สังเวชนียสถาน ๔ ที่อินเดียในปัจจุบัน ไม่ตรงกับความเป็นจริงเมื่อ 2555 ปีก่อน?

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย chocolate kiss, 14 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    สวัสดีครับกระทู้ของผมสูญหายไปครับ
     
  2. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    ผมขอสนทนาด้วยคนครับ
    สำหรับเรื่องนี้ผมไม่ขอให้ความเห็นคัดค้านใดๆ ครับ แต่จะขอนำเนื้อหาที่มีอยู่ในนี้แล้วมาขยายตามความรู้ที่มีอยู่ของผม (ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ) ผมขอยกเนื้อหาในกระทู้ที่ 10 ของคุณ CharnK มาทบทวนให้ดูดังนี้ครับ
    ๑. ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชได้ให้นักปราชญ์สืบค้นว่าสังเวชนียสถานอยู่ที่ไหนบ้าง
    ๒. พระอรหันต์โมคคัลลีบุตรติสสเถระ ประธานการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๓ เป็นผู้ตรวจสอบยืนยันว่านักปราชญ์ระบุถูกหรือไม่
    ๓. พระเจ้าอโศกมหาราชทรงให้ประดิษฐานเสาอโศกในตำแหน่งที่พระโมคคัลลีบุตรได้กำหนดไว้
    ๔. ปัจจุบันพบเสาอโศกที่รุมมินเด ประเทศเนปาล ส่วนประเทศอินเดียพบที่คยาและที่สารนาถเท่านั้น ทั้งในสภาพที่สมบูรณ์และแตกหัก แต่ไม่พบที่กาเซีย
    ๕. หลวงปู่มั่นเคยบอกว่า พระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นคนไทย
    ๖. หลวงพ่อฤาษีเคยบอกว่า พระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นคนไทยเช่นกัน และคนไทยเป็นชาวพุทธที่ลี้ภัยศาสนามาจากกบิลพัสดุ์และแคว้นมคธ
    สำหรับข้อ 1 ถึง 4 ผมขอเรียนดังนี้ครับ ที่ว่านักปราชญ์ผมเชื่อว่าก็คือพระเถระเจ้าทั้งหลายที่ทรงคุณวิเศษในทางพระพุทธศาสนาที่มีอยู่ในสมัยนั้น หากมิใช่ผู้ทรงคุณวิเศษดังกล่าวแล้วก็ไม่น่าจะกำราบพระเจ้าอโศกซึ่งเดิมมีจิตใจเหี้ยมโหดให้กลับใจมานับถือพุทธศาสนาได้ครับ และผู้ใหม่อย่างพระเจ้าอโศกย่อมต้องมีครูบาอาจารย์คอยกำกับดูแล ดังนั้นความดำริที่จะสืบค้นหาสังเวชนียสถานซึ่งเป็นความรู้ที่รึกซึ้งในทางพุทธศาสนานี้น่าจะเกิดจากข้อเสนอแนะของพระเถระผู้เป็นอาจารย์ ไม่น่าเป็นดำริของพระเจ้าอโศกซึ่งเป็นผู้ใหม่ต่อพระศาสนาเอง การนำชี้สถานที่ดังกล่าวก็เช่นเดียวกันท่านย่อมได้พระเถระเป็นผู้ใช้ญาณวิเศษของตนนำชี้ หลังจากอาจารย์นำชี้แล้วพระเจ้าอโศกจึงทรงใช้พระราชอำนาจนำเสาอโศกพร้อมสั่งการให้เริ่มการก่อสร้างสถูปประดิษฐานเพื่อยืนยันสถานที่ดังกล่าวไว้ตามที่อาจารย์ตนบอก พระเจ้าอโศกคงจะมิได้เดาสุ่มเอาด้วยวิสัยของพระองค์เอง ปัจจุบันค้นพบหลักฐานคือเสาอโศกประดิษฐานอยู่ที่สังเวชนียสามแห่ง ยกเว้นที่ป่าอิสิปมฤคทายวันที่เดียวที่ไม่มีหรือค้นไม่พบหลักฐานเสายืนยันไว้
    พระเถระผู้เป็นครูบาอาจารย์ในสมัยนั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ นอกจากพระอรหันต์โมคคัลลีบุตรติสสเถระ ประธานการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๓ แล้ว ยังมีพระอรหันต์อีกหลายองค์ที่คนไทยเองก็น่าจะพอจำกันได้ เช่น พระอุปคุตเถระ พระโสณะเถระและพระอุตตระเถระ โดยเฉพาะสององค์หลังนี้ ท่านเป็นพระธรรมฑูตของพระเจ้าอโศกที่นำพระพุทธศาสนามาประดิษฐานไว้ ณ สุวรรณภูมินี้
    ผมเองเคยฝึกมโนมยิทธิเห็นหลวงพ่อฤษีในนิมิต ท่านกรุณาลูบไหล่ผม พระอาจารย์ผู้นำอารมณ์บอกว่าผมเป็นลูกหลานท่าน ครับผมนับถือหลวงพ่อเป็นครูบาอาจารย์ ดังนั้น ผมจึงรับฟังว่าที่ตั้งสถูปที่ป่าอิสิปมฤคทายวันปัจจุบันอาจคลาดเคลื่อนไปตามที่หลวงพ่อบอกไว้จริง เพราะไม่มีหลักฐานเป็นเสาอโศกยืนยันไว้ แต่สำหรับสถูปที่เหลืออีกสามแห่งผมขอเลือกเชื่อว่าเป็นสถานที่จริงตามที่พระเถระผู้เป็นอาจารย์ของพระเจ้าอโศกได้นำชี้ไว้ครับ จะไม่ให้ผมเชื่อตามญาณวิเศษของพระเถระสมัยนั้นได้อย่างไรครับ ในเมื่อท่านทั้งหลายเป็นพระอาจารย์ปู่ พระอาจารย์ทวดผู้เป็นโคตรวงศ์ของพระสงฆ์ไทยเราครับ
    สำหรับข้อ 5 ถึง 6 ผมขอผ่าน เพราะค้นประวัติศาสตร์แล้วปวดศีรษะไม่มีหลักฐานใดมายืนยันได้ครับ (อ้อ! ใต้ตามทางหรืออีกนามหนึ่งท่านโหรเสฐียรพงษ์ฯ ผู้เป็นอาจารย์ผมเคยมีบทความบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยไว้เหมือนกัน แต่ท้ายบทท่านบอกว่าท่านไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้แต่ประการใดครับ)
     
  3. Freddy_Kruger

    Freddy_Kruger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +759
    คนไทยมีหลายพวกนะครับ ที่อยู่ในพื้นที่เดิมตั้งแต่ก่อนพุทธกาลก็มี เช่นในตำนานของพระบรมธาตุจอมกิตติ ที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จมาโปรด พระเจ้าอชุตราช ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์มังรายของพระเจ้าพรหมมหาราช ,

    หรือแม้แต่ตำนานพระประโทน ที่โทณพราหมณ์ ผู้ที่ทำหน้าที่แจกจ่ายพระบรมสารีริกธาตุให้กับเจ้าทั้ง ๗ เมือง หลังจากเสร็จงานถวายพระเพลิงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนั่นเอง

    โทณพราหมณ์ ได้นำทะนานทองคำ ที่ไว้สำหรับตวงพระบรมสารีริกธาตุกลับมาบ้านเกิดของตัวเองที่นครปฐมด้วย แล้วท่านก็สร้างพระเจดีย์ไว้เพื่อประดิษฐานทะนานทองคำนั้น ก็คือพระประโทน จังหวัดนครปฐมนั่นเอง (จากหนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ )

    แม้แต่ท่านหมอชีวกโกมารภัจน์ ก็เคยเดินทางมาถึงนครปฐม และได้สนทนากับคนไทย ก่อนจะกลับไปกราบบังคมทูลถึงเรื่องนี้ให้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์จึงทรงตรัสตอบท่านหมอกลับมาเป็นภาษาไทย ในทำนองที่ว่าคนในพื้นที่ ที่ท่านหมอไปพบ เขาพูดกันแบบนี้ใช่หรือไม่ ซึ่งท่านหมอก็ยืนยันว่าใช่


    พวกที่อพยพมาจากเมืองจีนก็มี (ในหนังสือฤๅษีสอนลูกภาคใต้ ก็มีบอกไว้ ตอนที่หลวงพ่อฯ ไปพักที่ประจวบคีรีขันธ์ แล้วเจอเจ้าผู้ครองนครแถวนั้น เช่นท่านล่อเหม็ง)


    เพราะฉะนั้น คนไทยไม่ได้หนีภัยศาสนามาแต่เมืองกบิลพัสดุ์(แคว้นสักกะ) หรือแคว้นมคธแต่อย่างใด

    จริง ๆ กรุงกบิลพัสดุ์ ก็น่าจะแทบร้างตั้งแต่สมัย พระเจ้าวิฑูฑภะ ไปล้างวงศ์ศากยะแล้วนะครับ
     
  4. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
  5. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
  6. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    ผมได้ประมวลด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผมแล้ว ขอสรุปองค์ความรู้ทั้งหมดซึ่งไม่ใช่ของผมแต่เป็นความรู้ที่ปรากฏอยู่ในกระทู้นี้เองไว้ดังนี้ครับ
    1. ตามที่หลวงปู่มั่น และหลวงพ่อฤษีลิงดำเล่ามานี้สามารถสรุปได้ว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นคนไทยที่ทรงประสูตร ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และทรงปรินิพพานที่ประเทศอินเดียโบราณ ด้วยเหตุผลดังกล่าวปัจจุบันสังเวชนียสถานทั้งสี่ย่อมต้องตั้งอยู่ที่ประเทศอินเดีย จะย้ายมาตั้งอยู่ที่เมืองไทยนี้ไมได้อย่างแน่นอนครับ ผมยังคงเชื่ออย่างเหนียวแน่นในคุณวิเศษของหลวงพ่อฤาษีฯ หลวงปู่มั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพระเถระในสมัยพระเจ้าอโศกฯ ซึ่งเป็นครูเป็นอาจารย์ปู่ของปู่ของปู่ผู้นำชี้สังเวชนียทั้งสี่อยู่เหมือนเดิมว่าตรงจุดที่เสาอโศกตั้งอยู่แม้ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียงสถานที่จริงอย่างมากครับ พร้อมด้วยความมั่นใจศรัทธา ดังนั้น เมื่อมีโอกาสผมยังคงสละทรัพย์ที่หามาได้ด้วยดีด้วยชอบและบริสุทธิ์ของผมอยู่เรื่อยๆ ถวายเป็นพุทธบูชาสำหรับการบูรณลุมพินีวันที่ประเทศเนปาลครับ (บริจาคมาประมาณ 2-3 ครั้งแล้วครับถ้ามีโอกาสก็จะบริจาคอีก)
    2. ปัจจุบันคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยเป็นผู้สืบสายโลหิตเป็นลูกหลานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อพยพมาอยู่เมืองไทยหลังพุทธปรินิพพานนานแล้ว กล่าวคือเริ่มอพยพมาอยู่เมืองไทยในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชครับ
     
  7. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    แปลกเหมือนกันนะครับ ผมเองไม่เคยนึกอยากไปอินเดียสักครั้ง
    รู้สึกเสมอว่า... ไปพระนิพพานไม่ดีกว่าหรือ
     
  8. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    เรียน คุณ Survival ความเห็นที่ 26
    ผมขอรบกวนคุณ Survival นิสนึงครับว่าเหตุใดท่านถึงนำรูปหลวงปู่ดู่มาลงเป็นหน้า face ของท่าน คือผมต้องการคำตอบเกี่ยวกับหลวงปู่มานานแล้วครับ เมื่อมาเห็นรูปที่ท่านนำมาลงไว้ผมคิดว่าเราน่าจะมีศรัทธาตรงกัน ดังนั้น ผมขอเล่าให้ฟังนะครับว่ามีอยู่คืนนึงผมหลับฝันไปว่าหลวงปู่ทวดมาสะกิดไหล่ผมหันไปพบพระหน้าตาไม่ใช่หลวงปู่ทวดแต่ในฝันตัวผมเองก็ยังยืนยันว่าองค์นี้แหละหลวงปู่ทวด หลังจากฝันมาประมาณ 1 เดือนผมได้ไปนั่งทานก๊วยเตี๋ยว เห็นรูปหลวงปู่ทวดอยู่กับพระอีกสององค์แขวนอยู่ถามเจ้าของร้านทราบว่าคือหลวงตาม้ากับหลวงปู่ดู่ ผมไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นท่านทั้งสองมาก่อน แต่เชื่อมั้ยครับว่าหลวงปู่ที่ผมเห็นในฝันรูปร่างหน้าตาท่านเหมือนรูปหลวงปู่ดู่ที่ท่านนำมาลงไว้นี้เปรี๊ยบเลยครับ เรื่องแปลกอีกอย่างคือก่อนหน้าที่ผมจะฝันอยู่ๆ วันนึงองค์ภาวนาที่ผมใช้อยู่ประจำกลับเปลี่ยนมาเป็นพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ซึ่งเค้าว่าเป็นองค์ภาวนาของหลวงปู่ดู่ครับ หากคุณ Survival จะกรุณาก็ขอได้โปรดตอบข้อสงสัยให้ผมทราบด้วยว่าความฝันของผมที่เล่ามานี้เพ้อเจ้อหรือมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ดู่หรือไม่ อย่างไร ขอคำชี้แนะด้วยนะครับ
     
  9. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลของทุกท่านครับ
     
  10. Sagen1994

    Sagen1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +202
    จารึกของทวารวดีล้วนเป็นภาษามอญทั้งสิ้น
     
  11. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    ๕๕๕ ขอหัวเราะเป็นภาษาไทยครับ (ภาษาไทยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงก็ว่าพ่อกูชื่อศรีอินทราทิตย์ แม่กูชื่อนางเสือง แต่เสียดายว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเป็นคนไทย แต่เหตุใดพระไตรปิฏกซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้โดยตรงกลับไม่จารึกเป็นภาษาไทยก็ไม่ทราบครับ) ขอบคุณท่าน Survival ที่ได้แสดงกฎไตรลักษณ์ให้ผู้น้อยได้ทราบว่าทุกสิ่งย่อมแปลผันเป็นอนิจจังอยู่ตลอดเวลา ยกเว้นพระพุทธ (พระรัตนตรัย) ขอบคุณครับ
     
  12. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    เรียน คุณ Survival
    ขอบคุณคุณ Survival อย่างสูงครับ ผมได้เข้าไปดูโพสของท่านแล้ว พบข้อมูลหลวงปู่ดู่มากมาย อันเป็นกำลังใจและเกิดปิติแก่ผมอย่างยิ่งครับ ขอบคุณๆๆ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิครับ
     
  13. jiwbkkza

    jiwbkkza สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    แสวงบุญในอินเดีย

    ....เค แอ็น เอ็น ทราเวล....
    เปิดจองแล้ววววว........ ตามคำเรียกร้องและโทรศัพท์เข้าออฟฟิศอย่างล้นหลาม กับโปรแกรมสังเวชนียสถานของ เค แอนด์ เอ็น ทราเวล เราจะทยอยออกมาเรื่อยๆนะคะ ทริปต่อไปเป็นเดือน มีนาคม 2556 ค่ะ
    เก็บสังเวทั้ง 4 และได้ใช้เวลาปฏิบัติเต็มที่ 2 วันที่พุทธคยาแดนตรัสรู้
    ในทริปเดียว คุ้มสุดๆ ชมทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
    รถโค้ชใหม่ 45 ที่นั่ง มีจอDVD บิน TG มี Flight ภายในไม่ต้องเหนื่อย
    จองก่อน ออกตั๋วให้ก่อนเลย มัดจำแล้วได้เดินทางแน่นอน
    รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ท่านเท่านั้น เต็มปุ๊ป! ปิดรับเลยค่ะ
    สำหรับผู้ที่เดินทางกับบุพการี นำพระอรหันต์ของท่านไปสักการะสังเวชนียสถาน หรือคู่แม่ลูก พ่อลูก ทาง เค แอนด์ เอ็น ทราเวล ขอร่วมบุญกุศล ลดทันทีคู่ละ 500 บาท ลูกค้าเก่าที่เคยร่วมบุญกัน ลด 1,000 บาท
    รถ โค้ช 45 ที่นั่งให้นั่งกันแบบสบายๆไม่แน่น มีจอดีวีดีในรถให้ท่านได้ปิติอิ่มบุญกับ การสัมผัสพุทธประวัติของพระพุทธองค์ครั้งสมัยพุทธกาล และเพลิดเพลินกับการชมภาพยนต์ในแบบฉบับบภารตะแท้ และธรรมบรรยายแบบเฮฮาและเข้มข้นด้วยความรู้พุทธประวัติตลอดทริป มีเต้นท์ห้องน้ำอย่างดีบริการหากปวดระหว่างทาง อาหารเพิ่มเติมจากเมืองไทย ขนม นมเนย ผลไม้ตามฤดูกาล


    ร่วมลอยกระทง ณ สถานที่จริงแม่น้ำคงคา ณ เมืองพาราณสี ลอยทุกข์โศกโรคภัยให้หมดไปกับปีเก่าๆ ทำบุญทอดผ้าป่า ณ วัดไทยในอินเดีย




    ภาพความประทับใจจนวันกลับเมืองไทยจากลูกค้าที่ใช้บริการ เค แอนด์ เอ็น ทราเวล
    เรา ไม่โฆษณาแต่เราดูแลกันจริง มีความสุขกันจริง อิ่มบุญปลื้มปิติกลับเมืองไทย จนหลายทริปต้องมีน้ำตาแห่งความตื้นตันใจจากลูกทัวรในวันกลับ
    สักการะสังเวชนียสถานทั้ง 4
    9 คืน 10 วัน บิน TG ทริปสังเว-ทัชมาฮาล อิ่มบุญ อิ่มท้อง นอนสบาย ได้ความทรงจำดีๆ ดูแล กันแบบญาติพี่น้อง กลับมาแล้วทุกคนยังเป็นกัลยาณมิตรกัน ร่วมบุญกันต่อในทริปอื่นๆ เราตั้งใจว่าเราจะดูแลคนไปทำบุญให้ได้ความสุขสบาย เราจึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับท่าน เพราะประเทศนี้เฉพาะโซนสังเวไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลำบากอยู่แล้ว เราดูแลท่านด้วยผู้ชำนาญเส้นทางแห่งศรัทธา พระวิทยากรที่มีความรู้พุทธประวัติแน่น ทั้งขลังทั้งขำ ให้ท่านได้ความประทับใจไม่ลืม.
    คุณกสิณาธรญ์ โทร.08-6685-5008 , 08-9297-2090 สำนักงาน.074-616-231
    อีเมล์:kntravel0924@gmail.com และ www.facebook.com/kanetta.siam
     
  14. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    ผมไปสังเวชนียที่อินเดียมา 4 ครั้งแล้วครับ

    ผมไปสังเวชนียที่อินเดียมา 4 ครั้งแล้วครับ นับว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้มีจิตศรัทธาท่านอื่น เท่าที่ทราบมามีท่านผู้หนึ่งเป็นนายตำรวจท่านได้เดินทางไปสังเวชนียทุกปีๆ ละหลายๆ ครั้ง ทั้งนี้ ท่านยังเป็นผู้อุปถัมป์ทางด้านปัจจัยแด่พระภิกษุสงฆ์ในการจาริกแสวงบุญในลักษณะนี้อยู่ตลอด ส่วนในขณะที่ท่านอยู่เมืองไทยท่านก็เข้าร่วมสวดมนต์เป็นประจำเกือบทุกวันจะมีขาดอยู่บ้างแต่ก็น้อยมากครับ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  15. ศิล

    ศิล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    ผมไปสังเวชนียที่อินเดียมา 4 ครั้งแล้วครับ (ต่อ)

    การที่ผมได้ไปสังเวชนียสถานทุกครั้งยังความปิติสุขแก่ผมเป็นอย่างยิ่ง โดยในครั้งแรกผมจำได้ว่าผมน่าจะมีโอกาสไปเที่ยวประมาณที่ยูโรป แต่ผมขอไม่ไปผมเลือกไปอินเดียแทนครับ ปิติสุขเกิดขึ้นแก่ผมมากครับที่ได้เข้าเฝ่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านสังเวชนียทั้งสี่แห่ง ตอนอยู่ในฌานสองน้ำตามแห่งความปิติไหลเลยทีเดียว โดยส่วนตัวผมขอยืนยันว่าไปอินเดียปัจจุบันนี้ไม่ลำบากเลยครับ เพราะผมเดินทางไปแบบเหมาทัวร์คือไปกันประมาณไม่เกิน 5 คนสะดวกสบายมากครับ ทางอินเดียเค้าจัดรถยนต์อินโนวาให้ จะเข้าห้องน้ำห้องท่ารถจอดให้เข้าที่ปั๊มน้ำมันซึ่งมีห้องน้ำสะอาดทั้งสิ้น ไม่เคยมีใครต้องไปถ่ายอุจจาระปัสสวะที่ข้างทางเลย อาหารการกินก็มีแม่ครัวไทยเป็นผู้ทำให้ทานเกือบทุกมื้อ ที่ไม่สะดวกสบายก็คงมีอยู่บ้างคือบางมื้อต้องทานอาหารในภัตตาคารแขกซึ่งหรูแต่ผมทานอาหารไม่ค่อยได้ กรณีจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่ก็มีที่ไกด์ซึ่งเป็นคนอินเดียพูดไทยได้ชัดมากพาไปทานไก่ย่างถ้าจำไม่ผิดคือในปั๊มน้ำมัน รสชาติอร่อยเหมือนอยู่เมืองไทยเลยครับ
    สุดท้ายนี้ผมขออาราธนาอานุภาพคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดรมารดา คุณครูบาอาจารย์ และด้วยบุญที่ผมเคยกระทำมาแล้วทั้งในอดีตชาติจวบจนถึงชาตินี้ชาติหน้าขอให้ผมได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านการไปสักการะสังเวชนียสถานทั้งสี่อีกต่อไปด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. biwjung

    biwjung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +18
    แต่การที่ได้ไปมีคุณค่ามากนะคะได้ไปเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นและได้ไปปลงเห็นสิ่งที่น่าสลดสังเวชได้ธรรมมะมากมายได้ให้เรามีปัญญาพิจจารณาสิ่งต่างต่างจากสถานที่จิงไม่ใช้ใช้ความคิดอีกทั้งได้เดินตามรอยพระบรมศาสดาคนที่ไม่ได้ไปอาจจะไม่เห็นค่าแต่คนที่ได้ไปเหยียบคงมีความรู้สึกเหมือนกันว่ามันคือสิ่งที่มีค่าสุดที่จะประมาณไม่ได้ต้องได้สำผัสจึงจะรู้หยุดใช้ความคิดนึกเดาเพราะมันคือสิ่งปรุงแต่ง------แม่ชีบิว
     

แชร์หน้านี้

Loading...