สัมมาสมาธิ แตกต่างกับ สมาธิทั่วไปอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 6 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  2. วันเบาๆ

    วันเบาๆ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +2
    คิดดี ทำดี ตั่งใจมั่น ที่จะทำความดี ก็อยู่ในสัมมาสมาธิ

    คิดจะไปปล้นชาวบ้าน มีความมุ่ง มีความตั้งมั่น เชื่อในตน

    แบบนี้ มิจฉาสมาธิชัด
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    รูปดับ วิญญาณดับ :cool:
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    การรู้รูปนาม พูดง่ายๆ ก็คือ รู้จักว่า นี่เป็นความคิด นี่เป็นอารมณ์ นี่เป็นความรู้สึก ไม่ใช่ไปดูว่า กบเป็นนามเป็นรูป มันไม่ต้องไปเข้าใจอย่างนั้น ตายห่า คนปฏิบัติธรรมไม่ใช่ไปทำข้อสอบ

    และให้ดูที่ตัวเองว่า นี่เราคิด หรือ นี่เรารู้สึก หรือว่านี่เราเกิดอารมณ์ ที่ใจ ทีนี้ที่เรียกว่านาม เพราะมันลอยๆขึ้นมา เช่นความคิด เรื่องที่เราคิดก็ลอยๆ ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ที่เรามีอารมณ์ก็ลอยๆ เช่นโมโห พอทิ้งไว้สักพักก็หายโมโห ก็จะเห็นว่า โมโห เป็นสิ่งลอยๆขึ้น นั่นแหละ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    เมื่อเรารู้จักสังเกตุ สิ่งเหล่านี้พระศาสดาได้สอนเอาไว้แล้ว ว่าให้ดู กาย เวทนา จิต ธรรม
    เมื่อเราตั้งสติที่กาย แล้ว จิตนิ่งไม่ใจลอย ครานี้เราก็จะเห็น เวทนา อารมณ์ของเรา ได้ชัดเจน
    ให้ดูที่ตัวเอง สิ่งเหล่านี้มันมีปัจจัยว่าทำไมมันถึงเกิด เราก็ถามไล่เลียงกับตัวเองซิว่า ทำไมเราถึงมีโมโห มีราคะได้ ทำไมเราเห็นผู้ชาย กับเห็นผู้หญิงมันเกิด ราคะต่างกันได้ ผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายยื่นส่วนล่าง ผู้หญิงยื่นส่วนบน เท่านี้นะหรือที่ทำให้เรา เกิดราคะเป็นบ้าเป็นหลัง อย่างนี้เป็นต้น แล้วเราจะเห็นความโง่ของตน ไล่ไปไล่มาจะเห็นลำดับการเกิดของสายปฏิจสมุบาทชัดเจน ตั้งแต่โง่ มาจนถึงยึดติด

    นี่เราเรียกว่า ดูรูป ดูนาม ไม่ใช่ไปดู นิ้วจิ้ม รู้สึก วาโยไหว นั่นมันคนบ้า มันไม่ใช่สมุทัย ไม่ใช่ปัจจุบันธรรม ที่เราจะต้องดู เพราะเราต้องดูสภาพทุกข์ สภาพที่มันแปรปรวน มีผลทำให้เราทุกข์ นั่นแหละเรียกว่า ทุกข์อริยสัจ ต้องรู้จักตัวนี้ก่อนจะไปใช้ปัญญาวิปัสสนาตัวอื่นๆ
    แล้วเห็นไหม มันคนละเรื่อง พวกธรรมเทวทัตนี่กระโดดไปทำเรื่องห่าอะไรไม่รู้ ไปดูกบดูเขียด มันไม่ดูตาม้าตาเรือว่า พระท่านสอนท่านสั่งอะไร
    คนอวดดีอวดเก่งนี่ ไม่มีใครทำลายมันหรอก มันจะทำลายตัวเอง ดังนั้นอย่าไปอวดเก่ง
    ทำอะไร อย่าประมาท จะทำลายตนโดยไม่รู้ตัว
     
  5. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ก่อนที่จะเห็น กาย เวทนา จิต ธรรม ต้องเริ่มจากการเห็นสุจริต ๓ ก่อนเมื่อเห็นสุจริต ๓ สติปัฏฐาน ๔ จึงจะเกิดขึ้น

    เมื่อทำสุจริต ๓ให้บริบูรณ์ (กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต) สติปัฏฐาน ๔ จึงเกิดขึ้น มองเห็นกายในกาย(จิตอยู่กับกาย) มองเห็นเวทนาในเวทนา(จิตอยู่กับความรู้สึกสุขทุกข์) มองเห็นจิตในจิต(จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ) มองเห็นธรรมในธรรม(จิตรู้อยู่กับกายบ้าง เวทนาบ้าง จิตปล่อยวางไม่ยึดมั่นถือมั่นในความรู้สึกสุขทุกข์ รู้สึกสุขก็วาง รู้สึกทุกข์ก็วาง ตั้งมั่นอยู่เป็นอุเบกขา)
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สุจริต ก็พูดง่ายๆ คือ ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์มองเห็น การกระทำของตน คำพูดของตน ใจของตน ว่า คิดอะไร พูดอะไร ทำอะไร อย่างไม่บิดเบือน ไม่หลอกตัวเอง นั่นแหละสุจริต เมื่อทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา เช่น พูดแล้วบิดเบือน ก่อนหน้าเจตนาอย่างหนึ่งภายหลังเปลี่ยนให้เป็นอีกแบบหนึ่ง เพื่อปกปิดเจตนาตนบ้าง เพื่อโลกธรรมบ้าง นี่เรียกว่า ไม่สุจริต เมื่อไม่สุจริต ก็สังเกตุตนเองไม่ได้ ไม่เห็น การกระทำ คำพูด ความคิดของตน
     
  7. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    พิจารณาให้ขาดก่อนลุง

    อย่าเที่ยวไปด่า ไปปรับใคร ไปอวดใคร มันอายเขา ^^
     
  8. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ขอบคุณนะครับ

    ครับ ต้องเป็นผู้มีกุศลศีล สำรวมอินทรีย์

    จึงเป็นเหตุให้สติปัฏฐานเกิด
     
  9. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ควรจะทำความรู้จักลักษณะต่างๆ จะได้ทราบว่าพุทธองค์ตรัสรู้อะไร

    หรือสภาพธรรมนี้ คืออะไรที่พุทธองค์ตรัสถึง

    ถ้าไม่รู้จักรูปนามแล้ว จะไปกำหนดรู้ทุกข์ หรือกำหนดรู้ความเป็นปัจจัยนั้น อาจไม่ถูกก็ได้ ไม่ใช่ปัญญาก็ได้

    รู้แบบ สภาวะผ่านๆนั้น จะรู้อีกนานไหม
     
  10. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    วังวลความคิด ถูกไหมครับ

    ปุถุชนเมื่อกระทบอารมณ์จะปรุงแต่ง ติดข้องในเรื่องราว เห็นเป็นเราเห็น

    ได้ยินเป็นเราได้ยิน คิดเป็นเราที่คิด รู้เป็นเราที่รู้

    นี่ถ้าใส่ใจสภาวะธรรม จะไปกล่าวเรื่องรูปกาย ในเชิง สมมุตติคนสัตว์เลย

    เรื่องเดินจงกรม เขาพิจารณาที่กระทบ แข็งอ่อน หย่อยตึง สลับกันไปมา
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ถ้าอยากไปนรกก็ทำลายพระธรรมต่อไปเรื่อย ทำมันไปทุกวันนั่นแหละ
    เอาธรรมเทวทัตมาเผยแผ่ทุกวันจะดีมาก จะเห็นผลเร็ว
     
  12. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ผมก็เจริญตามที่พระพุืธองค์ชี้นั้นแล

    ทำไมถึงเห็นธรรมพุทธองค์ เป็นกงจักรไปได้ล่ะลุง

    เพราะไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง หรือเพราะทิฏฐิมานะในตน

    ขอเหตุผลหน่อยสิ
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    โอ้ย ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว จะทิฎฐิมานะอะไรของข้า จะมาสนทำไม เอ็งมั่นใจก็ทำไปเลย
    ข้าไม่ได้ห้าม ดีซะอีก เห็นคนที่ข้าหมั่นไส้ ตกต่ำลงไป ข้าจะไปห้ามทำไม
    รอดูอยู่ ข้าชอบ ยิ่งพวกที่ค้านธรรมพระพุทธองค์ เบนไปทางทิฎฐิตนข้ายิ่งชอบ เพราะมันกำลังเจริญรอยตามศาสดาเทวทัต ข้าสบายไม่ต้องไปจัดการอะไร กรรมจัดการเอง
     
  14. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128

    เมื่อเราตั้งสติที่กาย แล้ว จิตนิ่งไม่ใจลอย ครานี้เราก็จะเห็น เวทนา อารมณ์ของเรา ได้ชัดเจน

    มันจะเป็นไปได้ยัง ในเมื่อจิตไปตั้งที่กาย ก็ต้องพิจารณากาย แต่กลับไปเห็นเวทนา มันคนละเรื่องเลย มั่ว

    สิ่งเหล่านี้มันมีปัจจัยว่าทำไมมันถึงเกิด
    ว่าต่อซิว่าอะไรเป็นปัจจัยจึงให้มันเกิดขึ้น ช่วยตอบขยายความให้หน่อย

    ผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายยื่นส่วนล่าง ผู้หญิงยื่นส่วนบน เท่านี้นะหรือที่ทำให้เรา เกิดราคะเป็นบ้าเป็นหลัง อย่างนี้เป็นต้น
    ลองยกหลักฐานมาหน่อยซิว่า พระองค์กล่าวอย่างนี้ บ้าไม่เลิกยัดเยียดคำสอนของตัวเอง

    ไล่ไปไล่มาจะเห็นลำดับการเกิดของสายปฏิจสมุบาทชัดเจน
    ลองไล่ให้ดูหน่อยเป็นไงว่ามันจะเกิดสายปฏิจสมุปบาทได้ยังงัย ยังงง นะ
    น๊ะๆๆ ขอร้องเหอะ ลองไล่ให้ดูหน่อย อย่ากล่าวออกมาลอยๆ อายเขา

    ทำอะไร อย่าประมาท จะทำลายตนโดยไม่รู้ตัว
    รู้ตัวก็ดีแล้ว ต่อไปจะได้ไม่ต้องไปจับงูทางหาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  15. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ที่ผมให้ ฉายา เจ็ดประหลาดกังหน้ำนี้ ไม่ผิดหรอก ^^

    ชอบเล่นตามกระแสจัง เห็นเขาฮิตการรู้

    ก็ออกมาตั้งกระทู้ ฟังธง ต้องรู้เฉยแบบนี้เฟ้ย

    พอผมเข้าไปถามก็ บลาๆๆๆๆ

    พอเขาฮิตสมาธิ ก็ออกมาตั้งกระทู้ สัมมาสมาธิ ต้องอย่างนี้เฟ้ย

    พอถามสัมมาสมาธิต่างกับมิจฉาสมาธิอย่าไร

    ก็ออกอาการ ด่าชาวบ้าน ไม่ตอบมันดื้อๆ เปลืี่ยนเรื่องเป็นสมาธิรักษาโรค

    พออีกวันก็เปลี่ยนไปเดินจงกรมซิเฟ้ย

    พอชาวบ้าน ทัก เดินจงกรมเขารู้ลักษณะปรมัตถ์

    ก็ไปว่าเขาอวดรู้ ให้ไปขอขมา เพราะอั๊วมีหลักฐานเด็ด เอาอยู่เฟ้ย

    พอชาวบ้านทัก หลักฐานลุง เรื่องวิจัยธรรม ก็ไปว่า อรรถกถาที่ผมยกเป็น เทวทัต

    พอหนักเข้า ซุ่มเงียบตามเก็บสัญญาอย่างเดียว

    พอจับประเด็นได้นิดหน่อย ก็ออกมาพูด รูปนามต้องอย่างนี้เฟ้ย

    ผมล่ะปวดหัวจริงๆ ^^


    ตอนเละเละ ไม่เรียนหนังสือ

    โตขึ้นมาต้องกัดรองเท้า..................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นี่คนนี้มาค้านพระธรรมข้า ยิ่งชอบใหญ่ ชอบเห็นพวกที่รู้มาก อวดเก่ง
    ถ้าข้าเฉยๆ มันไม่สร้างสมปัจจัย ข้าต้องให้มันด่าทุกวัน มันจะสร้างปัจจัยไปนรกทุกวัน
    ดีไหม
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นั่นแหละต้องอย่างนั้น อย่าหรี่เสียงสิ เอาดังๆ
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอ้า รออ่านธรรม ศิษย์เทวทัตอยู่ ทั้งคู่นั่นแหละ

    เชิญเผยแผ่ ธรรมเทวทัต และความโง่ของตนได้เลย

    แต่บอกก่อนนะว่า ถ้าจะมาด่าอะไรข้า อย่าหรี่เสียง
     
  19. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    ก็เองเอาอะไรมาสอนล่ะ มันนอกคำสอน ยัดเยียดคำสอน ให้อธิบายหน่อยก็อธิบายไม่ได้ ได้แต่พูดพล่อยๆ
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็นอกคำสอนเทวทัต นะซี้ จะมาสนใจคำสอนพระศาสดาโคดมทำไม
    จะเผยแผ่ คำสอนเทวทัตก็ทำไปสิ ไม่มีใครว่าอะไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...