วิปัสสนาญาณ เกิดขึ้นได้อย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิมุตติ, 20 พฤษภาคม 2008.

  1. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คุณผึ้ง ลองทบทวนคำนี้ดู เพราะคุณหันมาทางวิปัสสนาแล้ว น่าจะทำ
    ความเข้าใจตามได้

    จริงอยู่ การดูไตรลักษณ์ ก็แค่ 3 คำ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่ออ่าน
    แล้ว ดูความหมาย ก็เข้าใจได้ไม่ยากส์ แต่ทำไม พระพุทธองค์เป็นผู้เดียว
    ที่ค้นพบทาง

    ถ้ามัน เอามาขบ และไตร่ตรองไปในสรรพสิ่งที่เกิดได้ง่ายๆ ก็คง
    ไม่ต้องพึ่งพระพุทธองค์มาชี้

    ธรรมที่พระพุทธองค์พบนั้น แรกก็อุทานว่า มันเป็นของยากที่ปุถุชนจะทำความ
    เข้าใจ เห็นถูกต้อง ก็ถ้า บรรยายแบบพรรณาโวหาร คนทั่วไปที่ไหนก็เข้าใจ
    แล้วทำไมพระพุทธองค์จึงกล่าวว่าเป็นของยาก

    มันต้องมีเงื่อนงำสิ จริงไหม

    ผมก็พยายามชี้ว่า ปุถุชนไม่เข้าใจการเอา ความรู้สึก มาปฏิบัติ

    เขาจะเข้าใจไปว่า เอาแต่รู้สึก นั่นมันไม่ได้ทำอะไรเลย นั่นมันขี้เกียจ
    แต่พระพุทธองค์ ก็ชี้คำเดิม คือ ให้ รู้สึกเอา จน รู้สึกชัด

    ถามว่า เอาปัญญาขบคิดเรื่องไตรลักษณ์ง่ายไหม

    ถามอีกทีว่า เอา ความรู้สึก ดูไตรลักษณ์ยากไหมที่จะน้อมรับฟัง

    นั้นแหละ คำตอบ ของ ธรรม ที่ปุถุชน น้อมรับ หรือ เข้าใจได้ยาก
    มันเป็นทางไหนกันละ

    ทางขบคิด ไม่ใช่แน่ เพราะ นี่ง่ายๆ

    ทางรู้สึกเอา เอารู้สึกมาปฏิบัติ นี่ยาก งง ไหม นี่แหละของ
    ยากส์

    เพราะมันเป็นเรื่องง่ายๆ ธรรมดาสุดๆ แต่เพราะ ความรู้มาก
    ตัณหามาก มันจึงมาบังตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2008
  2. seng sun dan

    seng sun dan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +5
    ถามอย่างนี้ ยานจนลากพื้นก็ไม่เข้าใจ
    วิปัสนาญาณ ญาณเกิด เกิดตามลมตั้งมั่น
    ละเอียดยิ่ง แผ่วเบาจนเลือนหาย
    ญาณยิ่งลึก รู้เห็นสุดบรรยาย
    หากกล่าวไป แม้ไม่นำพา ก็เพียงลม
     
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=j>วิปัสสนาญาณ คือ ปัญญา ความรู้ ความเห็นแจ้ง

    ด้วยตนเองถึงธรรมชาติที่แท้จริงของรูปนาม....สั้นๆ...จบ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ถึงแม้ผู้ปฏิบัติจะไม่รู้เกี่ยวกับลำดับขั้นของวิปัสสนาญาณเลย

    แต่ถ้าปฏิบัติถูกทางแล้ว วิปัสสนาญาณก็ย่อมจะเกิดขึ้นมาเอง

    โดยลำดับอยู่แล้ว และแน่นอนว่า...

    ผลอันสืบเนื่องจากวิปัสสนาญาณนั้น

    ก็ย่อมจะเกิดตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย

    และพัฒนาการต่างๆ ก็ย่อมจะเป็นไป

    ตามขั้นตอน ตามวาสนา บารมี และอุปนิสัย

    อันเป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล

    เพราะต้นเหตุที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

    ก็คือความรู้ ความเข้าใจ ความเห็นแจ้งในธรรมชาติของรูปนาม

    ด้วยปัญญาของตนเอง อันเกิดจากการเจริญวิปัสสนานั่นเอง

    ไม่ใช่เกิดจากระเบียบกฎเกณฑ์ที่ใครวางเอาไว้เลย

    จะมีก็แต่กฎเกณฑ์ของธรรมชาติเท่านั้น
     
  5. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ถามว่า ถ้า คนเรารู้สึกร้อนเป็น

    แล้วเราต้องเข้าไปสัมผัส ไฟ เพื่อ รู้ร้อนอีกไหม

    ตัวนี้ดูให้ดี ว่า เราใช้ ปัญญาความคิดขบเอา หรือ รู้สึก เอาก็รู้ชัด

    ใครเห็นไฟแล้วต้องนั่งคิดว่านั่นไฟ มันร้อนอีกบ้าง ไม่มีแล้ว

    คนที่รู้สึกเป็น ใช้ความรู้สึกเป็น ก็ใช้อันนั้นแหละเป็น ตัวรู้

    ถามว่า ใช้ความรู้สึก เข้าไปรู้ แล้วต้องมีอะไรมากกว่านี้อีกไหม

    ใช้ความ รู้สึก เข้าไปรู้เอา คือ คนที่มีปัญญา หรือ ไม่มีปัญญา

    ถ้า คนที่ใช้ความรู้สึก รู้เอา มันมี ปัญญา มากกว่า คนที่นั่งขบคิด
    หาวิธีการ วาง ตัด กด ข่ม คำนึง ไตร่ตรองไหม

    ยิ่งคน ที่รู้สึกได้ชัด ยังต้องสงสัยอีกไหม ว่า คนๆนั้น ด้อยปัญญา
     
  6. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ตอบอย่างนี้ เดี๋ยวก็จบชีวิตหรอก
     
  7. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    แต่ถ้าผู้ปฏิบัติรู้เรื่องรายละเอียดของวิปัสสนาญาณขั้นต่างๆ ล่วงหน้า

    ก่อนที่ความเห็นแจ้งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นด้วยปัญญาของตนเอง

    จริงๆ แล้ว ผลเสียที่อาจจะเกิดตามมา ก็คือ

    1. การปฏิบัติจะก้าวหน้าได้ช้า เพราะผู้ปฏิบัติมัวแต่คอยเปรียบเทียบผล
    การปฏิบัติของตน กับทฤษฎีอยู่ และอาจถึงขั้นทำให้เกิดความฟุ้งซ่าน
    ไม่อยู่กับสภาวะอันเป็นปัจจุบันเฉพาะหน้า จนปัญญาไม่เกิดเลยก็ได้

    2. ผู้ปฏิบัติอาจเกิดอติมานะ คือความเย่อหยิ่งถือตนว่าปฏิบัติได้สูงกว่า
    คนอื่น ซึ่งเป็นกิเลสชนิดหนึ่ง และอาจมีผลสืบเนื่องให้กิเลสตัวอื่นๆ เกิด
    ตามมา

    3. อาจเกิดญาณเทียมขึ้นมาได้ เพราะผู้ปฏิบัติรู้ล่วงหน้าแล้วว่าต่อไป
    ควรเกิดความรู้ และความรู้สึกอย่างไรขึ้นมาบ้าง และด้วยความที่อยาก
    จะก้าวหน้าไปเร็วๆ จึงเกิดการน้อมใจไปสู่ความรู้สึกเช่นนั้น หรือเกิดการ
    สะกดจิตตนเองโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ปัญญาเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่
    อาศัยสัญญาคือการจำมาจากตำรา หรือจากผู้อื่น

    (ซึ่งสัญญาจะทำได้ก็เพียงข่มกิเลสเอาไว้เท่านั้น ไม่สามารถทำลาย
    ความยึดมั่นถือมั่น และกิเลสต่างๆ ได้อย่างแท้จริง เมื่อมีเหตุปัจจัยที่
    เหมาะสมกิเลสก็จะแสดงตัวออกมาใหม่)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  8. seng sun dan

    seng sun dan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +5
    กาลามสูตร แปลว่า ออกจากกะลามาพิสูจน์ เข้าใจไหม
     
  9. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    รู้สึก กับ คิด มันคนละตัว

    รู้สึก ไม่ต้องแปลความหมายใดๆ ไม่ต้องมีคำอะไรพรรณาอยู่ในหัว
    ให้เหมือนคนกระซิบ เพราะ รู้สึก ก็คือ รู้สึก

    แต่ความคิด มันมีคำบรรยาย มันมีการใช้สัญญา บัญญัติคำสมมติ

    ระหว่างการดูไตรลักษณ์

    ถ้า เราใช้ความรู้สึกในไตรลักษณ์ ไม่ต้องมีการบรรยาย ก็ รู้สึกไตรลักษณ์
    เมื่อรู้สึกแล้ว รู้สึกเป็นแล้ว คุณจะตั้งคำถามไหม ว่า เขารู้เรื่องอะไร

    ถ้า คนใช้ความคิดดูไตรลักษณ์ ถามอะไร เขาก็บอกต้องทำ ต้องคิด ต้อง
    ขบ ต้องตัด ต้องกำหนด

    สองสภาวะนั้นต่างกัน

    พระพุทธองค์ชี้ ให้รู้สึก เอา ไม่ใช่คิด
     
  10. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ถึงที่สุดแล้วจะเป็นนิพพานแห้ง
     
  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    การเข้าใจผิดเรื่องผลของการเจริญวิปัสสนานั้นเกิดขึ้นได้ง่าย

    เพราะธรรมดากิเลสนั้นนอกจากจะถูกทำลายอย่างถาวรด้วย

    วิปัสสนาปัญญาแล้ว ยังอาจถูกกด หรือข่มเอาไว้ได้หลายวิธี เช่น

    ด้วยอำนาจของสมาธิ การพิจารณาแล้วข่มเอาไว้ การข่มด้วยสติ

    การน้อมใจแล้วข่มเอาไว้ ฯลฯ

    ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะซ่อนกิเลสเอาไว้ได้ชั่วคราวเท่านั้น

    เมื่อสบโอกาสที่เหมาะสมกิเลสเหล่านั้นก็จะแผลงฤทธิ์ออกมาได้ใหม่
     
  12. kongkatree

    kongkatree สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +14
    โอ..โห..คำแปลเด็ดขาดมากๆ
    ออกจากกะลามาพิสูจน์
    คิดได้ไงเนี่ย..ยกย่อง ยกย่อง
     
  13. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ในสมัยโบราณ (ถ้าจำไม่ผิด ในอรรถกถาของพระไตรปิฎก

    ฉบับมหามกุฏฯ ที่มี 91 เล่ม) มีภิกษุ 2 รูป

    เข้าใจผิดว่าท่านได้เป็นพระอรหันต์แล้ว

    มีผู้ที่รู้ว่าท่านทั้งสองยังเป็นปุถุชนอยู่ ปรารถนาจะช่วย

    จึงใช้วิธีให้ทำเป็นช้างวิ่งตรงเข้าไป จนจะชนภิกษุรูปหนึ่ง

    ภิกษุรูปนั้นตกใจ กลัวตาย จึงรู้ตัวว่าตนยังเป็นปุถุชนอยู่

    ส่วนภิกษุอีกรูปหนึ่งใช้วิธีให้นั่งเพ่งนางอัปสร

    ไม่นานกามราคะของภิกษุรูปนั้นก็แสดงตัวออกมา

    จึงรู้ตัวว่ายังเป็นปุถุชนอยู่เช่นกัน

    ต่อมาท่านทั้งสองจึงทำความเพียร เจริญวิปัสสนาต่อไป

    จนบรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งสองรูป
     
  14. อวิโรธนะ

    อวิโรธนะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +6
    คุณครับ ขยายตัวใหญ่หน่อย ผมสายตาไม่ดี
     
  15. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ดังนั้น ผู้ปฏิบัติจึงต้องระวังให้ดี

    ไม่เช่นนั้นแล้วญาณเทียมจะเกิดขึ้นได้

    การปฏิบัติโดยการรับรู้สภาวะที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน

    ไม่ต้องสนใจผลที่จะเกิดในอนาคต

    และไม่ต้องไปเทียบชั้นญาณกับทฤษฎีจะปลอดภัยกว่า

    ขอให้ศึกษาวิธีการปฏิบัติให้เข้าใจอย่างชัดเจนเป็นใช้ได้

    หลังจากนั้นก็คอยดู คอยสังเกตสภาวะที่ปรากฏให้เห็นจริงๆ

    ในขณะนั้น แล้ววิปัสสนาญาณก็จะเกิดขึ้นเอง อย่าใจร้อน

    ถ้ามีกัลยาณมิตรคอยแนะนำตามสมควรก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก
     
  16. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อย่างที่สันโดษ กรุณายกมา

    ระหว่าง เอาความรู้หมายจำ หรือ ปัญญาแบบขบคิด มาทำการปฏิบัติ
    ก็จะเห็นทันทีว่าไม่สอดคล้องกับคำบรรยายข้างต้น เพราะจะต้องมีการ
    กำหนดรูปแบบการกระทำต่างๆ นานา ตามกฏเกณฑ์

    แต่ถ้า เอา ความรุ้สึก เอา การรู้สึก มาปฏิบัติ ความรู้สึกนี้ ธรรมชาติ
    มันก็พ้นกฏเกณฑ์อยู่แล้ว คุณ บรรยายความรู้สึกออกมาได้ไหม ไม่ได้
    ที่อธิบายไม่ได้ เพราะมันเป็นสภาวะที่เจ้าตัวรู้สึกอยู่ ชัดอยู่ จะกำหนด
    อย่างไรก็ได้ ขอให้รู้ตัวว่ารู้สึก ก็คือ รู้สึกอยู่ แบบนี้ สอดคล้องชัดๆ
    ว่า พ้นกฏเกณฑ์ทั้งปวง
     
  17. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เค้าเรียก แห้ง กับ สด
    ถ้าแห้งนี่มันก็นึกว่าสุด ๆ แล้ว งั้น ๆ ไม่เห็นจะมีไรเลย
    ถ้าสดนี่ มันอร่อยนะ ทำทุกวิธีทางให้ได้สัมผัสอีก และรู้ว่าโอ้ นี่มันเพิ่งเริ่มเองนี่หว่า ^-^
     
  18. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เรื่อง แห้ง หรือ เปียก อย่าพึ่งเอามาคิด

    อย่าพึ่งเอามานำทาง ขอให้รู้สึกให้เป็นก่อน ให้รู้ทางก่อนว่าพระพุทธองค์
    ชี้ตัวไหน เมื่อรู้ทางแล้ว ระหว่างทาง จะ แห้ง หรือ เปียก ก็ยังสามารถ

    แต่ไม่ใช่ชี้ให้ดูแล้ว บอกว่า แห้ง ไม่ดี ไม่ใช่ทาง

    ต้องเปียกเท่านั้น

    อันนี้ ก็ไตร่ตรองให้ดี ว่าเกิดอะไรขึ้น

    นี้แค่ ชี้ทางเอง ก็ปฏิเสธการเห็นเสียแล้ว

    แล้ว ไอ้ทีปฏิบัติอยู่ จะมี แห้ง อยู่หรือ ก็ในเมื่อ ปฏิเสธ การเห็นแห้งอยู่

    แถมมากล่าวแยก ทำนองว่า แห้งไม่ดี

    ก็ แห้ง นี่แหละ ทางตรง สติปัฏฐาน 4
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ผมยังเสวนา ไปที่ คุณ ผึ้งนะ

    ผมไม่ได้สนใจคนอื่นว่าจะเข้าใจหรือไม่ เพราะ สภาวะไม่ได้เสมอ
    คำที่ผมกำลังชี้ง

    เพราะ คุณผึ้งเป็นคนเดียว ที่พยายามหาความแตกต่างระหว่างวิธี
    การปฏิบัติในแบบเดิมๆ กับ แบบใหม่ที่ยังไม่เข้าใจ ส่วนวิธีเดิมๆ
    ง่ายๆ แค่กำหนดท่า รูปแบบ แล้วทำไป ก็เห็นผม

    แต่วิธีใหม่ที่พวกผมชี้ ทำได้ยัง เห็นยัง นั้นแหละ ของยาก ที่เป็น
    ของดี อย่าได้สงสัยเลยว่าไม่ใช่ -- ค่อยๆ น้อมพิจารณาไป

    เพราะนี้คือการนำเสนอ ไม่ได้ กดคุณนั่งทำตาม เราไม่ได้บังคับ
    อะไรคุณผึ้งเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  20. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ไร้ธรรม สงบเรียบร้อยอย่างนี้ ดีมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...