สนทนากับองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า โดย พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chilaoon, 11 ตุลาคม 2010.

  1. makotokub

    makotokub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +242
    ผมเห็นด้วยกับคุณ YUT KOP นะ...

    พระองค์ตรัสว่า ภพแม้ชั่วลัดนิ้วมือเดียวก็น่ารังเกียจดุจมูถคูถ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ผู้ไปนิพพานแล้วจะไม่กลับมายังระบบภพภูมิในวัฏสงสารอีก...หากการประทับร่างทรงทำให้สนทนากับพระองค์ได้จริง ถ้างั้นก่อนปรินิพพาน ก็คงสั่งเสียไว้ล่ะครับว่าหากมีปัญหาก็อัญเชิญพระองค์ลงมา แต่กลับตรัสว่า ดูก่อน อานนท์ เรากล่าวไว้ว่า ธรรมะของเราจะเป็นตัวแทน ตถาคต เมื่อ ตถาคต ดับขันธ์ นิพพาน

    ..อีกอย่าง หากการรู้ธรรมแค่ผ่านร่างทรงได้นี่ สมัยก่อนพระพุทธองค์ก็คงอัญเชิญพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ มาถามอริยสัจ 4 ไม่ดีกว่าหรือ แทนที่จะทรงลำบากตรากตรำพระวรกายตั้ง 6 ปี กว่าจะตรัสรู้ธรรม...ผ่านมาสองพันกว่าปี แทนที่จะศึกษาธรรมของพระองค์ เราก็เข้าหาร่างทรงกันอีกแล้ว ผมล่ะน้อยใจแทนพระองค์จริงๆ

    ...โดยความเห็นส่วนตัวผมว่า เรามาศึกษา และปฏิบัติตามพระพุทธวจนะนี่และครับ ตรงที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่พระองค์ได้สั่งสอนไว้อย่างแท้จริง และบันทึกจากความทรงจำของพระอรหันต์โดยตรง และยังเป็นอกาลิโก คือเป็นความตรงจริงไม่จำกัดกาลอีกด้วย
     
  2. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    ไร้สาระ ถ้าอัญเชิญเทวดาหรือพรหม มาทรงแล้วสั่งสอนผมว่ายังเชื่อได้

    นี่ทรงพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านมีอานุภาพมากครับไม่จำเป็นต้องใช้ร่างทรงเป็นสื่อหรอก

    มีแต่พวก พ่อปู่ แม่ ย่า เทวดาชั้นไม่สูงนัก ที่ต้องพึ่งร่างทรงเป้นสื่อกลางเพราะตัวเองมีอานุภาพไม่พอปรากฏให้คนเห็นหรือได้ยินอย่างชัดแจ้งยังไงล่ะครับ -*-

    ดัวนั้นหนังสือเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ FAKE !

    ขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
     
  3. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    อ่านให้ดีมันก็ดี อ่านให้ไม่ดีมันก็ไม่ดีได้ บางครั้งเลือกอ่านเลือกศึกษาแต่สิ่งที่ตนว่าถูกมันก็ถูกตามความคิดตนเองอยู่ ต้องวางใจเป็นกลางเอาแต่สิ่งที่มันเป็นประโยชน์มาใช้ ถูกผิดมันอยู่ที่คนเราเลือกเอามาใช้ให้มันเป็นประโยชน์
    CDโป๊ที่ว่าไม่ดี เอาไปติดหางช้างให้มันสะท้อนแว๊บว๊าบยังได้เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2010
  4. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    อนุโมทนาครับ
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง
    ส่วนใหญ่เป็นผู้แสวงหาทาง แล้วลองอยู่ เหมือนคนที่ต้องการว่ายน้ำเผื่อไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่ตอนเขาว่ายน้ำไม่เป็น จึงไปซื้อตำราที่สอนการว่ายน้ำ แต่เขาเหล่านั้นไม่เคยลงไปฝึกซ้อมเลย พอมีคนสอนทางเขาเล่านั้นนำข้อมูลจากตำรามาบอก ซึงบางครั้งบอกผิดหรือไม่เข้าใจในการบอกก้อมี
    ถ้าคนที่ฝ่ายน้ำถึงฝั่งหรือเป็นแล้ว เขาจะไม่บอกอะไรเยอะ เขาจะให้ทำเลยแล้วสังเกตุสภาวะแล้วเป็นพี่เลี้ยงให้
    แต่คนที่อ่านหนังสือหรือคูมือ ส่วนใหญ่เขาไม่ต้องการพี่เลี่ยง เพราะเขารู้แล้วจึงทำให้ไม่ไปถึงไหน เพราะไม่ลงไปว่ายน้ำ หรือ ว่ายแล้ว ว่ายวนไปมาไม่ถึงฝั่งเสียที

    ขอแนะนำว่าให้หาครู หรือ พี่เลี่ยงชี้ทาง ใน Web นี้มีหลายคนครับ สังเกตุจากพูดได้ครับ ถ้าบุคคลไหนสอนให้เห็นในปัจจุบัน อยู่กับปัจจุบัน สติปัฐฐาน 4 ระลึกรู้กาย เวทนา จิต ธรรม พิจารณาธรรม แสวงว่าใช่
    -----------------------------------------------------------------
    ถ้าคนไหนบอก หรือ ยังอยู่ แค่ ทาน ศีล ภวนา แสดงว่ายังเริ่มเข้าทางอยู่
    ถ้าคนไหนสอนเรื่องวิถีทางแห่งการวางจิตในปัจุบันขณะ แสดงว่าเขาได้เข้าทางตรงแล้ว รับรู้ นิ่ง ไม่ไปผลักไส หรือ ไม่ไปอยู๋กับอารมณ์ที่ต้องการ รับรู้อารมณ์ที่มากระทบในปัจจับัน ถือว่าเข้าทางครับ
     
  5. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ผมให้เสียงเชื่อ 100% จากหนังสือเล่มนี้ เพราะอ่านแล้ว
    ผมให้เสียงเชื่อ 100% จากหนังสือเล่มนี้ เพราะได้ผ่านสภาวะตรงนี้ไปแล้ว และผ่านได้ก่อนที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้
    ท่านใด้ไม่เชื่อ ย่อมเป็นปัญหา และความเข้าใน อคติ ความเชื่อ เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ท่านจะมาตัดสินแล้วยัดเยียดความคิดท่านให้คนอื่นไม่ได้ และ ท่านไม่สามารถตัดสินได้ว่าถูกหรือผิด
    ความเชื่อที่ถูกต้อง ควรจะเกิดมาจากปัญญา ( ที่มาจากสภาวะหรือการปฎิบิติ มิใช่มาจากการคาดคะเน การคิดเอาเอง หรือว่าเข้ากับสิ่งที่ได้ฟังมา หรือได้มาจากครูบาอาจารย์ หรือ ได้จากการสอบเที่ยบจากตำรา)
    ตำรานั้นคำเอาไว้ชี้ทาง มิใช่เอาไว้ยึด
    -ธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่พระองค์ตัดนั้น ท่านไว้บอกแต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ท่านยังบอกไว้ด้วย ว่า ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

    คนไหนไม่เคยให้ทาน ท่านควรจะสอนให้ทาน
    คนไหนชอบเบียนเบียนผู้อื่น ท่านสอนเรื่องการไม่เบียเบียน คือ ศีล 5 ,10,227
    คนไหนเป็นคนฟุ่งซ่าน ท่านสอนเรื่องการเจริญสมาธิ
    คนไหนจม หรือ ยืดติดเรื่องครอบครัว สินทรัพ สามี ภรรยา ท่านสอนเรื่องทุกข์แห่งการยึดติด และ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
    คนไหนจมกับสุข /ทุกข์ ท่านย่อมสอน สุข/ทุกข์ นั้นไม่เทียง ให้เห็นการเปลี่ยนแปลง วางใจเป็นกลาง
    และอื่นๆ อีกมากมาย

    สรุปว่าทุกวิธี ที่เป็นไปเพื่อการจางคลาย การปล่อยวาง การคืน การสละออก ย่อมถูกหมดทุกวิถี ให้พิจารณาว่าจิตเราติดตรงไหน แล้วใช้เครื่องมือ หรือ ธรรมที่พระองค์ทรงตรัสแก้จริตแต่ประเภทออกเสีย เมื่อแก้จริตหรือปัญหาของเราได้แล้ว ให้วางเครื่องมือ หรือธรรมข้อนั้นเสีย ไม่ต้องไปยึดแลรักษามัน
     
  6. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    วันนี้ตั้งใจมาหาข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือนี้ ก็เลยเจอกระทู้นี้พอดี ส่วนตัวอ่านแล้ว
    ดีค่ะ ได้ประโยชน์
    ขอบคุณค่ะ
     
  7. witsanutongngam

    witsanutongngam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +75
    เป็นประโยชน์ดีครับ ถ้าปฏิบัติได้จริง ท่านที่มีความรู้มากจิง ๆ ควรนำความรู้มาฝึกวางอุเบกขา ดีกว่าน่ะครับ
     
  8. Suwadee

    Suwadee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +77
    อยากให้เจ้าของกระทู้ต่อให้จบเล่มเลยค่ะ อย่างน้อยก็มีประโยชน์สำหรับบางคน
    เอาใจช่วยนะคะ
     
  9. dhidadoy

    dhidadoy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +8
    รออ่านต่อครับ เพราะน้อยๆคนที่ไม่มีโอกาสได้อ่านเพราะอยู่ไกล และหาซื้อมาอ่านลำบาก ก็สามารถมาอ่านได้ที่ีนี้ด้วย
     
  10. ployyim

    ployyim Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +73
    อ่านแล้วสุดยอดมากค่ะ.........จะปฎิบัติตาม :cool:

    ขอบคุณอาจารย์ที่ทำให้รู้้อะไรดี ดีที่ตัวเราเองไม่อาจรู้ได้ค่ะ
     
  11. PShinex

    PShinex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +382
    กระทู้นี้มีประโยชน์มากครับ ผมไม่ขอวิจารณ์เรื่องการเข้าทรงของพระพุทธเจ้าละกัน

    ผมได้อ่านบทความต่าง ๆ ที่คุณชยุตแปล ทำให้มาพิจารณาเรื่องทุกข์อีกแบบได้ความเหมือน
    ที่อธิบายในกระทู้นี้ ส่่วนเรื่องของดอกไม้และพืชต่าง ๆ ก็ทำให้เข้าใจในการการทำจิตให้
    เป็นกลางจนกระทั่งถึงเป็นบวกได้เพิ่มมากขึ้น ขอบคุณมากครับ
     
  12. มะยังภันเต

    มะยังภันเต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +8
    ใกล้ละเมิง

    พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน ให้พิจารณาในกาย เพื่อให้จิตละความยึดมั่นถือตน นี่ตัวกู นี่ของกู ทุกสิ่งล้วน เกิดขึ้น ั้อยู่ ดับไป แม้แต่จิต ก็ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

    ไม่มามีเวลา ดูใบไม้ ใบหญ้าดอก ฉิบหายเเล้ว... พุทโธ ไปไหนแล้วเนี่ย.. พุทโธ
    พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ

    ไปไหนอีกละ.... เฮ้อ..กินยาดีกว่ากรู..

    พุทธองค์ทรงฝากบอกมา.. ดูก่อน..
    หมอพงศ์ศักดิ์
    [COLOR=Magenta]ปล.[/COLOR]ก่อนจะลงหลุม คิดหาทางขึ้นจากหลุมให้ได้เสียก่อนจะดีกว่ามั๊ย มิฉะนั้น ถ้าตกหลุมแล้วจะหาทางขึ้นไม่ได้..rabbit_run_away
    [SIZE=6][COLOR=Magenta][SIZE=4]ชอบกดไลค์ ใช่กดลงชักโครกไปเลย [/SIZE][/COLOR][/SIZE]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 กันยายน 2012
  13. MajoyRt

    MajoyRt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +30
    พระพุทธองค์ต้องสื่อสารผ่านร่างทรงด้วยเหรอ เราเห็นแต่พวกภูมิผีปีศาจหรือพวกเทพ เทวดา เท่านั้น

    ในความคิดเห็นส่วนตัว พระองค์ สูงส่งมากกว่าที่จะมาในร่างทรง
     
  14. TeePhakin

    TeePhakin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +51
    "เราไม่โต้แยงกับโลก แต่โลกโต้แย้งกับเรา"

    บุคคลใดมีธรรม ย่อมเข้าใจในธรรม ไม่โต้แย้งในธรรม ไม่โต้แย้งในบุคคลผู้ให้ธรรม ถึงจะเข้าใจธรรมอย่างแท้จริง

    สิ่งที่กล่าวมานั้น ไม่มีผิดหรือถูกแต่ประการใด เพราะมันเป็นธรรม คือธรรมดาของธรรมชาติและมนุษย์ ย่อมมีจิตมีใจความคิดสติปัญญาต่างกันออกไป ถือเป็นธรรม ธรรมะ คือ ธรรมชาติของทุกสิ่งอย่าง พระพุทธเจ้าคือธรรมะ

    ถูกผิดในกรณีนี้หาไม่มี เพราะเป็นธรรม จะถูกผิดก็ต่อเมื่อเกิดการปรุงแต่งจากจิตมนุษย์ โดยแท้แล้วธรรมบริสุทธิ์

    ผู้ที่เชื่องโยงกระแสธรรมโดยตรงและอ้อม กับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นมีอยู่มากประมานมิได้ พระองค์ทรงตรัสว่า "สายใย" เป็นที่เข้าใจในกลุ่มพุทธะของพระพุทธองค์ บุคคลใดที่จะสามารถเชื่อมโยงกับพระพุทธเจ้าได้นั้น มิได้จำเป็นเลยที่ต้องทรงร่าง ท่านอาจจะแปลความหมายของผู้เขียนไปอีกแบบ เราไม่ทราบ แต่ข้าพเจ้ากลับเข้าใจว่า การสนทนาของคุณหมอนั้น มิได้แปลกหรือมีข้อสงสัยประการใด ยังซึ่งประโยชน์มากกว่า ขึ้นอยู่กับสภาพจิตของผุ้อ่านและผู้พิจารณา ความเข้าใจต่างๆ จะเกิดตามสภาวะ สภาพจิตของบุคคลนั้นๆ ต่างกันออกไป คุณหมอได้กล่าวแล้วถึง เรื่องการใช้ สติ พิจารณาเอาเอง ของแบบนี้เป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น... เชื่อไม่เชื่อท่านไม่ได้ยึด แต่ผู้นั้นเป้นคนยึด...พระพุทธเจ้าทรตรัสไว้ตอนหนึ่งว่า จงอย่าเชื่อเลยหากเป็นการรู้ด้วย การฟังเขามา จากตำรา จากอาจารย์ แม้กระทั่งพระองค์เอง ก็อย่าพึ่งเชื่อ จนกว่าจะได้พิจารณาเห็นตามนั้นแล้ว...ไม่ผิด เพราะท่านไม่ได้เห็นตามนั้น ท่านจึงไม่เชื่อ ถูกของท่าน...

    พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว ทั้งสิ้นในโลกธาตุ 3,584,192 พระองค์ ยังสงสัยอะไรอีกหรือ....??? ยังต้องเวียนว่าย อีกนานแค่ไหนหรือ...ถึงจะเห็นสัจธรรมของพระองค์ จึงยังไม่สามารถกลับนิพพานได้ มนุษย์มาจากนิพพานนั้นเห็นถูกแล้ว นิพพานนั้นที่กลับมาเป้นมนุษย์เป้นสภาวะนิพพานขึ้นหนึ่งเท่านั้น ยังมิใช่นิพพานบริสุทธิ์จึงติดกิเลสกลับมาเกิดได้อีก... กลับนิพพานนั้นเป็นเช่นนั้น เพราะอย่างนั้นจึงต้องมาทุกข์และหาทางกลับนิพพาน พ้นทุกข์อยู่ทุกวันนี้ ฟ้าคือทุกสิ่งทุกอย่าง ฟ้าคือธรรมชาติ มิได้เจาะจงผู้ใดผู้หนึ่ง ดังนั้นธรรมชาติ เรียกรวมว่า ฟ้า

    ของเหล่านี้ไม่มีในตำราใดๆ แม้กระทั่งพระอาจารย์องค์ไหนก็อาจจะไม่มีพูด ไม่ใช่ท่านเหล่านั้นไม่รู้ ท่านรู้โดยเฉพาะพระอรหัตน์ ท่านทราบดีอยู่ที่ว่าท่านจะพูดหรือไม่เท่านั้น...แปลก ไม่มี ไม่เหมือน ไม่เคยพบ ไม่เคยปรากฏไม่ได้หมายความว่าไม่มี เพราะเป็นธรรมจากพ่อธรรมสูงสุด คือพระพุทธเจ้า จึงไม่มีบันญัติไว้ในตำราใดๆ ตำราไม่ใช่อาจารย์ ธรรมชาติ คือ ธรรม เป็นอาจารย์ ยึดตำรา ยึดอาจารย์เป็นทางหนึ่งที่จำเป็น แต่ยึดแล้วไม่ปล่อย มันจะไม่พ้นนรกเอาได้...รู้แล้ว พิจารณาแล้ว วางเท่านั้น

    สิ่งที่คุณหมอพูดจริงไม่จริงไม่ทราบแต่ธรรมเหล่านั้นจริง เพราะเห็นตามจริง ระพุทธเจ้าตรัสเช่นนั้นจริง...แค่พิจารณาธรรมเหล่านั้น ผู้มีธรรมทราบได้โดยง่าย ไม่มีผู้ใดเคยสอนธรรม เหล่านั้น นอกจากพระพุทธเจ้าฯ

    ข้าพเจ้ามิบังอาจสั่งสอนใดๆ หากแต่ข้าพเจ้าได้รับความเมตตาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดธรรมเช่นกัน จึงมิได้ขัดของในธรรมใดเลยในโลก...

    จงพิจารณาธรรมทั้งหลายด้วยธรรม ดีแล้ว จึงวาง ไม่ยึดไม่เกาะ จะไม่พ้น

    การเข้าทรง ที่คุณหมอกล่าวนั้น ท่านมิได้อธิบาย แต่ไม่ได้หมายความท่านเข้าสิงร่าง เพราะธรรมชนรู้อยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ถูกตามจริง เป้นการเชื่อมต่อทางจิตเป็นกระแสธรรมที่เชื่อมโยงถึงผุ้มีธรรม มีสมาธิระดับหนึ่ง แล้วถ่ายทอดออกมาเป้นคำพูดโดยอาศัยสื่อเป้นบุคคลเพื่อเชื่อมโยง...พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ทรงร่างสตรีผุ้นั้น แต่ท่านส่งกระแสธรรมลงมาสู้จิต คุมร่างเท่านั้น โปรดใช้ สติพิจารณาเฉพาะในธรรมนั้นๆเถิด... การกล่าวโทษบุคคลอื่นเป็นทุกข์ พึ่งมองดูจิตตนเองให้ดีเถิด จะได้ไม่ทุกข์ เพราะความคิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2013
  15. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ขอแสดงความเห็น ด้วยคนครับ เป็นแง่คิด

    1.ภัทรกัป นี้ มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ดังนั้น แสดงว่า กัปนี้ทั้งกัปน์ พระพุทธเจ้า ทั้ง5 พระองค์ จะไม่ไปไหน หมายถึง 4 พระองค์ที่ผ่านมา จะพากัน ปิดกัปน์เมื่อ ได้มีพระพุทธเจ้า ทั้ง 5 พระองค์ครบก่อน (ความเชื่อส่วนตัว) หมายความว่า ความเป็นพระพุทธเจ้า ทั้ง 4 พระองค์ที่ผ่านมา นั้น ยังคงอยู่ ใน กัปนี้ ดังนั้น กัปนี้ จะยังมีพระพุทธเจ้า ดูอยู่ ทั้ง 4 พระองค์ และ การเกิด วัฏฏะนี้ จักรวาลนี้ ก็ เกิดจาก พุทธะ ดังนั้น พุทธทั้งหลาย จะยังไม่หนีหายไปไหน ตราบใดที่ กัปน์นี้ยังไม่สิ้นสุด ดังนั้น อย่าได้พากันคิดว่า พระพุทธเจ้า ท่านไม่อยู่แล้ว เป็นเด็ดขาด เพราะ พระพุทธเจ้า องค์สุดท้าย ยังไม่ปรากฏเลย ดังนั้น
    2. พลังงาน ของ พระพุทธเจ้ายังคงมีอยู่ คู่กัปน์นี้ คำว่าพลังงาน ก็คือ สนามแม่เหล็กของจักรวาล ที่ มี ดวงอาทิตย์ มีดวงหมุนรอบ มีแสงสาดส่อง มาถึงโลกได้ ยังไง เรารู้ร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ยังไง อย่าสงสัยในพลังงาน ว่าไม่มีจริง เพราะ พระพุทธเจ้า องค์ที่4 ก็ได้เคยตรัสเอาไว้ว่า เราวางคืน ทศพลญาน ไว้ที่โลก นี้ ไม่ได้เอาไปด้วย
     
  16. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ดังนั้นอย่าเอาความคิดเห็น ของตัวเอง มาตัดสินว่า สิ่งนี้มีหรือไม่ หรือสิ่งนี้ไม่มี
    นั่นเพราะ กัปนี้ ยัง ไม่จบ เพราะพระพุทธเจ้า ปรากฏมาแค่ 4 พระองค์
    ผมเชื่อว่า ที่ท่านเอามาแสดงนั้น จริง ทุกประการ เพราะ กาลเวลา ล้วน รอให้ พระพุทธเจ้า องค์ที่5 ได้ ปรากฏขึ้นมาก่อน ดังนั้น อนาคต ยังมีอยู่ ตราบที่ ยังรอให้ พระพุทธเจ้า องค์ที่ 5 ได้มาปรากฏในโลกนี้

    แต่ก่อน ผม ค้านมาตลอดว่า ไม่มีอะไรหลังตาย แต่ตอนนี้ ผม เข้าใจแล้วครับ ว่า
    มีแน่นอน นั่นเพราะ คำว่า นิพพาน ที่แท้จริงคือ ปิดกัปน์ ส่วนใครนิพพานก่อนก็จริง แต่ จะยังอยู่ในส่วน ที่ รอนิพพานปิดกัปน์พร้อมกัน อีกทีนึ่ง แล้วจะได้พบกับ พระพุทธเจ้า ทั้ง 5 พระองค์

    แล้ว จักรวาลก็จะ หดตัวเข้าหาดวงอาทิตย์ นิพพานไป รอให้ พุทธะองค์ใหม่กับกัปน์ใหม่ ระเบิดธาตุ สร้างจักรวาลใหม่ อีกกัปน์ต่อไปครับ

    ขอบคุณ ท่านเจ้าของกระทู้ ครับ


    ใครประมาท ผู้นั้น คือผู้มีความประมาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2013
  17. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ทำไมกัปน์นี้ ถึงต้องมีพระพุทธเจ้า ถึง 5 พระองค์ ใครสงสัยก็เอาไว้ รอถาม พระศรีอริยะเมตตรัย ก็แล้วกัน ครับ เพราะ ทั้งหมดทั้งมวล อยู่ที่ท่าน องค์เดียว องค์สุดท้าย
     
  18. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ใครที่ปรามาสธรรม แม้จะอ่านแล้ว รู้เองอยู่ว่า ถูกต้อง ตามที่แสดงมา
    แต่ยังมีมิจฉาทิฐิ เพราะ ด้วย ผู้นำมาแสดง เป็นเหตุ หรือเหตุขัดข้อง จากวิธีการนำมาแสดง นั่นคือ ผู้ที่อยู่ในความประมาท

    ท่านก็ปิดทางนิพพาน ของตัวเอง ด้วยตัวเอง นั่นเอง
     
  19. Nat2009

    Nat2009 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +38
    ผมก็เคยซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านเหมือนกันครับ สิ่งแรกที่ผมนึกถึงคือหลักกาลมสูตร คือ อย่าเชื่อเพราะท่านเป็นศาสดาของเรา จนกว่าจะพิสูจน์ด้วยตัวเราเอง (ถ้าทำได้นะครับ) ในพระไตรปิฎกเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระอรหันต์ทั้งหลายทำสังคายนาไว้ ความครบถ้วนของคำสอนของพระพุทธเจ้าที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกก็ดี ตลอดจนถึงการคัดลอกต้นฉบับที่ผ่านมาหลายช่วงอายุคนยังคงเป็นต้นฉบับเดิมอยู่ได้หรือไม่

    คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความจริงที่มีอยู่ในโลก เปรียบได้กับส่วนหนึ่งของใบไม้ในป่าเพียงหนึ่งกำมือเดียว สิ่งใดที่ไม่ปรากฎในพระไตรปิฎก อาจหมายถึงใบไม้ที่ไม่ได้อยู่ในกำมือ ซึ่งหมายถึงความจริงทีมีอยู่ในจักรวาลที่เราไม่รู้อีกมาก ทั้งนี้ สิ่งที่ปรากฎในเนื้อหาหนังสือเป็นข้อเท็จจริง อาจเป็นจริงก็ได้ เท็จก็ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2013
  20. lagus

    lagus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +155

แชร์หน้านี้

Loading...