หลวงปู่มั่นยืนยันว่า พระพุทธเจ้าเป็นบรรพบุรุษคนไทย

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 31 กรกฎาคม 2007.

  1. dearestguardian

    dearestguardian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +1,418
    ความภูมิใจของเรา มิได้ อยู่ที่เรายืนอย่บนแผ่นดินต้นกำเนิดศาสนาหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะกำเนิดจาก ดินผืนใด ก็คือ ดิน อันเป็น ธาุตุ 4 เหมือนกัน

    ความสูขใจและภูมิใจที่แท้ของเราอยู่ที่ นาท่นี้ ขณะนี้เราได้ปฏิบัติตัวและใจตามธรรมของพระพุทธศาสดา ให้เข้าถึงแก่นของพระ ธรรม หรือยัง หายัง เร่งมือเสีย เพราะหากทำได้ นั่นเท่ากับเรา สืบสาน เจตนา ของ สมเด็จพระ พุทธบิดา

    ขอขมา กรรม

    "พุทธะอยู่ ที่ใจ ของ เรา นี่ ไม่ต้องเสาะหาองค์พระเจดีย์ ใจเรานี้ คือที่สถิตย์เอย(กำเนิดเจ้าแม่กวนอิม)"

    เมื่ื่อใดเกิดความภูมิใจ เมื่อ นั้น ตัว เรา ของเรา เกิดขึ้นแล้ว

    สัพเพธรรมา อนัตตา ติ ธรรม ทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2007
  2. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    การรู้จักคิดนอกกรอบ การใฝ่ศึกษาไม่รู้สิ้นเป็นสิ่งดีเยี่ยม อันนี้ต้องให้กำลังใจกัน
    เหมือนครั้งหนึ่งที่เคยแสดงความเห็น พยายามให้กำลังใจเอกอิสโร

    แต่สิ่งที่ต้องตำหนิและยับยั้งอย่างมั่นคง คือการชักชวนให้สาธารณชนปรามาสพระรัตนตรัย

    หากผู้ใดต้องการศึกษาอย่างแท้จริง จะชี้ทางให้ โดยให้หาอ่านอย่าง
    ชินกาลบาลีปกรณ์ ตำนานสิงหลวัติ จามเทวีวงค์ และสุวัณณภูมิปกรณ ราชบุรีกถา ตำนานขุนไท เป็นต้น

    คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา หรือตำราที่ค้นคว้าเขียนขึ้นโดยพระภิกษุนั้น นักวิชาการปัจจุบันจำนวนมากชอบปฏิเสธ หาว่าเชื่อถือไม่ได้ แต่อยากให้ข้อคิดหน่อยเถิดว่า ระหว่างคนที่แม้ศีล 5 ยังรักษาไม่ได้ ยังกินเหล้าเมายา กับพระผู้มีข้อวัตรปฏิบัติด้วยพระธรรมวินัย 227 ข้อ ควรให้ความเชื่อถือผู้ใดมากกว่ากัน

    ดูจากเนื้อความที่เว็บสโนว์นำมาโพสอย่างเป้นธรรมแล้ว จะกล่าวหาว่าเป็นความคิดของเว็บสโนว์ยังไม่ได้ เพราะอาจก๊อบมาด้วยความซื่อได้

    การตำหนิที่ผมกล่าวมาทั้งหมดจึงมิได้มุ่งตำหนิเว็บสโนว์ แต่มุ่งตำหนิคลุมไปทุกคนที่มีเจตนาและกระทำกรรมอันหยาบช้า บิดเบือนถ้อยคำของครูบาอาจารย์ผู้ประเสริฐบริสุทธิ์ หลอกลวงสาธารณชน

    ทั้งนี้เพื่อระงับยับยั้งมิให้มีผู้เห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำชั่วหยาบนี้ ที่จะเป็นปัจจัยให้ได้รับผลแห่งวิบากอันแสนสาหัส

    หลวงปู่กูดแห่งป่าละอู เคยเมตตาบอกเล่าถึงบุพกรรมอันเป็นสาเหตุให้ต้องทุกข์ทรมานในยามเฒ่าชรา แม้จะทรงคุณวิเศษแล้วก็ตาม แก่ศิษย์ก้นกุฏิว่า เป็นเพราะครั้งพุทธกาล หลวงปู่เพียงคิดเห็นด้วยกับข้อวัตรปฏิบัติดัดแปลงที่พระเทวทัตเสนอต่อพระพุทธองค์เท่านั้น มิได้แม้ร่วมขบวนไปกับเหล่าก๊กพระเทวทัตเลย หลวงปู่ยังต้องได้รับทุกข์โทษทรมานอย่างแสนสาหัส อย่างชนิดหากไม่สามารถเข้าสมาบัติหนีเวทนาได้ ก็จะไม่สามารถทรงสังขารอยู่ได้ถึงป่านนี้
     
  3. table

    table เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +730
    ผมอยากถามคนที่ชอบอ้าง บาปอ้างกรรม นักว่า ในหนังสือที่หลวงพ่อพระฤาษีลิงดำท่านบอกไว้ว่า สถานที่ ๆ พระพุทธเจ้านิพพานจริง ๆ คือ พระแท่นดงรัง
    ในหนังสือ หลวงพ่อธุดงส์ ก็เขีบนไว้เช่นกัน จะมีข้อแย้งว่าเช่นไรครับ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง เพราะให้ความกระจ่างได้ถูกต้อง
    และขอเรียนว่า การที่ชอบอ้างว่าคนนู้นคนนี้บาป หรือแสดงการกระทำของคนอื่น ว่าเป็นบาปโดยการตัดสินโทษด้วยตนเองเป็นสิ่งไม่ถูก อย่าลืมสิว่ากระทู้ทั้งหมด เป็นการแสดงแค่ความเห็น ของแต่ละคน ว่าความรู้ที่ได้ศึกษามาตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตรงควราแจกแจง ให้เหตุผล คือการค้นคว้าหาหลักที่ถูกต้อง ไม่ใช่พวกชอบขู่ เพราะถ้าใคราจะเชื่ออะไรก็ช่างพวกเขากัน แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน ซึ่งผมคิดว่า ทุกคนมีความคิดและการตัดสินใจเองได้ ไม่ใช่บิดเบือนหรืออ้างคำของครูบาอาจารย์และมาอวดว่าตนเองเป็นผู้วิเศษ อันนี้ขอประนามว่า คำพูดรุนแรง และใช้อารมณ์มากเกินไป ( ขอพูดแทนคนอื่น นะครับ )
     
  4. ทรงกลด

    ทรงกลด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +109
    ศรัทธาต้องคู่กับปัญญานะครับ

    ศรัทธาโดยไม่มีปัญญาคอยประคองคืองมงาย

    หนังสือมุตตโตทัยของหลวงปู่เป็นหนังสือที่ดียิ่ง แต่อาจารย์มุตโตทัยนี่ใครหว่า
    เหตุผล หลักฐานที่มาประกอบล้วนเป็นเหตุผลที่คิดเอง นึกให้เข้ากับความเชื่อของตน ขัดหลักกาลามสูตร หลักฐานที่อ้างถึงว่ามีมากมายมีชิ้นไหนที่เก่าแก่กว่าพระมหาเจดีย์พุทธคยาไหม ประเทศไทยพึ่งนับเป็นชาติไทยไม่ถึงพันปี ก่อนหน้านั้นคำว่าไทยหรือสยามยังไม่ปรากฎหรอก มีสิ่งก่อสร้างโบสถ์วิหารมีชิ้นไหนที่เก่ากว่าศรีวิชัย หรือทวารดีไหม
    คิดเหรอว่าเก่งกว่าคนอื่นทั้งโลก พระอริยะเจ้าที่ผ่านมามากมายทุกชาติ ก่อนหน้านี้มากมายก็ไม่เห็นจะมีใครเชื่ออย่างที่ คุณมุตตโตทัย เอาเผยแพร่ แถมผมก็ไม่เคยเห็นหลวงปู่หรือลูกศิษย์หลวงปู่มั่นท่านมากล่าวเรื่องนี้ในที่สาธารณะให้รับรู้เลย แถมยังมีลูกศิษย์หลานศิษย์ของท่านมากมายไปเดินทางไปอินเดีย เพื่อกราบนมัสการสังเวชณียสถานทั้ง4แห่ง
    ถ้าคิดว่าเรื่องนี้ถูกต้องก็ช่วยประกาศให้รู้กันทั้งโลกด้วยครับ หาหลักฐานมารับรองให้แน่นหนากว่านี้ แล้วอย่าลืมอ่านกาลามสูตรก่อนด้วย
     
  5. ixy

    ixy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +486
    ผมไม่สงสัยในความเป็นพระอรหันต์และความเป็นผู้รู้ขององค์หลวงปู่มั่น ผมเคารพและเทิดทูนเสมอ แต่ผมยังสงสัยว่า เหตุใดสถานที่ประสูติจึงอยู่ไกลจากเมืองไทยนัก และคงใช้เวลาหลายเดือนในการเดินทางจากเมืองไทย หรือสถานที่ประสูติในอินเดียไม่ใช่ของจริง และใคร่อยากจะได้รับการอธิบาย ใช้เหตุผลในการหาข้อยุติ ขอได้โปรดให้อภัยในคำถามอันโง่เขลาด้วย
     
  6. ทรงกลด

    ทรงกลด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +109
    ผมก็เคารพหลวงปู่ แต่ผมก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากที่อื่น แม้ลูกศิษย์อาวุโสของหลวงปู่หลายๆท่าน ที่มีเกียรติภูมิเกริกไกร ก็ไม่เคยได้ยินว่าท่านเหล่านั้นกล่าวอย่างที่ คุณมุตโตทัยอ้างคำกล่าวของหลวงปู่

    สถานที่ประสูติในเนปาลนั้นได้รับการรับรองจากนานาชาติที่นับถือพระพุทธศาสนา แต่ละชาตินั้นก็มีพระอรหันต์เจ้าที่ทรงคุณวิเศษไม่น้อยเหมือนกัน หรือแม้ในประเทศไทย พระเถระที่ทรงคุณก่อนหลวงปู่ก็มีมากมายไม่เห็นว่าท่านใดจะมีข้อสงสัยว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ลุมพินีวัน เนปาล เลย
     
  7. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,588
    พระพุทธเจ้ามีกี่พระองค์ หมายถึงพระองค์ใดละ มีบทสวดที่ผมเคยสวดบูชาพระองค์ท่านอย่างน้อย 28 พระองค์ โปรดพิจารณาให้ดี หากไม่แน่ใจ โปรดใช้คำขอขมาและอธิษฐานจิต ดังนี้
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
    หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา
    ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยะสงฆ์เจ้า
    ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมถึงผู้มีพระคุณ
    และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วยกาย วาจา ใจ ก็ดี
    ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
    ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
    ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
    จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง
    จงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา
    ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป
    ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม
    ตั้งแต่บัดนี้เป็นตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
    หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรกรรมกับข้าพเจ้า
    ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้
    ขอถอนความพยาบาท
    ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาบแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร
    ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลกทางธรรมเทอญ
     
  8. suparush

    suparush Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +61
    เห็นด้วยกับคุณ 33
     
  9. กดุมภะ มหัทธโณ

    กดุมภะ มหัทธโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +69
    กราบเรียนทุกท่านด้วยความเคารพในความคิด

    ผมเองได้เคยฟังหลวงปู่ที่ผมนับถือมากท่านเล่าว่า "ซึ่งเคยบันทึกไว้แล้วว่า เกิดขึ้นที่ ชมพูทวีป เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก ในประเทศอินเดีย ในหน้าทีที่จะต้องอุบัติขึ้นในโลก แคว้นใหญ่ ๑๖ แคว้น แคว้นเล็ก ๕ แคว้น รวมทั้งหมด ๒๑ แคว้น พระพุทธเจ้าต้องประสูติใน ๒๑ แคว้นนี้"

    ส่วนสุวรรณภูมิท่านเล่าว่า "เป็นสถานที่ที่เจริญมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าองค์แรก"

    ผมเข้าใจเองว่าที่ท่านพระพุทธเจ้าประสูติในอินเดียแคว้นใดแคว้นหนึ่งใน ๒๑ แคว้น น่าจะเป็นเพราะอินเดียเป็นสถานที่สำคัญมาก(ชมพูทวีป) และอยู่ติดกับเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งน่าจะเป็นสถานที่ที่สำคัญมากเช่นกัน

    ส่วนประเทศไทยเป็นสุวรรณภูมิ ผมเข้าใจว่าเป็นสถานที่สงบ และมีพลังทางศาสนาที่มาก และอาจเป็นสถานที่ที่ท่านพระพุทธเจ้าใช้บำเพ็ญบารมี (สะสมบารมี)

    ด้วยความเคารพทุกท่านโปรดอย่าทะเลาะกันด้วยศาสนานะครับ พระพุทธองค์ และหลวงปู่มั่นท่านสูงเกินที่ทุกท่าน จะแม้แต่สงสัยครับ


     
  10. -๑ไร้IดีeJสา๑-

    -๑ไร้IดีeJสา๑- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,436
    ~>_<~
    เมื่อหลายปีมาแล้วมีข้อมูลของนักวิชาการกลุ่ม1 ท่านมีข้อมูลที่นำเสนอว่าดินแดนสุวรรณภูมิ คือ ชมพูทวีป ที่ประสูติตรัสรู้ปรินิพพานและสถานที่ต่างๆ อยู่ที่นี่ ผมเองก็รู้ไว้ใช่ว่าเพราะไม่เสียหายนี่ครับ เทียบกับตำราที่พวกฝรั่งตะวันตกเขียนกันตั้งข้อสันนิษฐานแล้วสรุปมาให้เรียนเรายังเรียนกันเลยไม่สงสัย แล้วทำไมตำราของบรรพบุรุษไทยของเราเองทำมึนๆ นักวิชาการชาวตะวันตกทำประวัติศาสตร์ชาวตะวันออก??? หากช่วงนั้นไทยเป็นเมืองขึ้นของพวกชาวตะวันตกประวัติศาสตร์จะไม่บิดเบือนมากกว่านี้หรือ??? หาก ณ เวลานี้นักวิชาการมีข้อมูลมาหักล้างกับข้อมูลเดิม??? เชื่อ/ไม่เชื่อ ??? แต่ถ้าได้ประโยชน์จะไม่ดีหรือ??? ถ้าใครได้ศึกษาหนังสือที่สมเด็จพระมหาสมณะเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระองค์ท่านก็มีพระวินิจฉัยไว้เช่นกัน ไปศึกษาดู
    แล้วเหตุการณ์บ้านเมืองตอนนั้นเป็นเช่นไรหลังจากนั้นเป็นเช่นไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2007
  11. สุริยันจันทรา

    สุริยันจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +4,588
    อนุโมทนาครับ...เป็นข้อมูลที่น่าคิดและพิจารณามาก ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆทางประวัติศาสตร์..
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    อนุโมทนาครับ
    พระพุทธองค์สอนให้เรามิต้องยึดติดและสงสัยในแรงศรัทธาแห่งความดี
     
  13. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ตามที่มีผู้อ้างถึงหนังสือ "ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต" ที่เขียนโดย อาจารย์ "มุตโตทัย" นั้น... ผมอยากเรียนว่า...ว่าอาจารย์มุตโตทัยนั้นไม่มีตัวตนอยู่จริงนะครับ น่าจะเป็นการอุปโลกแต่งเรื่องขึ้นมาหรืออาจจะลอกเลียนดัดแปลงจากหนังสือรำลึกวันวานของหลวงตาทองคำเพื่อสนับสนุนความเชื่อที่ผิดๆ ของตนที่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยและพุทธศาสนารวมทั้งสถานที่ต่างๆ ในพุทธประวัติอยู่ในประเทศไทยโดยอ้างชื่อของหลวงปู่มั่นครับ

    ซึ่งเรื่องจริงๆ ที่มีหนังสือเป็นที่เชื่อถือได้คือเรื่อง "รำลึกวันวาน" ที่เขียนขึ้นโดยหลวงตาทองคำ จารุวัณโณต่างหากครับ เนื้อเรื่องมีบอกไว้ชัดเจนว่าหลวงปุ่มั่นกล่าวไว้ว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนานั้นเกิดขึ้นที่ประเทศอินเดียครับ ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างที่อ้างกันผิดๆ


    ลองอ่านที่ลิงค์นี้ดูก็จะรู้ครับ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5681335/Y5681335.html
     
  14. ixy

    ixy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +486
    มีหลักฐานเพิ่มเติมจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จากหนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ พิมพ์ตุลาคม 2524 คัดลอกมาบางส่วน
    นอกจากเรื่องของพระยากง พระยาพานแล้ว จังหวัดนครปฐมหรือที่เรียกกันว่าเมืองทวาราวดี ก็ต้องถือว่าเป็นเมืองแม่ในการประกาศพระพุทธศาสนา รู้จักกับพระพุทธเจ้ารู้จักกับพระอรหันต์ รู้จักกับพระพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ายังอยู่ การเดินทางจากกรุงกบิลพัสดุ์มหานคร มาถึงจังหวัดนครปฐม หรือทวาราวดี ใช้เวลาเดินจริง ๆ ไม่เกิน ๑๗ วัน พ่อค้าใช้เวลาเดินประมาณค่อนเดือน คือครึ่งเดือนเศษ ๆ เพราะมีความหนักมา เขาเดินลัดตัดทาง ทางตรงเขามี เขาเดินกันเป็นปกติ พ่อค้าใช้เวลาเดินเท่านั้นไม่ใช่ของนาน
    ถ้าหากว่าเดินเท้าเปล่าก็เดินได้ไม่เกิน ๑๗ วันเป็นอย่างช้า มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง สมัยพระมหินทร์ประกาศพระศาสนา พระอริยสงฆ์ก็เดินทางมาขึ้นที่จังหวัดนครปฐมก่อนเป็นจุดแรก ความจริงพระพุทธศาสนามีมาก่อนนั้น ถอยหลังลงไปตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ก็มีพระมาจำพรรษาตั้งแต่ภาคใต้ของประเทศไทยถึงภาคเหนือ ภาคเหนือจริง ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเขตที่

    พระโมคคัลลาน์มาคุม ตั้งแต่เหนือไปด้านเชียงตุงต่อประเทศจีน และก็ในเขตจีนเป็นสายของพระมหากัสสป
    สำหรับสายใต้ต่ำลงมานับตั้งแต่จังหวัดสุพรรณบุรีมาถึงจังหวัดนครปฐม เพชรบุรี เป็นต้น และก็แดนประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้เป็นสายของพระมหากัจจายนะกับพระอนุรุทธ มักจะมากันเสมอๆ ต่ำลงมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาจังหวัดชุมพร จนกระทั่งถึงสุราษฎร์ธานี สายนี้เป็นสายของพระโสณกุฏิกัณณะ มากันเป็นปกติ จากนั้นมาก็เป็นพระลูกศิษย์ของพระทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว เป็นองค์สอนต่อ ๆ กันมา เป็นอันว่าประเทศไทยรับคำสอนของพระพุทธศาสนามาก่อน
    นี่เราคิดว่าพระพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศไทย และเวลานั้นเมืองมันมาก และคนส่วนใหญ่ในที่นี้ก็นับถือพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ถ้าจะถามว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเสด็จไหม ก็ต้องตอบว่าพระพุทธเจ้ามาในเขตนี้หลายวาระ และก็มาคราวหนึ่งทำให้คนสำเร็จอรหันต์ไปไม่น้อย การเสด็จมาของพระองค์ใช้เหาะมา มาเป็นกลุ่ม ๆ มาคราวหนึ่งก็มีพระติดตามไม่น้อยกว่า ๕๐๐ รูป มาเพื่อเป็นกำลังใจของคน เวลาก่อนหน้านี้นั้น หมอผีมีมาก ดินแดนอินเดียเขาเล่นสมาธิจิตกัน เล่นกำลังจิต แต่ดินแดนแห่งนี้เขาเล่นผีกัน นับถือผีอยู่ก่อน ถือว่าผีเป็นเจ้า ผีเป็นนาย ทำอะไรก็ต้องเชื่อผี เพราะว่ากำลังใจของคนพวกนี้ยอมรับนับถือผีมาเป็นตัวอย่าง
    เมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์เสด็จ ก็เอาผีพวกนั้นแสดงตัวให้ปรากฏ สมเด็จพระบรมสุคต ให้บุคคลทั้งหลายเห็นว่า ผีที่เขาบูชานั้นเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา เห็นกันอย่างคนเห็นคน และเมื่อผีทั้งหลายเหล่านั้นเห็นพระพุทธเจ้าเข้าก็มากราบพระพุทธเจ้า และก็แสดงอาการยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า อันนี้เองเป็นเหตุให้เกิดความเลื่อมใส เกิดกำลังใจของบุคคลผู้ได้เห็น ฉะนั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเทศน์อะไรลงไปเขารับฟังทันที สมเด็จพระชินสีห์เทศน์จึงมีผล ให้คนได้เป็นพระอริยเจ้า
    [FONT=AngsanaUPC,AngsanaUPC]บรรดาลูกรักทั้งหลาย เรื่องประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่พ่อกล่าวมานี้ ขอลูกอย่าไปยืนยันหรืออย่าไปโต้เถียงกับเขา เพราะเราได้มาจากคนที่ไม่มีเนื้อ ไม่มีหนัง ดีไม่ดีเขาจะหาว่าลูกรักของพ่อทั้งหมดเป็นคนบ้าเป็นคนหลัง จะไม่เกิดประโยชน์ โทษที่จะพึงมีนั่นก็คือความเดือดร้อน เพราะการต่อล้อต่อเถียงซึ่งกันและกัน
    [/FONT] ตอนนี้ผมเชื่อแล้วครับ
     
  15. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    เมื่อรู้ว่าเราถูกหลอกเหมือนเขาเห็นเราเป็นคนโง่...กรณีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่อินเดีย
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p>อ่านกระทู้ข้างล่างนี้</o:p>
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=90494
     
  16. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    อริยวาส อริยวงศ์<O:p</O:p

    <O:p

    เรื่องมีอยู่ว่า สมัยที่ผู้เล่าอยู่กับท่านพระอาจารย์ที่บ้านหนองผือ มีชาวกรุงเทพมหานครไปกราบนมัสการ ถวายทานฟังเทศน์ และได้นำกระดาษห่อธูปมีเครื่องหมายการค้า รูปตราพระพุทธเจ้า (บัดนี้รูปตรานั้นไม่ปรากฏ) ตกหล่นที่บันไดกุฏิท่าน พอได้เวลาผู้เล่าขึ้นไปทำข้อวัตร ปฏิบัติท่านตามปกติ พบเข้าเลยเก็บขึ้นไป พอท่านฯ เหลือบมาเห็น ถามว่า
     
  17. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    พฤติกรรมอ้างคำพูดครูบาอาจารย์ครึ่งๆกลางๆ เพื่อให้คนเข้าใจผิดตามที่ตนเองต้องการ คล้ายพวกนักการเมืองเลวๆ

    ทั้งหลวงปู่หลวงพ่อกล่าวตรงกันว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นมีเชื้อสายเดียวกับคนในสุวรรณภูมิ แต่พระพุทธองค์ตรัสรู้ในอินเดีย

    อย่ามั่วซิคุณ

    ครั้งก่อนหลอกคนไปดูพระศพของพระมหากัสสป แห้วกลับมา เงียบเลียแผลไปพักใหญ่ นึกว่าจะเข็ด ออกมาอาละวาดอีกแล้ว

    ถ้าคุณยังดื้อแอบอ้างคำครูบาอาจารย์ของผู้อื่น มายกทิฐิมานะตนเองอีกก็ต้องคัดค้านประณามกัน

    คุณจะโกหกตอแหล จับแพะชนแกะ สร้างความดังใส่ตัวอย่างไร ก็เรื่องของคุณ

    แต่คุณไม่มีสิทธิแอบอ้างคำพูดของครูบาอาจารย์ ผู้เป็นที่เคารพรักศรัทธาของผู้อื่นมาใช้สร้างเรื่องโกหกตอแหลสนองกิเลสความอยากดังให้ตนเอง

    ถ้ายังดื้อดึงละเมิดสิทธิผู้อื่นต่อไป จาบจ้วงครูบาอาจารย์ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของมหาชน

    ต้องประนามว่าเลวมาก และต้องขอเรียกร้องให้เว็บมาสเตอร์ยกเลิกสมาชิกภาพด้วย
     
  18. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    คุณเอกอิสโรครับ การจะเชื่อว่าพระพุทธศาสนาเกิดในประเทศไทยนั้นไม่ผิดหรอกครับคุณก็หาหลักฐานเพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของคุณไป แต่ผมว่ามันผิดตรงที่มีการนำเอาคำของหลวงปู่ครูบาอาจารย์ต่างมา แล้วนำมาเพียงแค่บางส่วนจะเป็นบาปเป็นกรรมนะครับ อย่างหนังสือรำลึกวันวานที่คุณอ้างนั้น ถ้าอ่านจากเนื้อความเต็มๆ ก็จะทราบได้อย่างชัดเจนครับว่าพระพุทธศาสนานั้นเกิดที่อินเดียแน่นอน..

    อริยวาส อริยวงศ์ (บางส่วนจากหนังสือรำลึกวันวาน)

    เรื่องมีอยู่ว่า สมัยที่ผู้เล่าอยู่กับท่านพระอาจารย์มั่นที่บ้านหนองผือ มีชาวกรุงเทพมหานครไปกราบนมัสการ ถวายทานฟังเทศน์ และได้นำกระดาษห่อธูปมีเครื่องหมายการค้ารูปตราพระพุทธเจ้า (บัดนี้รูปตรานั้นไม่ปรากฏ) ตกหล่นที่บันไดกุฏิท่าน พอได้เวลาผู้เล่าขึ้นไปทำข้อวัตร ปฏิบัติท่านตามปกติ พบเข้าเลยเก็บขึ้นไป พอท่านเหลือบมาเห็น ถามว่า "นั่นอะไร" "รูปพระพุทธเจ้าขอรับกระผม" ท่านกล่าว "ดูสิคนเรานับถือพระพุทธเจ้า แต่เอาพระพุทธเจ้าไปขายกิน ไม่กลัวนรกนะ" แล้วท่านก็ยื่นให้ผู้เล่า บอกว่า "ให้บรรจุเสีย"
    ผู้เล่าเอามาพิจารณาอยู่ เพราะไม่เข้าใจคำว่า "บรรจุ" จับพิจารณาดูพระพักตร์เหมือนแขกอินเดีย ผู้เล่าอยู่กับท่านองค์เดียว ท่านวันยังไม่ขึ้นมา ท่านพูดซ้ำอีกว่า "บรรจุเสีย" "ทำอย่างไรขอรับกระผม" "ไหนเอามาซิ" ยื่นถวายท่าน ท่านจับไม้ขีดไฟมาทำการเผาเสีย และพูดต่อว่า "หนังสือธรรมะสวดมนต์ที่ตกหล่นขาดวิ่นใช้ไม่ได้แล้ว ก็ให้รีบบรรจุเสีย กลัวคนไปเหยียบย่ำ จะเป็นบาป"
    ผู้เล่าเลยพูดไปว่า "พระพุทธเจ้าเป็นแขกอินเดียนะกระผม" ท่านตอบ "หือ คนไม่มีตาเขียน เอาพระพุทธเจ้าไปเป็นแขกหัวโตได้" ท่านกล่าวต่อไปว่า
    "อันนี้ได้พิจารณาแล้วว่า พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย พระอนุพุทธสาวกในยุคพุทธกาล ตลอดถึงยุคปัจจุบัน ล้วนแต่ไทยทั้งนั้น ชนชาติอื่น แม้แต่สรณคมน์และศีล5 เขาก็ไม่รู้ จะเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร ดูไกลความจริงเอามากๆ เราได้เล่าให้เธอฟังแล้วว่า ชนชาติไทย คือ ชาวมคธ รวมรัฐต่างๆ มีรัฐสักกะ เป็นต้น หนีการล้างเผ่าพันธุ์มาในยุคนั้น และชนชาติพม่า คือ ชาวรัฐโกศล เป็นรัฐใหญ่ รวมทั้งรัฐเล็กๆ จะเป็นวัชชี มัลละ เจติ เป็นต้น ก็ทะลักหนีตายจากผู้ยิ่งใหญ่ด้วยโมหะ อวิชชา มาผสมผสานเป็นมอญ (มัลละ) เป็นชนชาติต่างๆในพม่าในปัจจุบัน"
    "ส่วนรัฐสักกะใกล้กับรัฐมคธ ก็รวมกันอพยพมาสุวรรณภูมิ ตามสายญาติที่เดินทางมาแสวงโชคล่วงหน้าก่อนแล้ว" ผู้เล่าเลยพูดขึ้นว่า "ปัจจุบัน พอจะแยกชนชาติในไทยได้ไหม ขอรับกระผม" "ไม่รู้สิ อาจเป็นชาวเชียงใหม่ ชาวเชียงตุงในพม่าก็ได้" ขณะนั้นท่านวันขึ้นไปพอดี ตอนท้ายก่อนจบ ท่านเลยสรุปว่า "อันนี้(หมายถึงตัวท่าน)ได้พิจารณาแล้ว ทั้งรู้ทั้งเห็นโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น"
    ผู้เล่าพูดอีกว่า "แขกอินเดียทุกวันนี้คือพวกไหน ขอรับกระผม" ท่านบอก "พวกอิสลามที่มาไล่ฆ่าเราน่ะสิ" "ถ้าเช่นนั้นศาสน์พราหมณ์ ฮินดู เจ้าแม่กาลี การลอยบาปแม่น้ำคงคา ทำไมจึงยังมีอยู่ รวมทั้งภาษาสันสกฤตด้วย" "อันนั้นเป็นของเก่า เขาเห็นว่าดี บางพวกก็ยอมรับเอาไปสืบต่อๆกันมาจนปัจจุบัน ส่วนพวกเรา พระพุทธเจ้าสอนให้ละทิ้งหมดแล้ว เราหนีมาอยู่ทางนี้ พระพุทธเจ้าสอนอย่างไรก็ทำตาม"
    ท่านยังพูดคำแรงๆว่า "คุณตาบอดตาจาวหรือ เมืองเรา วัดวา ศาสนา พระสงฆ์ สามเณร เต็มบ้านเต็มเมืองไม่เห็นหรือ" (ตาบอดตาจาว เป็นคำที่ท่านจะกล่าวเฉพาะกับผู้เล่า) "แขกอินเดียเขามีเหมือนเมืองไทยไหม ไม่มี มีแต่จะทำลาย โชคดีที่อังกฤษมาปกครอง เขาออกกฎหมายห้ามทำลายโบราณวัตถุ โบราณสถาน แต่ก็เหลือน้อยเต็มที ไม่มีร่องรอยให้เราเห็น อย่าว่าแต่พระพุทธเจ้าเลย ตัวเธอเองนั่นแหละ ถ้าได้ไปเห็นสภาพความเป็นอยู่ของชาวอินเดีย จ้างเธอก็ไม่ไปเกิด"
    "ของเหล่านี้นั้น ต้องไปตามวาสตามวงศ์ตระกูล อย่างเช่น วงศ์พระพุทธศาสนาของเรานั้น เป็นอริยวาส อริยวงศ์ อริยตระกูล เป็นวงศ์ที่พระพุทธเจ้าจะมาอุบัติ คุณแปลธรรมบทมาแล้ว คำว่า ปุคฺคลฺโล ปุริสาธญฺโญ ลองแปลดูซิว่า พระพุทธจะเกิดในมัชฌิมประเทศ หรืออะไรที่ไหนก็แล้วแต่ จะเป็นที่อินเดีย หรือที่ไหนก็ตาม ทุกแห่งตกอยู่ในห้วงแห่งสังสารวัฏฏ์ ถึงวันนั้นพวกเราอาจจะไปอยู่อินเดียก็ได้"
    "พระพุทธเจ้าทรงวางพุทธศาสนาไว้ จะเป็นระหว่างพุทธันดรก็ดี สุญญกัปปก็ดี ที่ไม่มีพระพุทธศาสนา แต่ชนชาติที่ได้เป็นอริยวาส อริยวงศ์ อริยประเพณี อริยนิสัย ก็ยังสืบต่อไปอยู่ ถึงจะขาด ก็ขาดแต่ผู้ได้สำเร็จมรรคผลเท่านั้น เพราะว่าจากบรมครู ต้องรอบรมครูมาตรัสรู้ จึงว่ากันใหม่"
    ผู้เล่าได้ฟังมาด้วยประการฉะนี้แล
     
  19. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ความเป็นมาของชาวไทย (บางส่วนจากหนังสือรำลึกวันวาน)

    พระปฐมเจดีย์เป็นเจติยสถานที่ตั้งอยู่ในประเทศสุวรรณภูมิ ที่เรียกว่า "แหลมทอง" คือประเทศไทยในปัจจุบัน
    ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า เมื่อครั้งมีการทำสังคายนาครั้งที่3นั้น พิเศษคือ มีพระมหากษัตริย์ทรงพระปรีชาสามารถอันกว้างไกล เห็นว่า พระพุทธศาสนามารวมเป็นกระจุกอยู่ที่ชมพูทวีป หากมีอันเป็นไปจากเภทภัยต่างๆ พระพุทธศาสนาอาจสูญสิ้นก็ได้ จึงมีพระประสงค์จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ สำหรับพระสงฆ์สายต่างๆ ผู้เล่าจะไม่นำมากล่าว จะกล่าวเฉพาะที่มายังสุวรรณภูมิประเทศ ตามที่ท่านพระอาจารย์เล่าให้ฟัง
    ท่านที่เป็นหัวหน้ามาสุวรรณภูมิคราวนั้น ตามประวัติศาสตร์ที่ได้จารึกไว้ คือ ท่านพระโสณะ และท่านพระอุตตระ
    การส่งพระสงฆ์ไปประกาศพุทธศาสนาคราวสังคายนาครั้งที่3นั้น อย่าเข้าใจว่า จัดแจงบริขารลงในบาตรและย่าม ครองผ้าเสร็จก็ออกเดินทางได้ ต้องมีการจัดการเป็นคณะมากพอสมควร รวมทั้งพระสหจร และสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ด้วยเป็นกระบวนใหญ่ การเดินทางรอนแรมระยะไกลไปต่างประเทศ พระสงฆ์ผู้เป็นหัวหน้า และสหจร ท่านคงมีสายญาติ และญาติโยมผู้เคารพนับถือตามไปด้วย คงไม่ปล่อยให้ท่านเหล่านั้น เดินทางไปลำบาก ต้องมีคณะติดตามเพื่อจะได้คอยช่วยเหลือหุงหาเสบียงอาหารในระหว่างเดินทาง อีกอย่างหนึ่ง หากพบภูมิประเทศที่เหมาะสม ก็ตั้งถิ่นฐานแสวงโชคอยู่ที่สุวรรณภูมิประเทศได้ จึงได้พากันมาเป็นกระบวนใหญ่
    ชนชาติเจ้าของถิ่นเดิม ที่อาศัยอยู่ในสุวรรณภูมิประเทศมีอยู่แล้ว แต่คงไม่มาก หากมีอันตรายจาก สัตว์ร้าย และเภทภัยต่างๆมาย่ำยีเบียดเบียน การป้องกันก็ลำบาก เพราะกำลังไม่พอ นครปฐมคงเป็นที่รวมชุมชน กระบวนการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และนักแสวงโชคจากชมพูทวีป คงเอาที่นั้นเป็นจุดเริ่มต้น ชาวสุวรรณภูมิก็คงได้ยินกิตติศัพท์เช่นกัน จึงต้อนรับด้วยความยินดี
    การเผยแผ่พระพุทธศาสนาก็ดี การแสวงโชคของญาติโยมที่ตามมาก็ดี ได้รับการสนับสนุนด้วยดี ประกอบกับผืนแผ่นดินก็กว้างใหญ่ไพศาลอุดมสมบูรณ์ ชาวประชาถิ่นเดิมก็ยอมรับนับถือพระรัตนตรัย และศีล5 มีการสร้างวัดถวาย คงเป็นวัดพระปฐมเจดีย์เดี๋ยวนี้ ส่วนนักแสวงโชคก็คงประกอบสัมมาอาชีพไปตามความสามารถ และปฏิบัติพระสงฆ์ไปด้วยพร้อมๆกัน นี้คือชนชาวชมพูทวีปที่ได้เข้ามาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก
    นักแสวงโชคเหล่านั้น เมื่อประสบโชคแล้ว แทนที่จะหยุดอยู่แค่นั้น ก็นึกถึงญาติๆทางชมพูทวีป กลับไปบอกข่าวสารแก่ญาติๆ จึงมีการอพยพย้ายถิ่นฐานตามกันมาอีก
    ลุศักราชประมาณ 500 ถึง 900 ปี หลังพุทธปรินิพพาน อาเพศเหตุร้ายก็เริ่มเกิดขึ้น เนื่องจากชนชาติชาวเปอร์เซีย ในปัจจุบัน คือ แถบตะวันออกกลาง เกิดมีลัทธิอย่างหนึ่งขึ้นมา ในปัจจุบันคือ ศาสนาอิสลาม ได้จัดขบวนทัพอันเกรียงไกร รุกรานเข้าสู่ชมพูทวีป คือ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน อินเดียสมัยนั้น มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่งอาศัยของชาวชมพูทวีปทั้ง7รัฐ รวมทั้งชาวศากยวงศ์ของพระองค์ อยู่ด้วยกันฉันท์พี่น้อง การเตรียมรบจึงไม่เพียงพอ เมื่อกองทัพอันเกรียงไกรยกเข้ามา การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบสิ้นชาติก็เกิดขึ้น การหนีตายอย่างทุลักทุเลของรัฐเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร มหาวิทยาลัยนาลันทาเอย พระเวฬุวันเอย พระเชตวันเอย บุพพารามเอย รวมทั้งพระสงฆ์เป็นหมื่นๆ ประวัติศาสตร์ก็ได้จารึกไว้แล้ว ตายเป็นเบือราบเรียบเป็นหน้ากลอง
    ชาวรัฐโกศลและรัฐเล็กรัฐน้อย เช่น ลิจฉวี มัลละ ก็ทะลักเข้าสู่ดินแดนชเวดากอง คือ พม่า มอญ ไทยใหญ่ ในปัจจุบัน ชาวมคธรัฐ มีเมืองราชคฤห์เป็นราชธานี ก็หนีตามสายญาติที่เดินทางมาก่อนแล้ว มุ่งสู่สุวรรณภูมิ รวมทั้งรัฐเล็กรัฐน้อย มีรัฐสักกะ โกลิยะ และอื่นๆก็ติดตามมาด้วย แยกเป็นสองสาย สายหนึ่งไปทางโยนกประเทศ คือ รัฐฉาน ปัจจุบันอยู่ในพม่า และเลยไปถึงมณฑลยูนนานของประเทศจีน
    รัฐใหญ่ในครั้งพุทธกาล คือ รัฐมคธ เป็นไทยในปัจจุบัน รัฐโกศล คือ พม่า(เมียนมาร์ในปัจจุบัน) ท่านพระอาจารย์เล่าว่า พม่าและไทย พระพุทธเจ้าทรงโปรดและตรัสสอนเป็นพิเศษ สองประเทศนี้จึงมีพระพุทธศาสนาที่มั่นคงมายาวนาน และจะยาวนานต่อไป แต่พม่าเป็นเมืองเศรษฐีอุปถัมภ์ สมัยเป็นชาวโกศล ก็มีคหบดี คือ ท่านอนาถบิณฑิกะและนางวิสาขาเป็นผู้อุปถัมภ์ แต่ไทยมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก พิเศษกว่าพม่า
    ชาวพม่ามีอุปนิสัยทุกอย่าง โดยเฉพาะความซื่อสัตย์ เหมือนคนไทย เป็นมิตรคู่รักคู่แค้น จะฆ่ากันก็ไม่ได้ จะรักกันก็ไม่ลง ท่านว่าอย่างนี้ สมัยพุทธกาล รัฐมคธมีปัญหาอะไรก็ช่วยกัน บางคราวก็รบกัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ มาเป็นไทยเป็นพม่า ก็รบกัน ประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้แล้ว
    ส่วนพระปฐมเจดีย์นั้น ผู้เล่ากราบเรียนถามท่านพระอาจารย์ ท่านตอบว่า คงจะสร้างเป็นอนุสรณ์การนำพระพุทธศาสนามาสู่สุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก ฟังแต่ชื่อก็แล้วกัน ปฐมก็คือที่หนึ่ง คือ พระเจดีย์องค์แรก ท่านกล่าวต่อไปว่า คงบรรจุพระธาตุพระอรหันต์รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุด้วย เมื่อมีการบูรณะแต่ละครั้ง ผู้จารึกเรื่องราว มักบันทึกเป็นปัจจุบันเสีย ประวัติศาสตร์เบื้องต้นจึงไม่ติดต่อ ขาดเป็นขั้นเป็นตอนว่า คนนั้นสร้างบ้าง คนนี้สร้างบ้าง แล้วแต่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น
    คำพูดแต่ละยุค มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสมัย ย้อนถอยหลังกลับไป คำว่า ประเทศพม่า คนไทยจะไม่รู้จัก รู้จักพม่าว่า เมืองมัณฑะเลย์หรือหงสาวดี และคนพม่าก็จะไม่รู้จักคำว่า ประเทศไทย จะรู้จักไทยว่า เมืองอโยธยา เรื่องราวเหล่านี้ ผู้เล่าได้ฟังมาจากท่านพระอาจารย์มั่น และพระอาจารย์ชอบ
    ต่อไปจะได้เล่าเรื่องชนชาวไทย ชนชาวลาว
    ท่านพระอาจารย์เล่าว่า ชาวลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ก็คือชาวนครราชคฤห์ หรือรัฐมคธ เช่นเดียวกับชาวไทย ไทยและลาวจึงเป็นเชื้อชาติเดียวกัน แต่หนีตายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาคนละสาย ลาวเข้าสู่แดนจีน จีนจึงเรียกว่า พวกฮวน คือ คนป่าคนเถื่อนที่หนีเข้ามา โดยชาวจีนไม่ยอมรับ จึงมีการขับไล่เกิดขึ้น (ประวัติศาสตร์ไทยเขียนไว้ว่า ไทยมาจากจีน เห็นจะเป็นตอนนี้กระมัง)
    ความจำเป็นเกิดขึ้น จึงมีการต่อสู้แบบจนตรอก ถอยร่นลงมาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ตามสายญาติ คือ ไทย สู่สิบสองจุไทย สิบสองปันนา หนองแส และแคว้นหลวงพระบาง ปัจจุบันก็ยังมีคนไทยตกค้างอยู่
    พอถอยร่นลงมาถึงนครหลวงพระบาง เห็นว่าปลอดภัยแล้ว และภูมิประเทศก็คล้ายกับนครราชคฤห์ จึงได้ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นั่น และอยู่ใกล้ญาติที่สุวรรณภูมิด้วย คือ นครปฐม เป็นพวกที่มาตั้งอยู่ก่อน และพวกที่เข้ามาตอนหนีตายคราวนั้น
    การสร้างบ้านแปลงเมืองเป็นมาโดยราบรื่น โดยให้ชื่อว่า "กรุงศรีสัตตนาคนหุต" (เมืองล้านช้าง) จนถึงพระเจ้าโพธิสารเป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์มีราชโอรส2พระองค์ ชื่อเสียงท่านไม่ได้บอกไว้ พอเจริญวัย พระเจ้าโพธิสารทรงเห็นว่า เมืองปัจจุบันคับแคบ มีภูเขาล้อมรอบ ขยายขอบเขตยาก การเกษตรกรรมทำนาไม่เพียงพอ และเพื่อเป็นการขยายอาณาจักรด้วย จึงส่งราชโอรสองค์ใหญ่ ไปตามลำแม่น้ำโขง มาถึงเวียงจันทน์ จึงได้ตั้งบ้านเรือนขึ้น มีเมืองหลวงชื่อว่า "กรุงจันทบุรีศรีสัตตนาคนหุต"
    ส่วนพระราชโอรสองค์น้อง ได้ไปตามลำน้ำน่าน มาตั้งบ้านเมืองอยู่ที่สุโขทัย โดยมีเมืองหลวง ชื่อว่า "กรุงสุโขทัย" ท่านพระอาจารย์แปลให้ฟังด้วยว่า "สุโขทัย" แปลว่า "ไทยเป็นสุข" เหตุที่อยู่ที่นี้เพราะปัจจัยในการครองชีพเอื้ออำนวย และใกล้ญาติทางนครปฐม ไปมาหาสู่ก็สะดวก ท่านว่าอย่างนี้
    นครปฐมก็มีเมืองหลวง คือ "ทวาราวดีศรีอยุธยา" ที่เรียกว่า ยุคทวาราวดี นั่นเอง เวียงจันทน์จึงเป็นพระเจ้าพี่ สุโขทัยเป็นพระเจ้าน้อง นครปฐม สุโขทัย หลวงพระบาง เวียงจันทน์ ก็คือ ชนชาติชาวราชคฤห์ในครั้งพุทธกาลนั่นเอง
    การอพยพหนีตายคราวนั้น บางพวกลงเรือข้ามทะเล ไปขึ้นฝั่งที่นครศรีธรรมราชก็มี ซึ่งมีพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเป็นสักขีพยานว่า ชาวใต้ทั้งหมดก็เป็นชนชาติรัฐมคธในครั้งพุทธกาล เหมือนกันกับชาวพม่า มอญ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ก็คือ ชาวโกศล ในครั้งพุทธกาลนั้นเอง
     
  20. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
     

แชร์หน้านี้

Loading...