อยากบรรลุธรรมเข้ามา

อย่างคำว่าอุปจารสมาธินั้นผมก็ตรวจเข้าไปมันก็ไม่มีท่านเจ้าของกระทู้ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ามีก็ยกมาดูกันก็น่าจะดี และถ้ามันไม่มีแล้วเราจะทำอย่างไรกับสิ่งนั้น นี่ต่างหากประเด็น ท่านมองแต่ว่าผมจะไปหักหน้าเขา

 

เดี๋ยวๆ ไอ้ ข้อความแบบนี้ คือ การเข้าไปสอบถาม สนใจเรื่องกสิณ ต้องการ
ทราบเรื่องกสิณ ให้มี ความรู้ประดับตัว เป็นประโยชน์แก่ตัวเหรอครับ

เด็กมาอ่าน เขายังรู้เลยว่า คุณเข้าไปขัดขวาง ปฏิเสธ แถม ยกอ้างว่า พระพุทธองค์
ไม่ได้สอน ไปโน้นเลย กล่าวตู่พระพุทธองค์โต้งๆ เลยหน่า

 

คุณ เล่าปัง ใช้คำว่า ขออภัยคนอื่นเป็นหรือเปล่าครับ
ถ้าใช้ไม่เป็น กรุณาทบทวนตัวเองด้วยครับ

 

ถ้ากระทู้นี่นั้นก็แค่เป็นการนะนำในความเป็นตัวตนของผมเพราะผมเดินอานาปานมา และพระพุทธองค์สรรเสริญมากเรื่องอานาปานสติ และให้เข้าไปศึกษาพุทธวจนเพิ่มเติมในเว็บซึ่งมีเรื่องอื่นมากมาย มันก็น่าจะเป็นสิ่งดี ท่านมองอย่างไรว่าผมไปทำในสิ่งไม่ดีได้อย่างไร ท่านโกรธเกลียดอะไรผมนักเหรอ

 

นี่ก็ เมาบัญญัติ

อุปจารสมาธิ แปลเป็น ภาษาปฏิบัติว่าอะไรครับ แปลว่า ยังไม่ถึงขั้นฌาณ
แค่ จวนเจียนจะเป็น ฌาณ

แล้ว

คุณ ทำสมาธิมาหรือเปล่า ทำสมาธิมาด้วยตัวเองหรือเปล่า ทำแล้ว
จิตคุณสำเร็จ ฌาณ เลยหรือเปล่า

หรือว่า ก็จวนเจียนๆ เฉียดฌาณ

ก็ถ้า ในทางปฏิบัติ เอาจิตผู้รู้ มาสอบสวน ทบทวนปฏิปทาด้วยตนเอง
ก็พบว่า จิตเฉียดฌาณ นี้มี แน่นอน ใช้สอนได้ แล้วคุณก็ทำมาแบบ
นั้น ผ่านมาแบบนั้น แล้ว คนโง่ที่ไหนจะไปทำอาการ วัวลืมตีน ปฏิเสธ
ว่า ใช้สอนไม่ได้ไหมหละคร้าบท่าน

 

เชื่อเถอะครับ ไอ้การ มาทำหล่อ ทำเป็นคนกลาง อาศัย หากระทู้
แปลกๆ แล้ว เข้ามาสอด ทำเป็นคนกลาง เนี่ยะ ทำได้ไม่นานหรอก

ประโยชน์มันไม่ได้เยอะ อย่างที่คุณ หมาย เอาไว้หรอก

แล้ว ยิ่งทำ มันก็ยิ่ง เผยตัวเองว่า ไม่ได้มีคุณธรรมอะไรกับใครเขา

แค่ เข้ามาสอด หาเศษ อาหาร คอยกินน้ำลายที่เขาทิ้งไว้เท่านั้น

เพื่อความเติบโตทางสังขารบางประการ

 

ผมไม่เคยสนใจเรื่องกสิน ก็อยากรู้บ้าง แล้วก็ตรวจสอบเข้าไปที่บาลีสยามรัฐ มันก็ไม่มีเท่านั้นเอง ก็เลยถามว่ามันมาจากตรงไหน พอดีมีคนเข้าเสนอมา ผมก็ตรวจสอบพระสูตรนั้นในบาลีสยามรัฐก็ไม่เจออีก พอดีไปเจอคำที่เรียกว่า กสิณายตนะ ก็ตรวจเข้าไปก็เจอก็เท่านั้น ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่ก็ได้ความรู้ว่าที่จริงกสิน มาจากคำว่า กสิณายตนะ ก็มีแค่นี้ จิตคุณมันคิดว่าผมคิดอย่างนั้นอย่างนี้เหมือนคุณที่ชอบซุกซน ผมนะมันบาปเยอะไม่มีเวลาคิดเรื่องเหลวไหลมากนักหรอกแค่เรื่องที่มีอยู่ในตัวก็มากพอแล้ว ผมอยากบอกคุณมานานล้วสิ่งที่คุณคิดนะมันผิดหมดเลย แต่ก้อยากจะบอกจะสอนให้ ผมมันไม่มีที่ไปแล้วบนโลกใบนี้นะ เพราะมันได้มาหมดแล้ว เหลือแต่จะเอาออกอย่างเดียว

 

กั๊กๆ สารภาพว่า เข้าไปขัด ข่มเขา เพื่อ " อวดตัว "

จะยกหาง แสดง ปฏิปทาตัว แหม......

เอาแบบนั้นเลยเหรอครับ

นี่ถ้า เสวนาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ ล่อนจ้อน หรอกคร้าบ

ธรรมะ ไม่มี

มีแต่ จุกประสงค์จะอวดตัว โชวโด่เด่มาเลย

 

กั๊กๆ วนในอ่างเหรอครับ

ให้ ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ กล่าวเพื่อให้กลายเป็น ประโยคปลายเปิด หา
ข้อสรุปไม่ได้ แล้วจะได้ เอาตัวรอด

แปลกดีแหะ นี่ถ้าจะ จีบหญิงเก่ง เลย ติดนิสัย กล่าวคำลวง สาไถย ไปเรื่อยเลย

 

มันจะเป้นอะไรยังไงก็เอามาอธิบายกันซิแบบที่ท่านอธิบายนั้นหละ ไม่ใช่กล่าวหาว่าขวางกั้นคนอื่นกล่าวหาว่าไปอวดตน คิดได้ไงผมงงคุณนะเล่าปัง คุณต้องเปลี่ยนความคิดใหม่นะ คุณไม่รู้จิตที่เขาคิด และคุณก็ใส่ความผมอย่างนั้นอย่างนี้ ผมบอกตรงๆเลยนะผมไม่รู้สึกเลย แต่ก็ดีเอาคุณไว้ตรวจสอบอารมณ์ แต่ตอนนี้อยากสอนแล้วล่ะอย่าคิดแบบนั้นเลยมันจะเป็นอนุสัยไป

 

นี่หรือความคิดคุณ คิดว่าผมข่มเขา เล่าปังคุณจิตคุณไปหมดแล้วจริงๆ มองของดีเป้นของเสียได้ ถึงค่ะ ถึงครับได้

 

ฮั่นแน่ ตามสูตรเชียว พอ เกริ่นประโยค ถ้า สองประโยค

ก็ สบช่อง หาข้อสรุปไม่ได้ แล้ว รีบรอดออกไป

แต่......คุณคร้าบ คุณ ชงเอง ซดเอง เลย นะนั่น

ตอนแรกคิดว่าจะแค่ สาเถยะ นี่ สรุปเอง ก็ มารยา ไปอีกตัว

ส่วน ตัวสุดท้าย ทำเป็น สอน เพราะ เสียไม่ได้ อันนี้
ก็นะ เขาเรียกว่า สอนไม่ดูตามม้าตาเรือ คนเขายังไม่
มีทีท่าจิตจะอ่อนโยน พร้อมจะฟังอะไรเลย ก็ ทะลึ่งทำ
เป็นสอน ..............คุณคร้าบ ใครเขาใช้วิธีสอนไม่เป็น
แบบนี้กันหละคร้าบ.............

 

อ้าวเล่าปังจิตคุณไม่อ่อนโยนหรอผมนึกว่าคุณข้ามแแล้วซะอีก ยังไงก็รักคุณเสมอ รักนะจุ๊บๆ เดี่ยวนั่งสมาธิก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าตักบาตร ไว้เสวนาต่อพรุ่งนี้ คืนนี้นะจะนอหลับสบายได้เสวนาธรรมกับเล่าปัง

 

คุณ เล่าปัง เคยโดยคดี ฐาน ลบหลู่ หรือไม่ การโพสของคุณเข้าข่ายดูหมิ่น
ขอเตือนด้วยความหวังดีครับ หรือว่าอยากลองพิสูจน์ตารางดูสักคืนครับ
ถึงจะสำนึก..​

 

เอานะ

จะอย่างไร คุณ ก็ปฏิเสธ หน้าด้านๆ ไปเรื่อยแหละ

ก็ จำไว้ละกันว่า คุณ อนุญาติผมเองว่า " ทำได้เท่านี้แหละ "

กล่าวถือ หากคุณไปโพสกระทู้ไหน สอนใครเมื่อไหร่

ผมก็จะไปยกประเด็น " อริยจุกรู๊ " ให้เขาทราบทันที ตาม
แต่โอกาส

เรียกว่า "ทำได้แค่นั้นแหละ" สมพร ที่คุณให้ไว้ อนุญาติไว้เอง

 

แหม คนมี พระพุทธองค์อยู่ในหัวใจ เอาธรรมะเป็นใหญ่

ไปๆมาๆ ก็โดน โลกธรรมร้อยรัดไม่ไหว ยอมแพ้ให้กับ โลกธรรมชักนำ
พฤติกรรมเหรอครับ

คุณเชื่อสิครับว่า

สิ่งที่คุณคิดว่า มีประโยชน์ ตอนนี้หนะ ตกลง มันมี ประโยชน์มาก หรือ
ประโยชน์น้อย

เอาแค้คำว่า ประโยชน์มาก ประโยชน์น้อย ตรงนี้แหละ แล้วคุณจะพบ
ว่า ไอ้ที่บอกว่า ผมพูดไม่จริง คุณก็จะเข้าใจเอง ว่า ผมไม่ได้กล่าว
ในสิ่งที่ผิด ความจริง

 

อย่าลืม จุ๊กกรู๊ ก่อนนะหละคร้าบ

 

newamazing เมื่อ 3 เดือนก่อน...​

http://palungjit.org/threads/วิธีบรรลุธรรมของแท้.362987/page-8#post6809537

"เสพเมถุน ผมไม่เสพตลอดชีวิต กินผมกินมื้อเดียว ส่วนตัวเองไม่เทียวไหนเลย(จากคนที่เที่ยวมาตลอดชีวิตอย่างหนักหาตัวจับไม่ได้) คุณว่าตรงนี้พอจะเป็นเครื่องพิสูจน์อะไรได้บ้างนะครับที่นอกเหนือจากคำพูด ผมอาจจะพูดสวยๆหรูๆดูหลุดพ้นไม่ค่อยเป็น ผมเน้นการลดละเลิกเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ"

newamazing ในปัจจุบัน...​

ทำไมตั้งสัจจะแล้วมันผิดเพี้ยนแบบนี้หละหือ? เคยประกาศความบริสุทธิ์ของตัวเองไว้ว่า ไม่เสพกามอีกตลอดชีวิต ฉันมื้อเดียวตลอดชีวิต แถมยังพูดถึงการจะออกบวชอีกด้วย...

นี่ผ่านมาแค่ 3 เดือน นกเขาจุ๊กกรู๊ซะแล้ว ทำไมวัตรปฏิบัติ มันเสื่อมลงเรื่อยๆ แบบนี้หละ?

แบบนี้ อย่าบวชเลยนะ เดี๋ยวปาราชิก นะ

 

ถ้าจำไม่ผิด ในกระทู้รอบก่อนหน้า สมัย newamazing ยังใช้ชื่อ bigtoo

รู้สึกเหมือนผมจะเคยบอกไปนะ ว่าผมเข้าใจว่าท่านเล่าปัง เลิกเสพกาม มานานกว่า newamazing ในตอนนั้น (ซึ่งบอกไว้ว่าเลิกมา 1 ปี)

ตอนนั้น newamazing ก็ สะบัดบ๊อบ แล้วก็พูดเหมือนไม่แยแสใยดี เหมือนการอดกามมานานกว่าตัวเองของท่านเล่าปัง ไม่ได้มีความดีเด่อะไรเหนือตนเองเลย

มาตอนนี้อยู่ดีๆ จะให้ท่านเล่าปัง เสื่อมในวัตรปฏิบัติ เอาตัวไปเปื้อนน้ำกาม ตามท่านเหรอครับ?

 

.............ยังไง คุณ บิกตู่ ในกระทู้โน้น ก็ทิ้งท้ายว่า ยังไงก็อยากสนทนาต่อ ในกระทู้อื่นอื่น เพราะเล็งเห็นว่ามีอะไรดีดีต่อตน.....อย่างนี้แสดงว่า เขาเห็นประโยชน์ในการสนทนา...ส่วนเรื่องการปรามาส แล้วไปนอนโรงพักอะไรนั่นผมว่า ไร้สาระ....เพราะ จขกท เขาต้อง "สอบ" ความเป็นอริยะ ของตน ซึ่งถือว่า ดี มาก