"สุริยวงษ์" : ตะกรุดจักรพรรดิล้านนา ตะกรุดประจำตัว จัดสร้างเสร็จสิ้น ยังมีให้บูชา

ตะกรุดยาว กี่นิ้วครับ

 

น่าจะอยู่ซักประมาณ 7 เซนติเมตรครับ

 

ปโชตามหากถา​

​

จากเอกสารประกอบการสัมมนาทางวิชาการในหัวข้อ “๖๐๐ ปี ติโลกราชากับมิติทางวัฒนาธรรมและประวัติศาสตร์ล้านนาในยุคปัจจุบัน” ที่จัดขึ้นเมื่อ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ณ หอประชุมอาคารรวมวิจัยและบัณฑิตศึกษา สถาบันวิจัยสังคม มช. จัดโดย สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เนื่องในวาระปีแห่งการสมโภช ๖๐๐ ปี ชาตกาลพระเจ้าติโลกราช มหาราชล้านนาลำดับที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงแผ่พระราชอำนาจไปทั่วทุกสารทิศ เป็นช่วงเวลาที่แม้แต่ราชอาณาจักรอยุธยายังต้องยำเกรงในอานุภาพของล้านนา และพระองค์ยังทรงพระญาธัมมิกราชผู้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในเจริญรุ่งเรื่อง จนได้รับสมยานามว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งล้านนา
<O</O
ในเอกสารเล่มนี้มีบทความตอนหนึ่งที่กล่าวถึง พระคาถาปโชตา : มนตราประจำพระองค์ของพระญาติโลกราช เป็นผลงานค้นคว้าจากเอกสารโบราณทั่วล้านนาและเอกสารจากทางสยามประเทศที่เกี่ยวข้องกับคาถาปโชตา โดย พระจตุพล จิตฺตสํวโร วัดบอกค้าง และ พระสุภชัย ชยสุโภ วัดสวนดอก(พระอารามหลวง)

โดยมีข้อมูลย่อๆดังนี้...

ความเป็นมาของคาถาปโชตา ในเอกสารโบราณล้านนา

ข้อมูลของคาถาปโชตาได้กระจัดกระจายอยู่ในเอกสารล้านนาหลายฉบับและมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ทั้งบทสวดที่เป็นบาลีและตัวเมือง บางฉบับบอกถึงประวัติ บ้างแสดงเป็นนิสัยแปลบาลียกศัพท์ มีกลบทที่ผูกเป็นเรือนยันต์ บ้างก็นำไปประยุกต์ใช้กับงานพุทธศิลป์และศิลปกรรมเช่น ก่อพระเจ้า(สร้างพระพุทธรูป) ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ยันต์โขงชาตา(ยันต์ผูกดวง) เป็นต้น

จากเอกสารล้านนา พับขนานอริยวงศ์ วัดหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นเอกสารหลักในการใช้ศึกษา มีใจความสอดคล้องกับเอกสารฉบับอื่นๆและฉบับธัมม์ใบลานของ "ครูบาจีนาเมืองหอด" (ลูกศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิไชย) มีข้อความหลักทับซ้อนกันทุกประการ แตกต่างเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น ปริวรรตและย่อความได้ว่า...

"จุทฺทสมคาถา ๑๔ บทนี้เกิดใน เมืองลังกา อรหันตาเจ้าในเมืองลังกาผูกขึ้นเมื่อ พุทธศาสนาล่วงมาแล้ว ๒๑๘ ปี ถวายแด่พระญาสัทธาติสสะ(น่าจะเป็นพระเจ้าเทวานัมปิยดิษ มากกว่าเพราะศาสนารุ่งเรืองมาก มีประวัติอยู่ใน มูลศาสนาสำนานล้านนา และสอดคล้องกับ ตำราพระเวทพิศดาร ภาค๑ ของทางภาคกลางอีกด้วย) เพื่อเอาไว้จำเริญนมัสการพระพุทธเจ้า และพระญาสัทธาติสสะก็นำเอามานมัสการจำเริญเช่นกัน ทำให้บ้านเมืองสงบสุขจำเริญด้วยยัสสะสัมปัตติยิ่งนัก เมื่อจุลศกราชได้ ๘๐๐ กว่า เชยยมังคละเถร ไปนมัสการพระเขี้ยวแก้วที่ลังกาแล้วเรียนสืบมา เมื่อกลับมาจำพรรษาที่พระธาตุหริภุญเชยย์ ก็เปนผู้อุปัฏฐากพระธาตุเจ้าหริภุญเชยย์ ได้ถวายพระคาถานี้ให้พระเจ้าติโลกราชได้จำเริญสวาดธิยายไหว้พระประจำเนืองนิจ พระองค์ก็จำเริญในสิริราชสมบัติยั่งยืนนาน อายุก็ยืนหาพยาธิโรคามิได้ ทั้งยังมีชัยเหนืออริราชศัตรูทั้งปวง และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในล้านนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แม้นเสนาอามาตย์ เจ้าขุน ผู้น้อย ผู้ใหญ่ ไหร่ราษฎร์ทั้งมวล หากจำเริญยังพระคาถา ๑๔ บทนี้ ก็จักบริบูรณ์ด้วยเข้าของสมบัติ ยศ สิริ เดช อายุ วัณณะ สุขะ พละ ทุกประการ อีกทั้งสมณเพศ มีชีป่ามหานาคเจ้า หากสร้างเป็นยันต์ไว้กับตนก็หากวุฒิจำเริญด้วยสิกข์โยมคุรุอุปัฏฐากมากนัก"

ในตอนท้ายยังได้กล่าวถึง มหาป่าเจ้าปัญญาวชิรอรัญญวาสี เป็นผู้แปลออกมาจากพระบาลีที่ปรากฎในคัมภีร์ใบลานเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่คฤหัสถ์และนักบวชทั้งหลาย มหาป่าเจ้าองค์นี้ในมีหลักฐานปรากฎใน ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ว่า "...อยู่มาเถิงสักกราชได้ ๑๑๖๘ ตัว(พ.ศ.๒๓๔๙)เปนวันพระญาวัน ได้หดหล่อน้ำมุทธาราชภิเสกยังสวาธุเจ้าปัญญาวชิระมหาป่าเจ้าขึ้นเปนสมเด็จเสฏฐอัคควรราชเปนสังฆนายกะ..." คือได้รับการแต่งตั้งเป็นสังฆราชาราชครูหลวงเมืองเชียงใหม่...

จากประวัติความเป็นมาของคาถาปโชตา จะเห็นได้ว่าคาถานี้เป็นที่เคารพนับถือและเกี่ยวข้องกับบุคคลทุกชนชั้น ตั้งแต่พระญามหากษัตริย์ พระสังฆราช ขุนนาง สมณชีพราหมณ์ ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ต่างจำเริญพระคาถานี้ ปโชตา จึงไม่เพียงเป็นแค่คาถาโบราณที่หายไป แต่กลับเป็นมหาคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งที่ควรนำมาเผยแพร่ให้ประจักษ์อีกครั้งหนึ่ง<!-- google_ad_section_end -->

 

จองเนื้อ ตะกั่ว 5 ดอกครับ

 

รับทราบครับผม

 

ตอนนี้มียอดเนื้อเงินอยู่ประมาณ 10 ดอกครับ

 

ขอจองเนื้อเงิน 1 ดอกครับ

 

รับทราบครับ มีแนวโน้มได้สร้างละครับ

 

พระขุนแผนเกศาครูบากฤษดา

​

เนื้อผงพุทธคุณ ผสมเส้นเกศา องค์นี้เห็นเกศาลอยเด่นชัด ฝังพลอยเขียวเหนี่ยวทรัพย์ทั้งหน้าและหลัง พร้อมจารหมึกด้านหลัง มาพร้อมเลี่ยมกันน้ำพร้อมขึ้นขออย่างดี องค์นี้ได้มาแล้วขอครูบาท่านเสกให้แล้วเสกให้อีกนับสิบครั้งได้

ปิดรายการ

ฟรีค่าจัดส่ง โอนไวส่งไวครับ

 

ล็อกเก็ตเมตตา ครูบากฤษดา-พระอุปคุต

​

ล็อกเก็ตรุ่นเมตตา สร้างในวาระถวายพระอุโบสถวันสันพระเจ้าแดงที่ครูบาท่านได้บูรณะก่อสร้างขึ้น ฉากสีฟ้า ด้านหลังปิดแผ่นโลหะรูปพระมหาอุปคุต ซึ่งหลวงปู่พิศดูกล่าวรับรองว่า ท่านและครูบาสายเดียวกัน คือสายพระอุปคุต ท่านจึงสร้างพระอุปคุตได้ขลังสุดๆ ด้านในบรรจุผงวิเศษและเส้นเกศาของครูบาท่าน พุทธคุณเมตตาสมดังชื่อรุ่น พลังจิตแห่งครูบาท่านเข้มขลังพลังสูงจริงๆ ล็อกเก็ตจารพิเศษด้านหลัง เลี่ยมกันน้ำพร้อมขึ้นคอ ขอครูบาเสกแล้วเสกอีกนับสิบๆครั้งได้

แบ่งบูชา 1,550 บาท

ฟรีค่าจัดส่ง โอนไวส่งไวครับ

 

จองตะกรุดประจำตัว "จักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา" เนื้อเงิน 1 ดอกครับ

 

พระกำแพงซุ้มกอ ครูบากฤษดา

​

ครูบาท่านจัดสร้างขึ้นไล่เรี่ยกับการสร้างพระสะหลีเวียงแก้ว จากกระเบื้องหลังคาโบสถ์หลังเดิม เนื้อจึงออกคล้ายดินดิบ เนื้อขาวเนียนละเอียด ด้านหลังจารสดด้วยยันต์เฑาะว์ ที่หลวงปู่ทิม อิสริโก บอกว่าเป็นยอดยันต์แห่งพระไตรปิฎก

แบ่งบูชา 1,050 บาท

ฟรีค่าจัดส่ง โอนไวส่งไวครับ

 

พระสะหรี๋เวียงแก้ว(มงคลนิพพาน) พระผงของครูบากฤษดาที่ต้องแนะนำ

​

พระสะหรี๋เวียงแก้วของครูบากฤษดา ท่านสร้างไว้ เมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ โดยท่านปลุกเสกมาโดยตลอด จำนวนการสร้าง 399 องค์ มีผงวิเศษและเส้นเกสาครูบากฤษดาผสมอยู่ครับ มีเรื่องเล่าว่า. ครูบาท่านเสกพระชุดนี้ในนิมิตรเห็นเป็นแก้วผลึกใสเหมือนเพชรไปหมดทั่วองค์พระ. แล้วท่านก็มักจะพูดว่าไม่แน่น่ะพระผงชุดนี้ ต่อไปคงมีผลึกแก้วเกิดขึ้นก็ได้น่ะใครจะประมาทเชียวน่ะ เป็นวิมานแก้วเลยน่ะ องค์นี้ติดนำไปกราบครูบาขอท่านเสกแล้วเสกเล่านับสิบๆครั้ง เพิ่มพลังบารมีแห่งองค์พระครับ

แบ่งบูชา 1,850 บาท

ฟรีค่าจัดส่ง โอนไวส่งไวครับ

 

จองเนื้อเงิน1ดอกครับ

 

รับทราบทั้งสองท่านครับ

 

ผมขอยกเลิกการเนื้อเงินนะครับ ยังคงเหลือเฉพาะเนื้อตะกั่ว 1 ดอกครับ
ขออภัยด้วยครับ

 

ต้องขอโทษด้วยครับ ขอยกเลิกการจองครับ

 

ปโชตามหากถา​

​

จากเอกสารประกอบการสัมมนาทางวิชาการในหัวข้อ “๖๐๐ ปี ติโลกราชากับมิติทางวัฒนาธรรมและประวัติศาสตร์ล้านนาในยุคปัจจุบัน” ที่จัดขึ้นเมื่อ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ณ หอประชุมอาคารรวมวิจัยและบัณฑิตศึกษา สถาบันวิจัยสังคม มช. จัดโดย สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เนื่องในวาระปีแห่งการสมโภช ๖๐๐ ปี ชาตกาลพระเจ้าติโลกราช มหาราชล้านนาลำดับที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงแผ่พระราชอำนาจไปทั่วทุกสารทิศ เป็นช่วงเวลาที่แม้แต่ราชอาณาจักรอยุธยายังต้องยำเกรงในอานุภาพของล้านนา และพระองค์ยังทรงพระญาธัมมิกราชผู้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในเจริญรุ่งเรื่อง จนได้รับสมยานามว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งล้านนา
<O</O
ในเอกสารเล่มนี้มีบทความตอนหนึ่งที่กล่าวถึง พระคาถาปโชตา : มนตราประจำพระองค์ของพระญาติโลกราช เป็นผลงานค้นคว้าจากเอกสารโบราณทั่วล้านนาและเอกสารจากทางสยามประเทศที่เกี่ยวข้องกับคาถาปโชตา โดย พระจตุพล จิตฺตสํวโร วัดบอกค้าง และ พระสุภชัย ชยสุโภ วัดสวนดอก(พระอารามหลวง)

โดยมีข้อมูลย่อๆดังนี้...

ความเป็นมาของคาถาปโชตา ในเอกสารโบราณล้านนา

ข้อมูลของคาถาปโชตาได้กระจัดกระจายอยู่ในเอกสารล้านนาหลายฉบับและมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ทั้งบทสวดที่เป็นบาลีและตัวเมือง บางฉบับบอกถึงประวัติ บ้างแสดงเป็นนิสัยแปลบาลียกศัพท์ มีกลบทที่ผูกเป็นเรือนยันต์ บ้างก็นำไปประยุกต์ใช้กับงานพุทธศิลป์และศิลปกรรมเช่น ก่อพระเจ้า(สร้างพระพุทธรูป) ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ยันต์โขงชาตา(ยันต์ผูกดวง) เป็นต้น

จากเอกสารล้านนา พับขนานอริยวงศ์ วัดหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นเอกสารหลักในการใช้ศึกษา มีใจความสอดคล้องกับเอกสารฉบับอื่นๆและฉบับธัมม์ใบลานของ "ครูบาจีนาเมืองหอด" (ลูกศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิไชย) มีข้อความหลักทับซ้อนกันทุกประการ แตกต่างเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น ปริวรรตและย่อความได้ว่า...

"จุทฺทสมคาถา ๑๔ บทนี้เกิดใน เมืองลังกา อรหันตาเจ้าในเมืองลังกาผูกขึ้นเมื่อ พุทธศาสนาล่วงมาแล้ว ๒๑๘ ปี ถวายแด่พระญาสัทธาติสสะ(น่าจะเป็นพระเจ้าเทวานัมปิยดิษ มากกว่าเพราะศาสนารุ่งเรืองมาก มีประวัติอยู่ใน มูลศาสนาสำนานล้านนา และสอดคล้องกับ ตำราพระเวทพิศดาร ภาค๑ ของทางภาคกลางอีกด้วย) เพื่อเอาไว้จำเริญนมัสการพระพุทธเจ้า และพระญาสัทธาติสสะก็นำเอามานมัสการจำเริญเช่นกัน ทำให้บ้านเมืองสงบสุขจำเริญด้วยยัสสะสัมปัตติยิ่งนัก เมื่อจุลศกราชได้ ๘๐๐ กว่า เชยยมังคละเถร ไปนมัสการพระเขี้ยวแก้วที่ลังกาแล้วเรียนสืบมา เมื่อกลับมาจำพรรษาที่พระธาตุหริภุญเชยย์ ก็เปนผู้อุปัฏฐากพระธาตุเจ้าหริภุญเชยย์ ได้ถวายพระคาถานี้ให้พระเจ้าติโลกราชได้จำเริญสวาดธิยายไหว้พระประจำเนืองนิจ พระองค์ก็จำเริญในสิริราชสมบัติยั่งยืนนาน อายุก็ยืนหาพยาธิโรคามิได้ ทั้งยังมีชัยเหนืออริราชศัตรูทั้งปวง และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในล้านนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แม้นเสนาอามาตย์ เจ้าขุน ผู้น้อย ผู้ใหญ่ ไหร่ราษฎร์ทั้งมวล หากจำเริญยังพระคาถา ๑๔ บทนี้ ก็จักบริบูรณ์ด้วยเข้าของสมบัติ ยศ สิริ เดช อายุ วัณณะ สุขะ พละ ทุกประการ อีกทั้งสมณเพศ มีชีป่ามหานาคเจ้า หากสร้างเป็นยันต์ไว้กับตนก็หากวุฒิจำเริญด้วยสิกข์โยมคุรุอุปัฏฐากมากนัก"

ในตอนท้ายยังได้กล่าวถึง มหาป่าเจ้าปัญญาวชิรอรัญญวาสี เป็นผู้แปลออกมาจากพระบาลีที่ปรากฎในคัมภีร์ใบลานเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่คฤหัสถ์และนักบวชทั้งหลาย มหาป่าเจ้าองค์นี้ในมีหลักฐานปรากฎใน ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ว่า "...อยู่มาเถิงสักกราชได้ ๑๑๖๘ ตัว(พ.ศ.๒๓๔๙)เปนวันพระญาวัน ได้หดหล่อน้ำมุทธาราชภิเสกยังสวาธุเจ้าปัญญาวชิระมหาป่าเจ้าขึ้นเปนสมเด็จเสฏฐอัคควรราชเปนสังฆนายกะ..." คือได้รับการแต่งตั้งเป็นสังฆราชาราชครูหลวงเมืองเชียงใหม่...

จากประวัติความเป็นมาของคาถาปโชตา จะเห็นได้ว่าคาถานี้เป็นที่เคารพนับถือและเกี่ยวข้องกับบุคคลทุกชนชั้น ตั้งแต่พระญามหากษัตริย์ พระสังฆราช ขุนนาง สมณชีพราหมณ์ ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ต่างจำเริญพระคาถานี้ ปโชตา จึงไม่เพียงเป็นแค่คาถาโบราณที่หายไป แต่กลับเป็นมหาคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งที่ควรนำมาเผยแพร่ให้ประจักษ์อีกครั้งหนึ่ง<!-- google_ad_section_end -->

 

พระคาถาปโชตา กับ พระสังฆนายกมหาเถรล้านนา

พระคาถาปโชตา มีความเป็นมาสืบเนื่องเกี่ยวพันกับพระมหาเถระองค์สำคัญ ๓ รูป ของ ๒ นิกายหลักของล้านนา คือ ป่าแดงและสวนดอกในราชวงศ์มังราย และราชวงศ์กาวิละ พระมหาเถระสังฆนายกทั้ง ๓ องค์ คือ

๑.พระเชยยมังคละเถร นิกายป่าแดง ผู้อุปัฏฐากมหาธาตุเจ้าหริภุญไชย เป็นผู้เรียนมาจากลังกานำมาสอนให้แก่พระเจ้าติโลกราช มหาเถรองค์นี้ได้ไปเรียนคาถา ๑๔ บทนี้ เมื่อครั้งไปนมัสการพระเขี้ยวแก้วลังกา ซึ่งอ้างว่าเป็นคาถาที่พระเจ้าสัทธาติสสะกษัตริย์ลังกานับถือมาก(น่าจะเป็น พระเจ้าเทวานัมปิยดิษ)
<O</O
๒.มหินทเถร หรือ มหินททิจโจ สังฆนายกอันดับ ๔ ของนิกายสวนดอก ในสมัยพระเจ้าติโลกราช ท่านได้เป็นพระอุปัชฌาย์ขนานเหนือ คู่กับมหาญาณสาครซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ขนานใต้ และเป็นนทีสีมาฝ่ายสวนดอก มหินทเถรนี้มีศักดิ์หลานพระญาแก่นเท้า เจ้าเมืองน่าน ท่านได้นำเอาพระคาถาปโชตามาผูกเป็นยันต์ ใช้ในการประกอบการสร้างพระพุทธรูป รวบรวมตำราลักขณะก่อพระเจ้า สืบเรียนมาจากสมเด็จเจ้าเมืองพุกาม เป็นตำราการสร้างพระพุทธรูปที่ได้รับความนิยมมากในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์เชียงใหม่
<O</O
๓.มหาป่าเจ้าปัญญาวชิระ ในยุคเจ้าหลวงกาวิละ ราชครูสวนดอกมหาป่าเจ้าปัญญาวชิระ ได้นำคาถาปโชตากลับมาเผยแพร่ให้ได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตำราต่างๆ ที่ท่านรวบรวมไว้นิยมเรียกว่า “ฉบับราชครูหลวงสวนดอก หรือ ราชครูสวนดอกเก้าตื้อ”
<O</O
จึงเห็นได้ว่าพระคาถาปโชตา เป็นคาถาที่พระสังฆนายกะล้านนาทั้ง ๒ นิกายให้ความเคารพนับถือและสืบทอดกันมาตามลำดับ<O</O

 

ความสำคัญและพุทธคุณของปโชตา
<O</O
ปโชตา บางฉบับได้แสดงเรือนยันต์ทั้ง ๑๔ บท พร้อมทั้งคำอธิบายที่ผูกไว้เป็นภาษาบาลีบางบท พร้อมทั้งบอกชื่อกลบทที่ใช้ในการลงยันต์และระบุชื่อบุคคลสำคัญทั้งทางพุทธจักรและอาณาจักร นำยันต์แต่ละบทไว้สักการบูชานับถือครอบครอง(ทือ)เป็นยันต์ประจำตนด้วย พร้อมกันนี้ ผมได้นำบทสวด จุททสมคาถา(ปโชตา)ทั้ง ๑๔ บทในสำนวนบาลีที่ปรากฎใน พับสาสัททาพินทุหลวง ของครูบาเตชะ วัดหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน มานำเสนอประกอบกันเพื่อความเข้าใจ และผู้ที่สนใจอยากนำไปท่องสวดสาธยายต่อไป สามารถจำแนกได้ดังนี้

๑.ชื่อ อทฺธราม ปถมคาถา
ปโชตา ธมฺมภา โหตุ โชติวโร สตาวโห
ตาวริโย สุวตาภา ธโร โยโค จ สุ สมฺมา<O</O
สังฆราชาพระสิงกุกาม มหานันทารามะชาวใต้ ทือ(ครอบครอง) ค้ำชู ยส สรี สัมปัตติข้าวของแล ฯ


๒.ชื่อ สพฺพโตภทฺร ทุติยคาถา
โภโนชิโย โยชิโนโภ โนปาตุโส โสตุปาโน
ชิตุโนม มโนตุชิ โยโสนภิ ภิมโสโย<O</O
มหาพูกาม มหาสีเกียร ทือ ค้ำชู ยส สรี สัมปัตติข้าวของดั่งปฐมะคาถาแล ฯ


๓.ชื่อ อฏฺฐกฺขจกฺก ตติยคาถา
นมามิตํ นรวรํ นเยหิส นรามรํ
เนตฺวา มตํ ปรติรํ นิพฺพุตฺโต สพฺภิโย ปรํ<O</O
มหาธัมมสาเจติยะทือแล ห้ามอุปัทวะอนตรายทั้งมวลแล ฯ


๔.ชื่อ ราสีจกฺก จตฺตุตฺถคาถา
โนธิโร มุนิโน มโน โนมโน ทมโน ธิโน
โนธิ โนตฺถํ คมาโน โนโตมาโร ธิโน อูโน<O</O
ห้ามอุปัทวะ ดั่งตติยคาถาแล ฯ


๕.ชื่อ ปทุมฏล ปญฺจมคาถา
กรุณาธิ กจิตฺตตฺโถ กตาตฺโถ สกธมฺมโท
กตนเม กพุทฺธสฺส กตญฺชุลึ(ลิง) กโรมิหํ<O</O
มหาราชครูป่าแดงแปลงหื้อแสนขนานกอมทือ พระญาแก้วทือ เปนที่รักจำเริญใจแก่ฅนแลเทวตาทั้งหลาย แลจำเริญด้วยข้าวของสัมปัตติทั้งมวลแล ฯ


๖.ชื่อ จตุกฺก ฉฏฺฐมคาถา
มโนชิโต มโตชิโน มโนภิโต มโตภิโน
มโนธิโร มโรธิโน มโรตฺตโน มโนตฺตโร<O</O
ราชโมลีหมื่นทือ แล ท้าวมหาพรหมทือ ไว้ในเวียงกุมกามค็วุฑฒิด้วยเข้าของมากนัก ชนะข้าเสิ้กสัตรู ฅนอันมีใจคดเลี้ยวทั้งมวลแล ฯ


๗.ชื่อ โคมูตฺตวลี สตฺตมคาถา
นมามิ นาถํ วรทํ วราทํ อโนมเกหาภินตํ ภวคฺคํ
กุมารนาสํ วราทํ นรานํ อกามเทหาภินตํ ภชฺชนนฺติ<O</O
มหาสัทธะโพธิแสนกัง มหาสิริมํคลเจติยะทือ แล มหาแสนตมกิวัดมหาเจติยะหลวง เพื่อประจญแพ้(ชนะ)แก่ฅนทั้งหลายผู้มีใจคดเลี้ยว มายาสาไถย บ่ซื่อแก่เราแล ฯ


๘.ชื่อ สกฺขบุพฺพ อฏฺฐมคาถา
โย โพธิปตฺเต วรโท นรานํ เทวาติเทโวภิตมารนาโส
โยคาธิมุตฺโต สรโส มรานํ โอวาทเทตํ ภินมามินาถํ<O</O
มหาสังฆราชาวัดปราสาททือ มหาญาณกุฏีฅำทือ สวาดธิยายมีเตชะมากนัก ปราบแพ้(ชนะ)แก่ฅนทั้งหลายผู้มีใจคดเลี้ยว มายาสาไถย บ่ซื่อแก่เราแล ฯ


๙.ชื่อ นวมคาถา สรีขคฺคเชยฺย
โย เทติเทวเทโวคฺคํ มคฺคํ โนคฺคํผลํตโต
นมามิตํ รหมคฺคํ โนโสปาเลตฺวาปายโต<O</O
สังฆราชาหมื่นพล้าว สังฆราชาเชียงหมั้นทือ ลงดาบสรีกัญไชย เพื่อประจญข้าเสิ้กสัตรูทังมวลแล ฯ


๑๐.ชื่อ อนฺตยมก ทสมคาถา
นมามิพุธฺธํ ตมหํธิโย ธิโย นมามิธมฺมํ ตมหํชิโย ชิโย
นมามิสงฺฆํ ตมหํริโย ริโย นมามิติคฺคํ ตมหํ ภิยฺโย ภิยฺโย<O</O
สรีเชยฺยโตมมํคล สังฆราชาพระสิงหื้อขนานกอมทือแล มหาขนานอาดใต้สังฆราชาหื้อแก่ขนานกอมทือ มันธารุราชทือ ไว้ค้ำชูสรีเตชะหื้อรุ่งเรือง ไพสงครามค็จักชนะข้าเสิ้กสัตรูแล ฯ


๑๑.ชื่อ วํสฐานจกฺก เอกาทสมคาถา
นมามิตํ โย วินายสฺส นายเก นรามเรหิ ภินโต วินายโก
ชิโนริเชยฺโย วิมโล วิโมจโก ปชฺชามพุเชติ พุทฺโธ ปโพธโก<O</O
มหาแสนทอง ปุพพารามทือ หื้อข้าเสิ้กสัตรูมีใจหลิ่งน้อมแล ฯ


๑๒.ชื่อ นาคปาส ทวฺาทสมคาถา
มุนิโน วทนาภาย ปโพเธตุ ปชฺชาปชฺชํ
มุนิโน วทนาภาย ปโพเธตุ ปชฺชาปชฺชํ<O</O
มหาสัทธัมมทัสสีฝ่ายเรา(ป่าแดง)ทือแล รักษาเข้าของสัมปัตติบ่หื้อข้าเสิ้กสัตรูครุบชิงเอาได้ยแล ฯ


๑๓.ชื่อ สรีธชวิชวฑฺฒน เตรสมคาถา
สิริกิรณ กิรโฐ ภาสปาททฺวอคฺคํ สิริกิรณภิมานํ มารมนฺตํ วิธิสตํ
สิริกิรณนิเกตํ เกตุเมกญฺจ ติโลเก สิริกิรณกรคฺคํ โลกนาถํ นมามิหํ<O</O
มหาปุสสเทพพหมื่นสารทือแล วุฒินัก พระญาหลวงแสนตะยาย(เมือง)หังสาทือ ดีนักแล เปนที่รักจำเริญใจแก่ฅนทั้งหลาย แลชนะข้าเสิ้กสัตรู จำเริญด้วย เตชะ ยส ข้าวของสัมปัตติทังมวลแล ฯ


๑๔.ชื่อ สรีวิเชฺชยฺยอาวุทฺธ จุทฺทสมคาถา มหาปุสสเทพพฝ่ายเราทือแล
ติโลกมคฺคาหนโก มตํ นเย สวาสนํ โย ห มลํ ปธํสยิ
ติโลกมคฺคา หนโกมตํ นเย ปเคว นิพฺพานปุรํ ปเวสิเย<O</O
หื้อลงใส่ดาบเถี่ยนอันเปนมังคละ คุณดั่งเตรสมคาถาแล/เปตยมกวํสฐาคาถา บทนี้ มีคุณูปการมากนักแล