อะไรทำให้พวกคุณชอบเข้าบอร์ดนี้ครับ

ไฟฉายสนิมขึ้นเหรอ....
ขอให้เขาสำเร็จธรรม
ที่ควรมี....
ควรได้....
ควรเป็น.....
เป็นผู้ปลอดทุกข์โศก...โรคภัย..พยันอันตรายใดๆ
ให้หายทุกข์โดยใวในทันที
สาธุ

 

ผมงงเวลาท่านนีโพสครับ จะออกแนวบ่นอะไรคนเดียวใช่มั้ยครับ จะพยายามทำความเข้าใจครับ ขอให้ท่านเจริญในธรรมครับ

 

ถ้าท่านเห็นหลายคนเห็น
ยิ่งคนต้นคิด
เห็น
ผมคงไม่บ่นคนเดียวแล้วม้าง

 

พูดประมาณ
ผมแปลกอยู่คนเดียว
เอ้อ....จริง
ผมแปลกคนเดียว
เพราะผมไม่ขี้นินทา
5555+
แต่ว่าตรงๆ

 

ผมลองดีคับ
ว่าดีอย่างที่วิสัชนามั๊ย
เอาเข้าจริง
555+

 

อ่าครับ รับทราบครับผม

 

ถ้าเป็นพระ
ผมไม่ใส่นะ
เสียดายข้าว
555+

 

- อยากทราบว่าที่เราศึกษาธรรมะนั้นถูกหรือเปล่า

....บางท่านก็สอดคล้องกับเรา ทำให้เรามั่นใจว่าน่าจะใช่

....บางท่านก็แย้งกัน ทำให้เราแย้งไป บางท่านก็โตตอบ บางท่านก็ปรามาศว่าเราไม่เข้าใจเพราะยังปฏิบัติไม่ถึง หรือประมาณว่าท่านมีคุณธรรมวิเศษใกล้จะบรรลุละแหละ

...มันสรูปไม่ได้เพราะต่างคนต่างศึกษามาหลายแห่ง แต่ละแห่งก็มีแนวของตัวเอง จะเอาตามพระสูตรล้วนๆ เดี๋ยวตัวเองก็จะไม่มีชื่อเสียง

....พระพุทธศาสนามีเสน่ห์ตรงที่ ยังมีคนอยากรู้ว่า คำสอนที่บริสุทธิ์ นั้นเป็นเช่นได เมื่อเสาะหาแล้ว ก็ทำให้หลงใหลในคำสอนนั้น

...ขอบคุณเจ้าของเวบอย่างยิ่งที่เปิดใจกว้างให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น

...ผู้ที่เอาธรรมะที่ ไม่ถูกมาโน้มน้าวคนให้ไขว้เขว ก็เป็นบาปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นสิ่งไดที่ผมแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ก็จะแสดงให้เห็นชัดเจนเพื่อผู้อ่านจะได้ตรึกตรองเองว่า มันอาจไม่ใช่ก็ได้

 

เอ้อ...เก่งครับที่ เข้าใจ

 

ผมรับทราบไปตามมารยาทคับ๕๕๕๕๕

 

อยากรู้ว่าคนแต่ละคนมีความคิดอย่างไร ถ้าเจอคนที่คิดดีจะให้ทานเป็นปกติ ผมจะได้ขอเงินเอาไปกินข้าว

 

เ

 

ผมมาอวดงา อวดเขี้ยว แล้วก็อวดรู้ด้วยครับ

 

อ่านข้อความของใครเหมือนเราได้เจอกับคนนั้้น
เหมือนกับเว็บพลังจิตเป็นโลกอีกใบหนึ่ง
ที่ซ้อนอยู่ในโลกใบนี้....
ที่ได้รวบรวมนักปราชญ์หัวกระทิชั้นดี
เพื่อให้โลกใบนี้เผยแพร่ธรรมขจรขจายไป

 

ถ้า ซื่อตรงต่อธรรม ไม่อำพราง ก็ลุยไปแบบนี้แหละฮับ

แล้ว สังเกตเข้ามาหน่อยเดียว

คือ ให้พิจารณาว่า ถ้าหากตนซื่อตรงต่อธรรม เวลา เขียน กระแทก
เข้าไป จริงๆ แล้ว กระแทกตัวเองอยู่ อาศัย ประสบการณ์ตน ที่เจอ
มาแบบนั้น แล้วก็ พูดไปเหมือนว่า กระแทกคนอื่น แต่จริงๆ ก็เป็น
"อดีต" ที่ตนเคยเจอมานั่นแหละ แล้วก็ กระแทกอดีตตน อยู่

ให้กำหนดเห็นแบบนี้ด้วย เวลา เขาสวนมาว่า " อย่ามาสะเออะดูจิตku
รู้วาระจิตku "

ลำดับแรกเลย ที่ คนๆนั้น เขาสำคัญว่า ธรรมออกมาจาก วาระจิตของมัน
เนี่ยะ อายคนๆนั้น ไม่เคยปฏิบัติธรรม แน่นอน

เพราะว่า ปรกติของคนปฏิบัติธรรม ย่อมกล่าว สิ่งที่มาจากตน หรือ
เป็นเรื่อง เขี้ยว งา ของตนในอดีต ที่มันเคยงอกแบบนั้นมาก่อน
ไม่ใช่ว่า จะไปกำหนดดูวาระจิตใคร จักหน่อย

พอเรา กำหนดรู้แบบนี้ กล่าวธรรมแบบนี้ ซื่อตรงต่อธรรมแบบนี้
เราจะรู้ของเราว่า เรากล่าวขึ้นตามธรรม ซื่อตรงต่อธรรม เพื่อธรรม

แบบนี้ อวดได้เลย ไม่ว่ากัน .....แต่ .....ต้องมีประโยคที่เป็น มรรควิธี
ที่เป็น อุบายนำออกแฝงไว้ด้วย แฝงเป็นคำถาม ก็ยังถือว่า ได้แสดงแล้ว
....แฝงเป็นความเงียบ ยิ่งจัดว่า สุดยอด !!! อัตตาหิ อัตตโนนาโถ

 

ถ้าสอนธรรมแล้วตรงธรรม ให้ปราศจากอคติ คิดว่าเราสอนอย่างนี้ คนที่รักเราจะว่าอย่างไรหนอ

 

ส่วนตรงที่ไม่ใช่ " อวดเขี้ยว อวดงา " เอาเฉพาะที่ มันกระเดิด ลอยๆ
ไม่มี ต้นทุนปฏิบัติของตนเข้าไปรองรับ หรือที่เรียกว่า " อวดรู้ "

ส่วนที่เป็น " อวดรู้ " จริงๆ มันมี ที่ไปที่มา

ที่ไปที่มา นั้น ย่อมมี "ศรัทธา" นำหน้า มี " สัตบุรุษ " เป้าหมาย
ที่เราเล็งเห็น อันนี้ ก็แค่ ปรารภออกมาตามจริงว่า เราเอามาจาก
ไหน ใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร .....กล่าวแบบ อิงอรรถ อิงธรรม ไป
คนที่เป็น บัณฑิตไม่หนาสันติเกินไป เขาก็ต้องยอมรับได้

เว้นแต่พวก จานลาย หัวกล้วย มันเข้ามาหาว่า ใครหนอ จะเป็น
ศัตรูกับคนนั้นๆ ได้บ้าง ถ้ามี ถ้าปรากฏ ก็ออกจากหลุม แล้วมา
อนโมทนา สาธุ ยกหาง ..........จานลายไปวันๆ

 

ตรงอะไรหละ

ตรง เท้าหน้าขวาของ สฟิงค์ สมาธิหมุน หนาสันติ อะเหรอ

ทุเรียน เรียกพี่ !!

 

อ้าวเป็นท่านเองเหรอค่ะ

 

ถ้าเราคิดว่าทุกคนในเว็บนี้คือพี่กันน้องกันหมด
เราต่างคนต่างพากันหาทางออกจากการพ้นทุกข์
เราจะไม่ระแวงกันไม่อิจฉากัน มีความรักสามัคคีให้กัน
อยากให้ทุกชีวิตดำเนินไปอย่างสันติ