หลวงพ่อสุด วัดกาหลง

ฮา12ครับบบบบบบบบบ

 

สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ ทุกท่านวันนี้เป็นยังไงกันบ้างอ่ะครับ วันก่อนไปเจอเหรียญหลวงปู่สุด ที่แผงพระแถวบ้าน เลยลองเข้าไปดูครับ ลุงแกบอกว่าเหรียญนี้แท้ล้านเปอร์เซ็น ผมเลยลองดูครับ ปรากฏว่า ตรงคำว่า พระครูสมุทรธรรมสุนทร(สุด) ตรงคำว่าสุนทร กลายเป็นสุทร ครับผมเลยถามว่าแท้จริงๆหรอลุง เพราะเป็นเหรียญรุ่นเดียวกับผมเลย เหรียญผมเป็นเหรียญ นพเก้า ปี 2520 น่ะครับ แต่ของผมเป็นคำว่า สุนทร น่ะครับ ชวนให้สับสนมากๆอ่ะครับ รบกวนขอความกระจ่างด้วยครับผม ^_^

 

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน

-คุณอัสนีถ่ายภาพชัดจริงๆนะครับ รับผมเป็นลูกศิษย์ซักคนนะครับ ไม่มีความรู้เลย เห็นเพื่อนบอกว่ามืออาชีพเค้าใช้RICOHกัน(ใช้ถ่ายภาพพระเครื่อง) ตอนนั้นผมก็ไปซื้อRICOH CX4มา 5555ทุกวันนี้ยังถ่ายภาพไม่ชัดเลย คงต้องลองเรื่องการจัดแสงใหม่อีกทีล่ะมั๊งครับ

-คุณน้องMy Dearครับ เหรียญนพเก้าที่ชื่อหลวงปู่เป็น"สุทร" ก็สรุปว่าเป็นของปลอมแน่ๆแล้วนะครับห่างๆไปเลย ของแท้"สุนทร"ครับ

-คุณน้องดินสอกลับสู่ร่างเทพเดิมแล้วนะครับ ดูชื่อนี้จะให้ความรู้สึกดีๆอย่างมากเลย เห็นคุณโอ๊ตถามถึงเรื่องสังขารพ่อท่านคล้าย ว่าตอนนี้อยู่ที่วัดไหน พอจะมีรายละเอียดมั๊ยครับ คนดีศรีเมืองนครฯ

.....เห็นคุณโอ๊ตเล่าถึงประสบการณ์พระปิดตาหลังแบบหลวงปู่สุด แล้วตั้งใจเก็บรุ่นนี้ เก็บสะสมไว้4องค์แล้ว พอดีไปเห็นมีการประมูลอยู่ที่ราคา400 ก็เลยเปียไป410บาท ได้ครับ5555 ปิดไปแล้ว เดี๋ยวคืนนี้นำภาพมาให้ชมครับ มีความสุขกันมากๆนะครับ

 

สังขารท่าน อยู่วัดธาตุน้อย อ.ฉวาง ครับ
..............................................
วัดธาตุน้อย

วัดธาตุน้อย หรือวัดพระธาตุน้อย ตั้งขึ้นโดยความประสงค์ของพ่อ ท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ) พระเกจิอาจารย์ที่ชาวใต้เลื่อมใสศรัทธาอย่างสูงยิ่งรูปหนึ่ง มีเนื้อที่ 46 ไร่ สร้างขึ้นบนที่ดินซึ่งนายกลับ งามพร้อม ถวายแด่พ่อท่านคล้าย ท่านจึงได้สร้างพระธาตุน้อยขึ้นใน ปี 2504 ลักษณะของพระธาตุน้อยเป็นการจำลองพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช เพียงแต่งย่อส่วนให้เล็กลงเป็นเจดีย์ ทรงลังกา ฐานด้านกวางด้านละ 27 เมตร สูง 70 เมตร องค์เจดีย์สีขาวเด่นส่วนปลียอดแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกทาสีขาว ช่วงกลางหุ้มโมเสด ช่วงยอดสุดหุ้มด้วยทองคำหนัก 400 บาท ขณะนี้สรีระพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ สถานที่นี้จึงเป็นเจดีย์อนุสรณ์สถานพ่อท่านคล้ายอีกด้วย
ประวัติวัดธาตุน้อย วัดนี้ตั้งขึ้นโดยความประสงค์ของพ่อท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ) บนที่ดินของผู้ใหญ่กลับ งานพร้อม ได้ถวายที่ดินผื่นนี้ให้พ่อท่าน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2483 มีเนื้อที่ทั้งหมด 46 ไร่เศษ

อยู่ มาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2502 พ่อท่านได้รับกิจนิมนต์ไปที่คว้านพะเยาว์ (จังหวัดพะเยาเดี๋ยวนี้) ในงานได้มีนายประครอง ช่วยพันธ์ ชาวคว้านพะเยาว์ได้นำผอบ (ตลับ) ทองคำมาถวายพ่อท่าน ภายในผอบมีพระธาตุ (พระสารีริกธาตุ) โดยนายประคองเล่าว่าได้ขึ้นไปบนดอย และพบซากปรักหักพังของเจดีย์องค์หนึ่ง เลยขุดดูจึงพบผอบทองคำมีพระธาตุอยู่ภายใน จึงเก็บมาไว้ที่บ้านเพื่อบูชา เกิดมีนิมิตฝันว่า“พระธาตุ” นี้มีเจ้าของ เมื่อพบแล้วให้นำผอบไปให้เจ้าของด้วย โดยบอกลักษณะเจ้าของอย่างละเอียด ลักษณะเจ้าของที่ฝันนั้นตรงกับลักษณะของพ่อท่านทุกประการ พ่อท่านรับผอบแล้ว พ่อท่านเอาแต่พระธาตุอย่างเดียว ส่วนผอบคืนให้นายประคองไป

เมื่อพ่อท่านได้พระธาตุแล้ว ได้มาสร้างเจดีย์ขึ้นในที่ดินแปลงนี้ โดยมีพระใบฎีกาครื้น โสภโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดจันดีเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง พ่อท่านได้ลงฤกษ์สร้างเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2505 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ ปีขาล เป็นเจดีย์สูง 35 วา ฐานสี่เหลี่ยมยาวด้านละ 75 เมตร นับปล่องไฉนได้ 43 ปล่อง

ต่อ มาเถ้าแก่ก้วง ชาวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ทำยอดพระธาตุทำด้วยทองคำ ใช้ทองคำน้ำหนักประมาณ 450 บาท มาถวายพ่อท่าน และได้บรรจุพระธาตุสวมยอดทองคำไว้เรียบร้อย เจดีย์ไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ พ่อท่านก็มรณะภาพไป เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513 เวลา 23.05 น. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพฯ

สถาน ที่นี้จึงเป็นเจดีย์อนุสรณ์สถานพ่อท่านคล้าย วัดนี้ได้รับอนุญาตให้สร้างตามหนังสือของอธิบดีกรมศาสนา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2520 และได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2520 โดยนายภิญยโญ สาธร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการให้ชื่อวัดว่า วัดธาตุน้อย (รองมาจากพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช) ในปีเดียวกันได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา และได้รับพระบรมราชานุญาต เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2522 (ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 6 กันยายน 2522)

ต่อ มาคณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ของพ่อท่านได้อาราธนา นิมนต์พระราชพุทธิรังษีสมัยเมื่อเป็นพระครูพิบูลนวเขต เจาคณะอำเภอฉวาง มาเป็นเจ้าอาวาส ได้ดำเนินการบูรณะเสริมสร้าง เป็นลักษณะของวัดวาอารามโดยสมบูรณ์ตามที่เห็นในปัจจุบันนี้
..................................................

 

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็น มิ่งขวัญชาวเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศานิกชน ทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จัก กันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้
วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช
พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมแบบล้านนา มีจุดเด่นที่ยอดเจดีย์ ซึ่งหุ้มด้วยทองคำแท้ จากความเชื่อ เล่าสืบตอบกันมาว่าองค์พระธาตุประกอบด้วยทองรูปพรรณและของมีค่ามากมายจรดปลายเจดีย์ ซึ่งสิ่งของมีค่า เหล่านี้พุทธศสานิกชนนำมาถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้ตนได้พบกับนิพพาน จากคำขวัญประจำ จังหวัดเมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปข้อความว่า พระธาตุทองคำ จึงหมายถึง ยอดเจดีย์ทองของพระบรมธาตุนั่นเอง และหากใครต้องการ ชมยอดพระธาตสีทองเหลืองอร่ามอย่างใกล้ชิด มีบริการกล้องส่องทางไกลให้ใช้บริการสนนราคาแล้ว แต่ตกลง กันว่าจะชื่นชมความงดงามนั้นนานเพียงใด ด้วยความมีชื่อเสียงและศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมธาตุเจดีย์ ดึงดูดให้ผู้คน จากทั่วสารทิศแวะมากราบไหว้ขอพรคู่ไปกับ
วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช

วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช
พิธีปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง คือ การนำผ้าขึ้นธาตุ ตามตำนานเชื่อว่า หากใครได้นำผ้าขึ้นธาตุ และบนขอพรใน เรื่องใด จะขอให้หายเจ็บหายไข้ ขอให้ได้ลูก ขอเรื่องการงานการเรียน สิ่งนั้นก็จะเป็นจริงดังหวัง มีเรื่องเล่าว่า มีชายคน หนึ่งประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย สุดท้ายพ่อแม่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงมาบนและนำผ้าขึ้นธาตุที่ พระบรมธาตุ ขอให้ลูกชายหายจากอาการป่วยและหากหายจะให้มาบวชที่วัดพระธาตุ ในไม่ช้าชายหนุ่มคนดังกล่าว ก็หายวันหายคืน จนกลับมาเดินได้เป็นปกติในทุกปีช่วงวันมาฆและวันวิสาขบูชา จะจัดงานแห่ผ้าขึ้นธาตุซึ่งถือเป็น งาน บุญประจำปีที่มีผู้คนจากทั่วสารทิศมาร่วมสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่นี้ความ มหัศจรรย์อย่างหนึ่งของ องค์พระบรมธาตุ คือ องค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางใด ซึ่งยังไม่มี ใครหาคำตอบ ได้ว่าเป็นเพราะอะไร จากความมหัศจรรย์นี้ ท.ท.ท. จึงให้เจดีย์นี้เป็น 1 ใน unseen Thailand ของเมืองไทย

วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช
นอกจากพระบรมธาตุเแล้วเจดีย์องค์เล็กที่รายล้อมรอบองค์พระธาตุมากมายเป็นสิงที่แปลกตาแก่นักท่องเที่ยว ที่ได้พบเห็น เจดีย์นี้เรียกว่า องค์เจดีย์บริวาร ซึ่งมีทั้งหมด 149 องค์เจดีย์บริวาร คือ เจดีย์ที่ลูกหลานบรรพบุรุษ ได้สร้างไว้สืบต่อกัน มาเรื่อยๆเพื่อบรรจุอัฐิของญาติผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอธิษฐานว่าขอให้ญาติของตนได้มาเกิด ในศาสนา ของพระพุทธองค์อีกครั้งในภพหน้า นอกจากความหัศจรรย์ของพระธาตุไร้เงาแล้ว เจดีย์บริวารที่ เรียงราย ล้อมรอบองค์พระบรมธาตุเป็นสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นจากที่ใดเช่นกัน
ยอดพระธาตุทองคำ ทางเดินขึ้นสักการะเจดีย์พระบรมธาตุ
วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช
นักท่องเที่ยวเดินวนรอบเจดีย์เพื่อเป็นศิริมงคล ผ้าขึ้นธาตุ
วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช
ประวัติวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เดิมเรียกว่า วัดพระบรมธาตุ เป็นวัดใหญ่ ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเมืองโบราณ ค่อนมาทางทิศใต้ เนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน มีถนนราชดำเนินตัดผ่านหน้าวัด เข้าใจว่าเดิมคงเป็นถนนโบราณ ประวัติ การสร้างวัดไม่มีหลักฐานปรากฎแน่ชัดนอกจากประวัติจากตำนานที่กล่าวถึงการก่อสร้างพระมหาธาตุ ซึ่งเป็น เอกสารที่ี่เขียนขึ้นจากคำบอกเล่าภายหลังเหตุการณ์จริงเป็นเวลายาวนานมาก หลักฐานทางเอกสาร ที่ชัดเจน ปรากฏขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์กล่าวว่าวัดนี้เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ต่อมาพระเจ้า บรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ อุปราชปักษ์ใต้ทรงพระสงฆ์จากวัดเพชรจริก มาดูแล รักษาวัด และคราวที่รัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสเมืองนคร ได้โปรดพระราชทานนามวัดว่า วัดพระมหาธาตุวรมหา วิหารประวัติ จากตำนานที่เล่าเรื่องการก่อสร้างพระบรมธาตุมีหลายสำนวนสามารถประมวล เนื้อหาได้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เมืองต่าง ๆ ในแว่นแคว้นชมพูทวีปได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุไปเก็บ รักษา เคารพบูชา มีเมืองหนึ่งชื่อเมืองทนธบุรี ได้พระทันตธาตุมาเก็บรักษาไว้ ต่อมามีกษัตริย์จากเมืองอื่นยกทัพ มาเพื่อขอแบ่งพระทันตธาตุ กษัตริย์สิงหราชเจ้าเมืองทนธบุรีเห็นว่าจะรักษาเมืองไว้มิได้ จึงให้พระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนทกุมารพระธิดาและพระโอรสอัญเชิญพระทันตธาตุ ลงเรือหนีไปลังกา เผอิญเรือกำปั่นถูกพายุพัด เรือแตกทั้งสองพระองค์มาขึ้นฝั่ง ณ หาดทรายแก้ว แล้วฝังพระทันตธาตุไว้ เรื่องราวดำเนินต่อไปจนทั้งสอง พระองค์ไ์ด้กลับ ไปลังกาโดยมีพระทันตธาตุสวน หนึ่งยังฝังอยู่ที่หาดทรายแก้วต่อมาพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้มาพบพระทันตธาตุ และโปรดให้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและสร้างเมือง ณ หาดทรายแก้ว จนสำเร็จเมืองดังกล่าวก็คือ เมืองนครศรีธรรมราชพระบรมธาตุเจดีย์ก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช ซึ่งเชื่อกันว่าเดิมเป็นเจดีย์แบบอิทธิพลศิลปะ ศรีวิชัย คือเป็นเจดีย์ทรงมณฑป มีหลังคาเป็น สถูปห้ายอดคล้ายพระบรมธาตุเจดีย์ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-15 ต่อมา พระสถูปแบบศรีวิชัยทรุดโทรมลง จึงได้มีการสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ทรงลังกาซึ่งเป็นเจดีย์องค์ปัจจุบันครอบไว้ เชื่อกันว่าในขณะนั้นคือราวพุทธศตวรรษที่ 18 อิทธิพลพุทธศาสนาแบบลังกาในดินแดน นครศรีธรรมราช เข้มแข็งมาก นครศรีธรรมราชจึงได้รับอิทธิพลทั้งศาสนาและศิลปกรรมจากลังกา ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุลทรงวินิจฉัยว่าพระบรมธาตุเจดีย์ปัจจุบันมีลักษณะคล้ายเจดีย์กิริเวเทระในเมืองโบโลนนารุวะ ประเทศ ศรีลังกา สร้างในสมัยพระเจ้าปรากรมพาหุมหาราช ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 18 พระบรมธาตุเจดีย์ ก็ควรสร้างหลัง จากนั้นมากส่วนสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ ล้วนเป็นของที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเป็นส่วนใหญ่จะ มีสิ่งก่อสร้างในสมัย ธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้นอยู่บ้าง เช่น วิหารทับเกษตร วิหารพระแอด เป็นต้น

 

อยู่ธาตุน้อยครับ ท่านดังพระเครื่องที่ออกวัดจันดี คนเลยคุ้นที่นั้นมากกว่าครับ

 

อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ

หลวงปู่ตกไปหน้าสองแระ....

สวัสดีวันศุกร์ครับ
ศุกร์แห่งชาติ วันนี้ใครจะเที่ยว จะดื่ม ก็ระวังตัวกันบ้างนะครับ
ดื่มไม่เมา เอ้ย เมาไม่ดื่ม เอ้ย เมาไม่ขับนะครับ...
(อย่างกะคณะตลก เล่นเองปิดเอง 555)

 

ผมเมาแล้ว ชอบจับนม...เอ้ย..กินนม...ตบท้ายให้สร่างเมา

 

สวัสดีครับทุกท่าน
-ขอขอบคุณคุณยศพันธ์ ที่นำเอาประสบการณ์ ของหลวงปู่สุดวัดกาหลงมา ให้อ่านครับ เรียกได้ว่าแม้นจะเป็นใครไม่สำคัญมีเหรียญหลวงปู่อยู่แล้วล่ะก็ ได้รับการคุ้มครองทุกรายไป ครับ
-คุณเปิดโลก ค่อยๆศึกษา ครับ กระผมก็งูๆปลาๆเหมือนกัน แต่พอได้ทดลองถ่ายภาพไปเรื่อยๆ เดียวนี้ดีน่ะที่เป็นระบบดิจิตอล ถ้าเป็นฟิลม์แล้วล่ะก็ คงต้องค่อยๆบรรจง ถ่ายภาพ เพราะกดชัตเตอร์ครั้งหนึ่งเท่ากับเสียฟิลม์ไปหนึ่งช็อต แต่ดิจิตอล กดเลยครับ รักษาสมดุลย์ของภาพ เช่น แนวดิ่ง มุมภาพ และแสง ครับ แต่การถ่ายภาพพระหรือเหรียญ ต้องมีมุ้งหรือเต้นท์ ขนาดเล็กๆ(มีขายตามร้านขายอุปกรณ์ถ่ายภาพ ตามห้าง)ไว้ถ่ายงานอาร์ตโดยตรง มัยจะช่วยทำให้แสงกระจายได้ทุกทิศ ไม่จับเป็นจุดใดจุดหนึ่ง มีอุปรณ์อย่างนี้ช่วยได้เยอะ ครับ ภาพที่ออกมาจะดูสวยงามมาก และไม่มีการสะท้อนแสงที่เป็นจุด
-การถ่ายภาพแสงและเงามีส่วนสำคัญมากๆในการถ่ายภาพ และปัจจัยอื่นๆ เช่นการใช้เทคนิคกล้อง (เปิดหน้ากล้อง) การตั้งค่ารูรับแสงหรืออย่างอื่นๆเดียวนี้บอกได้เลยว่า ส.บ.ม. (สบายมากๆ)ลองท่องยุทธจักร ศึกษาตามเว็ปต่างๆซิ่ไม่ต้องไปซื้อหนังสืออ่านเลย พอได้รู้แล้วคุณจะรักการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกล้องคอมแพ็ค ราคาไม่กี่สตางค์ จนถึงกล้อง DSLRไล่ไปตั้งแต่ราคาหลักหมื่นกว่าบาทจนไปถึงราคา หลักแสน บาท ถ้าได้เรียนรู้หลักการวิธีการถ่ายภาพ เล่นแสง-เงา เทคนิคกล้องแล้ว คุณอีกคน ก็จะเป็นโปรได้สบายมากๆครับ..
-ดินสอกลับมาแล้วมาพร้อมกับ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆและทุกคน ยินดีครับ ได้ความรู้มากๆเลย นี่ครับได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ดังที่เขาบอกว่ายุคดิจิตอล มันกลายเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเราไปแล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว และไม่สามารถปฏิเสธมันได้ ขนาดกระผมทำงานอยู่ กทม.ช่วงนี้ เมื่อคืนได้ท่องทางโซเชี่ยนเน็คเวคร์ ได้ไปเจอเพื่อนเก่าๆที่ไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปีเลย นี่แหล่ะ โลกไร้พรมแดนจริงๆ
-เมื่อคืนได้ฝากภาพวัตถุมงคลวัดกาหลงไว้ไม่รู้มันหล่นหายไปไหนแล้ว วันนี้ขอฝากไว้อีกทีเผื่อใครอยากได้พระที่หลวงปู่ได้ทำการอธิฐานจิต(ทันหลวงปู่)











กระผมไม่ได้จำหน่ายหรือให้บูชาน่ะ ครับ เพียงแต่เป็นกระบอกเสียงให้ใครที่ต้องการและอยากได้พระที่หลวงปู่ท่านปลุกเสก ไปที่วัดกาหลง จะได้ ทำบุญกับวัด เพื่อที่วัดจะได้นำเอาปัจจัยท่านไปบูรณะซ่อมแซมหรือเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัด และอีกอย่างท่านจะได้มั่นใจว่าได้มาจากวัดกาหลงไม่ใช่โดนพวกมือดีไม่กลัว นรก ทำจำหน่ายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ครับ..

 

สวัสดีคับ คุณลุง คุณอา คุณพี่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ศรัทธาหลวงพ่อสุด เหมือนกันครับ

ขอแนะนำตัวด้วยเหรียญรุ่นนี้ครับ เป็นเหรียญรุ่นใหม่ๆ แต่เป็น อิริยาบถยืน ของหลวงพ่อครับ

 

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน

.....รู้สึกช่วงนี้เน็ตของผมเกิดอาการเชื่องช้า เหมือนตัวผมเองเลย5555 เห็นแล้วความไม่เที่ยง จริงมั๊ยครับคุณอัสนี(หาพวกร่วมด้วย5555) ขอบคุณคุณอัสนีนะครับ ที่นำรูปวัตถุมงคลของทางวัดกาหลงมาให้ชมพิจารณากัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเช่าเสร็จ ก็ต้องนำไปให้หลวงปู่เสกอีกที แล้วรับกับมือเลย และขอยินดีกับคุณทางชนะครับ รูปแทนตัวด้วยเหรียญเสือเผ่นปี17แบบสวยบาดใจ เข้ามาพูดคุยกันครับ ลูกศิษย์หลวงปู่ทั้งนั้น

.....ได้ยินว่าคุณน้องMy Dearมีโชคลาภจากการอธิษฐานขอหลวงปู่ ก็เป็นเพราะบุญของใครของเค้าเองด้วย เห็นว่าจะรีบไปทำบุญกับหลวงปู่ ขออนุโมทนาด้วยครับ เมื่อคืนเข้ามาในกระท่อมช้ามาก เลยเปลี่ยนใจมาตอนเช้าดีกว่า

.....เคยได้ยินคุณโอ๊ตพูดถึงพระปิดตาหลังแบบ ว่ามีสีขาวกับสีเหลือง และมีสีออกดำๆด้วยหรือเปล่าครับ ผมไม่รู้เรื่องนี้เลย มีที่มาที่ไปยังไงครับเนี่ย ทำไมต้องสีขาวอย่างเดียวครับ ผมแยกสีไม่ค่อยออกด้วย(เป็นปัญหาเลย) ผมประมูลปิดมาองค์นึง ดูดีมั๊ยครับสีนี้ รบกวนคุณโอ๊ตด้วยนะครับ

 

สวัสดีพี่เปิดโลก ตื่นเช้านะครับ ^__^ หาไรทานกันครับ

 

องค์นี้หลวงพ่อนวล พศ.2542 ทำบุญมาเมื่อคืน ท่านเสก 1 เดือน หรือ 1 พรรษา นี่ละครับ

 

ทำบุญได้มาจ้า เมือคืน พ่อท่านแก้ว วัดสะพานไม้แก่น สีเงินสวยดีครับ องค์จริงไม่ใหญ่เท่าไหร่นะ

 

เหรียญนี้แจกแบบ งง ๆ เดินเมือคืน ลุงคนนึงยัดใส่มือ เพราะผมเดินไปขอน้ำมนต์...เลยได้พระแถมมาด้วยครับ

 

เหรียญนี้แจกแบบ งง ๆ เดินเมือคืน ลุงคนนึงยัดใส่มือ เพราะผมเดินไปขอน้ำมนต์...เลยได้พระแถมมาด้วยครับ

 

มีตะกรุด หลวงปู่แก้ว วัดสะพานไม้แก่นบ้างไหมครับ หาดูยากจริงๆ

 

ไม่มีเลยครับ ของพ่อท่านแก้ว ผมก้อมีละครับ แค่ อย่างเดียวเหรียญเดียว ถูกมาก ทำบุญ แต่ผมไม่มีเงินแล้ว เสียดาย เช่าได้ 1องค์ครับ เหลือกลับบ้าน 2บาท เอง

 

2บาท นี่ทองหรือเปล่าครับท่าน !!!


555 ล้อเล่นกันเน้อ