อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nanthiya1, 11 สิงหาคม 2010.

  1. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    โห..ไปธุระแป๊บเดียว กลับมาเหงาเลย..
     
  2. prapanuch

    prapanuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +853
    ประสบการณ์ธุดงค์เคยพักที่ป่าช้าหรือปล่าวค่ะ เล่าต่อนะคะติดตามอ่านคะสนุกมาก
     
  3. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    ขอขอบคุณ คุณอาภากร มากเลยคะที่บอกโค๊ตใส่เพลงและรูปมาให้ และส่งภาพวาดสวยๆ ของพระแม่อุมาเทวี วาดภาพโดยกรมหลวงชุมพรฯ ท่านเก่งจังเลยนะคะวาดภาพได้สวยมากเลย และตุ๋ยก็ขออนุโมทนาบุญ กับคุณอาภากร ที่ส่งเรื่องราวดีๆ เมื่อครั้งที่คุณ บวชมาให้อ่าน อ่านแล้วปลื้มจริงๆ คะ
     
  4. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    ตอนนี้ก็ว่าง แล้วตุ๋ยจะมาเล่าผลการปฎิบัติธรรม เมื่อปลายปีที่แล้วตุ๋ยได้ไปบวชชี
    พราฌที่วัดทาชุง ที่วัดจะสวดมนต์เย็นเมื่อสวดมนต์ จบก็จะเปิดเสียงตามสายคำเทศน์และคำสอนหลวงพ่อฤาษีและหลังจากนั้นก็นั่งสมาธิ ตุ๋ยก็จะทำจิตให้เป็นสมาธิตั้งแต่ทางวัดเปิดเสียงตามสายเลยนั่งฟังหลวงพ่อเทศน์ และเอาจิตจดจ่อกับเสียงหลวงพ่อ จนเข้าอยู่ในอารมณ์เคลิ้ม จิตตุ๋ยไปเห็นหลวงพ่อกำลังนั่งเทศน์จริงๆ ลอยอยู่กลาง อากาศ บริเวณศาลา 12 ไร่ ลอยอยู่ข้างๆ พระประธานสมเด็จองค์ปฐม ตุ๋ยก็เอาจิตกำหนดมองไปที่องค์หลวงพ่อ หลวงพ่อมาในรูปยังหนุ่มอยู่ผิวท่านออกคล้ำนิดๆ มีไมล์โคโฟล์ อยู่ตรงหน้าท่านด้วย และตุ๋ยก็กำหนอจิตมองไปรอบๆ ศาลา 12 ไร่ ก็เห็นพยานาคลอยอยู่บน ศรีษะญาติโยม เต็มไปหมดเลยในศาลา 12 ไร่นั่นแหละ ตุ๋ยก็เลยรู้ว่าหลวงพ่อฤาษี ไม่ได้เทศน์ให้ญาติโยมที่เป็นมนุษย์ ฟังอย่างเดียว มีทั้ง มนุษย์ และกายละเอียดที่เรามองไม่เห็นมาปฎิบัติธรรมและฟังเทศน์ เช่นกันคะ
     
  5. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    ทีนี้มาเล่า ต่อใหนๆ ก็เล่าแล้ว ช่วงที่บวชชีพราฌที่วัดหลวงพ่อฤาษี นั่นและเพราะเขาบวชกันหลายวัน และ เย็นอีกวัน หลังจากสวดมนต์เสร็จ และก็ฟังเสียงตามสายและทำสมาธิเลย พอจิตเป็น สมาธิอยู่ในอารมณ์ ก็มีภาพมากระทบจิต เป็นวิมาน สวยมาก แต่ตุ๋ยจะเห็นแค่หลังคา แต่ที่ประทับใจเพราะวิมานหลังนั้นมันคือวิมานเพชร ทั้งหลังตบแต่งได้ วิจิตรพิสดาร มาก เพชรนี่งามมากถ้าเอามาเปลี่ยบแทบ กับเพชรในเมื่องมนุษย์ หมองไปเลยคะ เพชรของโลกมนุษย์นะคะตุ๋ยกำลังจะกำหนดดู ให้หมดทั้งหลัง พระอาจารย์แผ่เมตตาพอดี นึกแล้วก็เสียได้
    เอามาเล่าให้แม่ฟัง ในระหว่างเดินกลับที่พัก มองไปเห็นปราสาททองคำที่ทางวัดสร้างไว้ ปราสาททองคำหลังนี้สู้ไม่ได้เลย นี่ระมังที่ตามวัดไปลอกแบบเอามาสร้างพระที่ท่านปฎิธรรมเก่งๆ ไปเห็นมานี่เอง
     
  6. จิตอารี

    จิตอารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +223
    ขอบพระคุณมาก ค่ะ ที่ให้ความกระจ่าง ปกติ องค์ ปู่จะลงอยู่องค์เดียว ตามโอกาศ ถ้า งานหรือตำหนักไหน ที่ไม่ใช่ ปู่จะไม่ลงประทับ ค่ะ ส่วน พระแม่จามเทวีนี่ แต่ก่อน ลงประทับ บ่อย แต่พอ องค์ ปู่ท้าวเวสสุวรรณเสด็จมานี่ พระแม่จามเทวีก็ไม่ค่อย ลงเท่าไร ค่ะ...ทุกวันนี้ ก็บูชาสิ่งศักคิ์ ทุกๆ พระองค์ ค่ะ แต่ไม่ยึดติด ไม่รับเป็นร่างทรง แต่ก็เชื่อ และไม่ลบหลู่ สิ่งศักคิ์สิทธ์ ทุกๆ พระองค์ ค่ะ....
     
  7. คนมีองค์

    คนมีองค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +451
    น่าสนใจค่ะ


    คนมีองค์ ฯ พูดง่ายๆก็คือคนมีกรรม มีพันธะสัญญาผูกพันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    เขาไม่ได้เกียจคร้าน แต่องค์ประจำกายไม่ให้ทำ แต่เขาก็จะไม่ลำบากหรอกนะ ถ้าหมั่นเสริมบารมี ถือศิลภาวนาประจำ คนทั่วไปมักว่าบ้า แต่เชื่อเถอะว่า
    ซักวัน คุณจะสัมผัสได้ในสิ่งนั้นๆ หากคุณทำบุญสร้างบารมีเพียงพอ เพราะทุกคนมีองค์ ฯ ส่วนจะเป็นองค์เทพหรือปู่ย่าตาทวด นั่นอีกเรื่อง ที่สัมผัสไม่ได้เพราะไม่สร้างบารมี การสร้างบารมีมี3ทาง 1ถือศิล5 ให้บริสุทธิ์2.หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิ 3. ให้ทาน ,ทานผู้มีพระคุณ กับทานผู้ยากไร้ค่ะ
     
  8. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    สวัสดีคะ คนมีองค์ เรารู้จักกันแล้วนะคะนี่ ตุ๋ยไม่ค่อยได้เข้าไปอ่านในชมรมคนมีองค์สักเท่าไรเพราะเห็นเจ้าของชมรมจะนานๆมาสัก ครั้ง ใช่คะเห็นด้วยคนมีองค์เหมือนคนมีกรรม แต่เราก็พยายามสร้างบารมีให้มากกรรมตรงนี้ก็คงจะหลุดพ้นเอง ตุ๋ยก็ตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหมื่อนกันใหม่ก็รับไม่ได้แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เพราะท่านก็ไม่ได้มาร้ายอะไรเพียงแต่ท่านอยากมามีส่วนร่วมในบุญที่เราสร้างเท่านั้นเอง
     
  9. prapanuch

    prapanuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +853
    ดิฉันอีกคนหนึ่งที่"มีองค์" จากที่เคยสงสัย จนไม่มีความสงสัยอีกต่อไป และกำลัง สร้างสรรค์ มุ่งมั่น และก้าวต่อไป พร้อมกัน ทั้งองค์ทั้งร่าง พากันปฎิบัติธรรม และกำลังริเริ่มสร้างสถานปฎิบัติธรรม เพื่อร่างทรงโดยตรง เพื่อให้ผู้ที่มีองค์ได้ศึกษาและเรียนรู้อย่างถูกต้องและเข้าใจ ตัวเอง เพราะวิญญานทุกวิญญานล้วนเวียนว่ายตายเกิด ไม่ว่าจะเป็นเทพชั้นใดเมื่อหมดบุญที่เคยสร้างสมไว้หมดลงย่อมลงมาเกิดอีก เพราะวิญญานไม่สามารถทำบุญเหมือนมนุษย์ได้ ดังนั้น จึงมีคนที่สามารถสัมผัสวิญญานได้ด้วยเหตุนี้ เพราะการเกิดแต่ละครั้งมันเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้น ทั้งเทพและมนุษย์ล้วนมีกรรม
     
  10. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    จะสําเร็จทั้งการจัดการสถานที่ แต่จะได้รับผลกระทบจากหน่วยงานราชการ และต้องใช้ธงธรรมนําธงเทพ ไม่เช่นนั้นไปไม่รอดนะครับ

    อนุโมทนาด้วยครับ

    ใครๆก็ว่าคนมีองค์เป็นคนมีกรรม ได้ดวงตาเห็นธรรมทั้งทีทําไมถึงเปิดเพียงข้างเดียวแต่อีกข้างกับปิดสนิท เพราะคนไม่มีองค์ก็มีกรรมทั้งนั้น จะคนมีองค์หรือไม่มีองค์ จะสัตว์เดรัจฉานหรือว่าเทพพรหม ล้วนต้องตกอยู่ในกรงล้อเดียวกันทั้งนั้น

    ข้าพเจ้าก็คงเห็นจะจริงตามนั้น

    เอาอะไรมาชี้ชั่งว่าคนมีองค์จะต้องมีวิบากรรมบดบังพระนิพพาน
    คนมีองค์เข้าถึงมรรคผลก็มีเยอะ ทั้งอดีต ทั้งปัจจุบัน ทั้งอนาคตกาล การที่คนจะมีหรือไม่มีก็ไม่ได้หมายความถึงจะยึดติดละทิ้งไม่เอานิพพาน

    มีอตีตังสญาณ มีอนาคตังสญาณ หวนละลึกนึกถึงความหลัง ความหน้า ลองตรองกันดู

    ใครบัญญัติว่ามีองค์ไปไม่ได้ ไตรปิฏก ไบเบิ้ล อัลกุลาอาล เล่มไหนเขียนบ่นถึง
    ของคําอยู่ถ้าหงายได้ นั่นเป็นหมายย่อมเต็มแน่แม้วันหนึ่ง
    น้ำเพียงน้อยค่อยๆหยดอย่าคํานึง สักวันหนึ่งคงเต็มแก้วเข้านิพพาน

    ไม่ว่าคุณะปฏิบัติโดยหวังผลหรือไม่หวังผลถึงนิพพาน ข้าพเจ้าก็เห็นว่าสิ่งนี้เป็นกุศลจิต ก็ขอเอาใจช่วย
     
  11. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784

    ตุ๋ยอนุมโทนาบุญ กับคุณ ด้วยนะคะ ขอให้สำเร็จตามความมุ่งมั่น นะคะ ความพยายามอยู่ที่ความสำเร็จอยู่ที่นั่นคะ
     
  12. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    สำหรับคะรุทา ไม่คิว่าคนมีองค์มีกรรมค่ะ แต่คิดว่าดีเสียอีกได้ช่วยคนทั้งทางตรง และทางอ้อม และได้ใช้หนีกรรมที่เคยติดเขาไว้ในอดีต จะได้ไม่ติดค้างเพื่อไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ...แล้วต้องตั้งเป็นที่สำหรับคนทรงหรือค่ะ ถ้าเรามีองค์แต่ไม่เป็นคนทรง ได้ไหมค่ะ..แล้วจะมีผลเสียไหมคะ ..คือสงสัยนะคะ
     
  13. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    คุณ คะรุทา ตุ๋ยก็ว่าไม่จำเป็น ต้องเป็นคนทรงเสมอไป เทพฯที่อยู่กับตุ๋ยท่านไม่ยุ่งเลยเรื่องดูหมอ ท่านออกตัวเลยท่านไม่รับดูหมอให้ใคร ตอนที่สื่อกับท่านใหม่ๆ เพื่อนเขาก็ฝากถามโน้น ถามนี่ ตุ๋ยก็แกรงใจท่านไม่กล้าถาม นอกจากท่านจะสงเคราะห์ พูดขึ้นมาเอง อันนี้ก็แล้วแต่ท่าน ก็คอยดูผลที่ท่านพูดขึ้นมาจะถูกต้องตามนั้นไหม อันนี้เป็นความคิดเห็นของตุ๋ยคะ ลองฟังความคิดเห็นจากเพื่อนคนอื่นๆ คะ ว่าเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไร
     
  14. prapanuch

    prapanuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +853
    ะสําเร็จทั้งการจัดการสถานที่ แต่จะได้รับผลกระทบจากหน่วยงานราชการ และต้องใช้ธงธรรมนําธงเทพ ไม่เช่นนั้นไปไม่รอดนะครับ คุณ.. ก็จะเป็นอีกคนหนึ่ง..ที่จะร่วมเบิกทาง ขอเชิญท่าน อาภากร ผู้มากด้วยคุณวุติ คุณธรรม และผู้มีองค์ในชมรมนี้ทุกท่านค่ะ ขณะนี้ดิฉันก็รอฟังคำตอบจากโครงการคุณ ภราดรต่อไป
     
  15. prapanuch

    prapanuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +853
    คุณ คะรุทาค่ะ จากประสบการณ์ ที่สื่อสารมานะคะ คนที่มีองค์แฝง บางคน จะแฝงแบบไม่ทรงรับแขก บางคนมาเพื่ออาศัยร่าง ส่วนมากเราจะบอกว่า ช่วยร่าง แต่ร้อยทั้งร้อยต้องเป็นคนสวดมนต์ ปฎิบัติธรรม เพราะวิญญานที่มาอยู่ในร่างเราไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้นเหมือนเด็กอ่อนแรกเกิด ฉะนั้นเราต้องสวดมนต์เพื่อให้มีพลัง ยิ่งสวดมนต์ทุกวันยิ่งดีทั้งองค์ทั้งร่าง เจริญไปพร้อมๆกัน สำหรับคำถามของคุณ คะรุทา ต้องดูก่อนว่า ท่านมาแบบใหน?ถ้าท่านให้รับแขกคุณฝืนไม่ได้เลย สักวันหนึ่งเมื่อถึงเวลามันจะเป็นไปเองแม้จะฝืนก็ตามค่ะ ขอเป็นกำลังใจนะคะ
     
  16. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    แวะเข้ามาทักทายนะคะ ไม่ได้หายไปไหนอยู่แถวๆนี้ละคะ มีธุระนิดหน่อยเลยไม่ค่อยได้คุยนะคะ
     
  17. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ศิลามณี เห็นด้วยกับ คุณคะรุทา คะ....พ่อแม่ครูบาอาจารย์... บางท่านก็เพียงแต่ต้องการดึงเรา...เข้าสู่ทางธรรม เพื่อ..หาหนทางกลับบ้าน.. ไม่ได้หมายว่าจะต้องเป็นคนทรง หรือ ต้องรับแขกเสมอไป....ตัวเรานี่ละคะ ที่จะรู้ดีที่สุด

    หากยัง คุณคะรุทา ยังสงสัย ก็กำหนดถาม..พระองค์ท่าน ในสมาธิดูสิคะ ..คำตอบก็จะมาเองแหละ ...... ศิลามณี ว่าอย่ากังวลไปนักเลยนะ...ณ ขณะนี้ ที่คุณคะรุทา ปฏิบัติประพฤติตนอยู่ ..... ศิลามณี ว่า คุณคะรุทามาถูกทางแล้วละคะ
     
  18. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    คุณศิลามณีขา..เคยกำนดถามพระองค์ท่านแล้ว พระองค์ท่านตอบว่า
    ปฎิบิติไปแล้วมึงจะรู้ แล้วมึงจะเห็น ถามว่าที่ทำอยู่นี้ถูกแล้วไหม ท่านตอบว่า ดีแท้..เคยถามว่าต้องไปรับขันธ์หรือเป็นคนทรง ไหม พระองค์ท่านก็ตอบว่า ไม่ต้องค่ะ..แต่ที่สงสัยคือมีองค์อื่นนอกจากองค์ประธานของเรามาเยี่ยมเยอะนี่ซิค่ะ กลัวนิดหน่อยค่ะ
     
  19. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    องค์มาเยอะตามบารมีที่สูงขึ้น และกว้างขึ้น ของร่างและองค์ประธาน

    จากตําราที่มีการจดบันทึก
    ใน 100 คน 80 คน มีองค์เทพคุ้มครอง
    ใน 100 คน 20 คน คือร่างทรง
    นอกตํารา
    คนทุกคนมีเทวดาประจําสังขารแต่กําเนิด
    ทุกคนมีหน้าที่ทางโลก ทางเทพ และทางธรรม ทั้งสิ้น
    ลองสังเกตุ พวกองค์เทพจะไม่ค่อยยุ่งกับ ผู้ที่มีหน้าที่ทางพระศาสนา และ ข้าราชการ จะเห็นว่าพวกนี้เป็นคนในแผ่นดิน พวกวิญญาจะให้ความเคารพและเกรงราชอาญามาก

    ร่างทรงมีเพียง 1 ใน 100 หรืออาจจะน้อยกว่านั้น
    การรับขันธ์เกิดโทษแก่ผู้รับ ไม่จริง
    คนมีองค์ต้องรับขันธ์ทุกคน ไม่จริง
    คนรับขันธ์ต้องเป็นร่างทรงทุกคน ไม่จริง
    ร่างทรงต้องผ่านการรับขันธ์ทุกคนมาก่อน ไม่จริง

    พุทธบริษัท ไม่จําเป็นต้องบวชเรียนใจไม่บวชหรืออยากบวชเรียนเป็นหญิงก็เป็นพระไม่ได้
    คนมีองค์เหมือน ไม่จําเป็นต้องรับขันธ์ ไม่มีผลดีและเสีย แต่จะมีผลทางใจ

    พระสงฆ์ แม้ญัตติจตุตถกัม แต่ถ้าไม่มีคุณธรรม ก็เรียกพระบ้าน
    ฆราวาส แม้จะปฏิบัติตรง คุณธรรมสูง ไม่ผ่าน ญัตติจตุตถกัม ก็ยังไม่เรียกว่าพระสงฆ์
    ร่างทรงแม้องค์เทพใหญ่โตแต่ไร้เมตตา หลอกลวง ก็มีค่าแค่เปตรเดินดิน
    ผีป่า ปรารถนา ช่วยเหลือคน สิงสู่ร่าง ก็เรียกว่า องค์เทพ
    ***เจริญพรหมวิหาร 4 ให้มากนะครับ
    ไม่สนับสนุนและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกตําหนักร่างทรง ส่วนนี้เป็นการแสดงความคิดเห็น
    และ เป็นการแบ่งปันแนวคิด เท่านั้นไม่มีเจตนาบิดเบือนพระธรรม หรือเผยแผ่แนวคิดนอกศาสนา หวังว่าคงเข้าใจ
     
  20. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    เป็นเช่นนี้แล

    อ๋อ..เข้าใจล่ะคะ ขอบคุณคุณอาภากรมากๆค่ะ
    คะรุทาปฎิบัติสม่ำเสมอ ค่ะ จะเว้นเฉพาะป่วย
    บางองค์มาแค่มาเยี่ยมแป๊บเดียว สนทนานิดหน่อยแล้วก็ไปค่ะ
    บางองค์มา มาเอาหัวโขกพื้นเหมือนกราบพระที่หิ้งค่ะ
    บางองค์มา แล้วเอียงไปหาองค์เทพบางองค์ที่คะรุทาบูชาอยู่ ลักษณะเหมือนคุยหรือทักทายกันนะคะ สงสัยเหมือนกันว่า ข้างบนเขาไม่คุยกันเหรอ ถึงต้องมาคุยข้างล่าง..สงสัยก็จริง แต่ไม่ขาดการปฎิบัติ เพราะสังเกตุว่า เวลาองค์ใดมา ต้องคำนับ หรือนอบน้อมต่อหิ้งพระเสมอเลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...