อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

มเหสีของท้าวกุเวร คือใคร?

ท้าวกุเวร (Kubera) และหาริตี (Hāritī) คือกษัตริย์และพระราชินีของพวกยักษ์

ปกติมเหสีประจำพระองค์ เช่น พระอินทร์ (อินทรานี) พระยม (ยมนี) พระกุเวร (กุเวรี) เป็นต้น

 

กล่าวกันว่า เทพนิยาย เทพปกรณัม ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเล่า เพื่อเสริมสร้างอรรถรสในการเสริญสรรพระผู้เป็นเจ้าของตน เพื่อให้เกิดความเชื่อและความศรัทธา บ้างก็จะใส่เรื่องสัจจะธรรม ความรู้ประสบการณ์ของตนลงไป จนกลายเป็นปาฏิหารย์ ก็มีเยอะแยะมากมาย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นกุศุโลบายให้คนเป็นคนดี

แต่ละแง่ความจริง จิตวิญญาณเหล่านี้มีจริง ซึ่งเราไม่สามารถปฏิเสธได้สำหรับผู้ที่รับรู้ได้เฉพาะตน มีเทวดา มีมาร มีดี มีชั่ว คละเค้ากันไป บทละครบนโลกใบนี้ก็เช่นกัน มีให้รู้มีให้เห็น รบราฆ่าฟันกันระหว่างกิเลสมาร กับกุศลบุญ ใครจะเหนือกว่ากัน คำตอบย่อมอยู่ในใจท่านอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เบื้องบนก็รบราตามวิถี โลกมนุษย์ก็รบราตามวิถี รบกันไปรบกันมา งงไปหมด รบกันสวรรค์เบื้องบน เทวดาก็ชนะอยู่ดี

แต่ในกาลียุดบนโลกมนุษย์อย่างนี้ ก็คงแพ้พวกมารอยู่ดี จริงไหมท่าน เทพเทวัญเบื้องบน ทนดูไม่ได้ ต้องลงมาช่วยลูกหลานตูก่อน เดี๋ยวจะตายห่าหมด ไม่รู้จะดลจิตดลใจให้ใครสร้างบุญกุศลได้อีก เรื่องนี้ ก็จบด้วยเอวังฉะนี้แหละครับ

 

อันนี้อ่านเล่นๆนะครับ

สวรรค์มี 6 ชั้น
จาตุมมหาราชิกา มีผู้ปกครอง คือ ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวจตุมหาราช
ดาวดึงษ์ มีพระอินทร์เป็นองค์ปกครอง และ มหาจุฬามณี และ เทวสภาก็อยู่ในชั้นนี้
ยาม มีพระสุยาม หรือ พระสยามเทวาธิราช ที่คนไทยรู้จักปกครอง
ดุสิต มีท้าวสันดุสิตหรือ พระศรีอาริยเมตไตย เป็นประธาน ว่ากันว่า สวรรค์ชั้นนี้เป็นที่จุติของพระโพธิสัตย์ ไม่แน่ใจว่าหมายรวมถึง พุทธบิดา และพุทธมารดาด้วยหรือไม่
นิมมานรดี มีท่านท้าวนิมมานรดี เป็นผู้ปกครอง
ปรนิมิตวสวัตดี มีพระยามาราธิราชคู่ปรับในวันตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าโคดม ปกครอง

พรหมโลก
ทั้ง16 ชั้น ว่ากันว่าปกครองโดยท่านท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ(มหาพรหมชินบัญชร)
พรหมโลก 3 ชั้นแรกว่ากันว่าปกครองโดย ท้าวกบิลพรหม หรือที่เราเรียกว่าท้าวมหาพรหม4 หน้า ที่มักจะเห็นท่านในวันสงกรานต์
พรหมโลกชั้นที่ ๗ ชั้นที่ ๘ และชั้นที่ ๙ นี้ ความจริงตั้งอยู่
ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่เป็น ๓ เขต
ผลแห่งฌานกุศล ที่ส่งให้ไปอุบัติเกิ ดในพรหมโลก ๙ ชั้นแรกนั้น ไม่เรียกว่ามีผลไพบูล ย์เต็มที่ ทั้งนี้ก็โดยมี เหตุผลตามสภาพธรรมที่ เป็นจริง ดังต่อไปนี้
เมื่อคราวโลกถูกทำลาย ด้วยไฟ นั้น ๓ ชั้นแรก ก็ถูกทำลายไปด้วย
พรหมปาริสัชชาภูมิ พรหมปุโรหิตาภูมิ มหาพรหมาภูมิ
เมื่อคราวโลกถูกทำลาย ด้วยน้ำ นั้น ๖ ชั้นแรก ก็ถูกทำลายไปด้วย
ปริตรตาภาภูมิ อัปปมาณาภาภูมิ อาภัสราภูมิ
เมื่อคราวโลกถูกทำลาย ด้วยลม นั้น ทั้ง ๙ ชั้นแรก ก็ถูกทำลายไปด้วยไม่มีเหลือเลย
ปริตตสุภาภูมิ อัปปมาณสุภาภูมิ สุภกิณหาภูมิ
เวหัปผลาภูมิ อสัญญีสัตตาภูมิ พรหมโลก 2 ชั้นนี้ ไม่ได้รับผลเมื่อถึงกาลโลกวิบัติ


สุทธาวาสภูมิ 5 ชั้น
อวิหาสุทธาวาส อตัปปาสุทธาวาส สุทัสสาสุทธาวาส สุทัสสีสุทธาวาส อกนิฏฐสุทธาวาส
เป็นที่อยู่แห่งพระพร หมอริยบุคคลในบวรพุทธ ศาสนา ชั้นพระพรหมอนาคามีอริยบุคคล ผู้มีความบริสุทธิ์ เท่านั้น ส่วนท่านที่ทรงคุณวิเศษอื่นๆ แม้จะได้สำเร็จฌาน วิเศษเพียงใด ก็ไปอุบัติเกิดในสุทธ าวาสภูมินี้ไม่ได้ อย่างเด็ดขาด สุทธาวาสภูมินี้มีอยู ่ ๕ ชั้น และ อกนิฏฐสุทธาวาส พรหมโลกนี้ มีพระเจดีย์เจ้าองค์ สำคัญ ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์แสดงว่าเป็นพรหมโลกที่ เคารพนับถือพระบวรพุท ธศาสนาประดิษฐานอยู่ องค์หนึ่งมีนามว่า ทุสสะเจดีย์

เครดิตพรหมโลกคัดลอกมาจากนี้ครับ
http://www.gmcities.com/board/index.php?topic=826.0

ในส่วนมหาเทพพระองค์อื่นในพระไตรปิฏกที่กล่าวถึงก็จะมี พระวิษณุกรรม และ พระแม่ธรณี
ส่วนพระยายมราชมีกล่าวถึงใน พระมาลัยสูตร
ในส่วนเทพเจ้าของฝั่งฮินดู จีน และกรีกขอละไว้ครับตามความเหมาะสม

 

เห็นด้วยกับ คุณ ภราดรภาพคะ ขออนุโมทนาบุญด้วยคะ สมัยนี้โลกมันวุ่นวายมากร้อนถึง เทพเทวัญเบื้อนบนเพราะมารบนโลกมนุษย์คงเยอะจริงๆ ก็เลยต้อง
ลงมา มาช่วยลูกหลานเพื่อช่วยค้ำชูศาสนาให้อยู่ได้ครบ 5000 ปีแต่บางคน
การมีเทพคุมครองก็เพราะจะให้ลูกหลานสร้างความดี ปจุบันนี้จึงมีเทพปราฎก
ขึ้นเยอะมาก บางคนก็รับได้บางคนก็รับไม่ได้ ก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ส่วนตุ๋ยใหม่ๆ
ก็ไม่ยอมรับเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ยอมรับแล้วเพราะท่านไม่ได้มาทำให้เราเดือด
ร้อนอะไร เพียงแต่ท่านอยากจะมาร่วมยินดีอนุโมทนาบุญที่เราทำเท่านั้น อันไหน
ท่านช่วยได้ท่านก็ช่วย แต่ถ้าอันไหนท่านช่วยไม่ได้ท่านก็ไม่ช่วยเพราะท่านฝืนกฎของกรรมที่เราทำมาไม่ได้ สังเกตเรื่องการบุญการกุศลท่านช่วยผ่านได้ทุกงาน
ไม่มีติดขัดเลย

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ อาภากร ละเอียด สุดยอดจริงๆคะ

 

จริงๆ แล้ว เหล่าเทพเทวัญที่ลงๆ กันมาเพื่อปกปักรักษาเหล่าลูกหลานตนนั้น
ไม่ได้หมายความว่า จะต้องไปบำรุงพระพุทธศาสนาแต่อย่างใดหรอก แต่ต้องการดลจิตดลใจให้ปฏิบัติเป็นคนดี มีคุณธรรม มีการสร้างบารมี เพื่อกลับไปยังถิ่นเดิมหรืออาณัติของพระองค์ตามสัญชาติญาณ

คนไหนถูกกำหนดให้ลงมาสร้างบารมี ก็ต้องสร้างบารมีเพื่อยกระดับภพภูมิตนให้สูงขึ้นไปอีก

ปกติเราไม่ควรจะใช้พระองค์ท่าน เราควรปฏิบัติเยี่ยงผู้รับใช้กษัตริย์ หากเรารับใช้พระองค์ท่าน ก็ถือว่าเป็นบุญกุศลยิ่งแล้ว ท่านจะดูแลลูกหลานท่าน ทุกย่างก้าวของเรา ก็จะปรากฎรอยพระบาทของท่านอยู่เคียงข้างเสมอ ท่านไม่เคยทอดทิ้งลูกหลานหรอก มีแต่เรานี้แหละ ได้ดีแล้วติดสุข จนลืมพระองค์ท่าน แล้วไม่ค่อยฝักใฝ่การปฏิบัติและสร้างบุญกุศล ท่านก็ปล่อยยถากรรมซัดเข้ามาก็มี เหมือนพ่อแม่ที่ต้องสั่งสอนลูกให้หลาบจำ

จำไว้อย่างหนึ่งว่า พระองค์ท่านจะไม่แปดเปื้อนกรรม กรรมปัจจุบันของเรา ก็ต้องชดใช้กันไป เพื่อให้เป้นโมฆะในชาติปัจจุบัน แล้วก็มั่นสร้างกุศลกรรมเพื่อสิ่งที่ดีในภายภาคหน้า ขอแสดงความเห็นไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ

ขอให้เจริญธรรม

 

ฮืมร์ ไม่รู้จะคุยอะไร มาเล่าเรื่องผี และประสพการณ์
ฝึกสมาธิ ที่ผ่าน ผ่านมากันต่อ นะเพื่อนๆ

 

สวัสดีคะคุณตุ๋ย วันนี้ไม่ค่อยได้คุย ง่วงนอนจริงๆเลยไม่ทราบเป็นอะไรอีกแล้วนี่ ตกลงวันนี้คุณตุ๋ยเห็นเจ้าผีเกเรนั้นอีกหรือเปล่าคะ

 

ถึงว่าไม่รู้ คุณศิลามณี หายไปไหน ที่แท้ก็ง่วงนอนนี่เอง ไอ้เจ้าผีเกเรตอนนี้มันไม่มาแล้วมันคงรู้ตัวว่าตุ๋ย
กำลังจะใช้แสงออกจากหน้าผาส่งตรงไปที่มันตามที่
คุณ ศิลามณีสอนมันก็เลยยังไม่มา หรือตุ๋ยต้องลงไปนอนห้องข้างล่างเสียละมังถึงจะพบพวกมันเพราะตุ๋ย
ไม่เคยลงไปนอนเลย เดี๋ยวว่างๆ จะแอบลงไปนอนช่วงกลางวันได้เรื่องอย่างไรเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังนะเพื่อนๆ:boo:

 

ได้คะ....เรื่องผีต่อก็ได้ ที่จริง...ถ้ากลัวผีก็ต้องไม่ดูไม่ฟังเรื่องผีนิ ไม่งั้นมันฝังรากอยู่ในใจ พอหลับตาวับ นึกถึงหนังผีเมื่อกี้ที่ได้ดู หรือ ได้ฟังมา เพื่อนๆส่วนใหญ่ที่ศิลามณีรู้จัก รวมทั้งตัว ศิลามณี ด้วย เป็นหยั่งงี้ทุกคนเลย คือ กลัวแต่ก็อยากฟังนิ.....

ศิลามณี .... เคยประสาทกินเพราะความกลัวผีนี่ละคะ กลัวผีเขาจะมาโผล่ในสมาธิ จนไม่ยอมทำสมาธิคนเดียว ... ต้องวิ่งไปหาครูบาอาจารย์.... หนักๆเข้านะคะ ท่านเห็นวิ่งไปหาท่านบ่อยๆ ท่านเลยสอนวิธีนี้ให้ ศิลามณี คะ ....

คือหลังไหว้พระ สวดมนต์แล้ว แผ่เมตตาไปแล้ว ท่านให้ศิลามณีกำหนดจิด เห็นศิลามณีนั่งบนแผ่นพื้นดิน และให้กำหนดจิตว่า ร่างกายของศิลามณี ค่อยๆเปลี่ยนไปจากที่มีเนื้อหนัง ค่อยๆเปลี่ยนไป.....เปลี่ยนไป ...จนเหลือแต่โครงกระดูก ...ที่นี้.... จากโครงกระดูกก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนผุพังลงไป ... จนสลายกลายเป็นฝุ่น หายวับจมไปกับกองดิน จนไม่เหลือซากเลย... พร้อมกับให้กำหนดว่า "กูไม่มีตัวตน มึงไม่มีตัวตน"

เสร็จแล้วก็ให้กำหนดต่อให้เห็นว่าตัว ศิลามณี นั่งอยู่ในน้ำ จากนั้นก็ให้ร่ายกายค่อยๆเปลี่ยนไป.... จากที่มีเนื้อหนัง ให้เหลือแต่โครงกระดูก ..และค่อยๆสลายไปกับน้ำนั้น พร้อมกับกำหนดว่า "กูไม่มีตัวตน มึงไม่มีตัวตน"..

ทีนี้ก็มาถึงลม... เหมือนกันคะให้กำหนดว่า เรานั่งอยู่ทามกลางสายลม กำหนดให้เห็นว่าร่างกายเรานั้นค่อยๆเปลี่ยน จากที่มีเนื้อหนังมังสา ให้เห็นว่าเหลือแต่โครงกระดูก ... แล้วโครงกระดูกนั้น ....ก็ให้ย่อยสลายไปกับสายลม พร้อมกับกำหนดว่า "กูไม่มีตัวตน มึงไม่มีตัวตน"

สุดท้ายแล้ว กำหนดให้เห็นว่าเรานั่งอยู่ในกองไฟ ให้เห็นว่าเนื้อหนังของเรากำลังหายไปเหลือแต่โครงกระดูก จากนั้นโครงกระดูกก็ค่อยๆสลายไปหายวับไปกับกองไฟ พร้อมกับพูดว่า "กูไม่มีตัวตน มึงไม่มีตัวตน"

พอทำวิธีนี้บ่อยๆ ความกลัวที่มีอยู่ก็ค่อยๆหายไปคะ ..

 

อ้าว .... คุณตุ๋ยหายไปแล้ว .... ศิลามณี ว่าคุณตุ๋ยควรลองไปนอน ในห้องนั้นดูนะคะ อย่าไปกลัวเขาคะ เพราะนี่เป็นบ้านของเรา.. จะไปนอนเมื่อไหร่ตั้งสติให้ดีก่อนนะคะ ที่สำคัญไม่ให้กลัว... ลองเจรจาก่อนก็ได้ หากเขาจะมาทำร้าย ก็ใช้วิชาฤทธิ์ทางใจนี้ละ จัดการเลย....

.อีกอย่างหนึ่ง คุณตุ๋ยอย่าคิดอะไรในใจ.....ปล่อยให้ใจว่าง ไม่งั้นเดี๋ยวเจ้าผีพวกนั้น มันจะรู้ว่าคุณตุ๋ยกำลังคิดอะไรอยู่คะ คิกๆๆ ก่อนจะนอนแอบหาพระพุธทรูปองค์เล็กๆ กำไว้ในมือหน่อยก็ได้นะคะ เผื่อไว้ สู้ๆๆ นะคะ นี่บ้านของเราคะ...จำไว้ ใครจะมาใหญ่กว่า และ รุกรานในบ้านของเราไม่ได้ ไปไกลๆเลยเจ้าผีเกเร...BOO BOO

พรุ่งนี้จะมาเล่าเรื่องประทีปกลางน้ำให้ฟังนะคะ ไปนอนแล้วคะ บายๆๆ

 

ทำไม่นอนไว้จัง แค่ สองทุ่ม ยังไม่หายมัวแต่ไปคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์ก็ตั้งใจ
จะไปนอนเล่นห้องข้างล่างดู ใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะพักหลังไม่ค่อยได้ทำ
สมาธิจิตไม่แข็งสักเท่าไร เกิดมันเข้ามาอำอีกกลัวจะสู้มันไม่ไหว ตอนนี้มันเป็นบ้านเราก็ใช่ แต่สมัยก่อนเป็นบ้านใครก็ไม่รู้ มันผ่านมาไม่รู้ กี่ชั่วอายุคนแล้วและที่
อังกฤษเขาไม่มีพระภูมิเจ้าที่เสียด้วย ผีเข้าออกได้สบาย คุณศิลามณีกำหนดจิต
เก่งจังเลยคะ ขอยกนิ้วให้

 

แล้วกันตุณตุ๋ย สมาธิต้องทำทุกวันนะคะ มากบางน้อยบางก็ควรทำ...คิกๆๆให้คุณตุ๋ยตั้งตัว ทำสมาธิให้จิตเข้มแข็งก่อนก็ได้คะ มั่นใจแล้วค่อยไปนอนในห้องนั้น โดยส่วนตัวของศิลามณีเห็นว่า ผีควรอยู่ส่วนผี จะมารังแกรุกรานคนไม่ถูกนะคะ...

ส่วนเรื่องกำหนดจิต... ศิลามณีไม่ได้เก่งนะ แต่ ศิลามณี มีตัวช่วยคะที่ทำให้สามารถจดจำ ภาพต่างๆได้ เมื่อจะใช้กำหนดในสมาธินะคะ เช่น จะกำหนดให้เห็นภาพโครงกระดูก ศิลามณี ก็จะไปหาหนังสือรูปภาพ ที่มีส่วนต่างๆของร่างกาย เอามานั่งดูจดจำติดตา ...หลับตาวับก็เห็นภาพโครงกระดูกเลย หรือจะให้เห็นภาพน้ำ ก็ไปนั่งมองบ่อน้ำ หรือไม่ก็น้ำตก หยั่งงี้เป็นต้นคะ

 

ประทีปกลางน้ำที่ ศิลามณี เห็นนี่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติคะ เกิดในเวลากลางวันคะ และ ต้องอาศัย.. ลม แสงแดด และ ท้องน้ำที่มีบริเวญกว้างใหญ่ มีฝูงปลา..เป็นตัวช่วย เ พื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว เรียกว่าถ้าสิ่งต่างๆเหล่านี้ ไม่ให้ความร่วมมือหรือ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ก็จะไม่เกิดเป็นดวงประทีปกลางน้ำให้เห็น...

.ศิลามณี...ไปเห็นดวงประทีปนี่.. ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำในเขตของทหารคะ.. แต่เขาเปิดเป็นที่พักผ่อน เป็นสวนสาธารณะ ให้ประชาชนเข้าไปได้...ที่นั้นมีทะเลสาปที่ขุดขึ้นเอง ใช้เป็นที่เก็บน้ำ และ เปิดโอกาสให้ประชาชน เช่าเรือถีบนั่งเล่นได้ โดยที่จะมีเชือกผูกกับทุ่นกั้นไว้ เป็นบริเวณไม่ให้ไปเล่น ในบริเวณที่มีน้ำลึก..นะคะ. …
<O</O
<O</O
ช่วงเวลานั้น เป็นเวลาบ่ายแก่ๆคะ มองออกไปที่พื้นน้ำไกลๆ เห็นแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ ต้องกับท้องน้ำ ทำให้เกิดเป็นประกายระยิบ เป็นดวงประทีป หลายๆร้อยดวง แต่ละดวง มีลักษณะคล้ายดอกบัว ดอกเล็กๆ ตรงกลาง เป็นเหมือนเปลวแสงเทียน ถัดลงมาเป็นเหมือน กลีบดอกบัวมีแสง ห้าแฉกมีสองชั้น ยิ่งถ้ามีลมพัดช่วย จะยิ่งเห็นว่ามีประกาย สีสวยครั้งแรกๆที่มองจะเห็น เป็นสีขาว จากนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็น สีเหลือง สีแดง สีเขียว.คะ …<O</O
<O</O
มีเพื่อนของ ศิลามณี ท่านหนึ่งที่ท่านมี ความเลื่อมสัยศรัทธา ในองค์ปู่พยานาค ท่านกรุณาส่งซีดี ประทีบกลางน้ำนี่ มาให้ ศิลามณี ดูคะ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน จังหวัด หนองบัวลำพูน ที่มีพี่น้องประชาชน หลายร้อยชีวิต ไปดูดวงประทีปกลางน้ำกันแยะ ทีเดียว นัยว่าเป็นดวงประทีป ที่ปู่พยานาค ท่านบันดาลให้ลูกหลานได้เห็น …

ภาพในซิดีนี้ ถ่ายจากกล้องธรรดา จึงเห็นไม่ค่อยชัดนัก แต่ที่โกหกไม่ได้ คือมีประชาชน ไปดูมากมาย และ มีเสียงของประชาชนที่มา ส่งเสียงเชียร์ปู่พญานาค เวลาที่ท่านเปลี่ยนสี ดวงประทีป ให้ตามคำขอ เช่น ปู่ของสีเหลืองให้ลูกหลายเบ่องหน่อย. .และ ดูเหมือนปู่พยานาค ท่านจะยุขึ้นนะคะ เปลี่ยนสีให้ตามคำขอด้วย แล้วก็มีเสียงปรบมือ เย้ๆๆ เฮๆๆ ดูแล้วน่าสนุกตามจริงๆคะ

 

เพิ่งตื่นตอนนี้ก็จัดการให้ลูกไปโรงเรียนแล้ว ก็อยากจะทำนะ สมาธิ
แต่ที่บ้านอังกฤษ มันวุ้นวายโดยเฉพาะลูกชายคนเล็กดื้อมากๆ แต่
ก็อาศัยสวดมนต์เอา ถ้าไม่สวสมนต์ตุ๋ยก็ไม่สบายใจและฟังรายการ
ธรรมะเอาเสียงเทศน์ เพราะอาจารย์ต่างๆ สวดมนต์ให้เทวดาที่อยู่กับ
ตุ๋ยฟังเพราะท่านมาฟังทุกคืนและก็เปิดเสียงธรรมะให้ท่านฟังด้วยตุ๋ย
ก็อาศัยจับอารมณ์สมาธิเอาเวลาทำงาน จับอารมณ์ แบบเบาๆ คือตาม
รู้ลมหายใจนั่นเอง บางครั้งก็ลืมไปบางพอนึกขึ้นได้ก็จับขึ้นมาใหม่

ใช่แล้วคุณศิลามณีผีก็ต้องอยู่ส่วนผี ไม่ต้องมายุ่งกัน เพราะเราอยู่
กันคนละมิติกันเว้นแต่ช่วงนั้นจิตเราไปสัมผัสพวกเขาได้พ่อดีมันก็
เลยหลีกเลียงไม่ได้ ฟังคุณศิลามณีเล่าในการฝึกสมาธิเนี่ยฝึกกสิณ
ได้สบายเลย ลองมาจับดวงแก้วใสๆดูซิ ผลจะเป็นอย่างไรแล้วเอามา
เล่าสู่กันฟังไม่ได้แนะนำให้ฝึกกสิณนะอยากให้ทดลองดู

 

อ่านข้อความที่คุณศิลามณีเล่ามานึกเห็นภาพได้เลย ในโลกนี้มีสิ่ง
มหศัจรรย์ที่มนุษย์มองไม่เห็นมันขึ้นอยู่ที่จิตใจมนุษย์จะมีความเชือ
และกำลังศัทธามากน้อยแค่ใหน ถ้าคนไม่เชื่อก็อาจจะว่าเป็นสิ่งบังเอิณหรือคิดไปเองก็เขาพวกนั้นขาดกำลังศัทธาจึงไปสามารถเห็นในสิ่งมหัศจรรย์ ตุ๋ยอีกคนหนึ่งที่นับถือและศัทธาเชื่อเรื่องนี้อย่างเต็มหัวใจมันอาจจะพิสูจน์ไม่ได้ แต่สิ่มหัศจรรย์ มันก็น่าจะยืนยันได้อย่างพระธาตุเสด็จ และอย่างรับสัมผัสจากเทพฯที่ดูแลเรามันมีอะไรแปลกๆ
อย่างกลิ่นหอมจะส่งกลิ่นมาแต่ก็ไม่บอ่ยนัก แต่ก็ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนแต่ปัจุบันนี้ พอนึกถีงท่านพูดคุยกับท่านกลิ่นหอมมันออกมาจากตัวเรา
ตุ๋ยเป็นคนไม่ชอบใช้น้ำหอม และกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นที่ตุ๋ยได้สัมผัส
มันต่าง กัน แม้แต่ลูกชายคนกลางยังได้กลิ่นท่านคงจะจงใจให้ลูกชายได้กลิ่นระมังตุ๋ยแกล้งถามลูกชายว่ากลิ่นแป้งที่แม่ทาหรือเปล่า
ลูกชายบอกไม่ใช้ กลิ่นแป้งที่แม่ทามันแข็งแรงเกินไป ผมรู้มันกลิ่นแบบ ไหนมันเหมือนกลิ่นดอกไม้ หอมน่ากิน ตุ๋ยก็ไม่รู้ นี่มันเป็นความ
คิดของเด็ก สิ่งมหัศจรรย์ มันเกิดขึ้นกับตัวเราได้ถ้าเรามีกำลังศัทธาและเชื่อมั่น ท่านเคยพูดกับตุ๋ยว่าให้เธอปฎิบัติดี ปฎิบัติมากกว่านี้แล้วเธอจะได้รับสัมผัสสิ่งมัหศจรรย์มากกว่านี้ ตุ๋ยถามสิ่งนั้นคืออะไรแต่
ท่านก็ไม่ยอมบอก ท่านบอกให้ตุ๋ยพิสูจน์ เอง อันนี้เป็นความเชื่อของส่วนบุคคลนะคะ ก็เล่าสู่กันฟัง คุณ ศิลามณ์คะตุ๋ยเชื่อในสิ่งที่คุณและคนอื่นพบ เพราะตุ๋ยก็ประสบด้วยตัวเองเหมือนกันคะ

 

ถ้ามีกลิ่นหอมออกมาจากตัว แปลว่าคุณตุ๋ยเองก็ไม่ธรรมดานะคะ ศิลามณี หมายถึงตัวคุณตุ๋ยเอง ก็เป็นนักปฏิบัติที่มีดีอยู่ในตัวนะคะ ...เราจะคุยเรื่องอะไรต่อกันดีละคะคุณตุ๋ย...

 

คุณตุ๋ย เคยทำสมาธิโดยการใช้ลูกประคำไหมคะ ที่ศิลามณี เห็นส่วนใหญ่ใช้นับจำนวนรอบของการสวดมนต์ สวดหนึ่งจบก็นับไปหนึ่งเม็ด.... นับประลูกคำนี่ ศิลามณี ก็ยังไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ มีอยู่ครั้งที่ไปหา ครูบาอาจารย์แล้วท่าน บอกให้เอาลูกประคำติดตัวไปด้วย ปรากฏว่าวันนั้น ศิลามณี ลืมเอาไปคะ....เลยได้วิชาใหม่คือการนับประคำมือ...คุณตุ๋ยเคยได้ยินไหมคะ ประคำมือ

 

สายสร้อยนับลูกประคำนี่ ที่เห็นส่วนใหญ่มักจะมี 108 เม็ด ถ้าเข้าใจเอาเองก็น่าจะหมายถึงการสวดมนต์ให้ครบ 108 จบ..โดยการนับจากลูกประคำในมือ ทีละเม็ดทีละเม็ด ...วันนั้น ศิลามณี ลืมเอาไปด้วย ครูบาอาจารย์ ท่านก็เลยสอนให้นับประคำด้วยนิ้วมือแทน.. ก็แปลกดีคะ ศิลามณีไม่เคยทราบมาก่อนเลยนะนี่ ว่านิ้วมือก็ใช้นับแทนลูกประคำได้ด้วย .... ยังไงเหรอคะ... นี่ไงกำลังเรียบเรียบคำอธิบายอยู่...ใจเย็นๆๆ .........อีกเดี๋ยวมาเล่าได้ไหมคะ ขออนุญาตไปทำธุระแวบหนึ่ง

 

มันออกมาจริงๆ ไม่ได้โกหกเลยนะ คุณศิลามณี ลูกชายคนกลางนี่ กลับมาจากโรงเรียนมาดมที่ตัวตุ๋ย ตุ๋ยว่าจะมาดม อะไรลูกบอกจะมาดมเทวดา ตุ๋ยก็ตลกกับลูกเทวดาที่ไหนท่านกับวิมานไปแล้ว พอดีตุ๋ยได้เพื่อนคนใหม่เขาอยู่อิตาลี เขาก็ชอบนั่งสมาธิเหมือนกันตุ๋ยชวนให้เขามาเล่าประ
สบการณ์ในการที่เขาเจอะผี ไม่รู้เขาจะมาเล่าหรือเปล่ารู้สึกว่าจะมีคุณศิลามณี กับตุ๋ยคุยกัน พวกเพื่อนๆ ไม่รู้ไปไหนหนด
แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวตุ๋ยจะงัดเรื่องเก่าๆ เอามาเล่าให้หมดเรื่อง
ใหม่ๆ ระหว่างที่ไปคุยกับเทวดาก็มีแต่ก็ไม่กล้าเล่าหมดเวลา
ตุ๋ยสงสัยไปถามอะไรกับท่าน บางเรื่องก็ไม่สมควรมาเล่าใน
กะทู้ เดี๋ยวตุ๋ยขอตัวโทรไปหาเพื่อนที่เมื่องไทยก่อนตอนนี้
เพื่อนกำลังเหงา คุณศิลามณี อย่าเพ่งหมดเรื่องคุยเสียละ