หัวใจของพระพุทธศาสนา.... ความแตกต่างกับศาสนาอื่น ๆ

ร่วมแจมด้วยกับกระทู้ดีๆอย่างนี้
พุทธศาสตร์ คือ science of mind( จาก ท่าน พุทธทาส) (พุทธะ คือ awakening)
หัวใจพุทธะ มี 2 ระดับ คือ
1.ระดับโลกๆ secular หรือ ระดับ human
การเข้าใจและเข้าถึงตนเองอย่างถูกต้องตามระบบศีลธรรม
( to understand yourself and get access to universal moral consciences)
2. Highest aims ระดับสูง คือ การดับทุกข์โดยสิ้นเชิง
( access to non-self or selfless state; or super-conscience state).

ถ้าเขาถามว่าอะไรคือ super conscience State ก็ตอบไปว่า don't know . I'm not in that level yet
if you want to know you have to practice .Because it's DIY and RIY( do it yourself, realize it yourself)

 

ความแตกต่างพุทธะ กับ กับศาสนาอื่น ๆ
พุทธะ จะเน้น ที่ การทำความเข้าใจแล้วจึงปฏิบัติ
seekto understand yourself ( access insight)เพราะ การมองเข้าไปและพยายามเข้าใจกลไกจิตใจตนจะ ทำให้เราเข้าใจผู้อื่นได้ง่ายขึ้นเพราะกลไกการทำงานของจิตใจเป็น
ีืuniversal conscience. Bhudism lay on a principle that if you can understand your mind system(thoughts, feelings, senses)
you might be more considerate.

ในขณะที่ศาสนาอื่นๆจะเน้นข้อห้ามและหลักปฏิบัติมากกว่า

 

1. หากเขาถามว่า ข้อแตกต่าง(ที่ดี ๆ กว่า) ของพระพุทธศานา กับ ศาสนาอื่น ....
เห็นภัยจากวัฏฏสงสาร ที่จิตเราเวียนว่ายตายเกิดผิดพลาดไม่มีที่สิ้นสุด

2. หากเขาถามว่า.... แล้ว "หัวใจ" ของพระพุทธศาสนา คือ อะไร....
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

 

ขออนุโมทนาครับ

ข้อแตกต่างของพระพุทธศาสนานั้นเน้นมุ่งการปฏิบัติให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง
หัวใจของพระพุทธศาสนา คือวิชชาในอริยสัจ ๔



ศึกษาวิธีสร้างบุญบารมี...ของสมเด็จพระญาณสังวร...ได้ที่

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=19673

เว็บไซต์ประวัติและธรรมเทศนาหลวงปู่หลวง กตตฺปุญฺโญพระสุปฏิปันโนสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

http://members.thai.net/varanyo/pooluang.asp


ลักษณะพุทธศาสนา...สมเด็จพระญาณสังวร

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=168173

 

^.^

^.^

ข้อแตกต่างของศาสนาพุทธกับศาสนาอื่นที่ชัดเจนที่สุด สามารถสรุปออกมาได้ด้วยคำสั้นๆ คำเดียวคือ "เหตุผล"

ศาสนาพุทธ สอนให้รู้ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นย่อมมีเหตุ และได้สอนวิธีในการดับเหตุนั้นจนหมดสิ้น

ส่วนหัวใจของพุทธศาสนา สามารถสรุปด้วยคำที่สั้นๆ คำเดียวคือคำว่า "รู้"

นั่นคือ รู้ว่ามีทุกข์ รู้กรรม รู้เนื้อรู้ตัว รู้จิตรู้ใจ ของตน ว่ายังเป็นทาสของความอยาก ความโกรธ และความหลง ตลอดจนรู้ในเหตุต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องร้อยรัด จนเห็นว่าเป็นธรรมดา คลายจากสิ่งเหล่านั้น เหลือไว้แต่จิตใจที่ผ่องใสอย่างถาวร ความรู้อย่างถูกต้องนั้นเราเรียกกันว่าปัญญา

ไม่ว่าจะปฎิบัติด้วยวิธีใด ศีล สติ สมาธิ ปัญญา หรือ จาคะ ,ฯลฯ
ควรกำหนดเป้าหมายไปที่ "รู้ รู้ว่ามันเป็นธรรมดา"
หากเห็นทุกอย่างเป็นธรรมดาได้ตลอดเวลา จึงมีผลคือจิตที่ผ่องใสอย่างถาวร ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา


ขอร่วมบุญกับพี่มหาหินนะครับ

 

สำหรับผม หลักของพระพุทธศาสนาคือ หลักของเหตุและผล มั้งครับ
สำหรับคนความรู้น้อยอย่างผม

 

มงกุฏเพชร

คุณอย่ามัวมานั่งถามคนอื่นแล้วงงอยู่นี่เลยคุณ
ไปศึกษาปฏิบัติให้รู้แก่จิตแก่ใจคุณเองจะดีกว่านะคับ
เพราะคุณก็เป็นชาวพุทธเหมือนกันอย่างพวกเราคุณก้น่าจะควร
ศึกษาพระศาสนาของเราให้มากๆพระถ้าคุณมามัวถามอย่างนี้คุณก็ไม่ได้ข้อสรุปหรอกเพราะต่างคนความเห็นย่อมต่างไปสุดแล้วแต่คนจะชอบที่จุดไหน
เราจึงให้คำตอบให้คุณพอใจไม่ได้เพราะเราไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า

ผมเชื่อว่าถ้าคุณศึกษาด้วยตนเองจนรู้ถ่องแท้เกี่ยวกับพระศาสนาแล้วคำตอบจะเกิดขึ้นกับจิตกับใจของคุณเองคับ

อนุโมทนาคับ

 

................................................................................

คุณ stefa ได้กลับมา ไม่หนีหาย....
แสดงว่าคุณมีเจตนาที่ดี.... ก็ขอน้อมยอมรับนับถือในน้ำใจ ได้ครับ....

ที่ผมกล่าวแย้งคุณไปนั้น ก็ขออภัยนะครับ....
เหตุที่ผมใช้คำว่า เหนือศาสนาอื่น นั้น....ก็เพราะว่า จากโพสที่ 1 ที่ผมได้โพสถามว่า....

............................................................................

หากมีชาวต่างชาติ ที่มีความสนใจที่จะศึกษา พระพุทธศาสนา....

1. หากเขาถามว่า ข้อแตกต่าง(ที่ดี ๆ กว่า) ของพระพุทธศานา กับ ศาสนาอื่น ....
(เราจะตอบเขาว่า อย่างไร....)

2. หากเขาถามว่า.... แล้ว "หัวใจ" ของพระพุทธศาสนา คือ อะไร....
(เราจะตอบว่า อย่างไรดี เขาจึงจะเข้าใจ ได้ดี....)

วันนี้ ผมเป็นคนต่างชาติ(ที่แล้ว)....

ช่วย ๆกันตอบ อย่างสร้างสรร เพื่อความเข้าใจของมวลมนุษยชาติ....
เพื่อเป็นประโยชน์ ต่อการเผยแผ่ธรรม สู่ชาวโลก....
ที่จะได้เข้าใจ ในพระพุทธศาสนา....

มหาวิทยาลัย ในต่างประเทศ ก็เริ่มสนใจ ที่จะทำการศึกษาพระพุทธศาสนา กันแล้ว...

อ้างอิงถึง....หัวเรื่อง.... คริสต์ชนเรียนรู้พุทธศาสนิกชนเพื่ออะไร ?
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=19137
ที่คุณแป้งฯ ได้โพสไว้....

ผมก็เลยสงสัย เหมือนกัน ว่า....
หาก ไม่มีอะไร ที่ดี ๆ แล้ว เขาจะมาเรียนกัน ทำไม ?

............................................................................

เห็นได้ชัด นะครับว่า....
ผมเปิดประเด็นที่ว่า....
หากมีชาวต่างชาติ ที่มีความสนใจที่จะศึกษา พระพุทธศาสนา....

1. หากเขาถามว่า ข้อแตกต่าง(ที่ดี ๆ กว่า) ของพระพุทธศานา กับ ศาสนาอื่น ....
(เราจะตอบเขาว่า อย่างไร....)

2. หากเขาถามว่า.... แล้ว "หัวใจ" ของพระพุทธศาสนา คือ อะไร....
(เราจะตอบว่า อย่างไรดี เขาจึงจะเข้าใจ ได้ดี....)

มหาวิทยาลัย ในต่างประเทศ ก็เริ่มสนใจ ที่จะทำการศึกษาพระพุทธศาสนา กันแล้ว...

ผมก็เลยสงสัย เหมือนกัน ว่า....
หาก ไม่มีอะไร ที่ดี ๆ แล้ว เขาจะมาเรียนกัน ทำไม ?

มันเป็นประเด็นการเปรียบเทียบ ข้อดี ที่ดี ๆ กว่า....
ก็ย่อมต้องใช้คำว่า "เหนือกว่า" ใช่ไหมครับ....

ผลการเรียน การวัดผล ก็ต้องเปรียบเทียบ มีที่ 1 ที่ 2 ที่ 50 ....
การประกวด ประขัน ใด ๆ ก็ย่อมต้องมีดีกว่า ด้อยกว่า มากกว่า น้อยกว่า ใช่ไหมครับ

............................................................................

ดังนั้น ประเด็นนี้ ผมขอยืนยันนะครับ ว่า หาข้อเปรียบเทียบอยู่จริง ๆ

และ ถ้าหาก....
ชาวต่างชาติ ที่มีความสนใจที่จะศึกษา พระพุทธศาสนา....
แล้วไม่รู้ข้อมูล ที่ดีกว่า....

ผมก็เลยสงสัย เหมือนกัน ว่า....
หาก ไม่มีอะไร ที่ดี ๆ แล้ว เขาจะมาเรียนกัน ทำไม ?

.............................................................................

ครับผม หากเป็นการล่วงเกิน ก็ขอกราบอภัยเป็นอย่างยิ่งครับ....

.............................................................................

 

................................................................................

สาธุ ครับ สำหรับข้อแนะนำที่ดี ๆ ....

จริง ๆ แล้วก็คงต้องเป็นไปตามที่คุณมงกุฎเพชรฯ แนะนำมา นั่นแหละครับ ....
จึงจะดีที่สุด.... รู้ได้ด้วยตนเอง.... รู้เปรี้ยว รู้เค็ม รู้เผ็ด.... ก็ต้องกินเอง จึงจะรู้....

แต่ทว่า....
ไม่ทราบว่า คุณมงกุฎเพชรฯ ได้อ่านกระทู้ที่ผมโพสไว้ ตั้งแต่ต้นไหมครับ....
นี่ผมสมมติว่า ผมเป็นชาวต่างประเทศ....
ที่ถามมานี่ ก็เพราะเพื่อให้เป็นประโยชน์ แก่สาธารณชน ....
เป็นการศึกษาหาข้อเปรียบเทียบ จะได้เป็นประโยชน์ แก่ผู้ศึกษาธรรมที่เข้ามาใหม่....
ที่จะได้ศึกษาข้อที่ดี ๆ ของพุทธศาสนา....

คุณมงกุฎเพชรฯ ที่ได้เข้ามาที่ในหัวข้อนี้....
ได้เห็นสารบัญหัวข้อ ก่อนที่จะเข้ามาหรือเปล่าครับ....

ผมเลือกมาโพสหัวข้อนี้ ไว้ที่....

พลังจิต-พุทธศาสนา สำหรับผู้เริ่มต้น

แล้ว ผู้เริ่มต้น นี่....
นักเรียน นักศึกษา ไม่ได้เรียน ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้สอบถามใครเลย ....

แล้วจะสอบผ่าน ได้อย่างไร ใช่ไหมครับ....

...................................................................

ขอท่านที่มีความมั่นคงในธรรมอันประเสริฐ เลิศดีแล้ว....
ก็ปล่อย ๆ ให้มันผ่านไปบ้างเถิดนะครับ....
ให้ข้าผู้น้อย ยังด้อยอยู่ ได้คุย ได้สอบถาม ความรู้ในธรรม บ้างเถิดครับ....

ขอกราบขอบพระคุณยิ่ง ในมุทิตาจิตของท่านผู้เจริญ อย่างยิ่งครับ....

ขอน้อมคารวะ ด้วยใจอันบริสุทธิ์
(ไม่มีประสงค์ให้เป็นวาจาส่อเสียด อันผิดเนื่องด้วยกรรมบท แม้แต่ประการใดทั้งสิ้น)

..................................................................

 

ยอดเยี่ยมโดยแท้ ของจริงจากพระพุทธองค์....
สาธุ สาธุ สาธุ

 

สาธุ....
ยอดเยี่ยมนัก.... ทางโดยตรงแท้จริง....

 

ขอได้รับการโมทนา สาธุ....
ยอดเยี่ยม ครับ....

 

สาธุ ดียิ่งนัก....

 

สาธุ.... อยู่ในทางที่ตรง ดียิ่งแล้ว....

 

ขอโมทนาครับ....

 

สาธุ สาธุ....

 

สาธุ สาธุ....

 

เรียน คุณมหาหิน
ดิฉัน มีลูกสาว สามคน
ด้วยความ ด้อย คุณค่า ของความเป็นแม่
ลูกสาว ไม่สามารถ อ่านและ เขียน หรือ พูด ภาษาไทย ได้เลย
แต่ ลูกสาว พยายาม สวดมนตร์ และนั่งสมาธิ ตามแม่
มันค่อนข้าง จะลำบาก มาก สำหรับ
การแปล จากภาษา พระ ให้เด็ก ๆๆ ฟัง
และยิ่ง ลำบาก มากขึ้น ต้องแปล เป็นภาษาเยอรมัน
แต่สิ่ง เดี่ยว ที่ มั่นใจ
คือ ลูก อยาก สวดมนตร์
ลูก อยาก นั่งสมาธิ ค่ะ

 

ทุกศาสนามุ่งให้คนทำความดีเหมือนกันหมดแต่อยู่ที่การตีความของผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆว่าจะเข้าใจในหัวใจของแต่ละศาสนาดีแค่ไหนส่วนสำหรับผมแล้วหัวใจศาสนาพุทธนั้นคือเหตุและผลหรือก้อคือกรรมใครทำกรรมดีก้อได้รับสิ่งดีจิตใจผ่องใสส่วนถ้าทำกรรมชั่วแม่มีใครเห็นแต่จิตใจเราก้อเศร้าหมองหวาดระแวงว่าคนอื่นจะรู้ว่าเราทำสิ่งไม่ดีไว้ส่งผลให้จิตใจไม่สงบสุข....ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเองไม่มีใครหลีกหนีกรรมของตัวเองได้...แต่ทุกคนสามารถที่จะเพิ่มพูนกรรมหรือละเว้นกรรมใหม่ได้

 

หัวใจที่มีพุทธรรมย่อมไม่มีมารปีศาจมารบกวน

ถึงคุณมหาหิน เท่าที่ผมอ่านมาผมมีความรู้สึกว่าคุณไม่มีจิตใจที่เป็นธรรมเลยจ้องแต่จะคิดหาคำพูดว่าศาสนาไหนดีกว่ากันแบบนี้เท่ากับคุณยังไม่ได้เข้าถึงแก่นของศาสนาที่เน้นถึงการปล่อยวางคุณยังอยู่ในห้วงกิเลสที่ยังคงต้องการที่จะคิดว่าสิ่งที่เรามีนั้นดีกว่าของผู้อื่นซึ่งจะยังแต่ให้คุณเกิดทุกข์เพราะแค่มีคนที่พูดไม่เป็นไปแบบที่คุณต้องการจะฟังคุณก้อใช้คำพูดเชือดเฉือนผู้นั้นแล้วคำพูดเหมือนคมมีดกรีดหัวใจซึ่งจะสร้างมิตรหรือศัตรูถาวรให้แก่ท่านได้ หัวใจที่มีพุทธรรม ย่อมไม่มีมารปีศาจมารบกวน