ปรารถนาที่จะได้บุญใหญ่ โอกาสที่พระองค์จะผ่านมาทางนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายเลย ข้าพระองค์อยากจะถวายภัตตาหารอันควรแก่สมณบริโภค ขอพระพุทธองค์ทรงรับอาราธนาด้วยเถิด” พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงรับด้วยอาการดุษณี

กุลบุตรท่านนี้ดีใจมาก เชื้อเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้าไปที่บ้าน แล้วน้อมถวายภัตตาหารมีรสเลิศ ยังพระศาสดาให้บริโภคอิ่มหนำสำราญด้วยข้าวและน้ำอันประณี ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นผ่านไป การถวายภัตตาหารในครั้งนั้น ได้ประทับอยู่ในใจของกุลบุตรนั้นมาตลอดเวลา ด้วยอานุภาพแห่งการถวายภัตตาหารด้วยจิตที่เลื่อมใสอย่างไม่มีประมาณนั้น หลังจากที่ละโลกนี้ไป ทำให้ท่านไปบังเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติอันโอฬารอย่างยาวนาน เวียนวนอยู่ในเทวโลกกับมนุษยโลกหลายภพหลายชาติทีเดียว

จนกระทั่งมาถึงสมัยพุทธกาลในยุคของเรานี้ ท่านได้บังเกิดในตระกูลหนึ่ง ในยุคนั้น พระสัทธรรมกำลังรุ่งเรือง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ส่งพระสาวกไปประกาศพระศาสนายังแว่นแคว้นต่างๆ ทั่วชมพูทวีป แม้แต่พระพุทธองค์เองก็เสด็จจาริกไปตามเมืองต่างๆ เพื่อประกาศพระสัทธรรมเช่นกัน มนุษย์และเทวดาทั้งหลายที่มีโอกาสได้ฟังธรรมก็ได้บรรลุธรรม ตามกำลังบุญของตนเป็นจำนวนมาก กุลบุตรผู้มีบุญนี้ก็มีโอกาสได้ฟังธรรม และเกิดความเลื่อมใสอย่างยิ่ง กอปรกับบุญเก่าส่งหนุนนำให้ได้คิดว่า

การใช้ชีวิตฆราวาสนั้น เป็นชีวิตที่คับแคบ ไม่เป็นอิสระจากอาสวกิเลสทั้งหลาย ตัวเราเองเป็นผู้ที่มีโอกาสดี ที่ได้เกิดมาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราไม่ควรที่จะปล่อยโอกาสดีๆ ให้ผ่านไป ควรที่เราจะหาโอกาสปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ ท่านจึงตัดสินใจออกบวช เรียนกรรมฐานแล้วก็ตั้งใจปฏิบัติธรรม บุญในตัวที่ได้สั่งสมมาดี ได้ส่งผลให้ท่านเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมได้อย่างสะดวกสบาย สามารถเจริญวิปัสสนาจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ในเวลาไม่นานนัก ด้วยอานุภาพบุญเก่าที่ได้สร้างมหาทานบารมีนั้น จึงทำให้ท่านปรากฏนามว่า อันนสังสาวกเถระ คือ ผู้สมปรารถนาด้วยอำนาจแห่งบุญที่ตนทำไว้ในกาลก่อน

ต่อมาภายหลัง ท่านได้ระลึกถึงบุพกรรมของตน ได้เห็นภาพแห่งการสร้างบารมีที่ผ่านมาจึงเกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน คือเรื่องราวการสร้างบารมี ที่ตนเองได้สั่งสมไว้ในกาลก่อน จึงเปล่งอุทานว่า “เราบรรลุพระอรหัตด้วยอานุภาพแห่งบุญ คือ การถวายภัตตาหารในกาลนั้น อานุภาพบุญนี้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ได้ตามส่งผลให้เราหลายภพหลายชาติ คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ผู้ใคร่ในบุญทั้งหลาย พึงทำบุญอย่าได้ประมาทในการสร้างบุญ คือ การถวายภัตตาหารเลย

นี่คือเรื่องราวการสร้างบารมีของพระอรหันตเถระผู้ทรงคุณวิเศษ ท่านได้ยืนยันในการสร้างบารมีว่า ใครทำบุญไว้ดีแล้ว ผลบุญที่บังเกิดขึ้นจะบันดาลให้สำเร็จสมปรารถนาในชีวิต ได้บรรลุจุดหมายปลายทางคือมรรคผลนิพพานอย่างแน่นอน และบุญจะคอยคํ้าจุนให้เราได้พบเจอแต่สิ่งที่ดีงามตลอดชีวิต

ดังนั้น พวกเราทุกคนไม่ควรที่จะมองข้ามมหากุศลจากการถวายสังฆทาน เพราะพระพุทธองค์ตรัสว่า พระราชาเป็นประมุขของพสกนิกร สมุทรสาครเป็นประมุขของแม่น้ำทุกสาย ดวงจันทร์ฉาย สว่างไสวกว่าหมู่ดาวในท้องนภากาศ ดวงภาณุมาศเป็นเลิศกว่าบรรดาวัตถุธาตุที่นำความร้อนทั้งหมด ส่วนพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นประมุขของทายกผู้หวังบุญ พระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศของโลก เป็นบุญเขตที่พวกเราทั้งหลายควรจะตักตวงเอาบุญให้ได้เต็มที่ ด้วยการไปถวายภัตตาหารที่วัดใกล้บ้านของเรา นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นการให้กำลังใจท่านในการประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำความบริสุทธิ์ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป บุญนี้จะได้ติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติตราบกระทั่งเข้าสู่พระนิพพาน

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๑๐๑

 

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกเพียง 3 วันเท่านั้นนะค่ะ ที่จะถึงงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต ท่านใดที่ประสงค์จะสร้างบุญใหญ่ร่วมกัน กราบเรียนเชิญค่ะ ยอดปัจจัยรวมนับถึงวันที่ 14 มกราคม 2556 รวมทั้งสิ้น 81,998 บาท (ไม่นับยอดรวมของวันนี้)ถวายปัจจัยเป็นค่าภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ 50,100 บาท ร่วมบุญโรงทานบุญร่ำรวย 5,000 บาท รวมปัจจัยที่ถวายไปก่อนหน้านี้แล้ว 55,100 บาท เหลือยอดปัจจัย 26,890 บาท

ปัจจัยที่เหลือจะนำไปร่วมทำบุญในวันออกนิโรธกรรมของท่านพระครูบาเหนือชัย โฆสิโตดังนี้
1. ตักบาตรพระครูบาเหนือชัย
2. ถวายมหาสังฆทาน
3. ถวายปัจจัยร่วมซื้อที่ดิน
4. ถวายปัจจัยสร้างพระไพรีพินาศ
5. ซื้อผ้าคลุม 20 ผืน สำหรับพระอริยสงฆ์
6. ถวายปัจจัยพระภิกษุสงฆ์ (บางส่วน)
7. ปัจจัยที่เหลือทั้งหมด น้อมถวายพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต ทุกทาททุกสตางค์ ในวันท่านออกนิโรธกรรมค่ะ

 

ขอร่วมบุญงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัย ปี 2556และร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ 100 รูป วันที่ 19 ม.ค.2556 จำนวน 100 บาท
อนุโมทนาสาธุ
โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบ​

 

โอนเรียบร้อยค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ ๆ​

 

โอนแล้วค่ะคุณเจน 200 บาท มีผู้ร่วมบุญดังนี้

1.คุณส้มลิ้ม เ่ผ่าสวัสดิ์ 100 บาท
2. peerakul 100 บาท

อนุโมทนา สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุๆๆ กับคุณ ชมพูอุษมัน ด้วยค่ะ ที่ท่านร่วมบุญมา 50 บาท เดี๋ยวรวมยอดไปก่อนเลยค่ะ จำได้ค่ะวันที่ 17 ^_^ อนุโมทนาสาธุด้วยกับท่านค่ะ

อนุโมทนาสาธุกับคุณคุณเปรมาพัชร์ กันฑษา ด้วยค่ะที่่ท่านร่วมบุญมา 100 บาท สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

อนุโมทนาสาธุกับคุณส้มลิ้ม เ่ผ่าสวัสดิ์ และคุณ peerakul สายบุญจากพิจิตร ร่วมบุญมารวม 200 บาท อนุโมทนาสาธุกับทั้งสองท่านด้วยค่ะ

นอกจากนี้ยังมียอดเงินเข้ามา ณ วันที่ 15 มกราคม 2556 ที่ยังไม่แจ้งชื่อหรือท่านไม่ประสงค์ออกนาม หากแจ้งชื่อภายหลังทาง PM ก็ได้ค่ะ อนุโมทนาสาธุกับท่านเหล่านี้ค่ะ

1.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 80 บาท
2.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 80 บาท
3.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 80 บาท
4.คุณ yokeemonkaew (สมาชิกพลังจิต) 200 บาท

ด้วยผลานิสงส์ผลบุญใหญ่ในครั้งนี้ ขอให้ความมหาสิริมงคลทุกๆ ประการ ทั้งทางโลกและทางธรรมบังเกิดกับทุกๆ ท่าน ขอให้ท่านมีมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพานสมบัติ รู้แจ้งแทงตลอดมีดวงตาเห็นธรรม บรรลุธรรมขั้นหนึ่งขั้นใดในภพชาตินี้ หรือถึงพระนิพพานเป็นที่สุด ขออนุโมทนาสาธุการกับทุกๆ ท่าน ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปดเวยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ

ยอดรวมร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุ 100 รูป และร่วมบุญทุกอย่างงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือยชัย โฆสิโต ประจำปี 2556 ถึงขณะนี้ รวมปัจจัยทั้งสิ้น 82,788 บาท แล้วค่ะ ^_^ เปิดกระทู้มหาบุญมหาบารมีรอท่านผู้มีบุญมาร่วมกันสร้างบุญใหญ่ด้วยกันถึงวันที่ 18 มกราคม 2556 เวลาถึงเที่ยงคืนนะค่ะ เพราะข้าพเจ้าต้องเตียมตัวไปงานตอนตี 2 ต้องตื่นแล้วค่ะ ก่อนไปจะเช็คยอดทาง Internet Banking ยอดเข้ามาเท่าไหร่ขอสรุปสุดท้ายเที่ยงคืนของวันที่ 18 มกราคม นี้นะค่ะ อนุโมทนาสาธุกับทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

 

ร่วมบุญด้วยครับท่านประธาน

 

ไม่ต้องเรียกท่านประธานหรอกจ๊า ^_^ อนุโมทนาสาธุกับท่าน Yokee ที่ท่านร่วมบุญมา 200 บาท ท่านโอนมา เจนลงชื่อลงไปแล้วว่าผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ฉะนั้นยอดรวมคงเหลือเท่าเดิมค่ะ ขออนุโมทนาสาธุกับท่าน Yokee ด้วยนะค่ะ ขอให้ความมหาสิริมงคลทุกๆ ประการบังเกิดกับท่าน ขอให้มีแค่ความสมบูรณ์พูนผลทุกสิ่งทั้งทางโลกและทางธรรม ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยนะค่ะท่าน ท่าน Yokee ท่านนี้บารมีมากท่านไม่ธรรมดานะค่ะ มาร่วมบุญกันต่อยอดเสริมบารมีให้ได้บรรลุธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยกันค่ะ อนุโมทนาสาธุกับท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ร่วมงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัย ปี 2556และร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ 100 รูป วันที่ 19 ม.ค.2556 จำนวน250 บาท

เวลาที่สั่งทำรายการ : 16/01/2013 16:22
วันที่ทำการโอนเงิน : 16/1/2013
หมายเลขอ้างอิง : 29321110862013116
บัญชีผู้รับโอน : BBL: RUNGARUN RUNG A/C No. : 6720002895
จำนวนเงินที่โอน : THB 250.00

 

วันนี้โอนเงิน ร่วมบุญด้วย 100 บาท ครับ

 

เข้าบัญชีเลขที่ 672-0-00289-5
ชื่อบัญชี น.ส.รุ่งอรุณ รุ่งรัตนกาล ธ.กรุงเทพ สาขาย่อยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
จำนวน 100.- บาท
ค่าธรรมเนียม 20.- บาท
วันที่เข้าบัญชี 16-1-2556

ข้าพเจ้าร่วมงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัย ปี 2556และร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ 100 รูป วันที่ 19 ม.ค.2556 จำนวน 100.-บาท

 

ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์เป็นเงินจำนวน 600 บาทครับ

ขออนุโมทนากับคุณรุ่งอรุณและทุกท่านที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ในครั้งนี้ครับ

บัญชีผู้รับเงิน

เลขที่บัญชี - ชื่อเรียกบัญชี 6720002895 - รุ่งอรุณ
จำนวนเงิน
จำนวนเงินที่ต้องการโอน 600.00 บาท
ค่าธรรมเนียม 25.00 บาท
คำอธิบาย
วัน-เวลาที่ทำรายการ 16/01/2556 - 21:09
วัน-เวลาที่หักเงินจากบัญชี 16/01/2556 - 21:09

 

อนุโมทนาสาธุกับทุกๆ ท่านที่ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุ จำนวน 100 รูป ที่จะมาร่วมงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต และร่วมทำบุญทุกอย่าง ณ วันที่ 16 -17 มกราคม 2556 ถึงเวลานี้ 10.55 น. มี 13 ท่านผู้มีบุญบารมีมาร่วมบุญกับเรา ตามรายละเอียดดังนี้ค่ะ

81.คุณ Aki_p (สมาชิกพลังจิต) 100 บาท (15/1/56)
82.นายสมศักดิ์ ชนะวงษ์ 100 บาท (16/1/56)
83.คุณ เกริกไกร (สมาชิกพลังจิต) 100 บาท (15/1/56)
84.คุณ jitavita (สมาชิกพลังจิต) 600 บาท (15/1/56)
85.คุณ ชมพูนุท ปิงแก้ว 100 บาท (16/1/56)
86.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 20 บาท (16/1/56)
87.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 250 บาท (16/1/56)
88.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 50 บาท (16/1/56)
89.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 100 บาท (16/1/56)
90.ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 200 บาท (16/1/56)
คุณ Pinakaranachan (สมาชิกพลังจิต) โอนก่อนล่วงหน้ารวมยอดไปแล้ว เมื่อวานเงินเข้าแล้วค่ะ 200 บาท (16/1/56)
คุณ ชมพูอุษมัน (สมาชิกพลังจิต) โอนก่อนล่วงหน้ารวมยอดไปแล้ว วันนี้เงินเข้าแล้วค่ะ 50 บาท (17/1/56)
91.คุณวิวัฒน์ (ไม่ทราบนามสกุล) 202 บาท(17/1/56)
92.คุณทิพวรรณ (ไม่ทราบนามสกุล) 300 บาท(17/1/56)

ขอให้ทุกๆ ท่านที่ร่วมสร้างบารมีด้วยกันในครั้งนี้ มีแต่ความมหาสิริมงคลทุกๆ ประการ จงบังเกิดกับทุกๆ ท่าน ขอให้คำว่าไม่มี ไม่ได้ ไม่สำเร็จ จงอย่าได้บังเกิดกับท่านและครอบครัวนับตังแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าท่านจะประกอบกิจการงานสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขอให้ประสบผลสำเร็จอยู่ทุกเมื่อ ขอให้ท่านแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ภัยจากอลัชชี คุณไสย มนต์ดำ อาถรรพ์และพิบัติภัย อุบัติเหตต่างๆ อย่างได้แผ้วพานท่านได้เลย ขอให้ท่านมีมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพานสมบัติ ปฎิบัติธรรมให้ถึงความพ้นทุกข์ในภพชาตินี้ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเทอญ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

รวมยอดปัจจัยร่วมบุญเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุ จำนวน 100 รูป ที่จะมาร่วมงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต และร่วมทำบุญทุกอย่าง ยอดถึงวันที่ 17 มกราคม 2556 เวลา 10.55 ณ ยอดรวมปัจจัยทั้งสิ้น 84,910 บาท โมทนาสาธุการกบทุกๆ ท่าน มา ณ โอกาสนี้ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอรายงานคงามคืบหน้าเพิ่มเติม เมื่อวานนี้ข้าพเจ้าได้ขับรถขึ้นเขา ไปที่สำนักสงฆ์ถ้ำป่าอาชาทองอีกครั้ง คราวนี้ไม่หลงจ๊า เมื่อวานทางวัดกำลังเตรียมงานอยู่ ตามภาพถ่ายที่ถ่ายมา วันที่ 18 นี้คงจะเรียบร้อยเกือบแล้วเสร็จสมบูรณ์ เชิญชมภาพค่ะ

​

ในวาระมหามงคลนี้ ข้าพเจ้าได้สอบถามทางวัดว่า จะมีสิ่งที่เป็นมหามงคลใดๆ ให้พวกเราได้ร่วมบุญก่อนวันออกนิโรธกรรมของท่านพระครูบาเหนือชัย อีกบ้าง ท่านบอกข้าพเจ้าว่าวันนี้จะไปจัดการซื้อของจัแตรียมงานอีกมากมายหลายรายการ ข้าพเจ้าจึงถือโอกาสมหาบุญนี้ แบ่งถวายปัจจัยที่ทุกๆ ท่านร่วมกันทำบุญมา จำนวน 6,000 บาท ทำบุญให้ท่านดังรายการต่อไปนี้

1.ถวายปัจจัยเป็นค่าภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ที่มาร่วมเตรียมงานมากมาย ทั้งที่มาจากวัดบวรนิเวศวิหาร(ขององค์สมเด็จพระสังฆราชฯ) มาจากโคราชบ้าง และที่อื่นๆ อีกหลายรูป

2.ถวายซื้อดอกไม้ที่ใช้ในงานทั้งหมด

3.ถวายเป็นค่าน้ำมันสำหรับพระภิกษุ 100 รูปที่มาร่วมงาน

4.ถวายเป็นค่าไทยทานสำหรับพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 100 รูปที่มาร่วมงาน

5.ถวายเพื่อจัดเตียมซื้อเครื่องสังฆทานให้ผู้ที่มาร่วมบุญในวันงานออกนิโรธกรรมท่านพระครูบาเหนือชัย บูชาเพื่อถวายสังฆทานอีกที (ได้บุญแล้วได้บุญอีก)

6.พร้อมกันนี้พวกเราเป็นเจ้าภาพถวายโคมลอยประทีป ที่ทางเหนือนิยมปล่อยทุกข์ โศรก โรคภัย เสนียดจัญไรให้พ้นตนและครอบครัว ในการมหามงคลนี้ คณะเราเป็นเจ้าภาพปล่อยโคมลอยประทีป จำนวน 108 โคม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ต่อทุกๆๆ ทุกๆ พระองค์ที่อยู่ฝั่งแดนพระนิพพานและที่ยังทรงสังขารร่างกายอยู่บนโลกมนุษย์นี้ พร้อมทั้งปล่อยความไม่ดีทั้งหลายให้หมดไปจากตัวของพวกเราทุกๆ คน รับแต่สิ่งที่ดีๆ เข้ามา

7.ร่วมจัดซื้อประทัด จุดเพื่อบูชาธรรมพระครูบาเหนือชัย โฆสิโตให้ก้องกังวาลไปถึง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นบาดาลให้ได้ยินไปไกลถึงหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักวาลพิภพกันไปเลย ให้เหล่าพระพรหม องค์เทพเทวา เหล่าบาดาลภพ ชาวเมืองบังบด ชาวเมืองลับแล และทุกรูปทุกนาม ได้มาอนุโมทนาสาธุการกับท่านด้วยค่ะ

อานิสงส์ทั้งหมดทั้งมวลที่พวกเราร่วมกันถวายปัจจัยร่วมทำบุญในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นมหาบุญมหาบารมีอันยิ่งใหญ่จริงๆ นำปัจจัยถวายวัดเป็นค่าภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ 100 รูปแล้ว 50,100 บาท ถวายร่วมบุญโรงทานบุญร่ำรวย 5,000 บาท เมื่อวานถวายปัจจัย 6,000 บาท ตามรายการที่แจ้งไว้ด้านบน ส่วนที่เหลือถวายอะไรบ้างนั้น ข้าพเจ้าจะนำปัจจัยที่เหลือไปทำบุญอีกหลายอย่างในวันออกนิโรธกรรมของพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต ในวันที่ 19 มกราคม 2556 ตามที่ได้แจ้งในกระทู้นี้ไปแล้ว ทั้งตักบาตรพระครูบาเหนือชัย ทั้งถวายมหาสังฆทาน ทั้งร่วมสร้างพระไพรีพินาศ ทั้งถวายปัจจัยร่วมซื้อที่ดิน และถวายผ้าคลุมพระอริยะสงฆ์ พร้อมถวายปัจจัยพระภิกษุสงฆ์บางรูป(ตามปัจจัยที่จะพอทำได้นะค่ะ) บุญครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก ร่วมปัจจัยเพียงงานเดียวได้ทำบุญแบบเป็นอภิมหาบุญมหาบารมี เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันเท่านั้น หากท่านใดประสงค์ที่จะร่วมบุญ อย่ามัวรีรอ ลังเล เพราะงานมหาบุญอย่างนี้ ไม่ได้มีให้พวกเราทำง่ายๆ นะเจ้าค่ะ กราบเรียนเชิญ ร่วมบุญได้ถึงวันที่ 18 มกราคม 2556 เวลา เที่ยงคืนตรงเป๊ะ หมดเวลาสร้างมหาบุญให้กับตัวท่านเองในงานนี้นะค่ะ เกินมาจากเวลานั้น ข้าพเจ้าจะโอนเงินคืนท่านนะจ๊ะ ขออนุโมทนาสาธุด้วยกับทุกๆ ท่านค่ะ

 

ประกาศ ประกาศ อีกแล้วเจ้าค๊า ในการนี้ ทางวัดได้มีมหาเมตตา ให้คณะเราจัดเครื่องอัฐบริขาร(บางส่วน) ที่ท่านพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต ท่านจะใช้ในวันออกนิโรธกรรม อาิิทิเช่น รองเท้า ถุงเท้า ถุงย่าม(ใส่วัตถุมงคล) ผ้าขนหนูผืนใหญ่และเล็ก มีดโกน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก สำลี แอลกอฮอล์ เป็นต้น งานนี้ไม่ใช่ว่าจะมีใครมีโอกาสได้ทำกันง่ายๆ หากบุญบารมีไม่ถึงไม่พอที่จะทำ แสดงว่าพวกเราร่วมกันเป็นคณะใหญ่อย่างนี้ แรงอธิษฐานแรงบุญส่งให้พวกเรามีโอกาสทำบุญใหญ่นี้ได้ อีกอย่างทางวัดเมตตามากๆ ที่โปรดคณะเราเป็นที่สุดที่ให้พวกเรามีโอกาสร่วมกันถวายเครื่องอัฐบริขารให้พระที่ออกจากนิโรธกรรม ในวันออกนิโรธกรรมได้ใช้นี้ ถือว่าได้ทำบุญให้ถึงบุญอันยิ่งใหญ่แล้ว ส่วนจีวรและบาตรนั้นให้พวกเราน้อมจิตน้อมใจอนุโมทนาสาธุถวายด้วย เพราะทางวัดได้จัดการเตรียมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจ๊ะ วันนี้ข้าพเจ้าจะได้เดินทางไปจัดซื้อเครื่องอัฐบริขารเพื่อเตรียมถวายทางวัดในวันที่ 18 มกราคม 2556 นี้ พร้อมกับซื้อรังนกถวายท่านในวันออกนิโรธกรรมด้วย หลายโหลค่ะ ท่านฉันท์ที่ละ 6 ขวดค่ะ (ได้ฉันท์พร้อมภัตตาหารแน่นอนจ๊า ^_^) ใครประสงค์จะร่วมบุญส่วนนี้เพิ่มเติม รีบๆ กันนะจ๊ะ ข้าพเจ้าจะไปช่วงบ่ายนี้แล้วเจ้าค่ะ อนุโมทนาสาธุกับทุกๆ ท่านจำนวน 91 คณะ(และครอบครัว) ด้วยทุกๆ ประการ ขอให้ทุกๆ ท่านเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม สมบูรณืพูนผลทุกๆ สิ่งจากอภิมหาบุญบารมีที่พวกเราร่วมกันสร้างในครั้งนี้เ่วยเทอญ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

เรื่องแซ่หางม้าของพระครูบาเหนือชัย ได้รับทราบเป็นความรู้ใหม่มาว่า ทุกๆ ปีท่านจะใช้แซ่หางม้าปีละ 1 ครั้ง คือวันที่ท่านออกจากนิโรธกรรมเท่านั้น ใครที่เคยไปงานออกนิโรธกรรมของท่านพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต ทุกๆ ปีจะเห็นท่านใช้ขณะที่ท่านนั่งอยู่บนเสลี่ยง พวกเราช่วยกันแบกท่านวนประทักษิณ 3 รอบ ตอนนั้นท่านจะใช้แซ่นี้ลูบหัว เพื่อขจัดภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ใครมีเคราะห์กรรมหนักๆ ก็จะเบาบาง ที่เคราะห์น้อยก็จะหมดไป เพราะพลังพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และบารมีของพระครูบาท่าน ปีก่อนข้าพเจ้ายืนพนมมืออยู่อยู่อย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยยิ่งนัก พอเสลี่ยงท่านผ่านมา ท่านมองมาที่ข้าพเจ้า แล้วท่านก็พยักหน้าให้ข้าพเจ้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วท่านใช้แซ่นี้ ลูบหัวข้าพเจ้าแบบจัดหนักๆ ให้เลย หรือจะเรียกว่า พระครูบาเหนือชัยท่านฟาดแซ่หางม้าใส่ข้าพเจ้าหลายทีก็ว่าได้ ^_^ แสดงว่ากรรมน่าจะหนัก ท่านถึงเมตตาฟาดซะดังเพี๊ยๆๆๆ ข้าพเจ้าไม่รู้ตอนนั้นว่าหมายถึงอะไร เพิ่งมาถึงบางอ้อก็ปีนี้เอง เห็นใครๆ ก็กรูเข้าไปให้ท่านฟาดแซ่กันมากมาย ปีนี้เขาว่าปีชงของข้าพเจ้า หวังว่าท่านคงจะเมตตาฟาดให้หนักๆ เลย เป็นข้อมูลเพิ่มเติม หากใครไปที่งานก็อย่าพลาดแซ่หางม้าของพระครูบาเจ้าท่าน 1 ปี มีหนเดียวนะจ๊า

 

เช็คยอดก่อนไปทำกิจการงาน มีผู้ร่วมบุญมาอีก 1 ท่าน ถวายปัจจัยมา 300 บาท เช็คยอดจาก Internet เมื่อสักครู่นี้เลย ท่านผู้มีบุญท่านนี้โปรดแจ้งชื่อด้วยจ๊ะ อนุโมทนาสาธุการกับท่านด้วยค่ะ

รบกวนขอความเมตตาท่านทั้งหลายที่ร่วมสร้างบุญอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ร่วมกัน โปรดแจ้งชื่อ-ที่อยู่ เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้จัดสิ่งของมงคลให้ทุกๆ ท่าน ได้รับทุกๆ คน ไม่ว่าท่านจะทำ 20 บาท หรือหมื่นกว่าบาท ได้ทุกๆ ท่านจ๊ะ ของมงคลของท่านพระครูบาเหนือชัย โฆสิโตทั้งขลังมากและมีโชคลาภมากนะจะบอกให้ ใครไม่รับก็ได้จ๊ะ up to you น๊า ^_^ (ข้าพเจ้าออกตังค์ค่าส่งเอง เกือบร้อยคนเลยนะนี่ ^_^)

 

โอนเงินเพื่อร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ 100 รูป และร่วมบุญทุกอย่างในงานออกนิโรธกรรมพระครูบาเหนือชัย ประจำปี 2556 จำนวน 300 บาท วันนี้ 18/1/13 อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

นิพพานะปัจโยโหตุ

 

อนุโมทนาสาธุกับคุณ tippavan ด้วยค่ะ ที่ท่านร่วมบุญมา 300 บาท ยอดเข้ามาแล้วค่ะ ขอความมหาสิริมงคลทุกๆ ประการทั้งทางโลกและทางธรรมทุกๆ ประการ บังเกิดกับท่าน ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ (ไปรวมยอดให้ที่โพสต์ที่ 136 หน้าที่ 7 แล้วค่ะ)