วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วิริยาธิกะพิเศษบันทึก
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->PCO_<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3389188", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ขอพระบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมคำสั่งสอนท่านทุกพระองค์ บารมีของพระอริสงฆ์ทั้งหลายตั้งแต่องค์ต้นถึงองค์ปัจจุบัน พรหมทั้ง หมด เทวดาทั้งหมด พระบารมีของพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ต้น กลาง และโดยเฉพราะปรมัตถบารมี ของท่านทุกๆพระองค์ พระอาจารย์ฤาษี ทั้ง ๑๐๘ คุณของบิดามารดา อดีดถึงปัจุบัน ครูอุปฌาอาจารย์ อดีดถึงปัจจุบัน มีหลวงปู่ปาน หลวงพ่อเป็นที่สุด เกล้ากระผม ขออ้างอิงขอพระบารมี ทุกท่านทุกพระองค์ ที่กล่าวมา และบุญกุศลของข้าพุทธเจ้า ที่บำเพ็ญมาอดีดถึงปัจจุบันจะเกิดกับข้าพเจ้าเพียงไร ขอจงให้ท่านและบริวารทุกท่าน จงประสพสิ่ง อันพึงปราถนาทุกประการเทอญ

    แต่กระผม ก็ยังสงกะสัยอยู่ครับท่าน ข้ออธิฐานบางประการ ในเมื่อพวกเราเกิดกันมาจนนับชาติไม่ถ้วน ทำไม ถึงลูกหลานหลวงพ่อถึงมีความยากลำบากเช่นนี้ ทั้งเจอะเจอ พระพุทธเจ้ากันก็หลายพระองค์ มิหนำซ้ำ ทำพระบารมี กันมาตั้ง ๑๖ อสงขัย กำไลยแสนกัป จนถึงนะบัดนี้ ทำไมชีวิต ทุกคนต่างกันมาก และอยากถามท่านว่า ในส่วนบารมีตรงไหน ของท่านและศิษย์ ที่ยังไม่เต็ม และทำกับคนอื่นไว้ ก็ต้องไปใช้เขาเช่นกัน ตังตัวอย่างเคยเกิดเป็นายเขา ใช้แบบเยี่ยงทาส ที่เขาเป็นทาส และคนรับใช้มาก่อน ในเมื่อพวกท่านยังต้องเกิดกันอีก นาน มันไม่ต้องไปใช้เขาหรือครับ เพราะคนเราสร้างบารมีมาต่างกัน ดูตัวอย่าง พระพุทธองค์เกิดเป็นชาวนา เพื่อจะให้ ควายมันกินน้ำใส แต่ควายมันจะกินน้ำขุ่น พระพุทธองค์ ยังต้องได้รับผลของกรรมนั้นเลย ทั้งๆพระองค์มีเจตนาดีแท้ๆ ตัวอย่างอื่นยังอีกเยอะ ผมข้าผู้น้อยด้วยปัญญาอยู่ จึงอยากให้ท่าน ได้ชี้แจงแถลงไข ประดับปัญญาบารมีกับ เกล้ากระผม และผู้อื่นด้วยเถอะครับ ยังสงกะสัยอีกเยอะครับ

    เอ่แล้วคนที่ ปราถนาพุทภูมิ ต่อหน้าหลวงพ่อ และคนจำนวนเป็นแสน แต่แค่คน แต่งตัวแปลกกว่าชาวบ้านนิดหน่อย ทำไมถึงโดนพุทธภูมิ กล่าวติเตียน หนักพอดู ทั้งๆท่านก็ต้องเกิดไปเป็นทุกอย่าง ผมว่าท่านต้องรู้จัก แต่ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เรารู้กันแค่นี้พอ เพื่อจะให้เป็นความรู้ กับคนที่ยังไม่รู้ และคนที่รู้แล้วจะได้รู้ยิ่งๆขึ้นไป มันเป็นอดีดไปแล้ว แต่เพือ่ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาไว้ ตัวอย่างเช่น สมัยพุทธองค์ เคยเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ เมื่อพระองค์เดินทางมาถึง สระน้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสระสาธารณะ พระองค์เห็นดอกบัว จึงเข้าไปเก็บ เพราะว่า เป็นสระของคนจรไปมาทั่วไป ย่อมเก็บเอาได้ โดยไม่มีเจ้าของ เมื่อกำลังเก็บอยู่ ยักษ์ สียักษ์สา ได้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ แล้วกล่าวขึ้นว่า โขมยๆเจ้าข้าเอ่ยๆๆ พระพุทธองค์ได้กล่าวขึ้นว่า เราไม่ได้ โขมย เพราะเห็นไม่มีเจ้าของและเป็นของสาธารณะ คนทั่วไป สามารถ เก็บไปได้ ในเมื่อท่าน จะไปเป็นครูเขา หรือเป็นพระพทธเจ้า ซึ่งปราถนาพระโพธิญาณ จิตท่านต้องละเอียดกว่า นี้ เรานี้ แหละเป็นผู้ดูแลสถานที่นี้ เป็นเจ้าของ ฉนั้นท่านต้องขออนุญาติจากเราก่อน ซึ่งเป็นผู้ดูแล และพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ ในสมัยนั้น ยอมรับโดยดุษดี ภาพ

    กระผมขอถามท่านพี่หน่อยนะครับ อย่าหาว่าผมระลาภลล้วงเลยครับ เพื่อประโยชน์ต่อผม กับคนอีกหลายๆคน เพื่อประดับปัญญา ในการบำเพ็ญบารมีต่อไป ให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ท่านเคยได้รับฟังจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อหรือไม่ ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ล่วงไปแล้ว อีกกี่พระองค์ ถึงจะเป็นคิวของท่าน ที่จะมาตรัสรู้ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณน่ะครับ ตัวอย่างเช่น ขออ้างนะครับว่า หลวงพี่ เล็ก ท่านพูดว่า พี่บัญชา ซึ่งปราถนาพระโพธิญาณ ต่อหน้าหลวงพ่อ และคนอีกจำนวนมาก เป็นแสน อ. พี่เล็กท่านว่าหลวงพ่อท่านพูด อยู่กับท่าน และอีกกี่คนไม่ทราบ พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ไปแล้ว อย่างน้อยอีก ๔๐ กว่าพระองค์ถ้าไม่ลานะ และอีกท่านหนึ่ง พี่แดง พ.อ. แดง จำชื่อจริงไม่ได้ นามสกุลวิชชุพันธ์ น่ะครับ ท่านนี้ ถ้าจำไม่ผิด พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ไปแล้ว ๘๐ กว่าพระองค์หรือไงนี่แหละ ถ้าจำผิดก็ขออภัยไว้ที่นี้ด้วยนะครับ ได้ฟังมาเกือบ ๒๐ ปีแล้วครับอาจจะคาดเคลื่อนได้

    กระผมเคยถาม อ.ชาลี ลูกศิษย์หลวงพ่อ คณะแม่ชีสุรินทร์ ก.ม.๘ (วัดใหม่ฉายหิรัญ) ท่านคงรู้จักน่ะครับ ผมถามว่า อ.ชาลีครับ ในเมื่อ อ.ปราถนาพระโพธิญาณ ผมขอถามจริงๆเถอะ ตอนนี้ กำลังใจของ อ.สละลูกเมียให้เป็นทานน่ะได้หรือยัง แกบอกว่า พี่เณร ผมบอกตรงๆเลยนะ อ.ตอบว่ายังครับ แต่ถ้าให้ผมสละลูกตา แขนขา เลือดเนื้อ ได้เลยครับ แต่กำลังผมไม่ถึงสละลูกเมียหรอกครับ แต่ อ.จารย์แกว่าถ้าจำไม่ผิด ตอนแกไปตรัสรู้ แบบขอให้อลังกาลยิ่งกว่าพระพุทธเจ้า องค์ใดๆ จริงๆผมจำมาไม่หมด พูดผิดเดี๋ยวจะมีโทษมาก ขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้มาลองอะไรนะครับ จะถามไว้เพื่อ บุคคลอื่นและผมด้วย จะได้มีกำลังใจในการต่อสู้ กับพยามารต่อไปครับ

    ขอถามอีกนิดครับ ตอนนี้ท่าน เรียนรู้อารมย์ ของพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา และอารมย์ ของพระอรหันต์แล้วหรือยังครับ ตอนนี้ ท่านทรงอารมย์ ได้แบบไหนครับกระผม เพือ่ประดับความรู้ บุญญาบารมีครับ และเพื่อเป็นประโยชน์และความรู้กับบุคคลอื่นด้วยครับ และสุดท้านนี้ ท่านพี่กับผม ตั้งแต่อดีด ถึงปัจจุบัน และเวลานี้ ก็มีอะไรกันก็ขออโหสิกรรม ซึ่งกันและกันนะครับ ข้อเขียนต่างๆ นี้ก็เช่นกัน เพื่อประโยชน์ แก่ตนเองผู้อื่น เพื่อมีกำลังใจในการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ไป สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุในการปราถนาของท่าน และมีเวลาจะเข้ามาอีกครับสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2012
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ PCO_ [​IMG]
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ

    ตั้ง นะโม ๓ จบ
    สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
    นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา




    (บูชา 3,7,9 จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)
    พระคาถาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    <!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG][​IMG] ขอต่อยอดอีกครับ เวลาสวด 3-5-7-9-จบผลยังไม่ค่อยเกิด มันน้อยมากครับ แต้งใส่บารตด้วยทุกวัน และพระคาถา อย่างว่า ถ้าไม่มีเวลาใส่บาตร ก็ให้เอา เงินใส่บาตรวิระทะโย หรือภาชนะใดก็ได้ ว่าพระคาถา ที่ว่ามา ถึงเวลา ๑ เดือนหรือ เท่าไหร่ก็ได้ ไปถวายพระบอกว่า ให้เป็นค่าอาหารพระครับ ใส่ ๑ บาทหรือกำลังทรัพย์ของเราคือเราไม่เดือดร้อนน่ะครับ แถ้ทำอย่างว่า ผลมันก็เป็นแค่เป็นเบี้ยต่อไส้ ยังมีกินน้อยอยู่ แต่ไม่ค่อยขัดสน ผมทำมาน่าจะเกิน ๒๐ ปี [​IMG]

    (อันนี้รับรองผล) แต่ถ้าท่านทำ เป็นสมาธิบางคราว หรือนึกได้ทำ นั่งรถ ไปไหนมาไหน พอได้ทำบ้าง และเวลาสวดมนต์ ใช้ลูกประคำ นับสวด ๑๐๘ จบเดียวบ้าง ๒ จบบ้าง ๓ จบบ้าง ผมยืนยัน ได้ผลแน่นอน ท่านจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หน้ามือเป็นหลังมือ จะเป็นลูกจ้าง ชาวนา ชาวไร่ มันจะมีผลบังเกิดตามถานะ เคยทำนาได้ ๕ เกวียว เมือทำอย่างนี้ อาจจะได้ ๙-๑๐ เกวียว แล้วแต่จิตสอาด สอาดมากได้มากสอาดน้อยได้น้อย

    ตัวอย่างผม ถ้าขี้เกียจ สวดมนต์ไหว้พระ สวดพระคาถาวิระทะโย ลาภจะไม่เกิด สังเกตุดูครั้งละหลายๆวัน ลาภก็ไม่ได้ หนำซ้ำเงินก็หด รายได้ก็ลด ถ้าขยันทำขึ้นมาอีก ทำติดกัน ๒-๓ วัน ทำให้หนัก สวดวันละ ๒-๓ คาบ ๑๐๘จบนะ ลาภเกิดทันที สวดอย่าอยากได้ จิตสกปรก ไม่สอาด ลาภไม่เกิด ต้องสวด ให้จิต สอาด ตามกำลังของเรา บางครั้ง ต้องการเงิน ๔-๕ ห้าหมื่น ก็ได้ แต่อย่าอยาก ทำให้จิตสะอาด มีผลแน่นอน บางครั้งต้องการ สักแสน ก็ได้แต่ก็ก็อยู่ที่กำลังเราด้วยนะ บางครั้งอยากได้ สักแสน แต่กำลังไม่ถึง ก็ได้ครึ่งเดียว มันต้องทำเองครับแล้วสังเกตุดู พูดเป็นวันก็ไม่จบ

    แต่ยังไม่เคยทำถึงฌาณ มีท่านทำถึง ท่านบอก ลาภใหญ่เกิดแน่นอน ทำเป็นกรรมฐานเลยครับ ใครทำได้บอกด้วยครับ ถ้าทำจริงเวลาหุงข้าว ถ้าใช้ ข้าวจะเพิ่ม กินได้นานแต่ผม ไม่ได้หุง เมื่อก่อนเคยลองครับ ท่านที่ มีความขัดสน ทำเป็นกรรมฐานเลยยิ่งดีครับ ตัวผมเองมาจาก ศูนย์ครับ[​IMG]<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  3. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องพระคาถาเงินล้านนี้ก็เป็นอย่างที่คุณบุญทรงบอกก็เป็นตามนั้น ผมเองก็นำพระคาถานี้มาทำเป็นพระกรรมฐาน เริ่มแรกก็เอาสตางค์ใส่บาตรเล็กๆไว้วันละห้าบาท ต่อมาก็วันละสิบบาท สิบห้าบาท ยี่สิบบาท สามสิบบาท จนปัจจุบันนี้ ขั้นต่ำวันละสี่สิบบาท โดยจะเก็บเหรียญสิบบาทใส่กระป๋องไว้ ในตอนเช้าของทุกวัน ก่อนทำสมาธิ ก็จะนำเงินเหรียญใส่บาตรแล้วอธิฐานตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้พรที่พวกลูกหลานทุกคนคุ้นเคย คือขอจงสมความปรารถนาในทุกประการ ผมเองเมื่อใส่บาตรเสร็จผมก็อธิฐานว่าขอใหลูกนี้จงสมความปราถนาในทุกประการด้วยเถิด แล้วก็ที้งอารมณ์อื่นใดทั้งหมดก็นำพระคาถานี้มาทำเป็นกรรมฐาน ส่วนเรื่องเงินที่ใส่บาตรพอถึงเดือนทางแม่บ้านของผมก็จะทำการส่งเงินไปเป็นค่าอาหารพระที่วัดท่าซุงทุกเดือนก็ทำแบบนี้มานานมากแล้ว จนทุกคนในบ้านเคยชินเรื่องเงินเหรียญสิบบาท พอทุกคนมีเหรียญสิบบาทอารมณ์แรกคือนึกถึงว่าเงินเหรียญนี้สำหรับใส่บาตร ไม่ค่อยจะกล้าใช้เหมือนเหรียญอื่นๆหรือแบ๊งอื่นๆ ใช้สตางค์แบงพันไม่เคยรู้สึกอะไร แต่พอมีเหรียญสิบบาทเมื่อไรเป็นต้องไม่กล้าใช้ เพราะเห็นปั๊บก็นึกถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อทันที เรื่องขอผลนั้นก็ขอรับรองว่ามีผลจริงตามที่หลวงพ่อบอกทุกประการ เรื่องเคล็ดลับหรือรายละเอียดผมเห็นว่ามีคนนำมาโพสไว้มากแล้วก็เลยไม่นำมากล่าว บอกไว้เพียงสั้นๆว่าสวดขั้นต่ำ วันละ3,5,7,หรือ9จบ ซึ่งถ้าทำได้ทุกวันและใส่บาตรพระก็จะมีผลที่เรียกว่าเบี้ยต่อใส้ ถ้าต้องการความคล่องตัวก็จงทำเป็นสมาธิกรรมฐานเลย ผมเคยได้ยินพระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่า พระเดชพระคุณบูระพาจารย์หลวงปู่่ปานวัดบางนมโคท่านมีความเคารพในพระคาถาพระปัจเจพุทธเจ้ามากท่านนำพระคาถานี้ติดไว้ที่ประตูกุฏิของท่านเวลาเข้าออกหลวงปู่่ท่านจะยกมือไหว้พระคาถานี้ทุกครั้ง นั่นพระโพธิสัตว์พระบารมีเต็มชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของการสั่งสมบุญยาบารมียังมีความเคารพมากขนาดนั้น

    ก็ขอพระบารมีตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมบรมครูเป็นต้นลงมา มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกะพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์ท่านเจ้าของพระคาถา พระอรหันตทั้งหลาย พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย พรหมทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีท่านครูผึ้ง มีพระเดชพระคุณบูระพาจารย์หลวงปู่ปาน มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุงเป็นที่สุด ขอจงได้โปรดสงค์เคราะห์ทุกท่านที่นำพระคาถานี้ไปประพฤติปฏิบัติโดยความเคารพ จงสมความปรารถนาในทางที่เป็นสัมมาทิฐิทุกประการ จงมีความเป็นอยู่คล่องตัวเป็นไปตามพระพุทธประสงค์ทุกอย่างทุกประการนับตั้งแต่บัดเดี๋ยวเป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2012
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ความเกี่ยวเนื่องกันในการสร้างบารมีของผู้ปรารถนาโพธิญาณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Wisdom<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6585115", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG]ขออนุโมทนาสาธุ เป็นอย่างยิ่ง กระทู้ดีมีประโยชน์มากๆครับ สิ่งใดไม่รู้ ก็จะรู้ สิ่งใดรู้แล้วจะรู้ยิ่งๆขึ้นไปครับ[​IMG]

    ขอเสริมประดับความรู้ต่อกันครับ ขอเอ่ยนามของครูบาอารย์เลยนะครับ เรื่องของพระโพธิสัตว์ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ท่านได้กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้า จริงๆในกัปนี้ จะมาตรัสรู้ ถึง ๑๐ พระองค์ แต่พระโพธิสัตว์ ที่มีบารมีเต็มแล้ว รอคิว ที่จะมาตรัสรู้ นับเป็นแสนๆพระองค์ ที่ยังไม่เต็ม ผมว่าน่าจะ นับไม่ถ้วน ถ้าทำไม่ถึง ก็ลามาเป็นสาวก ของพระพุทธเจ้าในสมัยนั้นๆครับ ยิ่งในสมัยนี้ด้วยแล้ว อ่านประวัติหลวงปู่หลวงพ่อ ต่างๆ มาจากพระโพธิสัตว์ ลาเพื่อมาช่วยกันประกาศพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ปี เมื่อลาแล้ว ที่เห็นในสายหลวงปู่มั่น ก็สำเร็จ กิจ กันทั้งสิ้น เมื่อมรณะกระดูก ของแต่ละองค์ ก็เป็นพระธาตุ สายอื่นก็เยอะ สายหลวงพ่อฤาษี สายหลวงพ่อ สังวาลย์ สายหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก็ยังมีสายอื่นๆอีกครับ


    พระโพธิสัตว์มี ๓ แบบ ๓ ขั้น ที่ ๑ ปัญญาธิกะ บารมี บำเพ็ญบารมี ๔ อสงขัยกำไลย แสนมหากัป ที่ ๒ ศรัทธาธิกะบำเพ็ญบารมี ๘ อสงขัยกำไลย์แสนมหากัป ที่ ๓ วิริยาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงขัยกำไลย์แสนมหากัป พระพุทธเจ้าก็มี ๓ แบบนี้เท่านั้น ตัวอย่าง ปู่บุญเหลือ ซึ่ง เป็นฆราวาส ท่านเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งที่จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าในกัปนี้ ท่านสร้างรูปปั้นไว้ที่ ศาลาแก้วกู่ อ.เมือง จ.หนองคาย ม่เคยไปดูไดได้ครับ ท่านสร้างถาวรวัตถุ ไว้ชัดเจนว่าในกัปนี้ จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง ๑๐ พระองค์ อายุเท่าไหร่ ท่านแสดงไว้หมดครับ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘ เฉพาะในสายของท่าน หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ท่านเทศ ผมนั่งฟังอยู่ จนทำเป็นหนังสืออกมา และเทป ท่านว่าในสายของเรา ติดตามกันมาอย่างน้อย ๑๐ อสงขัย กำไลยแสนกัป ท่านหยุดนิดหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ จะติดตามกันมา กันมา ๑๖ อสงขัย กำไลยแสนกัป ถ้ามาเป็นสาวก บารมีมันล้นแล้ว ในเมื่อท่านลามาช่วยพระศาสนา ลูกหลาน บริวาร ก็จะลาตาม กันไป

    แต่ก็มีอีกส่วน หนึ่งที่ไม่ลา ต่อไปในภายภาคหน้า ที่บารมีเข้มแข็ง ที่จะเกิดไปเป็นพระเจ้าจักพรรดิ์ราช ท่านบอก ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิ เกิดอีก ๖ ชาติบารมีเต็ม เพราะชาตินี้ ท่านเกิดแล้วตาย ถึง ๕-๖ ครั้ง (บารมีจะเต็มในชาตินี้ ตรงนี้ผิดขออภัย) ถ้าไม่ลา นับต่อจากพระศรีอริยะเมตตรัย อีก ๒๒ พระองค์ ถึงจะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ถ้านับ พระศรีอารย์ ด้วย องค์ที่ ๒๓ และมีเกร็ดเล็กน้อย ท่านพูดในบรรดาศิษย์ ในหลวงองค์ ปัจจุบัน ถ้าท่านไม่ลา พุทธภูมิ ท่านจะตรัสรู้ เป็นพระพุทะเจ้าก่อน ท่าน นับพระศรี อารย์ ไป เป็นองค์ที่ ๑๗ ในหลวงตรัสก่อนหลวงพ่อครับ แต่ท่านได้ลาแล้ว และสอนศิษย์ให้ไปนิพพานในชาตินี้ครับ และถ้าไปไม่ได้ อย่างน้อยไปรอ อยู่สวรรค์ชั้น ดาวดึง ตอนพระศรีอริยะเมตตรัยมาตรัสรู้ ได้ฟังธรรม จากท่าน ก็จบกิจ เป็นพระอรหันต์ไปนิพพาน

    แม้แต่หลวงปู่ปาน ท่านก็เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อ ท่านบอก หลวง ปู่ปาน จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกัปนี้ ต่อจากพระราม ๆเป็นองค์ที่ ๖ ที่ ๗ หลวงปู่ปานครับ อีก ๓ องค์ ไม่กล้ากล่าว ในปัจจุบัน มาเป็นใครบ้างไม่ทราบ แต่ ช้างปาริไลยกะ กับช้างนาราคีรี จะมาตรัสรู้ ในกันนี้เช่นกันครับ ต่อไปในอนาคต พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ก็จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ เมล็ดทรายในมหาสมุทร ทั้งสี่ทิศก็ไม่เท่า โอ้มันช่างมากมายนัก แค่หยิบมากำมือเดียว ก็เป็นพันๆเม็ดแล้วอ่ะครับ ผมเองก้เคยสัมผัส ท่านที่เป็นพระโพธิสัตว์ ทั้งสัตว์ และพระ ฆราวาส ทั้งผู้หญิงผู้ชาย หลายองค์ทีเดียวครับ ที่ผ่านมา บารมีแต่ละองค์ก้ต่างกันไป พวกพระโพธิสัตว์นี่ ต้องขยันเกิดขยันตาย เกิดมาบำเพ็ญ บารมี ระหว่างคนกับสัตว์เท่านั้น เกิดไปเป็นเทวดา กับพรหม เขาไม่คิดให้ครับ แต่สาวก บำเพ็ญตอนเป็นเทวดา กับพรหมได้


    พวกพระโพธิสัตว์ ต้องมีเมียมาก ลูกมาก และสร้างบริวารมาก ที่จะไปเกิดร่วมกัน ต้องเก็บละเอียด รู้ สิ่งใดในโลก ละเอียด กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ต้องได้หมด และเรียนรู้ อารมย์ พระอริยเจ้าตั้งแต่ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และรู้อารมย์พระอรหันต์ แต่ไม่มีสิทธิ ตรัสรู้ จนบารมีเต็ม รอคิว มาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าครับ และชาติสุดท้าย ต้องบริจาคลูกเมียให้เป็นทาน เหมือนพระเวสสันดรชาดก มันเป็นกฎ ตายตัว ของการสร้างบารมี ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า เหมือนกันทุกๆพระองค์ และผ่านสิ่งต่างมามากมาย นานับปการ ดังที่ท่านเจ้าของกระทู้ บอกกว่าวมาครับ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนยิ่งนัก ส่วนพวกสาวก จะไม่ค่อยเข้าใจ ในการดำเนินชีวิต ของพระโพธิสัตว์เท่าใดนักครับ ในเรื่องหลายๆเรื่อง มันพูดยาก อธิบายยากนัก ที่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจ


    พระโพธิสัตว์ จะต้องเกิดเป็นดาบส ออกบวชเป็นพระฤาษี นับชาติไม่ถ้วน บำเพ็ญอยู่แต่ผู้เดียว บางครั้ง ก็สร้างมีบริวารอกมากมาย เหมือนที่พระพุทธเจ้าทั้ง หลาย และองค์พระศาสดา ของเรา องค์ปัจจุบัน ทรงบำเพ็ญมา พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีมากแล้ว จะทำอะไร สำเร็จง่าย เพราะบารมีเต็ม พวกบารมียังอ่อนอยู่ ทำอะไร ยังไม่ค่อยจะสำเร็จ เพราะยังต้องเรียนถูกเรียนผิด อีกมากมาย กว่าจะผ่านพ้นไปแต่ละอย่าง ได้ มันไม่ง่ายเลย พระโพธิสัตว์ ถ้าท่านทำหน้าที่ของ ท่านไม่ทัน พระโพธิสัตว์องค์อื่นจะทำหน้าที่แทน ครับ หรือไม่ก็เทวดา พรหมองค์อื่น ทำแทน แค่นี้ก่อนครับ สวัสดี<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ปรารถนาพระโพธิญาณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sutongperd<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6729559", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->
    ขออนุโมทนาสาธุครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ผมนั่งฟังเทศ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ท่านเทศ ที่ศาลา พระพินิจ อักษร ทองดี ฝั่งโบสถ เอาแต่ใจความนะครับ ท่านกว่าวว่า ในสายของเรา ลูกหลาน พักพวก บริวาร ติดตามกันมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า ๑๐ อสงไขย กำไลยแสนกัป ท่านหยุดนิดหนึ่ง แล้วกว่าวว่าส่วนใหญ่ติดตามกันมา ๑๖ อสงไขย กำไลยแสนกัป ทุกคนทำความปราถนา พระโพธิญาณ กันมาแล้วทั้งนั้น เมื่อหัวหน้าลา ส่วนใหญ่จะลาตาม หลวงพ่อ กันมากมาย ที่ไม่ลาพุทธภูมินั้นมีอยู่ และสมบัติที่อยู่ ใต้ดินวัดท่าซุง ต่อไปในอนาคต จะไปเป็นสมบัติ ของพระเจ้าจักพรรดิราช ที่ไม่ลา

    ท่านบอก ถ้าลูกหลานที่ไปนิพานยังไม่ได้ อย่างน้อยท่านบอก จะช่วยสอนดึงลูกหลานไปอยู่สวรรค์ชั้น ดาวดึง ตอนสมัยพระศรีอริยะเมตตรัย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ได้ฟังเทศจากพระองค์ ก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วไปนิพพาน ในชาตินั้นเลยครับ เป็นเทวดา กับพรหม ฟังเทศพระพุทธเจ้า สำเร็จมรรคผลง่ายกว่าเป็นคนครับ ตอนเช้าผมเอา ธูปเทียนแพร ใส่พานจะไปลา พุทธภูมิ ที่พระจุฬามณี เพราะฟังเทศจากหลวงพ่อเข้าใจแล้ว

    หลวงพ่ออยู่ตึกกลางน้ำ หลังพระจุฬามณี เมื่อถือพานแพร์มาถึง ไม่ไกลจากจุฬามณี พอดี พวกทหารกับคนขับรถ หลวงพ่อมาถึง ผม หลวงพ่อท่านเปิดประตู ไขกระจกรถลง แล้ว ตระโกนออกมาว่า เอ่อดีแล้ว ลูก เอ่อดีแล้วๆ ประมาณ ๓ ครั้ง แล้วท่านก็ปิดกระจกทันทีนี่เห็นไหม ท่านรู้ล่วงหน้า โดยที่ผมก็ไม่รู้ ว่าท่านจะมา เพราะท่านจะเข้าไปที่ตึก ริมน้ำ ทุกวัน ไปฉันอาหารด้วยครับ และพักผ่อนเมื่อถึงเวลา ท่านจะไปรับแขกที่ตึกรับแขกครับ และปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ปีที่หลวงพ่อบวชให้พวกเรา รุ่นเดอะ อ.เล้กวัดท่าขนุน ก็รุ่นเดียวกันครับ ด็อกเตอร์ ปริญญา พ.อ. แดง วิชชุพัน ยังไม่ลา ทั้งหมด ประมาณ ๓๐ คนที่บวชตอนนั้นครับ ผมได้ ฉายา ว่า พระสุธัมมะวิริโย ผมนึกในใจ ไม่อยากได้ ฉายานี้เลย ความเพียรนำหน้า อยากได้ ฉายา พระสุธัมมะปัญโญ แต่ ฉายานี้ เป็นของ หลวงพี่ อ. เล็ก วัดท่าขนุน ผมน่ะอยามีปัญญามาก กับไม่ได้ คิดในใจว่า ปีหน้า ถ้าได้ บวชใหม่ กูไม่เอาแล้ว ฉายานี้ ท่านที่เคารพ เชื่อไหม หลวงพ่อพูดออกมาทันฟวัน บอกว่า บัญชา ถ้าปีหน้า ใครบวชอีก ให้ใช้ฉายาใคร ฉายามัน ผมถึงกับสดุ้งเลยครับ

    และตอนไปธุดงค์กับหลวงพี่ อ. เล็ก ท่านบอกว่า ทุกคนที่บวช ๓๐ องค์ตอนนั้น หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า องค์สมเด็จ ท่านบอกตรง ที่เราเคย บำเพ็ญมาแต่อดีดชาติครับ จึงหายสงสัย ถึงบางอ้อเลยครับ งั้นเราถึงได้เป็นแบบนี้ สมแล้ว ที่องค์สมเด็จตั้งตรง ให้หลวงพี่ อ.เล็ก พระสุธัมมะปัญโญ ท่านมีปัญญามากจริงๆ ผมอยุ่กับกระเหรี่ยง เป็น ปีหลายปี ไม่รู้จักชื่อใคร แต่หน้ารู้จัก หลวงพี่ท่านไปวันเดียน รู้จักชื่อ ไม่รู้กี่ คนดีกว่าผม อยุ่ตั้งหลายปี และท่านไปเรียน วิชาทำตะกลุดกับ หลวงปู่เนป่อง กระเหรี่ยง พระคาถา หรือไงนี่แหละ ไม่ต้องจดเลย แค่ท่านปู่เนป่องท่องให้ฟัง ๓ เที่ยว ท่านจำได้เลย แหมถ้าเป็นเราผมว่า ต้องจดใส่กระดาษ ท่อง หลายชั่ว โมง กว่าจะได้ นี่ความจำของท่านเป็นเลิศ และมีปัญญาจริงๆ สัมผัสมาอีกเยอะ เล่าแค่นี้แหละครับ


    พอหอมปากหอมคอ นี่แค่เกร็ดนิดๆเท่านั้น เรื่องจริงที่เด็จๆมีมากมาย เล่า ๒ วัน ๒ คืนไม่จบหรอกครับ:cool: อ้อลืมไปครับ หลังจากนั้นไม่นาน ผมจึงเปลี่ยนคำอธิษฐานใหม่ บุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำมาแล้วตั้งแต่อดีดถึงปัจจุบัน ขอคำว่าไม่มีจงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้า มีความคล่องตัว โดยฉับพลัน มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีปัญญาดี หายจากโรคภัยไข้เจ็บมีอายุยืนยาว ได้ดวงตาเห็นธรรม ทั้งอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ปัญญาฤทธิ์ ได้เกิดแก่ข้าพเจ้าโดยฉับพลัน และเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ ในชาตินี้จะถึงหรือไม่ถึง ชาติหน้าก็ต้องถึง สักวันคงเป็นของเราครับ:cool:<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- edit note -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  6. พงศ์ภูพาน

    พงศ์ภูพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2013
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +4,432
    ขอ สนับสนุนและ อภิโมทนา เเด่ท่าน pco ในทุกความดี ในอดีต ปัจจุบัน และ ในอนาคตอันยาวไกล จนกว่า ท่าน จะบรรลุ พระ โพธิญาณ สำเร็จผล แห่งความ เป็น พระพุทธวิริยาธิกะ สุดพิเศษ ผมเอง ใด้เป็น แฟน กระทู้ของท่าน มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทึ่งในความ ละเอียดรอบคอบ ครบถ้วน ความเข้าใจ ในหลัก แห่งธรรม ความรู้เเห่ง วัฎฎะ ถ้ามีเวลา ช่วยโพส เป็นระยะ ให้ได้ติดตาม ด้วยนะครับ ด้วยความนับถืออย่างสูง
     
  7. aor 2521

    aor 2521 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +119
    ขอตั้งจิตอนุโมทนากับทุกบุญ ทุกกุศล ทุกบารมี
    อันเกิดจากสัมมาทิฏฐิ ของคุณ PCO ด้วยครับ
    ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านครับ
     
  8. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    อนุโมทนาสาธุด้วยน่ะครับ เหตุและปัจจัยที่กระทำไว้ดีแล้ว ด้วยอานิสงส์แห่งความเพียร และศรัทธา จงนำพาไปสู่จุดมุ่งหมายด้วยเทอญ สาธุ
     
  9. babyhead

    babyhead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +335
    ขออนุโมทนาสาธุกับบุญบารมีที่ท่านได้บำเพ็ญเพียรมาตั้งแต่ต้นจนจบครับ ขอให้สิ่งที่ท่านปราถนาสำเร็จโดยเร็วไวครับเป็นกำลังใจให้ครับ
     
  10. พงศ์ภูพาน

    พงศ์ภูพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2013
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +4,432
    "ชอบใจ เเละ เต็มความ รู้สึก ผมเหลือเกิน ครับ คุณพี่ pco ผมขอลอกเเบบ ปฎิปทาบางอย่าง ของท่านไปใช้นะครับ"
     
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:ผมว่าไม่ต้องลอกหรอกครับ ถ้าชอบทางนี้ ทำไปเลย มันต้องผ่านหมดแหละ ถ้าไม่ผ่าน มันก้ยังอีกไกลครับ ที่หลวงพ่อท่านพูดไว้ แค่เป็น ภารโรง ท่านถามว่า บุญทรงทำอะไรได้บ้าง ผมตอบไปว่า ทำได้เท่าที่ทำได้ครับ ท่านบอกว่า เป็นภารโรง ต้องเป็นทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง ทั้งครู ใหญ่ ครูน้อย งานทุกอย่างต้องได้และเป็นหมด ไม่มีคำว่าไม่เป็น เฉพาะงานในช่าตินี้ที่ทำมา ก็ ๑๐๐ กว่าชนิดแล้ว:cool:


    บางคน ดูง่ายๆ แค่เกิดมาก็ ทำไร่ กับทำนา จนกระทั่งตาย ไม่รู้ไม่ก็รู้แค่นั้น มีประสบการณ์ งานอื่นไม่รู้ ฉนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้นะ พวกพุทธภูมิน่ะ นี่ ที่บางท่านพูดว่า บางชาติ เกิดมา ได้นิดเดียวเอง ขนาดท่าน เหลานั้นทำประโยชน์ มากมาย ให้ประชาชน ส่วนรวม ชาติศาสนาพระมหากษัตย์ ครบ ทุกเรื่อง ท่านยังบอก ได้นิดเดียวเอง แตละชาติ ผมได้ยิน ถึงกับสอึกเลยครับ:cool:
     
  12. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    น้อม โมทนาบุญ ครับ ที่ ท่าน บุญทรงพระเครื่อง เมตตา เยือน VP นาคา (เว็ปพลังจิต )...

    และ ขอน้อม อนุญาติ นำ บทสนทนาธรรม พระอาจารย์เล็ก ...ครับ..

    มีวิริยาธิกะพิเศษไหม ?
    ถาม : อ่านหนังสือเจอ เลยทำให้รู้ว่าลูกศิษย์หลวงพ่อเป็นปัญญาธิกะเยอะ ก็เลยมีปัญญา ?

    ตอบ : แล้วแต่วาสนาเดิมว่าใครทำมา ในเมื่อเขาทำมาทางด้านปัญญา ปัญญาก็เกิด ถ้าประเภทชอบตะเกียกตะกายด้วยตัวเองก็ต้องไปทางวิริยาธิกะ

    ถาม : วิริยาธิกะจะย้ายมาเป็นปัญญาธิกะได้ไหมครับ ?

    ตอบ : เดินคนละทางแล้ว อยากจะย้ายใหม่ก็เริ่มต้นใหม่ ที่คุณว่ามานี่มันสันดานมนุษย์ ไม่ใช่สันดานนักปฏิบัติธรรม หนอยแน่..จะโอนหน่วยกิตเสียแล้ว เขาให้โอนหน่วยกิตได้อย่างเดียว คือจากพุทธภูมิไปเป็นสาวก บุคคลผู้ปรารถนาพระโพธิญาณเขาไม่กลัวเหนื่อยกัน ถ้ากลัวเหนื่อยเขาไม่ปรารถนากันหรอก

    ถาม : มีวิริยาธิกะพิเศษไหมครับ ?

    ตอบ : นอกตำราเกินไป

    ถาม : เคยได้ยินไหมครับ ?

    ตอบ : ไม่เคยได้ยิน วิริยาธิกะพิเศษ ถ้าจะมีก็ พวกโง่เป็นพิเศษ เท่านั้นแหละ..! ๑๖ อสงไขยกับแสนมหากัปก็แย่แล้ว ยังจะมีวิริยาธิกะพิเศษอีก

    สำหรับ สมเด็จองค์ปฐม ท่านนั้นนอกเหตุเหนือผล ไม่ได้อยู่ใน ๓ ประเภทนี้ เพราะเริ่มหลักสูตรด้วยพระองค์ท่านเอง ในเมื่อเริ่มปฏิบัติด้วยพระองค์ท่านเองจึงยังไม่จัดเป็นหลักสูตร แรกๆ ก็ยังไม่รู้ว่าทำไปเพราะอะไร แต่อยากทำ.. ขอยืนยันว่ามีแบบนี้องค์เดียว ที่เหลือถัดจากนั้นใครจะแหกคอกขนาดไหนก็แหกไปเถอะ รับประกันว่าไม่เกิน ๑๖ อสงไขยกับอีกแสนมหากัป เพราะมีหลักสูตรแล้ว

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ - หน้า 2 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

    --------------------
    พุทธภูมิที่เข้าเขตปรมัตถ์ การเกิดเป็นหญิงจะมีหรือไม่ ?
    ถาม : พุทธภูมิที่เข้าเขตปรมัตถ์ การเกิดเป็นหญิงจะมีหรือไม่ครับ

    ตอบ : ตั้งแต่อุปบารมีขั้นปลายส่วนมากจะเกิดเป็นผู้ชายตลอด แต่ถ้าเจ้าชู้มากก็เกิดเป็นผู้หญิงสักชาติสองชาติ เอาให้เข็ด จะได้รู้บ้างว่าเวลาเขาอกหักช้ำใจนั้นเป็นอย่างไร

    ถาม : พุทธภูมิเวลาลงนรกหรืออเวจี จะมีใครเหลียวแลไหมครับ ?

    ตอบ : มี..นายนิรยบาลจะคอยดูแลให้..!

    ถาม : ไม่มีใครคิดช่วยเหมือนฮิตเลอร์บ้างเลยหรือ ?

    ตอบ : จะไปช่วยอย่างไรเล่า ? หลวงพ่อ ไปช่วย ท่านฮิตเลอร์ เพราะท่านหลุดจาก อเวจี แล้ว ท่านออกจากอเวจีมาจะลง อุสสทนรก ช่วงระหว่างกลางนิดเดียวเท่านั้น ถ้าคนไม่รู้จังหวะก็ช่วยไม่ทัน แต่หลวงพ่อท่านลงไปดักตรงนั้น บอกว่าจะบวชพระ ให้โมทนาด้วย ท่านฮิตเลอร์ก็กลายเป็นเทวดา พ้นนรกไปเลย ช่วงนิดเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้รู้ระดับหลวงพ่อก็ดักไม่ทันหรอก

    แต่ที่หลวงพ่อท่านไปช่วยเพราะว่าถ้าท่านฮิตเลอร์ไม่หลุดขึ้นมา ก็ไม่ทันระยะเวลาที่จะต้องเกิด จึงจำเป็นที่จะต้องไปช่วยขึ้นมา ส่วนคนที่เหลือก็ต้องปล่อยวาง ตัวใครตัวมันต่อไป ดูอยู่ห่างๆ เอาใจช่วยอย่างห่วงๆ ไม่รู้จะลงไปให้โดนเผาด้วยทำไม ?

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๕

    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ - หน้า 5 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

    ---------------------
    การรับรู้นิมิตที่เกิดขึ้นขณะทำสมาธิถาม : เวลาเราทำสมาธิ เกิดนิมิตอะไรขึ้น เราจะทราบได้อย่างไรว่า..?

    ตอบ : จะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างมัน ให้สนใจลมหายใจของเราอย่างเดียวก็พอ ถ้าลมหายใจไม่มีให้รู้ว่าไม่มี คำภาวนาไม่มีให้รู้ว่าไม่มี นิมิตต่างๆ ให้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่เรายิ่งไม่สนใจภาพก็จะยิ่งชัด จะกวนให้เราสนใจให้ได้

    ถาม : แล้วเราจะวางกำลังใจอย่างไรคะ ?

    ตอบ : รับรู้ไว้ด้วยความเคารพ แล้วก็กองไว้ตรงนั้นแหละ ยกเว้นว่าเป็นนิมิตที่ตรงกับกองกรรมฐาน เช่น เราใช้พุทธานุสติอยู่ จับภาพพระพุทธรูปเป็นนิมิต เมื่อภาพพระปรากฏก็จับภาพต่อไปเลย ถ้าไม่ตรงกับกองกรรมฐานก็ไม่ต้องไปสนใจ

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ - หน้า 3 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน
    +++++++++++++++++++

    เมื่อนิมิตเกิดขึ้นขณะปฏิบัติกรรมฐาน ให้เอานิมิตกองกรรมฐานนั้นๆ เป็นหลัก

    ถาม : เราจะทราบได้อย่างไรว่า นิมิตนั้นไม่หลอกเรา ?

    ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจ เอาศีลเป็นหลัก ถ้าเรายังอยู่ในกรอบของศีล ๕ หรือศีล ๘ นิมิตหลอกเราอย่างไร ก็ไม่ไปไกลเกินนั้นหรอก

    ถาม : ถ้านิมิตกองกรรมฐานเกิดขึ้น..?

    ตอบ : เราต้องไปศึกษาว่านิมิตของกองกรรมฐานแต่ละกองเป็นอย่างไร สมมติเราภาวนาพุทโธแล้วภาพพระพุทธรูปปรากฏขึ้น ก็จับเป็นนิมิตได้ แต่ถ้ารูปพระสงฆ์มาก็ "นิมนต์ท่านรอก่อนค่ะ" ถ้าปฏิบัติในสังฆานุสติแล้วรูปพระสงฆ์มาก็จับเป็นนิมิตได้ แต่ถ้าภาพพระพุทธเสด็จมาก็นิมนต์ท่านรอก่อน นิมิตให้เอากองกรรมฐานของเราเป็นหลัก

    ถ้าเรายึดศีลเป็นหลัก ยังอยู่ในกรอบของศีล หลุดอย่างไรก็หลุดไปไม่ไกลหรอก

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ - หน้า 3 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

    ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙

    มีครูบาอาจารย์มาสอนในนิมิต เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจริงหรือไม่จริง ?
    ถาม : เดี๋ยวนี้มีการบอกว่ามีครูบาอาจารย์มาสอนในนิมิต เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจริงหรือไม่จริง ?

    ตอบ : เทียบกับหนังสือวิสุทธิมรรค เทียบกับพระไตรปิฏก เทียบกับตำราของหลวงพ่อวัดท่าซุง แหกคอกไปเมื่อไรก็เลิกเชื่อ เมื่อครู่โยมก็เพิ่งจะถามเรื่องวิริยาธิกะพิเศษ ขนาดเรื่องนี้ยังไม่มีใน พระไตรปิฎก เลย แต่ว่า อรรถกถาพุทธวงศ์ ท่านเขียนเอาไว้
    เขาถึงได้แยกประเภทเอาผู้ที่ปรารถนาพระโพธิญาณมาเป็น ๓ ประเภท
    แสดงว่าระดับพระพุทธเจ้ายังไม่สอนเลย เพราะทราบว่าคนจะเอาไปทะเลาะกัน อรรถกถาจารย์ท่านทราบก็อธิบายเพิ่มเติมมา พวกเราดันมีคนเก่งกว่า อธิบายเพิ่มขึ้นมาอีก

    .....เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่ตรงกับพระไตรปิฎก ไม่ตรงกับวิสุทธิมรรค หรือไม่ตรงกับตำราหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็ละไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งเชื่อ ต่อให้ตรงเลยก็อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะบางทีเท่าที่เจอมา เขาบอกตรงตั้ง ๘๐ - ๙๐% แล้วมาหลอกไว้ตอนท้ายนิดเดียว ทำให้เกิดผลก่อนแล้วค่อยเชื่อ แต่ผลนั้นก็เชื่อไม่ได้ เพราะหลายครั้งเขาเป็นคนทำให้ผลนั้นเกิดเอง พอถึงเวลาเขาถอนกำลังคืน เราก็กลายเป็นหมาเหมือนเดิม..!
    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ - หน้า 2 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

    (ภาพ พระอาจารย์ เล็ก วัดท่าขนุน กราบสักการะ พระพุทธบาท รอยที่ ๕ นัมทานที พระพุทธบาท เกาะแก้ว พิสดาร ภูเก็ต )...
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เดือนเมษายน ๒๕๕๕
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) วัดท่าขนุน

    ถาม : เกาะแก้วพิสดารที่ภูเก็ตอยู่ตรงไหนครับ ?ตอบ : ลงเรือที่หาดราไวย ถามเรือแถวนั้นแล้วเช่าเรือไป แต่ว่าเลือกฤดูให้ถูก เพราะว่าบางจังหวะคลื่นแรง เทียบข้างหน้าเกาะไม่ได้ ต้องไปหลังเกาะ

    ตอนที่อาตมาไปเป็นฤดูที่คลื่นแรง แต่ว่าเจ้าที่ท่านช่วย วันนั้นก็เลยวิ่งเรือด้วยสองแรงพญานาค สิบกว่านาทีถึง ไม่มีใครเขาเชื่อ เพราะปกติวิ่งเรือกันครึ่งชั่วโมง แต่คณะของเราไปด้วยสองแรงพญานาค วิ่งพักเดียวก็ถึง คลื่นแรงขนาดไหนไม่รู้ แต่เรือเทียบหน้าเกาะให้เฉยเลย ไปกับเจ้าถิ่นก็สบายหน่อย

    ถาม : ควรจะไปช่วงเดือนประมาณไหนครับ ?
    ตอบ : เดือนมกราคมคลื่นลมจะเบา แต่ถ้าไปแล้วเจอสึนามิพอดี รับรองจะประทับใจไปตลอดชีวิต..!

    http://palungjit.org/threads/มหานาค...พระพุทธบาท-ว-สื่อสาร@เตรียมการ.124284/page-32
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. พงศ์ภูพาน

    พงศ์ภูพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2013
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +4,432
    ..."ผมเอง เมื่อนานมาเเล้ว ก็ ไม่ เคยคิดว่า จะมี พระโพธิสัตว์ เเบบ วิริยาธิกะพิเศษ "..........................ตอนเป็นเด็ก ยังไม่มีอินเตอร์เนต ข้อมูลต่างๆ ยังไม่เเพร่หลาย มีแต่หนังสือและการ ปฎิบัติการสอน เเบบปากต่อปาก เเต่ผมมีโชคอยู่บ้าง ที่มีโอกาส เกิดในครอบครัว สัมมาทิฐฐิ มีโอกาสบำเพ็ญบารมีในขอบเขต พระพุทธศาสนา ตามควร .......มีความรู้สึกเรื่อง การปรารถนา พุทธภูมิ ติดตัวติดใจ มาตั้งเเต่จำความใด้ มีความเข้าใจเเละ มีความคิดในการ จรรโลง พระศาสนา เเละมีเรื่อง พิเศษส่วนตัวที่ขอเล่า เท่าที่จะเหมาะเเก่การเผยเเพร่เป็น สาธารณะ เช่น ตั้งเเต่เกิด ผู้เขียน มักจะมีโอกาสเป็น ผู้นำ อยู่เสมอ เช่น เข้าป1 ก็ใด้เป็น หัวหน้าชั้น โดยไม่ต้อง เสนอตัวเอง ตอน ม.6 ใด้เป็นหัวหน้านักเรียน โดยมีคนเอาชื่อลงสมัครให้สมัคร ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเป็น ประธาน ชมรมโดยไม่ต้อง เสนอตัวเอง มีโอกาสนำพาหมู่คณะ ประกอบกุศลกรรมในพระบวรพุทธศาสนา อย่างต่อเนื่อง มีโอกาสพบกับ บุคคลเเละ สถานที่อันเป็น พิเศษ นอกเหนือจากที่เคยเล่าลงใน หัวข้อ ต่างๆในบอร์ดพุทธภูมิ (เรื่องส่วนตัวของผู้เขียน ที่จะเล่า ให้ทราบ ต่อไปนี้ เป็น เเต่เพียง "ข้อมูลดิบ "ที่จะต้องนำไปใช้ประโยชน์ ตามสมควร เท่านั้น ไม่ใด้คิดจะอวดอ้าง แต่ อย่างใด เพราะ ตระหนักอยู่เสมอว่า ตนเองบกพร่องอยู่มาก มีความเลวติดตัวที่จะต้องเเก้ไขอีกมาก ครับ )............เเต่บางเหตุบางเรื่อง ผู้เขียนก็ วิเคราะห์ เเล้วว่า ไม่สมควรที่จะนำมาเล่า เป็น สาธารณะ เช่น เมื่อไปวัดร้างเมืองเก่า ที่มีชื่อเสียง ที่หนึ่ง ก็มี ท่านพรหมที่เป็น อดีตเจ้าอาวาสเมื่อราวนับพันปีก่อน มาเข้าทรงตาชีปะขาว บอกเหตุส่วนตัว ความเป็นไปใน อนาคต อันใกล้ ไกล (ทั้งที่ ตาชีปะขาว ท่าน ไม่ไช่หมอทรงเจ้า ท่านพรหมบอกว่า มาโปรดคุณ เป็นการเฉพาะ) ...อีกเรื่องคือ ผู้เขียน รู้สึก เคารพ เเละ ผูกพันกับ " พระธาตุพนม" ตั้งเเต่จำความ ใด้ ....เเละเมื่อ 4ปีที่เเล้ว ผู้เขียนมีโอกาส เดินทาง ไปนมัสการ พระธาตุ พนม ด้วยเหตุด่วนบางประการ ..วันนั้นเป็นวันพระ มีผู้ทรงคุณท่านหนึ่ง เมตตามายืน รอ โปรดโดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พร้อม ทั้ง บอกให้ทราบถึง เหตุการณ์ ของผู้เขียน ตั้งเเต่สมัยพุทธกาล มีโอกาส เป็น k.. อยู่ อาณาจักร เเถบ ทิศใต้ ของ ธาตุพนม มีโอกาสร่วม มหกรรมเเห่ง บุญใหญ่ ... ในการ สนอง งาน "พระ มหากัสปเถรเจ้า" ผู้เป็น อสีติมหาสาวกผู้ใหญ่สุด เเละเป็น เอตทัคะ ทาง "ธุดงค์วัตร" (เเละพระอรหันต์เจ้าทั้งหลายในการนั้น) ...."เมื่อ พ.ศ. 8 ................หรือ เหตุที่ จะต้อง ไปกราบท่านหลวงปู่ ขาว ครั้งนี้ ก็ เป็นเหตุจาก มีผู้ใกล้ชิด เเนะ นำให้ลองไปปรึกษา กับ... "หมอดูไพ่ยิปซี ท่านหนึ่ง .....ผู้เขียน ทนคะยั้นคะยอไม่ใด้จึงลอง ไป ดู เมื่อ ถึง เวลานัดดูดวง ....หมอดูท่าน บอกว่า ดูให้ไม่ใด้ พร้อมกับ คว่ำ ไพ่ทั้งสำรับ ...เเล้ว หันหน้า เอี้ยวคอ มอง เพดาน พร้อมบอกว่า ........."พี่ดูให้คุณ ไม่ใด้ ตอนนี้มีเทวดา มายืนอยู่บน อากาสในห้องนี้ ..ท่าน มีเรื่อง จะบอกนะ ..."....เเล้ว พี่เเกก็ ให้เรา จด ถ้อยความตามที่เทวดาบอก....(ซึ่งเราไม่ใด้ยินด้วย )....มีเรื่องเเปลกคือ ..เเกบอกเหตุการณ์ ...ตรง กันกับ ท่าน ผู้ทรงคุณ มายืน บอก ณ พระธาตุพนม ตามที่กล่าวมา ตรงกัน อย่าง น่า อัศจรรย์ .....เทวดา (ตามที่พี่เเกบอก) ......บอกว่า ชีวิตคุณ ไม่ต้อง ไปดูดวงนะ .....ให้คุณ (ผู้เขียน)......ไปกราบ หลวงปู่ ขาว ที่ จ.สกลนครนะ (เเล้ว พี่หมอดู) ก็ หันมาถามผู้เขียนว่า หลวงปู่ขาว ที่ สกลนครมีด้วยเหรอ ผู้เขียน พยักหน้า ..เเล้วจึง บอก ต่อไปว่า เทวดา ห้าม ถามดูดวงกับหลวงปู่ขาว ให้ไป "ขอคาถา จากท่านเท่านั้น" ...เเล้วผู้เขียน จึงใด้ไป กราบหลวงปู่อีกครั้งหนึ่ง ตามที่ท่าน เทวดาเเนะนำ......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2013
  14. พงศ์ภูพาน

    พงศ์ภูพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2013
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +4,432
    .......จากข้อเขียนข้างบน.................. "ผู้เขียน มีประสบการณ์ เกี่ยวกับ "วิริยาธิกะ พุทธภูมิแบบพิเศษ" .........จากการเมตตา บอกกล่าวของ ท่านผู้ทรงคุณ ที่ไม่เคยรู้จักกัน มาก่อน มาบอกเล่า เกี่ยวกับ "วิริยาธิกะเเบบพิเศษ" ที่เป็นเรื่องของ ผู้เขียนเอง เมตตาบอก ...ระดับของบารมี ที่ใด้บำเพ็ญมาว่า ว่าอยู่ในระดับใดเเล้ว ....เมื่อ สิบห้า ปีที่เเล้วมา...........ผู้เขียน เข้าใจว่า เป็น พระมหากรุณาธิคุณ ....แห่งบูรพาจารย์........เบื้องบน ท่านใดท่านหนึ่ง ...บอกกล่าว ผ่าน ท่านผู้ เมตตาผู้ นี้............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2013
  15. พงศ์ภูพาน

    พงศ์ภูพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2013
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +4,432
    ....จาก ข้อเขียน สอง ชุดข้างบน ผู้เขียนปรารถนา เพียงหาเหตุผล ประกอบหัวข้อของคุณพี่ pco เท่านั้น ว่าผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงส่วนตัว เกี่ยวกับ "พุทธภูมิวิริยาธิกะ พิเศษ"......อย่างไรบ้างที่อาจจะเป็น ประโยชน์ เเก่ท่านทั้งหลายบ้างครับ ....
     
  16. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    อ้างอิง พงศ์ภูพาน "
    ชอบใจ เเละ เต็มความ รู้สึก ผมเหลือเกิน ครับ คุณพี่ pco ผมขอลอกเเบบ ปฎิปทาบางอย่าง ของท่านไปใช้นะครับ"

    ชอบใจในส่วนใหนก็นำไปใช้ได้เลยนะครับ
    ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้นั้น ก็ได้พยายามทำตามพระสัทจธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พยายามทำตามคำสั่ง และคำสอนของท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายที่ทรงคุณความดีตามคติของพระพุทธศาสนาตั้งแต่ต้นไปจนอวสาน ลีลาต่างๆนั้นผมจดจำและพยายามทำตามแบบอย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง ที่เป็นแม่แบบต้นฉบับในทุกเรื่อง มีเว้นอยู่เรื่องเดียวคือลาพุทธภูมิ ที่ท่านเตือนผมถึงสามครั้ง

    ก็ขอให้คุณพงศ์ภูพานจงติดตามศึกษาปฏิปทาของพระเดชคุณหลวงพ่อ และพระเดชพระคุณบูรพาจารย์หลวงปู่ปานวัดบางนมโคนะครับแนวทางของท่านนั้นเป็นดังพระประทีปแก้วอันประเสริฐที่ไม่มีวันดับอับแสงส่องนำทางทุกท่านจนถึงที่หมายปลายทาง
     
  17. พงศ์ภูพาน

    พงศ์ภูพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2013
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +4,432
    "ชอบปฎิปทาของ ท่านพี่ pco โดยเฉพาะ เรื่อง การเอาใจ ใส่ ในกิจ ในความทุกข์สุข ของญาติมิตรบริวาร อย่างถึงที่สุด ครับ" ......ส่วนปฎิปทา ของหลวงปู่ปาน เเละ หลวงพ่อวัดท่าซุง นั้น ผมติดตามในเกือบทุกแง่มุม เเละทุกช่องทางมานานเเล้วครับ และ ชอบ ใน ความเป็น" วิริยาธิกะ พุทธภูมิ "..."เเบบพิเศษ"....ที่ผมก็ ชอบเเบบนี้มา นาน"
     
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    วิริยาธิกะพิเศษ ถ้าจะมีก็ พวกโง่เป็นพิเศษ เท่านั้นแหละ..!

    ตอบ : เทียบกับหนังสือวิสุทธิมรรค เทียบกับพระไตรปิฏก เทียบกับตำราของหลวงพ่อวัดท่าซุง แหกคอกไปเมื่อไรก็เลิกเชื่อ เมื่อครู่โยมก็เพิ่งจะถามเรื่องวิริยาธิกะพิเศษ ขนาดเรื่องนี้ยังไม่มีใน พระไตรปิฎก เลย แต่ว่า อรรถกถาพุทธวงศ์ ท่านเขียนเอาไว้
    เขาถึงได้แยกประเภทเอาผู้ที่ปรารถนาพระโพธิญาณมาเป็น ๓ ประเภท
    แสดงว่าระดับพระพุทธเจ้ายังไม่สอนเลย เพราะทราบว่าคนจะเอาไปทะเลาะกัน อรรถกถาจารย์ท่านทราบก็อธิบายเพิ่มเติมมา พวกเราดันมีคนเก่งกว่า อธิบายเพิ่มขึ้นมาอีก

    .....เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่ตรงกับพระไตรปิฎก ไม่ตรงกับวิสุทธิมรรค หรือไม่ตรงกับตำราหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็ละไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งเชื่อ ต่อให้ตรงเลยก็อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะบางทีเท่าที่เจอมา เขาบอกตรงตั้ง ๘๐ - ๙๐% แล้วมาหลอกไว้ตอนท้ายนิดเดียว ทำให้เกิดผลก่อนแล้วค่อยเชื่อ แต่ผลนั้นก็เชื่อไม่ได้ เพราะหลายครั้งเขาเป็นคนทำให้ผลนั้นเกิดเอง พอถึงเวลาเขาถอนกำลังคืน เราก็กลายเป็นหมาเหมือนเดิม..!


    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013
  19. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เดินคนละทางแล้ว อยากจะย้ายใหม่ก็เริ่มต้นใหม่

    แสดงว่า ถ้าไม่มีจริง ก็เท่ากับ คุณต้องไปเริ่มต้นบำเพ็ญใหม่ทั้งหมด
     
  20. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ข้าพเจ้า ขออทิศบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาดี ในอดีตชาติ จนถึงปัจุบันชาติ ทั้งหมดให้กับคุณ PCO- ขอให้ท่านได้บรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณตามที่ท่านได้ปราณนาทุกประการด้วยเทอญ

    อนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...