วัตถุมงคลครูบาคำเป็งอิทธิมหาพลังดูดบูชาร่วมสร้างวัดมะค่างาม(ไว้อาลัย อ.โคมฉาย#324)

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร


<!-- / attachments --><!-- sig -->
การสร้างพระอย่างหลวงปู่คำเป็งนับว่าหายากแล้วในปัจจุบันที่หามวลสารได้ดีจริงและปลุกเสกด้วยอำนาจพลังจิต ด้วยวิชาที่ศึกษามาจริงๆที่สำคัญคือการเชิญต้นสายต้นวิชามาปลุกเสกด้วยพระองค์เองอย่างวิชาการสร้างพระแม่อุมานั้นเป็นวิชาที่ไม่ง่ายเลยนะครับผู้สร้างต้องเข้าใจรากเหง้าของวิชานี้จริงๆ ไม่อย่างนั้นก็กลายเป็นของเด็กเล่นไปหลายที่หลายสำนักยังไม่รู้เลยว่าแม่เป๋อแท้ที่จริงแล้วก็คือพระนางอุมาบางคนมองเป็นของต่ำ ซึ่งแสดงว่าไม่รู้จริงพระที่หลวงปู่คำเป็งสร้างอย่างพระแม่อุมานั้นเป็นวัตถุที่ทรงอำนาจพลังจักรวาลที่หาได้ยาก โดยเฉพาะพลังจักรวาลที่เป็นพลังงานแม่หรือพลังผู้ให้กำเนิด ด้วยพลังงานนี้สามารถให้ความคุ้มครองความสุขสมบูรณ์ได้อย่างเด็ดขาดมากกว่าพลังงานใดๆเหมือนคนโบราณที่เชื่อถือเรื่องผ้าถุงของมารดานั่นแหละครับผู้ที่มีพระของหลวงปู่อย่างแม่อุมายังนับเป็นเครื่องเตือนใจให้เราระลึกถึงคุณของแม่เราด้วยเรื่องนี้หากพิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่า เครื่องรางแม่เป๋อแม่อุมาของหลวงปู่นี่มีความหมายในหลากหลายมิติทีเดียวขออนุโมทนาแก่ทุกท่านในที่นี้ด้วยครับจะพยายามมาลงให้ความรู้เรื่องศาสตร์ต่างๆเท่าที่จะทำได้นะครับใครที่มีความรู้มาช่วยกันให้คำอธิบายเป็นการศึกษาร่วมกันก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง<O</O
<O</O

สำหรับผู้ที่ต้องเดินเข้าหาลูกค้าเจรจาติดต่อให้พกพระครูบาท่านไม่ว่าองค์ไหนก็ได้อย่างน้อยหนึ่งองค์กำหนดจิตดึงดูดใจเขาให้เกิดความผูกพันเสน่หารับรองงานไหนงานนั้นสำเร็จทุกครั้งไปครับมีเคล็ดลับส่วนตัวด้วยว่าถ้าเราเข้าหาลูกค้าที่เป็นผู้ชายหรือติดต่อการค้าอย่างหนึ่งอย่างใดให้ลองพกพระแม่อุมาไปซิครับบอกกล่าวท่านรับรองจะได้รับผลดีอย่างน่าอัศจรรย์ถ้าไปพบคู่ค้าที่เป็นหญิงก็ให้พกขุนแผนภาคสวรรค์หรือเทพกามาไปจะได้รับผลดีเป็นพิเศษนี่ถือว่าเป็นเคล็ดลับส่วนตัวนะครับแลกเปลี่ยนความคิดเฉยๆไม่ใช่มาตรฐานแต่อย่างใดใครเอาไปใช้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์<O</O
<O</O

สำหรับผู้ที่พกพาพระแม่อุมาและเทพกามา ซึ่งเป็นเสมือนพลังฝ่ายพ่อก็ย่อมเท่ากับว่ามีพลัง ทั้งบิดามารดารักษาครับ เป็นพลังกำเนิดอันสมบูรณ์เสมือนว่าในอดีตมีการสร้างโยนีและศิวลึงค์ไว้คู่กัน โยนีคือฐานรองรับศิวลึงค์เสมือนเสาหลักที่ปักลงไป พลังแห่งการก่อกำเนิดมิใช่เรื่องลามกหากหมายถึงพลังงานเหนือโลก ที่นักปรัชญาฤๅษีโยคีพยายามแสวงหาคำตอบว่าโลกนี้มีที่มาแต่ไหน มนุษย์เกิดขึ้นได้อย่างไรใครคือบุคคลแรกของโลก อย่างในตำนานของศาสนายูดาห์ก็เล่าถึงอีฟกับอาดัมในไทยเราก็มีเรื่องปู่สังกะสา ย่าสังกะสี เป็นต้นนี่คือที่มาของพระอุมา พระศิวะที่ปรากฏเป็นตำนานการกำเนิดโลก แม่เป๋อให้อำนาจการสร้างสรรค์อย่างสูงสุด อุ้มประคองเหมือนมารดาถนอมบุตร พ่อกามา คืออำนาจแห่งการรุดหน้า สร้างสรรค์ เข้าแข็ง ชายชาตรีดังนั้นหากมีท่านสองพระองค์ย่อมเท่ากับว่า เรามีความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้านอำนาจและอานิสงค์ที่พึงจะได้ ย่อมได้แก่ความเป็นที่รักแก่เพศตรงข้ามรวมทั้งผู้ใหญ่ย่อมให้ความอุปถัมภ์เสมือนว่าเราเป็นลูกของท่าน นารีอุปถัมภ์คุ้มครองป้องกันเจริญในยศฐาบรรดาศักดิ์เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์มีแรงบันดาลใจในการคิดงานสร้างสรรค์งานต่างๆเพราะเทพกามาและแม่เป๋อต่างเป็นวัตถุที่มีจิตวิญญาณย่อมบันดาลความคิดสื่อจิตใจกับผู้ที่เป็นเจ้าของอยู่เนืองนิจ<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร



พระของหลวงปู่สามารถเป็นสื่อกลางไปสู่อำนาจพลังพระเป็นเจ้าและเทพในหลายสายหลายนิกายอย่างน่าอัศจรรย์เรื่องนี้ผู้ที่ได้พระท่านไปต้องลองไปอธิษฐานสื่อจิตกับองค์พระดูครับพระของท่านเป็นเหมือนสถานีวิทยุที่สามารถส่งข้อความ หรือรับพลังงานจากเทพต่างๆได้ยิ่งปฏิบัติสมาธิ ระลึกถึงครูบาท่าน น้อมรับคำพรด้วยใจศรัทธารับรองว่าได้เห็นความอัศจรรย์จากองค์พระที่ทุกท่านนำไปบูชาอย่างแน่นอน<O</O
<O</O

แรกทีเดียวก็นึกไม่ถึงเหมือนกันครับว่าจะมาเป็นแฟนพันธ์แท้ของหลวงปู่คำเป็งต้องยกคุณงามความดีให้พี่เม้าด้วยครับเพราะแกเป็นคนแรกที่นำเอาพระของหลวงปู่คำเป็งมาให้จับไม่ทันตั้งตัวเลยครับครั้งแรกจับแล้วมือสั่น ทีแรกก็นึกว่าไม่มีอะไรมากแต่ยิ่งจับยิ่งสังเกต มือเรามันสั่นจริงๆจึงรู้ว่าโดนพลังพระหลวงปู่ท่านจู่โจมแบบไม่ตั้งตัวเข้าเสียแล้วนั่นแหละครับจึงได้มาถึงวันนี้ พระของหลวงปู่แรงจริงๆ มีองค์เทพภายในและเข้าถึงองค์เทพทุกสายอย่างไม่ต้องสงสัยพระของท่านหากใครมีวาสนาเฉพาะกับเทพพระองค์ไหนก็ยกพระของท่านขึ้นจบอธิษฐานอ้างเอาบารมีพระรัตนตรัย บารมีพระโพธิสัตว์ พระอมิตาภะ พระมหาสถาปราบพระอวโลกิเตศวร มีหลวงปู่คำเป็งเป็นที่สุด แล้วขอสายญาณบารมีเทพที่เรานับถือถึงแน่นอนครับ<O</O
<O</O

คุณของพระโพธสัตว์ไม่มีประมาณยิ่งคุณของพระอวโลกิเตศวรนั้น เป็นอนันตคุณมีคตินับถือมานานนับพันปีแสดงฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ต่อเนื่องมาทุกยุคสมัยพระของหลวงปู่คำเป็งทุกองค์ทุกชิ้นมีกระแสพลังโพธิสัตว์บารมีด้วยว่ามีเจตนานำเอาเครื่องมงคลเหล่านี้ช่วยเหลือลูกศิษย์ในยุคปัจจุบันพระกวนอิมเนื้อดินทรงขี่มังกรนั้นและเนื้อดินให้ผลเหมือนกันคือเรื่องความร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้นเป็นพลังเย็นๆแต่เนื้อว่านจะมีพลังงานพิเศษจากว่านอันเป็นมวลสารที่มีฤทธิ์ดังนั้นจะมีความแรงฤทธิ์จากว่านเป็นพิเศษดีในด้านเมตตา คงกระพันได้ด้วยครับ ต้องลองขอความรู้จากท่านอื่นๆประกอบด้วยนะครับเพราะเป็นเพียงความรู้ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น<O</O
<O</O

วิชาเทพกามาคือสายญาณพระศิวะเจ้า วิชาทางแม่เป๋อคือสายวิชาพระนางอุมาเจ้า สองสายนี้สรุปก็คืออำนาจแห่งบิดามารดาหรือพลังแห่งการกำเนิด พลังงานแห่งพระศิวะเป็นแก่นพลังงาน (ลึงค์)พลังพระอุมาคือพลังแห่งการแผ่ขยายออกไป (โยนี) ดูจาก "เสาหลักเมือง" ก็ได้ครับหลักเมืองที่ตั้งขึ้นคือพระศิวะแผ่นดินที่รองรับคือพระอุมาดังนั้นอำนาจแห่งความสมบูรณ์เป็นปึกแผ่นบังเกิดขึ้นได้ด้วยสองพลังงานนี้ผสมผสานเป็นหนึ่งครับศาสตร์ศิวะอุมา เป็นศาสตร์ลี้ลับ ในส่วนที่เปิดเผยทั่วไปก็มีในส่วนที่เป็นตำนานเล่าขานก็มี ในส่วนที่แพร่ลงไปในไสยศาสตร์พื้นบ้านก็มีแต่โดยสรุปแล้วพลังงานนี้ถือว่าเป็นพลังชีวิต ได้แก่ พลังกำเนิด พลังดำรงอยู่และพลังทำลายล้าง พลังกำเนิดให้คุณทางด้านความเจริญงอกงามไพบูลย์สมัยก่อนมีการเกษตรก็ถือว่าทำให้พืชผลดี สมัยนี้ถ้าทำการค้าขายก็ถือว่าได้กำไรงามขยายกิจการกว้างขวาง พลังดำรงอยู่ คือการหล่อเลี้ยงให้สุขสบายมีความชื่นใจในชีวิตที่เป็นอยู่สามารถยืนหยัดดำรงคงไว้ตราบนานเท่านานที่ยังไม่เสื่อมจากศีลธรรมพลังแห่งการทำลายคือการทำลายความชั่วร้ายเพื่อผดุงรักษาความดีนี่เป็นเพียงการสรุปอำนาจแห่งศาสตร์ศิวะอุมาซึ่งมีพื้นฐานชัดเจนจากลัทธิพราหมณ์ครับ หลวงปู่คำเป็งเข้าถึงด้วยฌานสมาธิจนกระทั่งพระเป็นเจ้าหรืออำนาจสากลจักรวาลมาโปรดเพื่อให้ท่านได้ใช้บารมีทางพระโพธิสัตว์อย่างเต็มที่ผู้ที่มีพระท่านประกอบด้วยความไม่ประมาทตั้งตนในความดี ย่อมได้ดีแน่นอน<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร



<!-- / attachments --><!-- sig -->
วิชาทางเทพโดยเฉพาะสายของหลวงปู่คำเป็งอันมีการนำเอาพลังสุดยอดคือ พลังบิดามารดา หรือศาสตร์ศิวะอุมาอันลึกลับมาใช้ย่อมให้พลังเร็วและแรง เรียกว่าเห็นผลได้ง่ายกว่าพระเครื่องทั่วไปนั่นเองหรือหากนำมาเป็นพระเครื่องสำหรับการภาวนา (เพราะเชื่อว่าหลายท่านในกระทู้นี้เป็นนักปฏิบัติด้วย)ก็สามารถอธิษฐานให้เทพยดาภายในองค์พระโดยมีหลวงปู่คำเป็งเป็นที่สุดพร้อมด้วยบารมีพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย มาเป็นครูกรรมฐานช่วยประคับประคองจิต ด้วยอำนาจอันลี้ลับ ท่านจะเข้าสู่กระแสสมาธิได้อย่างรวดเร็วและพัฒนาพลังกายได้อย่างเหลือเชื่อ เรื่องนี้ผมทดลองแล้วเพราะทุกวันนี้ก็ใช้พระเครื่องของหลวงปู่นี่แหละเข้าที่ภาวนา ภาวนาแล้ว ตัวเราดีเทพที่อยู่กับองค์พระก็จะมีตบะแก่กล้าขึ้นด้วยยามเราไปไหนโดยเฉพาะการทำบุญก็บอกท่านด้วยรัศมีองค์พระจะสว่างมากขึ้นหลายเท่าตัวยามเราทำบุญ<O</O
<O</O

พลังพระเครื่องของหลวงปู่สามารถปรับปราณในร่างกายระยะแรกที่รับมาจะมึนครับ แต่เมื่อเราพกพระประจำ ทำสมาธิร่วมกับองค์พระพลังงานจะค่อยๆปรับจนสมดุลกับร่างกายเราช่วงที่พลังงานปรับสามารถขับสิ่งไม่ดีหรือพลังลบออกจากร่างกายเราได้หลังจากนั้นจะสร้างออร่าคลุมร่างเราไว้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันครับ<O</O
<O</O

พระของครูบาคำเป็งที่มีพลังเย็นนี่มีหลายองค์นะครับแม่ชิลีซึ่งเป็นบารมีพระโพธิสัตว์กวนอิมก็มีกระแสเย็น และกระแสดึงดูดดีมากๆพระแกะจากไม้ของท่านทุกชนิด แต่ที่ผมเห็นเด่นมากๆคือ พระสมเด็จไผ่ตันพระแกะจากเถาวัลย์หลงก็เย็นเช่นกันมีพลังเสน่ห์เมตตาสูงด้วยพระกะจากไม้รักก็มีกระแสปราณภายในเย็นเช่นกันในช่วงนี้เป็นเทศกาลกินเจก็ต้องแนะนำพระโพธิสัตว์กวนอิม กระแสเย็นดีจริงๆครับโดยมากพระของครูบาท่านภายนอกไม่ค่อยสวย รูปไม่งามแต่คุณวิเศษเป็นยอดไม่เกินเลยครับถ้าจะบอกว่าพระหลายองค์มีบารมีสูงคล้ายกับพระสมเด็จวัดระฆังและทุกชิ้นที่ท่านอธิษฐานจิตจะเด่นเรื่องเมตตาโชคลาภ การเงินสะด้วยเรื่องคุ้มครองก็เด่นไม่เป็นรองเช่นกัน กระแสเย็นที่เกิดขึ้นมาจากกระแสเมตตาผนวกด้วยกระแสญาณบารมีสายพระโพธิสัตว์ครับ นำมาอาราธนาทำสมาธิก็ดีหรือจะขึ้นคอเอาไว้ก็ดีหากสื่อถึงท่านด้วยการระลึกหรือทำสมาธิถึงองค์พระหรือพระโพธิสัตว์ต้นสายบารมีจะทำให้จิตใจเย็น สุขุมรอบครอบ และมีเมตตาดีได้รับความคุ้มรองด้วยครับผมนำพระของท่านมาร่วมทำสมาธิเสมอเสร็จแล้วแผ่เมตตาทุกครั้ง มีเคล็ดด้วยว่าเวลานั่งปักใจลงทำสมาธิจะตั้งใจว่าทำสมาธิครั้งนี้ขอให้เป็นไปเพื่อสรรพสัตว์ครับ ระลึกอย่างนี้เป็นแนวทางพระโพธิสัตว์ดังนั้นจะทำให้เรารับกระแสบารมีพระโพธิสัตว์ได้ดีจะบังเกิดความชุ่มเย็นในกายในใจอย่างชัดเจนครับทั้งนี้ต้องหัดบ่อยๆนะครับต่อไปจะชำนาญ<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร




ผู้ที่อยากมีปราณภายในให้แข็งแกร่งขึ้นต้องลองอาราธนาพระของหลวงปู่คำเป็งดูครับ หรือนำพระของท่านมาทำสมาธิประจำๆที่ผ่านมาเห็นชัดเลยครับเกี่ยวกับพลังดึงดูดปราณพระของหลวงปู่เหมือนแม่เหล็กเลยครับดูดพลังงานรอบตัวเข้ามาทีองค์พระหากเรากำพระอยู่ก็พลอยได้รับพลังงานไปด้วยอาการมึนก็เกิดจากแรงอัดของพลังงานที่เข้ามาเร็วและมากทำให้ระยะแรกเราตั้งตัวไม่ติดครับแต่สักพักพอรัศมีกายเรากว้างขึ้นก็จะสบายไปเองอาการสำลักพลังเกิดจากการที่พลังงานจากองค์พระเข้าไปกระแทกกับจุดที่อุดตันของปราณภายในร่างกายเรานั่นเองเรียกว่าเป็นการทะลวงจุด ขับของเสีย และทะลวงพลังงานทีติดขัดครับดังนั้นระยะสามถึงเจ็ดวันแรกผู้ที่รับพระไปอาจมีอาการหรือปฏิกิริยาทางกายและใจเกิดขึ้นครับแต่เมื่อสัมผัสพระไปนานๆจะคุ้นเคยอาการต่างๆจะหายไปคนที่รับพระท่านไปแล้วฝึกพลังจักรวาลพลังปราณจะก้าวหน้าไวเป็นพิเศษสำหรับผมจะสัมผัสพลังของพระท่านสองแบบครับหนึ่งคือใช้ปลาว กับสองวางไว้บนฝ่ามือกำหนดจิตดึงพลังจักรวาลเข้ามาท่อคาถามหาดูดของหลวงปู่หรือหนึ่งเดียวก็ได้หรือใครยังจำไม่ได้ก็กำหนดจิตดูดพลังจักรวาลมาโดยตรงก็ได้ครับจะดูดมาที่พระแล้วรับรับพลังจากองค์พระอีกทีหนึ่งหรือดูดเข้าที่ร่างกายตรงเข้าจักราภายในเลยก็ได้ครับใครสะดวกวิธีไหนลองใช้วิธีนั้นดูครับ ยืนยันว่าพระท่านพลังเข้มจริงๆ

<O

ปกติไม้รักนี่ก็มีอำนาจทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์อยู่แล้วครับไม้รักเป็นไม้เนื้ออ่อน ดังนั้นหากจะเอาแก่นมาได้ต้องเป็นไม้รักที่มีอายุยืนยาวมากดังนั้นไม้แก่นรักย่อมมาจากต้นรักที่มีอายุหลายสิบปีหรือเป็นร้อยปีครับไม้รักที่มีอายุยืนผิดปกติ ถือว่าเป็นไม้เทพธิคุณ คือมีเทวดารักษา เป็นของหายากมากไม้แก่นรักแม้ว่ายังไม่ได้ปลุกเสกก็มีอำนาจทางกันเขี้ยวงาหนังเหนียวคงกระพันให้ความคุ้มครองได้ และยังดีทางเรื่องความรักหมายถึงความรักที่ยืนยงยาวนาน เป็นเมตตามหานิยมอย่างดีเยี่ยมและยังให้ผลต่ออายุวัฒนะด้วยครับ ดังนั้นสมเด็จแก่นรักจึงมีอำนาจครบถ้วนทั้งทางคงกระพัน เมตตา และให้ปรากฏชีวิตเป็นปราณที่แผ่มาจากไม้แก่นรักอันเป็นของที่สะสมพลังจักรวาลมานานหลายสิบปีหลายร้อยปีครับ จึงส่งผลที่ดีต้อสุขภาพด้วยพลังของพระหลวงปู่ล้วนให้พลังชีวิตเป็นอย่างดีที่สำคัญเทพที่ประจำไม้แก่นรักคือกลุ่มเทพวิทยาธรที่มีฤทธิ์ครับใครยังไม่มีไม้แก่นรักของหลวงปู่ก็น่าจะหาเก็บไว้นะครับ ผมก็บูชาไว้แล้วองค์หนึ่งเพราะรู้ดีว่าของอย่างนี้น่ะมันไม่ได้หากันได้ง่ายๆ<O</O
</O<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร



วัตถุพลังเหนือโลก หลวงปู่คำเป็งพระเครื่องของหลวงปู่คำเป็งที่ผมสัมผัสโดยตรงเฉพาะตอนนี้มีหลายองค์ครับพระของหลวงปู่น่าสนใจหลายแง่มุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือพระของหลวงปู่เน้นเรื่องมวลสารพวกว่านยามากๆ ว่านยาในป่านั้นนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติว่านหลายชนิดมีเจตสิกอยู่ภายใน เช่นว่านกบ ว่านเขียด ว่านลูกไก่ทอง ฯลฯว่านหลายชนิดต่างมีพลังชีวิตที่วิเศษ ทั้งยังมีเจตสิก คือจิตวิญญาณภายในและมีเทพพรหมรักษา ดังนั้นเมื่อประมวลว่านยา 108 มาสร้างพระเครื่องย่อมทำให้พระเครื่องนั้นๆมีอานุภาพวิเศษอยู่ภายในตัวเองเรียกว่ายังไม่ต้องเสกก็ขลังอยู่แล้ว และทันทีเมื่อได้รับการประจุพลังงานจากหลวงปู่ซึ่งนอกจากท่านมีความชำนาญทางกสิณอภิญญาและยังมีวาสนาบารมีพิเศษทางพลังโพธิสัตว์และเทพพรหม อันลี้ลับเหนือโลกย่อมทำให้พระของท่านมีความพิเศษชนิดครบเครื่องปกติอำนาจว่านยาเองก็ส่งเสริมพลังปราณในร่างกายเราได้เมื่อผนวกกับศาสตร์เร้นลับของหลวงปู่ท่านยิ่งทำให้องค์พระมีพลังที่สูงขึ้นทำให้ผู้รับพลังงานรู้สึกมึนตึงได้พลังงานจากองค์พระจะค่อยๆปรับสมดุล ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายของผู้สวมใส่ให้ธาตุทั้ง 4 เสมอกัน ธาตุใดอ่อนก็เสริมให้แข็งแรง ธาตุใดที่กำเริบก็ทำให้สงบจึงทำให้ผู้ที่สวมใส่พระของหลวงปู่รู้สึกแปลกๆแตกต่างกันไปดีที่สุดคือการน้อมเอาพระของท่านมาทำสมาธิภาวนาครับนอกจากนี้อาการมึนยังเกิดขึ้นจากอำนาจของเทพยดาที่อยู่กับองค์พระด้วยครับการน้อมเอาพระของท่านมาทำสมาธิย่อมทำให้อิทธิคุณของพระแก่กล้าขึ้นหลายเท่าตัวเหมือนกับการทำให้กระบี่เป็นหนึ่งเดียวกับใจยังไงล่ะครับมีพระท่านแล้วอย่าลืมหมั่นให้ทานรักษาศีลสวดมนต์ภาวนานะครับคุณของพระ เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะติดตามรักษาท่านตลอดไป<O</O
<O</O

พระชุดใหม่นี้น่าสนใจมากครับบางองค์ผมได้มีโอกาสสัมผัสพลังภายในขององค์พระที่จะขอยกนำมาเล่าในที่นี้คือพระยอดขุนพลเนื้อแก่มวลสารผสมเส้นเกศาหลวงปู่คำเป็งที่ราคาองค์ละ 700 นั่นแหละครับ ตอนจับเหมือนไฟฟ้าดูดที่นิ้วเลยครับพลังขององค์นี้แรงมาก ตอนที่สัมผัสผมใช้ปลายนิ้วครับ ใช้นิ้วโป้งนิ้วชี้และนิ้วกลาง สัมผัส พลังพระส่งออกมารุนแรงแสดงอานุภาพสำคัญทางคุ้มครองเด่นชัดมาก เสน่ห์ดีด้วยนับเป็นพลังที่แปลกไปกว่าพระองค์อื่นๆที่สัมผัส ซึ่งส่วนใหญ่จะดึงดูดหนึบหนับแต่องค์นี้เหมือนนักมวยหมัดหนักครับใครสัมผัสพลังองค์ไหนเป็นอย่างไรก็ลองมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับอีกประการหนึ่งพบว่าการสัมผัสพลังภายในของพระนี่มีหลายชั้นหลายมิติด้วยครับหมายความว่าหากเราจิตเป็นขณิกสมาธิหรือสมาธิอย่างอ่อนๆ ก็สัมผัสได้แต่ไม่ลึกแต่หากใช้สมาธิชั้นกลางหรืออุปจารสมาธิก็จะสัมผัสพลังที่ละเอียดอ่อน ลึกขึ้นไปอีกการสัมผัสพลังพุทธคุณหรือเทวคุณภายในองค์พระก็นับว่าเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่งและสามารถพัฒนาให้สมาธิเราไปได้เร็วด้วยต้องทดลอง ต้องฝึกฝนบ่อยๆครับ อย่าเพิ่งเบื่อ ทำประจำยังทำให้สุขภาพจิตสุขภาพกายแข็งแกร่งด้วยแต่ก็ต้องเลือกพระที่จะสัมผัสด้วยนะครับเกิดไปเจอสายดำที่เอาวิญญาณผีตายโหงเข้าไว้ในองค์พระเข้าก็อาจแย่ได้เหมือนกันฝึกฝนจากพระของหลวงปู่นี่จะง่าย ปลอดภัยและเป็นประโยชน์กับเราที่สุดครับรับพระท่านไปอย่าลืมสื่อกับองค์ท่าน ทำสมาธิแผ่เมตตาร่วมกับองค์พระนะครับรัศมีบารมีกำลังฤทธิ์ของเราและพระจะพัฒนาร่วมกันยังผลให้เกิดความอยู่ดีมีสุขแน่นอน<O</O
<O</O

พระแม่อุมายิม ก็คือพลังเทพศักติสูงสุด คือพระนางอุมาเทวีอำนาจของพระนางส่งผลหลากหลายด้านทั้งเรื่องเมตตาและคุ้มครองทั้งนี้มวลสารขององค์พระนั้นพอทราบว่าเป็นว่านและแร่ธาตุไม่มั่นใจว่ามีเหล็กน้ำพี้เป็นส่วนผสมของมวลสารด้วยหรือไม่พระแม่อุมายิมที่ผมมีแม่เหล็กดูดติดด้วยครับแสดงว่าต้องมีแร่ธาตุเหล็กบางอย่างผสมอยู่ด้วย พลังจึงแรงมากอำนาจของพระแม่ยังมาจากอำนาจพลังจักรวาลองค์พระแม่ท่านดึงดูดพลังงานจักรวาลลงมาได้นะครับแรงพลังจักรวาลที่มีศักยภาพเป็นกระแสแม่เหล็กไฟฟ้านี่แหละที่ทำให้ใครจับก็รู้สึกว่าแรงและทำให้เรากระฉับกระเฉงทั้งยังทำสมาธิได้ดี เพราะอำนาจพลังจักรวาลเข้ามาปรับสมดุลเพิ่มพลังจิตพลังกายให้เราด้วย<O</O
<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร



ยอดขุนพลชากังราว ผสมเส้นเกศาหลวงปู่พระรุ่นนี้นับว่าเป็นพระที่น่าเก็บมากที่สุดองค์หนึ่งครับที่แฟนพันธุ์แท้ของหลวงปู่ไม่น่าพลาดเพราะนอกจากมวลสารว่านยาที่เต็มเปี่ยมแล้ว "เส้นเกศา" ของหลวงปู่นับเป็นมวลสารที่สำคัญมากทำไมคนสมัยก่อนจึงนิยมบูชาเส้นเกศาพระอริยะเจ้าครูบาอาจารย์ก็เนื่องจากว่าเส้นเกศาถือว่าเป็นสิ่งที่สูงสุดสำหรับมนุษย์ ประการต่อมาคือผู้ที่ได้ฌาน ได้อภิญญา ย่อมมีประจุพลังงานในร่างกายสูงกว่าปุถุชนทั่วไปเส้นเกศาซึ่งอยู่กับตัวท่านจะเป็นวัตถุธาตุอย่างหนึ่งที่ซึมพลังงานดังกล่าวไว้ได้มากที่สุดพลังจักรวาลจากหลวงปู่คำเป็งรวมทั้งพระเวทย์ทั้งปวงในกายในใจท่านก็ย่อมรวมอยู่ในเส้นเกศาท่านนี่แหละครับและเส้นเกศานี่เองที่ถือเป็นแก่นโคตรพลังงานอย่างหนึ่ง พระเกจิ พระอริยะเจ้าหลายท่านเมื่อปลงเส้นเกศาทิ้งไว้ เส้นเกศามักมีการวมตัวหรือแปรสภาพเป็นพระธาตุเป็นกายสิทธิ์ ก็เนื่องจากประจุพลังงานที่อยู่ภายในเนื้อธาตุเป็นตัวแปรรวมทั้งบารมีธรรมอันลี้ลับภายในด้วยดังนั้นวัตถุมงคลที่มีเส้นเกศาของหลวงปู่อย่างยอดขุนพลชากังราวจึงนับว่าเป็นยอดวัตถุมงคลที่มีพลังงานสูงมากๆครับทั้งยังเป็นสื่อพลังจิตโดยตรงถึงหลวงปู่ด้วยและอย่าลืมว่าหลวงปู่ท่านเป็นสายพระโพธิสัตว์ดังนั้นก็เท่ากับว่าพระยอดขุนพลชากังราวมีเชื้อธาตุเชื้อธรรมของพระโพธิสัตว์อยู่ในตัวเองเรื่องบารมีธรรมไม่ต้องพูดถึงครับเพราะมีมวลสารที่วิเศษสุดอย่างเส้นเกศาของหลวงปู่คำเป็งย่อมเป็นการรับรองคุณภาพภายในตัวได้อย่างดีที่สุดและพระชุดนี้รับรองว่าหากใครบูชาดีๆ หมั่นไหว้พระสวดมนต์ทำสมาธิพระชุดนี้จะมีพระธาตุมาเกาะบนองค์พระอย่างแน่นอน พระของผมที่ได้ไปแล้วแต่เดิมชำรุดเนื่องจากว่าพระชุดนี้แก่มวลสารมากๆครับเนื้อค่อนข้างร่วนดังนั้นจึงนำไปซ่อมแซมโดยใช้ผงธูปและดินสอพองเป็นตัวประสานจากนั้นเคลือบด้วยเคลียร์แล็กเกอร์อีกครั้งหนึ่งเป็นพระอีกองค์หนึ่งที่ผมนำมาร่วมทำสมาธิบ่อยที่สุดครับ<O</O
<O</O

ทีแรกว่าจะเล่าเรื่องแม่น่าสุโขทัยเพื่อเปรียบเทียบกับแม่ย่ากำแพงเพชรของหลวงปู่คำเป็งก้พอดีพี่โคมฉายนำมาลงให้ เรื่องแม่ย่าสุโขทัย ซึ่งเป็นองค์เดียวกับแม่ย่าโชคเศรษฐีหลวงปู่คำเป็ง เป็นเรื่องที่น่าสนใจครับผู้ที่รู้จักแม่ย่าสุโขทัยจะทราบดีว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหนไม่มีใครเคยทราบมาก่อนว่าแท้จริงท่านคือพระโพธิสัตว์อวตารอานิสงค์จากการได้รับบารมีแม่ย่านั้นก็ดั่งที่คุณโคมฉายเล่าไว้นั่นแหละครับทั้งมากด้วยเกียรติยศชื่อเสียง ทำมาค้าขึ้น โชคดีมีลาภเรื่องเมตตามหานิยมก็เยี่ยมนักแล<O</O

<!-- / attachments --><!-- sig -->

 

<!-- / attachments --><!-- sig -->


เก็บความรู้จากครูบาคำเป็ง เรื่องวิชาโยกย้ายพลังหลวงปู่คำเป็งนับเป็นพระปฏิบัติกรรมฐานที่มีความเชี่ยวชาญในกรรมฐานหลายแง่มุมและกล่าวได้ว่าท่านเก่งรอบด้าน เก่งในกรรมฐานทุกกองทั้งนี้เพราะท่านบำเพ็ญมาทางสายพระโพธิสัตว์ดังนั้นจึงมีองค์ความรู้ที่เก็บสะสมมาจากแต่ละชาติอย่างมากมายเรื่องกรรมฐานนั้นปกติถ้าอยู่ในสายสาวกภูมิใช้เพียงกรรมฐานกองใดกองหนึ่งที่เนื่องในจริตก็สำเร็จได้แต่หลวงปู่นั้นอยู่ในสายพระโพธิสัตว์บำเพ็ญเพียรเพื่อถึงความเป็นสัมมาสัมโพธิญาณจึงมีความรู้ความสามารถมากกว่าเป็นพิเศษจากการศึกษากรรมฐานของท่าน ท่านจะชำนาญเป็นพิเศษในการบริกรรมภาวนาท่านว่าสมัยก่อนท่านบริกรรมภาวนาวันละ ๑๘ ชั้วโมงติดต่อกันนานหลายปีในปัจจุบันท่านภาวนาต่อเนื่อง ๘ ชั่วโมงเพราะสภาพสังขารเริ่มไม่ไหวนอกจากความชำนาญในการบริกรรมภาวนา การเพ่งนิมิตการเพ่งภาพเพื่อให้เกิดพลังฌานท่านก็สามารถด้วยเช่นกันจากการปฏิบัติสืบเนื่องตจิดต่อเป็นเวลานานท่านได้พบเคล็ดลับวิชาหลายอย่างเช่นวิชามหาอุด คงกระพัน เมตตา ที่สำคัญที่ท่านชำนิชำนาญเป็นพิเศษคือวิชาโยกย้ายถ่ายเทพลังงาน<O</O
<O</O

การโยกย้ายถ่ายเทพลังงานไม่ใช่วิชาใหม่แต่คนที่ชำนาญในไสยเวทย์โบราณเป็นกันทุกคนแต่องค์ความรู้นี้ปัจจุบันมีคนรู้ไม่มากและไม่ค่อยมีใครใช้พลังงานเป็นสิ่งที่สถิตย์อยู่ในวัตถุ คน สัตว์สิ่งของได้ขณะเดียวกันพลังงานก็มีแรงผลัก แรงดูดพลังงานมีการยักย้ายถ่ายเทไปตามแรงดึงดูดต่างๆได้ มีการสลายตัวได้และกลับรวมเข้ากันใหม่ เปรียบเทียบง่ายๆกับ ธาตุน้ำที่สามารถไหลจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง และเมื่อเทน้ำไปสู่ภาชนะใดน้ำก็จะมีรูปร่างเป็นภาชนะนั้นโดยธรรมชาติ น้ำสามารถระเหยหายไปในอากาศแต่เมื่อสภาวะที่เหมาะสมเกิดขึ้นก็สามารถควบตัวเองกลายเป็นหยดน้ำเหมือนเดิมพลังงานไม่มีวันหายไปไหนแต่วนเวียนในจักรวาลนานเท่านานผู้ที่เข้าถึงหลักแก่นแท้แห่งจิตแห่งพลังจักรวาลสามารถดึงพลังงานเหล่านี้ให้มาประจุภายในตัวเอง และประจุในสิ่งของทั้งสามารถโยกย้ายถ่ายเทพลังงานไปตามความเหมาะสมได้ด้วย<O</O
<O</O
<O
มารายงานตัวครับพร้อมกับความรู้ครั้งที่แล้วเขียนค้างไว้เรื่องการโยกย้ายถ่ายเทพลังงานเห็นคุณน้าสามเหลี่ยมเขียนตรงรี้เห็นว่าดีเยี่ยมครับเป็นการอธิบายเรื่องพลังงานในกายได้อย่างดีเรื่องพลังงานนั้นนับเป็นเรื่องลึกลับสำหรับหลวงปู่คำเป็งท่านสำเร็จวิชาเกี่ยวกับพลังงานทั้งเรื่องการดึงดูดพลังงานเข้าไว้ในกายหรือถ่ายเทสู่วัตถุต่างๆพลังงานนี้หลวงปู่ขยายความว่าหมายถึงพลังงานจากพระอาทิตย์ พระจันทร์พลังงานจากทุกสรรพสิ่ง ต้นไม้ใบหญ้าใช่หมด แต่ที่สำคัญหลวงปู่คำเป็งเล่าว่าในโลกของเรามีพลังงานจากปราณจากอำนาจกระแสจิตของเหล่าโยคีฤๅษีหรือพระเกจิครูบาอาจารย์ที่สำเร็จทางจิตจำนวนมากพลังงานฌานสมาบัติของท่านทั้งหลายไม่ได้ตายตามตัวแต่ยังคงทิ้งไว้ในโลกของเรานี่เองพลังงานของผู้สำเร็จทั้งหลายยังคงอยู่ แม้ว่าดวงจิตนั้นอาจบรรลุนิพพานไปแล้วอันนี้เป็นคนละเรื่องกัน พลังงานดังกล่าวคือพลังงานที่มีอุณหภูมิ มีความร้อนมีแรงดึงดูด มีศักยภาพคล้ายแม่เหล็กไฟฟ้าเมื่อดึงพลังงานนี้เข้าสู่ฝ่ามือจะรู้สึกได้ว่าฝ่ามือเราร้อนขึ้นหนักขึ้นอาจมีอาการสั่นอาการเย็นจัดก็ใช่ หรือเหมือนมีกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่บนฝ่ามือเราพลังงานโลกธาตุหรือพลังงานจักรวาลหรือหลวงปู่ท่านจะเรียกบ่อยที่สุดว่าพลังจากพระเป็นเจ้าพลังงานเป็นสิ่งที่ถ่ายเทหลื่นไหลเคลื่อนย้ายไปตามแรงดึงดูดได้เสมอคนที่มีจิตเป็นสมาธิอย่างดีสามารถเชิญพลังหรือดูดพลังงานเหล่านี้เข้าสู่ตัวเองได้เข้าสู่วัตถุต่างๆได้ด้วย</O
<O</O
<O<Oพลังงานจากพระเป็นเจ้านี้หากดึงลงสู่วัตถุแล้วก็ทำให้วัตถุนั้นๆเป็นเครื่องรางของขลังที่ทรงอานุภาพอย่างไรก็ตามหากคนที่เขามีวิชาก็สามารถสูบพลังงานนี้ออกไปได้ดังนั้นการที่เราดูดพลังงานได้แล้วจำเป็นต้องรู้ถึงการรักษาพลังงานนั้นให้คงอยู่และสามารถพัฒนาพลังงานนั้นไปตามลำดับด้วยการรู้จักนำพลังงานไปใช้ให้เกิดประโยชน์

</O
</O

 

การถ่ายเทพลังงานนับเป็นเรื่องสำคัญธรรมดามนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายต่างมีการถ่ายเทพลังงานในตัวเองแลกเปลี่ยนกับพลังงานรอบกายอยู่แล้วเช่นมนุษย์เราหายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือ การทานอาหารเข้าไปแล้วถ่ายออกมาการคายความร้อนของร่างกาย ทุกกิจกรรมนั้นต่างเป็นการถ่ายเทพลังงานทั้งสิ้นการถ่ายเทพลังงานจักรวาลเป็นสิ่งสำคัญเพราะพลังงานเหมือนกับน้ำหากนิ่งอยู่กับที่ไม่มีการถ่ายเทย่อมไม่เกิดประโยชน์และเสื่อมคุณภาพลงได้การถ่ายเทพลังงานของหลวงปู่ท่านเป็นเรื่องอจินไตยเพราะท่านสามารถถ่ายเทพลังงานในตัวของท่านกับเทพพรหมที่มีวาสนาต่อกันมาแต่อดีตชาติครับสำหรับเราๆท่านสามารถหัดถ่ายเทหพลังงานจักรวาลกับต้นไม้ได้ หรือกับพระเครื่องก็ได้แต่ต้องระวังไม่เอาพระเครื่องที่มีเศษซากศพนะครับเพราะอาจโดนพลังแฝงใช้พระเครื่องของหลวงปู่คำเป็งนี่แหละครับดีที่สุดตามปกติการที่เราแขวนพระที่คอก็มีการถ่ายเทพลังงานจากพระมาสู่ตัวเราอยู่แล้วและมีการถ่ายเทพลังงานจากตัวเราไปสู่พระด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตามการนำพระมากำหนดจิตถ่ายเทพลังงานโดยตรงก็เป็นอีกแบบฝึกหัดหนึ่งที่มีประโยชน์เพราะทำให้ผู้หัดถ่ายเทสามารถพัฒนาเป็นเกจิอาจารย์ไปโดยปริยายหลังจากที่เราถ่ายเทพลังงานจากกายเราไปสู่พระก็ต้องหัดกำหนดจิตดูดพลังงานจากพระเข้าสู่ตัวอีกครั้งการทำแบบนี้เรียกว่าเป็นการฟอกพลังงานด้วยเหมือนการฟอกเลือดหรือเหมือนกับการทำระบบน้ำหมุนวนผลคือรัศมีกายเราจะสว่างมากขึ้น มีศักยภาพมากขึ้นศักยภาพที่มากขึ้นหมายถึงแรงดึงดูดของกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าในกายเราจะสูงขึ้นไงครับมีศักยภาพทำให้เกิดความต้านทานโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้น ดึงดูดสิ่งดีๆ โอกาสดีๆ คนดีๆเรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วย<O</O
<O</O

วิชาเกี่ยวกับพลังงานนี่ที่สุดแล้วย่อมไปสู่เนื้อเดียวกันเหมือนสายน้ำทุกสายย่อมรวมลงในทะเลสำหรับพระของหลวงปู่นั้นท่านว่าการประจุพลังลงในองค์พระเมื่อเรารู้จักพลังของพระเป็นเจ้าอันเป็นพลังงานในธรรมชาติแล้วต่อมาเราต้องรู้จักอัญเชิญดวงจิตดวงวิญญาณของครูบาอาจารย์มาประสิทธิขั้นนี้เรียกว่าวิญญาณศาสตร์เมื่อทำการเสกพระท่านก็อัญเชิญครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือได้แก่พระอมิตภะ พระกวนอิมพระมหาสถาปราบ หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเดิมฯลฯต้นสายวิชาแต่ละท่านมาประสิทธิเป็นการทำให้พลังงานในพระเครื่องแกร่งยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว สุดท้ายคือการใช้ฌานสมาบัติ วิชาคาถาอาคมอำนาจแห่งการบำเพ็ญเพียรของท่านลงประจุซ้ำอีกครั้งหนึ่งเป็นอันจบสรุปแล้วสามขั้นตอนที่ท่านทำคือ
1 หลักพลังงานจักรวาล หรือพลังงานจากพระเป็นเจ้า
2 พลังจากครูบาอาจารย์
3 พลังจิตภายในของท่าน



ว่าด้วยเรื่องการเสกประจุที่ท่านสอน ท่านกล่าวไว้ดังนี้ครับว่าการเสกของประจุนั้นมีหลัก 4 อย่างอีกคือ
1 การสาธยาย ภาวนาพระคาถาในใจหรือท่องเบาๆประจุลงในวัตถุมงคล
2 การภาวนาในใจแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกจากนั้นเป่าปราณออกทางปากยาวๆใส่ลงในตัววัตถุมงคล
3 การกลั้นหายใจภาวนา เรื่องนี้ท่านว่าเป็นเคล็ดลับ ทำไมต้องกลั่นหายใจท่านว่าเพราะการกลั้นหายใจนั้นเป็นเคล็ด ที่ว่าคนที่เขาทำฌานสี่เต็มกำลังลมหายใจจะขาดหายดังนั้นการกลั้นหายในภาวนาจึงได้กำลังเทียบเคียงกับผู้ที่ทำฌานสี่เหมือนเป็นวิธีลัดแม้ไม่ได้ตรงกันแป๊ะก็ยังใกล้เคียงครับ
4 คือการเพ่งด้วยสายตาแล้วเพ่งให้อักขระคาถาเข้าไปสู่วัตถุมงคลวิธีนี้คล้ายกสิณจะบอกว่าเป็นหลักกสิณก็ได้ครับวิธีทั้งหมดนี้หากลองนำไปปฏิบัติก็นับว่าเป็นอุบายในการทำสมาธิได้อย่างดีจะได้ไม่เบื่อในการทำสมาธิกัน แต่หากใครจะจับหลักการไหนตามจริตก็เชิญเลยครับนำมาเผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทาน (เก็บความรู้จาก ครูบาคำเป็ง)<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร

<!-- / attachments --><!-- sig -->

____________________________________________________________
พลังงานจากพระเป็นเจ้าใครที่ไม่ได้อ่านมาแต่ต้อนอาจจะงงกะคำๆนี้นะครับพระของหลวงปู่คำเป็งทุกองค์ล้วนบรรจุด้วยพลังงานลี้ลับแห่งจักรวาลที่เรียกว่าพลังแห่งพระเป็นเจ้าจากการดึงพลังงานนี้มาใช้ประจุในองค์พระทำให้องค์พระทุกองค์ของหลวงปู่คำเป็งมีสายใยเชื่อมไปถึงเทพเทวาฤๅษีโยคีทุกภพทุกภูมิอย่างน่าอัศจรรย์การน้อมพระของท่านมาใช้หากท่านมีความนับถือเทพเทวดาองค์ไหนเป็นพิเศษก็สามารถใช้พระของครูบาท่านเป็นสื่อกลางเชื่อมต่อได้ โดยการนำพระมาตั้งอธิษฐานด้วยจิตที่แน่วแน่ก็ย่อมสัมฤทธิ์ประสิทธิผล<O</O
<O</O

เป็นเรื่องจริงอย่างแท้แน่นอนพระของหลวงปู่ถือว่าราคาไม่แพง และสำหรับราคาแล้วสวนทางกับคำว่า "คุณค่า"เทียบกันไม่ได้เลยครับ เพราะหลวงปู่ท่านเป็นผู้ศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของสมาธิพระเวทย์ พลังจิต ด้วยความตั้งใจพระเครื่องของท่านมีอานุภาพพิสดารหากเปรียบอานุภาพในพระเครื่องของท่านแล้วจะวัดที่ราคาคงไม่ได้พระของหลวงปู่ที่ผ่านการอธิษฐานจิตเป็นอย่างดี มีพลังงานจักรวาลพนวกด้วยพลังจิตของครูบาอาจารย์ผู้เป็นต้นวิชา และวิชาพลังจิตกสิณอภิญญาของหลวงปู่ความมหัศจรรย์ของพระหลวงปู่ท่านนั้นอยู่ที่พลังงานในพระเครื่องที่มีมากและมีศักยภาพสูงคำว่าศักยภาพสูงคือ พลังงานภายในองค์พระอันประกอบด้วยเจตสิกภายใน สามารถก่อรูปร่างเกิดญาณรู้ภายในตัวเองครับ ก่อรูปร่างหมายถึงด้วยพลังงานและเจตสิกภายในสามารถสำแดงเป็นรูปกายทิพย์มีลักษณะต่างๆ อาจเป็นหญิงเป็นชายขึ้นมาได้คนที่มีตาทิพย์ หรือมีสัมผัสสามารถรู้ได้บางท่านได้รับพระหลวงปู่ไปก็อาจฝันว่ามีเทวดาเป็นผู้หญิงผู้ชายเข้ามาหาบางคนรับแม่เป๋อไปก็อาจฝันไปว่าเห็นแม่เป๋าเข้ามาหาตอนกลางคืนเป็นต้นพลังงานที่สามารถก่อรูปร่างนี้ยังมีจิตรู้มีศักยภาพสูง คล้ายกับว่าเรามีกุมารทองคือผู้บูชา สามารถสั่งการให้องค์พระเฝ้าบ้าน เรียกลูกค้า ไปตามคนโน้น คนนี้มาหาไปเรียกลูกค้าเข้าร้านได้ ยิ่งหากเราบนหรือเราบอกกับองค์พระว่าขอให้รายได้ดีๆมีกำไรแล้วจะไปทำบุญสร้างวัดกับหลวงปู่ ก็ยิ่งได้ผลดีเรื่องแบบนี้ลองกันได้ยิ่งหากใครนั่งสมาธิด้วยแล้ว มีพลังจิตในตัวระดับต้นถึงแก่กล้ามีทักษะในการใช้อำนาจจิตย่อมเกิดผลไวจริงๆแบบนี้แหละครับพระของหลวงปู่จึงน่าเก็บน่าศึกษา ยิ่งคนเล่นวิชา เล่นพลังฝึกฝนสมาธิหากใช้สมาธิทำสมาธิร่วมกับพระของท่านจะไม่มีเบื่อเลยกลับยิ่งสนุกในการทำสมาธิเข้าไปอีกและยังผลให้สมาธิก้าวหน้าเห็นผลไวด้วย<O</O
<O</O

ความจริงเท่านี้ก็นับว่าแรงแล้วครับ แต่หากต้องการเพิ่มผมแนะนำพระชุดพุทธบารมีครับ หรือพระโพธิสัตว์กวนอิมก็ได้ เพราะเป็นพลังเย็นมีไว้กับตัวจะเสริมราศีบารมี และคนเข้าใกล้ก็จะเย็นกายเย็นใจเรียกว่าให้บารมีทางร่มเย็นเป็นสุขนั่นเองและถือว่าเป็นการเสริมสมดุลหยินหยางด้วยครับ หากเพิ่มแม่ชิลีก็เยี่ยมครับแต่ต้องรอคำตอบท่านอื่นด้วย เพราะผมเองนับถือแม่ชิลีมากดังนั้นอาจตอบตามจริตส่วนตัวครับแม่ชิลีพี่ๆก็โพสไว้แล้วว่ามีอำนาจทางโชคลาภเป็นเศรษฐีและส่วนตัวที่ผมสัมผัสมาคุ้มครองก็ดีด้วยครับพลังงานดูดของแม่ชิลีเด็ดขาดเช่นกันครับ ส่วนแม่อุมาหลังจตุคาม แรงครับเพราะพิมพ์นี้พิมพ์แรกนั่นแหละที่ผมจับแล้วมือสั่นจนอดแปลกใจไม่ได้ว่าท่านลงวิชาอะไรมา ถึงเกิดปฏิกิริยาอย่างนี้ดังนั้นหากสรุปความแล้วในส่วนที่ผมแนะนำน่าจะหาพระในสายของพระโพธิสัตว์กวนอิมอาราธนาติดตัวครับ จะได้อำนาจทางความร่มเย็นหรือหากเสริมอำนาจทางคุ้มครองแบบสุดๆก็น่าจะกาพระซุ้มกอ หรือพระยอดขุนพลชากังราวครับซึ่งทังหมดต้องดูบริบทแวดล้อมของตัวคุณด้วยครับว่าทำงานเกี่ยวกับอะไรถ้าเป็นงานที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ก็น่าจะเอายอดขุนพลชากังราว หรือซุ้มกอก็ได้แต่ถ้างานต้องติดต่อลูกค้า ต้องพูดคุยกับใครบ่อยๆนานๆเป็นประจำ อาศัยความใจเย็นเมตตาเป็นหลัก ก็น่าจะหาสายพระโพธิสัตว์กวนอิมเข้ามาเสริมแนะนำเท่านี้นะครับรอให้ท่านอื่นมาแนะนำบ้าง ด้วยความเคารพครับ<O</O
<O</O

ศาสตร์พลังงานเป็นเรื่องลี้ลับละเอียดอ่อนเป็นวิถีของผู้ทำสมาธิฌานตามแนวเจโตวิมุตติฤาษีโยคีในยุคหลายพันปีก่อนเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ ในปัจจุบันหลวงปู่คำเป็งนับเป็นอีกท่านหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องพลังงาน จากการปฏิบัติทางสมาธิและการค้นคว้าของท่านพบว่าพลังงานมีแหล่งกำเนิดหลายอย่างที่แรงมหาศาลคือพลังจักรวาล จากนั้นก็เป็นอำนาจจากดวงจิตของครูบาอาจารย์และที่สำคัญคือพลังงานจากกายของเราเพราะบุคคลที่ฝึกฝนกรรมฐานย่อมมีพลังงานมากเป็นพิเศษเนื่องจากมนุษย์เรามีธาตุครบ มีกายเนื้อพระอภิญญาทรงฤทธิ์หากปรารถนาใช้ฤทธิ์ปาฏิหาริย์ช่วยคนก็ยังต้องดำรงสังขารไว้เหมือนอย่างหลวงปู่โลกอุดรด้วยเหตุนี้การบำเพ็ญของมนุษย์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด<O</O

 

พระแม่อุมามหาเทวี (เก็บความรู้จากหลวงปู่คำเป็ง)
หลวงปู่คำเป็งนับเป็นพระสุปฏิปัณโณสายพระโพธสัตว์ที่ผ่านการบำเพ็ญบารมีมานับชาติไม่ถ้วนมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือพระโพธิญาณด้วยอำนาจจากการบำเพ็ญมานับภพชาติไม่ถ้วนทำให้ท่านมีสื่อญาณถึงเทวะเจ้าหลายพระองค์ที่สำคัญนับเป็นองค์อุปถัมภ์ของหลวงปู่คือ พระนางอุมาท่านเล่าว่าพระนางอุมามาหาท่านในภาคอิทธิฤทธิ์ที่เรารู้จักกันดีในนามของพระแม่กาลี ท่านเล่าว่าพระนางอุมาที่มาปรากฏกายให้ท่านเห็นนั้นมีลักษณะเป็นหญิงรูปร่างใหญ่กายสีดำแรกๆมาสองกร หลังๆแสดงฤทธิ์ให้ปรากฏเห็นเป็นหลายกรพระนางอุมาได้สอนท่านเกี่ยวกับหลักวิชาศิวะอุมา โดยท่านเล่าว่าพระอุมาที่มาหาท่านนี้ได้ถ่ายเทพลังงานของท่านมายังตัวของหลวงปู่และหลวงปู่เองก็ถ่ายทอดพลังงานภายในกายให้ท่านด้วยเรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนพลังงานซึ่งกันและกัน และยามที่ท่านประพันธ์คาถาแต่ละตอนท่านก็จะถามพระนางอุมาว่าพอใจหรือไม่ดีไหมหากพระนางอุมาบองว่าดีก็ถือว่าผ่าน หากไม่เห็นด้วยท่านก็แก้ไขดังนั้นพระคาถาหลายๆบท อย่างคาถาแหกของท่านจึงนับว่าเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถใช้ท่องเพื่อสื่อกับพระนางอุมาได้โดยตรงท่านเล่าอีกว่ารูปแม่เป๋อของท่านนั้นมีญาณบารมีพระนางอุมาอยู่ภายในและนอกจากนี้พลังภายในของแม่เป๋อ ยังไม่ได้ดีเรื่องทางเสน่ห์อย่างเดียวแต่ยังดีทางคุ้มครองป้องก้นด้วย ท่านกล่าวว่าสมัยก่อนนั่นท่านเห็นคนเอาพระไปลองยิงกี่องค์กี่องค์ก็กระจุยแต่พอลองกับแม่เป๋อกับยิงไม่ออกท่านเลยเอาบ้างศึกษาจนเข้าใจดีว่า อำนาจของแม่เป๋อ จากรูปลักษณ์ก็เป็นอาถรรพณ์ในตัวแต่คนทั่วไปมองว่าไม่สุภาพแต่ความจริง มันคือสัจจะธรรมที่ว่าคนเราก็คลอดออกจากครรภ์มารดานอกจากนี้ภายในขันธสันดานลึกๆของมนุษย์สัตว์เพศผู้ทั้งหลายย่อมปรารถนาหญิง หรือโยนีอำนาจอันเป็นอาถรรพณ์ตามธรรมชาติประกอบกับบารมีของพระอุมาและพลังงานจักรวาลและวิชาต่างๆที่ท่านฝึกฝนจึงทำให้เกิดเครื่องรางที่ทรงอานุภาพที่สุดคือแม่เป๋อ พระเก้าแหก แม่อุมายิม แม่อุมาขี่เสือฯซึ่งทั้งหมดล้วนมีอำนาจอาถรรพณ์ในการดึงดูดจิตใจคนให้ไปมาหาสู่ทั้งยังมีอำนาจปกป้องทั้งจากพลังงานลบ คุณไสยมนต์ดำและจากธาตุทั้ง ๔ ดินน้ำลมไฟทั้งยังสามารถเสริมพลังงานในร่างกายให้แข็งแกร่งอีกด้วยผู้ที่ได้รับพิษภัยจากอำนาจอาถรรพณ์มนต์ดำ น่าจะลองอาราธนาพระอุมาขี่เสือหรือพระแหก แม่อุมายิม แม่เป๋อเนื้อน้ำมันมาอาราธนาให้ท่านดูดพิษหรืออาราธนานำท่านลงทำน้ำมนต์แล้วนำไปดื่มกินติดต่อกันก็จะเห็นผลนอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับอีกว่า หากเราจะไปหาลูกค้าผู้ชายหรือติดต่อธุรกิจกับผู้ชายล่ะก็ให้เอาบารมีแม่ไปรับรองได้ผลดีแต่หากไปติดต่อกับเพศหญิงก็ให้พกหรือบอกกับเทพกามาหรือปลัดขิกของท่านจะได้ผลดีเป็นพิเศษทั้งนี้ใช้หลักที่ว่า ชายมักปรารถนาในโยนีเป็นเบื้องลึกในจิตใจหญิงมักปรารถนาลึงค์เป็นเบื้องลึกในจิตใจเมื่อธรรมชาติแห่งโลกและจักรวาลกำหนดมาตามนี้และเป็นไปอยู่ตราบใดตราบนั้นวัตถุมงคลของหลวงปู่ไม่มีวันเสื่อมใช้ได้ผลดีเป็นไปตามสัจจะธรรมนั้นแน่นอน<O</O

 

กฤตยาคมแฝด (อ่านว่า กิ-ติ - ยา -คม-แฝด)คำๆนี้หลายคนอาจไม่รู้จักหรือเพิ่งเคยได้ยิน จะอธิบายให้ฟังครับ คำว่ากฤติยาคมแฝดหมายถึงการซ้อนอาคมหลายทบหลายชั้นลงไป อย่างวัตถุมงคลของหลวงปู่คำเป็งเป็นต้นครับอย่างการที่ท่านเอาไม้เถาวัลย์หลงซึ่งมีอำนาจตามธรรมชาติอยู่แล้วมาแกะเป็นพระประจุซ้ำด้วยพลังจักรวาลแล้วซ้ำครั้งที่สองด้วยพลังจากดวงจิตของครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับแล้วซ้ำครั้งที่สามด้วยพลังฌานสมาบัติของหลวงปู่ก็เรียกว่าเป็นการทำกฤติยาคมแฝดครับหรือการนำเอาว่านร้อยแปด แร่ธาตุมาสร้างเป็นพระเครื่องจากนั้นปลุกเสกซ้ำด้วยพบลังงานต่างๆและอาคมที่ร่ำเรียนมาดังนี้เรียกว่าการทำกฤติยาคมแฝดครับการทำกฤติยาคมแฝดย่อมก่อให้เกิดพลังอำนาจสูงกว่าการสร้างพระปกติหรือสูงกว่าวัตถุดิบตามธรรมชาติเดิมๆที่ยังไม่ได้เสกดังนั้นพระของหลวงปู่คำเป็งซึ่งท่านพยายามหาของที่มีพบลังจากธรรมชาติมาสร้างเป็นเครื่องมงคลย่อมมีอานุภาพที่เรียกว่าทบเท่าทวีคูณสูงกว่าพระเครื่องทั่วไปครับ<O</O
<O</O

เพชรหน้าทั่งนับเป็นกายสิทธิ์อย่างหนึ่งมีมากทางภาคใต้ บางคนเรียกว่าเพชรคนธรรพ์ทางใต้เขาถือว่าเป็นเหล็กไหลอย่างหนึ่งเหมือนกันนอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าภายในเพชรหน้าทั่งนั้นมีเทพยดาสองจำพวกรักษาคือ เทพคนธรรพ์กับยักษ์ นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีเทพยดาเจ้าที่ที่เรียกขานกันว่า พ่อปู่ตาเพชรแม่ยายรัตน์ พ่อตาโตดำ เป็นผู้ดูแลรักษาอำนาจตามธรรมชาติของเพชรหน้าทั่งคืออำนาจทางคงกระพันกันเขี้ยวงากังงูกันสัตว์มีพิษทั้งหลายทั้งยังกันภูติผีปีศาจด้วยครับนอกจากนี้ยังมีอำนาจในการเรียกทรัพย์สินเงินทอง เป็นที่มาของทรัพย์ทั้งหลายด้วยคนโบราณเขาบูชาเพชรหน้าทั่งด้วยดอกมะลิและเอาน้ำประพรมเพชรหน้าทั่วในวันพระครับถือว่าเป็นของกันอัคคีภัยได้ด้วยพระโพธิสัตว์กวนอิมฝังเพชรหน้าทั่งนับเป็นพระที่มีพุทธคุณเย็นครับ บูชาด้วยดอกมะลิดอกบัวจะดีมากนอกจากนี้หากเราต้องการความช่วยเหลือส่งใดเป็นพิเศษก็บอกกับเทพที่อยู่กับองค์พระท่านจะช่วยเราอย่างสุดความสามารถแต่อย่าไปทำสิ่งที่ผิดศีลนะครับท่านจะเสียใจให้นำท่านมาทำสมาธิร่วมมาสวดมนต์ด้วยก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มบารมีครับ<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร



ผมได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่คำเป็งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาครับรูปสึกอัศจรรย์ใจที่นิมิตของหลวงปู่ที่เห็นพระนางอุมานั้นไปตรงกับตำราทางตันตระเพราะอย่างเรื่องแม่ป๋อนี่คนที่ไม่ได้ศึกษาไม่มีทางรู้หรอกครับว่ามาจากพระนางอุมาภาคกาลีหลวงปู่เล่าไว้ชัดเจนเลยครับว่าท่านเห็นพระนางอุมาภาคอิทธิฤทธิ์ที่เรียกว่ากาลีเป็นผู้หญิงร่างกายใหญ่โตผิวสีดำก็แปลกดีครับหลวงปู่ไม่เคยอ่านตำราทางตันตระแต่กลับมีความรู้ได้นิมิตที่ตรงกันทางตันตระนั้นได้แพร่เข้ามาในไทยนานนับพันปีครับ พระทางเหนือ อีสานเขมรรับเอาอิทธิพลนี้ไว้มาก ภาคอื่นๆทั่วสุวรรณภูมิก็รับไว้เช่นกันความรู้ทางตันตระนั้นนับถือพระอุมา โดยเฉพาะภาคกาลี ภาคนี้มีฤทธิ์มากเป็นอำนาจทางเพศ อำนาจทางการปกครอง อำนาจทางการปกป้องคุ้มครองล้างอาถรรพณ์สมัยก่อนอาจสร้างเป็นโยนีอย่างเดียวอย่างสมัยโบราณที่เขานับถือหอยเบี้ยก็เพราะเป็นลักษณะของโยนีนั่นเองหรือวัฒนธรรมสมัยก่อนเอากระดองเต่าฝังไว้กับศพก็เป็นเรื่องลัทธิที่เชื่อถือโยนีเช่นกันถือว่าเป็นสื่อแห่งความเจริญครับต่อมามีการสร้างเป็นรูปให้ชัดเจนขึ้นคือรูปของแม่เป๋อมีการเน้นความเป็นเพศแม่มากขึ้น ซึ่งถือกันว่าเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ที่มีฤทธิ์ในตัวแม้ว่าไม่ได้ปลุกเสกก็ตามหากลงด้วยคาถาแล้วถือว่าขลังมากคนสมัยก่อนไม่มีอุปปาทานเรื่องเพศมากเท่าคนสมัยนี้ครับเดี๋ยวนี้คนมองเป็นของหยาบไปซะ โดยไม่ได้ศึกษาให้ลึกซึ้ง ผมได้คุยกับหลวงปู่ท่านดูเห็นว่าท่านมีความรู้ด้านนี้จริงๆ และรู้ในหลักธรรมอันเป็นแก่นสารด้วยความรู้ดีๆแบบนี้ก็ต้องเผื่อแผ่สมาชิกทุกท่านครับ


เก็บความรู้จากหลวงปู่คำเป็ง ท่านกล่าวว่าในธรรมชาติอำนาจในตัวผู้หญิงมีแรงดูดกายใจของฝ่ายชายและอำนาจจากฝ่ายชายก็มีพลังดึงดูดกายใจของหญิงเรื่องนี้เป็นพลังงานตามธรรมชาติที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันทั้งโดยตรงโดยอ้อมอำนาจในเรื่องการดึงดูดทางเพศของชายและหญิงนี่ เป็นพลังงานที่มีอำนาจมหาศาลครับคนที่มีความรักคิดถึงกันนี่มีพลังงานสูงมากพลังงานทางเพศนี้หากรู้จักทดพลังเหมือนการทดน้ำในเขื่อนเพื่อไปใช้ทางอื่นย่อมได้ประโยชน์มหาศาลเช่นการนำพลังงานนี้มาประจุลงในพระเครื่องสายพระอุมาของหลวงปู่ไงครับหรือเทพกามาของท่านพลังงานที่ประจุลงไปตามศาสตร์วิชาคาถาพลังงานจักรวาลก่อเกิดอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากเป็นประโยชน์ต่อผู้ดำรงชีวิตทำกิจการงานทางโลกอย่างมหาศาลครับรู้จักใช้อาราธนาอธิษฐานทำกรรมฐานจะเกิดประโยชน์เรียกลูกค้าทั้งชายทั้งหญิงหลั่งไหลมาหาอย่างท่วมท้นความจริงเมื่อกล่าวถึงการทดพลังงานลักษณะนี้ก็ไปเข้ากันกับเรื่องของกุณฑาลินีอีกแต่ไม่ขอกล่าวเพราะจะนอกเรื่องเกินไปครับแต่กล่าวได้ว่าคนที่มีพระหลวงปู่อย่างแม่เป๋อ พระอุมา นำมาใช้พัฒนาจักราดีมากนำมาใช้พัฒนาพลังกุณฑาลินีก้ได้แต่ควรปรึกษากับผู้รู้เพราะเป็นพลังงานร้อนอาจเกิดปัญหาได้ถ้าไม่รู้จักควบคุมครับพระของหลวงปู่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งทางจิตวิญญาณ การฝึกกรรมฐานก็ไปได้หลายสายการค้าการขายก็ดีลองพิจารณาดูเถิดครับ
<O</O
<O</O

 

จิตของมนุษย์เรานี่เป็นสิ่งที่มีศักยภาพวิเศษและอัศจรรย์ การจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือการนำจิตเราไปคลุกคลีสิ่งหนึ่งสิ่งใด จิตจะรับเอาคุณสมบัติของสิ่งนั้นไว้ในตัวเช่นผู้ที่เพ่งไฟมากๆ ภาวนาในใจถึงไฟตลอดจิตจะรับคุณสมบัติของไฟจนกระทั่งจิตสามารถจุดไฟได้ด้วยความคิดสามารถเพิ่มความร้อนภายในกายได้อย่างอัศจรรย์หรืออย่างหลวงปู่คำเป็งท่านท่องไปเรื่อยๆว่าไฟเปียกน้ำเมื่อจิตปักลงในคำที่ท่องอยู่กับปัจจุบันขณะเพ่งสู่วัตถุเบื้องหน้านั้นอำนาจจิตที่วางความเชื่อลงไปย่อมทำให้เกิดเป็นเรื่องจริงในโลกของวัตถุผลคือทำให้ดินปืนไม่สามารถใช้งานได้หรืออย่างปักจิตลงไปว่าปิด-คาท่องภาวนาคำนี้ไปที่วัตถุธาตุด้วยความเชื่อมั่นเป็นหนึ่งเมื่อนำวัตถุสิ่งนั้นไปทดลองด้วยการยิงก็ย่อมไม่ออก นี่แสดงให้เห็นอำนาจของจิตที่ส่งกระแสความคิด หรือการจดจ่อกับสิ่งนั้นการจดจ่อ คือสภาวะสมาธิ ความแน่วแน่ คือการกำหนดยิ่งจิตแน่วแน่แค่ไหนปรากฏการณ์ทางวัตถุก็ชัดเจนขึ้นเท่านั้นหรืออย่างง่ายที่สุดถ้าจิตตรึกถึงของเปรี้ยวแม้ว่ากาย หรือลิ้นของเรายังไม่รับประทานสิ่งนั้นจริงๆ แต่น้ำลายจะสอจิตมีศักยภาพที่จะกำหนดเหตุการณ์ความเป็นไปต่างๆที่เป็นรูปธรรมได้เพราะจิตคือพลังงาน และสามารถเหนี่ยวนำพลังงานอื่นด้วยกันได้ด้วยอำนาจจิตเป็นเรื่องอย่างเหลือเชื่อพระพุทธองค์พบศักยภาพแห่งจิตจึงกล่าวว่าจิตนี่แหละเป็นตัวกำหนดภพภูมิด้วยตนเองจากการกระทำ ความนึกคิด
จิตที่จดจ่อถึงความสำเร็จ คิดในสิ่งที่ดีย่อมทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปในทางบวกอย่างการที่ครูบาอาจารย์ให้ท่องคาถาให้อธิษฐาน เช่นให้ท่องคำว่า สำเร็จ สำเร็จ ๆด้วยอำนาจแห่งจิตที่ปักลงไปนั้นก็จะกำหนดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สำเร็จตามไปด้วยอำนาจของจิตนี่ลึกลับครับ คนเราไม่รู้จิตไม่ได้ฝึกจิตเมื่อไม่ฝึกจิตจิตก็นึกไปทางที่ดีบ้างไม่ดีบ้างจึงส่งผลให้ความเป็นอยู่สุขๆทุกข์ล่มๆดอนๆแต่สำหรับผู้ที่ฝึกจิตเข้าใจสภาวะต่างๆจะสามารถควบคุมเหตุการณ์และสถานการณ์ต่างๆได้อย่างปานกลางไปถึงดีเยี่ยม

การท่องคาถาดูดของหลวงปู่ก็นับเป็นการฝึกจิตเหมือนกันนะครับ หมายความว่าเมื่อเรารู้จักศักยภาพของจิตไดดีแล้วเราลองมาหัดใช้ศักยภาพของจิตตัวนั้น โดยผ่านการท่องคาถาเพราะคาถาคือสิ่งที่กำหนดทิศทางความเป็นไป เช่นการท่องคาถาดูดจิตปักลงไปในคำของคาถา เคล้าคลอกับองค์ภาวนา ดึงดูดคน เงินทองหลั่งไหลมาหาหากจิตรับอารมณ์ รับความเชื่อ วางความเชื่อตามเนื้อความแห่งคาถาจิตจะกำหนดเหตุการณ์ในวันนั้นๆทั้งนี้อยู่ที่ความแน่วแน่กำลังใจในการท่องคาถาในวันนั้นๆด้วยเหมือนกับท่องคาถามหาอุดหากท่องด้วยความมีสมาธิแน่วแน่ความเป็นมหาอุตม์ก็บังเกิดขึ้นได้จริงทุกคาถานี่สำเร็จได้ด้วยใจที่เชื่อมั่นและใจตัวเดียวนี่แหละครับที่สามารถกำหนดเรื่องราวต่างๆในชีวิตของเราดังนั้นการฝึกจิตใจจึงเป็นสิ่งยอดเยี่ยมยิ่งกว่าการฝึกใดๆในโลกและสมกับพุทธพจน์ที่ว่า "จิตที่ฝึกดีแล้วนำสุขมาให้"ขอให้ทุกท่านหมั่นฝึกจิตฝึกใจตนนะครับและขออนุโมทนาทุกท่านที่มีความสนใจในการฝึกฝนตนเอง
ขออนุโมทนาครับ<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร

หากความรู้กับการปฏิบัติควบคู่กันไปและน้อมมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงย่อมเกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและสังคมรอบข้างครูบาอาจารย์แต่โบราณกาลได้คิดวิธีที่จะนำสิ่งที่ยากมาทำให้ง่ายโดยการผูกคาถาให้ท่องทุกเช้าเย็น (เป็นการกำหนดเหตุการณ์ไปในตัว)การมีเครื่องรางเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวอย่างน้อยทำให้ใจไม่ไถลไปไกลตามอารมณ์ขุ่นมัวคือเมื่อจิตมีที่พึ่งทางวัตถุธรรมจิตย่อมเกิดการจดจ่ออันเป็นหนทางแห่งสมาธิเบื้องต้นประกอบกับคำภาวนาอันก่อให้เกิดความเชื่อมั่นความหวังในแง่ดี ซึ่งเท่ากับการคิดบวกการคิดบวกคือปัจจัยให้เกิดสิ่งดีๆในชีวิต (ความคิดมีพลัง)ที่สำคัญวิชาพุทธไสยเวทย์คือการนำเอาหลักกรรมฐานชั้นสูงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันนั่นเองเมื่อบุคคลทั่วไปไม่ชอบที่จะนั่งภาวนาพุทโธเงียบๆโดยไม่ทราบผลเบื้องปลายที่แท้จริงและมักหมดกำลังใจการให้ศิษย์รู้จักคำภาวนาที่จูงใจและเป็นผลดีต่อชีวิตการงานในปัจจุบันสามารถจูงจิตใจได้ดีกว่าการท่องการภาวนาถึงเครื่องรางจึงซ่อนคุณประโยชน์อยู่มากซึ่งหากผู้ที่ศรัทธาทางนี้ได้พัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่องก็สามารถพบจุดบรรจบของไสยเวทย์กับมรรคผลได้อย่างแน่นอน
<O
พระของหลวงปู่เหมือนกุมารทองคำนี้เป็นคำเทียบเคียงนะครับเพราะไม่ทราบว่าจะเทียบเคียงอะไรได้หลวงปู่กล่าวว่าพระที่หลวงปู่เสกนั้นนอกจากพลังเต็มแล้วยังมีเจตสิกอยู่ภายในสามารถปรากฏรูปเข้าฝันผู้ที่บูชาได้ถ้าคนนั้นมีสภาวะ

จิตที่เหมาะสมจนสามารถสื่อกับเจตสิกของพระเครื่องอย่างผู้ที่บูชาพระอุมาขี่เสือ แม่เป๋อ ฯลฯของหลวงปู่บางคนได้ไปก็ฝันถึงเลยเรื่องนี้เพื่อนของผู้เขียนก็ฝันเหมือนกันเจตสิกที่อยู่ข้างในองค์พระนี่แหละมีฤทธิ์มาก เก่งทุกทางแต่เราต้องบอกเขาว่าจะให้เขาช่วยอะไร สื่อสารกับเขาบ่อยจะพูดเบาๆกับเขาก็ได้หรือยกพระขึ้นจบอธิษฐานในใจก็ได้ สื่อกับเขาบอกเขาไปเขาจะช่วยเราอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ บอกให้เขาไปเข้าฝันใครต่อใครหรือดลใจให้คนต่างๆมาหาเราซื้อของเราก็ได้ซึ่งเหมือนกันกับกุมารทองแต่ดีกว่าที่ไม่ต้องเซ่นไหว้ ไม่ต้องตั้งของบูชาเพราะพระเครื่องหลวงปู่ดูดกลืนปราณตามธรรมชาติไม่ต้องพึ่งของเซ่นไหว้พระของหลวงปู่เป็นของมหัศจรรย์ครับมีแล้วไม่ต้องหากุมารทองมาเลี้ยงให้ยุ่งยากหรือใครที่ชอบพวกกุมารทองก็หาพระหลวงปู่มาบูชาดูบ้างก็จะเห็นความอัศจรรย์พระของหลวงปู่นี้ยังซนอีกด้วยครับ ถ้าอยู่เฉยๆเจตสิกในองค์พระอาจเที่ยวไปดูดกลืนพลังงานของพระอื่นๆเข้าให้อีกท่านเล่าว่าของท่านเจอบ่อยต้องบอกพระไปว่าเอาพลังคืนเขาไปเจตสิกในองค์พระก็จะคายพลังกลับไปที่เดิม พระของหลวงปู่แปลกจริงๆคนที่มีถือว่าได้ของศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือนมาก่อนแน่นอนครับ<O</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร

<!-- / attachments --><!-- sig -->

____________________________________________________________
ตอนนี้พระที่มีอยู่ในมือผมมีแต่ซุ้มกอครับ ซุ้มกอหลังครูบายังไม่มีซุ้มกอแม่ย่ายังไม่มีครับ ดังนั้นขอกล่าวถึงพระซุ้มกอที่อยู่มือก่อนเคยนำมาสัมผัสพลังงานหลายครั้ง พระซุ้มกอของท่านเด่นหลายด้านนะครับเรื่องคุ้มครองดี เรื่องโชคลาภ เรียกเงินทองก็ดีครับ พระซุ้มกอของหลวงปู่คำเป็งถ้าผมเดาใจท่าน แน่นอนว่าท่านต้องอาราธนาญาณบารมีของพระฤๅษีมาอธิษฐานจิตอย่างไรก็ตามปกติหลวงปู่คำเป็งอธิฐานจิตพระชนิดใดก็ย่อมเรียกพลังงานทั้งสากลจักรวาลมาประชุมพรน้อมทั้งครูบาอาจารย์ท่านต่างๆที่ล่วงลับไปแล้วแต่ความรู้สึกถึงสายฤๅษีในองค์พระซุ้มกอจะแรงครับนอกจากนี้มวลสารในการใช้ทำพระซุ้มกอของท่านผมว่าไม่ธรรมดาดูแล้วน่าจะมีแร่อะไรบางอย่าง เหมือนแร่เหล็กอยู่ด้วยครับถ้าผมเดาถูกหลวงปู่อาจเอาแร่จากเมืองกำแพงเพชรซึ่งคนโบราณเชื่อว่ามีอานุภาพทั้งทางอยู่คงและโภคทรัพย์ดังนั้นสำหรับพระซุ้มกอของหลวงปู่ผมว่าเฉียบขาดพลังงานไม่ได้ด้อยกว่าพระที่มีอายุเป็นพันปีเลยครับ<O</O
<O
สำหรับพระซุ้มกอแม่ย่าผมยังไม่มียังไม่เคยสัมผัสครับแต่ขอพูดจากความรู้สึกทางใจ (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)ประกอบการวิเคราะห์โดยส่วนตัวนะครับ พระซุ้มกอแม่ย่า เป็นพลังงานสายพระแม่กวนอิมเป็นรูปหญิงนั่งในซุ้ม พลังงานแม่ย่าจะเด่นมากครับเรื่องเสน่ห์เมตตากับโชคลาภคุ้มครองก็ดีด้วยเช่นกัน พลังงานแม่ย่ากับซุ้มกอหากเทียบแล้ว ซุ้มกอองค์พระจะเด่นเรื่องลุยๆครับ ส่วนแม่ย่านี่จะเด่นเรื่องเสน่ห์เมตตาดี พระทั้งสองคือซุ้มกอและแม่ย่านั้นมีพุทธคุณที่แจ่มจรัสอีกประการหนึ่งที่จับเอาจากความรู้สึกคือเรื่องพกพาเข้าหาผู้ใหญ่ทำให้มีราศี ผู้ใหญ่จะรักจะเมตตาเราดีอย่างไรก็ตามต้องย้ำว่าพระของหลวงปู่ทุกองค์มี "ตัว"คือมีเจตสิกที่รับรู้ความนึกคิด มีอิสระไปไหนมาไหนได้รับรู้คำอธิษฐานได้บอกกล่าวไหว้วานขอความช่วยเหลือจากเขาได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นแม่ย่าหรือซุ้มกอผู้ที่มีสามารถบอกกล่าวให้เจตสิกภายในช่วยเหลือเราได้ทุกเรื่องแต่ทั้งนี้อย่าลืมพยายามสร้างกุศลเพื่อเป็นการเสริมบารมีตัวเองด้วยนะครับเมื่อบารมีจากการทำกุศลเราเพิ่มมากขึ้นกรอบและขอบเขตในการช่วยเหลือจากพวกกายทิพย์จะมากขึ้นตามไปด้วยเรียกว่าเรากับพวกกายทิพย์มีสื่อสัมพันธ์กันทั้งโดยตรงและโดยอ้อมคนที่มีพระของหลวงปู่ทุกท่านอย่างน้อยย่อมมีเจตสิกกายทิพย์ที่อยู่ภายในองค์พระคอยคุ้มครองทั้งนี้เราต้องเอาพระติดตัวประจำนะครับ เขาถึงช่วยเราได้เต็มที่ก่อนนอนก็ทำสมาธิแผ่เมตตา แล้วบอกกว่าให้เจตสิกภายในไปทำงานโดยการไปดลใจใครต่อใครจะได้ผลเป็นอย่างดีครับ

<O

พอดีผมบูชาปลัดของครูบาท่านเหมือนกันและเพิ่งได้รับของๆท่านวันนี้ซะด้วย (วันเสาร์ที่ 13 ต.ค) เคยเรียนถามครูบาเกี่ยวกับปลัดของท่านท่านว่าท่านใช้คาถาดังนี้ครับ "โยนีวา ลึงคะ โยคะ" หมายความว่า พลังแห่งแม่และพ่อรวมกัน ย่อมบังเกิดชีวิต พลังของปลัดท่านมีอำนาจหลากหลายครับที่เด่นแน่ๆคือเรื่องเรียกคนเข้าร้าน เรียกจิตเรียกใจทั้งหญิงและชายให้เข้ามาหาสู่เรื่องเสน่ห์กับเพศตรงข้ามนี่ดีแน่นอนครับ นอกจากนี้ยังกันคุณไสยเป็นอำนาจทางคุ้มครองป้องกันได้เป็นอย่างดี คาถาจริงๆมีหลายบท หากเอาสั้นๆก็ โยนีวาลึงคะ โยคะ ท่องหลายๆครั้งให้จิตเป็นสมาธินอกจากนี้อย่าลืมว่าของๆท่านเป็นของมีชีวิตมีจิตวิญญาณอยู่ภายในท่องคาถาปลุกแล้วบอกกล่าวเขาไปเหมือนว่าเราคุยกับเขา ประสงค์สิ่งใดให้เขาช่วยงานเรื่องอะไรบอกเขาไปครับ เขาจะช่วยเราอย่างเต็มที่ศาสตร์เรื่องปลัดขิกมาจากศิวะศาสตร์ มาจากการบูชาศิวลึงค์ดังนั้นภายในปลัดย่อมมีบารมีของพระศิวะเจ้าอยู่ภายในด้วยบูชาให้ดีครับมีคุณมากมายจริงๆ<O
<O
วันนี้ผมเพิ่งรับพระของหลวงปู่ครับต้องกราบของพระคุณหลวงปู่คำเป็ง ท่านพี่สามเหลี่ยม ท่านพี่โคมฉาย ท่านพี่เม้า ณที่นี้ด้วยครับ หลังจากรับพระพอกลับบ้านปุ๊บ ก็หยิบพระมาพิจารณาทีละองค์ใช้เวลาองค์ละประมาณ 5-10 นาทีในเบื้องต้น พระแม่ย่านี่สำคัญนักจับดุแล้วกระแสเย็นแผ่ซ่านจากปลายนิ้วเข้ามาที่อกที่ใจ แสดงว่ามีเมตตาสูงมีอำนาจดึงดูดจิตใจ มีอำนาจทางส่งเสริมวาสนาให้เป็นที่เคารพรักของคนทั่วไปนอกจากนี้มีพระสีดำๆผมไม่มั่นใจว่าเป็นอะไรจับแล้วรับความรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าที่วิ่งเข้าสู่ปลายนิ้วมือแปลกไปกว่าแม่ย่าเพราะกระแสที่วิ่งเข้ามาเหมือนว่าพระดิ้นหรือกระดิกอยู่ที่ปลายนิ้วแสดงว่าเจตสิกภายในแรงมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น เทพกามารุ่นแรกครับองค์สีดำสนิทมีคราบไขขาวเกาะเต็มไปหมดพลังงานจากพระของหลวงปู่นี่พิสดารไม่เหมือนใคร ทั้งเรื่องกระแสพลังจักรวาลกระแสเจตสิกภายในองค์พระ เหลือเชื่อจริงๆครับ มีพระท่านแล้วไม่อยากแสวงหาที่อื่นอีกเพราะอย่างน้อยก็หายากล่ะครับที่ใครจะตั้งใจสร้าง ตั้งใจทำอย่างพระของท่านใครที่มีเก็บรักษาให้ดีครับรับรองพระแบบนี้ต้องเป็นตำนานในแผ่นดินแน่ๆๆ<O
</O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร




สำหรับพระที่คุ้มครองเรื่องการเดินทางนั้น ความจริงก็ดีทุกองค์นะครับเอาที่น่าสนใจคือ พระยอดขุนพลชากังราวครับ เป้นพระคุ้มครองพุทธคุณเข้าหนักแน่นพร้อมสำหรับผจญภัยในทุกที่ พระซุ้มกอก็เยี่ยมครับ คุ้มครองดีอวยพรให้ผู้ใส่เป็นเศรษฐีอีกด้วย เรียกว่าเดนทางไปไหนมาไหนก็ได้ลาภไงครับสายพระแม่อุมาก็ดีครับ เพราะรูปลักษณ์ของแม่อุมา(แม่เป๋อ) นั้นมีอำนาจคุ้มครองสูงทั้งจากอุบัติเหตุและไสยดำอำนาจที่มองไม่เห็น เป็นเสน่ห์มหาลาภอย่างยิ่งด้วย
<O
เท่าที่ทราบนะครับ วัตถุมงคลของหลวงปู่ทุกชิ้น ที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านท่านจะอาราธนาเทพเทวาทุกชิ้นมาร่วมสถิตย์ครับ อย่างในสีผึ้งก็หมายความว่าย่อมมีเทพเทวดาครูบาอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งคอยดูแลรักษาเช่นกัน ยามเราใช้สีปากหรือตลับสีผึ้งติดตัวก็อธิษฐานเอากับครูบาอาจารย์ที่มองไม่เห็นครับก่อนสีปากก็ยกมือขึ้นจบบอกความปรารถนาเรา ครูที่อยู่กับสีผึ้งจะช่วยครับพอสรุปได้ว่าของๆหลวงปู่นั้นมีเจตสิกภายในแทบทั้งนั้นเจตสิงนี้ได้ยินได้ฟังจากท่านว่ามีสองความหมายนะครับคือหนึ่งเชิญดวงญาณของท่านมาลงเลย กับสองคือ เมื่อประจุพลังงานเต็มที่พลังงานภายในจะบังเกิดชีวิตจิตวิญญาณเองโดยธรรมชาติพลังงานที่ประจุจนเต็มจะสามารถแปรรูปเปลี่ยนร่างเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ทั้งนี้เพราะการประจุนั้นท่านน้อมเพลังจักรวาลหรือพลังจากพระเป็นเจ้าอันเป็นพลังงานแห่งการรังสรรค์พลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่ เมื่อผนวกเข้ากับกระแสฌานจึงบังเกิดเป็นพลังชีวิตขึ้นครับสรุปแล้วสีผึ้งของท่านก็มีพลังชีวิต มีพลังพระเวทย์มีเจตสิกอยู่ภายในเช่นกันนั่นเองครับ<O
<O
การฝึกสมาธิ อย่างพลังจักรวาลนับว่าเป็นวิชาที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาพลังจิตทั้งยังสำคัญทางด้านสุขภาพด้วย ต้องขออนุโมทนาคุรุทุกท่าน ไม่ว่า พี่โคมฉายพี่สามเหลี่ยม พี่เม้า อาจารย์ชู ฯลฯที่เสียสละเวลาไปสอนกันในวันนั้นด้วยครับผมเองได้รับประโยชน์จากการไปงานครั้งนี้มากการเรียนพลังจักรวาลเป็นผลโดยตรงในการเพิ่มศักยภาพของมนุษย์ให้รับและสื่อสารพลังงานจักรวาลรวมไปถึงคุรุทั้งหลายที่สำเร็จทางจิตยิ่งถ้าได้วัตถุกายสิทธิ์หรือเครื่องมงคลที่มีอิทธิคุณวิเศษอย่างพระเครื่องหลวงปู่คำเป็งในการช่วยทำสมาธิก็ถือว่าเป็นการต่อยอด เสริมทักษะในเรื่องพลังงานได้อย่างดียิ่งผู้ที่มีพระเครื่องของท่านและสนใจในการทำสมาธิอยู่แล้ว ให้พยายามศึกษาเข้านะคับเพราะสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ในวันข้างหน้าจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาลการศึกษาใดก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าการศึกษาเกี่ยวกับตัวของเราเองโดยเฉพาะการฝึกฝนจิตเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเราและสังคม

(แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำสมาธิกับพระหลวงปู่คำเป็งกันครับเพื่อพัฒนาจิตและชีวิตที่ดีขึ้น)


พระของหลวงปู่คำเป็งหากรู้จักนำมากำหนดสมาธิจิตจะช่วยในการเพิ่มศักยภาพในการทำสมาธิโดยเฉพาะผู้ที่ฝึกพลังจักรวาลหรือปราณอยู่มากเพระอำนาจจากพระของหลวงปู่มีอำนาจในการดึงดูดปราณจักรวาลอยู่แล้วสำหรับผมจะมีวิธีในการกำหนดจิตรวมกับพระของหลวงปู่อยู่หลายวิธีด้วยกันวิธีที่ใช้บ่อยคือ ก่อนเข้าสมาธิจะนำพระของหลวงปู่มากำหนดด้วยการจับพลังพระก่อนครับโดมากผมมักใช้ปลายนิ้วเป็นจุดสัมผัส จะนิ่งอยู่กับพระของหลวงปู่สัก 10 -15 นาทีจากนั้นวางพระของหลวงปู่ลงแล้วทำสมาธิตอนทำสมาธินี้จะกำหนดดูดพลังจักรวาลเข้าจักระก็ได้ จะง่ายและรู้สึกพลังแน่นแต่เอาให้พอดีจับความรู้สึกพอสบายๆอิ่มเอิบใจถ้าชารจ์นานเกินไปอาจเกิดอาการแน่นหน้าอก หรืออาการร้อนขึ้นได้ครับ อีกวิธีหนึ่งคือนำเอาพระหลวงปู่วางไว้ในมือหรือจับที่ปลายนิ้วแล้วเข้าสมาธิครับกำหนดพลังดูดเข้าสู่ตัวเราทำสักพักตอนจับพลังที่ปลายนิ้วอาจรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าสถิตย์ที่วิ่งไปมาตามปลายนิ้วครับพอรู้สึกร้อนที่ปลายนิ้วก็คลายสมาธิครับไม่งั้นอาจรับพลังเกินขนาดการทำสมาธิกับพระของหลวงปู่อาจไม่ต้องกำหนดพลังดูดก็ได้นะครับใครจะท่องพุทโธเอาใจสบายๆเป็นสุขสมาธิแล้วพัฒนาคุณภาพสมาธิขึ้นไปเรื่อยๆก็ได้หรือการกำหนดดูดพลังจักรวาลนั้นท่านสามารถพลิกแพลงได้อีกว่ายามเข้าสมาธิให้ทำจิตนิ่งที่สุดก่อนพอสมาธิคลายออกมาให้อธิษฐานดูดทรัพย์ดูดลูกค้ามีเมตตาผูกใจคนก็จะมีผลดีมากในการทำธุรกิจค้าขายในชีวิตประจำวันครับ<O
<O
หลังจากวันงานที่ได้รับการเพิ่มพลังจักรามาเมื่อมาเข้าสมาธิดูปรากฏว่าดีกว่าเดิมอีกครับ สามารถซึมซับพลังงานได้ดีขึ้นหลายเท่าที่สำคัญเมื่อลองสัมผัสพระหลวงปู่คำเป็งดูจะรู้สึกถึงพลังงานชัดมากๆล่าสุดลองสัมผัส พระขุนคำป้อรุ่นหนึ่งองค์สีดำ มองเผินๆคล้ายพระเม็ดข้าวเม่า เกศคดจ.พิจิตรครับ พระขุนคำป้อ จับแล้วไม่กล้าจับอีกครับเพราะจับครั้งแรกเหมือนไฟฟ้าจี๊ดเข้าที่ปลายนิ้ว กระแสแรงมากครับลองดุซ้ำหลายครั้งก็สัมผัสได้ทุกครั้งเหมือนๆกันพระรุ่นนี้จากการสังเกตดูทราบว่าใช้ดูดโรคภัยไข้เจ็บในร่างกายได้ดีครับและยังเด่นเรื่องคุ้มครองด้วย พลังดูดเรื่องดึงดูดใจคนหรือเพศตรงข้ามหายห่วงครับตอนไว้ที่ปลายนิ้วแล้วทำใจสบายๆบางครั้งเหมือนองค์พระจะกระดุกกระดิกได้ด้วยครับคิดว่าคงเกิดจากกระแสไฟฟ้าภายในองค์พระนั่นเองหรือไม่ก็เจตสิกภายในองค์พระที่มีกำลังสูงมากๆถือว่าเป็นพระที่มีพลังสูงเฉียบขาดมากครับเรียนถามพี่โคมฉายด้วยครับว่าอย่างแม่เป๋อที่พี่พกอยู่กับเอว รุ่นแรกทราบอยู่ว่าหาไม่ได้แล้วแต่อยากจะถามว่าหลวงปู่ท่านไม่มีโครงการสร้างพระแบบย้อนยุคหรือครับรับรองว่าออกมาเท่าไหร่ก็หมดแหงๆ ผมคนนึงล่ะขอจองล่วงหน้าเลยครับ<O

<O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร


คนที่ฝึกพลังจักรวาลมาแล้ว หรือพอเป็นอยู่บ้างอยากให้ลองเอาพระของหลวงปู่ร่วมในการส่งพลังรักษาผู้อื่นดูครับก่อนหน้านี้ผมเองเคยใช้คริสตัลเป็นเครื่องมือประกอบการรักษาแต่เดี๋ยวนี้ใช้แม่อุมาของหลวงปู่ครับ การดึงพลังจะแรงขึ้นไปอีกแบบและการส่งพลังจะแปลกไปกว่าเดิม แต่ประสิทธิภาพในการใช้รับรองว่าเยี่ยมครับ
<O
ว่าด้วยการสัมผัสพลังพระหลายท่านที่ได้พระของหลวงปู่คำเป็งไป ลองสัมผัสพลังงานเบื้องต้นกันดูดังนี้นะครับสำหรับผม จะมีวิธีสัมผัสพลังงานในพระอันเป็นวิธีเบื้องต้นสองวิธีครับวิธีแรกคือการใช้ปลายนิ้วของเราเป็นเครื่องสัมผัส จะใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วนางกลางนี้ครับจับที่องค์พระ หรือใช้เพียง นิ้วโป้งและนิ้วชี้ลองจับดูเบาอย่ากดแรงเกินไปนักท่านอาจรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าดูดที่นิ้วมือของเราได้อย่างน่าอัศจรรย์สองลองใช้การวางพระในฝ่ามือ พระจะส่งกระแสดูดที่ฝ่ามือของเราได้อย่างไรก็ลองดูได้นะครับได้ผลอย่างไรก็เล่าสู่กันฟังบ้างสวัสดีครับ<O
<O
แปลกดีครับ วิธีที่สามใช้เหมือนกัน แต่ผมจะนำพระของครูบายกขึ้นในระดับตาที่สามลืมตาหรือหลับตาก็ได้ ไม่ต้องเพ่งที่องค์พระอำนาจขององค์พระจะส่งกระแสออกมาคล้ายอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้าทำหน้าที่คล้ายกับว่าตรึงจิตเราไว้ ให้เกิดสภาวะสมาธิที่นิ่งและมีพลังวิธีนี้จากการทดลองมา เชื่อแน่นอนครับว่ามีผลต่อจักราที่ 6 ครับการทำสมาธิกับพระของครูบาคำเป็งผมพบว่ามีวิธีที่หลากหลายจริงๆครับแต่ยังไม่ได้ประมวลมาทั้งหมด เอาที่ทำแบบหลักๆเท่านั้นเป็นการดีนะครับถ้าพวกเราช่วยรวบรวมการทำสมาธิร่วมกับพระของหลวงปู่ท่านถือว่าเป็นเทคนิคพิเศษสำหรับผู้สนใจทำสมาธิพระของหลวงปู่คำเป็งก็จะมีประโยชน์ในการศึกษาสมาธิไปด้วยขออนุโมทนาคุณวิมังสาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ<O

จากการสัมผัสพระของครูบาคำเป็งท่านผมพบว่าพระของครูบามีส่วนช่วยในการส่งกระแสจิตของตัวเราด้วยครับการส่งกระแสจิตตามปกติมนุษย์เราทุกคนมีการส่งอยู่แล้วแต่พระของครูบาทำให้จิตของมนุษย์เรามีกระแสพลังงานที่แรงขึ้นเรียกง่ายๆว่าพระของท่านทำให้ผู้สวมใส่มีพลังจิตที่สูงขึ้นนั้นเองสมัยก่อนผมเคยคุยกับ อาจารย์เทพพนม ท่านก็เล่าว่านักบินบนยานอวกาศมีการฝึกฝนโทรจิตและพวกนั้นเขาจะใส่โมดาไวท์เป็นสะเก็ดดาวสีเขียวพบแถบเช็กโกฯเพาะมีผลการทดลองว่าผู้ที่พกโมดาไวท์จะมีพลังจิตสูงเรียกว่าวัตถุชนิดนี้มีผลต่อคลื่นความถี่ในสมอง ในทำนองเดียวกันครับพระของหลวงปู่คำเป็งมีศักยภาพเกี่ยวกับกระแสพลังงานและมีผลต่อคลื่นความถี่ของสมองเราเช่นกันกระแสพลังงานในองค์พระมีผลกับกล้ามเนื้อ ความคิด อารมณ์ พลังงานไฟฟ้าภายในร่างกายทำให้ศักย์พลังไฟฟ้าในร่างกายผู้ที่สวมใส่สูงขึ้นจากเดิมคนที่ผ่านการฝึกฝนเรื่องปราณมาจะรับทราบได้ง่ายอย่างที่คุณวิมังสากล่าวว่าเพียงแค่จับองค์พระที่อยู่ในถุงก็เกิดปฏิกิริยาทันที่ปลายนิ้วมือพลังงานในองค์พระของหลวงปู่จึงมีผลโดยตรงหลายอย่างแก่ผู้สวมใส่ (กระตุ้นจักราที่ ๒นี่ผมก็กะเขียนเหมือนกันนะพี่เม้าโดนพี่เขียนแซงซะก่อน)ทั้งนี้ผู้ที่รับพระให้ลองทำสมาธิร่วมกับพระบ่อยๆเพื่อเป็นการเชื่อมพลังกันครับที่น่ายินดีคือตอนนี้หลายท่านมีโอกาสได้ศึกษาพลังจักรวาลอีกไม่นานคงได้มีโอกาสฟังเรื่องราวที่น่าสนใจอีกหลายเรื่องแน่นอน

การที่ให้พระส่งผลต่อการใช้พลังจิตหรือเพิ่มความถี่ของกระแสจิตให้มากขึ้นคือการทดลองนำพระยกขึ้นในระดับของตาที่สามหรือจักราที่ 6 ดั่งที่คุณวิมังสาเขียนไว้เบื้องต้นทำช้าๆใจเย็นๆ แรงดึงดูดจากองค์พระจะทำหน้าที่กระตุ้นจักราที่ 6 กระแสพลังงานจากองค์พระจะส่งเข้าไปที่จักรานี้ทำการกระตุ้นพลังงานจากจักรา ผลคือพลังงานไฟฟ้าจากจักราที่ 6 หรือพลังจักรวาลจากจักราที่ 6 จะถูกปลดปล่อยออกมาส่งตรงไปที่องค์พระ ในระดับนี้สมาธิจะเกิดขึ้นจิตเข้าสู่ความนิ่งในระดับต้นให้ฝึกเท่านี้ไปก่อนอย่าหักโหมเพียงแค่นี้จิตก็มีกำลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าแล้วครับ และเป็นการฝึกจักรที่ 6 ไปในตัวด้วย ลองทำดูนะครับได้ผลอย่างไรบอกกันด้วย<O

 

พลังมหัศจรรย์พระเครื่องครูบาคำเป็ง............จากมุมมองและการสัมผัสโดยทิพยจักร



พระซุ้มกอเศรษฐีและแม่ย่าเศรษฐี
ชุดพระซุ้มกอของหลวงปู่นับว่าเป็นพระอีกกชุดหนึ่งที่น่าศึกษาและน่าสนใจด้วยเหตุว่าพระชุดนี้หลวงปู่ท่านทำย้อนยุคได้อย่างยอดเยี่ยมจริงตำนานพระซุ้มกอนั้นถือว่าเป้นพระที่มีพุทธคุณสูงมากเป็นพระท้องถิ่นของเมืองกำแพงเพชร หรือนครชากังราวในอดีตตำนานการสร้างพระซุ้มกอจารึกในใบลานเงินไว้ว่าพระซุ้มกอนี้สร้างจากพระฤาษีสี่ตนเป็นประธาน ได้แก่พระฤาษีตาไฟ พิลาไลย กไลยโกฏิและตาวัว พระฤาษีทั้ง ๔เป็นประธานการจัดสร้างและให้เหล่าเทพยดาทั้งหลายและฤาษีตนอื่นๆช่วยกันรวบรวมว่านยาและแร่วิเศษมาสร้างในตำนานระบุว่าใครมีกูแล้วไม่จนพระซุ้มกอเศรษฐีจึงกลายมาเป็นพระยอดนิยมและติดหนึ่งในห้าของเบญจภาคี ที่สำคัญสมเด็จโตท่านก็นำตำราการสร้างการเสกพระซุ้มกอจากเมืองกำแพงเพชรมาจัดสร้างพระสมเด็จในยุคสมัยของท่านดังนั้นพระซุ้มกอจึงนับเป็นพระที่น่าสนใจอย่างมากๆ

การสร้างพระซุ้มกอของหลวงปู่คำเป็งก็เช่นกันได้จัดสร้างแบบย้อนยุคและปลุกเสกอาราธนาบารมีพระฤาษีแต่โบราณรวมทั้งคุณครูบาอาจารย์(สมเด็จโต)และใช้วิชาทางฌานสมาบัติของท่านประจุลงสู่ตัวพระเครื่องอย่างเข้มขลังพุทธคุณของพระซุ้มกอของหลวงปู่ไม่ผิดไปจากของเดิมเลยครับที่แน่นอนที่สุดคือ "มีกูมึงไม่มีจน" (ศัพท์โบราณจารึกไว้อย่างนี้ครับ)นอกจากนี้ยังเข้มขลังในเรื่องอยู่ยงคงกระพันอีกด้วยพลังพระเครื่องพิมพ์ซุ้มกอใครสัมผัสลองดูเอาเองครับไม่ธรรมดาแน่นอนไม่มีพระซุ้มกอราคาเป็นล้านไม่เป็นไรมีพระซุ้มกอของหลวงปู่ท่านนี่แหละครับรับรองไม่แพ้กันเลย มั่นใจในพระพุทธคุณเทวคุณภายในองค์พระได้อย่าลืมด้วยนะครับว่าพระของหลวงปู่ทุกองค์ล้วนมีเทวดารักษาภายในดังนั้นเรื่องคุณวิเศษเป็นหายห่วง

ส่วนแม่ย่าเศรษฐี(กำแพงเพชร)เป็นพระลักษณะเดียวกันกับพระซุ้มกอ ดูเผินๆอาจแยกไม่ออกแต่ภายในไม่ใช่องค์พระเป็นรูปหญิงนั่งขัดสมาธิแม่ย่าเป็นพระโพธิสัตว์ภาคหนึ่งขององค์อวโลกิเตศวรที่มาสร้างบารมีในยุคสุโขทัยคนสุโขทัยก็เรียกท่านว่า "แม่ย่าสุโขทัย" บารมีของท่านสร้างสมมามากกลูกของท่านก็เป็นกษัตริย์และยุคสมัยที่ท่านปกครองก็นับว่าเป็นยุคแห่งแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองเป็นยุคที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองที่สุก แผ่นดินร่มเย็นเป็นสุข ในน้ำมีปลาในนามีข้าวหลวงปู่อาราธนาบารมีแม่ย่ามาประจุลงสู่วัตถุมงคลเพื่อให้ลูกหลานที่มีไว้บูชาอยู่เย็นเป็นสุขครับคนที่มีพระแม่ย่าให้หมั่นสวดมนต์ ทำตนเป็นคนดีครับแม่ย่าให้พรไม่ให้ท่านตกต่ำแน่นอน บารมีแม่ยานับเป็นบารมีที่ไพศาลมาก ดีครบทุกด้านทั้งเรื่องเจริญด้วยวาสนาบารมี โชคลาภ เมตตามหานิยมคุ้มครองปกป้องให้อยู่เย็นเป็นสุขทานใดที่มีบูชาให้ดีนะครับเห็นผลกันอย่างไรเล่าสู่กันฟังด้วยครับ
<O
<O

 

เล่าเรื่องลงนะหน้าทอง ตำรับหลวงปู่คำเป็ง

ขอเล่าเรื่องตำรับวิธีการลงของหลวงปู่เพื่อให้ทุกท่านมีความเข้าใจดังนี้

สิ่งสำคัญในการลงนะหน้าทองของหลวงปู่นั้น มีหัวใจในการลง คือ

1 สีผึ้ง อันเป็นสีผึ้งตำรับของท่าน ที่ท่านทำเอง ใช้ว่านยามหาเสน่ห์ มหาเมตตา โชคลาภจำนวนมาก เคี่ยวเองทำเองเสกเอง มั่นใจได้

2 การอาราธนา ดวงจิตวิญญาณของครูบาอาจารย์ สายพระและสายเทพมาอธิษฐานจิตปลุกเสกตัว หมายถึงการเชิญครูมาเสกตัวผู้เข้าร่วมพิธีเพื่อให้เกิดพลังงานภายใน

3 การประจุด้วยวิชามหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มหาโชคลาภ ตำรับหลวงปู่คำเป็งโดยเฉพาะ
หัวใจคือสีผึ้งของท่านครับ พลังงานอันเร้นลับ ที่มีอานุภาพสูงส่งบรรจุในสีผึ้ง ดังนั้นการใช้สีผึ้งประสิทธิประสามลงในกายบุคคลเข้าร่วมพิธีจะทำให้เกิดพลังงานในกายอันมหาศาลครับ ส่วนทองคำเปลวนั้นหลวงปู่ไม่เน้นเท่าไหร่ เพราะสีผึ้งของท่านคือหัวใจที่แท้จริง

สำหรับวิธีการลงนั้น เริ่มต้นท่านจะโยงสายสิญจน์จากตัวท่านไปสู่ลำเทียน จากลำเทียนไปสู่ผู้ที่จะลงนะหน้าทอง

จากนั้นท่านเริ่มบริกรรมคาถา เริ่มจากอัญเชิญครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพ
คือ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมเด็จโต หลวงปู่เงินวัดบางคลาน หลวงปู่ศูข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ฯลฯ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระสรัสวดี พระอิศวร พรหมมา นารายณ์ พระพิฆเนศวรฯลฯ

การอัญเชิญดวงจิตอันเป็นทิพย์ของเทพพรหมนี้ท่านจะเชิญมายังสื่อกลางคือลำเทียนที่เตรียมไว้ เมื่อใช้เทียนเป็นเครื่องสื่อเรียบร้อยแล้ว ท่านจะอาราธนาให้พลังงานจากครูบาอาจารย์ที่สถิตย์ในลำเทียนแล่นไปสู่ผู้มาลงนะหน้าทอง โดยพลังงานดังกล่าวจะแล่นไปตามสายสิญจน์ เหมือนกับว่ากระแสไฟฟ้าวิ่งไปตามสายไฟอย่างนั้นแหละครับ

ท่านจะปล่อยให้เกิดการเดินพลังงานตรงนี้สักครู่หนึ่งจากนั้นจึงเรื่องทำพิธีต่อไป

คือการเริ่มสวดพระคาถามหาเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ การสวดนั้น ท่านจะให้ทุกคนที่นั่งอยู่ใช้มือป้ายสีผึ้งจากนั้นนำสีผึ้งไปเจิมตามจุดต่างๆตามที่ท่านทำเป็นตัวอย่าง

เริ่มต้นจากกลางกระหม่อม ให้ใช้สีผึ้งที่ท่านแจกทาที่กระหม่อม ในขณะที่ท่านสวดประจุ

จากกระหม่อม มาที่ หน้าผาก - เปลือกตาซ้ายและขวา - จมูก - แก้มสองข้าง - ริมฝีปาก - ฟัน -ศีรษะด้านหลัง - ท้ายทอย - หน้าอก - ลำแขนทั้งซ้ายและขวา - หลังมือซ้ายและขวา - ฝ่ามือซ้ายและขวา - หน้าท้อง - เอว - จนไปสุดที่ท้องน้อย - แล้วมายังใบหน้าอีกครั้งหนึ่ง

ในแต่ละจุดท่านจะให้เราใช้มือที่ทาสีผึ้งคลึงสัมผัสตัวเราเอง ส่วนท่านจะสวดประจุไปเรื่อยๆ แต่บทคาถานั้นยาวพอสมควร กว่าจะจบใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงครับ

สีผึ้งที่ทาเข้าเนื้อหนังเราลงไปจะกลายเป้นพลังงานลี้ลับอย่างหนึ่งที่จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาหาตัวเรา เป็นเสน่ห์แก่เพศตรงข้าม และแก่บุคคลทั้งหลายทั้งเจ้านายและผู้ใหญ่เห็นเราแล้วเมตตา สุดแท้แต่จะอธิษฐาน

สิ่งสำคัญท่านว่าผู้ปรารถนาเรื่องลาภ การทำมาหากิน หากลงไปแล้วมีเพศตรงข้ามเข้ามาในชีวิต อย่าคิดสั้นไปเอาเขา เพราะถือว่าได้สัตว์สองเท้าแล้วจะขัดลาภ เรียกว่าถ้าได้สาวหรือเพศตรงข้ามแล้ว เรื่องลาภอาจพร่องลงไปได้ครับ

ถ้าใครคิดเอาดีเรื่องเงินๆทองๆ หากมีของล่อ ของลองใจเป็นเพศตงข้ามเข้ามาก็จงอดใจเสียนะครับ รับรองท่านจะรวยลูกเดียวแน่ๆ

นอกจากจะดีเรื่องเมตตาโชคลาภแล้ว สิ่งสำคัญคือ อวัยวะส่วนต่างๆที่ลงสีผึ้งขณะที่ท่านสวดประจุจะมีพลังงานแก่กล้าครับ ท่านว่าสายตาที่เรามองก็จะมีพลังงานส่งออกมา แม้กระทั่งรอยยิ้มที่ส่งออกไปก็มีพลังงานครับ
การใช้สายตาเพ่งมองไปที่วัตถุยังทำให้วัตถุมีพลังงานได้เลยครับ นี่คือความอัศจรรย์ของการได้ลงสีผึ้งนะหน้าทองของหลวงปู่คำเป็ง

หลังจากลงนะหน้าทองแล้ว หลวงปู่ท่านจะอัดพลังให้เราอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนมีพลังงานแบบเต็มๆ การอัดพลังนี้ก็คือการอัดพลังหยินหยางครับ

ผู้ที่ลงไปแล้ว หากนำพลังงานไปใช้เรื่อยเปื่อย ไม่นานพลังงานที่ลงไว้ก็หมดไปได้เหมือนกัน

จะนำพลังไปใช้เรื่องใดให้พิจารณาเสียก่อน สำคัญที่สุดคืออย่าลืมปฏิบัติกรรมฐาน

การปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ว่าการทำจิตสงบ ประกอบด้วยการอาราธนาด้วยคาถาของหลวงปู่

หรือยิ่งเป็นการชาร์จพลังจักรวาลด้วยแล้ว ถือว่าเป็นการชาร์จแบ็ตเตอรี่ให้เต็มเสมอๆ

สำนวนพระปฏิบัติท่านว่า มีดต้องหมั่นลับให้คม ทำให้คมไว้เสมอ ไม่ใช้ได้แล้วทิ้งนานไปสนิมขึ้นเกรอะ พอจะเอามาใช้ต้องมานั่งลับกันใหม่

เป็นการเปรียบเปรยนะครับ เมื่อเราได้ของดี ไม่ว่าพระเครื่อง การลวนะเพื่อเติมเต็มพลังงานแก่ร่างกาย และการเปิดจักระ 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อรับพลังงานจักรวาลแล้ว ยิ่งต้องหมั่นฝึกฝน เพื่อนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และนำไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยมีการใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน

หากทำได้ดังนี้รับรองว่าภูมิชีวิตจิตใจของท่านจะสูงขึ้นพร้อมทั้งการบริบูรณ์ด้วยโชคลาภ และร่มเย็นเป็นสุขด้วยธรรมในใจของท่านนั่นเอง

 

อนุโมทนาพี่เม้า พี่ทิพยจักร พี่สาม พี่โคม และท่านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่นำเรื่องดีๆ ของหลวงปู่มาให้ทุกท่านที่สนใจได้รับรู้กันครับ
สาธุ