ลุงเทพอภิบาลลุงเป็นใครค่ะ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย dakini, 21 กันยายน 2012.

  1. มนตะระเทวะ

    มนตะระเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +126
    ไม่ทันแล้วเจ้าเทพอภิบาลเอ๋ย

    เทพอภิบาล หาได้คือ เทพธรรมบาล

    เอ็งคือ คุรุ ที่ข้านับถือ แต่ทว่าปรัญชาเอ็งมันช่างลึกซึ้งแสนผิดกัน

    ข้าไม่อยากให้เขาเขาใจว่า เทพธรรมบาล คือ เทพ อภิบาล

    ข้ามันผู้ศึกษาน้อยมิกล้าอวดภูมินัก จึงไม่อยากให้คนเข้าใจว่าข้ารู้

    อยากให้เขาเข้าใจว่า เอ็งรู้เยอะลึกซึ้ง แต่ข้ายัง โนเกี้ยอ่อนวิชา

    ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด จึงตัดสินใจแจก pass เทพธรรมบาลให้คนที่ถูกใจให้

    หมู่คณะ ส่วนตัวข้า สมัครใหม่ในนาม มนตะระเทวะ เพื่อความสบายใจ
     
  2. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    บ๊ะ เอ็งจักไปบอกเขาด้วยเรื่องอันใดเล่า จักธรรมบาลหรืออภิบาลหาได้สำคัญไม่มันต้องทั้งจริงแลเท็จนั้นแลบางอย่างเราพูดบ้าๆๆบอๆๆมันก็มีประโยชน์กับคนบางจำพวกบางอย่างเราใส่สาระมันก็ย่อมจักมีประโยชน์กับคนอีกบางจำพวกนั้นแลจักมานั่งคร่ำเคร่งอย่างเดียวมันเข้ากับคนหมู่มากมิได้ดอก อันที่จริงธรรมนั้นมันก็คือความเป็นจริงในชีวิตธรรมดาสามัญนั้นแล ในบางคราวเราก็เล่น ในบางคราวเราก็จริงจัง ในบางคราเราก็ทำให้สิ่งที่คุ้นเคยจำเจนั้นสามารถเปลี่ยนไปด้วยความหมายนี้แลคือความหมายของคำว่า สมาธิ หรือถ้าพูดให้ถูกก็คือตันตระ คือมหาอติ คือความต่อเนื่องของลีลาของชีวิต คือความศักดิ์สิทธิ์แลภาคภูมิแห่งวัชระตัวจริงข้านั้นเป็นใครมันมิสำคัญดอก เอาเป็นว่าบางคราข้าพอใจที่จะเป็นลุงแก่ๆๆที่บางวันก็เขามาคุยเรื่อยๆๆ บางวันก็มิเข้ามานั้นก็เพียงพอแล้วนั้นแล
     
  3. มนตะระเทวะ

    มนตะระเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +126
    ความรู้ด้านตันตระ ในภาษาไทยในสังคมไทยน้อยนัก ตันตระในที่นี้คือ พุทธวิธี ตันตระ ที่มีปรากฏใน พุทธศาสนาตันตระยาน หรือ วัชระยาน รบกวน ท่านอภิบาล ช่วย กล่าวปาฐกถา เรื่องพุทธวิธีตันตระ ในวลีภาษาสำนวน ที่ตรงกับจริต คนไทยด้วยเทิด จักเป็นวิทยาทานมากโข
     
  4. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    อันที่จริงเถรวาทเมื่อไปถึงที่สุดมันก็คือตันตระนั้นแลเพราะตันตระหาได้แยกขาดไปจากคำสอนในชั้นมูลฐานของหัีนยานไม่ บางคนอาจจะเข้าใจว่าข้าพูดทะลึงอันใดมันคนล่ะนิกายกัน ข้าก็จักบอกว่า ข้าพูดถึงตันตระในความหมายของมันไม่ใช่ในแง่นิกายวัชรยานของทิเบต หรือชิงงอนของญี่ปุ่น แต่เป็นตันตระในความหมายแท้ๆๆของมัน ตันตระในฐานที่เข้าใจได้ว่าเป็นรุ่งสางแห่งรหัสนัยที่เกี่ยวเนื่องอยู่บนศักยภาพอันลึกล้ำในการตรัสรู้ของมนุษย์ ในราชันแห่งความดีงามพื้นฐาน เอ็งอาจจะเรียกมันว่าอะไรก็ตามแต่ก็ได้ มันก็แค่ยี่ห้อ เท่านั้น อันที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ข้านั้นมิอาจจักกระทำได้ดอก เพราะมันอาจจักเป็นผลเสียแก่คนทั่วๆๆไปได้มากกว่าผลดี การนำเอายานทั้งหกแห่งตันตระธรรมมาแสดงแก่ผู้ซึ่งมิได้ผ่านยานทั้งสาม(สาวกยาน ปัจเจกพุทธยาน โพธิสัตว์ยาน) มาก่อน ยานทั้งหกก็เป็นได้แค่คำพูดของคนบ้า) หรือระเบิดปรมาณูทางธรรมก็ได้เขาเรียกกันแบบนี้ข้าก็เอามาใช้บ้างนั้นแล ดังนั้นข้าจึ่งมักจะไม่พูดเรื่องพวกนี้อย่างฉาบฉวบเกินไปนัก อย่างมากก็อาจจักเล่าสู่กันฟังว่ามีเรื่องเหล่านี้อยู่ในวัฒนธรรมหนึ่งนั้นแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2012
  5. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    ........(^_/\_^)........​
     
  6. เอื้อมบุญ

    เอื้อมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    385
    ค่าพลัง:
    +617

    ใช่ๆจำได้แล้วจ้า..เทพอภิบาล..สังเกตุได้เลย
    "อภิบาลธรรมอันนี้ในใจมันนึกตอนเริ่มอ่านท่านตอบในสองสามกระทู้"
    ผู้น้อยขอคาระวะ..
     
  7. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    วาว...เคยซื้อหนังสือลุงมาอ่าน...อ่านแล้วคล้ายจะเบาหวิวจนเหลือทน..แถมลุงยังไม่ชี้ทางออกให้อีก ก็เลยไปใหนไม่ถูกเหมือนลุงเลย....แต่อย่างนึงที่ผมชอบ คือลุง ชอบเอากาแฟดำใส่กระติกน้ำร้อนไปนั่งกินในสวน..อันนั้นทำให้ผมอยากเลียนแบบ และละเลียดรสชาติกาแฟ อันเข้มข้นในสวนตามลุงไปด้วย..นับถือ นับถือ:cool:
     
  8. ผ่อนคลาย

    ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,774
    ค่าพลัง:
    +12,933
    ว้าววววว คลิก
     
  9. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    งั้นที่ผมเดาไว้ก็ไม่ผิดจริงๆ เป็น".กวี"
     
  10. พรหมาวตาร

    พรหมาวตาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +66
    โอละพ่อ

    "เถรวาทถึงที่สุดมันก็คือตันตระนั้นแล"

    ไม่เห็นด้วยเด้อพี่น้อง ดำเนินชีวิตแบบปุถุชนคนมีกิเลสอย่างยิ่ง เบียดเบียนสัตว์เป็นอาจิณ แค่ชวนกันทำดีก็ยังพอเดินตามได้

    แต่มาสรุปตันตระกับหีนยาน เป็นอันหนึ่งอันเดียว ไม่เห็นด้วยเด้อ

    อ้างจากพื้นฐานอย่างที่กล่าวมา ตันตระมีพื้นฐานเอาศรัทธาอิทธิฤทธิ์นำ (อยากเก่งกว่าใคร) จึงสื่อด้วยเวทมนต์เทียบได้กับสมถะกรรมฐาน ส่วนหีนยานมีพื้นฐานเอาความเห็นในความเบื่อหน่ายในโลกนำ (ไม่อยากแข่งใคร) ปัญญาเทียบได้กับวิปัสสนากรรมฐาน

    อีกประการหนึ่ง ตันตระเป็นสาขาหนึ่งของมหายาน ซึ่งลัทธินี้สถาปนาขึ้นมาจาก พระเถราจารย์ฝ่ายที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมสังคยนาพระไตรปิฏก

    ฉะนั้นหลายสิ่งที่สอนกันมา หลายสิ่งนอกคำครูและบัญญัติขึ้นมาจากพระสงฆ์ที่เอาแบบอย่างจากศาสนาพราหมณ์ฮินดู มิใช่เอาแบบอย่างจากพระพุทธเจ้า เฉกเช่นหีนยาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2012
  11. มนตะระเทวะ

    มนตะระเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +126
    เอาหน่าพ่อหนุ่มเทพอภิบาลแก สับขาหลอกอย่าได้ัถือเรื่องอื่นของแกที่หาได้ธรรมมะเป็นสาระ ข้ารู้ว่าเทพอภิบาลเป็นใคร

    "เซียน อยู่ในรู หมู อยู่ชุมชน"

    ยิ่งพวกเอ็งสืบเสาะหาตัวตนเจ้าเทพอภิบาลมากเยี่ยงไรเอ็งยิ่งได้ความเท็จยิ่งนัก ยิ่งพวกเอ็งสืบเสาะวิธีที่ทำให้เห็นสัจจะธรรมจากเทพอภิบาลเพียงใดเอ็งก็จากได้ความจริงเยี่ยงนั้น

    เซียนไม่อยากแสดงตัว เพราะเซียนไม่นิยมหมู่คณะ
     
  12. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    แต่ผมสรุปได้ว่า แถวนี้คนสับขาหลอกเยอะ สองสามสี่ ร่าง สลับไป สลับมา หลายร่างหลายอารมณ์ ลึกลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ร่างนึงสาธยายธรรม อีกร่างยั่วโมโห
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2012
  13. มนตะระเทวะ

    มนตะระเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +126
    มันก็คงเยี่ยงนั้นแล ด้วยความเคารพ
     
  14. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    ไม่ต้องหวงไม่ต้องห่วง ก็ตั้งใจอยู่แล้วแหละว่าจะไม่บอกใครเพราะผมเป็นคนขี้อิจฉา ไม่อยากให้ใครได้หน้ามากกว่า...:cool:

    โดยเฉพาะ....
     
  15. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    เอ้าพ่อหนุ่ม เอ็งเข้าใจว่าลุงบอกว่านิกายเถรวาทกับวัชรยานเนี่ยมันคืออันเดียวกันใช่ไหม? ข้ามิได้พูดถึงนิกายดอก แต่พูดถึงตัวความหมายของคำที่เอามาใช้นั้นแล จักพูดแบบนี้ก็ได้ถึงที่สุดแล้วตันตระก็จักกลายเป็นเถรวาทไปมิต่างกันดอก ข้าพูดในแง่ความหมายของคำว่าตันตระ ที่มันแปลว่า ลีลาความต่อเนื่องของการมีชีวิต ของสติปํญญา นั้นแล หาได้หมายถึงที่เขาเอาไปตั้งเป็นชื่อนิกาย อะไรทำนองนั้นไม่ แต่พูดถึงตัวจุดมุ่งหมายปลายทาง อย่างเรื่องพระเจ้า ศาสนานึงมีพระเจ้าชื่อนั้นชื่อนี้ แล้วก็มาตีกัน เพราะมันบอกว่าคนล่ะองค์ องค์นั้นชื่อนั้น คนล่ะชื่อมันไม่ใช่ อย่างยิว อย่างคริสต์ อย่างอิสลาม นั้นพระเจ้าองค์เดียวกันแท้ๆๆๆ แต่มันชื่อต่างกันเพราะมันแพร่เข้าไปในแต่ล่ะถิ่น มันก็แค่ถ้าคำเรียกในแต่ล่ะภาษาเท่านั้น เราดูที่ความหมายนั้นแล

    ส่วนเรื่องเวทมนตร์ นี่ถ้าเข้าใจไม่ถูกมันก็จักกลายไปเป็นเรื่องโง่ๆๆไป อย่างเอ็งเสกคาถาทำนั้นนี่ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เป็นเรื่องมายากล อันที่จริงพ่อหนุ่มคนทั่วไป เขาก็ไปเข้าใจว่าแบบนี้ หรือทำนองนี้นั้นแล ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ มนตร์นี่มาจากคำว่า มันตระ แปลว่า เครื่องควบคุมจิตใจ เห็นความงามของคำๆๆนี้หรือไม่ เอ็งสวดก็เพื่อทบทวนเพื่อดึงสติที่มันลอยไปไกลนี่กับมา นี่คือ สมถะใช่หรือไม่ล่ะ มันก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของอุปายะ เหมือนการใช้ลมหายใจนั้นแล เวลาเอ็งสวดมนตร์บาลีทั้งหลายที่ท่องๆๆๆกันมานี่มันก็เหมือนกันนั้นแล ครูโบราณท่านก็มีจุดมุ่งหมายแบบนี้เช่นกัน มันก็เหมือนพระญวณเอาพุทธพจน์มาแต่งเพลงร้องนั้นแล อย่างมนตร์สันสกฤต คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิสวาหา มันแปลว่าอะไรล่ะ ลองตรองดู มันคืออันเดียวกับคำในพระบาลีว่า อตัมมยตา ที่แปลว่าความที่ไม่ต้องอาศัยสิ่งนั้นเลย มันถึงได้แปลว่าพ้นแล้วไปพ้นแล้ว ไม่หวนกลับมาแล้วอย่างไรเล่า นี้แลมันเรียกว่าอย่าไปยึดติดที่ถ้อยคำนักเลย พ่อหนุ่ม

    อีกอย่างหนึ่ง จักเอามาจากฮินดูบ้างแล้วเป็นอันใดเล่า 2000กว่าปีมันก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนกันบ้างเป็นธรรมดา พระพุทธเจ้ากล่าวว่า เธอทั้งหลายเห็นหรือไม่? เห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆๆที่นั้นอยู่ตรงนั้นไหม? นั้นถ้าเธอไปถามเด็กคนนั้นแล้วคำตอบนั้นคือความจริง ก็จงอย่างลังเลที่จักปฏิบัติตาม เราเองก็จักปฏิบัติตามนั้น นี่พระพุทธเจ้าท่านใจกว้างดุจมหาสมุทรขนาดท่านตรัสรู้แล้ว ท่านยังบอกถ้าเด็กเล็กพูดความจริงแล้วท่านก็พร้อมที่จักเรียนรู้พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แลเหตุใดคนที่พูดว่าตัวเองเป็นสาวกพระองค์ท่านจึ่งใจแคบนักเล่า เราคือผู้แสวงหาสัจจะไม่ใช่หรือ? มิได้แสวงหาความเป็นสาวกที่ยึดติดตัวองค์กรที่ชื่อว่าพุทธเถรวาท แต่แสวงหาความจริง เมื่อมันจริงถ้าได้พิสูตรแล้ว ก็อย่าได้ลังเลจงเร่งปฏิบัติตามเถิด เพราะครูของเราชาวพุทธท่านก็ยังเป็นสาวกของสัจจะ หาได้เป็นสาวกของนิกายใดไม่ เลย อย่างท่านพุทธทาสนั้นก่อนท่านจักดับขันธ์มีคนเอาหนังสือ ท่านนันท์ ฮัทท์ ไปให้ท่าน นี่พระญวณต่างนิกาย ท่านพูดว่า "สิงฆ์ทอง(ศิษย์ท่าน) เธอมาอ่านเล่มนี้ให้เราฟังหน่อยสิ เออ...สิงฆ์ทอง ปฏิบัติตามนี้ก็พอแล้ว(สำหรับชาวพุทธ) เราเองก็จักปฎิบัติตามที่พระรูปนี้เขียนไว้เช่นกัน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2012
  16. เอื้อมบุญ

    เอื้อมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    385
    ค่าพลัง:
    +617
    ว้าว..เท่ระเบิด..เถิดเทิง

    กระทู้นี้นี้ดูไปดูมาเท่ระเบิดเลย เหมือนอยู่ในโรงเตี๊ยมโบราณ..
    อย่า..อย่าชักกระบี่เลยท่าน..มันคม..บาดตา..

    แต่ละรายชื่อที่ออนฯตอนนี้..อาวุธล้วนไร้เทียมทาน
    เสี่ยวเอ้อ..คงต้องแอบดูต่อไป..:p
     
  17. มนตะระเทวะ

    มนตะระเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +126
    เอ็งรู้จักตันตระแล้วรึ พ่อหนุ่ม
    555+ผู้ไม่ศึกษา ระวังจักปรามาสเอาจักเป็นอกุศลเอาเด้อ
    มีตาหาได้มีแววไม่ ตันตระเป็นหลักของจิต หาได้เป็นเวทย์มนต์ไม่

    ถ้าเยี่ยงนั้นถ้าเอ็งเป็นต่างชาติต่างศาสนา มองดูสมเด็จโต มีฤทธฺ์ จักเข้าใจฤทธิ์อภิญญาไหม หากไม่เข้าใจก็มองเป็นเวทย์มนต์ไป นั้นแล

    เพราะอันใด เพราะหาได้ปฏิบัตืจริง ศึกษาจริงไม่ ก็ไปศึกษาเอาก่อนเถิด
    อย่าทึกทักว่าอ่านเยอะ มันหาได้มีเนื้อดอก หากอ่านได้ไม่เรียกว่า วัชระยานดอก

    เอ้าพ่อหนุ่มเอ้ย ไปตามแผนที่นี้เลย นี่คือสถานที่มีความรู้วัชรยานอยู่
    ไปศึกษาเอา ก่อนจักทึกทักไปเอง ศึกษาเสีย ที่แห่งนั้น มีผู้รู้ อยู่

    https://maps.google.co.th/maps/ms?i...d=205815257321331039332.0004b59eafde9d36a8dc8

    หรือที่

    ศูนย์กลางข้อมูลพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน Mahayana information center - Riwoche (ให้แผนที่ไปแล้ว)
    ชัมบาลา กรุงเทพฯ Shambhala Bangkok group
    มูลนิธิพันดารา Thousand Stars Foundation
    ศูนย์อนัมคาราเพื่อปัญญาเมตตาและสันติสุข

    เอ้าๆคิดเอา84000พระธรรมขันธ์ แบ่งอยู่ตามนิกายต่างๆ ตามแต่จริต เอ้าตามเอาเถิด ข้าไม่อยากอธิบายยืดยาวไปหาศึกษาจากวัชราจารย์เอาเถอะ
     
  18. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    สับขาหลอกกันมันส์ไปเลยวุ้ย ชิ่งดีกว่า:'(
     
  19. พรหมาวตาร

    พรหมาวตาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +66
    แต่ผมก็ยังไม่ศรัทธาลัทธิมหายานอยู่ดี เพราะเริ่มต้นก็ไม่เอาพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างแล้ว แล้วจะนับถือกันได้อย่างไร

    เข้าใจว่าลุงไม่โยงความต่างที่ต้นให้เกิดความแตกแยก แต่ผมยังสงสัยว่าบั้นปลายของทั้งสองมันจะบรรจบกันได้

    เพราะมหายาน ตันตระ มีแดนนิพพานเรียกว่าพุทธเกษตร มีตำแหน่งและทัศนียภาพรวมทั้งบุคคลที่อยู่ในนั้นชัดเจน ส่วนหีนยานไม่สร้างแดนนิพพาน ไม่บรรยายตำแหน่งและภาพจุดที่เป็นเส้นชัย เพียงแต่บรรยายบรรยายกาศของมันเท่านั้น ทั้งยังปรามการสร้างตำแหน่งเอาซะด้วย
     
  20. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    เอ็งยังต้องศึกษาอีกมากนัก อันที่จริงเอ็งไม่จำเป็นต้องสนใจลัทธิมหายานดอก
    ข้าก็ไม่ได้มาพูดเรื่องมหายาน ข้าเป็นกวีไม่ใช่มีสังกัดจ๊ะ
    ก็ศึกษาไปตามที่เอ็งสนใจนั้นแหละดีแล้ว จักเถรวาทหรือมหายานมันก็สอนเรื่องเดียวกันนั้นแล
    คือ ศีล สมาธิ ปัญญา มีเมตตากรุณา มีวิริยะ มีขันติ หาได้ต่างกันไม่
    เอ็งเคยอ่านสโนไวท์หรือไม่?
    พระพุทธศาสนาอยู่ในนั้น นี่ข้าพูดจริงๆๆ หาได้พูดเล่นไม่?
    ส่วนเรื่องแดนสุขาวดีนั้น มันอยู่ไม่ไกลดอก นั้นไงมันอยู่ตรงนั้นแล
    อ้อแดนสุขาวดีตามความเชื่อนิกายสุขาวดีหาใช่นิพพานไม่ แลที่บรรยายไว้ต้องรู้จักเอาภาษาคนภาษาธรรมมาจับ เหมือนอ่านไซอิ๋ว จักอ่านเอาแบบลวกๆๆ
    ก็ได้อ่านอย่างมีปัญญา ก็จักเห็นเพชรเห็นพลอย อย่างเห้งเจียคือปัญญา แต่ตอนแรกมันเป็นปัญญาที่เถื่อนอยู่มันก็อยากจะครองโลก ยึดสวรรค์ เหมือนคนฉลาดๆๆทั้งหลายในโลกนี้
    ที่มันตั้งตัวเป็นผู้นำโลก ทั้งการเมืองเศรษฐกิจ เทคโนโลยี จนกว่ามันจักได้พบศีล(ตือโป้ยก่าย) สมาธิ(ซัวเจ๋ง) ขันติ(พระถัง) วิริยะ(ม้าขาว) กวนอิม(เมตตาธรรม) เข้าช่วยมันถึงจะไปไซซี(นิพพานได้) ระหว่างทางมันก็ต้องตีกับปีศาจ(กิเลส)ไปตลอดทาง เอ็งเห็นไหม? ว่ามันไม่ใช่หนังสือที่จักอ่านเอาตามตัวอักษรได้ อย่างเห้งเจียตีลังกาได้ทีเดียว84000ลี้ นี่มันหมายความว่าปัญญานี้มันมีศักยภาพที่จักพาจิตมนุษย์ให้บรรลุ84000พระธรรมขันธ์ได้ภายในขณะจิตเดียวอย่างแปลงกลาย 72 ท่า มันก็สือถึงอำนาจ 72 อย่างของปัญญาบารมี(อย่างที่แจกแจงไว้ในพระอภิธรรม)
    เห็นไหม? ของดีมันต้องใช้ปัญญาจึ่งจักเข้าใจ พ่อหนุ่ม กวีที่เขียนเรื่องนี้คืออัจฉริยะทางศาสนาของจีน โดยแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...