ห้องพระเครื่อง "ศิลป์พระ๙" พระเครื่องทั่วไทย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิลป์พระ9, 26 ธันวาคม 2020.

  1. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    79.เหรียญหลวงพ่อพวง วัดพระนอนสาริการาม ปี 2508 จ.เพชรบุรี ((( บูชา 450 บาท ))) "จอง">>>พี่MK2508
    เหรียญชุดเก็บสวยๆครับ


    หลวงพ่อพวง วัดพระนอนสาริการาม หรือ ถ้ำช้างเผือก ท่านมักจะไปวิเวกที่ถ้ำช้างเผือกถ้ำเขาอีกฟากเขาลูกเดียวกับวัดเขาบันไดอิฐ ว่ากันว่าหลวงพ่อพวง เป็นพระหนุ่มผู้เรืองเวทย์เป็นที่โดดเด่นยิ่งนั่ง ขลุนั่งฝึกจิตภาวนา สมัยก่อนมีการกล่าวขานกันถึงตะกรุดของท่านว่าเหนียวมาก ท่านสร้างเหรียญไว้ประมาณ 4-5 รุ่น ราคาเหรียญรุ่นแรกหลักหมื่นต้น หายากและเป็นที่เสาะแสวงหาของคนเมืองเพชร เหรียญรุ่นนี้ ปี 2508 เป็นเหรียญไซท์เล็กรุ่นเดียวของท่าน ท่านมรณะราวปี 40+ ทันท่านเสกแน่นอนครับ

    21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2021
  2. MK2508

    MK2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +4,252
    จองบูชา
    79.เหรียญหลวงพ่อพวง วัดพระนอนสาริการาม ปี 2508 จ.เพชรบุรี((( บูชา450 บาท )))
     
  3. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณพี่มากๆครับ
     
  4. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  5. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  6. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  7. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  8. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองทุกรายการขอบคุณพี่มากๆครับ
     
  9. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    80.เหรียญพระพุทธสิหิงห์ นครศรีธรรมราช ปี 2517 ((( บูชา 600 บาท )))
    เหรียญดีพิธีใหญ่ บูชาหลักร้อยได้ 2 เหรียญพิมพ์เล็ก-ใหญ่ สุดคุ้มครับ

    เหรียญพระพุทธสิหิงค์รุ่นนี้ สร้างเมื่อปี 2517 มีด้วยกัน 3 พิมพ์ ได้แก่
    1. พิมพ์เล็ก
    2. พิมพ์ใหญ่
    3. พิมพ์กรรมการ
    ในการสร้างในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จเททอง ณ.วัดพระบรมธาตุ
    พิธีใหญ่มาก โดยมีพระสงฆ์ที่ได้ร่วมปลุกเสกมีมากมายอาทิ อาจารย์นำ แก้วจันทร์ จ.พัทลุง, อาจารย์ หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระรัตนธัชมุณี จ.นครศรีธรรมราช, พระครูกาแก้ว จ.นครศรีธรรมราช, ปลัดเจิม จ.นครศรีธรรมราช, ฯลฯ

    นอกจากนี้ ท่านขุนพันธ์ฯยังเป็นประธานกรรมการฝ่ายพิธีกรรมได้ดำเนินการตามแบบฉบับ การมหาพุทธาภิเษกอย่างสมบูรณ์ทุกประการ ร่วมปลุกเสกในพิธีด้วย

    25.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2021
  10. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รายการนี้จองแล้วครับ

    73.เหรียญหลวงพ่อมุม วัดนาสัก รุ่นพิเศษ ปี 2520 จ.ชุมพร
     
  11. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    81.เหรียญหลวงพ่อจันทร์ วัดหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์ ((( บูชา 750 บาท )))
    ได้รับ 2 เหรียญตามรูป
    -เหรียญรุ่น 6 ปี 2519
    -เหรียญรุ่น 7 ปี 2520
    (สวยแชมป์ทั้งคู่)


    พระเครื่องหลวงพ่อจันทร์นั้น มีประสบการณ์สูงมาก ทั้งแคล้วคราด คงกระพันชาตรี ต่างเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านเหรียญรุ่นแรก และ รุ่นสองราคาแพงเป็นเหรียญหลักของจังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนเหรียญรุ่นอื่นที่ทันท่านเสกก็สร้างรุ่นละไม่มาก รวมกันแล้วทุกรุ่นยังน้อยมาก เหรียญที่นำเสนอนี้เป็นเหรียญรุ่น 6 / 7 ซึ่งทันท่านเสก มีประสบการณ์มากมายเช่นกัน ไม่แพงเลยครับ

    เหรียญรุ่น 7 ปี พ.ศ. 2520 ในพ.ศ. 2520 ซึ่งเป็นปีที่หลวงพ่อท่านพระครูอายุครบ 80 ปี พรรษา 58 พรรษา ทางธนาคารได้ขออนุญาตจากหลวง
    พ่อสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำเป็นของที่ระลึกในการเปิดธนาคารหลวงพ่อท่านพระครูท่านอนุญาต ซึ่งการสร้างวัตถุรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ 7 รุ่นสุดท้าย
    วัตถุมงคลที่สร้างมีเหรียญทองคำจำนวน 10 เหรียญ เหรียญเงิน จำนวน 1,000 เหรียญ เหรียญทองแดงกะหลั่ยทอง จำนวน 2,000 เหรียญ
    เหรียญทองแดงรมดำ จำนวน 10,000 เหรียญ ภาพถ่ายขาวดำ ขนาด 1 นิ้ว และขนาดโปสการ์ด รูปหล่อจำลองของหลวงพ่อขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว
    หล่อด้วยโลหะ จำนวนไม่มากนัก การสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้แปลกกว่าการสร้างทุกครั้งคือ นอกจากหลวงพ่อท่านพระครูท่านจะได้ปลุกเสก
    เดี่ยวแล้วยังได้มีพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้ง โดยนิมนต์เกจิอากจารย์ชื่อดังร่วมสมัยจากทั่วประเทศไทยมาร่วมพิธีพุทธาภิเษก เช่นพระนิมมานโกวิท


    j.jpg

    หลวงพ่อจันทร์ท่านอุปสมบทที่วัดบ้านแก่งใต้ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำน่าน กับวัดหาดสองแคว ในขณะนั้นวัดหาดสองแควยังไม่มีพระอุโบสถ
    โดยมีพระวิเชียรปัญญามุนี ต่อมาได้เป็นเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพุ่ม จนทสโร เจ้าอาวาสวัดคลึงคราช และพระครูเม
    ธาวรกุล (พระครูหมี) เจ้าอาวาสวัดบ้านแก่งใต้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อ พ.ศ. 2462
    เมื่อได้อุปสมบทแล้วได้มุมานะศึกษาเล่าเรียนทั้งบาลี สันสกฤต การเทศน์ธรรมเพื่อสั่งสอนประชาชน โดยได้หัดเทศน์กับ หลวงพ่อ
    พุ่ม จนทสโร เจ้าอาวาสวัดคลึงคราช ซึ่งเป็นพระนักเทศน์ชื่อดังของจังหวัดอุตรดิตถ์ในขณะนั้น โดยเฉพาะกัณฑ์ชูชก หลวงพ่อพุ่ม เทศน์ได้
    ไพเราะหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ทีเดียว
    นอกจากนั้นยังได้ศึกษาวิชาเวทมนตร์คาถาอาคม ตำราแพทย์แผนโบราณจากหลวงพ่อพุ่ม จนทสโรอีกด้วย หลวงพ่อพุ่ม จนทสโร
    เคยได้ไปศึกษาสืบทอดวิชาอาคมจากหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ซึ่งการไปศึกษาวิชาของหลวงพ่อพุ่มได้ไปพร้อมกับหลวงพ่อฮวบ
    วัดสามัคคยาราม (หนองเหี้ย) ซึ่งหลวงพ่อพุ่ม กับ หลวงพ่อฮวบ มีพลังจิตและวิชาอาคมกล้าแข็ง ไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นสหมิกธรรมกัน ไปมาหาสู่กัน
    เสมอ ซึ่งหลวงพ่อฮวบ วัดสามัคคยาราม (หนองเหี้ย) ต่อมาก็มีศิษย์เอก คือหลวงพ่อไซ้ร วัดช่องลม ซึ่งการศึกษาวิชาอาคมของหลวงพ่อจันทร์
    โฆสโก นอกจากจะได้ศึกษากับ หลวงพ่อพุ่ม จนทสโร แล้วยังได้ศึกษาวิชาคาถาอาคมจากตำราเก่าแก่ของบรรพบุรุษ ที่มาจากเวียงจันทน์
    (หลักฐานนี้ปรากฏเมื่อหลวงพ่อจันทร์มรณภาพแล้วในหีบ หนังสือของท่านมีตำราเก่าแก่เป็นภาษาขอม ภาษาลาว ส่วนหนึ่งยังคงเก็บไว้ที่วัด
    หาดสองแคว และอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่บ้านกำนันเหรียญ ศรีสวัสดิ์ น้องเขยคนเล็กของหลวงพ่อ) เคยมีญาติโยมเรียนถามท่านว่า เรียนอะไรมาก
    มาย จะเอาไปทำอะไร ท่านก็ตอบว่าเพื่อเอาไว้ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก เพราะวัดอยู่ได้ด้วยอาศัยแรงศรัทธาของชาวบ้าน ต้องตอบแทนเขาที่
    เขาเลี้ยงเรามาจนทุกวันนี้ ซึ่งนั่นก็คือ วัดพึ่งบ้าน บ้านพึ่งวัด เป็นความสัมพันธ์ ที่แน่นแฟ้น แยกกันไม่ได้ ตั้งแต่โบราณกาล มาแล้วในสังคมไทย
    สหายทางธรรมที่สนิทสนมกันดีของหลวงพ่อจันทร์ โฆสโก วัดหาดสองแคว อ.ตรอน ก็มีหลวงหลวงพ่อไซ้ร วัดช่องลม อ.เมือง
    หลวงพ่อบุญ วัดน้ำใส อ.ลับแล และพระนิมมาน โกวิท (หลวงพ่อทองดำ) วัดท่าทอง อ.เมือง ศิษย์หลวงปู่ทิม ซึ่งเป็นสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชั้น
    แนวหน้าของ จังหวัด อุตรดิตถ์ ต่างก็ไปมาหาสู่กันเสมอ
    จากการที่เคยได้เรียนถามท่านพระนิมมาน โกวิท (หลวงพ่อทองดำ) ว่าหลวงพ่อจันทร์กับท่านสนิทสนมรักใคร่กันปานใด ท่านตอบว่า
    อาจารย์จันทร์ อาจารย์ไซร้ อาจารย์บุญ ไปมาหาสู่กันเสมอ อาจารย์จันทร ์แก่กว่าท่าน 3 ปี มีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาตลอด แต่เสียใจที่ อาจารย์ไซร้
    อาจารย์จันทร์ อาจารย์บุญ ไม่น่าจะจากไปเร็วถ้ายังอยู่คงช่วยกันทำงานได้เยอะและก็เป็นไปอย่างที่หลวงพ่อกล่าวไว้พยายามศึกษาเพื่อช่วยเหลือ
    ชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยาก ในตอนแรกๆ ก็ให้ผูกข้อมือเด็กเจ็บป่วย เด็กที่เคยเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ก็มายกให้เป็นลูกเลี้ยงของหลวงพ่อ เด็กก็หาย
    ป่วยเป็นปลิดทั้งชื่อเสียงของหลวงพ่อก็เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเป็นพระผู้รู้ทั้งทางด้าน นักธรรม บาลี สันสกฤต คาถาอาคม


    75.jpg
     
  12. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    82.เหรียญหลวงพ่อจันทร์ วัดโพธิ์แดน จ.พิจิตร ((( บูชา 450 บาท ))) "ปิดรายการ"
    ได้รับ 2 เหรียญ

    เหรียญดีพื้นถิ่นสภาพสวยๆครับ

    74.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2021
  13. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    83.เหรียญหลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ ปี 2508 จ.เพชรบุรี ((( บูชา 650 บาท )))
    ได้รับสองเหรียญ
    -เหรียญรมดำ
    -เหรียญกะไหร่เงิน


    ***ทันท่านปลุกเสก*** ท่านคือองค์เดียวกับเหรียญหน้าซ้อนหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอฐ (เหรียญโบทถ์ลั่น เป็นผู้มีอาคมไม่ธรรมดาอีกองค์ของเมืองเพชร

    cr.webthaipra
    พระครูปัญญาโชติวัฒน์ หรือ หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ นามเดิม เจริญ นามสกุล อ้นแสง เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฏาคม พ.ศ. 2427 ชาติภูมิเดิมอยู่ที่บ้านสามเรือน ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ท่านเป็นบุตรคนที่ 6 ซึ่งเป็นน้องชายร่วมสายเลือดกับหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ (บุตรคนที่ 5 ) ครอบครัวของท่านถือเป็นครอบครัวใหญ่ในละแวกนั้น เมื่ออายุได้ 10 ขวบ พี่ชายคนโต ชื่อ จัน ได้อุปสมบทที่วัดแก่นเหล็กในเมืองเพชรบุรี ท่านจึงได้ไปอยู่วัดกับพระพี่ชาย ได้เรียนหนังสือไทยจนสามารถอ่านออกเขียนได้กับพระครูญาณวิสุทธิ (พ่วง) วัดแก่นเหล็ก พออายุได้ 13 ปี ก็ออกจากวัดกลับมาช่วยบิดามารดาทำนาเรื่อยมาจนอายุได้ 18 ปี ถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหารเป็นทหารรักษาพระองค์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 สังกัดกองโยธา ประจำการอยู่ 3 ปี ต่อมาในปีที่ 4-5 ได้ตำแหน่งเป็นมหาดเล็กรักษาพระองค์ ขึ้นกับสำนักพระราชวังในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง นับเป็นผู้ที่มีโชควาสนาดีได้ใกล้เบื้องพระยุคลบาท ซึ่งคนจากท้องถิ่นห่างไกลในยุคนั้นน้อยคนนักที่จะได้รับการคัดเลือกเข้าไปเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระนคร เมื่ออายุได้ 22 ปีเศษ หลังพ้นจากรับราชการทหารแล้ว ท่านมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอุปสมบทเพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดา โดยเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ พัทธสีมาวัดทองนพคุณ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2451 มีพระอาจารย์เปลี่ยน วัดเขาบันไดอิฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูญาณวิสุทธิ (พ่วง) วัดแก่นเหล็ก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่ออ่ำ วัดทองนพคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาทางธรรมว่า “ธมฺมโชติ” เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้หมั่นศึกษาวิชานวกรรมต่าง ๆ การแพทย์แผนโบราณ ตลอดจนพระธรรมวินัยก็ศึกษาและปฏิบัติอย่างมิได้ลดละ จนเป็นผู้มีประสบการณ์มากเป็นที่รักใคร่และได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่ออ่ำ เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณให้เป็นผู้ดูแลศาสนกิจภายในวัด จนถึง พ.ศ. 2466 จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณแทนพระอธิการอ่ำซึ่งมรณภาพลง ต่อมาใหน พ.ศ. 2510 ด้วยปฏิปาและศิลาจาวัตรอันงดงาม จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูปัญญาโชติวัฒน์” จนถึง พ.ศ. 2517 ท่านจึงได้มรณภาพลง สิริอายุได้ 90 ปี พรรษา 66


    77.jpg

    69.jpg

    66.jpg
     
  14. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    84.เหรียญหลวงพ่อเปลื้อง วัดบางแก้ว รุ่น2 จ.พัทลุง ((( บูชา 300 บาท )))

    อมตะวาจา "ชาตินี้ไม่จริง ชาติหน้าก็ไม่จริง"

    maxresdefault.jpg

    หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต : อริยสงฆ์ผู้อธิษฐานไม่นอนตลอดชีวิต

    นาวาอากาศเอก อภิชัย ศักดิ์สุภา แห่งกองทัพอากาศเล่าว่า เมื่อครั้งที่ไปรับตำแหน่งผู้บังคับกองทัพทหารอากาศโยธินกองบิน ๕๖ กองพลบินที่ ๔ จังหวัดสงขลา ได้พบพระเถระผู้ทรงศีลเป็นเลิศท่านหนึ่ง ชื่อ “หลวงปู่เปลื้อง” ท่านเป็นพระเถระที่อธิษฐานจิตไม่นอนตลอดชีวิตมุ่งนั่งบำเพ็ญเพียรภาวนาตลอดเวลาจนบรรลุธรรมชั้นสูง มีอยู่ครั้งหนึ่ง น.อ.อภิชัย ศักดิ์สุภา เล่าว่า

    เรื่องที่ผมประสบด้วยตัวเองก็คือ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ พ.ค. ๒๕๓๙ ผมได้พาภรรยากับน้องชายของภรรยาไปกราบหลวงปู่เปลื้องที่วัดบางแก้วผดุงธรรม เนื่องจากเมื่อวานผมได้ไปงานทอดกฐินสามัคคีที่วัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ก็ได้ถ่ายรูปไว้จำนวนหนึ่ง คาดว่าคงจะถ่ายได้อีกสัก ๑๒ รูป ซึ่งผมก็ได้ถ่ายรูปอิริยาบถต่าง ๆ ของหลวงปู่เปลื้องไว้ ก็ไม่เห็นท่านว่าอะไร

    พอผมเข้าไปขออนุญาตให้ภรรยากับน้องชาย นั่งด้านล่างที่พื้นข้างหน้าท่านเพื่อถ่ายรูป ท่านกลับทักผมว่า “มันจะติดหรือ? มันไม่มีไอ้นั่นน่ะ” ผมก็เข้าใจว่าไอ้นั่นที่พูดถึงคือแฟลช ผมจึงตอบท่านว่า “ติดครับ แต่อาจจะไม่ชัดนัก” แล้วผมก็ถ่ายรูปไว้ ๑ รูป จากนั้นผมก็ให้ภรรยามาเป็นคนถ่ายรูปให้ผมบ้าง ซึ่งท่านก็ทักอีกเป็นครั้งที่ ๒ ว่า “มันจะติดหรือ?” ผมกับภรรยาก็ยืนยันว่าติดแน่นอน ภรรยาของผมจึงถ่ายรูปไว้อีก ๑ รูป

    หลังจากที่ออกจากวัดบางแก้วผดุงธรรมแล้ว ผมได้พาภรรยากับน้องชายไปเที่ยวน้ำตกโตนงาช้าง โดยผมให้กล้องถ่ายรูปไปด้วย พร้อมบอกว่าให้ถ่ายรูปให้ฟิล์มหมดม้วนไปเลย ส่วนผมของีบในรถ ครึ่งชั่วโมงต่อมาภรรยากับน้องชายก็กลับมา และบอกว่าถ่ายไปประมาณ ๑๐ รูป แล้วฟิล์มยังไม่หมดสักที

    ผมรับกล้องมาด้วยความสงสัย จึงเปิดฝาหลังกล้องดู ปรากฏว่าไม่มีฟิล์มอยู่ในกล้อง! ผมกับภรรยาถึงกับหัวเราะกันยกใหญ่ หัวเราะที่ว่าหลวงปู่ท่านก็ทักแล้วถึง ๒ ครั้ง ผมยังดันทุรังถ่ายรูปอยู่ได้

    น.อ.อภิชัยเล่าว่า เป็นเรื่องที่หลวงปู่ล่วงรู้ได้เหมือนตาเห็น และอีกเรื่องหนึ่งคือ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ทอ. ได้ย้ายเครื่องบิน T-๓๓ ทั้งหมดมาประจำการที่ กองบิน ๕๖ฯ จ.สงขลา เนื่องจากเครื่องบิน T-๓๓ มีอายุการใช้งานมานาน สภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์ก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ถึงแม้ว่า จนท.ฝ่ายช่างฯ จะทำการบำรุงรักษาและซ่อมให้อยู่ในสภาพ ที่ใช้งานได้อย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม ยังปรากฏว่าเครื่องบิน T-๓๓ มักจะประสบอุบัติเหตุบ่อย ๆ ทำให้นักบินต้องเจ็บ-ตายไปหลายคน

    ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ทางกองบิน ๕๖ฯ จึงได้นิมนต์หลวงปู่เปลื้องจากวัดบางแก้วผดุงธรรมมาทำพิธีและพรมน้ำมนต์ให้กับเครื่องบิน T-๓๓ นอกจากนี้ทางกองบิน ๕๖ฯ ยังขอเส้นเกศาของหลวงปู่เปลื้องมาติดไว้ในห้องนักบินทุกเครื่อง เพื่อเป็นสิริมงคลและรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง และที่น่าทึ่งเป็นที่สุดก็คือ หลังจากหลวงปู่เปลื้องไปทำพิธีและติดเส้นเกศาของท่านในเครื่องบิน T-๓๓ แล้ว ไม่เคยปรากฏว่ามีเครื่องบิน T-๓๓ ประสบอุบัติเหตุตกอีกเลย จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ทอ. จึงได้ปลดประจำการเครื่องบิน T-๓๓ นี้จนหมดสิ้น รวมอายุการใช้งานใน ทอ. ไทยก็ ๔๐ ปี พอดี

    หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต หรือ พระครูวิจิตรกิตติคุณ นามเดิมท่านชื่อ เปลื้อง มุสิกอุปถัมภ์ บิดาชื่อ อ้น มารดาชื่อ เอี่ยม มุสิกอุปถัมภ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๔๖ ที่อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง

    เมื่ออายุ ๕-๖ ขวบ ได้เรียนหนังสือที่วัดห้วยลึก อำเภอปากพะยูน เรียนอยู่ปีเศษก็สามารถอ่านและเขียนได้หมด ตอนเด็ก ๆ ท่านลำบากมาก ตัวเล็กและขี้โรค พอท่านโตขึ้นมาก็ยังเจ็บป่วยบ่อย ๆ เป็นโรคนานาชนิด ไม่คิดว่าจะอายุยืนถึง ๓๐ ปี แต่เวลาเจ็บป่วยครั้งใด จะมี เทวดามาบอกยาให้ไปทำกิน แล้วจะหายทุกครั้ง ยาที่เทวดาบอกมี ๒-๓ ขนาน (ส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรมีพิษ)

    เมื่ออายุ ๑๙ ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดโตนด อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และเมื่ออายุ ๒๐ ปี ก็ได้ญัตติเป็นพระภิกษุ มี พระธรรมจักรราม เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่วัดประดู่หอม ท่านบวชอยู่ ๒ พรรษา สอบได้นักธรรมตรี แต่ไม่ได้ปฏิบัติ ท่านขยันเรียนมาก แต่ไม่มีที่เรียนต่อใกล้ ๆ ต้องไปเรียนกรุงเทพฯ จึงได้สึกออกมา เมื่ออายุ ๒๔ ปี มารดาจัดให้แต่งงาน มีบุตร ๓ คน

    ขณะที่เป็นฆราวาสท่านชอบถือศีล ๘ เป็นคนใจบุญสุนทาน ชอบไปวัดไปช่วยงานสัปเหร่อเผาศพ คอยพลิกศพ สมัยนั้นเขาจะพลิกศพบนกองฟอน ต้องมีคนคอยพลิกศพไปมา ศพจะได้ไหม้ทั่ว ๆ จนหมด

    ท่านฝึกพูดแต่คำจริงอยู่ ๒๐ ปี ถึงจะสมบูรณ์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ คือทุกอย่างที่พูดออกมาเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น ดั่งภาษิตที่ท่านบอกว่า ของดีหาได้ยากในโลกมี ๔ อย่าง คือ

    “ช้างเผือกในป่า สมณะนอกวัฏ”

    “ผู้สมบูรณ์คุณสมบัติ คฤหัสถ์พูดจริง”

    เมื่อภรรยาอายุ ๕๒ ปี ได้ถึงแก่กรรมลง ท่านจึงออกบวชครั้งที่สองที่วัดท่ามะเดื่อ ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ โดย พระราชธรรมุนี (เปลื้อง จัตตาวิโล) เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้มาอยู่ที่วัดบางแก้วผดุงธรรม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสจนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูวิจิตรกิตติคุณ

    ในช่วงที่ท่านบวชครั้งที่สอง ท่านเล่าให้ฟังว่า “อาตมาบวชเมื่ออายุล่วงกาลผ่านวัยมามาก เมื่อบวชแล้วได้เพียรพยายามประพฤติปฏิบัติอย่างจริงจังไม่ท้อ ถอย มีความตั้งใจมั่นคงในชีวิต พรหมจรรย์” อย่างที่ท่านกล่าวว่า อุรทตวา ถวายกายตั้งสัจจาธิษฐานเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

    เมื่อท่านบวชได้ ๕ ปี ท่านได้เดินทางไปยังวัดเสนหา จังหวัดนครปฐม ท่านไปพักอยู่กับ พระครูวิบูลย์ศีลขันธ์ (เทศน์ นิ เทสโก) ในตอนกลางคืนท่านเฝ้าสังเกตอยู่ว่า เวลาท่านตื่นขึ้นมาทีไรก็จะเห็นท่านพระครูนั่งสมาธิอยู่ทุกครั้ง

    ด้วยความสงสัยจึงได้ถามท่านพระครูถึงเหตุที่ท่านนั่งสมาธิอยู่ทุกคืน โดยที่ท่านพระครูไม่นอน ท่านพระครูจึงบอกว่า “ผู้ปฏิบัติต้องนอนน้อย” ท่าน จึงคิดว่าการนอนน้อยทำความเพียรคงเป็นสิ่งที่ดี และท่านรู้สึกประทับใจในพระครู จึงเป็นมูลเหตุให้ท่านถือ เนสัชชิกธุดงค์ในภายหลัง

    เมื่อบวช ๑๐ ปี มีอยู่วันหนึ่งท่านง่วงนอนมาก จึงคิดว่า “เมื่อไม่นอนกลางวัน แต่มันอยากจะนอนมากนัก ก็ไม่นอนกลางคืนด้วยเสียเลย”

    ท่านบอกว่าได้ อธิษฐานไว้แล้วว่าจะไม่นอน ถ้าชาตินี้ไม่จริง ชาติหน้าก็ไม่จริง ถ้าจะตายก็ให้ตายไปเลย ท่านจึงไม่ยอมนอน

    หลวงปู่เปลื้อง มรณภาพเมื่อวันที่ ๓๐ มี.ค. ๒๕๔๐ รวมอายุได้ ๙๔ พรรษา ในวันฌาปนกิจศพท่านมีผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาสมาร่วมงานอย่างคับคั่ง หลังจากไฟมอดแล้ว พวก จนท.ที่เป็นศิษย์ของท่านก็ทำการเก็บอัฐิและเถ้าอัฐิจนหมดเกลี้ยง สำหรับผู้ที่ต้องการไปกราบและชมอัฐิของหลวงปู่เปลื้อง ขอเชิญได้ที่ วัดบางแก้วผดุงธรรม อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง.


    65.jpg
     
  15. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    85.หลวงพ่อแเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง ((( บูชา 300 บาท )))

    81.jpg

    ประวัติหลวงพ่อเมือง อุตฺตโม วัดท่าแหน
    หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม
    วัดท่าแหน ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง

    "พระผู้มีอตีตังสญาณ ผู้หยั่งรู้"

    พระครูอุดมเวทวรคุณ (นามเดิม เมืองใจทาหลี) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2435 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง เป็นบุตรคนโตของ นายดวงแก้ว นางต่อม ใจทาหลี ณ บ้านเลขที่ 15 บ้านท่าแหน ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน คือ

    1. พระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง)
    2. นายมูล ใจทาหลี
    3. นางเกี๋ยง โยธา
    4. นายซุน ใจทาหลี
    5. นางคำใส ฟูชุม

    เมื่อเยาว์วัยได้เข้าเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์คันธรฐ ที่วัดท่าแหน โดยเรียนอักขระภาษาภาคพายัพ (ภาษาพื้นเมือง) จนจบหลักสูตร เมื่อท่านได้เรียน อักขระพื้นเมือง ตลอดจนเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานจบแล้ว จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2449 ณ วัดท่าแหน โดยมีอาจารย์ตันธวงศ์ วัดสันดอน ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์
    เมื่อบรรพชาเป็นสามเณร ก็ได้เล่าเรียนตำรับตำราต่างๆ และเมื่ออายุครบบวช จึงได้ทำการอุปสมบท ในวันที่ 21 มิถุนายน 2455 ณ วัดท่าแหน โดยมีพระคันธวงศ์เป็นผู้อุปชฌาย์ พระคันทะรต เป็นพระกรรมวาจารย์ พระปิ่นไชย วัดบ้านหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ปฏิบัติศาสนกิจอยู่วัดท่าแหน ก็ได้มีความสนใจใคร่เรียนรู้วิธีปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากัมมัฏฐานจึงได้ค้นคว้าจากตำราเก่าแก่ และทดลองปฏิบัติเรื่อยมา โดยไปศึกษาค้นคว้านอกสำนักบ้าง โดยมีหลักฐานจากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่สืบต่อกันมา อาทิเช่น

    1. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    2. ไปจำพรรษา ณ วัดพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    3. ไปจำพรรษา ณ วัดศรีหมวดเกล้า อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    4. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    ซึ่งทั้งนี้ไปเพื่อค้นคว้าศึกษาด้านสมถะวิปัสสนากัมมัฏฐาน หลวงพ่อเมือง ท่านเสาะแสวงหาหนทางวิธีวิปัสสนากัมมัฏฐานไปแทบทั่วทุกแห่ง เมื่อครั้งที่พระเทพวิสุทธิโสภณ (อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) ในปี พ.ศ.2473 ขณะนั้นยังเป็นพระสิงห์คำได้ไปตรวจตราคณะสงฆ์แทน เจ้าคณะมณฑลพายัพกับพระมหาปู อัตตลีโว อดีตเจ้าคุณอุบาลีคณูปมาจารย์ วัดพระสิงห์เจ้าคณะภาค 5 ได้ตรวจไปจนถึงวัดท่าแหน พบหลวงพ่อเมืองอยู่ในกุฎิมืดทึบไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องลมเล็กๆ ประมาณคืบเศษ มีเนื้อตัวผอมเหลือง จึงได้ถามหลวงพ่อเมืองว่าเป็นโรคอะไร หลวงพ่อเมืองก็ได้ตอบว่าไม่เป็นอะไร และภายหลังได้ทราบว่า หลวงพ่อเมืองท่าเป็นพระชอบอยู่ป่าช้าเจริญสมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐานเพ่งกสิณอยู่เป็นนิจ กระทั่งวันหนึ่ง หลวงพ่อเมืองได้เป็นพบคำภีร์โบราณ (หนังสือภาคพายัพ) ในตู้พระไตรปิฎก ณ วัดบ้านหลุก ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้ทราบถึงวิธีปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในขณะที่อ่านนั้น ท่านก็ได้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีกลิ่นหอมมาก หลวงพ่อเมืองไม่เคยได้สัมผัสกลิ่นชนิดนี้มาก่อน ดังนั้นหลวงพ่อเมืองจึงขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดบ้านหลุก นำเอาตำราวิปัสสนากัมมัฏฐานนี้กลับไป วัดท่าแหน เพื่อศึกษาและปฏิบัติ โดยศึกษานานอยู่ 6 ปี จึงสามารถกระทำจิตใจให้แน่วแน่เป็นสมาธิได้ คือสามารถรวมใจเป็นดวงเดียว ซึ่งเรียกกันว่า บริกรรมนั่งทางใน จนสามารถนั่งทางในมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนธรรมดาสามัญมองไม่เห็นได้ ตั้งแต่นั้นมาก็มีลูกศิษย์ลูกหาให้ท่านนั่งทางในดู หลวงพ่อเมืองก็สามารถทำนายทายทักให้ถูกต้องแม่นยำ หรือแม้กระทั่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ยังได้เอ่ยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อเกษมว่า "ชาติที่แล้วพระองค์ทรงเป็นนักรบใช่หรือไม่" หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ตอบพระองค์ท่านว่า "เราไม่รู้สิต้องไปถามหลวงพ่อเมือง ท่านมีอตีตังสญาณ" แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อเกษม ทราบดีว่า หลวงพ่อเมือง ได้สำเร็จในการปฏิบัติธรรมถึงขั้น ทิพย์จักษุฌาน ซึ่งเป็นระดับความสำเร็จของการปฏิบัติกัมมัฏฐานขั้นสูงชั้นหนึ่ง

    หลวงพ่อเมือง ได้ช่วยเหลือประชาชนด้วยความกรุณา โดยไม่เลือกชั้นวรรณะมีหรือจน ท่านปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียมทั่วกัน โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก ท่านช่วยเหลือประชาชนในด้านสุขภาพ และเดือดร้อนประการอื่นๆ ด้วยการนั่งสมาธิแล้วแจ้งให้ผู้มาขอความช่วยเหลือได้ทราบถึงมูลเหตุ และแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ เช่น ทำบุญให้ทาน หรือกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคและเป็นมูลเหตุให้เกิดความเดือดร้อนที่ได้ขุดพบ ซึ่งทั้งนี้เป็นผลที่พอใจของทุกคน ฝูงชนจึงได้หลั่งไหลไปสู่วัดท่าแหนไม่ขาดสายบางวันก็มาเต็มคันโดยสาร และค้างคืนที่วัดก็มี ที่กรุงเทพมหานครก็เช่นกันหากหลวงพ่อเมืองมาพัก ณ วัดใด ฝูงชนจะพากันไปวัดนั้นอย่างคับคั่ง

    ถึงแม้นท่านจะมีความเมตตาธรรมต่อผู้อื่นทั่วไปอย่างไรก็ตาม แต่ทุกชีวิตที่เกิดย่อมที่จะหนีไม่พ้นสังขารไปได้ ดังนั้นเมื่อปลายแห่งชีวิต โรคภัย ไข้ เจ็บ ก็เริ่มคุกคามหลวงพ่อเมือง จนกระทั่งศิษยานุศิษย์ได้นำท่านไปรักษายังโรงพยาบาลหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายได้นำท่านไปทำการผ่านตัด และรักษาที่โรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ แต่อาการของหลวงพ่อก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านกลับมายังวัดท่าแหนและแล้วหลวงพ่อเมืองก็ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ วัดท่าแหน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2519 เวลา 21.39 รวมอายุได้ 85 ปี ซึ่งนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ญาติพี่น้องและคณะศิษยานุศิษย์ ประชาชนทั่วไป ที่ได้สูญเสียท่านพระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม)ไปอย่างไม่มีวันกลับ

    อ้างอิงจากหนังสือ พระเครื่องเมืองลำปาง 2556 หน้า 119-120 โดย ธีรเดช จังตระกูล(ต้น ลำปาง)


    80.jpg
     
  16. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    86.เหรียญหลวงปู่แช่ม วัดนวลนรดิศ กทม. อายุ 90 ปี ปี 2524 ((( บูชา 450 บาท ))) "จอง">>>มรรคเวทย์
    สวยแชมป์

    หลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิศ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ท่านเป็นศิษย์เอกและครองวัดต่อจากหลวงปู่ทิม พระอุปัชฌาย์ จึงซึมซับพุทธาคมไว้เต็มๆ ในสมัยของท่านได้ปรากฏความเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านศาสนวัตถุ-ถาวรวัตถุและการศึกษา เนื่องจากท่านเป็นพระเถระที่ชอบพัฒนาสร้าง สรรค์ทั้งวัตถุและผู้คนอย่างแท้จริง

    คนละแวกวัดจะรู้จักว่า ท่านไม่ต้องใช้คาถาใดๆ เรียกศรัทธา แค่เพียงบุคลิกหน้าตา อุปนิสัยใจคอ วัตรปฏิบัติ ก็ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความเลื่อมใสอยากกราบไหว้ทันที

    พ่วงด้วยหลัก 'พรหมวิหาร 4' ที่ผูกมัดใจได้อย่างดีเยี่ยม

    ในยุคของท่าน นับเป็นพระมหาเถระที่ไม่เคยว่างเว้นจากศาสนกิจโปรดญาติโยม ยิ่งพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องแล้ว จะงานเล็กงานใหญ่ นอกจากหลวงพ่อสดแล้วต้องมีหลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิศ ติดบัญชีตีคู่ไปกับหลวงปู่โต๊ะ

    ทั้งนี้ ก็ด้วยเชื่อในบุญฤทธิ์จิตตานุภาพของท่านทั้งสามที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน

    กล่าวขวัญกันว่า กสิณของหลวงพ่อแช่มแก่กล้ามาก สำเร็จทั้งอาโปกสิณ และเตโชกสิณ สามารถล่วงรู้ว่าโยมจะใส่บาตรด้วยอะไร ถึงขนาดหลวงปู่ทิมต้องตักเตือนอยู่เสมอด้วยกลัวว่าจะใช้ผิดทาง ในประวัติหลวงปู่เอี่ยมปฐมนาม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าของพระปิดตาอันลือลั่น บันทึกไว้ว่าได้เคยมาอยู่จำพรรษาที่วัดนวลนรดิศประมาณ 5-6 ปีจึงเชื่อกับว่า หลวงพ่อแช่มได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่เอี่ยมด้วย เนื่องจากท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ทิม

    นอกจากนี้ ยังมีเรื่องจริงจากปากผู้ใกล้ชิดว่า ในคราวที่ท่านจัดสร้างเหรียญรุ่นแรกปี 2510 ได้ตั้งใจปลุกเสกจนกระทั่งได้ยินเสียงเหรียญวิ่งกระทบกันอย่างชัดเจน

    ส่วนใหญ่แล้วท่านจะแจกโดยไม่ต้องแลกกับการทำบุญใดๆ เพราะนิสัยของท่านไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ให้ความเสมอภาคแก่ผู้ที่บากหน้ามาพึ่ง ช่างตัดผมซึ่งปลงเกศาท่านเป็นประจำ และปรนนิบัติรับใช้ท่านตลอดมาจนละสังขาร ถึงกับกล่าวว่า 'หลวงพ่อวัดนวลฯ ท่านจะไม่รักใคร่เอ็นดูใครมากกว่าใคร'

    ด้วยเหตุนี้ ในยามที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ใครต่อใครก็อยากไปสนทนาวิสาสะ ด้วยซาบซึ้งในไมตรีจิตที่ท่านหยิบยื่นให้ และข้อธรรมเตือนใจที่มากด้วยอรรถรส เห็นชัดในพระเดชและพระคุณที่เกื้อการุณแก่ทุกผู้นาม ทั้งนุ่มนวล และทำให้แช่มชื่นใจไม่รู้คลาย

    หลวงพ่อแช่มมีพระเครื่องอยู่หลายรุ่นเช่นกัน แม้จะไม่มากเท่าของหลวงพ่อสดและหลวงปู่โต๊ะ แต่ในด้านความนิยมศรัทธานั้นไม่น้อย เหรียญมี 4 รุ่น คือ รุ่นแรกปี 2510, รุ่น 2 ปี 2513, รุ่น 3 ปี 2518 ฉลองอายุ 7 รอบ และรุ่นสุดท้าย ฉลองอายุ 90 ปี นอกนั้นก็มีพระผงสมเด็จ 9 ชั้น หูบายศรี, พระสมเด็จขาโต๊ะ, รูปเหมือน ส่วนพระกริ่งมีรุ่นเดียวปีพ.ศ.2518 ค่านิยมหลายหมื่นบาท

    เหรียญรุ่นแรกรูปไข่ หรือ 'รุ่นฉลอง พระอุโบสถ' ถูกบรรจุไว้ในทำเนียบเหรียญคณาจารย์ทุกงานประกวดพระเครื่อง ซึ่ง 'เนื้อทองคำ' สนนราคาค่านิยมพุ่งขึ้นไปหลักแสน

    Untitled-1.jpg

    70.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2021
  17. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    87.เหรียญหลวงพ่อเจ้ย วัดเขาย้อย รุ่นแรก ปี 2505 จ.เพชรบุรี ((( บูชา 300 บาท )))

    71.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2021
  18. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    88.เครื่องรางปลาพะยูน หลวงพ่อสงวน สำนักสงฆ์ควนปริง อ.ทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ปี ๒๕๕๙ ((( บูชาตัวละ 550 บาท )))
    - มี 5 ตัว คงเหลือ 4 ตัว


    ปลาพะยูน มหาเสน่ห์ปลาพยูนมหาเสน่ห์ ราชินีแห่งท้องทะเล หลวงพ่อสงวน สำนักสงฆ์ควนปริง อ.ทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ปี ๒๕๕๙ เนื้อชนวน ยาวประมาณ ๔ ซม. พลีทะเลอันดามัน จำนวนการสร้าง ๒,๕๕๙ ตัว มีอำนาจในทางเสน่ห์ จึงมีกล่าวถึงบทเพลงพื้นบ้านว่า " ไม่รอดแล้วน้องเด้ ถูกเหน่น้ำตาปลาดูหยง" ปลาพะยูน หลวงพ่อสงวน สำนักสงฆ์ควนปริง จังหวัดสตูล เป็นการสร้างครั้งแรกในแผ่นดิน ใต้ท้อง อุดผงกระดูกพะยูน สีผึ้งจตุคามปี 30 น้ำมันดุหยง

    กำหนดการพิธีปลุกเสกสามวาระ วาระที่1 สำนักสงฆ์ควนปริง วาระที่2 วัดปากบารา วาระที่3 กลางทะเลอันดามัน โดยมีท่านพระอาจารย์นิธิศ (หลวงเปิ้ล) วัดคอหงส์ และพระอาจารย์เอกรินทร์(หลวงเอก) วัดละไม เป็นเจ้าพิธีตามศาสตร์แห่งไสย์ เวทย์มนตรา พ่อท่านสงวน นั่งปรกปลุกเสกเดี่ยว ตั้งแต่วันที ๑๐ พ.ค.๒๕๕๙

    84.jpg

    83.jpg
    86.jpg
    82.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2021
  19. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากๆครับ
     
  20. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    89.เหรียญท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้ง วัดโพธิ์แมนฯ บล๊อคแรก ((( บูชา 1,250 บาท ))) "จอง">>>พี่่j999

    เหรียญนี้มีการสร้างอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เหรียญสร้างบล๊อคแรกจะหาค่อนข้างยาก เคยพบเป็นรมดำ ผวไฟ กะไหร่ทอง บางเหรียญเชื่อมห่วง หาได้ยากมาก จัดเป็นเหรียญปั้มรูปเหมือนท่านรุ่นแรกๆ ที่สร้างออกมา คาดการว่าสร้างในช่วงปี 2500-250กว่า เพราะในช่วงเวลานั้นมีบุคคลยืนยันได้ห้อยเหรียญนี้อยู่ก่อนแล้ว เหรียญนี้เป็นเหรียญรมดำ สภาพสวยมาก ครับ


    89.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2021

แชร์หน้านี้

Loading...