วันที่เริ่มมีพระอริยสงฆ์ในสมัยพุทธกาล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 30 กรกฎาคม 2015.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    วันนี้วันที่ 30 กรกฎาคม 255 8 เป็น วันอาสาฬหบูชา
    วันอาสาฬหบูชา
    ต ร ง กั บ วั น ขึ้ น ๑ ๕ ค่ำ เ ดื อ น ๘

    ************************************************
    วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้ เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ด้วยพระพุทธองค์ทรงเปรียบดังผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรียังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผ่ขยายอาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา ดังนั้น ธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้งแรกจึงได้ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งธรรม

    เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้นชมพูทวีปในสมัยโบราณ กำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองเฟื่องฟูทุกด้านและมีคนหลายประเภททั้งชนผู้มั่งคั่งร่ำรวย นักบวชที่พัฒนาความเชื่อและ ข้อปฏิบัติทางศาสนา เพื่อให้ผู้ร่ำรวยได้ประกอบพิธกรรมแก่ตนเต็มที่ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตที่วนเวียน ในอำนาจและโภคสมบัติที่ออกบวช หรือบางพวกก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอกพ้นด้วยการคิดปรัชญาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้บ้าง พระพุทธเจ้าจึงทรงอุบัติในสภาพเช่นนี้ และดำเนินชีพเช่นนี้ด้วยแต่เมื่อทรงพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขาดแก่นสาน ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง แก่ตนเองและผู้อื่น จึงทรงคิดหาวิธีแก้ไขด้วยการทดลองต่าง ๆ โดยละทิ้งราชสมบัติ และอิสริยศแล้วออกผนวช บำเพ็ญตนนานถึง ๖ ปี ก็ไม่อาจพบทางแก้ได้ ต่อมาจึงได้ทางค้นพบ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เมื่อทรงปฏิบัติตามมรรคานี้ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่นำคุณค่า แท้จริงมาสู่ชีวิต อันเรียกว่า อริยสัจ ๔ ประการ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศก ๔๔ ปี ที่เรียกว่า การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นทรงงานประกาศศาสนาโดยทรงดำริหาทางที่ได้ผลดีและรวดเร็ว คือ เริ่มสอนแก่ผู้มีพื้นฐานภูมิปัญญาดีที่รู้แจ้งคำสอนได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปชี้แจงอธิบาย ให้ผู้อื่นเข้ามาได้อย่างกว้างขวาง จึงมุ่งไปพบนักบวช ๕ รูป หรือเบญจวัคคีย์ และได้แสดงธรรม เทศนาเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญ เดือน ๘

    ใ จ ค ว า ม สำ คั ญ ข อ ง ป ฐ ม เ ท ศ น า
    ในการแสดงแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกของพระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมสำคัญ ๒ ประการคือ

    ก. มัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง เป็นข้อปฏิบัติที่เป็นกลาง ๆ ถูกต้องและเหมาะสมที่จะให้บรรลุถึงจุดหมายได้ มิใช่การดำเนินชีวิตที่เอียงสุด ๒ อย่าง หรืออย่างหนึ่งอย่างใด คือ

    ๑. การหมกหมุ่นในความสุขทางกาย มัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง รวมความเรียกว่า เป็นการหลงเพลิดเพลินหมกหมุ่นในกามสุข หรือ กามสุขัลลิกานุโยค

    ๒. การสร้างความลำบากแก่ตนดำเนินชีวิตอย่างเลื่อนลอย เช่น บำเพ็ญตบะการทรมานตน คอยพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น การดำเนินชีวิตแบบที่ก่อความทุกข์ให้ตนเหนื่อยแรงกาย แรงสมอง แรงความคิด รวมเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค

    ดังนั้นเพื่อละเว้นห่างจากการปฏิบัติทางสุดเหล่านี้ ต้องใช้ทางสายกลาง ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตด้วยปัญญา โดยมีหลักปฏิบัติเป็นองค์ประกอบ ๘ ประการ เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมัคค์ หรือ มรรคมีองค์ ๘ ได้แก่

    ๑. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ รู้เข้าใจถูกต้อง เห็นตามที่เป็นจริง
    ๒. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ คิดสุจริตตั้งใจทำสิ่งที่ดีงาม
    ๓. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ กล่าวคำสุจริต
    ๔. สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ ทำการที่สุจริต
    ๕. สัมมาอาชีวะ อาชีพชอบ คือ ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพที่สุจริต
    ๖. สัมมาวายามะ พยายามชอบ คือ เพียรละชั่วบำเพ็ญดี
    ๗. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ทำการด้วยจิตสำนึกเสมอ ไม่เผลอพลาด
    ๘. สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือ คุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน

    ข. อริยสัจ ๔ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือ บุคคลที่ห่างไกลจากกิเลส ได้แก่

    ๑. ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ บุคคลต้องกำหนดรู้ให้เท่าทันตามความเป็นจริงว่ามันคืออะไร ต้องยอมรับรู้กล้าสู้หน้าปัญหา กล้าเผชิญความจริง ต้องเข้าใจในสภาวะโลกว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ไม่ยึดติด

    ๒. สมุทัย ได้แก่ เหตุเกิดแห่งทุกข์ หรือสาเหตุของปัญหา ตัวการสำคัญของทุกข์ คือ ตัณหาหรือเส้นเชือกแห่งความอยากซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ

    ๓. นิโรธ ได้แก่ ความดับทุกข์ เริ่มด้วยชีวิตที่อิสระ อยู่อย่างรู้เท่าทันโลกและชีวิต ดำเนินชีวิตด้วยการใช้ปัญญา

    ๔. มรรค ได้แก่ กระบวนวิธีแห้งการแก้ปัญหา อันได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ ประการดังกล่าวข้างต้น
    ผ ล จ า ก ก า ร แ ส ด ง ป ฐ ม เท ศ น า
    เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแล้ว ปรากฏว่าโกณฑัญญะผู้เป็นหัวหน้าเบญจวัคคีย์ได้เกิดเข้าใจธรรม เรียกว่า เกิดดวงตาแห่งธรรมหรือธรรมจักษุ บรรลุเป็นโสดาบัน จึงทูลขอบรรพชาและถือเป็นพระภิกษุสาวก รูปแรกในพระพุทธศาสนา มีชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ

    ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง อ า ส า ฬ ห บู ช า
    “อาสาฬหบูชา” (อา-สาน-หะ-บู-ชา/อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา) ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ อาสาฬห (เดือน ๘ ทางจันทรคติ) กับบูชา (การบูชา) เมื่อรวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน ๘ หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน ๘ หรือเรียกให้เต็มว่า อาสาฬหบูรณมีบูชา

    โดยสรุป วันอาสาฬหบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน ๘ หรือ การบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในวันเพ็ญ เดือน ๘ คือ

    ๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
    ๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา
    ๓. เป็นวันที่เกิดอริยสงฆ์ครั้งแรกคือการที่ท่านโกณฑัญญะรู้แจ้งเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จัดเป็นอริยบุคคลท่านแรกในอริยสงฆ์
    ๔. เป็นวันที่เกิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การที่ท่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเป็นพระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลุธรรมแล้ว
    ๕. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงได้ปฐมสาวกคือ การที่ท่านโกณฑัญญะนั้น ได้บรรลุธรรม และบวชเป็นพระภิกษุ จึงเป็นสาวกรูปแรกของพระพุทธเจ้า

    เมื่อเปรียบกับวันสำคัญอื่น ๆ ในพระพุทธศาสนา บางทีเรียกวันอาสาฬหบูชา นี้ว่า วันพระสงฆ์ (คือวันที่เริ่มเกิดมีพระสงฆ์)

    พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอด

    เรียบเรียงจาก ความรู้เกี่ยวกับวันสำคัญไทย (เสฐียรโกเศศ และ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) ,๒๕๔๑ : ๓๙ - ๕๙)
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    เห็นชื่อ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) ที่ลุงแมวอ้างอิงแล้ว นึกถึงคำพูดที่ลุงแมวว่า หนังสือพุทธธรรมเชื่อไม่ได้ (deejai) แล้วนี่เชื่อได้แค่ไหนขอรับเนื่ย
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ควรใช้วิจารณญาณเป็นเรื่องๆไปนะฮะ
    เฉพาะเรื่องนี้ มี 2 ปราชญ์แสดงสอดคล้องกันใน
    เรื่องวันอาสาฬหะ เราก็คงต้องรับรู้รับทราบเท่านี้
    จนกว่าจะพบข้อมูลที่แตกต่างจากนี้
    จากปราชญ์อื่น
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494

    อ้อ เป็นยังงี้นี่เอง :d (deejai)
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    4 ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    เป็นธรรมดาฮะ
     
  6. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ลุงแมว

    พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) กับ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ใช่พระองค์เดียวกันมั้ยขอรับ
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ใช่องค์เดียวกันครับ ต้องเคารพในความเป็นปราชญ์ของท่านนะฮะ
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    อ้อ เป็นยังงี้นี่เอง :d
     
  9. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ดูอีกแง่มุมหนึ่ง

    [​IMG]

    นับทวนอดีตย้อนหลังกลับไป ๒๖๐๐ กว่าปี เป็นวันที่พระพุทธเจ้ากำลังทรงบำเพ็ญพุทธกิจครั้งยิ่งใหญ่ ที่พุทธศาสนิกชนถือกันว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่ง พระพุทธศาสนา เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่จะให้พระพุทธศาสนาเผยแพร่สืบทอดมาถึงทุก วันนี้

    นี่คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาประกาศคำสอนหรือ หลักธรรมที่ได้ตรัสรู้เป็นครั้งแรก เรียกเป็นคำศัพท์ว่า ทรงแสดงปฐมเทศนา แ่ก่กลุ่มนักบวช ๕ รูป ที่เรียกว่า เบญจวัคคีย์ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณ ที่มีชื่อในปัจจุบันว่าประเทศอินเดีย

    ความสำคัญของเหตุการณ์ครั้ง นี้ อุปมาเหมือนว่า นักปกครองยิ่งใหญ่ผู้เป็นจักรพรรดิ หรือราชาธิราช มีพระบัญชาให้ลั่นยุทธเภรี คือตีกลองรบประกาศสงคราม ยังล้อรถศึกให้เริ่มหมนุนำทัพเดินหน้าแผ่ขยายราชอาณาจักออกไป สำแดงกำลังอำนาจและความยิ่งใหญ่ให้ปรากฎ ฉันใด พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรี ยังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผขยายอาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา ฉันนั้น

    ด้วยเหตุ นี้ พระธรรมเทศนาที่พระองค์ทรงแสดงครั้งแรกนั้น จึงได้ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า พระสูตรแ่ห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งธรรม


    ชมพูทวีปสมัยโบราณ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้น กำลังตื่นตัว ย่างเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญก้าวหน้า มีความรุ่งเรืองเฟื่องฟูทั้งด้านความคิดและกิจการ ซึ่งแผ่ขยายตัวออกไปทุกๆด้าน บ้านเมืองกำลังเติบโต พลเมืองกำลังเพิ่มทวีคับคั่ง

    รัฐต่างๆ กำลังแผ่อำนาจขยายอาณาเขตช่วงชิงดินแดนของกันและกัน มีการคมนาคมติดต่อค้าขายระหว่างแว่นแคว้นต่างๆ อย่างกว้างขวาง การศึกษาศิลปวิทยาการก็แพร่หลาย

    ผู้ที่ประกอบการพาณิชยกรรมและเสี่ยง โชคในการค้าขายประสบความสำเร็จ ก็มั่งคั่งร่ำรวย กลายเป็นเศรษฐีคฤหบดี เป็นผู้มีอำนาจและอิทธิพล เคียงคู่กับเจ้านาย และชนในฝ่ายปกครอง

    ชนผู้มั่งคั่งร่ำรวยด้วย อำนาจและทรัพย์สินเงินทองเหล่านี้ ส่วนใหญ่มักจะหันไปใช้ชีวิตในทางฟุ้งเฟ้อ แสวงหาแต่ความสุขสำราญ มัวเมาในอำนาจและโภคสมบัติของตน พร้อมทั้งขวนขวายใส่ใจแต่าจะแสวงหาอำนาจและเพิ่มพูนโภคสมบัติให้มากยิ่งขึ้น ไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

    ยิ่งกว่านั้น ยังพยายามผูกขาดจำกัดอำนาจและความมั่งคั่ง่ไว้ในหมู่พวกตน ด้วยหลักเกณฑ์และความเชื่อถือต่างๆ เช่น เรื่องวรรณะ ที่ให้แบ่งชั้นของคนออกไปโดยชาติกำเนิด เป็นต้น

    มนุษย์กำลังแยก ห่างจากกัน ขาดเมตตากรุณาต่อกัน ทอดทิ้งหลงลืม ไม่เหลียวแล ขาดความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น แต่เพราะเป็นระยะที่กำลังเปลี่ยนแปลงในตอนต้นของยุคสมัย สังคมกำลังขยาย มองไปข้างหน้า คนกำลังสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นความหวังใหม่ๆ ชนทั้งหลายจึงมักมองแต่โอกาสที่เกี่ยวข้องกับตน ไม่คิดล่วงเลยไปถึงการโค่นล้มหักล้างกันในระหว่างฐานะ
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ส่วนอีกด้านหนึ่ง ในทางจิตใจ และความเชื่อถือ ชมพูทวีปได้ชื่อว่าเป็นดินแดนต้นกำเนิดแห่งศาสนาและลัทธิต่างๆมาช้านานหลาย พันปี ครั้นถึงยุคสมัยแห่งความเจริญเติบโตและความเปลี่ยนแปลงนี้ การคิดค้นแสวงหาหลักความเชื่อถือและคำตอบเพื่อสนองความต้องการทางปัญญาก็ ยิ่งแพร่หลายมากขึ้น เกิดมีศาสดาเจ้าลัทธินักคิดนัปปรัชญาต่างๆ อุบัติขึ้นมากมาย

    นักบวชบางพวกคิดพัฒนาความเชื่อถือและข้อปฏิบัติใน ศาสนาของตน ให้ทันต่อความเป็นไปในสังคมและให้เกิดผลประโยชน์แก่ตนมากยิ่งขึ้น เช่น คิดพัฒนาพิธีบูชายัญ ขยายให้วิจิตรพิสดาร เพื่อให้เจ้านายและเสษรษฐีผู้กำลังแสวงอำนาจ และโภคสมบัติได้ประกอบอย่างสมใจ และเพิ่มพูนลาภสักการะแก่คนผู้ประกอบพิธีอย่างเต็มที่

    คนอีกพวก หนึ่ง ผู้เบื่อหน่าย มองไม่เห็นสาระของชีวิตที่ว่ายเวียนหมกมุ่นอยู่ด้วยอำนาจและโภคสมบัติใน โลก ก็ออกบวช แสวงหาความรอดพ้นให้แก่ตน ด้วยหวังผลสำเร้จอันวิเศษ ที่อยู่่เหนือกว่าโลกียสุข ด้วยการประพฤติปฏิบัติสิ่งที่จะทำตนให้เหินห่าง หรือไม่ต้องเกี่ยวข้อง ตลอดถึงขั้นที่ตรงข้ามกับวิถีชีวิตในโลกนี้ เช่น บำเพ็ญตบะ ประพฤติวัตรทรมานตนด้วยวิธีต่างๆ

    ส่วนอีกบางพวก ก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอดพ้นให้แก่ตนและผู้อื่นด้วยการคิดค้นทางปรัชญา ครุ่นคิดพิจารณาปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้ โดยคิดด้วยตนเองบ้าง เร่ร่อนไปสอบถามถกเถียงปัญหากับนักคิดในถิ่นต่างๆบ้าง เกิดมีทิฏฐิหรือทฤษฎีปรัชญาต่างๆ มากมาย เช่นว่า โลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด พระผู้เป็นเจ้ามีหรือไม่มีดังนี้ เป็นต้น ต่างก็สูญเสียเวลา แรงกาย และแรงความคิดกันไปในเรื่องเหล่านี้เป็นอันมาก

    ที่กล่าวมานี้ คือสภาพสังคมและความคิดจิตใจของชมพูทวีปเมื่อใกล้จะถึงพุทธกาล เท่าที่พอจะสืบทราบจากหลักฐานทางตำรับตำรา

    พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดาของพุทธศาสนาได้เสด็จอุบัติขึ้นท่าม กลางสภาพเช่นนี้ ได้ทรงดำเนินพระชนม์ชีพตามแบบอย่างของสภาพเช่นนี้ และในที่สุดก็ได้ทรงละเลิกสภาพเช่นนี้เสีย หันไปทรงดำเนินพระชนม์ชีพตามแบบที่ได้ทรงคิดวางขึ้นใหม่ พร้อมทั้งทรงประกาสคำสอนชักนำประชาชนให้ละเลิกวิถีชีวิตที่ผิดพลาดเดิม นั้น และให้หันมาดำเนินตามมรรคาที่ได้ทรงประกาศขึ้นใหม่ กล่าวคือ

    เบื้อง แรก ในฐานะที่ประสูติเป็นโอรสกษัตริย์ พระองค์ทรงดำเนินพระชนม์ชีพในปฐมวัย ท่ามกลางความสุขสำราญ การบำรุงและปรนเปรอ พรั่งพร้อมด้วยอำนาจและโภคสมบัติ

    ครั้น แล้วก็ทรงเบื่อหน่าย ทรงมองเห็นว่า การดำเนินชีวิตเช่นนั้นขาดแก่นสาร ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างแท้จริงทั้งแกตนเองและผู้อื่น มีแต่จะทำให้เกืิดความลุ่มหลงมัวเมา ทำคุณค่าของชีวิตให้ลดถอยจมต่ำลง ปล่อยกาลเวลาของชีวิตให้ล่วงเลยผ่านพ้นไปอย่างว่างเปล่าปราศจากสาระ ยิ่งกว่านั้น ยังอาจเกิดโทษเกิดพิษแก่ชีวิตของตน เหมือนสั่งสมสิ่งหมักหมมทับถมดองเอาไว้ และเป็นการเบียดเบียน ทำให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น โดยตรงบ้าง โดยอ้อมบ้าง

    เมื่อ ทรงพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ก็ทรงคิดหาวิธีแก้ไข เริ่มด้วยการทดลองวิธีที่นิยมปฏิบัติกันในสมัยนั้นก่อน จึงได้ละทิ้งราชสมบัติและอิสริยยศ เสด็จออกบวช ทรงเพศนักบวช จาริกไปศึกาาทัศนะของนักคิด นักปรัชญา ศาสดาจารย์ เจ้าลัทธิต่างๆ ที่มีชื่อเสียงแห่งยุคสมัย

    พระองค์ได้ทรงทดลองบำเพ็ญข้อ ปฏิบัติทั้งหลายของสำนักต่างๆ ทั้งที่เรียกว่าโยคะ ตลอดจนตละ คือการบำเพ็ญเพียรทรมานตนแบบต่างๆ รวมเ็ป็นนานถึง ๖ ปี จนแน่ใจแล้วว่าไม่สามารถแก้ปัญหานำไปสู่ผลที่มุ่งหมาย

    จาก นั้น จึงได้คิดค้นทดลองสืบต่อไป จนได้ค้นพบมัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เมื่อปฏิบัติตามมรรคานี้ ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่แก้ปัญหาของมนุษย์ นำคุณค่าที่แท้จริงมาให้แก่ชีวิตได้ อันเรียกว่า อริยสัจจ์ ๔ ประการ
    ณ บัดนี้ ทรงตระหนักชัดพระทัยว่าได้ทรงบรรลุผลสำเร็จ แห่งความเพียรพยายามในการแสวงหาของพระองค์แล้ว
     
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ต่อ

    ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้น ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธ ศก ๔๕ ปี เีรียกว่าการตรัสรู้ หรือบรรลุสัมมาสัมโพธิ ญาณ สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า

    ต่อจากนั้น พระองค์ก็ทรงเริ่ม งานประกาศพระศาสนาเปิดเผยสิ่งที่ได้ตรัสรู้ ให้ผู้อื่นได้ร่วม รู้ และร่วมได้รับประโยชน์ ขยายจากการแก้ปัญหาบุคคล ไปสู่ การแก้ปัญหาของปวงชน

    ในการเริ่มต้นประกาศพระศาสนา พระพุทธเจ้า ทรงดำริหาหนทางที่จะให้ได้ผลดีอย่างรวดเร็ว โดยประเดิมที่บุคคลผู้มี พื้นภูมิเดิมทางปัญญาดี ที่จะรู้แจ้งคำสอนได้อย่างว่องไว และ สามารถนำไปชี้แจงอธิบายให้คนอื่นเข้าใจต่อไปได้อีกอย่างกว้างขวาง

    ตำนาน เล่าว่า ทรงพิจารณาเห็นดาบสผู้ผู้เปรื่อง ปราชญ์ ๒ ท่าน ที่พระองค์เคยทรงไปศึกษาหลักลัทธิอยู่ในระ หว่า่งระยะ ๖ ปี แห่งการคิดค้นแสวงหา ว่าเป็นผู้มีความ สามารถเหมาะสม แต่ได้ทราบว่าดาบส ๒ ท่าน นั้นสิ้นชีวิต เสียแล้ว

    จากนั้น ทรงระลึกถึงนักบวช ๕ ท่าน ที่ เคยไปร่วมประพฤติพรหบำเพ็ญตบะ และปรนนิบัติพระองค์ ในระหว่าง เวลา ๖ ปีนั้น ซึ่งมีชื่อเรียกรวมกันว่าเบญจ วัคคีย์ ผู้ได้หนีจากพระองค์ไปเมื่อทรงเลิกบำเพ็ญตบะ และเวลานั้น พำนักอยู่ ณ มฤคทายวัน แห่งตำบลอิสิปตนะ ใกล้เมืองพารา ณสี

    พระองค์เสด็จจากสถานที่ตรัสรู้ คือตำบลอุรเวลา ในแคว้นมคธ มุ่งไปพบนักบวช ๕ รูปนั้น

    ที่ อิสิปตนะ พระองค์ได้ทรงแสดงธรรมสำคัญครั้งแรก อันเรียกว่าเป็น ปฐมเทศนา ประกาศธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่เบญจวัคคีย์นั้น ใน วันเพ็ญเดือนอาสาฬะ หรือ เดือน ๘ หลังจากตรัสรู้ ได้ ๒ เดือนเต็ม

    มัชฌิม่าปฏิปทา และจตุราริยสัจจ์ (อริยสัจ ๔) ที่พระองค์ได้ตรัสรู้ คือ สาระสำคัญของปฐมเทศนานี้

    เมื่อทราบความเป็นมาของเรื่องที่เป็นต้นกำเนิดของวันอาสาฬหบุชาเช่นนี้ แล้ว ควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของเรื่องอาสาฬหบูชา ต่อไปอีก ตามคำอธิบายในข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    หนังสือที่เกี่ยวกับพระธรรมคำสั่งสอน
    ขององค์พระสัมมาฯโดยตรง
    มจด.คิดว่าจะมีเล่มใด ฉบับใด มาเทียบเท่า
    หรือมาสวไมแทนหนัง
    สือคัมภีร์พระไตรปิฎกได้หรือ
    ไม่มีนะฮะ
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494

    เราต้องดูต้องรู้ว่า หนังสือเล่มนั้น เขาเอามาจากไหน มีคัมภีร์อ้างอิงไหม

    แล้วลุงแมวว่าพระไตรปิฎกเล่มไหนข้อใดล่ะ ไหนลองว่ามาสักข้อหนึ่งสิขอรับ
     
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ....ต่อมาเลยครับ
     
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    อย่ามาโม้ ไม่ใช่เวลาเถึยงกัน
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    เถียงกันได้ทุกเวลาขอรับ

    ให้ลุงแมวยกพระไตรปิฎกมานักข้อสิ เห็นอ้างบ่อยๆ คิกๆๆ
     
  17. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ต่ออะไรครับ
     
  18. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ลุงแมวพาลูกๆเวียนเทียนมาแล้วหรือขอรับ :cool:
     
  19. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    มายุให้โชว์ก๊อปอีก
    มจด.ว่าเรื่องอาสาฬหะต่อไปตามอัธยาศัย
    ลุงแมวจะรอฟังไปพร้อมกับผู้สนใจอื่นๆ
    เชิญเลยท่าน
     
  20. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ลูกๆเขาคงไปกันละมังฮะ
    เห็นไลน์มาตอนเช้าจากวัดรอบหนึ่ง

    แล้ว ค่ำนี้เขาจะปฏิบัติตามประเพณีอีก
    หรือเปล่าไม่ทราบ

    ส่วนลุงแมวเอง เวียนหมอน
     

แชร์หน้านี้

Loading...