อะไรเป็นสาเหตุที่อนิตยโพธิสัตว์ ไม่ได้รับพยากรณ์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย กล่องไม้ขีดไฟ, 29 เมษายน 2016.

  1. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ผมทราบมาจากพระโพธิสัตว์ใหญ่มาบ้าง..

    เวลาจะสร้างบารมี จะได้บารมีเน่าๆมาเสมอ
    เหมือนได้ข้าวสารที่ปนด้วยกรวดทรายเสมอ

    มันเกิดจากสาเหตุอะไรครับ?...
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตอบได้ง่ายมากๆเลยท่านมารน้อย.....เพราะยังไม่รู้ด้วยตนเองว่า อะไรคือสัมมา..ก็เลยไม่รู้ด้วยตนเองว่าสมควรทำอะไรอย่างไร..ยังตื่นข่าว ทำตามคนอื่นอยู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2016
  3. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ผมขอเดาว่า เพราะว่าทำบารมีเน่า ๆ ไป เลยได้บารมีเน่า ๆ มาครับ อย่างสักแต่ว่าทำทาน เพราะได้ยินมาว่าทำทานอย่างนี้แล้วคือการสั่งสมบารมี เป็นการตื่นมงคลตื่นข่าวอย่างท่านพญามารว่าน่ะแหละ

    อย่างใครหลายคนใน ชาติปัจจุบัน ทำผลงานอะไรที่ชุ่ย ๆ ไป ก็ได้ผลตอบรับที่แย่ ๆ เหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2016
  4. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    อ่านกระทู้นี้แล้วทำไมเกิดความรู้สึกว่า ผมว่าบารมีของผมคงมาทางปัจเจกพุทธภูมิแน่แล้ว ฟระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2016
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ทางไหนก็เหมือนกันแหล่ะท่าน....ทางเร็วทางด่วนเรียกผู้มีปัญญามาก หรืออินทรีย์แก่กล้า
    ทางช้าทางโค้งทางอ้อม....เรียกผู้มีปัญญาน้อย..หรืออินทรีย์หน่อมแน้ม

    แล้วแต่จะเรียกชื่อเพื่อให้ ถูกใจตน น่ะครับ..ให้มันดูดีสำหรับตนครับ

    ไม่ว่าทางไหน..ก็ขึ้นอยู่กับ ปัญญาในตน ครับ
     
  6. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    เวลาสร้างบารมีได้สร้างบารมีแบบเน่าๆ

    ถ้าจะให้เดาคงหมายถึง ตอนสร้างบารมีสร้างด้วยกำลังของกิเลส ไม่ได้สร้างด้วยมหากรุณา ประเภทอยากใหญ่ อยากให้คนนับถือ อยากได้บริวาร อยากได้ความรู้ยิ่ง อยากได้ความพิเศษเหนือกว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ฯลฯ
     
  8. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872

    คำที่ท่านกล่าวมันก็อาจจะดูแรงไปครับ บางที
    มันเหมือนเป็นการ ตัดโอกาส ไม่ให้กำลังใจกัน
    แม้เขาจะได้อย่างนั้น เขาก็ยังมีความเป็นผู้อยาก
    เข้าถึงอย่างนั้นบ้าง อยากเป็นเช่นนั้นบ้าง มันก็ธรรม
    ดาของสัตว์ผู้มีกิเลส อวิชชานั่นแหละครับ
    ถ้าเรามองภาพตามความเป็นจริงของธรรมชาติ
    ลองคิดดูครับเปรียบเหมือนเราปลูกมะม่วง จุดมุ่งหวัง
    ในการปลูกคือผลของมะม่วง ที่มีรสหวาน มัน กรอบ
    หอม สุก อร่อย การที่เราจะได้ผลดีได้นั้น เราจะต้อง
    ดูแลคือ การเตรียมแปลง ปุ๋ย พรวนดิน ดูอากาศ ร่มเงา
    แสงแดด ต้นกล้า พันธุ์ วิธีการดูแล ใส่ปุ๋ย พรวนดิน
    รดน้ำ ยาฆ่าแมลง ยาเร่งผล ตัดกิ่ง ฯ สิ่งเหล่านี้เป็น
    องประกอบที่สำคัญ เราควรหมั่นดูแล ในความละเอียด
    เหล่านี้ เราถึงจะได้ผลที่เป็นอย่างที่เราต้องการ
    ถ้าท่านว่าจะได้ของเน่าก็คงประมาณว่า การดูแล
    รักษาตั้งแต่เริ่มต้น อาจจะขาดตกบกพร่องไป คือการ
    ดูแลไม่ละเอียดพอ ทำอยู่ แต่ไม่ครบถ้วน ไม่หมั่นดูแล
    รักษา ปลูกขึ้นมาก็รดน้ำบ้าง ใส่ปุ๋ยบ้าง ฉีดยาบำบุงบ้าง
    แต่ไม่สม่ำเสมอ ไม่หมั่นดูแลอย่างจริงจัง จึงปล่อยให้
    ต้นนั้นเติบโต ออกผลไปตามปัจจัยที่ตนเองกระทำไว้
    แบบนั้น เมื่อมีผลที่เกิดเมาอาจจะไม่สมบูรณ์บ้าง
    แคระแกนบ้าง ร่วงโรยบ้าง เน่าบ้าง(เพราะอาจจะแมลง
    หรือยาไม่พอ) ผลน้อยบ้าง ฯล อาจเป็นเช่นนี้
    แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังได้ชื่อว่า ผู้ปลูกมะม่วงเพื่อหวังผล
    ถึงผลจะไม่เป็นที่น่าพอใจ เขาก็ยังได้ชื่ออีกว่า ผู้ปฏิบัติเพื่อ
    หวังผล ผลคือการกระทำ
    ถ้าเราจะเปรียบการได้ผลที่สมหวังดั่งตั้งใจที่สมบูรณ์นั้นคือ
    สัมมาสัมโพธิญาณใน อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่เขาได้
    ผลเน่าบ้าง ร่วงหล่นบ้าง แคระแกนบ้าง เขาก็ยังได้ผลของมะม่วง
    นั้นอยู่ อาจจะเปรียบได้ว่า เขาอาจจะได้สัมมาสัมโพธิญาณใน
    พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือ อรหันตสาวกก็เป็นได้
     
  9. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    ตรงนี้ก็มมีตัวอย่างแล้วครับ เช่น พระเทวทัต ครับหรือ ท่านท้าววสวัตตี ท่านก็คิด
    ประมาณนี้ครับ
    ความอยากมีกันทุกคนครับ บางทีมันก็เป็นแรงผลักดัน มันอยู่ที่ว่าเราจะเลือก
    เดินทางแบบไหน เมื่อมันมีสูตร หรือกฏตายตัวอยู่ ผมว่าสิ่งที่จะได้คือเราไม่ใส่ใจ
    ในการปฏิบัติมากกว่าครับ ผลจึงออกมาดังที่เห็น
     
  10. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ผมเชื่อว่าใช้บุญจนหมดน่ะมี แต่ใช้กรรมจนหมดไม่น่าจะมี เกิดมาในชาติหนึ่ง ต้องมีสักครั้งสักหน่ะ ที่จะได้ขัดแย้งกันจนผูกเวรผูกกรรมกัน บางคนก็หลุดพ้นไปก่อนที่จะใช้กรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวรเสียด้วยซ้ำ

    พุทธภูมิอยู่สูงกว่าการสำเร็จอรหันต์แบบอื่น ๆ แน่นอน สิ่งที่เหนือกว่าพระอรหันต์ทั่่วไปก็คือความรู้นั่นแหละ ไม่งั้นก็สอนสาวกที่เป็นพระอรหันต์ไม่ได้หรอก ยังมีความรู้อีกมากที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอน ผมเนี่ย ถ้าไม่อยากรู้อยากเห็นว่าพระพุทธเจ้าท่านรู้อะไรบ้าง ก็คงไม่ปรารถณาพุทธภูมิหรอก ไม่งั้นก็เลือกเส้นทางของสาวกไปนานละ
     
  11. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    เหตุที่อนิตยโพธิสัตว์ยังไม่ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า
    มีเพียงเหตุเดียวคือบารมียังไม่พอ เมื่อยังไม่พอ ก็ยังไม่แน่นอนหรือเป็นไม่ได้
    ว่าจากเวลานั้น 4 อสงขัย 8 อสงขัย 16 อสงขัย จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

    ก็ต้องทำบารมีมาก่อน จนเพียงพอเสียก่อน
    พระพุทธจ้าท่านจึงจะพยากรณ์ ซึงที่จริงก็คือทรงตรัสรับรองให้นั่นเอง
    ในสิ่งที่เจ้าตัวทำมาเองทั้งสื้น

    ที่ว่าบารมีระดับไหนล่ะ ที่เรียกว่าเพียงพอ จนเมือ่กล่าวคำปรารถนาต่อหน้าพระองคฺ์
    พระองค์จึงจะทรงตรัสรับรองให้น่ะ

    ก็ต้องบารมีเพียงพอขนาดที่ว่า หากไม่เอาพุทธภูมิแล้ว ฟังพระพุทธเจ้าตรัสเพียงกึ่งบาทพระคาถา
    ก็สามารถบรรลุพระอรหันต์ได้ เช่นท่านสุเมธดาบส นั่นแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2016
  12. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659

    ผมขอเดาๆ นะครับ

    บารมีเน่าๆ ที่ได้มา เกิดจากบารมียังไม่แก่รอบ ๑๐ ทัศน์ ๓ ชั้น

    ถ้าพิจารณาตามหลักบารมี ๑๐ ประการ จะหาสาเหตุเจอเอง

    อะไรมันบกพร่องไปจากกำลังใจ ทำให้การทำบารมีได้ของเสียติดมาด้วย

    เปรียบ กับการทำบุญแต่ผสมบาปติดมาด้วย เป็นต้น

    เช่น ปัญญายังไม่แหลมคม ก็พิจารณาสิ่งที่ควรแก่การปฏิบัติเพื่อเก็บบารมีไม่ดีพอ ทำขาด ทำเกิน ทำไม่ตรง

    นี่ก็ถือเป็นบทบังคับของพุทธภูมิ คือ ต้องค่อยๆ เรียนไป ผิดไปหาถูก ทำถูกแล้วยังย้ำจนชำนาญ

    เกิดมาแต่ละชาติบางทีแทบเก็บอะไรไม่ได้มาก ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลากหลาย คือ กฏแห่งกรรม

    อย่างบางชาติถ้าเกิดเป็น มหาทุคคตะ จนเสียผ้าแทบไม่มีนุ่ง

    เพราะ เหตุแห่งความตะหนี่มาในกาลก่อน

    แล้วจะไปเก็บในด้านทานบารมีได้รึ ตอบว่าได้

    เพราะทานมีเยอะแยะที่ไม่ต้องใช้วัตถุแบบคนรวยให้เราทำ ก็เลือกเอาตามนิสสัย และความเหมาะสมกับฐานะ

    อย่างดีเยี่ยมคือ อภัยทาน ถ้าอภัยไม่ใช่ทาน

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องไม่ใช้คำว่าอภัยเป็นทาน ทานประเภทนี้ไม่ต้องใช้วัตถุทำ

    แต่ใช้กำลังใจที่เยือกเย็นทำ เหมือนจะง่าย..เหมือนจะง่าย...

    พระโพธิสัตว์ไม่บ่นหรอกครับเรื่องบำเพ็ญ แต่ถ้าบารมียังไม่แก่พอ ก็บ่นอีรุงตุงนังตามประสา

    บารมีแก่ คือ กำลังใจเข้มข้น ท่านที่เข้าเขตเข้มข้นจะมีความ ฉลาดมากในทางบารมี

    จะเรียนหนังสือหรือไม่เรียนก็ตาม แต่อารมณ์จะฉลาดในบารมี ของเก่าจะขึ้นมาเยอะจนสังเกตุได้

    ฉลาดนี่ไม่ใช่แกมโกงเข้าให้ ฉลาด แปลว่า กุศล กำลังใจตั้งในความดี นี่คือ อารมณ์ฉลาดอย่างพระโพธิสัตว์เจ้า

    ต่อให้ท่านไม่เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้า ถ้าท่านบารมีเข้มข้นแล้ว ก็ยากที่จะลงอบายภูมิ

    ฉะนั้นการทำบารมีของท่านที่มีบารมีแก่ จะละเอียดรอบคอบมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนท่านที่ยังบารมีอ่อนอยู่ก็ว่ากันไปตามลำดับ

    ไม่ควรบ่น บารมีจะได้ดีได้เน่าบ้างก็ตามธรรมดาเพราะยังไม่ใช่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ดีไม่มีพร่อง

    ย้อนมองเข้าหาตัวค้นตัวเองให้ดีจะเจอสาเหตุทั้งปวงเองขอรับ


    เจริญในธรรมทุกท่าน
     
  13. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    แถมอีกนิด บารมีไม่มีคำว่าเสียถ้าผู้บำเพ็ญนั้นได้เรียนจนถึงรู้
     
  14. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ขอบคุณทุกท่าน ก็ถามขึ้นมาเฉยๆ ไม่ได้เจตนาใช้คำแรง

    เพราะได้ยินแบบนี้มา เลยเอามาถามในห้องนี้ดู
     
  15. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ก่อนนี้ ...

    ก่อนที่ข้าพเจ้าจะอ่านกระทู้นี้....

    ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าที่บำเพ็ญกุศล จะอธิษฐานว่า

    ด้วยผลบุญนี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าถึงซึ่งพระโพธิญาณในอนาคตกาลภายหน้า

    และขอให่้พระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกัปป์นี้

    และพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลทั้งหลาย

    รวมทั้ง พระศรีอริยเมตไตรย์ พระราม พระธรรมราชา พระธรรมสามี

    พระนารทะ พระรังสีมุนี พระเทวเทพ พระนรสิงหะ พระติสสะ พระสุมังคละ

    ได้โปรดพยากรณ์ข้าพระพุทธเจ้าด้วยว่า ...

    ข้าพระพุทธเจ้า จะได่้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคตกาลภายหน้า ด้วยเถิด..
     
  16. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    อย่าเพิ่งใจร้อนสิ
     
  17. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    "บารมีเน่าๆ "

    จริงๆ บารมีเน่าๆ ไม่มี .. มีแต่บารมีน้อย

    หากเป็นคนปกติทั่วไป ไม่ผิดที่จะหาความสุขส่วนตัว
    ซึ่งคนที่ปรารถนาพุทธภูมิจะต่างออกไปเพราะว่า พุทธภูมิจะเน้นสร้างบารมี
    มากกว่าความสุขส่วนตัว

    ดังนั้น คนที่ปรารถนาพุทธภูมิ เวลาที่ผ่านไปในชีวิต
    จะเต็มไปด้วยการสร้างบารมีในทุกๆ วัน ซึ่งจะเปรียบเหมือนคนเหยียบคันเร่งตลอดเวลา
    จะแตกต่างจากคนทั่วไป เมื่อต้องการความสุขส่วนตัว เขาจึงผ่อนคันเร่ง แวะชมนกชมไม้

    เมื่อบารมีแต่ละวันแตกต่างกัน เวลาผ่านไป 1วัน 1 เดือน 1 ปี 1ชาติ,..
    บารมีของพุทธภูมิย่อมทวีขึ้นกว่าคนทั่วไปจนนับไม่ได้

    และนี้คือข้อดีของการปรารถนาพุทธภูมิ
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    อย่างว่านะครับ ขึ้นอยู่ว่าเร่งเครื่องเร็วขนาดไหน...

    คงขึ้นอยู่กับบุคคลเจ้าตัวเอง ที่เรียนรู้ทุกอย่าง
    ทราบมาว่า..แค่น้ำเยี้ยว หยดเดียว เรียนรู้เป็นอสงไขย..

    ถ้าเรียนทุกอย่างจะใช้เวลากี่อสงไขย?
    กว่าจะครบองค์ประกอบ จนได้พยากรณ์..
     
  19. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    เรื่องของพุทธภูมิมันเยอะพูดยาก ยิ่งได้เชื่อมกับรุ่นพี่ยิ่งพุ่ง พุ่ง ทะลุผ่านหมด
    เพราะรุ่นพี่ทำมาหมดแล้ว

    ส่วนเรื่องเรียนอะไรนานๆ ไม่มี มันมีแต่แค่ฟังยังไม่จบ.. รู้แล้ว
    ดังนั้น ที่ใช้เวลานานเป็นอสงไขย คือ การสร้างบารมีของกำลังใจ
    เพราะเป็นของเฉพาะตัว รุ่นพี่ยกของตนเองมาให้ก็ไม่ได้

    เพราะถึงแม้เรา รู้อะไรตั้งมากมาย แต่กำลังใจ เช่น
    กำลังขันติ ความอดทนต่อความโกรธ เราเพิ่มได้เองมั้ย ไม่เพิ่ม
    แต่จะเพิ่มเมื่อมีสถานการณ์แล้วเราตอบสนองไป

    กำลังเมตตา การแผ่เมตตาอยู่เป็นนิต ถ้ารู้อะไรมากมาย
    แล้วกำลังตรงนี้เพิ่มได้เองมั้ย ก็ไม่เพิ่ม ต้องอาศัยเวลากระทำกิจนี้เท่านั้นจึงเพิ่มได้
    และกำลังด้านอื่นๆอีกมากมาย

    ความรู้มากมายหากเป็นคนทั่วไป ยิ่งมากยิ่งรู้สึกเหมือนแบกมากนะ มันแปลกอยู่
    แต่กับพุทธภูมิไม่ใช่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2016
  20. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969

    อาจดูเหมือนใจร้อนนะ

    แต่ระหว่างพุทธธันดร ไม่มีหลักฐานอะไรเหลืออยู่

    ไม่มีใครรู้จักพระพุทธเจ้าในอนาคตแล้ว

    ช่วงนี้เป็นโอกาสสุดท้ายล่ะ เพราะยังอยู้ในศาสนาของพระพุทธเจ้า

    เรายังรู้จักว่ามีพระพุทธเจ้า รู้ว่ามีพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้

    หลัง 5000 ปีนี้ จากนี้ไป คงไม่รู้เรือ่งราวเหล่านี้

    ไม่อธิษฐานตอนนี้ จะไปอธิษฐานตอนไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...