สมาธิในบ้าน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย อริยะบุญ, 21 กรกฎาคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อริยะบุญ

    อริยะบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +1,739
    อตีตังสญาณ

    หลายท่านเข้าใจว่าตุ้ยเป็นผู้วิเศษไปแล้ว และก็มีหลายต่อหลายท่านสงสัยในความสามารถนี้ มองว่าเป็นการอวดอ้างไปต่างๆนานา

    ณ เวลานี้อยากให้ทุกท่านเข้าใจไปเหมือนๆกันว่า ตุ้ยไม่ใช่ผู้วิเศษ เขาเป็นเพียงเด็กชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ยังอยู่ในความดูแลของคุณพ่อ ต้องไปโรงเรียน เล่นซน สนุก อยากได้ของเล่น ดูการ์ตูนในวันหยุดเหมือนเด็กๆทั่วไป

    และสิ่งที่นำมาบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาไปรู้ ไปเห็นมานี้คือเรื่องจริงที่เขาพูดออกมาเมื่อถอนออกจากสมาธิ คุณพ่อจะใช้วิธีการอัดเสียงเขายามที่เขาเล่า แล้วเวลาเขียนก็ค่อยๆแกะคำแต่ละคำที่คุณพ่อกับตุ้ยสนทนากัน

    เขาไม่ได้ผิดแปลกไปจากเด็กทั่วๆไป แต่สิ่งที่ต่างคือ เขามีความสามารถในสมาธิ อาจจะด้วยของเก่าของเดิมที่มีมาแต่อดีตชาติหรือไม่ก็ไม่รู้ หรืออาจเป็นเพราะการที่ยังเด็ก จิตที่ยังใสไม่ค่อยมีกิเลสเจือมากทำให้เวลาทำสมาธิแล้วสงบตัวเร็วหรือเปล่าก็เป็นได้ และเขาเองสามารถนั่งสมาธิได้วันละเป็นชั่วโมง

    เขาไม่สามารถมองเห็นนั่น เห็นนี่ เช่นผีสาง เทวดาหรือสามารถคุยกับผีสาง เทวดาในขณะที่ลืมตาอยู่ แล้วก็ไม่สามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆได้ การที่ตุ้ยจะรู้ จะเห็นสิ่งพวกนี้เขาต้องเข้าฌานสมาธิก่อนเท่านั้น ฉะนั้นการรู้ การเห็นเกิดขึ้นที่จิตขณะมีกำลังเท่านั้น

    ไม่อยากให้เชื่อเพราะมันไม่ใช่ความจริงของท่านทั้งหลาย ถ้าท่านอยากรู้ท่านต้องพิสูจน์เอง และขอความกรุณาอย่าได้มองเจตนานี้เป็นอื่น นอกเสียจากว่าประสบการณ์ต่างๆที่ถ่ายทอดออกมานี้

    ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง และหากการถ่ายทอดไปนี้เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจในการเพียรปฏิบัติด้านจิตภาวนากับท่านผู้ใดก็ขออนุโมทนาอย่างยิ่ง ขอท่านผู้นั้นจงเชื่อเถิดว่าสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ล้วนแต่เป็นเรื่องจริงที่เชิญให้มาพิสูจน์ได้ อย่าเพียงแต่สงสัยโดยไม่ได้ปฏิบัติอะไรเลย
     
  2. อริยะบุญ

    อริยะบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +1,739
    ซึ่งวันนี้เป็นอีกวันที่ตุ้ยอธิบายเรื่องราวแปลกๆหลังจากที่เขาถอนออกจากสมาธิเกี่ยวกับการพยายามเข้าไปรู้อดีตของตัวเขาเอง ใช่ญาณที่ว่านี้คือ อตีตังสญาณ

    ซึ่ง เป็น ๑ ใน ๗ ของญาณต่างๆ ที่เป็นบริวารของทิพยจักษุญาณทั้งหมด

    ๑. ได้จุตูปปาตญาณ รู้ว่าสัตว์ที่ตายไปแล้วไปเกิด ณ ที่ใด ที่มาเกิดนี้มาจากไหน
    ๒. เจโตปริยญาณ รู้อารมณ์จิตของคนและสัตว์
    ๓. ปุเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติที่เกิดมาแล้วในกาลก่อนได้
    ๔. อตีตังสญาณ รู้เหตุการณ์ในอดีตได้
    ๕. อนาคตังสญาณ รู้เหตุการณ์ในกาลข้างหน้าต่อไปได้
    ๖. ปัจจุปปันนังสญาณ รู้เหตุปัจจุบันว่า ขณะนี้อะไรเป็นอะไรได้
    ๗. ยถากัมมุตาญาณ รู้ผลกรรมของสัตว์ บุคคล เทวดา และพรหมได้ว่าเขามีสุขมีทุกข์เพราะผลกรรมอะไรเป็นเหตุ


    “เป็นอะไรลูก ทำไมเอามือมากุมอกตัวเองไว้อย่างนั้น”

    เสียงคุณพ่อถามขึ้น เมื่อเห็นตุ้ยถอนออกมาจากสมาธิแล้ว เอามือมากุมที่หน้าอกของตัวเอง พร้อมแสดงอาการเจ็บปวดให้เห็น

    “พ่อเมื่อกี้ตุ้ยลองย้อนไปดูเรื่องราวของตุ้ยในอดีต”
    “อ้า...หรือครับ ทำไมถึงทำอย่างนั้นละครับ”

    คุณพ่อหูผึ่งอีกและวันนี้ นี่ตุ้ยเริ่มชักก้าวหน้าไปใหญ่แล้ว นี่มัน อตีตังสญาณ นี่

    “ตุ้ยอยากรู้พ่อ วันนี้ไม่มีงานอะไร ตุ้ยเลยอยากเข้าไปดู”
    “แล้วเป็นไงครับ เล่าให้คุณพ่อฟังซิลูก อยากรู้เหมือนกัน”
    “ตอนแรกก็เข้าไปดูดวงแก้ว จากนั้นไม่มีอะไรทำเลยคิดถึงตัวเองตอนอยู่อนุบาล จากนั้นตุ้ยก็เลยถอยหลังไปเรื่อยๆครับ ตอนยังไม่เข้าอนุบาล เห็นตัวเองขี้ใส่กางเกงด้วย”

    ถึงตอนนี้ ตุ้ยหยุดพูดต่อ แล้วก็เอามือมากุมที่หน้าอกเหมือนเดิม

    “แล้วหน้าอกเป็นไรครับ เห็นทำท่าเหมือนเจ็บเอามากๆ”
    “พอตุ้ยถอยมาเรื่อยๆ ตุ้ยก็เข้าไปอยู่ในท้องแม่ครับ แต่พอเข้าไปมันเหมือนกับเจ็บมากๆ จนทนไม่ไหว ตุ้ยเลยออกมานอนดิ้น อยู่ตรงหน้าร่างกายตัวเองเลย”
    “เอ...แปลก เข้าไปอยู่ในท้องแล้วทำไมต้องเจ็บปวดขนาดนี้”
    “ไม่รู้ครับ แต่ปวดมาก ขนาดออกมาแล้วก็ยังปวดอยู่เลยพ่อ”

    คุณพ่อสงสัยถึงสิ่งที่ตุ้ยเล่า พยายามคิดหาสาเหตุว่าทำไมเขาถึงเจ็บปวด หรือว่าจะเป็นตอนคลอด

    “อืม ..ตอนนี้ค่อยยังชั่วหรือยังลูก”
    “ดีขึ้นครับ แต่ตุ้ยคงไม่เข้าไปอีก”
    “ครับ งัน้แผ่เมตตาเถอะ เดี๋ยวจะดึกครับ”

    คุณพ่อกับตุ้ยจึงพากันแผ่เมตตาจนเสร็จ จากนั้นก็ออกจากห้องพระ แล้วเข้าไปที่ห้องนอน ซึ่งมีคุณแม่กับน้องนุ้ยนอนอยู่ในห้องนอนก่อนแล้ว แต่ยังไม่หลับ เจ้านุ้ยอายุจะปีครึ่งแล้วยังดูดนมแม่อยู่ แต่พอเห็นพี่ชายกับคุณพ่อก็ลุกขึ้นมานั่ง คุณแม่ก็พยายามบังคับให้นอนแต่ก็ไม่ยอม

    คุณแม่สังเกตเห็นตุ้ยเอามือมากุมหน้าอกจึงถามขึ้นว่า

    “เป็นอะไร เจ็บหน้าอกหรือลูก”

    ก่อนที่ตุ้ยจะเอ่ยปากตอบ คุณพ่อก็บอกคุณแม่ไปว่า

    “เมื่อกี้เขาไปดูอดีตของเขาเอง แต่พอเข้าไปอยู่ในท้องหนู เขาก็บอกว่าเจ็บ นี่พี่ก็งง ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น”
    “อ๋อ ไม่ใช่ตอนที่หนูกำลังจะคลอดหรือพี่ เพราะเขาให้ยาเร่งคลอด มดลูกบีบรัดตัว เพราะตุ้ยก็ติดตั้ง ๘ ชั่วโมงก่อนจะคลอดออกมาได้ จนแพทย์เขาเตรียมห้องผ่าตัด เพื่อผ่าตัดออกทางหน้าท้อง”
    “อืม..หรือจะจริง”

    โอ้.. ความรู้สึกฝังลึกขนาดนี้เลยรึนี่

    แล้วพวกเด็กที่ถูกฆ่าในขณะที่อยู่ในท้องแม่ที่มีรูปร่างเป็นคนแต่จิตเป็นเดรัจฉาน ที่ใคร่ในกาม เสพสมกันจนท้องแล้วไปเอาเด็กออก โดยการไปทำแท้งนี่ เด็กพวกนั้นคงทรมานอย่างแสนสาหัสทีเดียวเลย ช่างน่าสงสารเด็กพวกนั้นจริงๆ
     
  3. pp-rom

    pp-rom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +121
    ติดตามอ่านอยู่นะครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆครับ
     
  4. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    เพิ่งทราบเหมือนกันค่ะ ว่าความรู้สึกขณะอยู่ในท้องฝังลึกในตัวเด็กขนาดนั้น

    มิน่า..เคยดูรายการเจาะใจ คุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งรักษาคนด้วยวิธีการทางจิต

    (ให้เขาย้อนไปในอดีตด้วยตัวเอง แล้วลบภาพที่เป็นปมเหล่านั้น)

    มีคนนึง ย้อนไปดูได้ถึงตอนอยู่ในท้องแม่ รู้สึกว่าแม่ไม่ต้องการเขา

    ทำให้เขาทำอะไรก็ไม่ประสบผลสำเร็จจนถึงปัจจุบัน

    แต่พอเขารู้ว่า แม่แค่ยากจน และกลัวจะเลี้ยงลูกไม่ได้เท่านั้น ไม่ได้รังเกียจเขา

    ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเหมือนเป็นคนละคนเลยค่ะ (ตอนดูยังตั้งคำถามในใจ ว่าเป็นไปได้หรือ

    ที่คนเราจะไปรู้สึกขนาดนั้น กับเรื่องตอนอยู่ในท้องแม่)

    ----------------------------------------

    ขอบคุณน้องตุ้ยและคุณพ่อนะคะที่มาเล่าให้ฟัง....
     
  5. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    น้องตุ้ย เก่งจริงๆค่ะ แค่น้องตุ้ยนั่งสบายๆ จิตก็เข้าสมาธิได้รวดเร็วแสดงว่าจิตอยู่ในณานตลอดเวลา^^
    ขอโมทนาสาธุ กับบุญ ทาน ศีล ภาวนาที่น้องตุ้ยได้บำเพ็ญมาตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติด้วยค่ะ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2011
  6. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    อนุโมทนาสาธุนะคะน้องตุ้ยและคุณพ่อของน้อง รออ่านอีกค่ะ
     
  7. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    ขอชื่นชมกับความวิริยะ อุตสาหะ ที่แกะเทปออกมาเป็นตัวอักษรให้สมาชิกได้อ่านครับ
     
  8. แก้วกลางใจ

    แก้วกลางใจ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +5
    น้องตุ้ยคือ(ตัวละคร)ที่เจ้าของกระทู้แต่งขึ้นมาแน่ๆเลย ไม่มีตัวตนอยู่จริง เหมือนเค้าโครงของ(หนังสือจุไร+ของวัดท่าซุง)ชัดๆเลยอะ
     
  9. อริยะบุญ

    อริยะบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +1,739

    จริงแล้วท่านน่าจะ พิจารณาในรายละเอียดก่อนคงจะดี ว่ามีที่มา ที่ไปอย่างไร ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็น

    หากเจตนาเป็นดังที่ท่านว่า แม้เพียงศีล ๕ ก็พร่องไปเสียแล้ว
    ผมคงอายและไม่กล้าที่จะยกข้อธรรมมานำเสนอนะ
     
  10. อริยะบุญ

    อริยะบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +1,739
    ตรวจสอบพลังของพระเครื่อง

    “พ่อ ขอพระนั่นหน่อย เดี๋ยววันนี้ตุ้ยจะชารต์พลังให้”<o></o>
    “อ้าวทำไมละครับ”<o></o>
    “ก็ไม่มีอะไรทำครับ วันนี้ขี้เกียจไปเที่ยว”<o>
    </o>
    <o></o>
    อือ...พุดออกมาได้ขี้เกียจถอดกายทิพย์ไปเที่ยว นี่ตูอยากไปใจจะขาดอยู่รอนๆ ก็ไปไม่ได้ มาพูดให้ตูอิจฉาเล่น<o>
    </o>
    <o></o>
    คุณพ่อเอื้อมมือไปหยิบพระเครื่องที่เป็นเนื้อดินสีแดงอิฐ มีรูปของพระพุทธรูปนั่งบนแท่น ๕ ชั้น ด้านหลังมีอักขระกำกับไว้ ที่ตุ้ยมักถือไว้ในมือเวลาที่เขาต้องออกเดินทางที่ต้องใช้กำลังมากๆ เช่นการลงไปในแดนนรก การเข้าไปหาพระ หรือการออกไปดาวอื่น เนื่องจากตุ้ยมักบอกว่า ช่วยเขาได้มากและไม่ทำให้เขาเหนื่อย<o>
    </o>
    <o></o>
    “นี่ลูก แล้ววันนี้จะอัดพลังอย่างเดียวรึ”<o></o>
    “ครับ”<o></o>
    “อืม..งั้นเดี๋ยวคุณพ่อสวดมนต์เสร็จค่อยมาแผ่เมตตา ..เริ่มครับ”<o></o>
    <o></o>
    คุณพ่อให้สัญญาณเพื่อให้ตุ้ยได้เข้าสมาธิ เพื่อที่คุณพ่อจะได้สวดมนต์ต่อไป คุณพ่อสวดมนต์ใกล้จะจบในบทชินบัญชร ตุ้ยก็ลืมตาขึ้น และนั่งรอคุณพ่อที่กำลังสวดมนต์อยู่<o></o>
    <o></o>
    “เป็นไงครับ ทำไมวันนี้เสร็จไว”<o></o>
    “ก็ตุ้ยไม่ได้ไปไหนนี่พ่อ แค่อัดพลัง พ่อ เมื่อกี้ตุ้ยเห็นพระที่อยู่ในพระเครื่องนี้ด้วย”<o></o>
    “อ้าวหรือครับ เป็นไงครับ”<o></o>
    “คือมีพระที่เดินจงกรมก็มี พระนั่งสมาธิอยู่ก็มี นอนทำสมาธิอยู่ก็มีครับ แล้วก็มีเทวดาด้วย ผิวสีแดงๆเลยนะพ่อ ไม่ใช่รัศมีสีแดงเหมือนยมทูตนะ คือตัวสีแดงๆเลย ผิวสีเขียวๆก็มีนะ เยอะมากเลย”<o></o>
    “วู้..ในพระเครื่องเนี่ยนะ”<o></o>
    “ครับ อยู่ในนี้”<o></o>
    “เอ.. แล้วเล็กๆแบบนี้ไปแออัดกันได้ไงเยอะแยะแบบบั้น”<o>

    </o>
    คุณพ่อถาม เพื่อกระตุ้นให้เขาอธิบาย ด้วยความเข้าใจของเขา ถึงสิ่งที่อยู่ในพระเครื่อง<o></o>
    <o></o>
    “พ่อ ตุ้ยว่าเป็นพลังของพระนะพ่อ ไม่ใช่ตัวจริงๆท่าน”<o>
    </o>
    <o></o>
    อ้า...เข้าล๊อค เจ้าตุ้ยเข้าใจ<o></o>

    “แล้ว ทำไมตุ้ยถึงเห็นเป็นพระ เห็นเป็นเทวดาในพระนี้ละลูก”<o></o>
    “มันเหมือนตอนที่ตุ้ย อัดพลังลงไปนะพ่อ พอตุ้ยทำ ก็เหมือนมีตุ้ยอยู่ในนี้เหมือนกัน”<o></o>
    <o></o>
    แต่เธอยัง หัวเท่ากำปั้นอยู่นะตุ้ย นี่มันล้ำหน้ากันเกินไปแล้วนะเฟ้ย อืม...นี่มันหลักการปลุกเสกพระเครื่องนะที่เกจิ อาจารย์ที่มีกำลังฌานแก่กล้า หรือพระจำนวนมากๆมารวมจิตเพื่ออัดพลัง หรือแม้กระทั่งอัญเชิญเทพ เทวดามาร่วมกัน ในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลนี่นา<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2011
  11. maha1818

    maha1818 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +35
    อนุโมทนา สาธุ
    มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ มีธรรมเป็นเครื่องอาศัย
     
  12. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    วันที่สมัคร: Aug 2011
    ข้อความ: 3
    พลังการให้คะแนน: 0

    พึ่งสมัคร มา คงไม่ได้ทราบอะไรมาก

    สัมมาสติ
    พิจารณาจิตในจิต
    นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได
    ้(พุธวน)

    ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำไปที่มาสอบอารมณ์ให้ ผมว่านะ

    กระทู้คุณพ่อทุกกระทู้แม้แต่ใน FaceBook ไม่รู้หรอกว่า
    ทำให้คนเราตื่นตัวเร่งปฏิบัติไปเท่าใดแล้ว ลองถามเพื่อนๆสหายธรรมคุณพ่อสิครับ

    อนุโมทนากับคุณพ่อและน้องมากๆๆครับ
    เอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2011
  13. Kamhaeng

    Kamhaeng สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    ใครที่ทำไม่ได้อย่างน้องตุ้ย แล้วอย่าเพิ่งว่าเค้าเลยครับ บาปกรรมตัวเองปล่าวๆ พ่อน้องตุ้ยเค้าบอกมาเสมอๆว่า เรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้มีอยู่จริง ตลอดแต่ก็ชอบว่ายังงั้นยังงี้ ลองทำให้ได้เองดูก่อน ถ้ายังทำไม่ได้อย่าเพิ่งว่าอะไรใครเค้า มันปาบกรรมตัวเองนะผมขอเตือน เพราะคนที่เค้าเข้าใจเรื่องจากน้องตุ้ยแล้วทำแต่เรื่องคิดดี พูดดี ทำดี พ่อน้องตุ้ยกับน้องตุ้ยเอง เค้าได้ทำกุศลเรื่องดีด้วยในตัว แต่นี่อะไรมาถึงก็ต่อว่าก่อนเลย ก่อนที่จะใช้ปัญญาคิดในทางที่ดีคิด เตือนด้วยความหวังดีครับก่อนจะต่อว่าพ่อน้องตุ้ย ผมกลัวพวกท่านจะตกนรกด้วยเรื่องในใจด้านมืดของท่านเอง ตัวเองมืดอย่านำพาคนอื่นไปด้านมืดด้วย ขอให้ลงนรกไปคนเดียว สาธุ หัดอ่านเรื่องให้เข้าใจก่อนจะโพสมาด่าและว่าพ่อน้องตุ้ย เรื่องของผมถ้าเอามาเล่าแบบพ่อน้องตุ้ยผมคงโดนด่าเละกว่านี้ มันเกินความเข้าใจของพวกปัญญามนุษย์ ที่ยังมีความโลภ ความโกรธ ความหลง... ขอให้ครอบครัวพ่อน้องตุ้ย มีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
  14. mavie

    mavie สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +13
    คุณโนลีขา... ขอให้ความรู้สึกที่ได้รับที่นี่เป็นการเรียนรู้ธรรมนะคะ
    การพิจารณาให้ถ้วนถี่(ความรอบคอบ) ก่อนที่จะออกความเห็นใดๆ
    เป็นสิ่งที่ควรกระทำค่ะ ทุกๆท่าน ณ ที่นี้ ยินดีต้อนรับนะคะ
    พวกเราในที่นี้ ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    และเรื่องราวจาก คุณอริยะบุญและน้องตุ้ยค่ะ
    ถ้าข้อความนี้กวนใจท่าน ต้องกราบขออภัยด้วยนะคะ
     
  15. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ รออ่านต่อค่ะ ขอบคุณน้องตุ้ยและคุณพ่อของน้องค่ะ
     
  16. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    พ่อน้องตุ้ยคิดเสียว่า คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ก็แล้วกัน
    และต้องมีอยู่ส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจ ....

    ศีล5 เป็นเรื่องสำคัญของนักปฏิบัติ ผู้ไม่มีศีล5 จะไม่เข้าใจ
    ก็เป็นเรื่องธรรมดา นะครับ...ธรรมดาของโลก

    อนุโมทนาครับ
     
  17. แก้วกลางใจ

    แก้วกลางใจ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +5
    ผู้ชายอกสามสอกขี้น้อยใจจัง.......ไม่ไหวๆ
     
  18. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    เยี่ยมครับ ข้อความนี้ ผม Like คุณโนลี

     
  19. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    เป็นกำลังใจให้น้องตุ้ยและคุณพ่อของน้อง รออ่านค่ะ อย่าลืมนะคะ มารไม่มีบารมีไม่เกิด
     
  20. อริยะบุญ

    อริยะบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +1,739
    เข้ากราบหลวงพ่อโต และหลวงตามหาบัว

    นี่ก็เกือบครบ ๑ ปีเต็มแล้วที่ตุ้ยได้มาฝึกสมาธิกับคุณพ่อ เหลือเพียงอีกไม่กี่วันเท่านั้น หวนให้นึกถึงวันที่ตุ้ยเริ่มฝึกสมาธิ ตุ้ยเขาอยากฝึกเองด้วยเห็นคุณพ่อทำสมาธิทุกวัน เขาเลยอยากทำตาม <o>
    </o>
    <o></o>
    จุดเริ่มต้นที่มิได้มาจากการบังคับ เกิดจากความสมัครใจของเขาเอง จากวันนั้นถึงวันนี้ในเรื่องของสมาธิเขาพัฒนาไปมากจนน่าทึ่งชนิดแบบก้าวกระโดด แต่ถึงอย่างไรสิ่งเหล่านี้ก็ยังอยู่ในการควบคุมดูแลของคุณพ่อที่ต้องกำกับไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ใช้เป็นเพียงเครื่องอยู่ เป็นวิหารธรรม นำความสามารถนี้เพื่อการช่วยเหลือ สงเคราะห์ หรือเป็นกีฬาสมาธิที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านมักพูดถึง <o>
    </o>
    <o></o>
    หลายเรื่องราวที่ตุ้ยได้เล่าบอกหลังจากถอนออกจากสมาธิ คุณพ่อต้องเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ อาจจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างกับท่านที่เพียรในทางนี้ ซึ่งบางอย่างอาจจะปรากฏบ้างในตำรับตำรา แต่บางอย่างไม่มี เพื่อนำไปเทียบเคียงกับการปฏิบัติของตน รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้แก่เหล่านักปฏิบัติ จิตภาวนาทั้งหลาย รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นอย่างถึงใจว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง มิใช่เรื่องโกหก พกลมไร้สาระ <o>
    </o>
    <o></o>
    หากจะพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับตุ้ยในเรื่องของสมาธินี้ คุณพ่อผู้ที่ดูแลและใกล้ชิดเขามากที่สุดรู้ว่า ตอนนี้ตุ้ยได้ กสิณเพียง ๑ กองเท่านั้น จากทั้งสิ้น ๑๐ กอง นั่นคือ กสิณแสงสว่าง แต่กสิณแสงสว่างเพียงกองเดียวก็มีความมหัศจรรย์และมีกำลังมากถึงปานนี้ ควรแล้วที่เราๆ ท่านๆจะได้นำไปพิจารณากัน<o>
    </o>
    <o></o>
    และหากมีท่านใดได้กสิณ ๑๐ กองนี้ในยุคสมัยเรา เราคงได้เห็นสิ่งดีๆ เหมือนเรื่องราวที่หลวงพ่อฤๅษีสอนเราเป็นแน่ และกำลังสมาธิขั้นนี้ จิตจะมีกำลังมาก การจะออกเดินทางด้านปัญญาก็จะทะลุ ทะลวงกระจุยกระจายไปหมดทั้ง กาย เวทนา จิต และสภาวธรรม เมื่อนั้นการจะมาหลงยึดในสิ่งเหล่านี้คงเป็นการยาก<o>
    </o>
    <o></o>
    แต่ยังมีเหล่านักปฏิบัติหายต่อหลายคนไม่สนใจในเรื่องของสมาธิ อันนี้ก็แปลกว่าทำไมถึงเป็นดังนั้นไปได้และก็สอนกันไปแบบแปลกๆก็มี หากท่านที่ได้รับการอบรม สั่งสอนมาแบบนั้นขอให้พิจารณาในรายละเอียดให้ถี่ถ้วนในหลักความจริงดังกล่าวเถิดว่า แม้แต่พระบรมศาสดาของเราท่านยังต้องทำสมาธิ แล้วท่านที่บอกว่าไม่ต้องทำสมาธินั้นมิได้เก่งกว่าศาสดาตนไปแล้วหรือ บางคนบอกว่าตนฝึกสติอย่างเดียว ในที่นี้ผู้เขียนได้เคยอรรถาธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วว่า สตินั้นมีหลายแบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...