สัมมาสมาธิ แตกต่างกับ สมาธิทั่วไปอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 6 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ก็กระซิบ สะกิดบอกลุงนี่แหละ

    ว่าไม่จำเป็นเลย ต้องไปบ้าตามชาวบ้าน

    ไปพองตัวตามที่เห็นมา มันมีแต่อึดอัด หมั่นไส้เขาไปทั่ว

    เห็นสีก็เป็นของร้อน ได้ยินเสียงมันก็ก้องในหัว เป็นแสบหู

    มีช่องพูดทีนึง ก็ออกมาเป็นคำด่าที่จิตหลง ^^
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ปัญญาทึบลงไปทุกวันก็ดีอยู่ไม่ใช่หรือ ยังกินได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ฟุ้งซ่าน เท่านั้นเอง

    ส่วนข้ามันไม่ใช่ศิษย์เทวทัต ปัญญาพอเอาตัวรอด ตัวเบาหวิว นอนหลับสบาย ก็เท่านี้เอง
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็เอ็งจะว่าข้าจิตหลง อึดอัด ด่าเขาไปทั่วก็เรื่องของเอ็งเถอะ ศิษย์เทวทัตจะคิดอย่างไร คิดไปเลย ข้าไม่ได้ห้าม
    แต่ส่วนตัวข้า สบายดี มีธรรมะมาแบบชัดเจน มีสติ ไม่หลง รู้ตัว เท่านี้แหละ ศิษย์พระพุทธองค์ทำได้เท่านี้

    สู้ศิษย์เทวทัตไม่ได้ ต้องรู้ละเอียด ถึงหัวนิ้วโป้งตีนแตะพื้นจนลมภายในนิ้วแผ่กระจาย
    ยากไปข้าทำไม่ได้
     
  4. วันเบาๆ

    วันเบาๆ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +2
    นี่ไง ของจริง ไม่ต้องอธิบายกันมาก
     
  5. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ที่ตัดสิว่านี้คำสอนพุทธองค์ นี้คำสอนเทวทัตนั้น

    เพราะทิฏฐิตน คิดเอง ถูกไหม

    ถามว่า ขณะนั้นพิจารณาหรือยัง หรือเอาอารมณ์ตนตัดสินเข้าว่า นี้ตนถูก อะไรที่ถูกกูเชื่อว่า ทำถูก

    เมื่อก็ถูก คือกูต้องถูก เพราะกูถูก ถูกของกู กูรู้มาอย่างนี้

    แล้วก็ยกกูถูกนี้ไปปะปน พระธรรม

    ทีนี้ใครกล่าวถูก แต่ไม่ถูกกู เพราะกูยังเห็นไม่ถูก ก็ไปปรับเขาว่าเขาไม่ถูก

    แล้วไปปรับเขา เป็นสิ่งไม่ดี เป็นธรรมพระเทวทัต

    ตรรกะแบบนี้ ไม่น่ารักหรอกลุง ^^
     
  6. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ใครเขาไปด่าลุง นี่สำคัญผิดแล้ว

    เห็น เมตตา กรุณา เป็น คำด่า เป็นกงจักรไปได้
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ไม่ได้ใช้ตรรกะเสียด้วสิ ใช้ความรู้สึกล้วนๆเลย ก็กูรู้มาแบบนี้ ก็เอาแบบนี้แหละ
    ก็เห็นแต่ว่า เทวทัต มันชอบอวดเก่งเกินพระพุทธองค์ พระพุทธองค์บอกเท่านี้ เทวทัตจะต้องเอาเท่านั้น

    ส่วนเอ็งจะว่า พระธรรมของข้าผิด ก็ว่าไปสิ ข้าไม่เดือดร้อน ข้าชอบให้เอ็งตำหนิด้วยสิ
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    จะเป็นเมตตา หรืออะไรก็เรื่องของเอ็งเถิด ข้าไม่ว่าอะไรหรอก เพราะข้าปล่อยให้กรรมท่านจัดสรร
    ข้าไม่ไปยุ่งกับ กรรม เพราะท่านเที่ยงธรรม ขนาดเทวทัต ท่านยังเอาจมธรณีได้ เท่านี้ข้าก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรรม แล้ว
     
  9. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    น่าน ใช้ความรู้สึกล้วนๆ ยิ่งหนักเข้าไปอีก

    ก่อนนี้ยังบอกว่า เวทนาส่วนนึง สัญญาส่วนนึง รูปส่วนนึง

    อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนามแยกได้ ถามอะไรตอบได้ เดินรู้ รู้! นั่งรู้ รู้!

    มามาคำตอบนี้ สติ สติไปไหนแล้วลุง

    ปล่อยให้สังขารปรุงแต่ง ยึดอารมณืมาตัดสินชาวบ้าน



    ปัญญาญาณพุทธองค์นั้นแยบคาบ ลุ่มลึกมากนะลุง

    สามารถรู้ดาวบนฟ้า รู้ฝนกลางอากาศ รู้เม็ดทราบบนพื้นได้

    แล้วประสาอะไรกับความเป็นปัจจัยให้เกิดธาตุ รู้เหตุรูปเดิน รูปนอน

    ว่าเกิดแต่ธรรมใด หรือธรรมใดดับ ธรรมใดปรากฏอยู่
     
  10. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ปล่อย หรือ ยึด

    พิจารณาดีๆลุง
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาเถอะน่า รอดูไปเรื่อย เดี๋ยวก็เห็นผลเองแหละ
     
  12. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ก็เห็นลุงดูอยู่เรื่อยๆ ไม่เคยดูเปล่าซะที เป็นต้องออกอาการทุกที ^^
     
  13. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    น้อมนำส่วนหนึ่งพระธรรมเทศนา หลวงพ่อชา สุภัทโท

    ...เช่นว่า ต้นไม้ต้นหนึ่ง อาตมาเคยเทียบให้ฟังว่า มันมีราก มันมีใบ มันอยู่ด้วยรากของมัน นักศึกษาจะต้องรู้ว่ารากมันมีกี่ราก รากน้อยๆ รากฝอยมีกี่ราก ใบมันมีกี่ใบ เขาจึงจะรู้ว่า เขารู้ชัดรู้แจ้งว่าในต้นไม้นั้นมีกี่ราก พระพุทธองค์ท่านเห็นว่า อยากจะรู้อย่างนั้น ท่านว่าเป็นคนโง่ ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นที่จะรู้อย่างนั้น รู้ว่ารากไม้ก็พอแล้ว ใบมันก็พอแล้ว ว่ารากอันเดียวกัน ใบมันเต็มต้นจะไปนับมันได้ไหม ดูใบๆ หนึ่งก็แล้วกัน ก็เป็นใบก็พอแล้ว รู้แล้วว่าใบประดู่ต้นนี้มันมีใบเดียวเช่นนี้ รากประดู่ก็มีรากเดียวเท่านี้เป็นรากของมัน รากอื่นๆ นอกไปก็เหมือนรากนี้ ใบอื่นๆ นอกไปก็เหมือนใบนี้
    คนเรานี้ก็เหมือนกัน ฉันนั้น รู้เราคนเดียวเท่านั้น ก็รู้คนหมดทั้งโลกทั้งจักรวาลนี้ ไม่ต้องไปดูใคร พระพุทธองค์ให้ดูตนเท่านี้แหละ มันก็เห็นตนอันเดียวเท่านี้แหละ ใครๆ ก็เป้นอย่างนี้ ก้อนนี้ก็เป็นอย่างนี้ สามัญลักษณะ ธรรมะท่านก็กล่าวว่า มันมีลักษณะเสมอกันอย่างนี้ สังขารทั้งปวงมันเป็นอย่างนี้...
    อ่านฉบับเต็มได้ที่

    ศีล ปัญญา : IsanGate.com
     
  14. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    นี่ก็แปลก ยกธรรมมาได้ไม่รู้กาละเลย ว่าลงกันได้ไหม

    เรื่องพระสัพพัญญูรอบรู้ธรรมที่ปราณีตลุ่มลึกยิ่ง อย่างเป็นเอนกอนันต์ เป็น ปัญญาพุทธองค์โดยแท้

    ทีนี้ใบไม้ในกำมือมีอยู่ ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฏกนั้นมีอยู่

    คงไม่ดีแน่หากไปตีความผิด แค่นั่งๆไปเดี๋ยวปัญญามันเกิดเอง คงไม่ต้องลำบากศึกษาพระธรรมอะไร

    ใครมาขอสดับธรรมที่ตรัสรู้ ก็ไล่เข้าป่า ให้ไปรู้เอาเอง แบบนี่คงไม่ดีแน่ๆ

    สติ มรรค๘ องค์ธรรมสมาธิ ขันธ์ ธาตุ อายตนะ ฯลฯ

    ซึ่งเป็นธรรมในพุทธศาสนาอุบัติมาแล้ว คงไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย แก่ผู้เข้าใจคลาดเคลื่อนนี้ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตลกขบขันนะ ศิษย์เทวทัต ออกอาการ
     
  16. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ตลก ขบ ขันธ์ ^^

    ลุงขันธ์ ลุงจะขัน หรือทำตัวเป็นที่ขำขัน

    ก็หัดเก็บไว้ในใจบ้าง หรือเก็บไว้เจื้อแจ้ว เจ้าขุนทองตอนเช้าๆ

    ไม่จำเป็นต้องออกตัวเลย ว่าตนอยู่สำนักไหน หรือออกมา ขบขันอย่างไร

    สติครับ สติ อย่าไปให้ตลกขบขันธ์นายขันธ์ จนเป็นที่ตลกขบขันในที่นี้เลยลุง ^^
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ศิษย์เทวทัต นี่ตำหนิเขาไปทั่ว รู้ไปทั่วในอาการแม้กระทั่ง ลมไหวในตัวยังมองเห็น

    แต่ไม่เห็นอาการไหวของตนเอง เที่ยวว่าคนอื่นไม่ฟัง ไม่พิจารณา คนอื่นยกอะไรมาปะปนพระธรรม

    แต่ตนเองทำเองทั้งหมด ไม่เห็นตนเองเลย

    ออกอาการทุกที กั๊กๆ
     
  18. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    เห็นคุณ saber เธอโพสต์เรื่องการกำหนดของพระเสขะอยู่
    น่าสนใจ เลยเอามาฝาก

    พระเสขะ คือ ผู้กำลังจะไม่ยึดถือ

    ภิกษุ ท.! ภิกษุใด แม้ยังเป็น พระเสขะ ยังไม่บรรลุถึงอรหัตตมรรค
    ยังปรารถนาพระนิพพาน อันเป็นที่เกษมจากโยคะ ไม่มีอื่นยิ่งกว่า อยู่, ภิกษุ
    แม้นั้นย่อม รู้ชัดแจ้ง ซึ่งดิน น้ำ ไฟ ลม โดยความเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม; เมื่อ
    รู้ชัดแจ้ง ซึ่ง ดิน น้ำ ไฟ ลม โดยสักแต่ว่าเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม แล้ว, เป็นผู้
    จะไม่หมายมั่น๑ ซึ่งดิน น้ำ ไฟ ลม; จะไม่หมายมั่น ในดิน น้ำ ไฟ ลม ;
    จะไม่หมายมั่น โดยความเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม; จะไม่หมายมั่นว่า'ดิน น้ำ ไฟ
    ลม เป็นของเรา' ดังนี้ ; จึงเป็นผู้ไม่มีปรกติเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งดิน น้ำ ไฟ
    ลม, ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เราขอตอบว่า "เพราะว่า ดิน น้ำ ไฟ ลม
    เป็นสิ่งที่ภิกษุผู้เสขะนั้น จะต้องได้รู้รอบ." ดังนี้แล.

    - มู. ม. ๑๒/๖/๒.

    พระเสขะ คือ ผู้ที่กำลังจะรู้จักนิพพาน

    ภิกษุ ท.! ภิกษุใด แม้ยังเป็น พระเสขะ ยังไม่บรรลุถึงอรหัตตมรรค ยังปรารถนาพระนิพพานอันเป็นที่เกษมจากโยคะ ไม่มีอื่นยิ่งกว่า อยู่, ภิกษุแม้นั้น ย่อม รู้ชัดแจ้ง ซึ่งนิพพาน โดยความเป็นนิพพาน ; เมื่อรู้ชัดแจ้ง ซึ่งนิพพาน โดยสักแต่ว่า เป็นนิพพานแล้ว, ย่อมเป็นผู้ จะไม่หมายมั่น ซึ่งนิพพาน; จะ ไม่ไม่หมายมั่น ในนิพพาน; จะไม่หมายมั่น โดยความเป็นนิพพาน; จะไม่ หมายมั่นว่า 'นิพพาน เป็นของเรา' ดังนี้; จึงเป็นผู้จะไม่มีปรกติเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งนิพพาน. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เราขอตอบว่า "เพราะว่า นิพพาน เป็นสิ่งที่ภิกษุผู้เสขะนั้น จะต้องได้รู้รอบ." ดังนี้แล. - มุ. ม. ๑๒/๖/๓. http://pobbuddha.com/tripitaka/uploa...496/index.html



    490 วิธีรู้ภูมิเสขะ-อเสขะของตน

    ปัญหา วิธีผู้ตั้งอยู่ในเสขภูมิ และอเสขภูมิ จะพึงรู้ว่าตนเองเป็นพระเสขะและพระอเสขะมีหรือไม่ ?

    พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปริยายวิธีที่ภิกษุผู้เป็นเสขะอาศัยแล้ว ตั้งอยู่ในเสขภูมิ ย่อมรู้ว่าเราเป็นพระเสขะ คืออย่างไร ? ภิกษุผู้เป็นเสขะในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้เหตุแห่งทุกข์ นี้ความดับทุกข์ นี้ทางปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ ปริยายวิธีนี้แล ภิกษุผู้เสขะอาศัยแล้ว ย่อมรู้ชัดว่าเราเป็นพระเสขะ...”
    “อีกประการหนึ่ง.... พระเสขะย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่าสมณะหรือพราหมณ์อื่นภายนอกจากศาสนานี้ ซึ่งจะแสดงธรรมที่จริงแท้แน่นอนเหมือนพระผู้มีพระภาคเป็นไม่มี...ปริยายวิธีนี้แลภิกษุผู้เสขะอาศัยแล้ว... ย่อมรู้ชัดว่าเราเป็นพระเสขะ...
    “อีกประการหนึ่ง.... พระเสขะย่อมรู้ชัดซึ่งอินทรีย์ ๕.... ย่อมรู้ชัดว่าอินทรีย์ ๕ นั้น มีอะไรเป็นคติ มีอะไรเป็นอย่างยิ่ง มีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นที่สุด แต่ยังไม่ถูกต้องด้วยนามกายอยู่ และยังไม่เห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา.... ปริยายวิธีนี้แล ภิกษุผู้เป็นเสขะอาศัยแล้ว... ย่อมรู้ว่าเราเป็นพระเสขะ
    “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ปริยายวิธีที่ภิกษุผู้เป็นอเสขะอาศัยแล้ว... ย่อมรู้ว่าเราเป็นพระอเสขะ คืออย่างไร ? ภิกษุผู้เป็นอเสขะในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดซึ่ง อินทรีย์ ๕...ย่อมรู้ว่าอินทรีย์ ๕ มีสิ่งใดเป็นคติ... มีอะไรเป็นที่สุด ย่อมถูกต้องสิ่งนั้นด้วยนามกายอยู่ทั้งเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา.... ปริยายวิธีนี้แลที่ภิกษุผู้อเสขะอาศัยแล้ว ย่อมรู้ว่าเราเป็นพระอเสขะ
    “อีกประการหนึ่ง....ภิกษุผู้อเสขะย่อมรู้ชัดซึ่งอินทรีย์ ๖ คือ ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ รู้ชัดว่าอินทรีย์ ๖ เหล่านี้ จักดับไปหมดสิ้นโดยประการทั้งปวง ไม่มีส่วนเหลือ และอินทรีย์ ๖ เหล่าอื่น จักไม่เกิดขึ้นในภพใหม่ ๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปริยายแม้นี้แล ภิกษุผู้อเสขะอาศัยแล้ว... ย่อมรู้ชัดว่าเราเป็นพระอเสขะ”

    เสขสูตร มหา. สํ. (๑๐๓๓-๑๐๓๗ )
    ตบ. ๑๙ : ๓๐๓-๓๐๕ ตท. ๑๙ : ๒๘๕-๒๘๗
    ตอ. K.S. ๕ : ๒๐๔-๒๐๖

    490<!-- google_ad_section_end -->


    2.5 ทางเสื่อมของพระเสขะ

    (96) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ธรรม 5 ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้ยินดีในการก่อสร้าง 1 ความเป็นผู้ยินดีในการเจรจาปราศรัย 1 ความเป็นผู้ยินดีในการนอน 1 ความเป็นผู้ยินดีในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ 1 ไม่พิจารณาจิตตามที่หลุดพ้นแล้ว 1 ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ.


    (80.33/165 หรือ 45.22/115 เสขสูตร)


    (97) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ธรรม 5 ประการเป็นไฉน คือ
    ภิกษุผู้เสขะในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีกิจมากมีกรณีมาก ไม่ฉลาดในกิจน้อยกิจ ใหญ่ ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ 1 เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
    อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมปล่อยวันเวลาล่วงไป เพราะการงานเล็กน้อย ละ การหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ 2 เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
    อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมคลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิต ด้วยการคลุกคลีกับคฤหัสถ์อันไม่สมควร ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ 3 เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
    อีก ประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมเข้าไปในบ้านในเวลาเช้านัก กลับมาในเวลาสายนัก ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ 4 เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
    อีก ประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมไม่เป็นผู้ได้ตามปรารถนา ไม่เป็นผู้ได้โดยยาก ได้ดดยลำบาก ซึ่งกถาที่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส เป็นที่สบายแก่ธรรมเครื่องโปร่งจิต คือ อัปปิจฉกถา สันตุฏฐิกถา ปวิเวกกถา อสังสัคคกถา วิริยารัมภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปัญญากถา วิมุติกถา วิมุติญาณทัสสนกถา ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ 5 เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม 5 ประการนี้ เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ


    (80.33/165-167 หรือ 45.22/115-117 เสขสูตร)



    http://www.bds53.com/index.php?name=...nowledge&id=50
     
  19. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ก็เห็นทักให้อย่าหรี่เสีย ให้พูดดังๆ มาหลายโพส

    นี้ก็ชี้เจตนาลุงแล้วว่า ปล่อยให้มันพูดเยอะๆ

    พอมันฟุ้งเมื่อไหร่ พระเอกขันธ์ได้ช่อง มีบทพูดเมื่อนั้น

    นายเจ๋งก็ต้องออกอาการซิ เสนอแล้วไม่สนองได้ไง

    นานๆลุงจะโง่เปิดช่องให้ได้ด่าฟรีๆสักที ^^

    กั๊กๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  20. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ตกลงเจ๊คิดว่าตัณหาพาให้ยึดรูปนามหรอครับ ตัณหาเป็นเหตุปัจจัยให้ยึดรูปนามหรอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...