วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. บัวเกี๋ยง

    บัวเกี๋ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +431
    อนุโมทนาสาธุทั้งมวลกับท่านกำลังใจเป็นหลักสำหรับพระโพธิญาณ
     
  2. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ท่านก็พาเข้าไปในบริเวณสำนักสงฆ์มันเริ่มจะมัวๆตารอบๆข้างนี่มืดแล้วเพราะป่ามันสูง ลงจากรถ อันดับแรกก็ยกมือไหว้พระประธานที่ประดิษฐานในศาลา และเจ้าของสถานที่ตามแบบฉบับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่เจริญพรหมวิหารสี่ นึกแผ่เมตตาไปทุกสารทิศ บอกกล่าวเจ้าของสถานที่ว่า ข้าพเจ้าขอยอมรับนับในท่านเจ้าของสถานที่และบริวารทั้งหมด ว่าท่านมีสิทธิในสถานที่นี้ ข้าพเจ้าผ่านมาขออาศัยสถานที่ของท่านบำเพ็ญสมณธรรม ขอจงโปรดสงเคราะห์คลุ้มครองความปลอดภัย และขอจงส่งเสริมในการเจริญสมธรรมของข้าพเจ้าด้วยเถิด

    พอนึกจบ โยมที่มาส่งก็พูดเลยว่าผมอนุโมทนาสาธุครับ ก็เลยบอกว่าถ้าโยมอึดอัดที่แต่งตัวแบบชาวบ้านป่าอย่างนี้ โยมแต่งตามปรกติของโยมเถอะนะ อาตมาเป็นพระที่บวชเข้ามาเพราะเคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เชื่อในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสามท่านบูรพาจารย์ใหญ่ คือหลวงปู่ มั่น หลวงปู่ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่ปาน อาตมาเป็นศิษย์ นอกสำนักของหลวงพ่อวัดท่าซุง มีความเชื่อว่า นรก สวรรค พรหม พระนิพพานมีจริง ขอเห็นตามสภาพความเป็นจริงเถิด

    ท่านก็ทำให้ดู ท่านเป็นเทวดา ก็สว่างจ้าทั่วบริเวณ เสียงระงมของป่าธรรมขาตินี่เงียบสนิททันที กลิ่นหอมเย็นคล้ายธูปหอมผสมดอกมะลิอบอวลตลอด มองท่านด้วยความเคารพ สำรวมระวังใจเต็มที่ ท่านบอกตามสบายเถอะครับไม่ต้องระวังมากขนาดนั้นก็ได้ ท่านก็แนะนำว่า ที่นี่มีเนื้อที่ประมาณเก้าไร่ ด้านหน้าฟากทางเดินฝั่งโน้นเป็นคลองน้ำ ด้านหลังเป็นภูเขา

    ในบริเวณนี้มีศาลาเล็กๆนี่หนึ่งหลัง มีกุฏิเล็กๆสามหลัง อยู่ตรงข้ามหน้าศาลานี่สองหลัง อีกหลังหนึ่งอยู่บนไหล่เขาเลยเข้าไป กุฏิข้างบนโน้นจะมีห้องน้ำห้องส้วมอยู่ในห้องเลย ด้านหน้าเป็นนอกชานมีหลังคาคลุม เหมาะที่จะไว้เดินจงกลม คืนพรุ่งนี้ค่อยย้ายไปอยู่ คืนนี้ค้างที่กุฏิหลังเล็กหน้าศาลานี่ก่อน คนที่สร้างนี่เป็นพระธุดงค์สายวัดปากน้ำมาสร้างไว้ สร้างเสร็จอยู่ได้ไม่นานท่านก็ธุดงค์ต่อไปที่อื่น องค์นั้นท่านเป็นพระในพระพุทธศาสนา ที่นี่ไม่มีพระมาอยู่นานแล้ว

    ก็ถามท่านว่าทำไมถึงดูสอาดหมดจด ไม่มีคราบฝุ่นละอองตามที่ต่างๆเลย ท่านบอกมีคนดูแลเป็นแม่ชีอายุมากแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นคนนำท่านไปบิณฑบาต แล้วแม่ชีนี้จะมาอุปฐากท่านในตอนเย็นหรือค่ำจะนำน้ำปาณะมาถวาย ถ้าท่านทรงอารมณ์ได้ตามนี้ ท่านจะอยู่อย่างมีความสุขตามสมณวิสัย ก็บอกว่าอาตมาขอขอบคุณที่สงค์เคราะห์

    หากว่ากิจอันใดจะพลาดไปขอจงโปรดตักเตือน อาตมาเป็นพระบวชใหม่ความจริง ตั้งใจมาเยี่ยมหลวงพ่อและศึกษากับท่าน แล้วจะธุดงค์เข้าป่าตั้งแต่เขตเมืองกาญ แล้วขึ้นเหนือกลับไปที่เดิมคือสำนักสงฆ์ดอยวังเฮือ อำเภอแม่ทะ เพราะหลวงปู่แว่นท่านส่งไปรักษาการอยู่ที่นั่น แต่ระเบียบของวัดท่าซุงไม่รับพระที่บวชมาจากที่อื่น ก็เลยไปอาศัยวัดศรีมณีวรรณ ก็พอดีที่วัดนั้นมีงานการก่อสร้างมากหลายอย่าง

    และเป็นงานที่ถนัดที่ชำนาญมาก ก็เลยอยู่ช่วยท่านเจ้าอาวาสสร้าง นี่ก็เกินสองปีแล้ว งานหลายอย่างเสร็จลงแล้ว ร่างกายก็ไปไม่ไหว คงจะกลับไปไม่ถึงที่สำนักสงฆ์ดอยวังเฮือ เลยตั้งใจว่าจะหาที่ตาย ที่ห่างไกลผู้คนไม่ไห้ใครเดือดร้อน ตายอย่างสามเณรน้อยสมัยเชืยงแสน ตายอย่างท่าน พ่อปู่ชีวกโกมารภัทธ์

    แล้วจะขอกลับมาเกิดเป็นคนไทยทำแบบเดียวกับท่านสามเณรทุกอย่าง ก็พอดีมาเจอท่านอาจารย์ที่ท่านยับยั้ง ก็จะไม่ขอดื้อรั้นอะไร แต่นี้ไปก็ขอให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม อย่างหนึ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนใจนั่นก็คือการปราถนาพระโพธิญาณ

    ที่ขอให้โยมโปรดสงเคราะห์ คือสิ่งใดที่ไม่เกินวิสัยที่จะสงเคราะห์แล้ว ขอจงโปรดสงเคราะห์ ท่านก็บอกว่าโยมรับตามนี้ ขยับจะยกมือไหว้ท่านท่านจับมือไว้ทันที บอกว่าท่านอยู่ในเครื่องแบบสมณะเพศ ทรงผ้ากาสาวพัสตร์ ไม่สมควรที่จะไหว้ฆราวาส ก็ขอขอบพระคุณ คุณโยมมากที่มาสงเคราะห์ทุกอย่าง อาตมาจะพยายามฝีกฝนทุกอย่าง อย่างเต็มสติกำลังปัญญา ความรู้ความสามารถ

    จากนั้นท่านก็บอกว่าโยมจะลาละนะ ต่อไปก็จะมาพบอีก และท่านยังบอกอีกว่า น้ำฉันน้ำใช้ตามโอ่ง ตามถังนั้น ไม่ต้องไปตักในคลองมันจะมีอยู่เต็มตลอดที่อยู่ที่นี่ การจุดธูปเทียนจงจุดแต่ตอนกลางวัน กลางคืนไม่ต้องจุดสัตว์เล็กสัตว์น้อยมันจะบินมาเล่นไฟ มันจะพากับตาย ที่นี่ท่านไม่ต้องใช้แสงไฟ ไปใหนเวลากลางคืนท่านจะมองเห็นจะไม่มีอันตรายจากสัตว์ร้ายทั้งหลาย มีอะไรก็นึกถึงโยมจะมาทันที ฟังท่านแล้วก็ตื้นตันว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายนี่ท่านเมตตาปราณีมาก อยู่ป่านี่ท่านเปิดให้เห็นตามวาสนาบารมีเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 สิงหาคม 2010
  3. pontook

    pontook เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +976
    ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาอันแรงกล้าและยิ่งใหญ่ด้วยค่ะ ขอให้ท่านได้สำเร็จในความปราถนาในความเพียรทั้งชาตินี้และตลอดทุกภพทุกชาติ จนสำเร็จดังคำที่ท่านได้อธิษฐานไว้ข้างต้นทั้งหมดทุกตัวอักษรด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ :cool::cool::cool:
     
  4. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ก็เป็นการบังเอิญที่เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมามีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวทางภาคเหนือก็ได้ย้อนอดีตเมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ที่ดอยวังเฮือนี้ผมได้เคยมาอยู่รักษาการพร้อมกับพระหนึ่งองค์เณรสององค์ เมื่อจากมาแล้วตอนเป็นพระ หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับไปอีกเลย ซึ่งจากนั้นก็ไม่มีพระไปอยู่อีกตอนนี้ก็กลายเป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่า

    ไปเห็นแลัวก็สะท้อนใจ มันเป็นไปตามหลักไตรลักษ คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป มันเป็น อนิจจัง ทุกอย่างเป็นอย่างนี้จริงๆ ไม่มีอะไรเป็นสาระแก่นสาร ที่นี่ก็เคยดูแลรักษาอย่างดี บัดนี้สภาพที่เห็น แม้แต่สัตว์เล็กๆ สักตัวก็ไม่มีให้เห็น ก็พาแม่บ้านนางแก้ว ที่ติดตามเคียงบ่าเคียงไหล่ตลอดเรียกว่า ถึงใหนก็ถึงกันคนนี้พากันเดินขึ้นเขา พากันไปดูสถานที่ ก็ไปกราบขอขมาสถานที่ ที่เคยได้อยู่ได้อาศัย ขอบคุณเจ้าที่พ่อปู่ที่นี่ ที่ได้เคยสงเคราะห์อย่างดีสมัยที่อยู่ที่นี่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1492.JPG
      IMG_1492.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      68
    • ภาพ017.jpg
      ภาพ017.jpg
      ขนาดไฟล์:
      431 KB
      เปิดดู:
      64
    • ภาพ018.jpg
      ภาพ018.jpg
      ขนาดไฟล์:
      428.1 KB
      เปิดดู:
      69
    • ภาพ011.jpg
      ภาพ011.jpg
      ขนาดไฟล์:
      464.5 KB
      เปิดดู:
      58
    • ภาพ010.jpg
      ภาพ010.jpg
      ขนาดไฟล์:
      482.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • ภาพ008.jpg
      ภาพ008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      353.8 KB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_1495.JPG
      IMG_1495.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      84
    • IMG_1496.JPG
      IMG_1496.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      75
    • IMG_1497.JPG
      IMG_1497.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_1498.JPG
      IMG_1498.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_1499.JPG
      IMG_1499.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_1500.JPG
      IMG_1500.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      53
    • ภาพ005.jpg
      ภาพ005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      300.9 KB
      เปิดดู:
      63
    • ภาพ006.jpg
      ภาพ006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      270.4 KB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2010
  5. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    อีกสถานที่หนึ่งที่จะขอบันทึกฝากไว้ คือวัดถ้ำพระสะบาย เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 ได้พา ครอบครัวไปเยี่ยมสถานที่ ที่เคยมาบวชเมื่อปี2528 กุฏิเดิมที่เคยอยู่ ถูกรื้อไปแล้วเหลือเพียงซากแผ่นหินที่เคยเป็นฐานเสาไม่กี่แผ่น ก็ได้ไปกราบขอขมาหลวงปู่ที่ผมเมื่อจากไปแล้ว ก็ไม่ได้กลับมาเยี่ยมท่านอีกเลย จนกระทั่งท่านมรณภาพ พระคุณของหลวงปู่ที่เมตตาปราณีบวชให้ ที่วัดเกาะคา จะขอจดจำจาลึกไว้ในดวงใจตลอดไป

    หลวงปู่หลวง กะตะปุณโญ เป็นพระอุปชา หลวงปู่แว่น ธนปาโล และพระอาวุโสอีกองค์หนึ่งจำชื่อท่านไม่ได้ เป็นพระคู่สวด พร้อมทั้งหาเจ้าภาพบวชให้ จำชื่อท่านไม่ได้เป็นเจ้าของร้านค้าส่งในตัวจังหวัดลำปาง ชื่อร้านจิบไต๋ มาเที่ยวนี้ก็พยายามขับรถตะเวณหาร้านจะไปกราบท่านเจ้าของร้าน ก็ปรากฏเลิกขายของลูกหลานทางกรุงเทพรับไปอยู่ด้วยแล้ว

    ก็ขอฝากไว้ ณ ที่นี้เผื่อว่าลูกหลานคุณโยมยายเจ้าของร้านบังเอิญผ่านมาอ่านพบเข้า ขอจงนำข่าวสารไปบอกคุณยายหากท่านยังมีชีวิตอยู่ ว่าผมกราบขอขมาอาภัยที่ไม่ได้มาเยี่ยมสมัยเมื่อบวชเป็นพระเลย ขอจงงดโทษอโหสิกรรม และขอคุณยายจงได้รับรู้และโมทนา ว่าพระที่คุณยายบวชให้นั้นระลึกนึกถึงพระคุณความดี

    พระที่คุณยายบวชให้นั้นปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะพิเศษ ปราถนาที่จะบรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล หากว่าคุณยายล่วงลับไปแล้ว ก็ขอฝากข่าวนี้แก่บรรดาเทพเจ้าเหล่าเทวาทั้งหลายไปให้คุณยายได้รับรู้

    ก็ขออราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมเป็นต้นลงมา มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง หลวงปู่แว่น ธนปาโล เป็นที่สุด และผลาอานิสงค์ กุศลผลบุญราศรี ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วในการปราถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะพิเศษ ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ และที่จะมีเกิดขึ้นต่อเนื่องไปในอนาคตกาลอันเอนกอนันต์นั้น

    และอานิสงค์ที่คุณยายและคณะได้ขวนขวายเป็นเจ้าภาพบวชพระนี้ จงส่งผลให้คุณยายจงมีความสุข มีความปลอดภัย หากว่ายังต้องท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสารยังไม่เข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด

    ขอคำว่ายากจนเข็ญใจ คำว่าไม่มี คำว่าขัดข้อง คำว่าไม่รู้ คำว่าไม่สามารถจงอย่าได้มีกับคุณยาย และขอให้ไม่ว่าจะเกิดอีกเมื่อใดเท่าไรชาติก็ตาม ขอจงอย่าเป็น ลูกจ้าง ลูกน้อง หรือเป็นบ่าวไพร่ผู้ใด ขอจงเป็นแต่เพียงเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่สักปานใด ตลอดจนทรัพย์สินใดๆ ประดามี แม้แต่เศษด้ายที่ชายผ้า ถ้าไม่ให้ใครแล้วไซร้ใครก็เอาไปไม่ได้ ใครก็ทำอันตรายไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครมีเดชอำนาจมากสักเพียงใดก็ตาม นับตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน เทอญ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1504.JPG
      IMG_1504.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_1507.JPG
      IMG_1507.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      60
    • IMG_1508.JPG
      IMG_1508.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_1509.JPG
      IMG_1509.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      60
    • IMG_1513.JPG
      IMG_1513.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_1514.JPG
      IMG_1514.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_1515.JPG
      IMG_1515.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_1516.JPG
      IMG_1516.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_1519.JPG
      IMG_1519.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_1526.JPG
      IMG_1526.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      57
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2010
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ก็มาถึงสุดท้ายของการบันทึก ก็กลับมาที่สำนักสงฆ์เขาปลายฌาน อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี หลังจากที่ท่านผู้มีพระคุณกลับไปแล้วการกลับของท่านก็จางหายไปทั้งท่านทั้งรถ ก็ทำแบบเดียวกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อคือหาก้อนหินมาวางเป็นสัญลักษ์ ที่ท่านยืน และรถที่เคยจอดอยู่ ป้องกันไม่ให้เดินผ่านหรือยืนทับสถานที่ ตอนนั้นมันก็มืดแล้วรอบด้านนี่กลับเป็นธรรมชาติของมันทันที คือเสียงระงมของป่าที่เสียงจั๊กจั่นเรไร

    เสียงใบไม้เสียดสีกัน เสียงสารพัดของยามค่ำคืน ก็เป็นตามที่ท่านบอกไว้รอบด้านแม้จะมึดครึ้มแต่บริเวณที่จะเดินไปนี่สว่างคล้ายแสงจันทร์ มองเห็นทางเดินถนัด ที่มันแปลกคือนึกอยากเห็นมันก็สว่างพอมองเห็น พอมีอารมณ์ไม่ต้องการแสงสว่างมันก็มืดทันทีเหมือนกัน ก็ระมัดระวังสำรวมใจ ทรงสมาธิ ทรงอารมณ์วิปัสนาญาณ เอาจิตตรานุปัสนากรรมฐาน ในมหาสติปัฏฐาน มาทรงเป็นอารมณ์ ปักแน่นคลายไม่ได้ เพราะสภาพแวดล้อมยามนี้ดูน่ากลัวมาก อยู่ท่ามกลางป่าช้าที่ห่างไกลชุมชนโดดเดี่ยววังเวงมาก เป็นป่าช้าบ้านนอก ที่มองพ้นลานดินออกไปก็จะเป็นหลุมฝังศพเต็มไปทั่วบริเวณ มีทั้งร่องรอยการเผาศพ ที่แค่เอาฟืนมากองๆเอาโลงขึ้นตั้งแล้วก็จุดไฟเผา เหมือนป่าช้าชนบทห่างไกลทั่วไปก็เป็นลักษณะนี้ อารมณ์ใจนี่จะอ่อนไหวไม่ได้เลย

    ก็รู้แล้วว่าจะไม่มีอันตราย แต่ก็ระวังใจให้สะอาดโดยใช้วิปัสนาญาณเป็นตัวซักฟอก สมาธินั้นเป็นเพียงให้ทรงอารมณ์ได้ตั้งมั่น ทรงได้นานเท่านั้น วิปัสนาญาณเป็นองค์ที่ทำให้เกิดปัญญาเห็นสภาพ และยอมรับสภาพตามความเป็นจริงทำให้จิตใจมีความเบิกบานมีความกล้าหาญ มีความดีที่ทำไว้เท่านั้นเป็นที่ทำให้มั่นใจ ความจริงนั้นก็มีชุดวัตถุมงคลของพระเดชพระคุญหลวงพ่อเต็มอัตรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มิถุนายน 2010
  7. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ทั้งยันต์มหาพิชัยสงครามชุดที่อยู่หัวเตียงหลวงพ่อ ยันต์หลวงปู่ปาน เสื้อยันต์เกราะเพชร หวายไล่ผี ทรายเศก เหรียญท้าวเวสสุวัณ เหรียญอื่นๆฃองหลวงพ่อทุกเหรียญ แร่พระร่วง สายประคำพร้อมห้อยองค์แก้วใสมณีรัตน ชุดธุดงค์ทั้งชุดขออาราธนาหลวงพ่อพรมน้ำมนต์ให้ ทั้งตัวเองก็รับยันต์เกราะเพชรตอนนั้นห้าครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2528 ครั้งสุดท้ายตอนนั้น คือเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2531

    ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าจะเอาไปรบกับใคร มีสะสมไว้ตั้งแต่พบหลวงพ่อ ก็ติดตัวด้วยเคารพตลอดมา และทุกอย่างนี้ก็ยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดีจนถึงทุกวันนี้ แต่ชุดวัตถุมงคลที่เล่ามานี้ทำให้เรามีความกล้าหาญก็จริง แต่เมื่อใดที่เราประมาทพลาดพลั้งในความดี ความมั่นใจความกล้าหาญ ความหึกเหิมจะลดลง

    แต่ในขณะนี้แม้จะอยู่โดดเดี่ยวก็ไม่ได้มีความประหวั่นหวาดหวั่นพลั่นพรึง กับสภาพแวดล้อมแม้แต่น้อย มั่นใจในศีล ทาน ภาวนา ที่เป็นเกราะ เป็นพยาน ที่ทำความดี เป็นเสมือนครูบาอาจารย์ที่อยู่ข้างกายตลอดเวลา รู้อยู่ว่าหลวงพ่อท่านมองอยู่ รู้อยู่ว่า พระที่ท่านอยู่ในป่า ทั้งที่มีกายเนื้อ และไม่มีกายเนื้อท่านมองดูอยู่

    อารมณ์ตอนนี้ จึงปักแน่น แล้วคลายออกมาพอใช้งานได้คือหมายความว่าไม่ใช่นั่งหลับตา คืออารมณ์ปักในสมาธิและวิปัสนา พอที่จะเคลื่อนไหวปกติ พระของหลวงพ่อหลายองค์ที่ท่านแนะนำการทรงอารมณ์ฌาณสี่ใช้งาน ผมก็แอบๆฟังมาลองขยับๆดูบ้าง ในตอนนี้มีความเบิกบานมาก กล้าที่จะเผชิญกลับสิ่งที่น่ากลัวมั่นใจในวัตถุมงคล มั่นใจในเครื่องแบบผ้ากาสาวพัสตร์ ที่หลวงปู่เมตตาคัดเลือก วัดตัด และให้พระเรขาของท่านเป็นคนเย็บให้ มั่นใจในเขตสายอัพโภกาสที่เทวดาหรือผีอันธพาลเข้าใกล้ไม่ได้

    แต่สิ่งที่ทำให้ใจสดชื่นเบิกบานคือความดีที่ทำได้ ตามคำสั่งสอน คือศีลเป็นอธิศีล ทานที่ได้ทำจนหมดสิ้นแล้ว ทั้งถวายอายุขัย ถวายชีวิต ประพฤติปฏิบัติทั้งคันถะธุระ และวิปัสนาธุระ สิ่งเหล่านี้ทำให้กล้าหาญ เมื่อบวกรวมกันเข้ากับชุดวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เลยยิ่งทำให้กล้าในสิ่งที่เคยกล้ามากขนาดนี้ กลัวมากคือกลัวผี ผีนี่กลัวมากมาตั้งแต่เด็ก แต่คืนนี้เลิกกลัว ความจริงเรื่องกลัวผีนี่มันเบาบางความกลัวมานานแล้ว ในคืนนี้เมื่ออาบน้ำแล้ว ไหว้พระสวดมนต์เล็กน้อยไม่กี่บทเพราะใจมันจะวิ่งไปฌาณอื่นอย่างเดียว ปกติก็ไม่ค่อยสวดมนต์ชอบสมาธิกรรมฐานมากกว่า บทหนึ่งที่หลวงพ่อสั่งคือบทกรณียเมตตสูตร อันนี้สวดตามที่ท่านสั่งสอนมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กรกฎาคม 2010
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เมื่อสวดมนต์สั้นๆจบก็เจริญพระกรรมฐานทรงอารมณ์สมาธิเต็มกำลังที่ทำได้ แล้วก็ถอยออกมา พิจารณาว่า ชีวิตร่างกายไม่มีความหมาย เลือดและเนื้อไม่มีความหมาย ขึ้นชื่อว่าว่าความกังวลใดๆห่วงใยใดๆ ไม่มีสำหรับเรา ไม่มีการห่วงถึงคนภายนอก ไม่ห่วงแม้ร่างกายของตัวเอง มันจะพังก็เชิญมันพัง มันจะตายก็เอาเลยเชิญตายได้เลย ก็ทรงอารมณ์แบบนี้ เมื่อออกจากสมาธิก็นอน เป็นคืนที่หลับสบายมากที่สุดในหลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อหลับก็ฝันมากมาย แต่จะไม่ขอเล่าละนะ

    ที่เล่ามาทั้งหมดตอนที่เข้าป่านี้ก็เป็นการบอกแก่ ลูก หลาน ว่าในด้านของอารมณ์วิปัสนาธุระนั้นทรงอย่างไร อารมณ์ก้าวแรกที่ออกจากวัดนี่ต้องคิดว่าเราอาจจะตายที่ในป่า อาจจะไม่ได้กลับมา นั่นเป็นระเบียบของพระธุดงค์สายหลวงพ่อ แต่ผมนี่มันพิเศษคือมันตั้งใจไปตายกันในป่าเลย แต่อย่างที่เคยเล่าไว้นานแล้วในกระทู้ ทรัพยากรของไทย คนถ้ามันจะไม่ตายซะอย่างนี่มันไม่ตายง่ายๆ ตั้งใจจะนอนให้มันหมดแรงตายไม่ไปบิณฑบาต ในตอนเข้า เพราะร่างกายนี่ใกล้จะพังเต็มที มันทั้งเจ็บและอ่อนล้าเต็มที คิดในใจว่าไม่รู้จะรักษามันเอาไว้เพื่อประโยชน์อะไร ในตอนเช้ายังไม่สว่างดีฟ้ายังมืดอยู่เลยแต่ลุกนั่งแล้วเจริญพระกรรมฐานอยู่ ก็ไม่มีอะไรมากทรงอารมณ์สมาธิ อานาปา อยู่คืออารมณ์ใจมันอยากอยู่นิ่งๆไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรทั้งหมด ก็เห็นแม่ชีอายุมากแล้วเดินมาแต่ใกล ทั้งๆที่นั่งอยู่ในกลด อยู่ในกุฏิปิดหมดประตูหน้าต่าง เห็นเดินเข้ามาหน้ากุฏิยืนอยู่ข้างล่าง ก็มาบอกว่าพระคุณเจ้าใกล้สว่างแล้วนิมนต์เตรียมตัวออกบิณฑบาตเจ้าค่ะ ก็คิดในใจว่าเจ็บปวดปางตายอย่างนี้ จะเดินไปบิณฑบาตได้ยังไง ตั้งห้ากิโล ไปกลับสิบกิโลแค่ไปหาข้าวกินนี่นะ นอนให้มันตายยังง่ายกว่า ยังไงเราก็จะตายอยู่แล้ว แม่ชีก็บอกว่าพระวินัยของพระนี่ถ้าไม่ป่วยไข้ต้องบิณฑบาต พระคุณเจ้าเจ็บหลังไม่ได้เป็นไข้นี่ แล้วอีกอย่างพระองค์ที่มาเมื่อวานนี้ท่านก็บอกให้บิณฑบาต พระคุณเจ้าน่ะยังไม่ตายตอนนี้ นั่นแอบไปรู้ว่าพระท่านสั่งมา ก็ไม่เถียงอะไรสักคำ ก็นึกว่าเราเดินได้แค่ใหนเอาแค่นั้น ไปไม่ไหวตอนใหน จะนอนมันตรงนั้น ดีเหมือนกันบวชเป็นพระนอนตายมันข้างทางนี่แหละ ก็เตรียมตัวจะออกจากกลดจะเข้าห้องน้ำก็หันไปดูก็เห็นแม่ชีท่านยืนยิ้มรออยู่ ก็เป็นอันว่าไปบิณฑบาตโดยมีแม่ชีนี่ท่านก็เดินตามไปจนถึงตลาดตัวอำเภอบ้านไร่ แล้วก็บอกทางว่าให้ไปทางใหน ยืนรอจนกลับ มันก็มีแรงเดินแต่หลังนี่ยังมีอาการเจ็บต้องเดินหลังงอๆไป มันก็ไปจนถึง ก็เดินจนสุดตลาดใจตอนนั้นเมื่อไปถึงแล้วก็ไม่ได้คิดอยากได้อาหาร คิดแต่ว่าจะโปรดคนที่ใส่บาตร อยากให้คนที่ใส่บาตรทุกคนจงมีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ มีความปลอดภัย ก็สวดอิติปิโสตามที่หลวงพ่อสอนเวลาบิณฑบาต แต่ก็มีคนใส่บาตรมาจนล้นต้องใส่ถุงอีก บางคนมาตอนหลังมันไม่มีที่จะใส่แล้ว แล้วก็บาตรพระธุดงค์ธรรมยุตินี่จะใหญ่กว่าบาตรธรรมดาทั่วไปคือมีขนาดประมาณสิบสองนิ้ว เมื่อใส่อาหารเต็มก็จะหนักมาก อยู่องค์เดียวแล้วก็ฉันมื้อเดียว ความจริงไม่ต้องการมาก ที่เดินจนสุดตลาดก็เพียงต้องการโปรดคนที่ใส่บาตร ก็รับแล้วก็ส่งคืนให้คนที่มาใส่บอกว่าให้กลับไปแบ่งกันกินในครอบครัวเขาก็ทำท่าจะไม่รับก็เลยทำท่าปลุกเสกอาหาร บอกว่าโยมรับเอาไปเถอะ เป็นมงคลอาตมาปลุกเสกให้แล้ว แล้วแต่จะอธิฐานเอานะ เขาคงเห็นว่าเป็นพระธุดงค์จึงมีความเชื่อ เขาถึงได้รับกลับไป ความจริงไม่ได้เสกอะไร เพียงแต่ขอบารมีพระและครูบาอาจารย์อธิฐานให้สงค์เคราะห์ญาติโยมที่มาใส่บาตร มีความปรารถนาดีในการใส่บาตรอย่างไร ก็ขอให้จงสมความปรารถนานั้นโดยฉับพลันทันที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กรกฎาคม 2010
  9. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ทีนี้ก็มาถึงเบื้องท้ายปลายสุดของการบันทึก ขอฝากไว้ในความทรงจำของ ลูกหลาน ญาติมิตร หมู่คณะ บริษัทบริวารทั้งหลาย ว่าได้ทำบุญทานกองการกุศล และอธิฐานไว้ในหลายที่หลายสถาน แต่ที่วัดท่าซุงเป็นส่วนมาก เนื่องในวาระสำคัญต่างๆ

    ว่าถ้าตายแล้วเมื่อไรจะขอกลับมาเกิดอีกเป็นคนไทย ทำแบบเดียวกันกับที่สามเณรน้อยสมัยเชียงแสนท่านทำ และในสมัยบูรณะวัดท่าซุงอีกครั้ง ก็จะกลับมาดูแลการก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรทั้งหมด ร่วมกับท่านเจ้าอาวาส และพระมหากษัตร์ในสมัยโน้นประมาณปี2700ให้เป็นถาวรวัตถุที่มั่นคงยืนยาว ไปจนกว่าจะสิ้นพระพุทธศาสนานี้

    ไปในสมัยหน้าในอนาคตวงค์ สมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศรีอาริยเมตไตร ก็จะไปถวายมหาทาน พร้อมทั้งเด็ดหัวตัวเองถวายเป็นพุทธบูชา เอ่ยวาจาขอเข้ารับพุทธพยากรณ์ขอบรรลุมรรคผล อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษในอนาคตกาล

    และที่สั่งสมกุศลผลบุญมาแล้วทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้และที่จะมีเกิดขึ้นต่อเนื่องไปในอนาคตกาลอันเอนกอนันต์นั้น ก็หวังว่าจะนำพาให้ทุกคนพ้นจากทุกข์มีแต่ความสุข มีความปลอดภัย ขอทุกคนจงเป็นผู้มีโภคทรัพย์มั่งคั่งล้นเปรี่ยมสมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยประการทั้งปวง จงเป็นผู้มีร่างกายแข็งแรงพละกำลังเป็นเลิศ รูปร่าง ทรวดทรง หน้าตาผิวพรรณดีเป็นเลิศทั้งชายหญิงไม่เว้นแม้แต่สัตว์สักตัว จงเป็นผู้มีปฏิภาณปัญญาดีเป็นเลิศไม่เป็นสองรองใครในทุกที่ทุกสถานที่ไปเกิด จงเป็นผู้มีเดชอำนาจวาสนาบารมีมากตามคติของพระพุทธศาสนาคือพุทธบูชามหาเตชะวัณโต

    ท้ายที่สุดนี้ข้าพระพุทธเจ้าในฐานะที่ปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะพิเศษ

    ขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมเป็นต้นลงมา มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด และผลาอานิสงค์ กุศลผลบุญราศรี ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วในการปราถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะพิเศษ ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ และที่จะมีเกิดขึ้นต่อเนื่องไปในอนาคตกาลอันเอนกอนันต์นั้น

    และอานิสงค์ที่ญาตมิตรหมู่คณะทุกท่านได้ขวนขวายในบุญ ทานกองการกุศลนี้ จงส่งผลให้ทุกท่านจงมีความสุข มีความปลอดภัย หากว่ายังต้องท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสารยังไม่บรรลุมรรคผลเข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด

    ขอคำว่ายากจนเข็ญใจ คำว่าไม่มี คำว่าขัดข้อง คำว่าไม่รู้ คำว่าไม่สามารถจงอย่าได้มีกับทุกท่าน และขอให้ไม่ว่าจะเกิดอีกเมื่อใดเท่าไรชาติก็ตาม ขอจงอย่าเป็น ลูกจ้าง ลูกน้อง หรือเป็นบ่าวไพร่ผู้ใด ถ้าไม่เต็มใจปรารถนา ขอจงเป็นแต่เพียงเป็นนาย เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่สักปานใด ตลอดจนทรัพย์สินใดๆ ประดามี แม้แต่เศษด้ายที่ชายผ้า ถ้าไม่ให้ใครแล้วไซร้ใครก็เอาไปไม่ได้ ใครก็ทำอันตรายไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครมีเดชอำนาจวาสนามากสักเพียงใดก็ตาม


    และขอจงได้รับผลอานิสงค์พิเศษ หากว่าทุกท่านจะต้องหมดอายุขัยตายลงวันใด ขอจงเป็นผู้มีสติสัมปะชัญญะชัดเจนแจ่มใสนึกถึงพระ นึกถึงบุญทานกองการกุศลต่างๆได้ทั้งปวง อกุศลกรรมใดๆขอจงอ่อนกำลังเข้าแทรกไม่ได้เลยตลอดไป

    นับตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน เทอญ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มีนาคม 2011
  10. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ขออนุโมทนาบุญในบุญกุศลทั้งหมดที่คุณ PCO ได้กระทำมาตั้งแต่ชาติต้น จนถึงชาติปัจจุบัน และที่จะกระทำต่อๆ ไปในกาลข้างหน้า ตลอดจนการเพียรบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญานในแบบวิริยาธิกะพิเศษด้วยนะครับ



    .
     
  11. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    กราบโมทนาในความดีงาม และกุศลจิตทั้งหลาย

    ที่ท่านและคณะ ได้สั่งสมมาในทุกเรื่อง ทุกสิ่งทุกประการ

    ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตกาลด้วยนะคะ

    และขอให้ท่านได้สำเร็จเข้าถึง ซึ่งสิ่งดีที่ปรารถนาไว้

    ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ
     
  12. ใต้แสงดาว

    ใต้แสงดาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +80
    ขออนุโมทนาสาธุกับคุณ pco พุทธภูมิ วิริยาธิกะอันทรงคุณวิเศษ ขอให้สมความปรารถนาทุกประการเทิด..สาธุๆๆ
     
  13. ศิริอนันต์

    ศิริอนันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +254
    ขออนุโมทนา สาธุ
    กับการบำเพ็ญบารมี
    เพื่อบรรลุพระโพธิญาณ
    แบบวิริยาธิกะพิเศษ
    ของหน่อพุทธางกูร
    ท่าน PCO_ ด้วยครับ
     
  14. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    อนุโมทนาสาธุครับ .......................
     
  15. pomsakda

    pomsakda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +2,275
    สุดยอดจริงๆ ครับ(y)(y)(y)
    กระผมขอน้อมอนุโมทนากับมหาบุญกุศลอันล้ำเลิศยิ่งของคุณ PCO เป็นอย่างยิ่งครับ(*)(*)(*)
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วิริยาธิกะพิเศษบันทึก
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->PCO_<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3389188", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->

    :cool:({) ผมตามอ่านมาทุกหน้าขออนุโมทนาสาธุกับท่านทุกอย่างตั้งแต่อดีดถึงปัจจุบัน แต่ผมน่ะเป็นคนขี้สงสัย ในเมื่อท่านอธิษฐานแบบนั้นแล้ว ในระหว่างที่ท่านบำเพ็ญ ความเพียร อยู่บางชาติ ท่านต้องไปเกิดบำเพ็ญความเพียร เป็นฤาษี นับชาติไม่ถ้วนเหมือนกัน ต้องออกบวช บำเพ็ญตบะเดชะ บารมีส่วนไหนไม่เต็ม ก็ต้องลงมาเกิดมา เป็น เพราะว่า คำว่าพระโพธิสัตว์ มันต้องเกิดเป็นทุกอย่าง ไม่ว่าสัตว์หรือคน ยกตัวอย่าง ช้างปาริไลยกะโพธิสัตว์ ต้องมารับใช้พุทธองค์ ช้างนาราคีรี ผมถึงงงๆกับคำพูดแบบนั้น ครับ ยกตัวอย่างเช่น ท่านสิงห์ดอก เกิดมาเป็นหมาหลวงพ่อ คอยดูแลท่าน ท่านบอกท่านสิงห์ดอก พุทธภูมิ อีก ๓ ชาติบารมีเต็ม เอ่ แล้วเวลาท่านประชุมชาดก ถตาคตเคยเกิดเป็นนั่นเป็น นี่จะมาแต่ไหนครับ ผมเลยยังงงอยู่ครับ เพราะพวกพุทธภูมิ นี่ต้องเกิดระหว่างคนกับ

    สัตว์เท่านั้น เป็นเทวดากับพรหม เขาไม่คิดให้ เขาคิดให้เฉพาะสาวกเท่านั้น เมื่อเกิดแล้ว ขอใช้คำพูดหลวงพี่เล็ก ท่านว่า พวกพุทธภูมิ นี่เกิดอย่างเล็กไม่เกินกว่านกกระจาบนกกระจอก อย่างใหญ่ไม่เกินกว่าช้าง แล้วคนหลายประเภท จนจนรวยชาวไร่ชาวนา คนขอทานกต้องไปเป็นอยู่แล้ว ไม่งั้นจะไปเป็นครูเขาได้หรือ และอีกหลายอย่างที่กระผมสงสัยครับท่าน และบางชาติ ดูตัวอย่างพระโพธิสัตว์อื่นๆ ก็ต้องไปเกิด เป็นสัตว์ต่างๆ ในสมัย พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง หรืออาจจะหลายพระองค์ ภูมิปัญญากระผมยังน้อยครับ ขอท่านอธิบายมาโดยแยบคายด้วยครับกระผม:cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2012
  17. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    โอ้ว ท่านสิงห์ดอกพุทธภูมิ อีก 3 ชาติบารมีเต็มหรือครับเนี่ย สุดยอด
    คุณบุญทรงมีเกร็ดเล็กน้อยมาบอกเสมอเลย ขอบคุณครับ
     
  18. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    อนุโมทนา และขอเป็นกำลังใจให้ท่าน PCO มีความเพียรต่อไป และสำเร็จตามที่ท่านปรารถนา นะครับ
     
  19. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    <TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 6658702" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>บุญทรงพระเครื่อง</TD><TD class=alt1>วิริยาธิกะพิเศษบันทึก
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->PCO_<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3389188", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->

    :cool:({) ผมตามอ่านมาทุกหน้าขออนุโมทนาสาธุกับท่านทุกอย่างตั้งแต่อดีดถึงปัจจุบัน แต่ผมน่ะเป็นคนขี้สงสัย ในเมื่อท่านอธิษฐานแบบนั้นแล้ว ในระหว่างที่ท่านบำเพ็ญ ความเพียร อยู่บางชาติ ท่านต้องไปเกิดบำเพ็ญความเพียร เป็นฤาษี นับชาติไม่ถ้วนเหมือนกัน ต้องออกบวช บำเพ็ญตบะเดชะ บารมีส่วนไหนไม่เต็ม ก็ต้องลงมาเกิดมา เป็น เพราะว่า คำว่าพระโพธิสัตว์ มันต้องเกิดเป็นทุกอย่าง ไม่ว่าสัตว์หรือคน ยกตัวอย่าง ช้างปาริไลยกะโพธิสัตว์ ต้องมารับใช้พุทธองค์ ช้างนาราคีรี ผมถึงงงๆกับคำพูดแบบนั้น ครับ ยกตัวอย่างเช่น ท่านสิงห์ดอก เกิดมาเป็นหมาหลวงพ่อ คอยดูแลท่าน ท่านบอกท่านสิงห์ดอก พุทธภูมิ อีก ๓ ชาติบารมีเต็ม เอ่ แล้วเวลาท่านประชุมชาดก ถตาคตเคยเกิดเป็นนั่นเป็น นี่จะมาแต่ไหนครับ ผมเลยยังงงอยู่ครับ เพราะพวกพุทธภูมิ นี่ต้องเกิดระหว่างคนกับ

    สัตว์เท่านั้น เป็นเทวดากับพรหม เขาไม่คิดให้ เขาคิดให้เฉพาะสาวกเท่านั้น เมื่อเกิดแล้ว ขอใช้คำพูดหลวงพี่เล็ก ท่านว่า พวกพุทธภูมิ นี่เกิดอย่างเล็กไม่เกินกว่านกกระจาบนกกระจอก อย่างใหญ่ไม่เกินกว่าช้าง แล้วคนหลายประเภท จนจนรวยชาวไร่ชาวนา คนขอทานกต้องไปเป็นอยู่แล้ว ไม่งั้นจะไปเป็นครูเขาได้หรือ และอีกหลายอย่างที่กระผมสงสัยครับท่าน และบางชาติ ดูตัวอย่างพระโพธิสัตว์อื่นๆ ก็ต้องไปเกิด เป็นสัตว์ต่างๆ ในสมัย พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง หรืออาจจะหลายพระองค์ ภูมิปัญญากระผมยังน้อยครับ ขอท่านอธิบายมาโดยแยบคายด้วยครับกระผม:cool::cool::cool:













    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอขอบคุณ คุณบุญทรงมากครับที่ถามเป็นประโยชน์และความรู้สำหรับผู้อื่นมาก การอธิฐานที่เห็นนี้นั้น อย่างหนึ่งต้องบอกว่าผมเดินตามรอยเท้าพ่อ คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง พ่อรักและเป็นห่วงลูกหลานญาติมิตร หมู่คณะ บริษัทบริวารมากฉันใด ผมเองก็มีความรักมีความห่วงใย ญาติมิตร ลูกหลาน หมู่คณะ บริษัทบริวารมากฉันนั้น จะเห็นได้ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านอธิฐานขอให้เทพเจ้าเหล่าเทวาทั้งหลายจงได้กำหนดจดจำลูกหลานของท่าน ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนไปอบายภูมิ
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านพูดฝากไว้ดังนี้

    •••• ฉันขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข พร้อมด้วยพระอริยสงฆ์ทั้งหมด และพระพรหมและเทพเจ้าทั้งหมด ขอทุกท่านจงกำหนดจิตจดจำลูกหลานของฉันไว้ว่า บุคคลผู้ใดก็ตาม เมื่อเวลาจะตายขอให้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีจิตน้อมไปในกุศลกรรมและขอให้ได้รับผลที่ฉันได้ทำไปแล้วทุกประการ แก่ลูกหลานของฉันทุกคน เวลานี้ฉันมองดูแล้วนะตรวจดูแล้ว สิ่งที่ฉันต้องการมันสมใจนึกแล้ว ฉันมีความอิ่มใจบอกไม่ถูกเวลานี้ทำได้แล้วลูกหลานของฉันทุกคนมีศรัทธาเป็นอจลศรัทธาแล้ว มีความมั่นคงในพระพุทธศาสนาแล้วมีความดีพอสมควรแล้ว


    ผมเองอธิฐานขอเพื่อหมู่คณะ ส่วนตัวเองนั้นก็จะก้องอยู่ในใจตลอดเวลาที่รู้ตัวว่าขอผลาอานิสงค์กุศลผลบุญราศรีที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้นั้นจงส่งผลให้ขัาพระพุทธเจ้าจงได้บรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษในอนาคตกาลโน้นเถิด ก็รู้อยู่เต็มอกว่าพุทธภูมินั้นจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ผมเองก็ต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีตามพ่อสั่ง และสอน อย่างหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่พ้นก็คือกฏของกรรม เมื่อใดที่ต้องทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสเพียงใด ก็จำเป็นต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม ที่ต้อง ใช้ขันติ ใช้โสรัสจะ เสงี่ยมเจียมตัวเจียมใจมาเป็นหลักในการที่จะประคองกำลังใจให้ก้มหน้าฝ่าฟันต่อไป วิริยาธิกะนั้นเก็บละเอียดมากปราณีตมากเป็นหลักสูตรอยู่แล้ว

    ส่วนการตั้งจิตเป็นสัตยาอธิฐานตามข้างล่างนี้ เป็นส่วนที่ผมต้องการคุ้มครองป้องกัน ญาติมิตร หมู่คณะให้ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยในวัฏสงสาร เหมือนกับเราที่ต้องสู้รบทำศึกทำสงคราม เรารู้ว่าเราสู้ข้าศึกไม่ไหวเราต้านไม่ไหว ผมก็ต้องขนทรัพย์สินไปฝังไปซุกซ่อนไว้ก่อน ส่วนผู้คนก็ต้องหาที่หลบที่ซ่อนที่ปลอดภัย ส่วนตัวเองนั้นมันจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับข้าศึกทุกรูปแบบแม้ว่าต้องเผชิญตามลำพังก็ไม่เป็นไร

    คิดง่ายๆการที่เราเป็นพ่อคนแม่คนโดยปกติธรรมชาติของพ่อและแม่นั้นย่อมมีความรักความห่วงใยมีเมตตาปราณี มีแต่ความปราถนาดีต่อลูกอย่างที่เรียกกันว่ารักดั่งเป็นแก้วตาดวงใจ คนเป็นพ่อนั้นย่อมสละแทบจะทุกอย่างเพื่อลูก ยอมทุกข์ยากลำบากสารพัดทุกอย่างเพื่อลูกๆจะได้ทัดเทียมหน้าตาผู้อื่น ที่อย่างน้อยลูกก็ต้องไม่ด้อยกว่าลูกคนอื่นด้วยประการทั้งปวง

    การที่พวกเราได้มีวาสนาเกิดมาพบพระพุทธศาสนา พบพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จจอมไตรบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เปรียบเสมือนเราได้เกิดมาเป็นลูกของมหาเศรษฐี ที่จะเลือกเอาส่วนที่พ่อทำไว้ดียิ่งแล้วมาต่อยอด โดยมีพ่อคอยประคับประคอง เป็นพระประทีปแก้วส่องนำทาง พ่อเป็นมหาเศรษฐีอยู่แล้ว มันก็ย่อมที่เราจะทำอะไรมันก็ง่ายขึ้น

    การที่ตั้งความปราถนานั้นมันก็ไม่ใช่เพียงสักแต่ว่าตั้ง ผมต้องการให้ทุกคนเป็นคนสวยสดงดงาม ผมก็นำเรื่องราวของท่านรูปนันทา ท่านวิสาขาและท่านอื่นๆมาบอกเล่าและนำพาทุกคนที่มีโอกาสทำตามตัวอย่างอันประเสริฐนั้น

    ต้องการให็ทุกคนมั่งคั่งเราก็มีตัวอย่าง ท่านโชติกะ และท่านอื่นๆ

    ท้ายที่สุดนี้ข้าพระพุทธเจ้าในฐานะที่ปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะพิเศษ

    ขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมเป็นต้นลงมา มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด และผลาอานิสงค์ กุศลผลบุญราศรี ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วในการปราถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะพิเศษ ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ และที่จะมีเกิดขึ้นต่อเนื่องไปในอนาคตกาลอันเอนกอนันต์นั้น

    และอานิสงค์ที่ญาตมิตรหมู่คณะทุกท่านได้ขวนขวายในบุญ ทานกองการกุศลนี้ จงส่งผลให้ทุกท่านจงมีความสุข มีความปลอดภัย หากว่ายังต้องท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสารยังไม่บรรลุมรรคผลเข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด

    ขอคำว่ายากจนเข็ญใจ คำว่าไม่มี คำว่าขัดข้อง คำว่าไม่รู้ คำว่าไม่สามารถ คำว่าเป็นที่สองรองใคร จงอย่าได้มีกับทุกท่าน และขอให้ไม่ว่าจะเกิดอีกเมื่อใดเท่าไรชาติก็ตาม ขอทุกคนจงเป็นผู้มีโภคทรัพย์มั่งคั่งล้นเปรี่ยมสมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยประการทั้งปวง จงเป็นผู้มีร่างกายแข็งแรงพละกำลังเป็นเลิศ รูปร่าง ทรวดทรง หน้าตาผิวพรรณดีเป็นเลิศทั้งชายหญิงไม่เว้นแม้แต่สัตว์สักตัว จงเป็นผู้มีปฏิภาณปัญญาดีเป็นเลิศไม่เป็นสองรองใครในทุกที่ทุกสถานที่ไปเกิด จงเป็นผู้มีเดชอำนาจวาสนาบารมีมากตามคติของพระพุทธศาสนาคือพุทธบูชามหาเตชะวัณโต
    ขอจงอย่าได้เป็น ลูกจ้าง ลูกน้อง หรือเป็นบ่าวไพร่ผู้ใด ถ้าไม่เต็มใจปรารถนา ขอจงเป็นแต่เพียงเป็นนาย เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่จะมากมหาศาลสักปานใดก็มีความรู้ความสามารถปกครองดูแลได้ ตลอดจนทรัพย์สินใดๆ ประดามี แม้แต่เศษด้ายที่ชายผ้า ถ้าไม่ให้ใครแล้วไซร้ใครก็เอาไปไม่ได้ ใครก็ทำอันตรายไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครมีเดชอำนาจวาสนามากสักเพียงใดก็ตาม


    และขอจงได้รับผลอานิสงค์พิเศษ หากว่าทุกท่านจะต้องหมดอายุขัยตายลงวันใด ขอจงเป็นผู้มีสติสัมปะชัญญะชัดเจนแจ่มใสนึกถึงพระ นึกถึงบุญทานกองการกุศลต่างๆได้ทั้งปวง อกุศลกรรมใดๆขอจงอ่อนกำลังเข้าแทรกไม่ได้เลยตลอดไป

    นับตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน เทอญ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    เดี๋ยวมาต่อนะครับ

    พระคาถาเงินล้านของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    ตั้ง นะโม ๓ จบ
    สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
    นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา


    (บูชา 3,7,9 จบ ตัวพระคาถาต้องว่าทั้งหมด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2012
  20. โอม ศักติ

    โอม ศักติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +116
    นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ

    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาสาธุในการสร้างบารมีของท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...